แปลของเขามาอีกทีนะครับ

credit: What we know so far By Steve Vander Ark

http://www.the-leaky-cauldron.org/#static:bookseven/booksummary

------------------------------------------------------

สิ่งที่เราได้รู้แล้ว
โดย สตีฟ แวนเดอร์ อาร์ค

แฮร์รี่ พอตเตอร์เกิดในปี 1990 เขาเป็นตัวละครที่ เจ.เค. โรว์ลิ่งบอกว่าเธอสร้างเขาขึ้นมาในความคิดระหว่างการเดินทางบนรถไฟในปี 1990 และใช้เวลาในอีก 5 ปีต่อมาเขียนเรื่องราวต่างๆ อย่างไม่หยุดหย่อนออกมาเป็นหนังสือเล่มแรก และสร้างกฎต่างๆ ในโลกแห่งจินตนาการของเธอ เธอเขียนเรื่องราวต่างๆ ให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาปัจจุบันโดยที่ไม่คิดจะระบุปีให้แน่นอนลงไปด้วย ดังนั้น หนังสือเล่มแรกๆ สองสามเล่มจึงเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงเวลา "ปัจจุบัน" ของช่วงกลางทศวรรษของปี 1990

แฮร์รี่ พอตเตอร์เกิดจริงๆ ในปี 1980 วันเกิดของเขาคือวันที่ 3 กรกฎาคม 1980 วันที่นี้ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่และก่อให้เกิดการทุ่มเถียงกันอย่างกว้างขวางในหมู่แฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทำไมต้องเป็นปี 1980 วันที่นั้นมีที่มาจากการกล่าวอ้างถึงในเล่มที่ 2 ที่เขียนอยู่บนเค้กในงานปาร์ตี้วันตาย ปาร์ตี้นี้จัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันครบรอบวันตายของนิคหัวเกือบขาดด้วยการถูกตัดคออย่างไม่เรียบร้อย และจากเค้กดังกล่าว เหตุการณ์อันน่าสลดนี้เกิดขึ้นในปี 1942 ดังนั้น วันฮัลโลวีนในปีที่สองของแฮร์รี่จึงเกิดขึ้นในปี 1992 ในขณะที่ยังมีอีกหลายทฤษฎีที่เหล่าแฟนๆ คิดกันขึ้นมา นี่เป็นทฤษฎีหนึ่งเดียวที่ได้จากหนังสือ ด้วยเหตุนี้ เวป Harry Potter Lexicon จึงได้พัฒนาโครงสร้างเวลาของเรื่องนี้โดยใช้ปี 1992 เป็นหลักจากเนื้อเรื่องของเล่มที่ 2 และจากเหตุผลเดียวนี้ ปีเกิดของแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็คือ ปี 1980 ในขณะเดียวกัน "ปีอย่างเป็นทางการ" ที่ปรากฏอยู่ใน DVD ภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and The Chamber of Secrets และ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ยังได้ระบุเอาไว้ด้วยว่าปีเกิดของแฮร์รี่คือปี 1980 เมื่อไม่นานมานี้ โรว์ลิ่งเองก็ได้ระบุปี 1980 ให้เป็นปีเกิดของ Draco Malfoy ในแผนภูมิแสดงลำดับเครือญาติของวงศ์ตระกูล Black ด้วย ดังนั้นช่วงปีนี้จึงเป็นหลักที่ยอมรับได้

ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่วิธีที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการสร้างโครงสร้างเวลาของเรื่อง เพราะตัวโรว์ลิ่งเองก็ไม่ได้เจาะจงวันเดือนปีที่แน่นอนลงไปในขณะที่เธอเขียน แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เราได้เห็นภาพได้บ้าง เมื่อเราเอาร่องรอยทั้งหมดจากในหนังสือมารวมกับข้อมูลต่างๆ ที่โรว์ลิ่งได้กล่าวไว้เวลาให้สัมภาษณ์ เราก็สามารถที่จะรวบรวมรายละเอียดของโครงสร้างเวลาตลอด 50 ปีของเหตุการณ์ตามท้องเรื่องในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ออกมา โครงสร้างเวลาเหล่านี้ถูกแสดงเอาไว้ในรายละเอียดที่ซับซ้อนของเวป lexicon โดยที่การอ้างอิงอย่างสมบูรณ์พร้อมกับคำอธิบาย ผมจะไม่รวมเอาการอ้างอิงทั้งหมดไว้ ณ ที่นี้ แต่หากคุณต้องการที่จะเรียนรู้ว่าข้อมูลจริงๆ ต่างๆ ที่ถูกเอามาใช้อธิบายเหตุผลของการกำหนดเวลาที่แน่นอนเหล่านั้นเป็นอย่างไร ผมขอแนะนำให้คุณแวะไปที่เวป Lexicon ตามที่อยู่นี้ ซึ่งจะพาคุณไปยังหน้าของโครงสร้างเวลาดังกล่าว http://www.hp-lexicon.org/timeline.html

ยุคแรกเริ่มของเรื่องราว คือ ปี 1900 - 1945

ช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เป็นยุคของทอม ริดเดิ้ล รูเบอัส แฮกริด และมิเนอร์วา มักกอนนากัล จริงๆ แล้วเรื่องราวของแฮร์รี่ พอตเตอร์เริ่มขึ้นในช่วงปีนี้ ด้วยการถือกำเนิดของเด็กชายประหลาดสองคนที่ไม่ใช่เด็กเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีอิทธิพลอย่างสูงกับเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วง 50 ปีต่อมาในชีวิตของพวกเขา เด็กลูกครึ่งยักษ์ รูเบอัส แฮกริดถูกอธิบายไว้ในช่วงปีแรกๆ นี้ว่า "ตัวใหญ่ ซุ่มซ่าม ... สร้างปัญหาได้แทบจะทุกอาทิตย์เว้นอาทิตย์" ในขณะที่เด็กเลือดผสม ทอม ริดเดิ้ล กลับตรงกันข้าม "ยากจนแต่งดงาม กำพร้าแต่ช่างกล้าหาญ การเรียนสมบูรณ์แบบ นักเรียนตัวอย่าง" เด็กทั้งสองคน เช่นเดียวกับมิเนอร์วา มักกอนนากัล ต่างก็เกิดในช่วงกลางของปีทศวรรษ 1920 พวกเขาเข้าเรียนที่ฮอกวอร์ตไล่เลี่ยกัน ต่างกันเพียงปี หรือ 2 ปี จนกระทั่งเกิดการกระทำอันแสนจะมุ่งร้ายของทอม ริดเดิ้ล ด้วยการใส่ร้ายแฮกริดจากความตายของเด็กนักเรียนคนหนึ่งและทำให้เขาถูกไล่ออก ในช่วงปีเหล่านี้ ทอม ริดเดิ้ล ได้เรียนรู้ความลับสำคัญหลายเรื่องซึ่งเป็นที่มาของเรื่องราวในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น วิธีการสร้างฮอร์ครักซ์  สถานที่ตั้งของห้องแห่งความลับ และรายละเอียดของมรดกตกทอดของเขา ความลับทั้งสามข้อนี้กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นลอร์ด โวลเดอร์มอร์ตอย่างสมบูรณ์ในไม่กี่สิบปีต่อมา

มิเนอร์วา มักกอนนากัล นักเรียนฮอกวอร์ตในช่วงปีนี้ เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เช่นเดียวกับ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปีแล้ว และเป็นอาจารย์อยู่ที่ฮอกวอร์ตในตอนนั้น การกระทำของดัมเบิลดอร์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่าเฉียบแหลมมาก เขาสงสัย และไม่เชื่อในตัวริดเดิ้ลและเก็บเขาไว้ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด ดัมเบิลดอร์ช่วยให้แฮกริดได้กลับมาใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดาอีกครั้ง และเป็นเขาเองที่มีชัยชนะเหนือพ่อมดศาสตร์มืด กรินเดลวัลด์ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้จะยังสะท้อนมายังเรื่องราวต่างๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ในอีก 50 ปีต่อมาด้วยเช่นกัน

วันต่างๆ ที่มีความสำคัญในยุคนี้ (โดยประมาณ)

ปี 1907 - มีโรปี กอนท์ เกิดแต่ มาร์โวโล กอนท์กับแม่สายเลือดบริสุทธิ์คนหนึ่งที่ไม่สามารถระบุได้ (คาดว่าน่าจะเป็นคนในตระกูลกอนท์ด้วยกัน หรือญาติทางใดทางหนึ่ง) มีโรปีจะกลายเป็นแม่ของทอม ริดเดิลในอีก 18 ปีต่อมา สมาชิกครอบครัวของตระกูลกอนท์เป็นทายาทชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ของ ซัลลาซาร์ สลิธีริน

ปี 1925 - ในเดือนกันยายน บ๊อบ อ๊อกเดน ไปเยือนบ้านตระกูลกอนท์ใกล้ๆ ลิตเติล แฮงเกิลตัน ตามมาด้วยการที่ทางกระทรวงบุกเข้าจับกุมมาร์โวโล และมอร์ฟิน กอนท์, มิเนอร์วา มักกอนนากัลเกิดในวันที่ 4 ตุลาคม, ช่วงปลายของปีนี้ หรือต้นปีต่อไป มีโรปี กอนท์ใช้เวทมนตร์หลอกล่อมักเกิลหนุ่มรูปงาม ทอม ริดเดิ้ล และแต่งงานกับเขา

ปี 1926 - ในเดือนมีนาคม มีโรปี กอนท์ตั้งครรภ์บุตรชาย จนกระทั่งในช่วงเวลาต่อมาในปีนี้ ทอม ริดเดิ้ลได้ละจากภรรยาของเขาและกลับไปยังลิตเติล แฮงเกิลตัน บอกกับชาวบ้านว่าเขาถูกหลอกลวง, มีโรปี กอนท์ผู้สิ้นหวังและท้องแก่ใกล้คลอดเดินทางมาถึงลอนดอน และไม่กี่วันก่อนคริสต์มาส เธอก็ขายสมบัติของครอบครัวชิ้นสุดท้าย จี้แห่งสลิธีรินให้กับบอร์จิ้นและเบิร์กส์เพื่อเอาเงินมาต่อชีวิต, ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล เกิดวันที่ 31 ธันวาคม ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งของมักเกิ้ล, มีโรปีเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียงได้ตั้งชื่อลูกชายของเธอว่า ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล

ปี 1927 จนถึงปี 1938 - ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ ได้รับการเลี้ยงดูมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เขาเกิด เขาเป็นเด็กประหลาด ไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ฉลาดหลักแหลมมากพอที่จะไม่ถูกจับได้ เขาทำให้เด็กๆ คนอื่นหวาดกลัว

ปี 1927 - หนังสือชื่อ Fantastic Beasts and Where to Find Them ได้รับการจัดพิมพ์และจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Obscurus

ปี 1928 - รูเบอัส แฮกริดเกิดวันที่ 6 ธันวาคม พ่อเป็นมนุษย์ และแม่เป็นนางยักษ์ชื่อ ฟริดวัลฟา

ปี 1937 - ในเดือนกันยายน มิเนอร์วา มักกอนนากัล เด็กหญิงวัย 11 ปี ได้เข้าเรียนที่ฮอกวอร์ต และได้รับการคัดสรรเข้าบ้านกริฟฟินดอร์

ปี 1938 - อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ไปเยี่ยมหนุ่มน้อย ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของมักเกิ้ล และยื่นข้อเสนอให้เขาเข้าเรียนในฮอกวอร์ต ในเดือนกันยายนต่อมา ริดเดิ้ลเข้าเรียนปีแรกและรับการคัดสรรเข้าบ้านสลิธีริน

ปี 1940 - ในเดือนกันยายน รูเบอัส แฮกริด มาถึงยังฮอกวอร์ต และรับการคัดสรรเข้าบ้านกริฟฟินดอร์

ปี 1943 - อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เป็นศาสตราจารย์ประจำวิชาแปลงกายในฮอกวอร์ต, มักกอนนากัลกำลังเรียนอยู่ปีที่ 7 และในฤดูใบไม้ผลิของปีนั้น เด็กปี 5 ชื่อทอม ริดเดิ้ล ได้เปิดห้องแห่งความลับ และปลดปล่อยบาซิลิสก์ที่อยู่ภายใน, ในเดือนมิถุนายน บาซิลิสก์ฆ่าเมอร์เทิล, วันที่ 13 มิถุนายน ริดเดิ้ลใส่ความเด็กปี 3 ชื่อ รูเบอัส แฮกริดว่าเป็นฆาตกร และแฮกริดถูกไล่ออก, ในฤดูร้อนของปีนี้ ทอม ริดเดิ้ลได้รับรู้ถึงประวัติของครอบครัวของตน เขาเดินทางไปยังลิตเติล แฮงเกิลตัน แล้วฆาตกรรมพ่อของเขาพร้อมๆ กับปู่ ย่าของเขาด้วย เขาใส่ความน้าของเขาเองให้รับผิดชอบต่อการฆาตกรรมครั้งนี้, ในเดือนกันยายน ริดเดิ้ลกลับมายังฮอกวอร์ตในฐานะนักเรียนปีที่ 6 และได้หลอกถามศาสตราจารย์สลักฮอร์นเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์ และชายชราก็ได้บอกเขาว่าจะสร้างมันได้อย่างไร ริดเดิ้ลใช้ความรู้ที่ได้มา ผนวกกับการฆาตกรรมครั้งล่าสุดของเขาสร้างฮอร์ครักซ์ชิ้นแรก ไดอารี่นั่นเอง

ปี 1944 - ริดเดิ้ลเริ่มเรียนปีที่ 7 ในเดือนกันยายน เขาได้สร้างฮอร์ครักซ์ชิ้นแรกแล้ว และเพื่อนๆ บางคนของเขาเริ่มเรียกเขาว่า ลอร์ด โวลเดอมอร์ต แต่ผิวนอกของเขาคือนักเรียนตัวอย่าง เขาเป็นประธานนักเรียน และเป็นที่ชื่นชอบของอาจารย์หลายๆ ท่าน ยกเว้นดัมเบิลดอร์ที่ยังคงไม่เชื่อใจเขา

ปี 1945 - ริดเดิ้ลจบจากฮอกวอร์ตและขออยู่ต่อด้วยการสมัครเป็นอาจารย์ในทันที ศาสตราจารย์อาร์มันโด ดิปเป็ตปฏิเสธ โดยกล่าวว่าเขาอายุน้อยเกินไป เขาจึงไปทำงานเป็นพนักงานในร้านบอร์จิ้นและเบิร์กส์แทน, ในปีนี้เองที่ดัมเบิลดอร์ได้เอาชนะพ่อมดศาสตร์มืดที่ชื่อ กรินเดลวัลด์

ปี 1947 - ทอม ริดเดิ้ลซึ่งยังคงทำงานอยู่ที่ร้านบอร์จิ้นและเบิร์กส์ ค้นพบว่า แม่มดชรา เฮพซิบาห์ สมิธได้ถือครองจี้แห่งสลิธีรินและถ้วยแห่งฮัพเฟิลพัฟเอาไว้ เขาจึงฆ่านางและยึดเอาวัตถุมีค่าเหล่านั้นมา พร้อมๆ กับใส่ความเอลฟ์ประจำบ้านของนาง โฮกี้ กับการฆาตกรรมครั้งนี้ จากนั้นเขาก็หายตัวไป