ความคิดเห็นที่ 1 กลับมาที่ว่าผมจะวิจารณ์นักวิจารณ์ทั้งหลาย นักวิจารณ์คือสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับที่ปรึกษาโดยสิ้นเชิง เขามีหน้าที่ระบายอารมณ์ใส่งานศิลปะ ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ชื่นชม พรรณาต่างๆ หรือต่อว่า รุนแรง แล้วแต่สไตล์ เปรียบดั่งถ้านักฟุตบอลในสนาม เล่นไม่ใด้ดั่งใจก็จะโดนว่า หรือ ถ้าเล่นเข้า ตาก็เทิดทูล เหนื่อยนะครับวิ่งในสนาม ไล่บอล แพ้ ชนะ ไม่สำคัญ แต่คุณเห็น ผมวิ่งทั่วสนามมั้ย แม้จะดูไม่มีทักษะในสายตาคุณก็ตาม ผมไล่บอล บ้างครั้งทำอะไรโง่ๆ ก็ถูกโห่ ทำอะไรเท่ๆ พี่ท่านก็ชื่นชม สิ่งเดียวที่ผมอยากถามว่า พี่จะลงมาวิ่งแทนผมมั้ยครับ ผมเคยเห็นนักวิจารณ์บางท่านไม่ใช่แค่ในประเทศรวมทั้งต่างประเทศด้วย เกิด มีหน้าทุนใจดีให้เงินทำหนัง แกก็จะในแนวอุดมคติของแกซึ่งแน่นอนคงไม่ใช่หนังกระแสหรือหนังไร้ความคิด แต่ในความคิดของพวกเขาเหล่านั้นคือ คนที่เข้าใจหนังของเขาคือคนดูและรู้เรื่องหนังตัวจริง และส่วนใหญ่จะ เจ๊งเรียบ ในทุกๆทางไม่ใด้ทั้งเงินและรางวัล(บางคนใด้รางวัลครับแต่เหมือนๆว่าใด้มาแบบงงๆ) เน้นอีกครั้งครับว่าส่วนใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะเกิดนิมิตรขึ้นใด้ว่า กูกลับไปเป็นนักวิจารณ์อย่างเดิมดีกว่า ง่ายดี ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากถามแต่ไม่ต้องการคำตอบนะครับ (แต่จะตอบก็ใด้) ทำไมบ้างครั้งผมเห็นนักวิจารณ์ไทยหลายคนใช้ภาษาไทยคำ อังกฤษคำละครับ you know มันจะทำให้ดูฉลาดขึ้นเหรอครับ หรือ ว่ามันจะทำให้ดูน่าเชื่อถือเพราะไปลอกตำราฝรั่งเขามาแต่ไม่มีปัญญา(ขออนุญาติหยาบนิดหน่อยนะครับ) คิดหรือ วิเคาะห์เอง(ถ้าพวกพี่ทำหนังก็คงเป็นพวกออกแนวก็อปแหลกนะครับ) you know วัฒนธรรมเรากะเขาต่างกันนะครับ มุมมองก็ต่างกัน ความคิดก็ต่างกันสิ้นเชิง C’mon บางครั้งหนังบ้างเรื่องดังมากในประเทศแต่แป๊กในต่างประเทศ หรือในทางกลับกัน แป็กในประเทศแต่กลับดังมากในต่างประเทศ I hope you understand (ภาษาอังกฤษที่ใช้ในย่อหน้านี่เป็นเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ) ความจริงผมมีอีกน่ะครับ เพราะตั้งแต่เรียนเกี่ยวกับศิลปะ จนมาเรียนต่อด้านภาพยนต์ ผมอยู่กลับคำวิจารณ์มาโดยตลอด แต่ผมขอจบเพียงเท่านี้ดีกว่า เพราะคิดว่าท่านที่อ่าน คงจะเข้าใจในความคิดผมบ้างแล้ว จากคุณ : Bohemian - [ 11 เม.ย. 50 09:36:12 A:85.132.193.187 X: TicketID:001581 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวผมตอนนี้ผมนั่งอยู่กับเพื่อนชาวต่างชาติหลายคนผมคิดว่าจะเอ่ยชวนพวกมมันไปหาหนังโง่ๆสักเรื่อง บางคนคงโอเค เพราะในอนาคตพวกมัน อาจจะต้องทำหนังโง่ๆซึ่งอาจจะเป็นผม หรือเพื่อนรัสเซียที่คลั่งดูหนังมันทุกเรื่องเวลาอาจารย์ถามว่ามีใครดูเรื่องนี่หรือยังไม่ว่าจะเป็นหนังยุดใหนใอ้นี่ยกมือตลอด อาจจะเป็นแม่สาวอเมริกา ที่กำลังเขียนบทหนังผีอยู่นั่น แม้ว่าเธอจะทำให้นึกถึงจำนวนของหนังผีไทยเกาหลีญี่ปุ่นหรือรีเมกที่มีมากมายทุกปี แต่ยังไงซะถ้าเธอทำผมก็จะดู ถึงแม้อาจจะเลวร้ายและไม่น่ากลัวเลยก็ตาม หรือพูดศัพท์ที่ใช่วิจารณ์คือห่วยนั่น ผมก็จะบอกเธอว่าผมชอบหนังของเธอ ก็เราคือคนทำหนังด้วยกันนี่ครับ ก็ผมคือนักฟุตบอลคนที่เดินมาแตะไหล่เพื่อน ตอนที่มันพลาดทำเข้าประตูตัวเอง(อาจจะเข้าไปต่อว่ากรรมการแทนเพื่อนในบ้างครั้ง) ไม่มีอะไรมากแค่พวกเราจะต้องเดินออกจากสนามไปด้วยกันไม่ว่าจะแพ้ หรือ จะชนะ เราวิ่งเต็มที่และทำดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าเสียโห่จะดังไปทั้งสนาม เพราะอย่างน้อยเราคือ คนทำ ไม่ใช่คนที่ เอาแต่พูด เพื่อนสนิทชาวไอซ์แลนด์ของผมคนที่ทำหนังชวิตออกมาเป็นหนังตลก เดินมาหาผมถามผมว่าจะไปใหนกันมั้ยวันนี้ ผมบอกว่าผมจะไปหาหนังโง่ๆดูสักเรื่องจะไปดูด้วยกันมั้ย มันตอบกลับมาทันทีใด้น่ารักน่าถีบมาก “โอเคงั้น เราไปดูหนังของเอ็งละกัน” เสียงหัวเราะดังก้อง ขอบใจมาก ผมพูด แล้วก็ชวนมันออกไปทำอะไรโง่ๆกัน อาจจะเป็นนั่งกินเบียร์ดูสาวๆก็ใด้ ปล.บทความนี่มิใด้เกิดแรงบรรดาลใจจากคำต่อว่าหรือตำหนิแต่ประหารใด หากแต่เกิดจากคำชม และยกย่องที่มีมากเกินไป จนผมคิดว่า ผมแค่ทำหนัง และสนุกกับมัน คล้ายเมื่อผมเป็นเด็ก ผมสนุกกับการเล่นทราย แต่ตอนนั้นไม่เห็นมีใครมาชื่นชมผมว่าผมเป็นเด็กเล่นทรายยอดเยื่ยม นี่น่า ปล. ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ให้สนุกนะครับ ให้สนุกเหมือนตอนที่พวกคุณเล่นทราย ปั้นรูปอะไรขึ้นมาสักอย่าง ถึงแม้ว่าคนอื่นอาจจะดูไม่ออกว่าเป็นอะไรก็ตาม สักวันน่าเขาอาจจะเข้าใจ ปล. นักวิจารณ์ทั้งหลายคุณมิใด้สนุกกับความบันเทิงต่างๆแล้ว นั่นเป็นช่างโชดร้ายของคุณนะเพราะมันจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขเอาซะเลย จากคุณ : Bohemian - [ 11 เม.ย. 50 09:36:53 A:85.132.193.187 X: TicketID:001581 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประวัติศาสตร์บันทึกชื่อผู้สร้างสรรค์งาน ไม่เคยบันทึกชื่อผู้วิจารณ์ จากคุณ : garun studio - [ 11 เม.ย. 50 09:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 - = จากคุณ : jazpada - [ 11 เม.ย. 50 09:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อืม... อืม... ดูไว้นักวิจารณ์ พวกคุณกำลังถูก"ด่า" ไม่ได้ถูก"วิจารณ์"... เหอๆ ผมว่า"วิจารณ์" กับ "ด่า" มันไม่เหมือนกันอ่ะ แต่นักวิจารณ์ที่คุณยกตัวอย่างมา ผมก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน. . . แต่นักวิจารณ์ดีๆ ที่เรียนเรื่องนี้มาก็มีเยอะนะครับ ซึ่งจะว่าไปนักวิจารณ์(ส่วนดี) เขาก็แค่นำเสนอมุมมองของเขาต่อหนัง ไม่ได้เหมารวมว่า ทุกคนที่ได้ดูจะต้องรู้สึกเช่นเดียวกันกับเขา ที่สำคัญที่สุด เขาต้องการให้เกิดมุมมองประเด็นต่างๆ ในการแสดงความคิดเห็นต่อหนัง ซึ่งหากมีการร่วมถกเถียง หรือหรือแตกยอดความคิดออกไป นั่นต่างหากที่นักวิจารณ์(ส่วนดี) ต้องการให้เกิดขึ้น ส่วนนักวิจารณ์(ส่วนเลว) ที่จขกท. ยกตัวอย่างมา... รู้สึกเหมือนกันว่าเอาอารมณ์ส่วนตัวเป็นหลักในการวิจารณ์ ผมก็ไม่ชอบแบบนี้เหมือนกัน อีกประเภทที่ไม่ชอบมากๆเหมือนกัน ก็คือประเภทว่า "ชั้นชอบ คนอื่นไม่ชอบ...ชั้นเกลียดมัน" หรือ "ชั้นไม่ชอบหนังเรื่องนี้ ใครชอบ มันบ้าหรือป่าววะ ชั้นเกลียดมัน" คนประเภทนี้...มีในเวบนี้เยอะซะด้วย มันแย่กว่าการวิจารณ์หนังเสียอีก โดยส่วนตัว เห็นว่าอยากให้มีการวิจารณ์(ที่ไม่ใช่ด่า)หนังอีกต่อไป เพื่อให้เปิดมุมมองต่างๆ ของแต่ละคนได้เห็นเกี่ยวกับเรื่องเดียวกัน ผมว่ามันได้ความรู้ดีออกครับ นักวิจารณ์ที่ดีส่วนใหญ่ เขาไม่ได้มองว่าหนังเป็น "กับดัก" ในการระบายอารมณ์หรอกครับ.... จากคุณ : คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก - [ 11 เม.ย. 50 10:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อหนังออกมาและมีการทำเงิน ก็ต้องมีนักวิจารณ์ เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้มีแต่คนดูเฉย ๆ ห้ามวิจารณ์ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เหมือนเลี้ยงไก่แต่ไม่ชอบให้ ไก่ออกไข่ ถ้าไก่ไม่ออกไข่ ก็มีจำนวนไก่น้อยลง หรือ ไม่มีเลย ถ้าทำหนังแล้วตั้งใจจะดูเองคนเดียว ก็ไม่ต้องมีนักวิจารณ์ ต่อให้คุณเอาแค่เพื่อนสนิทกับครอบครัวมาดูในห้องนั่ง เล่น เขาก็ต้องมีคำวิจารณ์ถึงคุณ จากคุณ : umdadevil - [ 11 เม.ย. 50 10:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วถ้านักบอลเตะบอลอยู่ในสนาม ไม่มีคนดู จะให้มาช่วย กันเตะหมด ก็ทำได้ แต่จะดีหรือครับ หรือคุณคิดว่าคนดูบอลควรนั่งเฉย ๆ เหมือนดูสนุกเกอร์ ยิงเข้าก็ตบมือเบา ๆ แล้วก็กระแอมนิดหน่อย จิบน้ำ จากคุณ : umdadevil - [ 11 เม.ย. 50 10:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าจะมีชื่อเรียกสำหรับคนที่เขียนถึงหนังที่ทำให้เราเข้าใจตัวหนังอยากลึกซึ้งมากขึ้น ดีกว่านักวิจารณ์หนังอีโก้แรงหลงตัวเองหลายคน จากคุณ : Meroko - [ 11 เม.ย. 50 10:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านละ ^_^ จากคุณ : สิงโตน้อยปล่อยพลัง - [ 11 เม.ย. 50 10:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พี่ควา่มเห็นที่สาม ผมชอบจังครับ อยากบอกว่าขอบคุณครับ พี่ความเห็นที่สี่ มันคืออะไรครับพี่ พี่ความเห็นที่ห้า ครับนักวิจารณ์ดีๆมีครับแบบที่พี่บอกนั่นแหละ แต่บทความแบบนั่นอ่านไม่ค่อนมันส์มั้งครับ พี่ตวามเห็นที่หก เจ็ด ผมชอบนะครับถูกต้องเลย ถ้าเปรียบผมเป็นนักบอลตอนนี้ คงเหมือนพวกสมัครเล่นที่อยู่ห่างไกลจากพรีเมียร์ลีก หรือ แชมป์เปี้ยนลีกมโฬาร ถูกครับ วัยเด็กเเราเล่นบอลเพื่อความสนุก แต่ในวันที่คุณเป็น เดวิด เบ็กเฮม เมื่อไรเตรียมใจไว้ใด้เลย และเช่นเดียวกันครับสักวันผมคงเลิกทำหนังถ้าผมไม่สนุกกับมัน ส่วนพี่ความเห็นแปด พี่เดินไปดูหนัง ฟังเพลง เขียนหนังสือ หรืออะไรก็ตามทำเลยครับ ชื่อมันไม่มีความสำคัญหรอกครับ บางครั้งหนังที่เขากันว่าห่วย ผมไปดูกับแฟน มีความสุขมากมาย จำใด้ว่าเคยร้องเพลงเสี่ยวๆกะแฟนที่คาราโอเกะ มีความสุขดีครับ เพราะหนังบางเรื่องเหมาะแก่การดูคนเดียว หนังประเภทนั่นมักใด้รางวัลด้วยสิ ดูแล้วต้องคิดตาม เคยพาเด็กแถวบ้านไปดูหนังดูหลายคน บอกตรงๆว่าเราจะหลับ เป็นหนังเกี่ยวกับมังกรเรื่องนึง แต่ พวกมันดูอย่างสนุกสนาน ดูพากษ์ไทย อีก(บางครั้งการดูพากษ์ไทย จะถูกดูถูกใด้) ออกมาจากโรงมันถามบอกว่า ประเทศที่ผมไปเรียนเคยมีมังกรเปล่า ผมบอกพวกมันไปว่า มีแค่ผีดูดเลือด ไว้ดราวหน้าจะพามาดูหนังผีดูดเลือด พวกมันไม่เอา บอกกลัว สนุกดีครับ แกล้งเด็ก จากคุณ : Bohemian - [ 11 เม.ย. 50 11:15:58 A:85.132.193.187 X: TicketID:001581 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอโทษนะครับที่ผมคงไม่สามารถเข้าใจคุณได้  ผมไม่เคยดูหนังฉลาดๆ หรือหนังโง่ๆ ผมเคยดูแต่หนังที่อยากดู แล้วหนังที่เฉยๆ ไม่ดูก็ไม่เป็นไร ส่วนตัวผมไม่เคยทำหนังแม้เคยคิดอยากจะทำเล่นๆสักครั้งเหมือนกัน  เพราะวิถีชีวิตมันไม่ได้เดินไปทางนั้น แต่การที่คุณต้องการแค่ทำหนังแล้วสนุกกับมัน  แล้วคุณจะมาเครียดกับคำวิจารณ์หรือนักวิจารณ์ที่ไม่ดีทำไมละครับ อย่างตัวอย่างที่คุณยกมาบอกว่านักวิจารณ์ไทยบางคนทำไม ใ้ช้ไทยคำอังกฤษคำ สงสัยว่าจะำทำให้ฉลาดขึ้นหรือ ขอบอกตรงๆนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าคุณหมายถึงใคร เพราะผมไม่เคยอ่านเจอ  แต่หากคุณเจอคุณก็ไม่ต้องสนใจสิครับ คนเรามันมีหลายประเภท มีทั้งคนดีคนไม่ดี เหมือนคุณไปเจอคนไม่ดีกับคนดีคุณจะเลือกคบใคร? ผมว่าคุณยังงงๆ ตัวเองอยู่นะครับ (หรือผมเองที่งงเพราะอ่านที่คุณเขียนไม่ได้ประเด็นก็ไม่ทราบได้) ลองกลับไปคิดก่อนว่าเรามาทำหนังเพราะอะไร แล้วค่อยหาคำตอบให้ตัวเองใหม่ดีกว่า จากคุณ : RZENON - [ 11 เม.ย. 50 11:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดวิด เบคแฮม รู้สึกจะออกโฆษณา เขาพูดว่า Impossible is nothing คนที่จะยืนอยู่ที่จุดสูงในโลกทุนนิยม จำเป็นต้องมีอะไรบางอย่าง และหนึ่งในนั้นคือความแน่วแน่ จากคุณ : umdadevil - [ 11 เม.ย. 50 11:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณพี่สิบเอ็ดครับ หนังฉลาดหรือโง่ สามารถตามหาใด้ง่ายครับวีธีคือ เปิดหนังสือ เปิดเวป เช็คคะแนน อ่านคำวิจารณ์ ส่วนที่เหลือผมคิดว่าไม่ขอพูดต่อจะดีกว่าครับ ส่วนเรื่องตัวผม ผมจะกลับไปคิดดูว่าผมทำหนังเพื่ออะไร ล่ะกันครับ จากคุณ : Bohemian - [ 11 เม.ย. 50 11:44:57 A:85.132.193.187 X: TicketID:001581 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณสิบสองครับ เลือกใด้ ผมเป็น คันโตน่า ดีกว่า เลิกเล่นบอลทั้งที่เล่นใด้อีกหลายปี มันไม่สนุกแล้วมั้งครับ เตะบอลชายหาดดูสาวอาบแดดมันกว่า จากคุณ : Bohemian - [ 11 เม.ย. 50 11:47:46 A:85.132.193.187 X: TicketID:001581 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นักวิจารณ์กคือนัก 'วิจารณ์' อยากดูหนังก็ดูค่ะ ต่อให้โหลยโท่ย นักวิจารณ์สับเละแค่ไหนก็ตาม เพราะดูหนังเพื่อความบันเทิง จากคุณ : Wisther - [ 11 เม.ย. 50 11:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นจขกท.บอกว่าจะหาข้อมูลทำหนัง อยากถามว่าจะทำหนังแนวไหนอะครับ แล้วให้ความสำคัญกับอะไรในหนังตัวเองมากที่สุด ไม่ใช่ว่าจะชี้แนะอะไรเลย แค่อยากรู้ ผมเคยมีเพื่อนสนิทนิสัยติสท์ ๆ แบบเนี้ยแหละ ศิลปินส่วนมาก กับทุนนิยมมักจะไม่ไปด้วยกันมังครับ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 50 13:56:50 จากคุณ : umdadevil - [ 11 เม.ย. 50 13:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตำแหน่ง " นักวิจารณ์ " และผลงานของเขา เราก็อ่าน อ่านความคิดของเขาที่มีต่อหนัง อ่านๆไป แล้วจะรู้ว่าใคร "ใช่"หรือ"ไม่ใช่" แต่ไม่เคยมีผลต่อการตัดสินใจดูหนังของเรา เชื่อตัวเอง...อยากดูก็ดู ไม่อยากดูก็ไม่ต้องดู จะไปเชื่อคนอื่นอะไรมากมาย ปอลอ ... ชอบ ความคิดเห็นที่ 3 น่ะ ยอดเยี่ยมเลย จากคุณ : renton_renton - [ 11 เม.ย. 50 13:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าเพิ่งเหมารวมด่วนสรุปว่า "นักวิจารณ์" ว่ามีประเภทเดียวครับ ... ผมเข้าใจที่ จขกท. อธิบาย นั่นคือ ตัวอย่างของ นักวิจารณ์ประเภท ใช้อารมณ์ อีโก้หนาอัตตาโต ใช้อคติ และ สักแต่ด่าเอามัน ฯลฯ ซึ่งก็เห็นด้วยว่า งานวิจารณ์ประเภทนี้ มีแต่ทำลาย กำลังใจ ผู้สร้างสรรตัวงาน และ ผู้อ่านก็ได้แต่อ่านเอามัน ... แต่ยังมีงานวิจารณ์อีกจำนวนมาก ที่ไม่ได้ทำตัวเป็นผู้พิพากษาตัดสิน แต่ วิเคราะห์วิจารณ์ตัวหนังอย่างมีเหตุผล ชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง ชี้ให้เห็นจุดเด่น ตีความสัญลักษณ์ที่ซ่อนเร้น ฯลฯ งานวิจารณ์ดีๆ ก็จะส่งผลให้ เจ้าของผลงาน สามารถย้อนกลับไป แก้ไขหรือพัฒนา ผลงานชิ้นต่อๆไป และ ช่วยให้ ผู้อ่าน ได้ต่อยอดความคิด ได้ถกความเห็น และ ได้อะไรมากไปกว่า ความมัน ... หลีกเลี่ยง การวิจารณ์ ไม่ได้หรอกครับ หากจะสร้างผลงานให้มีผู้ชม เรียกได้ว่า กล้าที่จะสร้าง ก็ต้องกล้าที่จะรับฟังความเห็นคำวิจารณ์ และอย่างที่ผมตอบไว้ ผมคิดว่า งานวิจารณ์ที่ดี ให้คุณ มากกว่า ให้โทษ แน่นอน มิหนำซ้ำยังช่วยพัฒนาหรือจรรโลงงานศิลปะอีกด้วย จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 11 เม.ย. 50 13:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เคยทำหนัง ไม่เคยเป็นนักวิจารณ์หนัง เคยแต่เป็นคนดู บางทีอดไม่ได้เวลาเพื่อนถามไปดูเรื่องนี้หรือยัง ก็ตอบเรื่องนั้นชอบ เรื่องนี้ไม่ชอบ มันก็แค่ความคิดเห็นหนึ่ง ดีก็เก็บไว้ ใช้ไม่ได้ก็ทิ้งไป เพราะในที่สุดเราก็หยิบเอาความคิดเรามาใช้เป็นลำดับแรกอยู่ดี แต่คนทำหนังตลาด เค้าดูเรื่องของคนดูเป็นหลักไม่ใช่นักวิจารณ์ไม่ใช่เหรอ ส่วนพวกชอบทำหนังแบบแนวอินดี้ เค้าเปิดกว้างรับคำวิจารณ์นะเราว่า สำคัญคือคุณเป็นคนทำหนังแบบไหน ทำไว้ดูคนเดียว เหมือนนั่งเล่นทรายแล้วตรูสนุกคนเดียว คนอื่นจะสนุกไม่สนุกตรูไม่สน หรือทำหนังให้คนอื่นดูและชื่นชมหรือไม่ชื่นชมเพื่อนำมาปรับปรุงใหม่ เหมือนนั่งเล่นทรายแต่ปั้นทรายให้คนอื่นเห็นศิลปะแห่งงานปั้นและมีความสุขกับเราไปด้วย คุณเป็นคนทำหนังแบบไหนล่ะ จุดประสงค์หรือความตั้งใจในการทำหนังของคุณนั้นคืออะไร จากคุณ : ชอบดูหนังเหมือนกัน - [ 11 เม.ย. 50 14:26:12 A:58.64.79.160 X: TicketID:130708 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต่ออีกนิด เพราะหากคุณต้องการทำหนังแนวนักวิจารณ์ชอบ คือแสดงให้เห็นว่าปั้นทราบเพื่อต้องการให้เห็นความสวยงามอะไร หรือหนังต้องการนำเสนออะไร คุณต้องเปิดใจรับคำวิจารณ์ไม่ว่าจะน่าเบื่อแค่ไหนก็ตาม เราว่าอย่างนั้นนะ แต่ถ้าทำไว้ดูคนเดียว สนุกคนเดียว ก็ไม่เห็นต้องสนใจนักวิจารณ์ ชั้นทำเอามัน ไม่ได้เอาตังค์ หรือคำเยิ่นยอ จากคุณ : ขออีกนิด - [ 11 เม.ย. 50 14:29:42 A:58.64.79.160 X: TicketID:130708 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จริงๆ การวิจารย์ การดูหนัง และการทำหนังเป็นสิ่งที่มาด้วยกันเลย  นักวิจารย์ที่วิจารย์เป็นอาชีพเก่งๆก็มีหลายคน การวิจารย์ทำให้เรารู้จักแยกแยะและรู้จักกระบวนการสร้างสรรค์ รู้จักเปรียบเทียบ พัฒนา และเป็นกระบวนการหลักๆในการเข้าถึงความจริง(dialectic) กระนั้นในการตัดสินใจที่จะดู  ตัดสินที่จะชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องของคนดู ผู้บริโภค ที่ต้องตัดสินเอง จากคุณ : the author - [ 11 เม.ย. 50 14:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่านคะ่ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะ จากคุณ : cmr - [ 11 เม.ย. 50 15:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เวลาคุณกินอาหารจานหนึ่งเนี่ย ในใจคุณก็ต้องคิด อืม มันเค็ม เอ้ ไม่อร่อยเลย การวิจารณ์เป็นเรื่องปกติครับ คุณเป็นคนชิมคุณมีสิทธิ์  การวิจารณ์เป็นสิทธิ์ของคุณ แล้วคุณก็มีสิทธิ์ที่จะบอกหรือไม่บอกพ่อครัวก็ได้ ถ้าคุณเป็นพ่อครัว อืม วันนี้ ทำแกงจืด แล้วเนื่องจากคุณชอบเค็ม คุณก็ใส่เกลือ แบบที่คุณชอบ คุณชิมแล้วบอกว่าว่า อร่อยแท้น้อ แต่ลูกค้าบอก  โคดเค็มเลย  แหว่ะ คุณมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนโดยไม่ใส่เกลือ หรือ คุณมั่นใจว่าอร่อย ก็ไม่ต้องเปลี่ยน เป็นสิทธิของคุณเช่นกันมันเรื่องของคุณครับ นักวิจารณ์(ที่ดี) ทำงานของเขา คุณทำงานของคุณ  แค่นั้น  การจะเอาคำวิจารณ์มาพิจารณาปรับเปลี่ยนหรือไม่ เรื่องของคุณ มันไม่มีอะไรต้องเครียด หรือน่าน้อยใจ  หรือคุณอยากได้คำชมบ้าง แต่คำชมนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากเป็นแค่คำปลอบใจ  หรือคุณจะบอกว่าอย่าว่าผมเลย งั้นคุณก็จะไม่รู้ว่าตัวงานได้รับผลตอบรับอย่างไร แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 50 16:01:36 จากคุณ : navagan - [ 11 เม.ย. 50 16:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อันเนื่องมาจาก 1. ปล. ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ให้สนุกนะครับ ให้สนุกเหมือนตอนที่พวกคุณเล่นทราย ปั้นรูปอะไรขึ้นมาสักอย่าง ถึงแม้ว่าคนอื่นอาจจะดูไม่ออกว่าเป็นอะไรก็ตาม สักวันน่าเขาอาจจะเข้าใจ 2. ปล. นักวิจารณ์ทั้งหลายคุณมิใด้สนุกกับความบันเทิงต่างๆแล้ว นั่นเป็นช่างโชดร้ายของคุณนะเพราะมันจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขเอาซะเลย ตอบ 1. ความสนุกเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ แล้วกับคนที่เล่นกองทราย 10 ปี มันก็มีเบื่อบ้าง อยากลองอะไรที่แปลกใหม่ ลึกซึ้งขึ้น ซึ่งมันเป็นความสนุก พวกที่เพิ่งเล่นกองทรายใหม่อาจคิดว่า มันสนุกตรงไหน พูดตรงๆ เมื่อคุณดูหนังมากๆ คุณจะเริ่มเข้าใจว่าหนังมากขึ้นครับ เรื่องของประสบการณ์ ตอบ 2. นักวิจารณ์ก็มีหนังที่เขาบันเทิงและสนุกในรูปแบบของเขาอยู่แล้วครับ แต่อาจไม่ตรงกับคุณก็ได้ครับ ไม่ต้องเห็นใจเขาหรอกครับ ผมไม่ได้เข้าข้างนักวิจารณ์นะ เราทุกคนเป็นนักวิจารณ์อยู่ในตัว นักวิจารณ์มีทั้งที่ดี และไม่ดี (ในความคิดของแต่ละคน) คุณจะรู้ได้ก็เมื่ออ่านงานเขา (ซึ่งนั่นก็คือการวิจารณ์ของตัวคุณเอง) จากคุณ : navagan - [ 11 เม.ย. 50 16:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประวัติศาสตร์บันทึกชื่อผู้สร้างสรรค์งาน ไม่เคยบันทึกชื่อผู้วิจารณ์ ^ ^ ^ คงไม่จริงซะทีเดียวครับ ศาสตร์แต่ละศาสตร์ก็มีคนสำคัญของเขา นักวิจารณ์ต่างประเทศที่ได้รับการยกย่องจนถึงทุกวันนี้ก็มีเยอะแยะ แต่ละคนต่างทำหน้าที่ของตนไปก็เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ผมก็เป็นนักวิจารณ์ต๊อกต๋อย ก็มีความสุขกับหนังที่ตนเองชอบเช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับรางวัลที่ไหน ส่วนบทวิจารณ์ที่ใช้ไทยคำอังกฤษคำ ก็ปล่อยเขาไปครับ อย่างน้อยถ้าผมจะใช้ก็จำเป็นต้องมีคำอธิบายไว้ด้วย นักวิจารณ์หลายคนในโลกที่ผันไปเป็นผู้กำกับก็มีเยอะครับ ฌอง ลุค โกดาร์ด, ฟรังซัวส์ ทรุฟโฟต์, โอลิวิเย่ร์ อัสซายาส, บัณฑิต ฤทธิกล หรือคนที่เคยลองทำมาแล้วอย่าง โรเจอร์ อีเบิร์ต ก็มี มองเป็นคนๆ ไปดีกว่าครับ หรือถ้าคุณไม่ชอบการเขียนของใครเลยก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องไปอ่าน ทุกวันนี้หนังเทศกาลต่างๆ ที่เขาตัดสินส่วนใหญ่กรรมการเกือบทั้งหมดเป็นคนในวงการครับ นักแสดง ผู้กำกับ ทีมงาน หรือนักดูหนัง จะมีให้นักวิจารณ์แค่คนเดียวหรือไม่มีเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : yuttipung - [ 11 เม.ย. 50 16:57:15 ]