หากเห็นด้วยกับบทความชิ้นนี้ รบกวนฝากส่งต่อหรือบอกต่อแนวความคิดนี้ต่อๆกันไปยัง ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ใกล้ตัวเพื่อนผู้อ่านครับ
คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองครับ ... กรุณาเลือกหนังให้เหมาะสมกับวัยของเด็กด้วยเถอะครับ
คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองครับ ... กรุณาอย่าพาเด็กๆเข้ามาดูหนังที่มีความรุนแรงเถอะครับ
....เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากดู Hannibal rising ตัวหนังไม่มีอะไรให้เล่ามาก นอกจาก ผู้สร้างและ Thomas harris คนสร้างฮันนิบาล ขึ้นมา ไม่น่าทำลายฮันนิบาลด้วยการสร้างภาคนี้เลย(ถ้ามีโอกาสจะเขียนถึงตัวหนังนะครับ)
สิ่งที่อยากเขียนถึงมากกว่า คือวันนี้ เป็น ครั้งที่สามที่ได้เห็น ผู้ใหญ่อุ้มเด็กตัวเล็กๆอายุประมาณ 5-6 ขวบเข้ามาดู หนังที่ไม่ได้สร้างให้เด็กดู
สองครั้งแรก ที่ผมเจอด้วยตัวเองคือ เด็กร้องไห้งอแงใน Constantine และ แม่ต้องอุ้มเด็กประมาณสามขวบเดินกล่อมไปมาในโรงหนังเรื่อง ผีคนเป็น
...ใจจริงผมกำลังนั่งเขียนกระทู้ถึงการจัดเรต แต่ จากที่เห็นปัจจุบัน ผมคิดว่า กว่าการจัดเรตจะเกิดขึ้นได้ เด็กรุ่นหลานผมก็คงกำลังนั่งดู Hannibal forever และ ต่อให้การจัดเรตเกิดขึ้นจริง แต่พ่อแม่ ไม่เข้าใจ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อยู่ดี
การจัดเรตเป็นแค่ การควบคุมจากภายนอก(external control) คือมีคนมาตั้งข้อบังคับ แต่ในทุกๆสิ่งนั้น การควบคุมจากภายใน(internal control) ย่อมได้ผลดีที่สุด ถ้าพ่อแม่มีความเข้าใจ มีความรู้ มีจิตสำนึก ย่อมส่งผลดีกว่าการจัดเรตอย่างเดียว
ดังนั้นนอกจากการจัดเรต การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่พ่อแม่ น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดควบคู่กัน
...ผมยินดีที่จะเขียนถึงเรื่องนี้ทุกครั้ง หากได้เจออีก ด้วยหวังว่า เสียงเพียงน้อยนิดในอินเตอร์เน็ต อย่างน้อยหากเข้าหูเข้าตา คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเด็ก จะเป็นพ่อแม่พี่ป้าน้าอาของใครก็ตาม บทความนี้ก็น่าจะช่วยได้เพียงเล็กน้อย จะให้หวังหน่วยงานรัฐก็คงจะหมดหวัง เพราะ ผู้ใหญ่หลายคนคงมองว่า นี่คือ เรื่อง จิ๊บจ๊อย
บางเรื่องผมเข้าใจว่าพ่อแม่อาจไม่รู้ว่าหนังมีความรุนแรง เพราะหน้าหนังและการตั้งชื่อไทยไม่ได้บอกกล่าว อย่าง มหัศจรรย์แดนฝัน อัศจรรย์เขาวงกต แต่พออุ้มลูกเข้าไปดู ดันต้องเจอกับฉากมีดกรีดปากฉีกถึงหู , จ่อปืนยิงที่อกกันชัดๆ ฯลฯ ซึ่งในส่วนนี้ คงเป็นความผิดของคนตั้งชื่อไทย ที่ คิดน้อยไป
และความคิดน้อยของคนตั้งชื่อหนัง ก็สะท้อน ความคิดน้อยไป ของผู้ใหญ่อีกมากในสังคมเกี่ยวกับเรื่อง ความรุนแรงของสื่อและเยาวชน
เพราะขนาด หนังที่เราทำนายเนื้อหาและความรุนแรงได้ตั้งแต่แรกแล้วอย่าง ผีคนเป็น หรือ Hannibal Rising (ฮันนิบาล ตำนานอำมหิตไม่เงียบ) เรายังเห็นพ่อแม่อุ้มลูกๆเล็กๆเข้าไปดู
...คุณพ่อคุณแม่ไม่สงสารเด็กหรือครับ เด็กห้าหกขวบต้องเข้ามาดูหนังที่มีฉาก
-เด็กตัวเล็กๆนั่งมองการฆ่าล้างครอบครัว , เด็กเห็นน้องถูกฆ่าเพื่อเอามาเป็นอาหาร
-ทหารเอาปืนจ่อหัว แล้วลั่นไกเห็นกันชัดๆ มีรูกระสุนที่หน้าผากแล้วเลือดไหลออกจากรูกระสุน
-กินนกสดๆเลือดติดมุมปาก , ตัวละครเอาดาบซามูไรเฉือนพุงคนแล้ว ตัดคอ เสียบประจาน
-ตัวละครฆ่าคนเสร็จแล้วบอกว่า ตอนแรกผมว่าจะใช้มีดแต่มาดูแล้วใช้ดาบเหมาะกว่า
ฯลฯ
...ผมมองสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นปัญหา เกิด ปัญหาที่ อาจเห็นผลฉับพลัน เช่น เด็กร้องไห้ด้วยความกลัว เด็กฝันร้าย ฯลฯ และ ปัญหาสะสมระยะยาว ปัญหาที่ตามมาไม่ได้จบแค่หนังจบลง
และปัญหาในปัจจุบันที่เกิดขึ้น ผมคิดว่า
1.รู้ทั้งรู้แต่อยากดู ...พ่อแม่รู้ว่าหนังมีความรุนแรง หนังไม่เหมาะสม แต่ตัวเองอยากดู และไม่มีคนเลี้ยงลูก ก็เลยอุ้มลูกเข้าไปดูด้วยทั้งที่รู้ว่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือ ยาพิษชนิดสะสม
2.ไม่เคยรู้ไม่เข้าใจ ...พ่อแม่ที่ไม่เคยรู้เรื่อง ผลของความรุนแรงของสื่อที่มีต่อเยาวชน และ ยังขาดความเข้าใจในเรื่องพัฒนาการหรือจิตวิทยาเด็ก
...เหตุสองข้อนี้ มาจากความเข้าใจผิดๆที่พบบ่อยเวลาอ่านกระทู้ในอินเตอร์เน็ต อาทิเช่น
ความเข้าใจผิดที่ 1. บางท่านเห็นว่าลูกฉลาด ลูกน่าจะเข้าใจ หรือ ดูจบเดี๋ยวเราอธิบายให้ลูกฟังก็ได้
ความจริง : ความฉลาดของเด็กหรือไอคิวจะสูงแค่ไหน เด็กแต่ละวัยก็มีพัฒนาการที่ไม่เท่ากัน เช่น
พัฒนาการของความคิด(cognitive development)... เด็กในวัย 5-6ขวบ อยู่ในระยะที่เรียกว่า Preoperational stage ยังไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาสิ่งที่เป็นนามธรรม(abstract ) ได้ดีพอ ยังคงคิดโดยมุมของตัวเองเป็นใหญ่มากกว่าคิดจากมุมของคนอื่น(Egocentrism ) ยังไม่สามารถคิดเหตุผลสลับซับซ้อนได้ดีพอ เหตุผลบางอย่างยังโยงแบบเด็กๆเช่น แม่ป่วยในวันที่เขาทำจานตกแตก เขาก็จะคิดว่า แม่ป่วยเพราะเขาทำผิด
พัฒนาการของศีลธรรม (moral development)
เด็กในวัย 5-6 ขวบ อยู่ในช่วงระยะที่เรียกว่า Pre-Conventional ซึ่งส่วนมากนั้นจะยังไม่สามารถเข้าใจถึงการทำอะไรถูกผิดชนิดคิดขึ้นเองได้ภายในใจ แต่ยังทำอะไรเพราะกลัวถูกทำโทษหรือต้องมีคนชี้แนะจึงจะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ( Obedience and punishment orientation & Self-interest orientation)
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจำเป็นต้องมีการจัดเรต ต้องมีหนังหรือหนังสือที่เหมาะตามแต่ละช่วงวัย เพราะ แทนที่จะปลูกฝังให้ เด็กเข้าใจ สิ่งที่ส่งให้กับเด็กมักเป็น ความฝังใจ เสียมากกว่า ฝังใจ กับภาพที่ได้เจอและเสียงที่ได้ยิน แม้เด็กจะฉลาดเพียงใดก็ตาม แต่ความรุนแรงที่ซึมซับเข้าไปนั้น เด็กยังไม่สามารถจะเรียนรู้ดูแลมันได้เหมือนผู้ใหญ่
ความเข้าใจผิดที่ 2. โธ่ ต้องให้เด็กมันเจออะไรที่มันเลวร้ายบ้าง จะให้ดูแต่สิ่งดีๆอย่างเดียวไม่ได้หรอก ไม่งั้นมันเอาตัวรอดไม่ได้ในสังคม
ความจริง : ผมไม่ได้คิดว่า เราต้องให้เด็กดูแต่ การ์ตูนวอลท์ ดิสนีย์ เพียง แต่ หนังแต่ละเรื่องก็มีช่วงวัยที่เหมาะสม เช่น
หากเราอยากสอนเรื่อง ความตาย ให้กับเด็ก5-6 ขวบ ก็ไม่จำเป็นที่จะหยิบหนังที่ฉากเชือด กระซวก เลือดพุ่งปรี๊ดพุ่งปรี๊ด แต่ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกสอนเรื่องนี้ได้จากหนังอย่าง Charlotte's Web แล้วเมื่อเด็กโตขึ้นหน่อยก็ค่อยๆให้ดูหนังที่โหดขึ้นได้ จะเลือกอย่างไร ไม่ยากเลย ก็เช็คดูที่เรตหนังที่เมืองนอกเขาจัดมาก่อน (เรตหนังเป็นสิ่งดีๆที่เมืองนอกเขามี แต่เราดันไม่ทำตาม กลับไปทำตามเรื่องอื่นๆอีกหลายอย่างที่ไม่ดี)
ความเข้าใจผิดที่ 3. ฉันโตมาแบบนี้ ฉันก็เคยดูหนังโหดๆ เคยดูฉากโป๊ ฉันไม่เห็นเป็นฆาตกร หรือ ไปข่มขืน ใครเลย
ความจริง : ไม่ใช่ว่า ทุกคนที่ดูหนังแรงๆตั้งแต่เด็กจะเป็นฆาตกร และ จริงที่ว่า ความรุนแรงจากหนังไม่ได้เป็นปัจจัยหลักปัจจัยเดียวที่สร้างฆาตกรขึ้นมา
เพียงแต่อย่าลืมว่า แม้มันจะไม่ใช่สาเหตุหลักสาเหตุเดียว แต่ คุณจะยื่นปัจจัยเสี่ยงนี้ให้กับเด็กโดยไม่แยแสอะไรเลยหรือ
ผมเคยเจอพ่อแม่ที่พาลูกแค่ป.1 มาตรวจด้วยปัญหาอารมณ์รุนแรง ก้าวร้าว เวลามีความขัดแย้งกับเพื่อนก็ชกต่อยประจำ ซึ่งหลายหน ได้ประวัติย้อนหลังว่า พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลา จึงเลี้ยงลูกด้วยทีวี เปิด VCD ทิ้งไว้ให้เด็กดู ทั้งยามว่างและก่อนไปโรงเรียน และ ส่วนใหญ่ก็เป็นหนังแอคชั่น หนังต่อสู้ ฯลฯ เมื่อรักษาเพียงแค่ ลดการดูหนังประเภทนี้ลง และ สอนเด็กให้ความเข้าใจ เด็กดีขึ้นโดยไม่ต้องกินยา
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนรุนแรงนั้น นอกจากด้านชีวภาพ เช่น ยีน , ฮอร์โมน ฯลฯ การซึมซับหรืออยู่กับความรุนแรงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ (เช่น อยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยเสียงด่าทอ อาละวาด ตบตี ฯลฯ)
...ยกตัวอย่าง เช่น คนสิบคน ดูแต่หนังรุนแรงมาตั้งแต่ ทารก
ผลกระทบเชิงลบ ไม่จำเป็นต้องเป็น ฆาตกร แต่
2 คน อาจเป็นคนที่ขี้กลัวขี้ตกใจง่าย
2 คน อาจเป็นคนเก็บกด
2 คน อาจรักความรุนแรง แก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรง
2 คน อาจเป็น ฆาตกร
2 คน อาจเป็น คนปกติ
... เด็กที่ซึมซับความรุนแรงมาตลอดคนนั้น อาจเป็น หนึ่ง ใน 2 คนที่ปกติ แต่ อีก 8 คนที่รับผลกระทบนั้นมา เราจะป้องกันไม่ให้เกิดได้อย่างไร และ
ถึงเราอาจดูแลลูกเราได้ดีมากๆก็ตาม แต่ ลูกเรา หลานเรา ดันไปโดนทำร้ายจาก ฆาตกร หรือ พวกมิจฉาชีพ ที่เติบโตมาจากปัจจัยของสื่อที่รุนแรง เราหรือคนที่มีส่วนรับผิดชอบจะไม่รู้สึกเสียใจหรอกหรือ ที่เมินเฉยเรื่องต่างๆเหล่านี้
ทางออกสำหรับคนรักหนังที่ต้องรับผิดชอบดูแลเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ปู่ย่าน้าอา ฯลฯ
1.ถ้าอยากดูหนังในโรง แต่ ลูกยังไม่เหมาะ ฝากลูกไว้กับคนที่ไว้ใจได้ เช่น ปู่ย่า หรือ พ่อกับแม่ผลัดกันมาดู
2.หากหาคนไม่ได้ ก็รอแผ่นเถอะครับ ไม่ได้ดูหนังในโรงก็คงไม่ได้มีผลต่อชีวิตอะไรมากนัก ผมคิดว่า การเลือกอยู่บ้านและเลือกบทบาทพ่อแม่ที่ดี ลูกย่อมเติบโตมาอย่างภูมิใจ
3.ถ้าลูกอายุไม่ถึงหกขวบ อย่าเพิ่งพาลูกเข้าโรงหนังเลย เพราะเด็กยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ดีพอ และ เด็กในช่วงนี้พัฒนาการการเรียนรู้ยังไม่มากพอที่จะทำความเข้าใจอะไรหลายๆอย่างที่เป็นเหตุเป็นผลซับซ้อน สู้ดูที่บ้านแล้วช่วยอธิบายไปพร้อมๆกัน เป็นการฝึกเด็กดูหนัง และ สอนพื้นฐานมารยาทการเข้ามาดูหนังในโรงหนังก่อนดีกว่า
เพราะถ้าคุณพาเข้าโรงหนัง เด็กไม่ผิดเลย ถ้าเด็กจะร้องกระจองอแง เด็กถามตลอดเวลา ฯลฯ กรุณาอย่าดุว่าเด็ก และ เสียงเด็กร้อง เสียงเด็กถาม เสียงคุณสอน เสียงคุณปราม สิ่งเหล่านี้ก็คือ ตัวคุณกำลังรบกวนคนอื่นที่นั่งดูหนังในโรงเดียวกันด้วย
4.ถ้าลูกโตขึ้นมาหน่อยแล้ว พร้อมกับการพาเข้าโรงหนัง หากอยากจะดูหนังเรื่องอะไร ลองเข้าไปเช็คสิ่งที่เรียกว่าเรตหนัง ก่อนพามาดูครับ
เช่น เข้าไปเว็บนี้ www.imdb.com พิมพ์ชื่อหนังแล้วกดเข้าไปอ่านรายละเอียด ลองไล่ๆมาจะพบ การบอกเรตหนัง หลังตัวอักษร MPAA พร้อมคำอธิบายสั้นๆว่าทำไมถึงได้เรตนี้ ผมลองเอาตัวอย่างจาก หนังเรื่อง Hannibal Rising มาปะให้ดูนะครับ
Rated R for strong grisly violent content and some language/sexual references.
และเรตแต่ละเรตเป็นอย่างไร ลองดูโปสเตอร์จากสองความเห็นด้านล่างก็พอจะช่วยได้ครับ
ร่วมด้วยช่วยกันเถอะครับ ปัญหาเล็กๆที่แท้จริงไม่เล็กและแก้ได้ด้วยตัวเราเอง เพราะกว่าจะมีการจัดเรตหนังในเมืองไทย คงรอไปอีกนานแสนนาน
เพราะ
.....เคยมีคนบอกผมว่า การจัดเรตนั้นเป็นสิ่งที่ห่างไกลความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทย จะมีปัญหาของรายได้ของหนัง ปัญหาของทางโรง ปัญหา xxx และ ปัญหา yyy ปัญหา zzz. ฯลฯ ปัญหาทั้งหลายแหล่นั้น ไม่ใช่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนคนดูแม้แต่น้อย
ผมเองจึงคิดว่า การไม่สามารถมีเรตในเมืองไทย ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ เป็นเพราะ ระบบการคิด ไม่ได้มี ประชาชนหรือเยาวชน เป็น จุดเริ่มต้นของโจทย์ แต่ อาศัย ผู้ประกอบการเป็นจุดตั้งต้นในการคิดว่า จะทำ หรือ ไม่ทำ
ดังนั้น
คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองครับ ... กรุณาเลือกหนังให้เหมาะสมกับวัยของเด็กด้วยเถอะครับ
คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองครับ ... กรุณาอย่าพาเด็กๆเข้ามาดูหนังที่มีความรุนแรงเถอะครับ
กระทู้เกี่ยวเนื่องก่อนหน้านี้
เมื่อพนักงานขายตั๋วบอกคุณแม่ของน้อง 5 ขวบว่า ... "Pans Labyrinth ดูได้ครับเป็นหนังแอนิเมชั่น" http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5333620/A5333620.html
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับ 'การเซ็นเซอร์' ในหนังหรือในทีวี ปัจจุบัน (ทั้งกรณี 'เบลอ' และ 'แบน')
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5310223/A5310223.html
จาก 300 สู่กรณี 'มีนมมีเบลอ' + ตลกหยาบคายและความรุนแรง + เด็กๆในโรงหนัง ...ควรหรือยังกับการจัดเรตหนังบ้านเรา
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5241346/A5241346.html
ดู(อ่าน)หนัง(สือ) ให้ข้อคิด ชวนคุณคลิกไปอ่าน ไปคุย และ ร่วมเป็น 1 ความคิดเห็นในหนังที่คุณเคยดู ที่ http://aorta.bloggang.com
แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 50 14:28:50
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 06:52:56
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 12:00:01
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 11:51:21
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 11:50:11
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 11:11:12
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 50 11:07:17
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
18 เม.ย. 50 10:57:24
]