PANTIP.COM : A5459250 + + + มารวบรวม technical term จาก series กันคับ + + + [Series Club]

ความคิดเห็นที่ 30

ชอบกระทู้นี้จังครับ ขอบคุณมากๆที่ทำให้ผมดู ER ช่อง Hallmark แล้วหายงง งงมานานแล้วกับคำแปลแบบสับสนสุดๆ
extern intern resident เขาแปลว่าหมอฝึกหัดหมดเลยครับ

เอาละ มาว่าเรื่องศัพท์เฉพาะของอาชญากรรมมั่งนะครับ เพราะแฟนๆ crime dramas ห้องนี้คงเยอะ รวมทั้งผมด้วย

COD อย่างที่เพื่อนๆบอกไปแล้วคือ cause of death สาเหตุการตาย
ไม่ได้หมายความว่าจมน้ำแล้วสาเหตุที่"ทำให้ตาย"คือน้ำท่วมปอดนะครับ แต่อาจเป็นเพราะถูกของแข็งตีจนตายก่อนจมน้ำ

MO อันนี้หนังพูดบ่อยมากควบคู่กับ COD เลย Modus Operandi หมายถึง "วิธีการที่อาชญากรใช้ก่ออาชญากรรม"

Motive แรงจูงใจ สำคัญมาก ไม่มีแรงจูงใจก็ส่งฟ้องศาลไม่ได้ ไม่มีทางมีคดี อาวุธสังหารก็เจอแล้ว ศพก็พบแล้ว ผู้ต้องสงสัยก็หาตัวได้แล้ว แต่..ขาด motive ไม่ได้เลยว่าผู้ต้องสงสัยฆ่าเพราะอะไร ทีม CSI NY เจอป๋าแม็คไล่บี้ให้ไปหาโมทีฟนี้บ่อยมากเลย "ฆ่าเพราะหวังประกัน" "ฆ่าเพราะหึง" "ฆ่าเพื่อแย่งมรดก" "ฆ่าเพื่อปิดปาก" ฯลฯ อะไรก็ได้ไปหามา! ซึ่งเป็นหน้าที่เจ้าพนักงานสืบสวนนะครับ-ไม่ใช่ CSI ซีเอสไอตัวจริงมีหน้าที่แค่พิสูจน์หลักฐานเท่านั้น ไม่ยุ่งอะไรกะเจ้าโมตีบโมตื้บนี้เล้ย

Postmortem กับ Perimortem อันนี้แคธรีน วิลลโลวส์ใช้บ่อย คือ "ก่อนเสียชีวิต"กับ "หลังเสียชีวิต"

ศัพท์เกี่ยวกับอาชญากรหรือฆาตกร
Serial Killer อันนี้ไม่เห็นต้องอธิบายเลย แต่ต้องอธิบายครับเพราะมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากที่ชาวประชาทั่วไปไม่ค่อยทราบ
1.ซีเรียลคิลเลอร์จริงๆแล้วไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่า"ต่อเนื่อง" อย่างที่บ้านเราตั้งศัพท์กัน เคยมีนายตำรวจนักวิชาการบ้านเราแย้งไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่เป็นผลครับ ซีเรียลคิลเลอร์หมายถึงฆาตกรที่ฆ่าคน ตั้งแต่ 3 ศพขึ้นไปจึงจะเรียกว่าซีเรียลคิลเลอร์ได้ ถ้าฆ่าแค่ 2 ไม่นับว่าเป็นซีเรียลครับ

2. ซีเรียลคิลเลอร์ฆ่าคน 3 ศพขึ้นไป และมีช่วงหยุดพักระหว่างการฆ่า เช่นอาจจะหยุดฆ่าไป 1 สัปดาห์ ถึง 1ปีหรือ 2 ปี บางทีอาจถึง 4 ปีเลยด้วยซ้ำก่อนจะกลับมาฆ่าใหม่ ซึ่งเป็นคนละแบบกับ Spree Killer ที่จะฆ่าต่อเนื่องจริงๆ คือ "ไม่มีช่วง cooling-off period" เลยระหว่างการฆ่า และเป็นการฆ่าที่อยู่ในพื้นที่ 1-2 พื้นที่ เช่น ฆ่าที่รัฐนี้แล้วขับรถไล่ฆ่าคนไปถึงรัฐข้างเคียง

Mass killing คือการฆ่าคนเป็นหมู่ที่จำกัดพื้นที่เดียว เช่น โช นศ.ที่ฆ่าเพื่อนในบริเวณ Virginia Tech 32 ศพ หรือฆาตกรโคลัมไบ ที่ฆ่าเฉพาะในบริเวณโรงเรียนที่เดียวสิบกว่าศพ

BTK ศัพท์เฉพาะนี้ผมเริ่มเห็นในซีรีส์บ่อยขึ้นเยอะเลยครับ ย่อมาจาก Bondage,torture, killing การก่ออาชญากรรมของฆาตกรแบบ BTK จะเป็นรูปแบบเฉพาะ เริ่มด้วย "มัด,ทรมาน แล้วฆ่า"

3. ซีเรียลคิลเลอร์ทุกคนมักชอบเก็บ Trophy หนังแนว crime ทุกเรื่องต้องมีพูดในบทหนัง โทรฟี่ไม่ได้แปลว่าฆาตกรภูมิใจเหมือนได้ถ้วย แต่คือ "ของที่ระลึก"ที่ฆาตกรจะเก็บจากศพเหยื่อไว้เป็นที่ระลึก เช่น บางคนเก็บบัตรปชช. บางคนเก็บเต้านม ใบหู เป็นต้น เพื่อ 1. ความภูมิใจส่วนตัว และ2. อันนี้โหดครับ เพื่อที่ฆาตกรจะสามารถ "สร้างจินตนาการด้วยการย้อนความหลังได้" คือช่วง cooling-off period ทำไมฆาตกรถึงหายไปไม่ฆ่าคนต่อได้ ก็เพราะฆาตกรมี trophy เอาไว้สนองจินตนาการแล้วไงครับ ก็พอทนอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องฆ่า พอเบื่อโทรฟี่แล้วก็ต้องออกมาล่าเหยื่ออีก

Psychopath กับ Psychosis อันนี้ช่องดิสคัฟเวอรี่ NGC Explore ที่เกี่ยวกับสารคดีอาชญากรรมเอ่ยถึงบ่อยมากจนผมงง ว่ามันต่างกันอะหยัง? มันก็เป็นฆาตกรโรคจิตเหมือนกันนี่นา..รึเปล่า...งง?

อาชญากรหรือฆาตกรแบ่งออกเป็น"ไซโคพาธ"กับ"ไซโคสิส"ครับ
ไซโคพาธ คือกลุ่มที่มีสติรับรู้เป็นปกติเหมือนคนเดินดินทั่วไป ดูภายนอกไม่ได้เห็นว่าหน้าตาอำมหิตบิดเบี้ยวแต่อย่างใด แต่มีพฤติกรรม antisocial คือต่อต้านสังคม ต้องการทำร้ายสังคม อาชญากรหรือฆาตกรแบบไซโคพาธจะมีลักษณะเฉพาะคือ " รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่ไม่เคยรู้สึกผิด ไม่มีวันสำนึกผิด ไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป"เพราะงั้นจะมาอ้างต่อศาลว่าวิกลจริตไม่ได้

ส่วนพวกไซโคสิสคือพวกวิกลจริต พวกนี้จะมีสติรับรู้ความจริง+การคิดมีเหตุผลและความยั้งคิดเข้าขั้นบกพร่อง ผิดเพี้ยนไปทำให้ก่ออาชญากรรมได้ ซึ่งอาจเกิดได้หลายสาเหตุ(สารเคมีในสมองบกพร่อง ได้รับอุบัติเหตุรุนแรง ฯลฯ)

ภาษาอาชญาวิทยา+ศาลสำหรับคอ Courtroom Drama อย่าง Law&Order The Practice Shark Judging Amy แบบผม ผมเคยงงกับ Murder 1 Manslaughter 1 อะไรนั่นเหมือนกันครับ ก็จะปิดท้ายไว้ที่นี้

1. Felony หมายถึง การกระทำผิดทางอาญาร้ายแรง เช่น ฆ่าคน วางเพลิง ข่มขืนกระทำชำเรา
ตรงข้ามกับ misdemenor
Homicide ฆาตกรรม-ตรงๆเลยครับ ตอนไหนที่ตำรวจเอ่ยว่าโฮมิไซด์..อ่วมอรทัยล่ะครับท่าน
2. Murder อเมริกาแบ่งเป็น 3 ระดับ Murder 1-3
ของแคนาดาแบ่งเป็น 4 ระดับ ซึ่งจะรับโทษตามลำดับขั้น ได้แก่..แถ่นแทนแท้น..
Murder 1 "เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" (pre-meditated) เรียกว่าตั้งใจฆ่าแล้วมีการวางแผนล่วงหน้า ส่วนของมะกันเพิ่มว่า "ฆ่าไต่ตรอง กับ การฆ่าที่พ่วง special circumstances" คือมีของแถมด้วยเช่น Torture-ทรมานก่อนฆ่า ลักพาตัวแล้วฆ่า ฆ่าผู้พิพากษา เป็นต้น โทษจำคุกตลอดชีวิตลูกเดียวครับ โดยมีสิทธิ์รับ parole หรือทัณฑ์บนหลังจากติดไปแล้ว 25 ปี (15 ปีก็มีแต่ยากมากๆ) หรือบางพื้นที่ก็เพิ่มโทษประหารชีวิต Murder 1 ยังเป็นโทษสำหรับผู้ที่ฆ่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองด้วยครับทั้งของแคนาดาและมะดัน ศัพท์เฉพาะเรียกว่า ฆ่า peace officers หรือ "ฆ่าเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความสงบเรียบร้อยของแผ่นดิน"

Murder 2 "ฆ่าโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน" เช่น กรณีที่แม่รู้ว่าฆาตกรฆ่าลูกตัวเองเป็นใคร กลับบ้านมาเอามีดไปจิ้มคนนั้นตาย คือตั้งใจฆ่าแต่ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า กับ "ฆ่าเพราะบันดาลโทสะ(killing in the heat of the moment)
เมื่อก่อนนี้ murder 2 ยังมีไว้สำหรับการกระทำอาชญากรรมแล้วพลั้งฆ่า เช่น ข่มขืนแล้วเกิดรัดคอจนตาย แต่ตอนนี้โทษนี้เปลี่ยนไปแล้ว จะทัณฑ์บนได้ต้องติดคุกไปแล้ว 10-25 ปี

Manslaughter "ฆ่าโดยไม่เจตนา" เช่น ประมาทขับรถชนคนตาย โทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต และต้องรับโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 4 ปี
สุดท้ายแย้ววว...Infanticide คือฆ่าเด็ก บ้านเขามีแยกต่างหากเลยครับ
(หมายเหตุ ลักษณะโทษ ดีกรี ฯลฯจะเปลี่ยนไปตามแต่ละประเทศนะครับ)

3. ในฉากศาลทุกเรื่องฝ่ายอัยการกับฝ่ายทนายจำเลยชอบตะโกน OBJECTION!ค้านครับท่าน แล้วศาลก็จะบอกว่า "overrule"หรือ "sustain" แปลตรงๆเลยว่า "กลับคำพิพากษา" กลายมาเป็น"ไม่รับค้าน" กับ "ได้รับ"กลายมาเป็น"รับค้าน"

โอย..ทำไมยาวเช่นนี้ จิ้มเพลินไปหน่อยผม เบื่อแล้วละจิ?
(ปล.พิมพ์ผิดเยอะมากครับ เลยแก้ไขบ่อย)
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 50 06:01:01
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 50 05:28:45
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 50 05:22:08
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 50 05:08:24

จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 2 มิ.ย. 50 05:01:23 ]