Code System
คือระบบการเล่าเรื่องผ่านโครงสร้างสัญลักษณ์แบบต่างๆ น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ(conjunction) ระหว่างชอตต่างๆในการเล่าเรื่อง การเปิด และปิดข้อมูลในองก์บทการเล่าเรื่อง(sequence) 1องก์ โดยจะสำพันธ์กับโครงสร้างของ ไวยากรณ์ทางภาษา เช่น ใน present simple tense ก็คือ subject+verb1+object องก์บทที่เล่าเรื่องก็อาจเป็น
ชอต1
นาย ก. เดินมา
ชอต2
นายก.ชกนาย ข.
ชอต3
นาย ข. ล้มลง
แต่ทั้งนี้ระบบการเล่าเรื่องจะไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับ"วิธีการ" ใช้สัญลักษณ์ และวางลำดับช่วงเวลาต่างๆของผู้กำกับเอง(กล่าวโดยย่อคือความรู้เกี่ยวกับระบบการเล่าเรื่องที่ผู้กำกับมีน่ะแหละ)
image = ภาพพจน์
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า หนังนั้นถูกถ่ายด้วยกล้อง ภาพที่ปรากฏอยู่บนจอ ก็คือ"ภาพพจน์"ต่างๆที่มีความหมาย ภาพของคน ภาพของดอกไม้ ภาพของต้นไม้
จนเกิดการใส่สัญลักษณ์ต่างๆเพื่อขยายความในชอต1ชอตขึ้น เพื่อให้ได้ความหมายที่ชัดขึ้น จากคนทำหนังในกลุ่มที่เชื่อในภาพ(ที่ขัดแย้งกับกลุ่มที่เชื่อในเนื้อหา แต่ปัจจุบันก็ไม่มีความขัดแย้งที่ว่านี้แล้ว) จากที่ถ่ายคนในแบบปกติ ต้องการจะบอกความหมายว่า เขากำลังมีความสุข ก็ ไปถ่ายที่ฉากสว่างๆอย่างทุ่งหญ้า ให้ใส่เสื้อสีสดๆสว่างๆอย่างสีแดง สีชมพู ถ่ายฉากหน้าให้ติดดอกไม้ เพื่อสื่อความหมายให้เด่นชัดขึ้น ว่ามีความสุข สำพันธ์ กับหลักการของ mis en scence หรือการจัดวางเพื่อให้เกิดความหมาย
identity= อัตลักษณ์
การทำหนังนั้นแท้จริงต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า"ตัวตน"ของคนสร้างหนัง ที่จริงหนัง นั้นอยู่ในฐานะทั้ง ศิลปะ วิทยาศาสตร์ ปรัชญา ธุรกิจ อุตสาหกรรม และอะไรต่อมิอะไรมาช้านานแต่ ทฏษฎีเกี่ยวกับ อัตลักษณ์ หรือตัวตนของคนทำหนังเพิ่งเริ่มมีมาเมื่อไม่นานโดยกลุ่มทำหนัง หัวก้าวหน้าที่เรียกว่ากลุ่ม new wave ในยุโรป ถ้าศึกษากันให้ลึกจะพบว่า ช่วงนั้น เกี่ยวกับปรัชญาในยุโรปช่วงนั้นที่มีอิทธิพลสำคัญ คือ semiotic(สัญวิทยา) exitencialism(อัตถิภาวะนิยม) structurism(โครงสร้างนิยม) ที่มีการวิพากษ์กันอย่างหนักหน่วงถึงความหมายของสัญลักษณ์ การเกิดขึ้นของสัญลักษณ์ และกระบวนการผลิตของสัญลักษณ์
แท้จริงสิ่งที่เรียกว่า ภาษา ภาพพจน์หรือทฏษฏีทั้งหลาย เกิดขึ้นภายในตัวคนเรา ไม่ใช่จาก สื่อมวลชน จนเกิดมีคำกล่าวว่า "หนังก็คือคนทำหนัง"หรือ"คนทำหนังก็คือทฏฺษฎีของเขา"
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 22:51:47
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 21:05:04
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 20:39:07