PANTIP.COM : A5576364 มามะ..จับคู่ สปีลเบิร์ก + ผกก. Transformer คู่ไหนน่าจะเหมาะกับภาค 2...!!! [ภาพยนตร์]

ความคิดเห็นที่ 23

- จะว่าไปแล้ว ไอ้ตัวขโมยซีนที่สุดน่าจะหนีไม่พ้น Frenzy เจ้าหุ่นสอดแนมตัวแสบกับท่าทางกวนๆ การพูดการจาคล้ายอารายเป็นเจ็กๆ จีนๆ แปลงได้สารพัด แถมยังท่าแอ๊บแอบซ่อนแบบกวนๆ แบบการ์ตูน ฉากที่เข้าไปล่วงข้อมูลใน server บนเครื่อง AF1 ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นอาการตกใจเล็กน้อยตอนได้ยินเสียงหัวเราะกันของผู้หญิง ตรงนี้ข้าเจ้าว่าเค้าจงใจให้เป็นเสียงหัวเราะที่อาจจะให้เดาว่าเป็นของแอร์บนเครื่อง แต่ให้หันมาตั้งท่าหาเรื่องกับคนดู ก็ฮาๆ กันไป ...แต่ละอากัปกิริยาการเคลื่อนไหวน่าบ้องกะโหลกดีแท้ แต่เวลาสู้เนี่ยแทบไม่อยากอยู่ใกล้เลย อันตรายมาก (ก็เล่นขว้างจักรซะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายมาเป็นมุขตอนที่มันกลับมาโดนหัวตัวเองเดี้ยงในตอนท้ายๆ ) จริงๆ ภาคต่อๆ ไปน่าจะได้เห็นอีก ซึ่งก็น่าจะมีที่มาที่ไปได้ไม่ยาก เพราะถือเป็นตัวสอดแนมที่จำต้องมีจริงๆ …อ้อ..! แถวนี้รู้สึกจะมีฉากที่เสียดสีบุชด้วยคำพูดของรมต. DOD เรื่องการที่จู่ๆ ก็เตรียมกำลังกองเรือเต็มอัตราศึกในน่านน้ำต่างๆ จำได้มั้ยฮะ ช่วง 9/11 ช่วงนั้น จับมือใครดมไม่ได้ ก็ระดมกำลังตรึงไว้ตามน่านน้ำกันก่อนเลย ตาจอห์น วอย เลยเสียดสีว่านี่แสดงถึงกึ๋นผู้นำที่จะปล่อยออกมาในไม่ช้า (เอะอะก็เอากำลังทหารโชว์ออกมาขู่ไว้ก่อนเลย ทำให้สถานการณ์มันตรึงเครียดไปทั่วโลกซะงั้น ทั้งที่ยังไม่มีความชัดเจน ใดๆ เลย อาจจะเพราะสร้างศัตรู หรือระแวงไปทั่ว ทำอะไรแต่ละครั้งแทบจะก่อปัญหาลากยาวตามมาโดยตลอด)

- มามะ กลับมาทางพ่อแซมบ้าง... ช่วงที่จีบนางเอกของเรานั้น ใบหน้ากับการเล่นที่แสดงสีหน้าเปิ่นๆ แข็งๆ เกือบๆ จะอารมณ์เดียวจะใช้ได้ดีตอนนี้ฮะ (แต่น้องแกแบกเอาไปใช้เกือบทั้งเรื่อง นั้นเลยกลายเป็นจุดด้อยในความคิดของข้าเจ้า ก็พัฒนากันต่อไป) ...ชอบนะ มุขเพลงจีบสาวที่ BB คอยช่วยตลอด แต่หุ่นนางเอกเราก็ใช่ย่อย ทำเอาเสียสมาธิทั้งแซมและก็คนดูด้วย (อิอิ อยากลองใช้มุขปลอดภัยไว้ก่อน มานั่งคาดเข็มขัดบนตักเดียวกันจังเลย) ไอ้ด้วยความหวังดีจะคอยปกป้อง ทั้งที่ยังไม่อยากแปลงร่างให้เห็นกันโต้งๆ ก็เล่นเอาแซมประสาทกินได้เหมือนกัน (หลอนดี โดนรถที่ไม่มีคนขับไล่ตาม) นำมาซึ่งการปะทะกันของ BB กับบาร์ริเคต หุ่นทีมีสโลแกนท้ายรถในซับไทยว่าผู้ “พิฆาต” สันติราษฎร์ (เออ เข้าใจแปล แต่ข้าเจ้าที่เขียนอ่านที่เขียนไว้ท้ายรถไม่ทันอะ ใครพอจำได้บ้างฮะ ?) เป็นหุ่นตัวนึงที่อาจทำให้หลายคนสับสนได้ว่า ตกลงมันรอดหรือไม่รอด เพราะตอนซัดกันกับ BB ก็แพ้ แต่ยังเห็นไปวิ่งไล่กวดแซมกับคู่หู โบนคลัชเชอร์ ตอนท้ายเรื่อง แถมยังไม่ได้เข้าไปนัวกับเค้าด้วย เลยน่าจะสันนิษฐานได้ว่า อาจจะรอดและแอบหนีไปกลมกลืนกับคนอีก ...ก่อนที่จะไปถึงตรงท้ายเรื่อง มาว่ากันกับฉากไล่กวดกันก่อน ได้ความรู้สึกกับ sound แบบ alternative ข้าเจ้านึกถึง gone 60 sec. แว็บนึงนะ แต่พอมาถึงตอนบาร์ริเคตปั่นล้อกลับตัวเพื่อไล่ล่า ฉากที่แช่ภาพไว้กับล้อแบบสปอร์ท (ไม่น่าต่ำกว่าแมกซ์ขอบ 17 นะ) โอยย... Need for speed ชัดๆ (ใครที่เคยเล่นจะยิ่งเข้าใจในความแสบของรถตำรวจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะยิ่งตอนโดนตามหลายๆ คัน) อ้อ..เห็นบางกระทู้ข้างล่างพูดถึงว่าตอนออกมาจากบ้านก่อนมาไล่ล่ากันของแซมบอกหัววัน (ที่แซมบ่นโมโจว่าเห่าแต่หัววัน) แต่ทำไมแป๊ปเดียวก็ค่ำแล้ว คืออย่าพึ่งเป็นประเด็นเลยฮะ นึกถึงบางคนที่นอนตื่นสายเป็นกิจวัตร หรือยิ่งพวกชอบตื่นมาทำกิจกรรมตอนกลางคืน ขอโทษฮะ..บ่าย 3 บ่าย 4 ก็เรียกว่าหัววันได้ฮะ...

- ต่อเนื่องมาที่ฉากเปิดตัวขบวนการ 5 สี ของ Autobots ตรงนี้อาจจะทำให้ดูไม่ทันมองไม่ออกตอนแปลงร่างได้นะฮะ นี่เป็นข้อเสียเปรียบสำหรับท่านๆ ที่นั่งไม่เกิน 6 แถวหน้าลงไป หรือไม่ถึงกลางโรง ข้าเจ้าว่าอาจจะเป็นเพราะด้วยความที่เป็นจอแบบโรงหนัง แต่หนังมันมีรายละเอียดที่เคลื่อนไหวในระดับที่เล็กและเยอะจนเกินกว่าความเร็วในการเปลี่ยนโฟกัสตาของการดูหนังจะเปลี่ยนทัน นี่ละมั้งเลยเป็นประเด็นให้บ่นกัน ซึ่งเมืองนอกอาจจะไม่เป็นอย่างนี้มากก็ได้ เพราะอาจจะมีแต่บ้านเรา ที่โรงหนังอยากได้ที่นั่งเยอะจนเพิ่มจำนวนที่นั่งใกล้ซะชิดจอขนาดนั้น ทั้งที่เป็นระยะที่ไม่เหมาะจะไปดูหนังแล้วล่ะฮะ ไอ้ 6 – 7 ที่จากจออะ ไม่ลองไปเทียบกับโรงหนังสยาม หรือ สกาล่าร์บ้างล่ะฮะ ที่นั่นเหมือนกับความเป็นโรงหนังมันยังคงรูปแบบโรงมหรสพได้อย่างถูกต้อง มีระยะห่างที่พอเหมาะ อย่างนี้ คนดูก็ไปโทษหนังกันหมดดิ เค้าเคืองนะ (อิอิ) ... การเปิดตัวถ้าหุ่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมๆ อย่างในการ์ตูน แล้วจะมาทำเป็นหนังไปทำไมล่ะฮะ ดังนั้น ขึ้นชื่อว่าสปีลเบิร์ก ไดโนเสาร์ยังอุตส่าห์สร้างจินตนาการให้กลายเป็นต้นแบบของหลายๆ เรื่องไปแล้ว นับประสาอะไรที่จะไม่ทำหนังเรื่องนี้ให้เป็น prototype ของหุ่นยนต์สเกลยักษ์แปลงร่างได้บ้างล่ะ แต่อย่างว่าฮะ ครั้งแรก มันก็ยากอยู่กับการเป็นผู้นำกระแส ด้วยความที่อยากให้สมจริง พอเวลาสีเหล็กเปื้อนน้ำมันกับความมืด แสงเงาของเส้นสายมันเลยออกมาเหมือนๆ กัน ถ้าไม่จับไปสแกนสีรถหรือพาหนะเพื่อแยกให้ชัดเจน จะนรกยิ่งกว่านี้ (ข้าเจ้าคงไม่ขอเจาะไปถึงคอนเซ็ปเรื่องสาเหตุที่ต้องแปลงเป็นรูปแบบที่ต่างกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่ายยังไงนะฮะ คาดว่ากระทู้ล่างๆ อธิบายกันมาแล้ว หรือไม่ก็ให้ท่านอื่นมาแชร์ๆ กันบ้าง) ...ตัวนึงที่ข้าเจ้าเสียดายและก็ชอบในลีลากวนๆ แบบ rapper ก็คือ Autobots Jazz ตัวนี้รู้สึกในการ์ตูนจะเก่งมาก ในหนังไม่น่าให้มีบทบาทน้อยเลย (ชอบที่มันจะ act ท่าไปมา กวนๆ ให้อารมณ์พี่มืดมาดแร็พตอนแนะนำตัว) ...ฉากประทับใจของทั้ง 5 ตัวก็น่าจะเหมือนกับหลายๆ ท่าน (ก็ฉากอีแอบนั่นแหละ แอบได้ใจมาก แอบซะจนพอพวก sector 7 มา ยังไม่รู้เลยว่ามันไปแอบกันอยู่แถวๆ นั้น แถมตามไปดักหน้าได้ก่อนซะอีก นินจามากๆ อิอิ)

- จะว่าไปฉากต่อเนื่องมาก็สามารถเรียกน้ำตาได้สำหรับบางท่านนะฮะ (ฉากที่ยอมเสียสละโดนจับเพราะดันกลายร่างออกมาช่วยรับตัวทั้ง 2 คนไว้) เพราะ BB เล่นสีหน้าแววตาได้สมจริงซะจนรู้สึกร่วมได้ว่านี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน แถมเป็นเหมือนกับจับเด็กวัยรุ่นไร้เดียงสาแบบพึ่งออกสมรภูมิครั้งแรกอย่างนั้นซะ เสียดายที่น้องไชยา มิตร...เอ๊ย! ไชอา เล่นได้แข็งเกินไป Acting ยังแข็งอยู่มากกับฉากแบบนี้ เลยดึงอารมณ์ดราม่าหนักๆ จากฉากนี้ไม่ค่อยจะได้ (แถมยังแสงไฟที่แยงย้อนออกมาก็ยิ่งไปกันใหญ่ จะซึ้งเศร้าเลยไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลย) ทั้งๆ ที่มีซาวด์หายใจหอบฟืดฟาด แบบครางๆ เหมือนคนหายใจไม่ออกเพราะหนาวมากของ BB ประกอบแล้วนะ..อืม หลายๆ ท่านอาจจะรู้สึกว่าฉากแถวๆ นี้ทำได้ไม่ค่อยสุด (ยังมีอีกบางที่เหมือนกันที่ออกแนวเรียกน้ำตาได้) เลยยังไม่ค่อยเต็มที่กับเรื่องนี้ ..ส่วนฉากต่อๆ มาก็เป็นไปตามสูตรหนัง Sci-fi action ฮะ ที่จะแปลกเล็กน้อยก็ช่วงการเดินเรื่องตัดต่อที่กระตุกกระชากนิดนึง จากที่ยังเป็นลูกน้องจู่ผู้หมวดก็มาสั่งการฉะฉานมาดผู้นำข่มทุกคนไปเลยซะงั้น (แต่ว่าหลายท่านชอบเพราะเท่ห์ดี เพียงแต่มันข่มแม่แต่นายตัวเองอย่างรมต.ไปซะงั้น) กับมาดนักบู๊หลุดวัยของรมต. DOD ซึ่งจริงๆ ข้าเจ้าเองก็ใช่ว่าไม่ชอบนะ คิดว่าตัวจอห์นเองก็อยากจะมีส่วนบู๊ในเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะมันใกล้เคียงกับคำว่าลืมแก่จริงๆ เพียงแต่เกินบทความเป็นรมต. อย่างที่เราเคยเห็นจนชินตา (จะยกเว้นก็ บท ปธน. ใน ID4 เท่านั้นที่ไม่ค่อยมีใครบ่นว่าเวอร์เกิน หรือใน Air force 1 )
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 05:22:10
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 04:26:15

จากคุณ : _K_F_C_ - [ 5 ก.ค. 50 04:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24

- การไล่ล่ากันบนถนน ไปจนถึงช่วงฟรีเวย์ก่อนเข้าตัวเมือง เป็นอะไรที่เริ่มทำให้คนดูบางท่านเริ่มมึนได้ฮะ ข้าเจ้าคิดว่า อาจจะเกิดจากความที่เบย์เองพยายามจะให้กำกับภาพออกมาแบบไม่มีโฟกัสกลางจอ หรือในมุมมองทั่วๆ ไป เพราะจากที่ดู มันเหมือนกับแสดงถึงมุมมองเสมือนจริง กรณีที่เราอยู่ในเหตุการณ์จริง ในหนัง เราจะเห็นการสู้กันของโบนคลัชเชอร์กับไพรม ที่นัวเนียกัน (บางท่านก็บ่นอุบเลยฮะว่าแยกไม่ออก เชื่อมั้ย นั่นอาจจะเป็นเจตนาจริงๆ ของเบย์ก็ได้) จะไปอยู่ขอบๆ จอบมากกว่า เวลาดู ข้าเจ้าดูแบบเหลือบๆ ฮะ ช่วยได้เยอะ (ด้วยความที่ตัวข้าเจ้าเอง เล่นเกมส์แนวที่ต้องใช้การมองแบบกวาดผ่านๆ แล้วก็ประมวลผลไวๆ อย่าง Counter strike หรือ NFD4 มาก่อน) คือบางฉาก พอเรา stop ภาพ จะพบว่าองค์ประกอบมันจะไม่บาลานซ์ น้ำหนัก Prop. ในจอจะเทไปข้างใดข้างหนึ่ง มันจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเหมือนเวลาดูภาพถ่ายที่ถ่ายมาแบบไม่ค่อยดี เอียงๆ กองข้างใดข้างหนึ่ง เคยมั้ยฮะ แบบนั้น? ที่นี้เนี่ย เราต้องไม่ลืมว่าที่เราดูอยู่ในโรงตอนนี้ เป็นภาพเคลื่อนไหวที่มี rate สูงไม่ใช่ภาพนิ่ง แต่ด้วยรายละเอียดใน TFM ที่ค่อนข้างจะเยอะมาก (คือใน 1 เฟรมหนัง อาจจะมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญๆ แบบเป็นประเด็นได้ แล้วแต่ละบุคคลจะถือเอาเป็นสำคัญให้ต้องเพ่ง) เลยเป็นปัญหาสำหรับบางท่านที่ไปดูเรื่องนี้แล้วเผลอไปพยายามเพ่งดูรายละเอียดการเคลื่อนไหว ทีนี้มันเป็นแบบต่อเนื่อง บางท่านตามไม่ทันเลยเกิดอาการ lack อยู่บ้าง อาจจะพาลให้ดูไม่สนุกไปเลยก็ได้ (ทั้งที่หนังอย่าง Matrix นั้นมีอาการที่ว่านี้หนักข้อกว่าเยอะมาก) ก็เลยลองแนะนำให้ดูรายละเอียดแบบผ่านๆ แว็บๆ จะดีมากถ้าได้นั่งแถวหลังๆ แล้วจะเห็นว่า ท่วงท่าการต่อสู้ของฝ่าย Autobots จะเท่ห์มากๆ เป็นอะไรที่ปราดเปรียวคล้าย sunny ใน I, robot จริงๆ อย่างตอนแอบซ่อนหลังเสาปล่อยดาบ แววตาของไพรมก็แสดงถึงความเอาจริง (มีหรี่ตานิดๆ ) การจับกด ทุ่ม หรือการชกโบนคลัชเชอร์ตาถลนตามด้วยดาบซ้ำเพื่อตัดหัว เป็นอะไรที่ ...หืมม.. ตูอยากเห็นมานานแล้ว เพราะเป็นซีนที่ต่อเนื่องมาก แม้แต่เด็กไม่ร้องไห้ตกใจ แต่ดันอุทานว่า “เจ๋ง” ออกมาเลย ...ในจุดนี้จะเห็นว่าบาร์ริเคตหายหัว..! อ๊ะ แน่นอน หุ่นฝ่ายตัวร้ายส่วนใหญ่มักหาลูกน้องกล้าหาญน้อยมาก ขนาดขี้โมโหเจ้าอารมณ์อย่างโบนคลัชเชอร์ยังโดนขนาดนั้น แล้วลูกคู่ตัวเล็กอย่างนั้นจะไปสู้ทำไม อิอิ (แหม... มันต่างกันน่ะ ระหว่างชั้น Scout กับ War lord อย่างไพรม)

- มาว่ากันในเมือง นี่ยิ่งดูไม่รู้เรื่องกว่าเมื่อกี้นี้อีกสำหรับท่านที่ปัญหาการดูอย่างที่ข้าเจ้าว่า ซึ่งเทคนิคการเดินกล้องแบบในสมรภูมิรบ ยิ่งทำให้ปวดหัวกันไปใหญ่ (สังเกตว่าเทคนิคเดียวกันอย่างใน Black hawk down แต่เรื่องนั้นอาจจะดูรู้เรื่องกว่า อาจจะเกิดการเปรียบเทียบได้ว่าถ้าเป็น ริดลี่ย์ มาทำแทนเบย์ ตัวหนังจะออกมายังไง) เลยเสียดายแทนสำหรับท่วงท่าการต่อสู้ การยิง ความรู้สึกแบบหวาดผวา ไม่รู้ว่าเจ้าหุ่นต่างดาวมันจะโจมตีมาทางไหน เมื่อไหร่ ( เนื่องจากเดิมที สำนึกคนเรากับสิ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาดนั้น โดยเฉพาะหุ่นยนต์ เราจะเข้าใจว่ามันเชื่องช้า แต่หลังจากที่ต่อสู้กันแล้ว ต้องมาตระหนักว่า เร็วกว่าคน ทำให้กลัวได้ จนอาจจะมีความรู้สึกว่าสู้อยู่กับอะไรที่เหนือกว่ามากในเรื่องการเคลื่อนไหวและความคิด) ยิ่งเจอกับการผลุบๆ โผล่ๆ ยิงไปมาอย่างบรอลด้วยแล้ว ไหนจะมีสตาร์สครีมกับแบลกเอาท์ที่แปลงร่างกลับไปกลับมาอีก น่ากลัวชะมัด ...แต่เท่ห์นะ ท่าสไลด์แบบเข้ามาขวางทางแซมของสตาร์สครีม มันดูคล่องแคล่วเกินความเป็นแค่หุ่นยนต์ธรรมดาดี (หุ่นในใจหลายคนเลยมั้งน่ะ เพราะแปลงร่างจาก F-22 เล่นของแพงได้เท่ห์จริงๆ ภาคต่อน่าลองเป็น F-35 เลยดีมั้ย งานนั้นเบรกกลางอากาศได้เลยนะ) บางท่านว่าทำไมต้องในเมือง ข้าเจ้าก็ว่าแบบกำปั้นทุบดินเลย “ก็เดี๋ยวไม่มันอะดิ” อิอิ ...ฉากการต่อสู้แบบต้องคอยยิงไป กลิ้งแบบเท่ห์ๆ ไป ของคู่แรทซิทกับไอรอนไฮด์ ก็เท่ห์ไม่หยอก (ยิ่งตาไฮด์ ทำให้นึกไปถึง will smith เวลาดวลปืนแบบต้องเท่ห์ไว้ก่อน คิดได้ไงอะ...ยิงพื้นโดดหลบจรวด แถมมีตีลังกาหมุนตัว slow แบบเท่ห์พร้อมกับยิงออกมาด้วย Bad Boy ชัดๆ ) ดูมีคาร์แรกเตอร์แบบการ์ตูนดี ...ส่วนตัวร้ายของเรา ก็เดินกร่างท่าเหี้ยมใช้ได้ (ยิ่งเมกกะตรอนมาได้เสียง ฮิวโก้ วิฟวิ่ง ด้วยแล้ว ยิ่งดูน่าเชื่อถือในเรื่องคาร์แรคเตอร์ตัวร้ายเข้าไปใหญ่ ใครนึกไม่ออกก็นึกถึงตอนเฮียแกเป็น เจ้าหน้าที่สมิท ใน Matrix ภาค 1 ตอนสอบสวนมอร์เฟียสดู) คือ..ดูๆ แล้วหุ่นยนต์ในเรื่องนี้ พยายามแสดงท่าทางคาร์แรกเตอร์ให้เรารู้สึกว่าไม่ใช่เครื่องจักรเครื่องกลนะ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หนึ่งเลย ซึ่งเป็นเรื่องจากยากอยู่ที่จะให้ภาพลักษณ์แบบนั้นสามารถเรียกความรู้สึกแบบนี้ได้ ถ้าไม่ผ่านการพยายามออกแบบทั้ง Model และก็ motion ออกมาอย่างมีระบบ ยิ่งต้องให้จัดเรทให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ คิดแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ...การแก้ปัญหาเรื่องดูไม่ทัน แยกไม่ออก ก็ลองเอาวิธีของข้าเจ้าไปใช้ดูก็ได้นะฮะ เข้าใจว่าบางท่านอาจจะอยากรอเป็น DVD ก็ได้ แต่ก็อย่างว่า หนังเค้าจงใจทำมาในสเกลที่ดูมันสุดๆ ต้องในโรง ของอย่างนี้แล้วแต่สะดวกมากกว่าฮะ (นี่ถ้ามันฉายแบบ IMAX 3D ได้ มันจะเป็นยังไงนะ) ยิ่งความอลังการในการต่อสู้ที่ต้องมาเปรียบเทียบสเกลตลอดเวลา หืมม....

- สำหรับท่าไม้ตายของแต่ละตัว ข้าเจ้าก็จำไม่ค่อยได้แล้วอะฮะ ว่าวิธีสู้ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละฝ่ายเป็นไงบ้าง ได้เลาๆ ก็อย่างเมกกะตรอนที่สามารถแปลงร่างเป็นปืนยิงได้ ในเรื่องตอนปะทะกับไพรม จะเห็นเป็นท่ารวบมือเพื่อสร้างปืนออกมายิงน่ะฮะ เจ๋งดี ...หรืออย่างการประสานงานระหว่างแรทชิทกับแจ๊สในช่วงแรกที่เล่นงานบรอล นั่นก็มันดี ...แต่ก็นะฮะ งานสเกลใหญ่ก็ต้องแลกกับความลำบากในการแยกประสาทตา งานนี้คงต้องพึ่งดีวีดีมานั่งดูล่ะฮะ ... (ลองเปรียบเทียบกับหนังแนวนี้ของญี่ปุ่นดู เวลาจะชักอาวุธพิเศษ หรือเล่นท่าไม้ตาย เค้าไม่ค่อยรีบ จะชักช้าๆ จะได้เห็นชัดๆ แต่ว่าเรื่องนี้มันหลายตัวจัด ยังนึกอยู่เลยว่าถ้ามันไปถึงภาค dino bot จะยิ่งวุ่นวายกว่านี้มั้ย...

- สุดท้ายก็มาที่ช่วงตอนจบเจ้าปัญหา (หรือป่าวหว่า) บางท่านว่าจบห้วน ตายง่ายเกินไป นี่ก็อาจจะเป็นจุดด้อยก็ได้ เพราะมันน่าจะเกิดจากความตั้งใจที่เรื่องนี้จะสร้างภาคต่ออยู่แล้ว หรือว่าเป็นเพราะคาดเดาในตัวคนดูหนังว่าพอจะเดาธีมของหนังได้ว่าเนื้อเรื่องมันไม่ได้มีอยู่แค่นี้ (จริงป่าวฟะ เอ็งมารู้ความคิดอั๊ว ได้ไง ใครมันจาเป็นแฟนหนังเรื่องนี้มาก่อนกันหมดทุกคนล่ะฟ่ะ) เลยเหมือนไม่จบในตัวนิดๆ งานนี้ถ้าภาคต่อออกมาไม่ดี มีสิ้นชื่อกันแน่ๆ อิอิ... อันว่า End credit ที่ไม่ยักกะจะบอกกันเลยมามีแถม เออ นะ..! เอาเป็นว่า ใครที่เผลอลุกออกมาก่อน ข้าเจ้าก็จับใจความได้ว่า เป็นเสียดสีแดกดันรัฐบาลบุชชุดนี้อย่างแสบ “ถ้ามี alien บุกมาจริงๆ รัฐบาลก็คงจะบอกประชาชนอยู่แล้ว แบบว่า ‘อุ๊ย! เร้ว..รีบมาหลบเร็ว’” ประชดเรื่องผู้ก่อการร้ายที่ทั้งที่หน่วยข่าวกรองรู้อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังปิดบังจนสายเกินแกงอย่างในหนัง แล้วก็ท้ายของท้าย (น่าจะที่สุด) ก็เชื้อที่ทิ้งไว้ Star scream บินหนีออกไปนอกโลก ให้เราคิดกันไปต่างๆ นานา ...”จะกลับบ้าน” “จะไปเที่ยวแก้เซ็ง” “จะตาย”.... “จะไปตามพวก...!”
โอยยย....จบซะที แชร์ซะยาวเลย แฮะๆ ต้องขอโทษหลายๆ ท่านที่หลงเข้ามาอ่านซะยาว เข้าใจว่าหลายๆ ท่านคงแชร์กันไปกระทู้ข้างล่างกันเยอะแล้ว งั้นทู้ข้าเจ้าก็ไม่ต้องคิดมากฮะ ไม่ได้บังคับแชร์ แต่โหวตข้างบนได้ฮะ อิอิ
เดือนเพ็ญ
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 05:33:17

จากคุณ : _K_F_C_ - [ 5 ก.ค. 50 04:23:01 ]