CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "Me...Myself : ขอให้รักจงเจริญ" ... เปลี่ยนตัว'คน' กับ เปลี่ยนตัว'ตน' มันแตกต่างกัน

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (38 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (12 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (1 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (1 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 53 คน

     71.70%
     22.64%
     1.89%
     1.89%
     1.89%


    ถ้าเกิดวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าตัวเองมานอนอยู่ในโรงพยาบาล พบว่าคุณตื่นขึ้นมาด้วยสภาพที่มึนงง ในหัวเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และคุณก็รู้สึกว่า คุณจำเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่คุณจะได้มาอยู่ที่นี่ ไม่ได้เลย ...คุณได้กลายเป็นคนสมองเสื่อม กลายเป็นคนที่ไม่มีชื่อ และกลายเป็นคนที่ต้องให้คนอื่น(ที่คุณไม่เคยรู้จัก)คอยมารับผิดชอบชีวิต ...คุณลืมไปหมดว่า ชีวิตที่ผ่านมา คุณเคยเป็นใคร ?

    ถ้าจะให้พูดกันตามตรงแล้ว หลายๆคนคงคิดเหมือนผมว่า พลอตเรื่องของ "Me...Myself : ขอให้รักจงเจริญ" เช้ยเชย เป็นอะไรที่ทั้งเกร่อ และเว่อร์ในตัวมัน ...เป็นเหมือนกับเหล้าขวดเก่าที่เอาออกมาจากกรุ ผสมโซดาขวดแล้วขวดเล่า เป็นเหมือนเรื่องน้ำเน่าที่มีสูตรตายตัว คนดูต่างรู้ว่าสุดท้ายมันจะต้องจบอย่างไร ...พระเอก(หรือนางเอก)ต้องรู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร คนทั้งคู่จะต้องมีเรื่องระหองระแหงใจนิดหน่อย และสุดท้ายก็ครองรักกันโดยไม่สนเหตุผลของคนรอบข้าง

    ถึงเรื่องพลอตจะดูซ้ำๆซากๆ แต่มันก็ยังยอมรับกันได้ เพียงถ้าหนังหรือละครเรื่องนั้น สามารถสื่อสารคนดูได้ถึง เป็นเรื่องเป็นราวที่ทำได้โดน ...หรือต่อให้มี บ้านทรายทอง ทำใหม่ออกมาอีกสักร้อยรอบ มันก็ยังจะดี ถ้าความเก่ายังดูเก๋า เอามาทำแล้วทำเล่า คนดูก็ยังสงสารเห็นใจในพจมาน และอยากจะมุดทีวีเข้าไปฟาดหนามทุเรียนใส่คุณหญิงแม่ คุณหญิงเล็ก ...ขอให้ทำได้อินขนาดนั้น มันก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว

    ก่อนหน้าจะมาเป็นงานหนังเรื่องแรกของเขาเรื่องนี้ ผมเองก็เคยติดตามงานละคร ฝืมือการกำกับของ พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง มาก่อน ซึ่งงานแต่ละเรื่องก็นับว่าดูสนุก ...โดยเฉพาะกับ "กุหลาบสีดำ" ที่ถือว่าเป็นละครที่เขาทำออกมาได้ลงตัวมากที่สุด อีกทั้งก็ยังเป็นละครที่ผมติดหนึบ ต้องคอยเฝ้าตามดูมันทุกตอนเลยทีเดียว (อยากจะใช้คำว่าประทับใจ เพียงแต่ตอนจบของมัน กลับทำผิดหวังสุดๆซะงั้น)  

    จนเมื่อเขาได้ก้าวขึ้นมาทำงานหนังเป็นหนแรกแล้ว ...สิ่งที่เคยทำไว้ก่อนหน้าจึงเหมือนว่าเป็นเครดิตดีติดตามตัว สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับคนที่เคยเห็นฝืมือของเขา ชวนให้มอง Me...Myself ในแง่บวก ...แม้ว่านี่จะดูเป็นงานไม่ใช่แนวถนัดของพี่เขาก็ตามทีเถอะ

    ด้วยความคาดหวังที่มีอยู่พอสมควร กับตัวอย่างหนังที่ตัดออกมาได้ซาบซึ้ง ... ความคิดที่ผมมีต่อ Me...Myself เมื่อออกจากโรงมาก็คือ 'ความประทับใจ' ซึ่งถึงแม้จะไม่สุดๆ แต่มันก็พอเพียงที่จะพูดว่า 'ไม่ผิดหวัง'

    ฝืมือของพี่อ๊อฟในคราวนี้ มีการพัฒนาไปอีกขั้น ...หลังจากที่เราเห็นเขาเน้นลุยเน้นบู๊ ทำอะไรให้มันตื่นเต้นเข้าว่า ในงานละครกันมาแทบทุกเรื่อง การปรับตัวในหนนี้เขาทำให้เราเชื่อว่า 'เขาเป็นที่จะทำหนังรัก' แม้มันจะไม่ใช่แนวของเขา เขาก็เก่งสามารถพอที่จะทำ ...

    Me...Myself มีความกลมกลืนของอารมณ์ขัน-อารมณ์ซึ้งอย่างพอดีพอดิบ ไม่เน้นอะไรให้มากเกินไป ทำสองช่วงอารมณ์ให้เป็นสัดเป็นส่วน แยกครึ่งแรกและครึ่งหลังให้มันแนบเนียนและดูต่อเนื่องไม่โดดไปโดดมาจนเสียบรรยากาศ ...ภาษาทางภาพที่หนังสื่อสาร ก็ดูสวย มีจุดแข็งที่ขับเน้นความอินออกมา ทำให้เกิดความโดนขึ้นมาในห้วงรู้สึกนั้นๆ (ยกตัวอย่าง ฉากที่กล้องแพนภาพไปยังกระเทยรอบข้างแล้วก็เลื่อนมาเจอ แทน ในวัยทารก หรือจะเป็นฉากที่ อุ้ม ฝึกเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ตัดขัดแย้งกันกับฉาก แทน ซ้อมเต้น) ซึ่งส่วนนี้ต้องขอชมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของ "คุณสยมภู" ตากล้องมือวางอันดับต้นๆ ของหนังไทยด้วย

    การแสดง ของ 4 ตัวละครหลัก ถือว่าสอบผ่าน ...คะแนนในเกณฑ์ดีเยี่ยมต้องเทให้ คู่พระ-นาง ที่เคมีลงตัว ในขณะที่ตัวประกอบหนุ่มน้อย และพี่ทอมตุ๊ยตุ่ย ก็แย่งซีนได้ดี (ส่วนตัวละครเพื่อนบ้าน...ไม่ใส่เข้ามา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร)  

    "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" ในบท "แทน" ...เขาทำให้เราเชื่อในสิ่งที่เขาเป็น ทำให้เราได้เห็นว่าเขามีความจริงใจกับนางเอก ไม่ใช่แค่คบกันเพียงเพราะความใกล้ชิด ...ในฉากที่เอาตลกเขาเล่นได้น่ารัก ในฉากขายดรามาก็แสดงความนิ่ง เข้าถึงบทบาทอันสับสนได้เป็นอย่างดี ...ถือได้เลยว่าฝืมืองานแสดงของหนุ่มมาดเซอร์คนนี้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับ ชัตเตอร์ (ที่เรื่องนั้นยังถือว่าแข็งสำหรับผม)

    "ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ" ในบท "อุ้ม" ...เธอทำให้เราเชื่อในสิ่งที่เธอจำใจต้องเจอ ทำให้เราได้เห็นว่าเธอเจ็บปวดกับความรัก(ต้องห้าม)มากแค่ไหน ...ในฉากที่เธอทำเปิ่น ทำแบ๊ว ดูขำๆน่ารักมั่กๆ ในฉากหวังกระชากน้ำตา เธอบีบอารมณ์ของคนผิดหวังได้น่าเชื่อถือ ...ถึงจะเป็นเรื่องแรก แต่การแสดงประเดิมจอของเธอ ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ชวนใครต่อใครต้องตกหลุมรักกันอย่างง่ายดาย ...บางคนอาจจะมองว่าเธอไม่สวยในตอนแรก แต่เธอคุณได้ดูเธอในหนัง เชื่อได้เลยว่ามุมมองคุณจะเปลี่ยนไปอย่างประกาศิตของพี่อ๊อฟ "ผมตั้งใจที่จะให้นางเอกไม่สวย เพียงแต่เมื่อคุณดูหนังจบ คุณจะเห็นว่าเธอสวย"

    องค์ประกอบความเป็นหนังโดยรวม ช่วยสร้างบรรยากาศของ Me...Myself ให้คงความน่าติดตามได้มาตลอด แต่มันก็มาเสียเอาตอนท้ายๆ ไป ที่หนังต้องการเนิบ และยืดเยื้อความอินมากเกินไม่พอดีกับความพีค แม้ว่าภาพรวมของช่วงท้าย จะยังคงโดนได้อยู่ แต่การตัดต่อก็น่าจะทำให้กระชับกว่านี้ได้อีก ...ซึ่งกับการที่ปล่อยความรู้สึกดีๆให้กินเวลานานจนเกินไป ในบางครั้ง(กับหนังตอนจบสวยๆบางเรื่อง) มันก็มีสิทธิ์จะส่งผลเสียได้มากกว่าผลดี

    อีกอย่างหนึ่งที่ต้องไม่ลืมยกผลประโยชน์ให้ ก็คือ สิ่งที่ Me...Myself มี และทำได้ดีที่สุด อันคือ บทหนัง จากฝีมือการคิดและเขียนของ "คงเดช จาตุรันต์รัศมี" ...เขาเข้าใจในความสับสนอย่างลึกซึ้ง เข้าถึงนิยามความรักรูปแบบใหม่ การตั้งโจทย์และตีคำตอบของเขาอยู่ในกรอบที่เป็นไปได้ ...แม้ใครบางคนจะคิดว่า "พระเอกสมองเสื่อม ยังไงก็เปลี่ยนตัวตนไม่ได้" แต่คุณคงเดชก็ให้คำโต้แย้งที่มีน้ำหนักพอจะให้คนดูรู้สึกเชื่อในสิ่งที่หนังเป็น

    เท่าที่ดูหนังที่เป็นงานเขียนบทของเขามานี่คือ งานที่ดีที่สุด และผมก็ชอบมากกว่าสองโรแมนติกตั้งใจบีบ(น้ำตา) "The Letter" และ "เฉิ่ม"

    อ่านต่อ ข้างล่างครับ...

    แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 50 19:18:30

    แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 50 19:15:47

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 27 เม.ย. 50 19:04:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com