CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "พลอย" ... ง่ายที่จะเข้าใจ(รัก) ยากที่จะเข้าถึง(เป็นเอก)

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (21 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (9 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (2 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (6 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 38 คน

     55.26%
     23.68%
     5.26%
     0.00%
     15.79%


    มีคนเขาพูดกันมาว่า ถ้าอยากจะดูหนังของ เป็นเอก รัตนเรือง ให้เข้าถึงแล้ว คุณต้องเป็นคน'คิดมาก'

    ยิ่งถ้าจะมีใครที่ชอบ'คิดฟุ้งซ่าน' อีกด้วยแล้ว ...คุณก็จะยิ่งเข้าถึงลงลึกในสิ่งที่เป็นเอกต้องการสื่อสารออกมาเป็นภาษาหนังของเขา

    ผมเคยดูงานของเป็นเอกมาแล้ว สองหน ...หนที่หนึ่ง ใน "มนต์รักทรานซิสเตอร์" แบบผ่านๆตา ตอนฉายใน มูฟวี่ ออน ทรี (ช่อง 3) พอดูได้สักฉากสองฉากก็ไม่ได้ดูต่อ (ไม่ใช่ว่าหนังไม่สนุกหรอก แต่เป็นผมที่ไม่มีอารมณ์จะดูก็เลยเปลี่ยนช่อง) ...และ หนที่สอง ใน "Invisible Waves" เช่าวีซีดีมาดูแบบเต็มๆตา ทั้งยังได้พิสูจน์ให้เห็นกันกะจะตาว่า การตั้งใจจดจ่อมีสมาธิเพื่อดูหนังของเป็นเอก ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพียงถ้าคุณ ไม่มีกะใจจะ'คิด'ไปตามหนังแล้ว (ผลลัพธ์นั้น คือการที่ผมจะหลับ จะหลับ แล้วต้องฟื้นลืมตาที่จะดูต่อโดยลำบาก ...พอจบเรื่องได้ ก็โล่งอก สุดแสนจะสบายใจ)    

    เพราะ การคิด เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การเสียเวลาดูหนังของเป็นเอกคุ้มค่า ...เวลาชั่วโมงกว่าๆ ที่ผมนั่งดู "พลอย" จึงต้องพยายามใช้ทั้งสมาธิและความคิดในหัวสมองดำเนินไปตามเรื่องราวที่เนิบ เนือย นิ่ง ซึ่งอ้อยอิ่งชวนให้อยากนอนไม่แพ้ "คำพิพากษาของมหาสมุทร" เลย  

    "พลอย" เป็นเรื่องราวความรักที่แตกต่างของคนสองคู่ ...คู่ที่หนึ่ง "แดง" และ "วิทย์" ชายและหญิงคนสองคนที่ยังคงอยู่ด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกัน นอนร่วมเตียงเดียวกัน แต่ความสัมพันธ์ที่เรียกตัวเองว่า สามี-ภรรยา ของเขาและเธอมันเหมือนจะไม่ใช่อีกต่อไป ...คู่ที่สอง "หนุ่มบาร์เทนเดอร์" และ "เมดสาว" ชายและหญิงคนสองคนที่กำลังจะเริ่มต้นความรัก ด้วยการร่วมสัมพันธ์สวาท แลกจูบแลกการกระทำให้กันและกัน ความสัมพันธ์ของเขาและเธอที่เรียกว่า แฟน กำลังจะพัฒนาไปสู่อีกจุดหนึ่ง ที่สามารถเรียกว่า สามี-ภรรยา ได้เต็มปากเต็มคำ

    คู่แรก อยู่กับความรักโดยอาศัยการทะเลาะกัน เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ให้ยังยืดยาว ...คู่หลัง อยู่กับความรักเพียงใช้กามารมณ์ อธิบายความรู้สึกแทนคำพูดคำจาที่เปลืองน้ำลาย

    คนสองคู่ เรื่องราวความรักคู่ละเรื่อง และรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่าง กลายมาเป็นสองเรื่องราวคู่ขนาน ที่เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน รวมทั้งยังมีจุดเชื่อมโยงเป็นจุดเดียวกัน คือ จุดที่เรียกว่า "พลอย"

    พลอย เป็นสาวน้อยวัยละอ่อน ที่มานั่งมานอนรอแม่มารับ อยู่ในโรงแรมเดียวกันกับ คนสองคู่ ในห้องสองห้อง ...เธอได้เข้ามามีส่วนรวมในสองเรื่องราวคู่ขนานนี้ ก็เพียงเพราะความเอ็นดูที่ วิทย์ มีต่อเด็กผู้หญิงคนนี้ คนที่ทำให้เขามีความสุขได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างดูดบุหรี่แก้เก้อ ดื่มกาแฟแก้เซ็ง ที่เคาน์เตอร์บาร์

    หลังจากการสนทนาภาษาเด็กแนวแต่ดึกวันก่อนจนถึงเช้าอีกวันหนึ่งแล้ว วิทย์ ได้ชักชวนให้ พลอย ไปนั่งรอนอนรอแม่ของเธอ อยู่บนห้องของเขาและแดง ...และแล้วเรื่องราวความร้าวฉานมันก็ได้เริ่มดำเนินไปเป็นสเตป หลังจากที่ แดง ได้เจอ วิทย์ กับ พลอย ยืนรอเธอมาเปิดประตูอยู่ที่หน้าห้องด้วยกัน

    "พลอย" หนังเรื่องที่สองของพี่ต้อม-เป็นเอก ที่ผมได้ดูอย่างเต็มๆตา (และนับเป็นเรื่องแรกที่ได้ดูในโรงอีกด้วย) ...ว่าด้วยเรื่องสองเรื่องไปด้วยกัน แบบตัดสลับให้เข้าใจว่าเหตุการณ์สองเหตุการณ์นั้นมันต่างเกิดขึ้นในวันเวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน (แถมยังอยู่ใกล้ๆกัน ห่างออกไปไม่กี่ห้องซะงั้น) เทคนิคที่พี่ต้อมใช้นั้น เป็นวิธีที่หนังมีเงื่อนงำซับซ้อนในปัจจุบัน เขาก็ชอบใช้กัน ...เพียงแต่ทว่า พลอย ก็ไม่ใช่หนังที่มีเรื่องราวเงื่อนงำซับซ้อนอะไรในตัวของมัน (ยังดูง่ายซะด้วยซ้ำ ว่าอะไรเป็นอะไร สถานการณ์จะเดินไปในทิศทางไหน ทายแล้วถูก ยิ่งกว่าซื้อหวยล็อก) หากแต่ ใจความที่หนังสื่อสาร ก็กลายกลับเป็นการซ้อนซับความเป็นไปได้ในหลายๆรูปแบบ ซึ่งในความหลากของมันนี้ อาจจะดูงงจนทำให้เง็งกันได้ง่ายๆ กับคนที่ดูหนังของพี่ต้อม เพียงเพื่อ ต้องการความบันเทิงในโรงหนังกันเพียวๆ

    ถ้าจะให้เอาพลอย ไปเปรียบเทียบกับหนังเรื่องก่อน(ที่ผมได้ดูเต็มๆตา) ...ก็ขอบอกได้เลยว่า แค่ 10 นาทีแรก ผมก็ให้ชนะนำ อินวิซิเบิลฯ ไปอยู่หลายช่วงตัว

    ทั้งๆที่ความจริง 10 นาทีแรกของพลอย มันก็ดูเหมือนเวลาชั่วโมงกว่าๆ ของ อินวิซิเบิลฯ นี่แหละ ...หากเพียงแต่เรื่องนั้น มันทำน่าเบื่อ(ไปแต่ต้นจนจบ) ในขณะที่เรื่องนี้ กลับมีอะไรให้อยากรู้สึกติดตามไม่ง่วงไม่เซ็งไม่หลับ อยากเบิ่งตาดูโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ความเนิบ เนือย นิ่ง ไม่ทำให้หนังตาจะตก จะตก อยู่เรื่อยๆ

    10 นาทีแรกของพลอย ที่เหมือนจะไม่มีอะไรสลักสำคัญเลย (มีก็แค่เกริ่นนำว่า วิทย์ และ แดง เช็คอินเข้าพัก แล้ว วิทย์ ก็ลงมาเจอกับ พลอย ที่บาร์เท่านั้นเอง) เมื่อเอาไปเทียบกับความทื่อๆ ตรงๆของเนื้อเรื่องที่ อินวิซิเบิลฯ เป็น ...ก็ยังจะบอกเหมือนเดิมว่า พลอย (มีบทหนังที่)ดีกว่ากันเยอะ

    ในการกลับมาเขียนบทหนังด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่งนั้น (หลังจากไปอาศัยแรงงานสมอง ความคิดและความแนว ของ ปราบดา หยุ่น ในสองเรื่องก่อนหน้า) ก็น่าจะมีส่วนทำให้พี่เป็นเอก สามารถเข้าใจในวิถีหนังของตัวเองได้ดีเสียกว่าการไปใช้บทของคนอื่นมาเล่าเรื่องในสไตล์ตัวเอง ...ซึ่งอันนี้วัดได้จากการที่ใครต่อใครหลายคน(ในเฉลิมไทย) รักหนังไทยแท้ๆอย่าง ฝัน บ้า คาราโอเกะ / ตลก 69 / มนต์รักทรานซิสเตอร์ มากไปกว่างานร่วมทุนนานาชาติที่ทำเพื่อหวังเจาะตลาดอินดี้ต่างประเทศ เช่น เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล และ Invisible Waves

    ตัวหนังสือเพียงไม่กี่สิบหน้ากระดาษ (น่าจะเป็นอย่างงั้น) ที่เรียกว่าเป็นบทหนังของ พลอย ...ถูกกลั่นกรองด้วยความคิดที่เข้าใจโลก และเข้าใจความรัก ซึ่งพี่ต้อม-เป็นเอก มีอยู่ในหัว จนเมื่อทั้งปั่นทั้งกวนความคิดเหล่านั้นแล้ว ก็ได้เขียนให้ออกมาเป็น ไดอะล็อก การกระทำนอกเหนือคำพูด และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา 90 นาทีของหนังเรื่องนี้ ได้อย่างน่าเลื่อมใส

    ถึงแม้ทว่า เรื่องราว ของ พลอย นั้นมันดูจะมีบทสรุปที่ง่ายดายไปหน่อย (ไม่เกินที่ใครๆคาดเอาไว้กับหนังของเป็นเอก ...ซึ่งควรจะมีอะไรที่หักมุมกันสักนิด) หากเพียงแต่ บทหนังของพี่เป็นเอกนี้ ก็ยังได้แฝงความนัยอะไรต่อมิอะไร ทิ้งปมเอาไว้มากมายตลอดทาง ก่อนที่หนังจะเดินทางเพื่อจบลงในจุดที่มันเป็นอยู่นี้ ...ซึ่งใครจะคิดถึงหนทางการเดินเรื่องของมันในรูปแบบไหน จะตรงหรือจะอ้อม ก็สุดแล้วแต่ความเข้าใจในปมที่พี่ต้อมสื่อสาร

    ในขณะที่งานเขียนบท นับว่า เป็นบทที่'แข็ง'ที่สุดของหนังไทยในรอบปีนี้ ...ส่วนในงานกำกับ ฝีมือพี่ต้อม ก็นับว่าเยี่ยมเช่นกัน ในการพาอารมณ์คนดูไปซึมไปซับกับเรื่องของหนังได้อย่างลึกซึ้ง หากซึ่งจะมากจะน้อยในความลึกซึ้งแล้ว ก็ตามแต่ใจคนดูจะติดจะตาม หรือจะเฉยจะเฉื่อย ไปกับภาษาหนังของมัน

    และการแสดง ก็ต้องถือเป็นอีกหนึ่งความ'แข็ง' ที่พี่ต้อมจัดฟอร์มทีมมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ...พี่ "หมิว ลลิตา" ยังคงยอดเยี่ยมกับทุกการแสดงของเธอ ไม่ว่าจะเป็นละครหรือหนัง เธอก็ใส่อย่างเต็มที่ไม่เคยมียั้ง ซึ่งสำหรับบทบาทการเป็น "แดง" ของเธอ(ในอีกครั้งที่ร่วมงานกับพี่ต้อม) ก็คงไม่ต้องให้นิยามอะไรมากนอกเหนือไปจาก 'สุดยอด' / ถ้าไม่ติดภาพลักษณ์ว่าเป็นนักธุรกิจแล้ว คุณ "พรวุฒิ สารสิน" ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮโซที่แสดงหนังเป็น และมีความสามารถที่น่าเข้าตากรรมการรางวัลทั้งหลายแหล่ไม่แพ้ พี่หมิว เลยทีเดียว / "สายป่าน-อภิญญา" โคตะระน่ารัก(ทั้งหน้าตาและการแสดง) ในทรงผมอัฟโฟลวฟูฟ่องสุดเปรี้ยวที่ยากจะมีผู้หญิงคนอื่นไหนไว้แล้วดูดีเท่าเธอ (อันนี้พูดด้วยความหม้อส่วนตัว) / "อนันดา" และ "การ์ตูน" ...เออ!!! ไม่รู้จะพูดอะไรนอกเหนือไปจากว่า เขาและเธอก็เข้าคู่รับ-ส่งกันได้ดีนะ หุหุ

    "พลอย" ... เรื่องของความรักของคนสองคน สองคู่มันง่ายที่จะเข้าใจเมื่อเราได้เห็นภาพ หากแต่เรื่องรักครั้งนี้ของเป็นเอก มันก็ยังคงยากที่จะเข้าถึงได้อย่างแจ่มแจ้งแถลง(ทุก)ไข และนั่นก็(น่าจะ)คือ จุดสูงสุดที่พี่ต้อม ต้องการจะให้คนดูได้รู้สึกเมื่อออกมาจากโรงหนัง ...รู้สึกว่า มันมีอะไรให้ค้างคาใจ ยังมีอะไรให้ต้องกลับไปดูอีกรอบ อีกรอบ และอีกหลายๆรอบ

    ขอแนะนำ...ครับ

    เกรด A-

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

    แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 50 11:21:44

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 12 มิ.ย. 50 11:11:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com