ความคิดเห็นที่ 254
ผมเองก็ได้ยินข่าวมานานพอสมควร ในฐานะที่ตนเองก็ศึกษาหลักทางพุทธศาสนาอยู่ ผมจึงไม่ค่อยจะสนใจกับจตุคามรามเทพเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าท่านจะเทพจากสวรรค์ชั้นไหนก็ตาม ท่านก็เหมือนๆกับเรา คือเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็เหมือนกับเป็นเพื่อนของเรานั่นแหละ นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน เพียงแต่ท่านมีฤทธิ์มากกว่าเราก็เท่านั้นเอง
ไม่ว่าเทพจะยิ่งใหญ่ ฤทธิ์มากแค่ไหน ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมะ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จตุคามรามเทพท่านเป็นผู้รักษา ดูแลพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช ก็เท่ากับว่าท่านก็เป็นชาวพุทธ ก็ไม่ต่างอะไรกับเรา ในฐานะที่นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
ส่วนการสร้างคุกกี้จตุคำ ของท่านอาจารย์เจ้าคุณ พระพยอมนั้น ผมไม่เห็นว่าเป็นการไปลบหลู่ หรือเสียหายอะไรต่อจตุคามรามเทพ เพราะ
๑. จตุคาม กับ จตุคำ มันคนละคำ คนละความหมาย
๒. จตุคาม เป็นวัตถุมงคล ส่วนจตุคำ เป็นของกิน
จตุคำ แปลว่า 4 คำ คือการสอดแทรกเนื้อหาทางธรรมะ คือหัวใจเศรษฐี อุ อา กะ สะ (อุฏฐานสัมปทา - การหาทรัพย์ , อารักขสัมปทา - การรักษาทรัพย์ , กัลยาณมิตตา - การมีเพื่อนที่ดี แนะนำประโยชน์ในการใช้ชีวิต , สมานัตตา-ใช้ชีวิตอย่างเสมอต้นเสมอปลาย หรือใช้ชีวิตแบบพอเพียง)
จะเห็นว่า ความหมายคนละแบบกับจตุคามรามเทพเลย
และความหมายที่แท้จริงก็คือ เรามักจะมองเห็นว่า จตุคามรามเทพถูกสร้างมาในกระแสที่ว่า จตุคามรามเทพ = ความรวย , ความเป็นเศรษฐี แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เรามีเพียงของสิ่งหนึ่งห้อยคออยุ่แล้วจะทำให้เราเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ ถ้าห้อยจตุคามสักสิบองค์ แล้วนอนอยู่กับบ้าน ไม่ทำงานอะไร ย่อมไม่มีทางที่เงินจะมากองอยู่ตรงหน้าไปได้ แต่การสร้างชีวิตตัวเองตามหลักหัวใจเศรษฐี ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าต่างหาก ที่จะนำให้ชีวิตก้าวไปสู่ความสำเร็จที่แท้ และยั่งยืน
นั่นคือความหมายจริงๆ ในคุกกี้ จตุคำ ของท่านพระพยอม
จากคุณ :
p.p_upasmo
- [
22 มิ.ย. 50 09:29:00
]
|
|
|