CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ ดูแล้วมาคุยกัน ... Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล +++

      ชอบมาก ห้ามพลาด (13 คน)
      ชอบ (14 คน)
      เฉยๆ (11 คน)
      ไม่ชอบ (7 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (2 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 47 คน

     27.66%
     29.79%
     23.40%
     14.89%
     4.26%


    ...ก่อนอ่านบทความนี้ขอฝากกระทู้นี้ไว้ หากเห็นด้วยช่วยกันส่งต่อแนวความคิดนะครับ

    exclaimอย่าทำร้ายเด็ก ด้วยการพาไปดูหนังที่ไม่เหมาะกับเด็กเลยครับ (เมื่อผู้ใหญ่อุ้มเด็ก5ขวบ เข้ามาดู Hannibal rising)  
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5328389/A5328389.html



    ...เลือกอ่านบทความ Hannibal Rising  พร้อมรูป และ อ่านความเห็นอื่นๆ +  เชิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=04-2007&date=24&group=1&gblog=237


    ...ตอนแรกก็คิดว่าจะบอกผ่าน เพราะ เสียงร่ำลือมาว่าหนังน่าผิดหวัง อีกทั้งมีหนังหลายเรื่องเข้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ด้วยได้บัตรฟรีจากการซื้อหนังสือที่บูธนานมี ก็เลยเปลี่ยนใจไปดู แอบหวังว่าอาจจะเซอไพรส์ประทับใจ เพราะ หนังสองเรื่องอย่าง number 23 และ The reaping ที่ดูมาช่วงสงกรานต์คะแนนคำวิจารณ์ดูเน่าเสียยิ่งกว่า ผมยังดูสนุกเพลิดเพลิน

    ...ฮานนิบาล เป็น แบรนด์สินค้าที่รับประกันเชื่อว่า ขายได้ และ น่าจะขายดี เพราะสามภาคที่ผ่านมา หนังกวาดคำชมมากบ้างน้อยบ้าง ลดหลั่นกันไป

    จุดสูงสุดของซีรี่ส์ฮานนิบาล คือ จุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ ที่สร้างมาตรฐานไว้สูงลิบ ด้วยการขึ้นไปคว้า ห้ารางวัลยักษ์ใหญ่บนเวทีออสการ์ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำทั้งชายและหญิง , ผู้กำกับ และ บทภาพยนตร์

    ส่วนตัวผมเอง ชอบแต่ ไม่ได้เป็นคนถึงกับคลั่งไคล้ฮานนิบาลใน The Silence of the Lambs เท่าไหร่ ผมกลับสนุกกับ Red dragon และ Hannibal เสียมากกว่า เรื่องแรกฉากกระซวกตอนต้นช่างได้ใจ เรื่องหลังเป็นการโชว์เดี่ยวของเซอร์ แอนโทนี่ ชนิด ซาดิสม์อย่างมีระดับ

    ...หนังพาเรื่องราวมาถึงทางตันเต็มทีในภาคสุดท้ายอย่าง Hannibal หากอยากจะสร้างภาคใหม่ คงไม่มีทางเลือกไหนที่ดีกว่า สูตรยอดฮิตของหนังในปัจจุบัน เหมือนกับที่ Star wars พาคนดูไปสู่จุดเริ่มต้นของ ดาร์ธ เวเดอร์ หรือ Batman พาเราไปรู้จักที่มาที่ไปของบรูซ เวย์น

    การเล่าเรื่องในสไตล์ prequel ย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของการมาเป็น จิตแพทย์ฆาตกรโรคจิต คือ หนทางรอดเดียวของหนังซีรี่ส์นี้ที่น่าจะทำได้อย่างน่าสนใจ แต่บังเอิญว่า Red dragon ก็ย้อนกลับไปแล้ว หากจะเหลืออะไรให้เล่าอีกคงต้องนั่งไทม์แมชชีนย้อนไปไกลกว่านั้น

    เพราะ แฟนานุแฟนของฮานนิบาล ย่อมอยากรู้ว่า

    ฮานนิบาลในวัยกระเตาะ เขาเติบโตมาอย่างไร ถึงได้ออกมาเป็น จิตแพทย์รสนิยมไฮโซ ผู้นิยมสมองย่างถ่าน บวก ความปราดเปรื่องเกินกว่าใครจะตามทัน

    ...น่าสนใจตรงการผูกปมของฮานนิบาล เริ่มที่ บาดแผลจากสงครามในวัยเด็ก






    สงครามในลิธัวเนีย ส่งผลให้ครอบครัวถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา เหลือเพียงเขากับน้องสาวที่สู้ชีวิตในบ้านร้างเพียงสองคน แต่ สงครามและความหิวโหยไม่ปรานีใครเมื่อทหารกลุ่มหนึ่งก็เข้ามา ยึดบ้าน สุดท้าย ต้มน้องสาวของเขามากินเพื่อประทังชีวิต

    จากจุดนี้ เป็น การเริ่มต้นของรสนิยมการกินของฮานนิบาล ที่บทหนังผูกปมในภาคนี้ ผูกเงื่อนไขทางจิตวิทยา ช่วยให้เราอธิบายว่า ทำไมฮานนิบาลรุ่นใหญ่ถึงนิยมกิน สมองคน

    .. ‘การกิน’ ของฮานนิบาลมีที่มาจาก ‘การถูกกิน’ ของน้องสาว

    ‘การกิน’ ในHannibal risingไม่ใช่ความอร่อยติดลิ้นแต่เป็นสัญลักษณ์ของ การแก้แค้น แถมมันยังเป็นตัวแทนของการกลืนกินน้องสาวกลับมาหาตัวเอง (เพราะเนื้อของพวกนั้นก็มีน้องสาวของตัวเองอยู่เลือดเนื้อที่เติบโตมา)

    .. .ความแค้นของฮานนิบาล คือการแสดงออกของ ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยเหลือน้องสาวในฐานะพี่ชาย และ สุดท้ายความเจ็บปวดที่เจ็บแสบเมื่อรู้ความจริงว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่กินน้องสาวตัวเอง

    ฝันร้ายของ ฮานนิบาล + การสะดุ้งตกใจบ่อยๆ (Hyperarousal) + การเห็นภาพซ้ำๆ ในอดีต (flashback) เข้าได้กับ อาการเจ็บป่วยที่เรียกว่า Post traumatic stress disorder (PTSD) ภาวะเดียวกับผู้ที่ประสบภัยรุนแรง เช่น ไฟไหม้ ข่มขืน สึนามิ และ เขาไม่สามารถเยียวยาอาการใดๆที่เกิดขึ้นได้เลย นอกจากการเก็บตัวเงียบและระบายอารมณ์กับคนที่ทำรุนแรง ก่อนที่จะมา การไล่ฆ่าเหยื่อที่เขาสืบพบว่า พวกที่ฆ่าน้องสาวของเขายังมีชีวิตอยู่

    ... หนังเขียนบทเพื่ออธิบาย พฤติกรรม ของฮานนิบาลตอนโต ได้อย่างเข้าใจคิด ทำให้เราพอเข้าใจลักษณะการใช้ชีวิตที่เกิดขึ้นในตอนอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่หนังกลับขาดหายไป คือ การปูคาแรกเตอร์ให้เราเชื่อว่า คนๆนี้จะเติบโตมาเป็นฮานนิบาล หนังหลายเรื่องเล่าตัวละครตั้งแต่เด็กยันแก่ เราดูแล้วก็เชื่อว่า เด็กคนนี้จะแก่ไปเป็นตัวละครคนนี้


    ...ผมไม่เกิดความรู้สึกแบบที่ว่าเลยกับ ฮานนิบาล ในภาคนี้

    อย่าลืมว่า ภาพในวัยผู้ใหญ่ของคนทุกคนสะท้อนลักษณะบางอย่างของวัยเด็ก และ ภาพในวัยเด็กของทุกคนก็สะท้อนภาพเมื่อเติบใหญ่ แม้ชีวิตคนๆนั้นจะเปลี่ยนแปลงมากมายเพียงใดก็ตาม

    ถ้าเราเห็นคนที่โตมาเป็นคนชอบกร่าง ชอบดูถูกคนอื่น ชอบทำตัวขวางสังคมให้เป็นจุดเด่น หากไล่ย้อนกลับไป เราก็จะพบว่า คนเหล่านี้เติบโตมาจาก การไม่เป็นที่ยอมรับและปมของความรู้สึกด้อยในใจ จึงต้องชดเชยด้วยลักษณะเช่นนั้น

    ถ้าเราเห็นคนที่หวาดระแวง ไม่ไว้ใจใคร ไล่ย้อนกลับไปก็น่าจะพบ ว่าชีวิตที่ผ่านมาไม่มีใครให้ความมั่นคงปลอดภัยในชิวิต เช่น เจมส์บอนด์ ของ เคร็ก แดเนี่ยล ก็ช่วยให้เราเข้าใจว่าเพราะอะไร ต่อมาเขาจึงใช้ผู้หญิงราวกับเป็นกระดาษชำระ เจมส์บอนด์ของเคร็ก แม้จะห่ามมุทะลุ แต่ บางอย่างในตัวทำให้เราเชื่อพอที่จะไปโยงกับเจมส์บอนด์ของ ฌอน คอนเนอรี่

    ....บาดแผลสงครามในวัยเด็กที่มีผลต่อจิตใจของฮานนิบาล ส่งผลให้เขาต้องกลายเป็นฆาตกรโรคจิต ในส่วนนี้เข้าใจได้ ดังนั้นหาก ฮานนิบาล คือ หนังฆาตกรแบบเดียวกับ ไอ้หน้าหนังในสิงหาสับ(The Texas Chainsaw Massacre) ตัวหนัง เพียงเท่านี้ถือว่า หนังสร้างออกมาได้อย่างน่าพอใจ เพราะ ในต้นฉบับไอ้หน้าหนัง ก็อธิบายจุดกำเนิดการมาเป็นฆาตกรได้แบบนี้เหมือนๆกัน

    แต่ ฮานนิบาล ต่างจาก ไอ้หน้าหนัง ก็ตรง ความฉลาดหรืออัจฉริยภาพ เขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ต้องลงมือเอง หรือ การฆ่าอย่างมีชั้นเชิงของเซอร์แอนโทนี่ สะท้อนกึ๋นของคนที่ชื่อฮานนิบาล ซึ่ง อัจฉริยภาพจุดนี้คือ ความโดดเด่นแตกต่างจากฆาตกรคนอื่นๆ แต่หนังไม่ทำให้เราได้เห็น ความเฉียบคมหรือหลักแหลม ในตัว ฮานนิบาล แม้แต่นิดเดียวในหนังภาคนี้

    อาจไม่จำเป็นต้องดูนิ่งลุ่มลึก ไม่จำเป็นต้อง ปราดเปรื่อง เหมือน เซอร์แอนโทนี่ แต่อย่างน้อยก็น่าจะสร้างคาแรกเตอร์ที่เป็นส่วนความคิดความรู้สึก ภายในตัวละคร ให้สามารถถ่ายทอด บางส่วนที่ทำให้เราเชื่อว่า คนๆนี้ คือ ฮานนิบาล เพราะหนังเน้นสร้างแต่บุคลิก ภายนอก เช่น จังหวะการพูดหรือการยิ้มเท่านั้นเอง

    ฉากเดียวที่ผมคิดว่า มีรัศมีของฮานนิบาลอย่างน่าเชื่อถือที่สุด คือ ฉากจัดการกับหนึ่งในบัญชีแค้นที่โตมาเป็นพ่อคนในห้องครัว ฉากนี้ให้ความรู้สึกเดียวกับซีรี่ส์ฮานนิบาลทั้งหมดที่เคยมี

    ส่วนที่เหลือนอกจากนี้ ฮานนิบาล เป็นแค่ ไอ้หน้าหล่อโรคจิตไล่ทวงแค้น เท่านั้นเอง



    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 15:33:35

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 25 เม.ย. 50 13:53:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com