ความคิดเห็นที่ 3
...ลองไล่ชื่อผู้กำกับที่สร้างสรรตัวประหลาดได้น่าเอ็นดูแบบหยองๆมาซักชื่อหนึ่ง ชื่อแรกที่คุณต้องคิดถึงไม่น่าจะพ้นกีลเลอโม่ เดล โทโร่ จาก Hellboy , Cronos , Mimic โลกจินตนาการของ เดล โทโร่ ไม่เคยหวานชื่นเหมือนในหนังเทพนิยายนาร์เนีย ที่ผ่านมา หนังของเขามักจะไม่พาคนดูให้ต้องชวนฝัน แต่จะฝากความน่ากลัวโหดร้ายสอดแทรกอยู่ใน ความประหลาดพิสดาร
ยิ่งมาถึง Pans Labyrinth เดล โทโร่ ยิ่งไม่ยั้งมือ เหมือนกับจะบอกให้รู้ว่า หนังแฟนตาซีของเขาไม่ได้สร้างมาให้เด็กดู เป็น Dark side of fairy tale หนังไม่กั๊กความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น ชนิดที่ดูหนังเรื่องนี้ ยังจะโหดร้ายกว่าหนังสงครามพันธุ์แท้หลายต่อหลายเรื่อง คนดูจะได้พบทั้งฉากโหดๆจะๆชัดๆ ประมาณมีดกรีดปากเป็นรอยฉีกขาดยาวถังหู ปืนยิงจ่อหัวเลือดกระเซ็น
ความไม่ยั้งมือของสงคราม ยังตามมาด้วยความหยดหยองของตัวละครในจินตนาการหนูๆ ที่จะมีทั้ง ฟอนหุ่นอัปลักษณ์ที่ตอนร้ายก็แสนจะน่ากลัว , ปีศาจจ๊ะเอ๋ที่อยู่ใกล้ก็ชวนขนลุก และ ฉากเคี้ยวหัวนางฟ้าหยับๆ ก็แสนจะบดขยี้เทพนิยายแสนดีของเหล่าเด็กๆ
ความโหดร้ายเหล่านี้เอง มาพร้อมๆกับ งานด้านกำกับศิลป์ที่แสนจะอัศจรรย์ การออกแบบตัวละครเลอเลิศยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ทั้งตัวละครในจินตนาการ (ผมชอบ ฟอน และ ปีศาจจ๊ะเอ๋ มากๆ ซาดิสต์ได้ใจเหลือเกิน) และ ตัวละครคนจริงทุกคน ต่างก็ฝากฝีไม้ลายมือที่เข้มข้น เพิ่มความกดดันให้กับคนดูได้ตลอดเวลา
...แถมดนตรีประกอบก็ช่างติดหูเหลือเกิน เพราะ จนถึงตอนนี้ เสียงฮัมเพลงกล่อมเด็กที่เป็นธีมในหนัง ยังดังวนเวียนในหูของผม จนผมต้องไปตามล่าหาแผ่น OST มาเก็บและก็ฮัมวันละสองรอบชนิดแทบจะเจอฟอนอยู่รอมร่อ
สิ่งที่ชอบ
1.ตัวหนังทั้งเรื่อง ... สมบูรณ์พร้อมเหลือเกินจนยากจะหาข้อตำหนิติเตียน นอกจากคนตั้งชื่อหนังของไทยที่ดันตั้งซะสวยหรูราวกับหนังอย่างนาร์เนีย จนอาจทำให้ผู้ใหญ่หลายคนเผลอจูงลูกตัวน้อยๆเข้าไปดู
2.บทหนัง ... ผมชอบบทหนังเรื่องนี้ที่จับ โลกของเด็ก โยนเข้าไปใน โลกของผู้ใหญ่ที่เลวร้าย โดยอาศัยจินตนาการมาเป็นตัวเล่าเรื่อง ก่อนจะทิ้งท้ายในฉากจบแบบชวนให้คิด
3.งานด้านกำกับศิลป์และเอฟเฟกต์
4.ดนตรีประกอบ ... ฮื๊อ ฮือ หื่อ ฮือ ฮือ ฮื๊อ ฮือ ฯลฯ ผมฮัมจนคนข้างๆนึกว่าผมออกมาจากเขาวงกตแล้ว ธีมนี้ช่างจับคู่กับหนังได้อย่างลงตัวดีเหลือเกิน
5.ตัวละคร ... เยี่ยมทั้งคนแสดง ไม่ว่าจะเป็น กัปตัน , หมอ , เมอเซเดส (จำเธอได้หรือเปล่า หญิงสาวที่สองหนุ่มแย่งกันระหว่างการเดินทาง ในหนังสเปนที่ชื่อหนังแปลได้ว่า แม่แกด้วยนะแหละ หรือ Y tu mama tambien) , แม่ , โอฟีเลีย , เชลยที่ถูกทรมาน ฯลฯ ภาพตัวละครเหล่านั้นยังคงติดตาอยู่เรื่อยมา หากต้องให้ย้อนคิดถึง เช่นฉากกัปตันสอบสวนเชลยจับกระต่าย , ฉากหมอล้มสุดเท่ , ฉากเมอเซเดสกรีดปาก ฯลฯ ทุกคนเล่นกันชนิดสุดยอด เช่นเดียวกับการออกแบบตัวละครในดินแดนเขาวงกต ทั้งฟอน และ ปีศาจจ๊ะเอ๋
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.โดนแต่ยังไม่โดนแบบสุดๆ ... แหะๆ อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัว คือ รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้สมบูรณ์แบบและผมก็ชอบ แต่มันยังขาดอะไรบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ มันไม่จี๊ดดดด เหมือนกับตอนที่ได้ดู Bridge to Terabithia หนังจินตนาการที่ไม่อาจหนีพ้นโลกความจริงคล้ายๆกัน หรือ ตอนที่ได้ดู The Lives of Others ผู้แซงเข้าวินรางวัลหนังออสการ์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
สรุป
ไม่น่าแปลกใจที่ หนังจะกวาดรางวัลกันมาแบบว่าเล่น และ ได้รับการชื่นชมยกย่องด้วยการ standing ovation ถึงยี่สิบนาทีที่เมืองคานส์ เป็น ผลงานที่อุดมไปด้วยจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ มีบทที่น่าทึ่งซึ่งจะนำคนดูไปสู่โลกใบใหม่ที่สะกดเราไว้ไม่ให้คลาดสายตาตลอดสองชั่วโมงที่หนังฉาย เป็นหนังที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายห้ามพลาดที่จะรับชม แต่ อย่าพาเด็กเข้าไปดู
ป.ล. เมื่อพูดถึง เด็กและสงคราม ไม่ว่าจะเป็น สงครามโลก สงครามอ่าว หรือ แม้แต่ข่าวสามจังหวัดภาคใต้บ้านเรา
ไม่เก่าไปเลย ไม่เชยแต่อย่างใด กับบทเพลงของเฉลียงที่เขียนเนื้อไว้ว่า
เกิดสงครามพันครั้ง เด็กก็ยังสวยงาม
เป็นเพียงแค่สงคราม ความเดียงสาเท่าเดิม
น่าเศร้าใจ ที่หลายครั้ง สงครามของผู้ใหญ่ ก็เข้ามาทำลาย ความเดียงสาของเด็กๆ เด็กที่ไร้เดียงสาต้องรับกรรมที่ไม่ได้ก่อแสนสาหัสอยู่แล้ว แต่ ผู้ใหญ่ยังไม่สาแก่ใจ ยังเริ่มนำความชั่วร้ายเข้าไปแปดเปื้อนเด็กๆที่เหมือนผ้าขาว ไม่ว่าจะเป็นในหนังที่เราได้เห็น การจับเด็กมาล้างสมองเป็นทหารเช่นใน Blood diamond ที่มีอยู่จริงในหลายๆมุมบนโลกใบนี้
ป.ล. 2 ...แจ้งข่าว จขกท. จะไม่ได้อยู่ตั้งแต่ ศุกร์นี้ถึงอังคารหน้า ดังนั้น หากมีคำถามอาจไม่ได้เข้ามาตอบช่วงนั้นเน้อ
อ้อ กลัวเขียนถึงไม่ทัน
ขอเชียร์ก่อนไปกับ Meet the Robinson แอนิเมชั่นจากวอลต์ ดีสนี่ย์ ที่ตัวหนังจริงดีกว่า หนังตัวอย่างประมาณ ล้านเท่า ชอบบทของเรื่องนี้มากๆ เป็นเรื่องที่ดีกว่า Chicken run และ พอไปสู้กับ Pixar ได้สบายๆ
ดู(อ่าน)หนัง(สือ) ให้ข้อคิด ชวนคุณคลิกไปอ่าน ไปคุย และ ร่วมเป็น 1 ความคิดเห็นในหนังที่คุณเคยดู ที่ http://aorta.bloggang.com
Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=04-2007&date=19&gblog=236 Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=03-2007&date=22&gblog=226
The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=04-2007&date=14&group=1&gblog=234
เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=5&month=06-2006&date=02&blog=1
Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=02-2007&date=06&group=1&gblog=137
Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง" http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2007&date=11&group=1&gblog=181
ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้ค ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม โดย "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"ค้าบ
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
19 เม.ย. 50 09:58:04
]
|
|
|