 |
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "มะหมา 4 ขาครับ" ... หมา มะ มาดูกัน ดูกัน ม้าสิมา เป็นม้ากัน ม้ากัน
| เกรด A -> 9-10 คะแนน (7 คน) | | เกรด B -> 7-8 คะแนน (6 คน) | | เกรด C -> 5-6 คะแนน (2 คน) | | เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน) | | เกรด E -> 1-2 คะแนน (0 คน) | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 15 คน |
ผมเองไม่ใช่คนที่รักหมา ไม่ได้เคยเลี้ยงหมามาก่อน มีที่เล่นกับหมาคนอื่นบ้าง แต่บางทีแค่หมาเห่าใส่ก็พยายามตีตัว(หนี)ออกห่างเสียกระเจิดกระเจิง ...การที่ผมอยากดูหนัง "มะหมา 4 ขาครับ" นั้น มันเลยไม่ใช่เหตุผลของคนที่ผูกพันกับหมา แต่เป็นเหตุผลที่อยากจะดูหนังสนุกๆ เพลินๆ ที่ตัวอย่างได้ทำให้ผมขำ และเอ็นดูในความน่ารักของพวกมัน จนจำเป็นที่จะต้องตีตั๋วไปดูตัวเต็มให้ได้
"มะหมา 4 ขาครับ" มีเรื่องราวพลอตเล่นง่ายๆ สไตล์หนังครอบครัวถูกใจเด็กๆ ว่าด้วยเรื่องของเหล่ามะหมาก๊วนหนึ่งที่ประสบพบเหตุร้ายเพลิงไหม้ในชุมชนที่พวกมันอาศัยอยู่ ซ้ำร้ายกว่านั้น เหล่าเจ้าของยังพากันทอดทิ้งพวกมันเอาไว้ในสถานที่อันรกร้างเต็มไปด้วยตอตะโก และเถ้าถ่าน ชีวิตของพวกมันต้องลำบากหนัก โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกินก็ยากจะสะดวกโยธิน ถ้าไม่ขโมยขโจรก็ต้องหิวโซสถานเดียว มิเช่นนั้นแล้วหนทางสุดท้ายที่เหลือจะให้อยู่รอดได้ก็คือ การได้ไปอยู่ในดินแดน "สุนัขวดี" ที่ๆเชื่อกันว่า ใครหิวก็อิ่ม ใครป่วยก็หาย
แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า เหล่ามะหมาก๊วนนี้ จะพากันไปถึงได้อย่างไร ในเมื่อแดนศิวิไลซ์กับบ้านเก่าอันมอซอถูกกั้นด้วยถนนไฮเวย์สายใหญ่ ที่ซึ่งรถราวิ่งผ่านเฟี้ยวฟ้าวกันอย่างบ้าคลั่ง ...และด้วยการอาสาของมะหมารูปหล่อหลังอานนาม "มะขาม" สมาชิกคนใหม่ ผู้ซึ่งรู้ดีเพราะเคยได้อยู่อาศัยในถิ่นนั้น บวกกับ การอยากกลับบ้านไปหาพ่อ(คน)แม่(คน)ของพี่พระเอก นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความอลเวงอลวน ในเวลาชั่วโมงครึ่งที่หนังพาคนดูไปหฤหรรษ์กับมัน(หมา)และหนัง(มะหมา)
จากแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจากรูปถ่ายเหล่าสุนัข Mid-Road (ข้างถนน) ที่เพื่อนถ่ายมาให้ดู บวกกับความประทับใจที่อินไปกับการแสดงของน้องหมาในหนังเรื่องก่อน "ไอ้ฟัก" ...งานหนังเรื่องล่าสุดนี้เลยได้ทีที่สองผู้กำกับ "พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์" และ "สมเกียรติ วิทุรานิช" จะทำความฝันและความชอบส่วนตัวให้เป็นความจริง ด้วยการสร้างหนังที่มีสุนัขเป็นนักแสดงนำทั้งเรื่อง ...หวังจะเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการอันแปลกใหม่ของวงการหนังไทยที่ยังไม่เคยมีใครคิด(หรือกล้าทำ)หนัง "สัตว์"พันธุ์แท้ มาก่อน
สองผู้กำกับรวมหัวและร่วมมือกัน ลงมือสร้างอย่างเอาจริงเอาจัง พิถีพิถันทุกขั้นทุกตอน ...ซึ่งจากการที่ผมได้อ่านหนทางการสร้างหนังในหนังสือ และซึมซับกับภาพเบื้องหลังจากจอทีวี(ที่ออกกันถี่ยิบ ตามไปหลอนคนดูแทบทุกรายการวาไรตี้บันเทิงไทย)นั้น ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีบวกเข้าไปเรื่อยๆ และก็แอบยกย่องชื่นชมในความพยายามของทีมงานทุกคน ที่เอาจริงเอาจังกับการเป็นส่วนร่วมของหนังเรื่องนี้ ...แม้จะยังไม่ได้เห็นหนังเต็มๆ ก็อยากจะมอบรางวัล 'ความตั้งใจสร้างหนัง' ยอดเยี่ยมให้ไปก่อนเลยทีเดียว
เมื่อพอได้เห็นตัวหนังเต็มๆ แล้ว ก็เป็นไปตามสมที่คาดหวังไว้จากหน้าหนังและตัวอย่าง ..."มะหมา 4 ขาครับ" ได้ใช้เวลาทั้งหมดสร้างความสนุกสนานตามสไตล์หนังขายบันเทิงได้อย่างเต็มร้อย เป็นทั้งหนังที่เอาอยู่กับความเป็นคอมเมดี้บริสุทธิ์ และทำได้ถึงที่สุดกับเรื่องราวดรามาซาบซึ้งกินใจ ...สองผู้กำกับ สามารถควบคุมมะหมา(ในหนัง)และคนดู(ในโรง)ได้อยู่หมัด หน้าที่การทำงานของคนทั้งสองสอดประสานงานกันได้เป็นอย่างดี (ในขณะที่คนหนึ่งกำกับไป ส่วนอีกคนก็ควบทั้งเขียนบทและกำกับ) พวกเขารู้ว่า ช็อตนี้จะให้มะหมาแสดงออกเช่นไร ช่วงเวลาไหนจะเล่นอะไรกับความรู้สึกของคนดู คนทั้งสองต่างก็รู้ความต้องการว่า เขาอยากจะเสนอสิ่งใดให้คนดูได้รับรู้และร่วมอินไปกับพฤติกรรมของเหล่ามะหมาบนจอ ...คุณพันธุ์ธัมม์-คุณสมเกียรติ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาสื่อสาร เขาและเขาสามารถทำให้คนดูมนุษย์เราๆ เข้าถึงเรื่องราวหมาๆได้ด้วยความเข้าใจ และเห็นใจไปกับความเป็นจริงของสังคมที่กำลังมีมะหมาร่อนเร่พเนจร นับเป็นพันๆตัวในกรุงเทพฯ
และส่วนหนึ่งของสังคมนั้น(ที่ได้มามีส่วนร่วม) ก็คือ ประการสำคัญที่ทำให้หนังสำเร็จเสร็จใจคนดูจำนวนหมู่มาก ...ใช้เพียงแค่สี่ขา และสองตา ก็มากพอจะแสดงความสามารถอันน่าอึ้ง-ทึ่ง-เสียว ชวนอะเมซซิ่งในความเก่งของหมาประเทศไทยที่ไม่น้อยหน้าใครในโลกภาพยนตร์
ความน่ารักแสนรู้ของพวกมัน ได้นำพามาซึ่ง เสียงฮา รอยยิ้ม คราบน้ำตา และความประทับใจ ...เพื่อนต่างสายพันธุ์ทุกตัวต่างก็มอบการแสดงที่โชว์ความฉลาด และเก่งกาจกันเต็มที่ มะหมาแต่ละตัวฉายแววความเป็นดาราที่สร้างความอัศจรรย์ใจน่าหลงใหลชวนตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เวลาที่มันอยู่หลังกล้องอาจจะเที่ยววิ่งซุกซนพลุกพล่านไปทั่ว แต่เมื่อได้เข้าฉากแสดงหน้ากล้อง ทุกๆตัวต่างเป็นมืออาชีพ กลายเป็นนักแสดงเจ้าฝีมือสมบทบาท ที่อาจทำให้ดารามนุษย์บางคน(คนที่เล่นเป็นแต่หินกับต้นไม้)ต้องหลบกล้องไปอาย
ซึ่งการที่พวกมันมาหนุกหนานเล่นหนังได้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนชีวิตปกติเช่นนี้ ก็ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับเหล่าคุณครูผู้ฝึกสอน (คุณวันไชย เจียมภักดี และศูนย์ฝึกไชยภักดิ์) ไปด้วย ...เหล่ามะหมาก็เหมือนเรือหางยาว ถ้าขาดหางเสือที่ดี การเดินทางของหนังเรื่องนี้คงจะจบลงถึงฝั่งฝันได้ไม่สวยงามเท่านี้ก็เป็นได้
ส่วนที่เป็นองค์ประกอบของการสำแดงความน่ารักพลัง(เสียง)มะหมา ...การพากย์ของดาราดังๆ ก็ถือว่าทำหน้าที่ของพวกเขาได้ดี แต่ที่ต้องยกย่องความเด่นชอบขโมยซีนแล้ว เสียงของพี่ติ๊ก กลิ่นสี (เปี๊ยก) และอ๋อม สกาวใจ (เซ็กซี่) ชนะเลิศ ส่วนเรื่องที่มะหมาไม่ขยับปาก ผมคิดว่า ดีแล้วที่มันไม่ขยับ ถ้าไม่นับเรื่องของความสมจริงแล้ว การที่เสียงออกมาจากความคิด ก็ดูเป็นเรื่องที่หมาจริงๆก็คงใช้เป็นการสื่อสาร ผ่านทางสายตา และการเห่าหอน(ละมั้งนะ)
แม้จะออกปากชื่นชมเสียหะรูหะราทำเว่อร์(เป็นยัยเซ็กซี่หมาพุดเดิ้ล)มาได้ห้าย่อหน้าแล้ว แต่ช้าแต่...ก็ถ้าจะวัดกันตามเนื้อผ้า ตวงปริมาณโดยใช้ภาพรวมของการสร้างเป็นหนังเรื่องหนึ่งแล้ว ก็ขอพูดยันลงไปเลยว่า มะหมา 4 ขาครับ ยังทำได้ไม่เพอร์เฟกต์ ...ตัวหนังเองมีจุดบอดที่เห็นได้ชัดตั้งหลายต่อหลายที่ ทั้งในส่วนของบท และงานโปรดักชั่น ...แม้ผมจะเป็นคนที่ดูหนังแล้วไม่ชอบนั่งจ้องจับผิด แต่ความแหม่งๆก็ทำแอบแว็บคิดถึงตรงนั้นตรงนี้ว่า "เฮ้ย ฉากนี้มันดูง่ายไปหน่อยนะ" , "ตัวละคร(คน) ดูเรียบๆไม่มีมิติเลยอ่ะ" , "แหม ฉากนี้จงใจขายของซะจริงๆ" , "ทำไม เขาไม่ใช้กล้องถ่ายฟิล์มเนี่ย" ...ทั้งหมดทั้งมวลซึ่งยกตัวอย่างมานี้ จะมีปัญหาเป็นอย่างยิ่งกับคนที่ดูหนังแบบทุกอย่างต้องเนี้ยบ ทุกสิ่งต้องชัดเจน ยิ่งชอบจับผิดก็ยิ่งจะได้ภาพอะไรต่อมิอะไรที่ดูจะขวางหูขวางตามากไปกว่า ภาษาหนังการสื่อสารที่เข้าหูเข้าตา(และเข้าใจ)
แต่ แต่ และแต่ อย่างไรก็ตามที ผมเชื่อว่า คอหนังที่รักจะดูเพื่อความบันเทิง มีความสุขไปกับสิ่งที่อยู่บนจอนั้น คงไม่คิดอะไรมาก ไม่น่าจะมีปัญหากับจุดบอด ...ความเพลิดเพลินของมะหมา จะขับเคลื่อนความทรงจำให้เลอะเลือนไปกับสิ่งที่เป็นข้อติ ความน่ารักแสนรู้ของพวกมันจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ต่อเติมหนังไม่เต็ม(ที่ในงานสร้าง)ให้สมบูรณ์แบบ เท่าที่คนตีตั๋วอยากจะพอใจและประทับใจไปกับมัน
"มะหมา 4 ขาครับ" ... จากคนที่เคยเฉยๆกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "สุนัข" หลังจากที่ดูหนังจบ ผมรู้สึกว่าผมเปลี่ยนไป (ผมกล้าที่จะเล่นกับหมามากขึ้น แม้มันอาจจะขี้เล่นจนน่ากลัวไปบ้างก็ตาม) และเปลี่ยนแปลง (เกิดความคิดตะหงิดๆ อยากจะเลี้ยงหมาด้วย ถ้าไม่ติดปัญหาที่ว่าเลี้ยงตัวเองยังเอาไม่รอดเล้ยยยย) ถ้าเกิดมีใครจะถามถึงสาเหตุว่าเพราะอะไรทำไมผมถึงได้กลายเป็นคนรักหมาสุดตัว ผมก็จะตอบว่า "เพราะผมได้ดูหนังดีๆ ที่มีชื่อว่า มะหมา 4 ขาครับ"
ขอเป็นหน้าม้า(หนังหมา) เชิญชวนทุกคนไปดูกันให้ได้นะครับ... ขอรับรองว่าคุณจะชอบมะหมา หลงรักมะหมา และประทับใจหนังไทยดีๆเรื่อง มะหมา 4 ขาครับ อย่างแน่นอน
ชมรมคนรักมะหมา ยังต้องการสมาชิกชมรมเพิ่มอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ถ้าสนใจรายละเอียดติดตามได้ที่ โรงหนังใกล้บ้านคุณ เน้อ ...โฮ่ง โฮ่ง (แปลเป็นภาษาคนว่า ขอบคุณที่อุดหนุนมะหมา ครับ)
ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง...ครับ
เกรด A
สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."
ขอบคุณครับ รักคนอ่าน
จากคุณ :
OncE UPoN'-'a MaN
- [
24 เม.ย. 50 11:18:25
]
|
|
|
|
|