CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ ดูแล้วมาคุยกัน ... Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ +++

      ชอบมาก ห้ามพลาด (4 คน)
      ชอบ (8 คน)
      เฉยๆ (7 คน)
      ไม่ชอบ (0 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 19 คน

     21.05%
     42.11%
     36.84%
     0.00%
     0.00%


    ... เลือกอ่านบทความ Next พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ และ ชวนเพื่อนๆไปแสดงความเห็นต่อที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2007&date=14&group=1&gblog=243


    ...การจะสร้างหนังไซไฟซักเรื่อง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าสักจะทำ ไซไฟสั่วๆ นั้นก็ไม่ยาก

    เพราะหนัง ไซไฟ อาศัย จินตนาการ เป็นเหมือนแกนหลัก ดังนั้น เราจะทำหนัง ให้พระเอกย้อนเวลาไปรบกับสงครามบางระจัน แล้วได้เมียติดตัวมาอนาคต กดปุ่มวิเศษย้ายร่างเดินทางไกล เพื่อไป สู้กับมนุษย์ดาวเสาร์ ก่อนกลับมานอนตีพุงดู AF4 ในยุคปัจจุบัน ก็ไม่มีใครว่า

    เพียงแต่ การมีไอเดียบรรเจิด อย่างเดียวไม่พอสำหรับการเป็นหนังไซไฟที่ดี เพราะ การเป็นหนังที่สร้างจาก นิยายวิทยาศาสตร์ (Science-Ficion) หนังก็ควรผสมผสาน เหตุผลและข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ เข้าไปด้วย

    หลักการข้อนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะบอกว่า หนังหรือนิยายไซไฟเรื่องนั้น ไปได้ไกลเพียงใด ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกว่าพอเป็นไปได้ ยิ่งทำให้หนังเรื่องนั้น หลุดพ้นมากกว่า การเป็นหนังแฟนตาซี

    และอีกหนึ่งปัจจัยเสริม ที่จะทำให้หนังหรือนิยายไซไฟเรื่องหนึ่ง อยู่ในใจคนได้นาน คือ การที่หนังสามารถต่อยอดความคิดคนดู ชนิดดูหรืออ่านจบ ยังมีอะไรหลงเหลือติดค้างให้เรากลับไปขบคิดกันต่อ

    ...Philip K. Dick เป็น นักเขียน และ ชื่อของเขา คือ ชื่อที่การันตีว่า เนื้อหาในตัวงานนิยายหรือเรื่องสั้นไซไฟของเขา มีแนวความคิด น่าทึ่ง ทุกพล็อตของเขาล้วนเข้าไปแทรกซึมในสมองของเรา ให้ทำการบ้านคิดต่อหลังดูหนังจบ

    ผลงานของ Philip K. Dick ที่ถูกสร้างมาเป็นหนัง เท่าที่ผมเคยดู ไม่เคยมีเรื่องไหน ที่จัดได้ว่าเป็น หนังไซไฟสั่วๆ มีเพียง หนังไซไฟที่ดีมาก กับ หนังไซไฟที่ดูเพลิน

    กลุ่มดีมาก  ได้แก่


    flower Blade Runner

    ... ผลงานที่ขึ้นหิ้ง หนังไซไฟแคลสสิค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลงานหนังเรื่องนี้ดัดแปลงจาก นิยายเรื่อง Do Androids Dream of Electric Sheep? มีแฮริสัน ฟอร์ด รับบทนายตำรวจพระเอกของเรื่อง ท่ามกลาง แอนดรอยด์บนโลก โดยการกำกับของ ริดลี่ย์ สก็อตต์ หนังหักมุมแล้วจุดประกายความคิดคนดูในตอนท้าย


    flower Minority Report

    ... เป็น หนังไซไฟของสตีเวน สปีลเบิร์ก ที่ผมชอบมากๆ เสียดายที่ประสบความสำเร็จน้อยกว่าที่คาดไว้ เป็น หนึ่งในน้อยเรื่อง ที่ สปีลเบิร์ก สามารถลืมความเป็นเด็กในตัวได้จริงๆ และ จับความเป็นผู้ใหญ่ใส่ในหนังได้อย่างสมบูรณ์ แนวคิดของ การจับอาชญากรก่อนที่จะทำผิด เป็น แนวคิดที่น่าทึ่งและถูกจับมาขยายเป็นเรื่องราวในหนังได้อย่างสุดยอด


    flowerTotal Recall

    ... หนังแอคชั่นไซไฟที่พาคนดูหลุดเข้าไปสู่โลกอนาคต ดาวอังคาร เซ็กส์และความรุนแรงโชกเลือดในระดับคุณภาพสูงของ พอล เวอร์โฮเว่น ตัวผมได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเข้าโรงเมื่อหลายปีก่อน ภาพของหนังยังคงติดตรึงตามาตลอด ความคิดสร้างสรรของผู้กำกับถ่ายทอดจินตนาการออกมาทั้งเนื้อหา และ สร้างภาพโลกอนาคตได้อย่างน่าตื่นตะลึง ยิ่งถ้าเทียบกับช่วงเวลาที่หนังสร้างขึ้นมา


    กลุ่มพอดูเพลิน ได้แก่


    whiterose Paycheck

    ... จอห์น วู เลือก อีกหนึ่งพล็อตน่าสนใจของ Philip K. Dick เกี่ยวกับพระเอกที่เลือกสูญเสียความทรงจำ เพื่อทำภารกิจบางอย่างแลกกับเงินก้อนโต ก่อนจะต้องเสียรู้กับแผนร้ายของตัวโกง หนังถูกลอดทอนความน่าเชื่อถือไปกับ เบน แอฟเฟล็ค ที่ช่วงนั้นแฟนหนังหลายคนไม่ปลื้ม และ ไม่เชื่อว่าจะฉลาดได้เหมือนที่บทหนังต้องการ สำหรับผมไม่รู้สึกติดอกติดใจ เพียงแต่ รู้สึกว่า หนังขาดความคิดสร้างสรรหรือไอเดียใหม่ๆ หลายอย่างในหนังเก่าไปสำหรับหนังไซไฟยุคนี้ มีเพียงฉากแอคชั่นที่หนังทำออกมาได้ดี และ บทหนังที่ทำออกมาไม่รู้สึกแปลกใหม่


    whiterose A Scanner Darkly

    ... เป็นแอนิเมชั่นเกี่ยวกับ คนติดยาในโลกอนาคต ที่พระเอกเป็นทั้งสายลับและทาสของยาเสพติด แอนิเมชั่นเรื่องนี้ใช้เทคนิคด้านภาพแบบ rotoscope animation นั่นคือ ให้ดารามาเล่นจริงๆ แต่ ไม่เอาดาราออกกล้อง หนังนำเสนอภาพด้วยการเอานักเขียนการ์ตูนมาวาดทับดาราให้ออกมาเป็น ลายเส้นแอนิเมชั่นชนิดทุกการเคลื่อนไหวเฟรมต่อเฟรม ผลลัพธ์คืองานด้านภาพที่แปลกตา สอดแทรกความคิดเลิศล้ำ และจบอย่างเก๋าทางความคิด แต่เนื้อหานั้นงุนงงและไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นัก




    …whiterose Next อยู่ในกลุ่มเดียวกับ สองเรื่องหลัง (กลุ่มดูเพลิน)

    ...บางครั้งแค่ชื่อผู้กำกับก็บอกแนวทางของหนังได้ และ โดยอคติของผม ชื่อผู้กำกับ ลี ทามาโฮริ คือ เหตุเดียวที่ทำให้ผมลดความคาดหวังของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ดู ทั้งที่ปัจจัยบุคคลชวนให้อยากดูของหนังเรื่องนี้มีมากมาย ไล่ไปตั้งแต่

    Philip K. Dick

    นิโคลาส เคจ

    และ คนสุดท้ายที่สำคัญมากๆในการเป็นปัจจัยชวนเสียเงินนั่นคือ จูเลี่ยน มัวร์

    .... ถ้าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอคชั่น ผมคงมั่นใจในตัว ลี ทามาโฮริ เพราะเขาเป็นผู้กำกับที่ดังมาในสายของหนังแอคชั่น และ หนังของเขาถ้ามองในมุมแอคชั่นถือว่าสอบผ่าน แต่ในแง่มุมของจินตนาการผู้กำกับ ผมไม่สามารถสัมผัส ความใหม่ หรือ อะไรที่แตกต่าง ในงานอย่าง XXX หรือ 007 Die Another Day

    ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผม อดคิดล่วงหน้าว่าเมื่อเขาเลือกคิดจะสร้างหนังเรื่องใหม่จากนิยายของ Philip K. Dick งานที่ออกมาน่าจะไม่หนี ผลงานของ จอห์น วู ที่เด่นในฉากแอคชั่น แต่ ในส่วนความเป็นหนังไซไฟนั้นพอไปได้แกนๆ

    ... หนังดัดแปลงมาจากงานเขียนชื่อ Golden boy ซึ่งก็หมายความถึง คริส จอห์นสัน พระเอกผู้มีความสามารถพิเศษ เหมือนกับ แสตนด์ของโจโจ้ ในการ์ตูนตระกูลโจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ



    แสตนด์ของ คริส คือ สามารถมองเห็นอนาคตเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ในสองนาทีข้างหน้า

    ชีวิตของหญิงสาวปริศนาที่โผล่มาในห้วงความคิดของคริส เป็นข้อยกเว้น เพราะ เขาเห็นเธอล่วงหน้ามาเป็นแรมเดือน เขาไปเฝ้ารอเธอตามภาพนิมิตล่วงหน้าตัวเองวันแล้ววันเล่า

    เธอคือข้อยกเว้น ที่ความสามารถของเขาจะขยายเกินขอบเขต เขาสามารถเห็นอนาคตของเธอล่วงหน้าได้นานกว่า สองนาที

    ....ความสามารถของคริส

    ถ้าจะใช้จีบสาว ก็เหมาะ เช่น เราคิดจะเดินไปขอเบอร์แต่ เราก็จะเห็นล่วงหน้าสองนาทีแล้วว่า เธอคนนี้ไม่ให้เบอร์แน่ๆ เราก็จะเปลี่ยนวิธี

    ถ้าจะใช้เล่นไพ่โป๊กเกอร์ เราคิดจะขอไพ่เพิ่ม แต่ เห็นล่วงหน้าแล้วว่า ไพ่ที่แจกมาห่วยแตกเราก็เปลี่ยนใจไม่ขอเพิ่ม

    ถ้าจะต่อสู้กับเหล่าร้าย แค่ทดลองลุยเดินหน้าก็รู้ว่าศัตรูจะชกหมัดไหน เรารู้ล่วงหน้าเราก็หลบไปอีกทาง

    ฯลฯ

    และ นั่นคือ ครึ่งแรกของหนัง ที่ใช้ ความสามารถของคริส เล่นสนุกกับเหตุการณ์ที่วิ่งเข้ามาหา ก่อนที่หนังจะ ผูกพล็อตสำคัญ ว่าด้วยเรื่องของ อาวุธนิวเคลียร์ที่ถูกลักลอบนำเข้าอเมริกา

    ฝั่งตำรวจตามล่าพระเอกเพื่อให้มาเป็น ตัวช่วย ในการตามหา อาวุธนิวเคลียร์ และแน่นอน ฝั่งวายร้ายก็คิดเหมือนๆกันว่าต้องกำจัดพระเอกทิ้งไป



    ...ชีวิตของพระเอก เหมือนกับ คนที่เป็นเด็กพรสวรรค์(gifted child) ตั้งแต่เล็ก เด็กกลุ่มนี้มักเป็นที่หมายปองของคนมากมาย แต่ ไม่มีใครต้องการเพราะ ตัวตน ของเขาเป็นคนดีหรือคนน่ารัก ทุกคนล้วนจับจ้องต้องการเฉพาะ ความสามารถของเด็กๆกลุ่มนี้

    พระเอกจึงเบื่อและไม่คิดจะร่วมมือกับฝั่งตำรวจ เพราะรู้แต่แรกแล้วว่า เมื่อช่วยงานที่หนึ่ง ย่อมมีงานที่สองที่สามตามมาไม่รู้จักจบจักสิ้น และ ชะตากรรมของเขาสุดท้ายอาจเลวร้ายไม่แพ้ เด็กน้อยผมยาว ผู้มีความสามารถพิเศษ ต้นตอปัญหาผีซาดาโกะในหนังผี The ring เวอร์ชั่นฝรั่ง

    ปฏิบัติการตามล่า นิโคลาส เคจ จึงเกิดขึ้นไปพร้อมๆกับ ปฏิบัติการตามหาหญิงสาว ของ คริส จอห์นสัน

    ...ครึ่งแรกของหนัง เป็น การสนุกกันเต็มที่กับความสามารถพิเศษของพระเอก ไล่ไปตั้งแต่ การเล่นพนันในบ่อนคาสิโน การถูกตามล่า หรือ แม้กระทั่งการจีบสาว ช่วงต้นเป็นช่วงเวลาสนุกๆน่ารัก ครึ่งแรกของหนัง จบลงตรงที่การพบกันระหว่าง

    คริส และ หญิงในฝัน + ฝั่งตำรวจ และ คริส



    ...ครึ่งหลัง เริ่มต้นจาก เหตุการณ์ที่โรงแรม เมื่อพระเอกได้มาพบกับนางเอก เนื้อเรื่องก็เดินหน้าเต็มสูบเข้าสู่เรื่องราวแบบหนังแอคชั่น ที่พระเอกต้องคอยหลบหนีการไล่ล่าของทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อฝั่งตัวร้ายได้ตัวนางเอกไป จึงเป็นเงื่อนไขอัตโนมัติที่ทำให้เขา ลงมาร่วมวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ...ผมชอบ ฉากเล็กๆฉากหนึ่งในครึ่งหลัง ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ

    ฉากที่นางเอกยอมช่วยพระเอกแม้ยังไม่รู้ความจริง รู้แต่เพียงข้อมูลหลอกๆว่า พระเอกคืออาชญากร แต่เธอก็ยังช่วยโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

    เพราะฉากนี้อธิบายให้เข้าใจได้ว่า ทำไม พระเอกถึงรอคอยเธอตลอดมา ไม่ใช่แค่เหตุผลที่ว่า เธออยู่ในภาพนิมิตร

    แต่ ฉากนี้คือฉากที่บอกว่า เธอ คือ คนที่รักเขาจริงๆโดยไม่ได้มองหรือสนตัวเขาที่ ความสามารถใดๆ เหมือน ที่ใครๆที่ผ่านมาหมายปอง

    ในอดีต คนอย่างพระเอกมักเป็นที่ต้องการของใครๆ เพียงเพราะ เปลือก หรือ ความสามารถ ที่เขามี ไม่ใช่ ตัวตนที่แท้จริง ของคริส จอห์นสัน ที่เขาเป็น

    สิ่งที่นางเอกทำ คือ ความรักที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลใดๆ นอกจาก ต้องการให้คนรักปลอดภัยและจะได้อยู่เคียงคู่กัน



    exclaim Spoiler area ตัวอักษร ตัวเอียง ถัดจากนี้ เฉลยตอนจบและบทวิเคราะห์เรื่องราว ถ้าไม่อยากรู้ ข้ามไปอ่านความเห็น 1 ได้เลยครับ






    หนังจบลง ด้วยการบอกคนดูว่าเรื่องราวในครึ่งหลัง ยังไม่เกิดขึ้นจริง เป็น เพียง ความคิดและการทดลองเลือกเดินไปข้างหน้าของพระเอก ทางเลือกที่เขาเลือก ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหน ก็ ล้วนพาตัวเขาและคนรักไปสู่จุดจบทั้งสิ้น

    ทางเลือกของคริส เป็นทางเลือกเดียวกับพระเอกในหนัง Butterfly effects ที่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้

    ทางเลือกเดียวที่ดีที่สุด คือ การไม่พาคนรักเข้ามาร่วมวงเกี่ยวข้องในชีวิตตัวเอง เขาต้องเดินจากเธอมา

    ....หากเขาจะเห็นแก่ตัว ก็เพียงเลือกซักทางแล้วพาคนรักเข้ามาร่วมเดิน แต่ หากเขาเห็นแก่เธอ เขาเองก็ต้องยอมตัดใจ ปล่อยคนรักจากไป โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับรู้ความรู้สึกที่เขามี

    และสิ่งที่ คริส กับ พระเอกใน Butterfly effects เลือก ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด นั่นคือ ยอมสูญเสียคนรัก เพื่อ ความรักของตัวเอง

    เป็นทางเลือกที่ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไม ในตอนต้น เขาถึงพยายามเหลือเกินในการตามหาตัวนางในฝันด้วยความสามารถของตัวเอง

    บางคนอาจนึกว่า ก็แค่อยากหลอกนอนกับสาวงาม

    จนเมื่อฉากที่ผมชอบมาถึง ฉากที่อธิบายเหตุผลของการรอคอย เมื่อนางเอกไม่ยอมให้ คริส หลุดไปอยู่ในมือตำรวจ การตัดสินใจรอเธอตลอดมา และ ตัดสินใจจากเธอไป ก็เพราะ เธอคือ ใครบางคนที่รักเขาจริงๆ

    .... การจบแบบที่ทำให้เราพบว่า ครึ่งเรื่องของหนังที่เราดูไม่ใช่เหตุการณ์จริง เป็น เพียงความคิด แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่

    ผลงานบางเรื่องที่ไม่อาจบอกชื่อเดี๋ยวสปอยล์ ของ ไบรอัน เดอ พัลม่า ก็ทำมาแล้ว หรือ หนังอย่าง Mulholland Dr. ก็ทำมาแล้ว ซึ่งดูจบก็แอบเก็บมาคิดชื่นชมในการล่อหลอกและทำให้เราได้คิดอะไรมากขึ้น

    แต่ สิ่งที่ Next ไม่ทำให้คนดูอย่างผมทึ่ง เป็นเพราะ เกิดอาการอึ้ง กับ การหักอารมณ์คนดูมากเกินไป จากที่หนังกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เน้นหนักไปในความเป็นแอคชั่นให้ความบันเทิงเต็มสูบโดยมีความเป็นไซไฟแค่แซมๆมา และ คนดูก็สูบความมันส์แบบเพลินมาตลอด ย่อมอดคาดหวังถึงตอนจบที่มันมากกว่านี้ หรือ รู้สึกสนุกมากกว่านี้

    เพราะทั้งเรื่องที่ผ่านมา หนังสื่อสารผ่านคนดูผ่านอรีนาลีนให้สนุกตื่นเต้น แล้วจู่ๆมาจบแบบผ่านสมองให้คนดูต้องขบคิด มันผิดความคาดหวังไปหน่อย




    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 50 09:35:08

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 16 พ.ค. 50 09:26:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com