ความคิดเห็นที่ 1 Final Destination 2 (2003) ไฟนอล เดสติเนชั่น 2 โกงความตาย แล้วต้องตาย แนวหนัง สยองขวัญ มาว่ากันให้ครบ กับตอนที่สองของหนังชุดโกงความตายที่ยังสานต่อเรื่องราวครับ งานนี้โยงมาที่คนกลุ่มใหม่ นำโดย คิมเบอร์ลี่ คอร์แมน (A.J. Cook) สาวน้อยที่ดันไปเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่กลางทางหลวง ก็เลยจัดการยับยั้งจนคนมากมายรอดมาได้ แต่ก็ซ้ำรอยภาคแรกครับ รอดมาไม่ได้แปลว่าจะรอดตาย ความตายก็ได้จัดการเดลิเวอร์รี่การตายอย่างสุดแสนสยองมาถึงบ้าน งานนี้ทั้ง Morgan และ Wong วางมือ ไม่ทำต่อ ปล่อยให้ David R. Ellis มากำกับแทน ซึ่งตอนนั้นก็งงเหมือนกัน เพราะพี่แกผ่านงานกำกับมาแค่ครั้งเดียวนั่นคือเรื่อง Homeward Bound II: Lost in San Francisco (1996) หนังสองหมาหนึ่งแมวของ Disney ไงครับ ก็ให้สงสัยว่าทำหนังสยองมันจะเป็นอย่างไร ถ้าว่ากันถึงเรื่องเงินทองล่ะก็น่าพอใจครับ ทำเงินไปไม่แพ้ตอนแรก ทุนสร้าง $26 ล้าน ได้คืนมาราวๆ $46,455,802 ในอเมริกา ส่วนนอกอเมริกาก็ได้ไปพอๆ กัน ก็เรียกว่าทำเงินใช้ได้ ทีนี้เรามาว่ากันถึงตัวหนังกันดีกว่า โทนหนังมันไม่หม่นเท่าตอนแรกครับ อันนี้รู้สึกเลยนะ บรรยากาศมันเบาๆ จนเหมือนหนังวัยรุ่นของ Miramax พวก She's All That ยังไงก็ไม่ทราบ นอกจากฉากการตายแล้ว อย่างอื่นไม่ใคร่จะกดดันนัก จริงๆ ก็พอเดาเจตนาคนทำออกมาละครับว่าอยากทำให้บรรยากาศในหนังไม่เครียดนักเพื่อให้คนดูรู้สึกว่ามันเหมือนโลกจริงๆ ที่สามารถเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ แม้บรรยากาศจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่บรรยากาศมันเนิ่บเกินไปครับ แต่ส่วนอื่นๆ หนังก็พยายามนะ อย่างการสร้างทฤษฎีใหม่มาเชื่อมโยงการโกงความตายระหว่างกลุ่มใหม่และกลุ่มเก่า พร้อมทั้งตามเอานางเอกหน้าสวยจากภาคแรกอย่าง Ali Larter กลับมาแสดงบทเดิมจากภาคแรกเพื่อช่วยไขปริศนาการโกงความตายครั้งใหม่ แต่โดยอารมณ์มันไม่ได้ชวนลุ้นเท่าตอนแรก แม้ฉากการตายจะหนักหนากว่าก็เถอะ แต่อารมณ์เสียวหรือผวา ประหนึ่งว่ากำลังมี "ความตาย" มาคุอยู่รอบๆ ทุกคนนั้นกลับไม่ใคร่จะได้สัมผัสสักเท่าไร ไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะครับ มันก็ออกมาไม่เลวสำหรับตอนต่อ แต่ถ้าเทียบกับตอนแรกแล้วมันก็ยังห่างๆ กันอยู่ แต่พอดูได้ครับ ไม่ใหม่แตก่ไม่ขี้ริ้ว พอสนุก พอสยองไปตามจังหวะ เพียงแต่ฉากจบมันออกจะเหมือนหนังตลกไปหน่อยยังไงก็ไม่ทราบ ส่วนชื่อของตัวละครในเรื่องก็ตามเคยครับ เอานามสกุลผู้กำกับและดาราหนังสยองเก่าๆ มาขอยืม อย่างนางอเกนีก่ชัดครับ คอร์แมนนี่เอามาจากราชาหนังสยองเกรดบี Roger Corman อย่างไม่ต้องสงสัย หรือตัวละครที่ชื่อ นอร่า คาร์เพนเตอร์ ก็แน่นอนครับ หยิบมาจาก John Carpenter ผู้กำกับ Halloween นั่นแหละ และพูดถึง Halloween ก็บอกเลยแล้วกันว่า โรงพยาบาลโรคจิตที่เคลียร์ ริเวอร์สเข้าไปรักษาตัวนั้นเป็นแห่งเดียวกับโรงพยาบาลตอนต้นเรื่องในหนัง Halloween: Resurrection (2002) ด้วยล่ะนะครับ นอกจากนี้ Tony Todd จากภาคแรกก็ยังตามมาอุ่นเครื่องความสยองตามเคย อีกเกร็ดหนึ่งที่น่าสนุกสำหรับหนังเรื่องนี้ ถ้าใมครยังไม่ชมภาคแรกอย่าเพิ่งอ่านนะครับหรือไม่อยากทราบเรื่องราวภายในก็อย่างเพิ่งอ่าน *คือตอนแรกจะมีการให้อเล็กซ์ ตัวเอกจากภาคแรกมามีบทด้วยนะครับ แต่มาเพื่อตายนะ คืออเล็กซ์พยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์ความตาย แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น เพราะบทเดิมกำหนดให้พี่แกตายเพราะโดน "ไวรัส" ฆ่าจนตาย เนื้อตัวเน่าเฟะ ... ทีนี้ผู้สร้างเห็นว่ามันจะไปกันใหญ่ครับ เดี๋ยหวนังโกงความตายจกลายพันธุ์ไปแบบพี่เจสันและเฮียเฟรดดี้ เลยไม่เอาบทอเล็กซ์ใส่ลงมาก็ได้ แค่บอกไว้ว่าแกมีชะตากรรมเป็นอย่างไรพอ* ก็ประมาณนี้แหละครับ ไม่ผิดหวังนะ เพราะดูได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหาสำหรับคอหนังสยอง สองดาวครับ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=05-06-2007&group=16&gblog=4 จากคุณ : หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!!) - [ 19 มิ.ย. 50 00:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Final Destination 3 (2006) โกงความตาย เย้ยความตาย แนวหนัง สยองขวัญ พอมีอะไรทำ เข้าที่นี่น้อยหน่อยเรตติ้งหายไปเยอะเลย ก็ยอมรับล่ะครับว่าแทบจะไม่ได้อัพอะไรนัก ทำ Cool ก็หนักหนาพอประมาณแล้ว ขนาดตั้งใจจะว่าจะเขียนให้ได้วันละหนึ่งเรื่องเอาเข้าจริงก็ไม่ได้ทำ งานนี้ลองของแล้วกันนะครับว่าจะทำได้หรือไม่อย่างไร (หรือต้องซื้อโน้ตบุ๊คจริงๆ แล้วล่ะสิเรา ) หนังอาจไม่ใหม่นะครับ แต่ปกติผมก็ชอบเก็บตกเอาหนังเก่าๆ มาเล่าอยู่แล้วกับผลงานภาคต่อตอนที่สามของเรื่องวัยรุ่นที่ต้องมาหาทางโกงความตาย โดยเนื้อหาไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่หรอกครับ ตัวเอกของเรื่องคือ เวนดี้ คริสเตนเซน (Mary Elizabeth Winstead) สาวสวยที่ไปเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อนๆ แต่ระหว่างเที่ยวนี่ไม่ได้มีความสุขเลยครับ ในใจมีอะไรบางอย่างมารบกวนทำให้เธอรู้สึกตะหงิดใจอยู่ตลอดเวลา เหมือนมีลางบางอย่างบอกให้เธอระวังภัยไว้ แล้วในที่สุดเหตุร้ายก็เกิดครับ เธอเกิดเห็นภาพว่ารถไฟเหาะตีลังกาคันที่เธอกำลังจะขึ้นไปพร้อมเพื่อน จะเกิดอุบัติเหตุสยองตายหมดทั้งคัน เธอเลยรีบโวยวายหนีออกมาก่อน แล้วในที่สุดรถไฟคันนั้นก็ไปสวรรค์ตามที่เธอเห็นภาพเป๊ะ แต่แทนที่เรื่องจะจบ มันกลับแค่เป็นการเริ่มต้นน่ะครับ เพราะ "ความตาย" ไม่ยอมปล่อยพวกเขาให้รอดไปได้ พวกที่รอดมาก็เกิดมาตายอย่างพิสดารมากมาย จนเวนดี้และเควิน (Ryan Merriman) สองตัวเอกต้องมาหาทางถอดรหัสความตายเพื่อเอาตัวรอดอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะต้องตายเป็นรายต่อไป คือ ถ้าท่านชมสองภาคแรกมาแล้วก็คงพอเข้าใจนะครับว่ามันก็เหล้าเก่าดีๆ นี่เอง สูตรเดิมครับ ไม่มีอะไรแหวกไปไหนให้ตื่นเต้น คือถ้าจะตื่นจริงๆ ก็เพราะฉากตายนี่แหละครับที่โหดอำมหิตสะใจคอหนังลาบเลือดพอตัว แต่นอกจากนั้นมันก็เดิมๆ เหมือนดูภาคแรกกับภาคสองย้อนใหม่อีกรอบมากกว่า สำหรับผมแล้ว ภาคแรกเจ๋งสุดครับ มันใหม่และสดสำหรับแนวคิดความตายมาตามเอาชีวิตแบบนี้ ส่วนภาคสองมันก็ออกจะเดินตามรอยภาคแรกเป็นหลัก และจังหวะเรื่องยังเนิ่บกว่าด้วย ซึ่งภาคสามนี่ผมออกจะชอบกว่าภาคสองนะ เพราะภาคสองมันมีช่วงเชื่องช้าอย่างที่บอกน่ะครับ เลยมีอืดๆ ทางอารมณ์เหมือนกินมาม่าที่ต้มมา 15 นาทีกว่าๆ แต่ภาคสามนี่ตรงประเด็น คือรู้ว่าตัวเองไม่ให้ไปกว่านี้แล้วก็เลยจัดการประเคนความสยองแบบเต็มขั้น ตายแต่ละอันนี่หวาดเสียวดีจริงๆ  อันนี้สะใจส่วนตัว ถ้าพูดถึงจุดความสยองผมว่าภาคนี้โอเคครับ เป็นรองจากตอนแรกเลยล่ะ พวกดาราวัยรุ่นก็เลือกมาหน้าตาดีเป็นหลักครับ Winstead นางเอกของเรื่องก็น่ารัก น่าเอาใจช่วยดี เธอคนนี้แหละครับที่กำลังจะมารับบทลูซี่ แม็กเคลน ลูกสาวของนายจอห์น แม็กเคลน แห่งหนัง Die Hard ภาค 4 ส่วน Merriman พระเอกของเรื่องก็ตามสูตรหนังแนวนี้เลยครับ มานิ่งๆ สุขุมพอตัว มีความเป็นพระเอกค่อนข้างมาก คิดดูครับขนาดรู้ว่าตัวเองกำลังจะตายเป็นรายต่อไปก็ยังไม่วายไปเสี่ยงชีวิตช่วยชาวบ้านเล้ย พระเอกเกินร้อยจริงๆ ครับนายคนนี้ นอกนั้นก็เน้นหล่อสวยกันตามเรื่อง ในใจดูไปก็เดาได้ครับว่าไอ้นี่ไม่รอดแน่ ดูเพื่อรอว่าฉากตายจะสยองถึงใจหรือไม่มากกว่า นึกแล้วก็ขำตัวเองครับ พอย้อนมานึกจะเขียนลงบล็อกอีกก็ไม่วายจับเอาหนังสยองขวัญมาเขียนอีกจนได้ รู้สึกผมจะยังไม่ได้เขียนถึงสองภาคแรกเลยนี่หน่า เดี๋ยวเอามาเขียนดีกว่า (พูดแบบนี้กับหนังหลายเรื่องแล้วก็ไม่ได้เขียนซะที จนแฟนๆ หนีไปหมดแล้วเนี่ย) โดยสรุปนะครับ แม้หนังจะออกแนวเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่ก็โอเคน่ะ เหล้ามันโอน่ะครับ ดูแล้วสยองดี แม้ทุกอย่างจะเดาได้หมดแต่ก็ตรงประเด็น เหมือนดูหนังแอ็กชันนั่นแหละ ดูเพื่อฉากบู๊มันส์ๆ แม้จะไม่ให้ของใหม่ใส่ลงไปก็เถอะ ดูให้เลือดมันพล่านสูบฉีดได้ก็พอแล้ว เช่นกันครับใครคาดหวังความสยองชั่วครั้งคราวก็ดูได้ไม่น่าจะผิดหวัง ก็เป็นการย้อนมาร่วมมือกันทำหนังอีกครั้งของสองซี้ Glen Morgan และ James Wong โดยฝ่ายหลังเป็นคนกำกับ และยังเป็นผู้ให้กำเนิดของชุด Final Destination อย่างเป็นทางการด้วย มาทำภาคนี้ก็ดีล่ะครับ ไม่เสียทีที่เป็นคนคิดเรื่องต้นฉบับ ไม่หลุดคอนเซปต์ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะครับ แต่เหมือนสองซี้เขาเจตนาทำหนังภาคสามเพื่อดึงเรื่องราวของ FD ให้กลับมาสู่แนวทางที่ควรจะเป็น เพราะพี่แกไม่อ้างถึงหนังภาคสองเลยครับ เท้าความแต่ภาคแรก อีกทั้งในภาคสองถือว่าเป็นการแตกแยกย่อยเนื้อเรื่องไปเหมือนกันนะ ซึ่งจริงๆ ผมก็ชอบนะครับกับการแตกทฤษฎีโกงความตายออกไปในภาคที่สอง แต่ดูเหมือน Morgan กับ Wong จะไม่ค่อยชอบ เลยดึงเรื่องราวและกฏของความตายมาอย่างง่ายๆ ไม่ต้องไปต่อยอดทฤษฎีตามที่ภาคสองวางไว้ เหมือนประกาศเป็นนัยๆ ว่าคนทำต้นฉบับไม่ต้องไปตามภาคต่อก็ได้ 555 ส่วนตอนจบของเรื่องแรกเริ่มมันไม่ได้จบแบบนี้หรอกครับ ของเดิมมันจบอีกแบบ แต่ไม่สาใจผู้ชมรอบทดลองเลยโดนตีกลับมาให้เสริมตอนจบอย่างที่เราเห็นนั่นลงไป ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกครับ สองภาคก่อนก็เจอแบบนี้เหมือนกัน ฉายทดลองแล้วไม่เป็นที่ชื่นชอบเลยต้องมาถ่ายเพิ่ม ก็ไม่ผิดหวังครับ สำหรับคนที่ชื่นชอบหนังชุดนี้ ผมชอบกว่าภาคสองนะ อันนี้ต่างคนต่างใจครับ คงเพราะผมมีรสนิยมลาบเลือดมั้ง ภาคนี้ออกมาหนักข้อก็เลยชอบซะอย่างนั้น แต่ยังไงภาคแรกก็เป็นที่สุดอยู่ดี สองดาวกว่าครับ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=10000tip&month=04-06-2007&group=16&gblog=2 จากคุณ : หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!!) - [ 19 มิ.ย. 50 00:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ภาคแรกเท่านั้น ระทึกใจ สุด ๆ แล้ว จากคุณ : pichet152 - [ 19 มิ.ย. 50 01:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดูแค่สองภาคแรกเองครับ ชอบภาคหนึ่งมากกว่า มันได้บรรยากาศสยองดี แล้วก็ดูมีแพนเทิร์นการตายดี ไม่มั่วเหมือนภาคสอง ภาคสองนี่สยองสะใจอยู่ฉากแรกฉากเดียวอ่ะครับ ที่เหลือดูเป็นการตายเฟคๆ ยังไงไม่รู้ ดูไม่สมจริงเลย อ้อ แล้วเนื้อหาภาคแรกที่เป็นเรื่องการเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็ยังเล่นกะคำว่า final destination (จุดหมายปลายทาง/จุดจบ) ได้ด้วย จากคุณ : absent-minded - [ 19 มิ.ย. 50 02:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เชื่อป่ะ  แต่ก่อนผมเคยตั้งกระทู้ชมหนังเรื่องนี้ ว่าเป็นหนังสยอวขวัญ ที่ทำพล็อตได้แปลก-ดีที่สุด  แต่สุดท้าย โดนด่าตรึม แทบวิ่งออกจากกระทู้ไม่ทัน 555 เวลาผมดูหนัง  ผมไม่ค่อยเน้นบทอ่ะครับ  ชอบดูการลงทุน ดูฉากของเรื่องมากกว่า ผมกลับมองว่า  ภาค 2 นี่แหละ  ดูแล้วคุ้มเงิน คิดพล็อตเรื่องได้เป็นธรรมชาติ ฉากที่นักแข่งรถ ลื่นตุ๊กตาหน้าห้อง ก็น่าจะรู้ว่าลางร้ายจะเกิด จวบจนเอามือเข้าไปล้วงหยิบแหวนในท่อน้ำ ก็ยังอุตส่าห์รอด และลงบรรไดหนีไฟมาโดนเสียบตาย ผมว่าเขาคิดพล้อตได้เป็นธรรมชาติดี สามารถเกิดขึ้นได้ครับ  ก็มันอยากทิ้งสปาเก็ตตี้ไม่เป็นที่เป็นทาง  ดันมักง่ายโยนมานอกหน้าต่าง  ก็ลื่นตายเองสิฟะ  555 และไอ้ฉากที่ระเบิดรถตูม ๆ หลายคันนะ  เขาลงทุนค่อนข้างมาก  และถ่ายยากด้วย  เรื่องนี้พระเอกที่เป็นตำรวจ  ก็หล่อ  ฉากที่หน่วยกู้ภัย ทำคนหัวทะลุไปโดนท่อพีวีซีน่ะ สยองไม่พออีกเหรอ  ฉากผู้หญิงถูกลิฟหัวขาด  นั่นยังลาบเลือดไม่พออีกเหรอ ผมว่าภาคแรก  ดี  มันมีความลึกลับ ขลัง ดูแล้วขนลุก  โดยเฉพาะ เพลงประจำเรื่องก่อนเครื่องบินตกน่ะ  พอขึ้นเพลงนี้มาทีไร  พระเอกก็รู้ต้องมีคนตายทุกที   สนุกครับ  พระเอกหน้าตาน่ารักเชียว-แต่ลงทุนสู้ภาค 2 ไม่ได้ แต่ชอบฉากสุดท้าย  ที่ชิงช้าสวรรค์มันหวลกลับมาซัดเพื่อนพระเอก ดูแล้วสะใจดี  มีการบอกความตายมันข้ามฉันไปแล้ว  ที่ไหนได้ ยังไม่พ้น ฉากที่คุณครูโดนอุปกรณ์ในครัวไล่ล่า  ก็น่ากลัวดี  ผมถามจริงๆ ดูแล้วกลัวกันบ้างไหม  ไม่กล้าเอาแก้วน้ำไปไว้แถวนั้น  กลัวน้ำหยดลงคอม เดี๋ยวคอมระเบิดทะลุคอหอย  เลือดกระจาย  โหด ซาดิส สะใจ  คิดได้งัย ส่วนภาค 3  ไม่ได้เรื่องเลยครับ เน้นโหด   ดีแต่สยองอย่างเดียว  รวบรัดไปหน่อย  เหมือนกลับมาเริ่มต้นใหม่ยังไงยังงั้น  แต่ฉากที่เจ้าของร้านสปา  เผลอ ทำครีมนวดตัวตกไปเสียบไว้ใต้ประตูห้อง  จึงผลักประตูออกมาช่วยลูกค้าที่กำลังโดนย่างสดไม่ได้  ผมว่าอันนั้นก็ทำดี  แค่ครีมนวดหลอดเดียว ก็ทำให้คนตายได้ตั้ง 2 คน  พอดูเสร็จชักเริ่มกลัว  กลับมาตรวจเช็ค ที่บ้านว่า  พวกครีมอาบน้ำ หลอดเก่าๆ ที่ยังไม่ได้ทิ้ง ไปซุกซอกไหนของประตูบ้างไหม  เพราะเด็กที่บ้านชอบเอาไปเล่นตามพื้น ดูแล้วก็ไม่ประมาทครับ  เพราะความตายมันจะย้อนกลับมาเล่นงานได้เสมอล่ะ  ถ้าประมาท  ว่าแล้วก็อยากโพสภาพหนังจัง  แต่โพสไม่ได้  เพราะภาพมันสยองเกินไป  กลัวโดนยึดอมยิ้ม   เห็นกระทู้นี้แล้ว  พรุ่งนี้อยากจะไปเช่าดูอีกรอบหนึ่ง   ส่วนภาค 4  ผมว่าเขาไม่กล้าทำแล้วล่ะ  โดนด่าซะยับเยินขนาดนั้น  แต่ถ้าทำอีก  ผมก็ไปดูอีก  เพราะภาค1-2  สั่งสมบารมีไว้เยอะ   ยังไงก็ต้องดู *  นางเอกภาค 3 สวยมากๆๆๆๆ  ต่อไปดังแน่  เห็นหน้าครั้งแรก  งง หน้าตาสวยขนาดนี้  ทำไมมาเล่นหนังสยองเกรด B  แต่เห็น จขกท. บอกเธอกำลังจะเล่น  Die Hard  ก็โอเคครับ  จะติดตาม แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 05:39:31 แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 05:36:53 แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 05:35:25 จากคุณ : รักดีดี ต้องมีลายเซ็นต์ - [ 19 มิ.ย. 50 05:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภาคแรกเท่านั้นค่ะ ภาคหลังๆ เหมือนมุกเดิมๆ ไม่ค่อยหนุก จากคุณ : มอมแมมจ๋า - [ 19 มิ.ย. 50 09:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบภาค 2 อ่ะ เหตุผล ทำให้ไม่กินขนม กินน้ำในรถ  ลูกชิ้นปิ้งเสียบไม้ อยากกินกินให้หมดก่อนขึ้นรถ ไม่มีขวดน้ำ  ไม่มีบิ๊กกัลป์ หรือกาแฟร้อนเซเว่น อย่างน้อยอุปัทวเหตุ ก็เกิดได้เสมอถ้าประมาท จากคุณ : แมวริษยา - [ 19 มิ.ย. 50 09:18:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบทุกภาค แบบว่าเป็นเราขอตายตั้งแต่ทีแรกดีกว่า เพื่อนตายเยอะดี มาแยกตายเดี่ยวนี่ไม่ไหว แถมตายแบบมหาโหดทั้งน้านนนนน จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 19 มิ.ย. 50 09:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบภาค2ครับ เหตุผลแบบคุณแมวเลย ชอบฉากอุบัติเหตุมากๆ มันสื่อถึงความประมาทของคนว่าตอนขับรถอยู่คุณทำอะไรที่พอจะทำให้เกิดอุบัติเหตุรึเปล่า ถอดรองเท้าเวลาขับรถ ทำให้รองเท้าไปติดอยู่ที่คันเบรก(แต่ในหนังเป็นขวดน้ำ) กาแฟร้อน รถที่มีควันดำมากๆ คนขับรถขนซุงดื่มเหล้า,เบียร์   ในเรื่องนั้นมีอยู่คนนึงใช้หัวขามายันพวงมาลัยรถแล้วตัวเองก็เสพยา จากคุณ : ลูพเรฟิล - [ 19 มิ.ย. 50 11:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบภาค 2 ครับ เนื้องเรื่องรถ เนี้ยใกล้ตัว เพราะเราต้องใช้ใช้รถใช้ถนนกันเกือบทุกวัน เห็นรถซุงทีไร หลอนทุกที จากคุณ : panyas - [ 19 มิ.ย. 50 11:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบภาค2มากสุดค่ะ จากคุณ : < Nuttz-NT_SerapH > - [ 19 มิ.ย. 50 13:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบภาค 2 มากกว่า ยิ่งฉากรถคว่ำระเนระนาดตอนต้นเรื่องทำได้ระทึกดี จากคุณ : ลูกยาง - [ 19 มิ.ย. 50 14:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอ คนตอบภาคสองกันเยอะ แต่ไหงคะแนนภาคแรกนำหว่า 555 จากคุณ : หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!!) - [ 19 มิ.ย. 50 15:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมชอบภาคสองที่สุดอ่ะ มันดูจริงดี จากคุณ : Coming Soon - [ 19 มิ.ย. 50 18:20:01 A:125.24.247.163 X: TicketID:132010 ]

ความคิดเห็นที่ 15 =ชอบภาคแรกครับ เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง พอภาคสอง ภาคสาม เรามักจะเดาออกได้เพราะว่าเดี๋ยวมันก็ตาย ๆ ไปทีละคนเหมือน ๆ กัน จากคุณ : หนุ่มหน้ามน คนหน้าวัด - [ 19 มิ.ย. 50 20:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาคแรกครับ ได้ใจมากๆ จากคุณ : whutzy - [ 19 มิ.ย. 50 21:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปกติไม่ดูหนังโหดๆนะ แต่เรื่องนี้ไปดูในโรงทุกภาคเลยอ่ะ 555+ ชอบภาคแรกกับภาคสองพอๆกันค่ะ ภาคแรกให้ความสดใหม่+ตอนจบ ภาคสองให้กลวิธีการตาย ลุ้นจริงๆ ส่วนภาคสาม เหอเหอ จากคุณ : ปลาทองแก้มยุ้ย - [ 19 มิ.ย. 50 22:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบภาค 2 ที่สุด จากคุณ : คุณหนูผู้สมบูรณ์แบบ - [ 19 มิ.ย. 50 23:29:29 ]