ความคิดเห็นที่ 1 อะแฮ่ม .. ขอเข้ามาตอบคนแรกเลยนะครับ ไม่รู้ครับ! จากคุณ : ฟาฬ - [ 3 ก.ค. 50 14:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาตอบคนที่สองตามหลานรักมาติดๆว่า ไม่รู้เหมือนกันคะ จากคุณ : ดาริเมยา - [ 3 ก.ค. 50 14:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็เคยได้ยิน เขาเรียกทั้ง 2อย่างละครับ แต่เป็นต้นเดียวกัน ที่นครศรีธรรมราช ทั้งเรียกว่าต้นตังรังช้างกับต้นช้างร้อง น่าจะเป็นต้นเดียวกันครับ รอคนต่อไปมาเฉลย จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 3 ก.ค. 50 14:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ทราบเหมือนกัน ค่ะ ขอภาพโดยด่วน อยากดูว่าหน้าตาเป็นอย่างไร... จากคุณ : wynterblue - [ 3 ก.ค. 50 15:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มารอดูภาพด้วยคนค่ะ เพราะไม่รู้จักเหมือนกัน จากคุณ : ลำไพร - [ 3 ก.ค. 50 16:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อยากเห็นภาพ "ต้นรังตังช้าง หรือ ต้นช้างร้อง" เหมือนกันค่ะ และที่อยากเจอ มาก ๆ คือ คุณ ฟาฬ ค่ะ ตัวเป็น ๆ เลยนะคะ 55555 จากคุณ : แอ่งน้ำซับ (Oases) - [ 3 ก.ค. 50 16:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมารอดูด้วยคนเจ้าคะ จากคุณ : บุหลัน (บุหลันดั้นฟ้า) - [ 3 ก.ค. 50 16:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่รู้ มันจะมีสองพันธุ์นะครับ - รังตังแม่ไก่ - รังตังช้าง ส่วนไอ้สร้อยที่ว่าช้างร้องอ่ะ เป็นอุปมาเปรียบเปรยความเป็นตัวมันครับ ขนาดช้างเดินไปโดนยังคันจนต้องร้อง แล้วคนจะไปเหลือเร้อ .... จากคุณ : ฟาฬ - [ 3 ก.ค. 50 16:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอรูปค่า อยากชม เป็นบุญตา นะ นะ จากคุณ : wynterblue - [ 3 ก.ค. 50 16:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต้นช้างร้องครับ จากคุณ : Moviegangs - [ 3 ก.ค. 50 17:16:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอารูปและข้อมูลมาให้ดูค่ะ "ตะรังตังช้าง" ชื่อทางพฤษศาสตร์.....Laportea Stimolns วงศ์ Urticaceae ชื่อเรียกว่า "กะลังตังช้าง" ท้องถิ่นเรียกว่า "รังตังช้าง" ปักษ์ใต้เรียก "ลังตังช้าง" ภาคพายัพเรียก "หานเดื่อ" ส่วนทางทหารเขียนว่า "ตะรังตังช้าง" ลักษณะ...เป็นต้นไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีใบโตขนาดใบสัก เป็นขนสีขาวออกหนาตลอดต้น ไม้ชนิดนี้ ขนออกมันมีพิษ ถ้าไปถูกเข้า ขนของมันก็จะคายพิษออกมาทำให้เกิดอาการคัน ผู้ที่ถูกเข้าจะมีอาการคันและเกาจนหนังถลอกเป็นแผลเรื้อรัง อาการเจ็บปวดเป็นกำลัง น้ำเหลืองจะแตกออกเป็นแผล ซึมออกไปทำให้เป็นแผลต่อไปอีก บางทีมีอาการแสบปวดร้อน บวม และอาการแน่น ถึงตายได้ ถ้าถูกขนติดมากไป ส่วนในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน บอกว่า ตะรังตังช้างหมายถึง...  ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Dendrocnide sinuata (Blume) Chew ในวงศ์ Urticaceae ใบใหญ่ ขอบจัก ถูกเข้าจะปวดคันและเป็นผื่นตามผิวหนัง. (บางเว็บบอกว่าเป็นชนิดเดียวกันกับต้นช้างร้อง แต่เรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น) ต้นตะรังตังช้างค่ะ... จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 3 ก.ค. 50 17:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนอันนี้เป็นต้นช้างร้อง ที่คนโพสต์เอามาโพสต์แล้วบอกว่าเจอที่ทางขึ้นถ้ำแก้ว อุทยานแห่งชาติคลองพนม จ.สุราษฎร์ธานี เหมือนกันรึเปล่าไม่รู้อ่ะ จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 3 ก.ค. 50 17:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ต้นที่ผมเคยเห็น เหมือนที่คุณ วิวี โพสตความเห็นที่ 11 ครับ เป็นต้นสูงๆแบบนี้เลย แต่ก้ไม่มั่นใจนะครับ คงต้องให้ทุกคนช่วยหาข้อมูลมายืนยันอีกที ผมแวบไปหาก่อนครับ จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 3 ก.ค. 50 17:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 1. จากคุณ : ชายสมบูรณ์ - [ 3 ก.ค. 50 17:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 2. จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 3 ก.ค. 50 17:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Laportea crenulata Wedl: พืชมีพิษต่อผิวกายที่รู้จักกันและพบเห็นบ่อย ๆ คือ หมามุ่ย และ ตำแย พบขึ้นตามชายป่าทั่วไปที่แดดจัด แต่พืช 2 ชนิดนี้มีพิษสงไม่ร้ายกาจเท่าใด เพียงแค่ทำให้คันเกาเล่นสนุกๆ เท่านั้น ที่ร้ายกาจที่สุดชนิดนักเที่ยวป่าทุกคนควรต้องรู้จักรูปแร่างน่าตาไว้ก็คือ ตำแยช้างหรือตะรังตังช้าง บางท้องถิ่นเรียกว่า 'รังตังช้าง' ก็มี คนภาคเหนือเรียก หานช้างร้อง,หานช้างไห้, หานสา ชื่อวิทยาศาตร์ว่า Laportea crenulata Wedl. เป็นพืชล้มลุกสูงราว 1-2 เมตร ใบเป็นแฉก 3-5 แฉก มีหนามอ่อนคล้ายขนเล็ก ๆ ตามขอบใบและก้านใบ หนามนี้มีพิษ เมื่อสัมผัสผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่เนื้ออ่อน ขนจะทิ่มตำและปล่อยสารพิษออกมา เป็นสารประกอบพวกฮีสตามีน (histamine) ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน และพวงบวมน้ำไม่ต่างกับถูกไฟลวก พิษจะยิ่งรุนแรงมากตอนออกดอก พืชชนิดนี้พบทั่วไปตามป่าดิบชื้นที่มีแสงสว่างปานกลาง และป่าเบญจพรรณทั่วไป โดยเฉพาะตามริมห้วยที่ร่มเย็น ตำแยช้างจะขึ้นรวมกันอยู่เป็นดง Cite: http://www.naturethai.org/story/story_plant_insect_dangerous_p1.htm http://202.44.14.219/thaiherbkmutt/toxic/info.php?id=37 Contact dermatitis http://en.wikipedia.org/wiki/Contact_dermatitis จากคุณ : MERRISS - [ 3 ก.ค. 50 20:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าจะเป็นภาพ 10 ครับ ต้นในภาพ 11 มักเจอทางใต้ครับ จากคุณ : PUFF - [ 3 ก.ค. 50 20:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คล้ายกับว่าจะเคยเจอของจริง แต่ไม่แน่ใจครับว่าใช่หรือเปล่า ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : osora (osora) - [ 4 ก.ค. 50 00:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ขอบคุณคับที่นำรูปมาให้ดู จากคุณ : .+*^*+.ริวซากิ.+*^*+. - [ 4 ก.ค. 50 00:48:10 A:203.113.50.13 X: TicketID:095976 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณแอ่งน้ำซับครับ ---  ไอ้คำว่า ตัวเป็นๆ เนี่ย ฟังแล้วรู้สึกทะ:-)ๆยังไงพิกลนะครับ จากคุณ : ฟาฬ - [ 4 ก.ค. 50 09:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณที่หารูปมาให้ชมค่ะ ดูใบแล้ว ไม่เห็นมีขนตามที่บรรยายนะคะ หรือว่าอยู่ใต้ใบ ดูใบเป็นมัน ไม่น่ามีพิษขนาดนั้นเลยเนอะ... จากคุณ : wynterblue - [ 4 ก.ค. 50 10:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตามความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะยังไม่ได้ค้นข้อมูลละเอียดนัก ต้นรังตังช้างหรือต้นช้างร้อง ที่คุณลุงพนมเทียนเขียนไว้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นพันธ์ไม้ที่ขึ้นบริเวณภาคกลางตอนเหนือไปถึงภาคเหนือ ฉนั้นก็ควรเป็น ตามภาพที่ คห 15-16 (ภาพจากไทยเทรคกิ้งดอทคอม) พิจารณาจากการเดินทางด้วยละครับ เพราะ ตะรังตังช้าง ทางภาคใต้นี้ผมเคยเห็นมา(ภาพที่ คห11) มันน่าจะเป็นไม้เฉพาะถิ่นครับ ยังไงวันนี้ว่างจะลองค้นหาดูว่าเป็นอย่างที่คิดหรือไม่ครับ อ้อ ฝากเพื่อนๆช่วยกันค้นด้วยนะครับ พอดี เห็นว่าท่านCinephile ท่านฝากคุณ(Dramamine)นางพญาว่าน  ให้ช่วยหาข้อมูลไว้ในกระทู้ ว่านนาคราชครับ พวกเราก็ช่วยๆกันค้นครับคนละไม้ละมือ ร่วมกันเพื่อหนังสือที่เรารักครับ จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 4 ก.ค. 50 12:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จากหลายๆเวบรวมกันเลยนะครับ 1.หานช้างร้อง (Dendrocnide basirostris) ไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 10-15 เมตร ใบขอบจัก ขึ้นตามป่าดิบแล้ง 2.กะลังตังช้าง (Dendrocnide crenulata) ไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ สูง 10-15 เมตร ใบขอบจัก ขึ้นตามป่าดิบชื้น บางเวบบอกเป็นไม้พุ่มไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ทั้ง 2 ชนิดขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศไทยครับ ชนิดที่1 ก็คงเป็นรูปที่ คห 11 ชนิดที่ 2 ก็คงเป็นรูปที่ คห 10 , 15 , 16 ใครมีข้อมูลมากกว่านี้มาเพิ่มเลยครับ ช่วยๆกัน จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 4 ก.ค. 50 12:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อะแฮ่ม คุณชายฯ ข้อมูลถูกต้อง ไม่ต้องพิสูจน์ มีอีกชื่อว่า ว่านตอด กำลังติดต่อจัดสอย รอนิดนึงนะคะ จะให้สอย ชุมเห็ดเทศ กับ ยางน่อง มาพร้อมกันเลยมั๊ยคะ สงสัยต้องหารถกระบะไปช่วยขนมังคะ ^_^ ยังขาดไม้โขมย กับ เถาวัลย์น้ำ ค่ะ จากคุณ : Dramamine - [ 4 ก.ค. 50 14:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ต้องการคนไปช่วยขนมั้ยคะคุณดราฯ   เรื่อง "ไม้ขะโมย" นี่ ลองไปเปิดหนังสือดูแล้ว รพินทร์บอกว่าเป็นชื่อที่ชาวป่าเรียก ส่วนชื่อทางพฤกษศาสตร์เค้าเรียกกันว่าอะไรไม่รู้ เลยลองหาข้อมูลไม้ที่สามารถเอามาก่อไฟแบบสดๆ หรือก่อกลางสายฝนได้ ก็ได้ข้อมูลมาว่าทางเหนือเค้าใช้ "ไม้ก่อ" หรือ "ไม้เกี๊ยะ" ค่ะ แต่มันติดปัญหาตรงที่ ทั้ง 2 ไม้นี่เป็นประเภทไม้สน ต้นก็ขนาดใหญ่ แต่ในหนังสือ... รพินทร์บอกว่า "มันเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก ขึ้นอยู่ทั่วไป" เลยไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า อีกอย่าง "ไม้วงศ์ก่อ" นี่มีหลายชนิดมากเลย อาจต้องลองถามคนที่อยู่ทางเหนือว่าพอจะรู้จักไม้ 2 ชนิดนี้รึเปล่าอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 50 22:25:04 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 50 15:32:06 จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 4 ก.ค. 50 15:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอแตกประเด็นเอาเฉพาะ ไม้ขโมย กับเถาวัลยน้ำๆไปอีกกระทู้นะครับ จากคุณ : ชายสมบูรณ์ - [ 4 ก.ค. 50 17:45:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รังตังช้าง มีอีกหลายๆชื่อค่ะ เช่น ตำแยช้าง (ภาคกลาง) กะลังตังช้าง (ภาคใต้) หานสา หานช้างไห้ หานช้างร้อง (ภาคเหนือ) สามแก้ว (ภาคใต้) เอ่โก่เปอ(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)... ลักษณะใบ จะมีทั้งใบกลมป้อม โคนใบสอบเล็กน้อย ปลายใบสอบแหลมเป็นติ่ง ดูคล้ายใบขนุน และยังมีชนิดใบยาว และชนิดใบแฉก แต่มีขนและดอกเหมือนๆกัน เอาไว้ปลูกเป็นรั้วป้องกันโขมย ดอกเป็นดอกช่อเล็กๆ สีขาว จากคุณ : Dramamine - [ 5 ก.ค. 50 15:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อะ อันนี้เคยเห็นคนโดนละ คันยิบๆ เลย เจอตอนที่ไปตาก เห็นเค้าเรียกว่า ช้างคราง วันนั้นใส่แขนสั้นไป ต้องยกมือเดินเลย เพราะบุกเขาไปในดง จากคุณ : ทองไม่รู้ร้อน (Pigusto) - [ 6 ก.ค. 50 23:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ที่ ถ้ำพระยานครมีอยู่ต้นนึงค่ะ ต้นรังตังช้างร้องเนี่ยแหละ จากคุณ : SR (September rain) - [ 7 ก.ค. 50 23:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คห31 ใช่แล้วครับ ถ้ำพระยานครมีอยู่ต้นนึงจริงๆ(เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเห็นที่ไหน ขอบคุณที่ช่วยรื้อความทรงจำครับ) ตามรูปที่ 11 เลยครับต้นที่เห็นในถ้ำ จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 9 ก.ค. 50 11:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ต้นตามรูป คห 11 เจอตัวเป็นๆแล้วค่ะ กำลังหาวิธีนำมาแบบไม่คันเนื้อคันตัว จากคุณ : Dramamine - [ 10 ก.ค. 50 15:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีรูปต้นตะรังตังช้างตัวเป็นๆมาให้ดูกันค่ะ  เลี้ยงจนโตไปเรื่อยๆ จะเป็น คห. 11 ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขออนุญาต จขกท. ปิดกระทู้นี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยหาข้อมูลค่ะ จากคุณ : Dramamine - [ 13 ก.ค. 50 12:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ปิดแล้วเหรอครับ ปิดก็ปิดครับ จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 13 ก.ค. 50 13:46:02 ]