ความคิดเห็นที่ 1 ชอบเช่นกันครับแต่ตอนจบห้วนไปนิดครับ แต่เนื่อเรื่องทำเอาผมน้ำตาซึมไป 3-4รอบ เพราะมันโดนกับวัยผู้ ชายทำงานจริงๆ จากคุณ : CloudSphere - [ 4 พ.ค. 50 21:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยค่ะ ที่บอกว่าตอนจบห้วนไปนิด เพราะเค้าได้เป็น Broker หุ้น แล้วหนังก็ไม่ได้บอกว่า เป็น Broker แล้วเป็นยังไง เหมือนกับเป็นชัยชนะหนเดียว ก็จบแล้ว จากคุณ : ปิ๊กมี่ (yuinana) - [ 4 พ.ค. 50 21:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลางๆครับ หนังมันเดิมๆ เมโล่ดราม่าไปหน่อย ถ้าไม่ได้วิล สมิธ กับลูกชายมาเล่น หนังจะดูแย่กว่านี้เยอะเลย จากคุณ : nanoguy - [ 4 พ.ค. 50 21:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบตอนที่เค้าเอาลูกไปนอนในห้องน้ำ ต้องล็อคห้อง เอาเท้ายันไว้.....ตอนมีคนพยายามเปิดเข้ามาแล้วเค้าน้ำตาไหลอ่ะ....สงสารจับใจ จากคุณ : เบดูอิน - [ 4 พ.ค. 50 22:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ูู^ ^ ชอบตอนเดียวกันเลยครับ เห็นฉากนี้แล้ว อะโห... ถ้าไม่นับตอนจบห้วน ๆ เหมือนที่หลายคนกล่าวมา (เป็น Broker แล้วดียังไง ทำไมถึงได้ Happy นัก เป็นต้น) หนังเรื่องนี้เป็น Drama อันดับสามในใจผมเลย (1. A Beautiful Mind, 2. Proof, 3. The Pursuit of Happyness) จากคุณ : SmokyBeacon - [ 4 พ.ค. 50 22:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบ ๆ ดีมาก ๆ จากคุณ : sabeauna - [ 4 พ.ค. 50 23:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งดูตะกี้ ชอบมาก ดูแล้วมีพลังใจทำงาน จริงๆ น่าจะมีชีวิตที่เป็น broker ต่อ เพราะดูแล้วไม่ง่ายเรย จากคุณ : ... (นู๋จุ๋มมาใหม่) - [ 4 พ.ค. 50 23:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบนะครับ   เพราะเป้นหนังที่แสดงถึง  ความรักที่แท้จริงๆ  ของคนที่สืบสายเลือดจริงๆ   ฉากที่ประทับใจคงเป็นฉากหลายๆ  ฉากที่ วิล สมิธ  ไม่ยอมแพ้ที่จะหาทางออกในการแก้ไขปัญหาให้กับตนเองและครอบครัว  มันแสดงถึงความรักที่แท้จริง แต่ตอนจบตอนสุดท้ายดูจะห้วนๆ ไป อย่างที่มีคนได้กล่าวไว้แล้วนะครับ  มันดูเหมือนตัดฉับไปหน่อย  แต่ภาพรวมนับว่าโอเคนะครับ ปล.  ตอนที่ดูอยู่ผมคิดถึงอะไรรู้ไหม  ผมคิดถึงเมืองไทยอ่ะ  ถ้าสมมติว่าเราไม่มีข้าวกิน หรือไม่มีที่ซุกหัวนอน  โน่นเลยครับ  คุณไป " วัด  " เลยครับ  ตอนนั้นแอบอมยิ้มเล็กๆด้วย จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น - [ 4 พ.ค. 50 23:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบนะคะ ไปดูตอนที่เบื่อหน่ายกับหน้าที่การงานพอดี ทำให้เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนมุมมองตั้งหลายอย่าง ขอบคุณบัตรฟรีจากเพื่อนสมาชิกเฉลิมไทยด้วยค่ะ :) จากคุณ : มันจะดีเหรอคะ - [ 4 พ.ค. 50 23:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมไม่รู้สึกว่ามันจบห้วนๆ นะ คงเพราะเข้าใจว่าเรื่องนี้เอามาจากชีวิตจริง จะแต่งให้มันจบแบบหนังหรือนวนิยายเพื่อไม่ให้มันห้วนนี่สิ.... แปลก จากคุณ : wong - [ วันฉัตรมงคล 00:22:40 A:203.151.206.73 X:58.8.20.220 TicketID:134645 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบครับ แต่ผิดหวังตอนจบนิดหน่อยที่ออกมาเป็น บทสรุปประเภท พ่อรวยสอนลูก ไปนิด ทั้งที่ทั้งเรื่องให้อะไรดีๆมามากมาย The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง- http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=03-2007&date=14&group=1&gblog=221 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ วันฉัตรมงคล 01:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ อยากให้สังเกตุตอนที่พ่อพาลูกออกไปเดินเล่นตอนท้ายๆเรื่อง แล้วมีผู้ชายผิวดำคนนึงเดินผ่าน คนนั้นคือเจ้าของเรื่องนี้ค่ะ เป็นเรื่องจริงตอนที่ถ่ายทำหนังแกก็ไปดูแลตลอด ดูจากสัมภาษณ์เบื้องหลังตอนเช่าดีวีดีมาดูค่ะ แกบอกว่าฉากที่ไปสัมภาษณ์งาน แล้วทุกคนมองแกด้วยความผิดหวังที่แกแต่งตัวไม่เรียบร้อย กระทบใจแกมาก ทำให้นึกถึงความหลัง ฉากที่พาลูกไปนอนในห้องน้ำก็เป็นเรื่องจริง ตอนนี้แกประสบความสำเร็จในชีวิต แกก็กลับไปช่วยเหลือสังคม ส่วนผู้กำกับก็เป็นชาวอิตาเลียน ที่วิล สมิธ เคยดูหนังที่แกกำกับแล้วชอบ แกพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งมาก แต่ก็พยายามสื่อสารกับทุกคน ดูตอนที่แกพยายามสื่อสารกับทุกคนน่ารักดี ส่วนตัวแล้วชอบตอนจบนะคะ ไม่ดูเป็นฮอลลีวูดมากไป จากคุณ : โอริโอ - [ วันฉัตรมงคล 03:14:28 A:76.16.195.23 X: TicketID:048459 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบมากเลยครับ ดูไป 2 รอบ ที่สำคัญคุณจีระนันท์  เเปลเรื่องนี้ด้วยครับ จากคุณ : pikaball - [ วันฉัตรมงคล 07:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ชอบตอนจบเช่นกันค่ะ มีความรู้สึกว่า ก่อนจะมาถึงตรงนั้น ชีวิตเค้ารันทดน่าดู ต้องสู้มาเยอะเลยนะนั่น จริงอยู่ความสุขของเค้าเรียบง่ายเหมือนที่เดินคุยกับลูกตามประสาพ่อลูก แต่ดิฉันอยากเห็นความสุขของเค้ามากกว่านี้ ให้สมกับความลำบากต่าง ๆ ที่เขาเจอมาน่ะค่ะ จากคุณ : BeeJang - [ วันฉัตรมงคล 09:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดูแล้วตอนจบยังห้วนไปหน่อย ถ้าขยายตอนจบออกไปอีกนิด คงจะดีกว่านี้ แต่ตอนนี้ดูแล้วเข้าใจหัวอกคนที่เป็เซลล์เลยว่าเป็นยังไง จากคุณ : masima - [ 6 พ.ค. 50 01:25:41 ]