ความคิดเห็นที่ 1 อาถรรพ์ฯ 2 ได้ไหมคะ เพราะว่ากำลังอ่านถึงเล่มนี้พอดี... ต้องส่งการบ้านเมื่อไหร่คะ? จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 13 ก.ค. 50 19:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กำลังติวเข้มดงมรณะอยู่เพิ่งจบเล่มแรก ขอเปิด   ดงมรณะเล่ม ๒ ครับ จากคุณ : ปฏิทิน - [ 13 ก.ค. 50 20:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมรับ ไพรมหากาฬ 1 นะคร๊าบ จากคุณ : บุรุษพเนจร - [ 13 ก.ค. 50 20:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอไพรมหากาฬ 2 แล้วกันค่ะ จากคุณ : .. (Yamashiro) - [ 13 ก.ค. 50 21:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุญาตออกความเห็นครับ   ไหนๆก็มีคนอาสาค้นหาแมลงกับงูกันแล้ว  ทำไมไม่หาสัตว์ทุกชนิดไปด้วยเลยล่ะ สัตว์อะไร มีกี่ตัว จะได้เสร็จทีเดียวไปเลย   เผื่อท่านต้องการเตรียมหาสัตว์อย่างอื่นอีกไงล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 22:20:49 จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 13 ก.ค. 50 22:18:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รับดงมรณะเล่ม 4 น่ะคะ งั้น เอาทุกประเภทเลยน่ะค่ะ   แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 23:20:51 จากคุณ : Cute Latae - [ 13 ก.ค. 50 23:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งั้นผมรับ ไพรมหากาฬ 3 ละกันคับ ช่วยอีกแรง ตกลงเอาสัตว์ทุกตัวเลยเนาะ ส่งการบ้านเมื่อไหร่อ่ะคับ จากคุณ : .+*^*+.ริวซากิ.+*^*+. - [ 13 ก.ค. 50 23:18:26 A:203.113.50.13 X: TicketID:095976 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจากคิดทบทวนดูแล้ว แงซายจอมจักรา น่าจะมีสัตว์น้อยสุด เดี๋ยวรับ แงซายจอมจักรา เล่ม 2 แล้วกันค่ะ จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 13 ก.ค. 50 23:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเป็นป่าโลกล้านปี 4 จ้ะ จากคุณ : ภคิน - [ 13 ก.ค. 50 23:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งั้นเอาตามที่คุณโอจิเสนอเลยละกันนะคะ นอกจากแมลงกับงูแล้ว ก็หาสัตว์ชนิดอื่น ๆ ด้วยเลย เดี๋ยวจะไปอัพเดทรายชื่อข้างบนอีกทีค่ะว่ามีใครอาสาเล่มไหนแล้วบ้าง จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 13 ก.ค. 50 23:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จอมผีดิบมันตรัย 1 ค่ะ เล่มเดิมของเรา จากคุณ : Mera - [ 13 ก.ค. 50 23:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ช่วย ป่าโลกล้านปี เล่ม 3 จ้า จากคุณ : Wormy707 - [ 14 ก.ค. 50 00:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วย จอมผีดิบมันตรัย 3 จ้า (เหมือนลอก Wormy เลยแฮะ เปลี่ยนแค่ชื่อตอนอย่างเดียว^^) จากคุณ : สหายน้อย - [ 14 ก.ค. 50 02:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 งั้นขอตอนอาถรรพ์นิทรานครเล่มสามละกันคะ จากคุณ : pomb_pomb - [ 14 ก.ค. 50 02:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หมด อะยังหว่า เอา แงซายจอมจักรา 4 แล้วกัน ครับ รู้สึกว่าจะไม่มีซักตัวเลย อิอิ ถ้าจำไม่ผิด จากคุณ : gogo777 - [ 14 ก.ค. 50 06:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มองข้ามม้าไปได้ยังไงล่ะคุณโก้  อิอิ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 14 ก.ค. 50 08:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มารับอาสาช่วยหาในดงมรณะเล่ม 3 ค่ะ กำลังจะอ่านพอดี จากคุณ : waisayanee - [ 14 ก.ค. 50 08:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อาสาช่วย แงซายจอมจักรา 3 ครับ ไม่รู้มีใครจองหรือยัง จากคุณ : Thaneth - [ 14 ก.ค. 50 09:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 งั้นผมรับ "ไพรมหากาฬ 4"  ละกันครับ จากคุณ : ChocolateMousse - [ 14 ก.ค. 50 09:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาช่วยหลานโอจิทำงานละกันจ๊ะ ป้าดาริอาสา  ดงมรณะ 1 แล้วกันนะจ๊ะ แล้วงานส่งที่ หลานโอจิโดยตรงละกันนะ จากคุณ : ดาริเมยา - [ 14 ก.ค. 50 10:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณทุกคนค่ะ คุณดาริฯ คะ ถ้าจะส่งที่คุณโอจิโดยตรงก็ได้ แต่ยังไงก็ขอให้นำมาโพสต์ในนี้ด้วยได้มั้ยคะ วีจะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดทีเดียว เพราะเราหาข้อมูลของสัตว์ทุกชนิด วีกะว่าพอสรุปข้อมูลได้แล้วจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้ปู่อุปฯ หรือคุณเป๋าฯ แล้วจะแยกข้อมูลของแมลงกับงู ส่งให้คุณโอจิ กับ คุณ-นายเค อีกทีนึง แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 13:39:42 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 21:41:37 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 17:57:42 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 11:53:29 จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 14 ก.ค. 50 11:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 งั้นผมช่วยจอมผีดิบฯ เล่ม 2 ละกันครับ จากคุณ : ล่องฟ้า - [ 14 ก.ค. 50 12:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดาริกลัวจะส่งไม่ทันพุธละคะถึงได้ขอส่งให้หลานโอจิโดยตรง แต่ดาริจะพยายามนะจ๊ะ ปล.เด๋ว ทำต้นไม้เผื่อด้วยละกันคะ คาดว่างวดต่อไปอาจจะต้องหาว่ามีต้นไม้อะไรบ้าง จากคุณ : ดาริเมยา - [ 14 ก.ค. 50 12:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอส่งให้โอจิโดยตรงเลยนะคะ ไม่แน่ใจว่าวันพุธจะเสร็จหรือไม่ แบบที่ดาริว่าค่ะ จากคุณ : ภคิน - [ 14 ก.ค. 50 15:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอเป็น แงซายจอมจักรา 1 และกันค่ะ แล้วให้เอามาโพสไว้ในกระทู้นี้ใช่มั้ยค่ะ ยังไงจะรีบทำค่ะ จากคุณ : Aomsiano_วราฤทธิ์ (Aomsin_Feehily) - [ 14 ก.ค. 50 17:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะ... ขยายเวลาไปถึงวันอาทิตย์หน้าก็ได้ เผื่อใครมีธุระหรือติดงาน จะได้มีเวลาทำทั้งอาทิตย์ + ช่วงวันหยุด ถึงจะช้าหน่อย หรือจะส่งให้คุณโอจิเลยก็ได้ แต่ก็ขอให้นำมาโพสต์ในนี้ด้วยเถอะค่ะ คือเกรงใจคุณโอจิน่ะค่ะ เพราะกลัวว่าถ้าส่งข้อมูลให้คุณโอจิโดยตรง เดี๋ยวกลายเป็นว่า คุณโอจิจะต้องมานั่งสรุปข้อมูลสัตว์ทั้งหมดอีก ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้คงง่วนอยู่กับการเตรียมตัวศึกษาเรื่องการเลี้ยงแมลง วีเห็นว่าไหน ๆ ก็เป็นคนมาโพสต์กระทู้แล้ว ก็เลยยินดีและเต็มใจที่จะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้ เพียงแต่ขอให้ได้ข้อมูลครบทุกเล่มเท่านั้น ใครมีความเห็นยังไง เชิญเสนอได้นะคะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 18:17:28 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 18:09:06 จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 14 ก.ค. 50 17:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รับอาสา  ป่าโลกล้านปี เล่ม 1  นะคะ จากคุณ : @^^@ (khattykha) - [ 14 ก.ค. 50 19:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อยากช่วยครับ แต่ตอนนี้ไม่อยู่บ้าน ไว้คราวหน้าช่วยแน่นอน จากคุณ : ลุดวิก - [ 14 ก.ค. 50 19:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไหนๆคุณvivee (vivee_t) ก็รับอาสารวบรวมข้อมูลให้แล้ว  ก็ส่งในนี้เลยครับพี่ภคินกับป้าดาริ  ไม่ต้องส่งให้ผมโดยตรงหรอกครับ คุณวีจะได้สรุปทีเดียวไปเลยครับ (จุ๊จุ๊.. อย่าบอกใครล่ะ จริงๆแล้วกลัวได้งานเพิ่มอ่ะ  อิอิ) จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 14 ก.ค. 50 22:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สรุปแงซายจอมจักรา เล่ม 2 สัตว์ - กวาง 3-4 ตัว [บทที่ 175 หน้า 575] - ปลา (เอามาย่างกิน)[บทที่ 178 หน้า 640] - กองทัพม้าแห่งมรกตนคร 200 ม้าเศษ [บทที่ 180 หน้า 739] - เหยี่ยว 4-5 ตัว [บทที่ 180 หน้า 748] - กองทหารม้าของเมยานี 50-60 ม้า [บทที่ 184 หน้า 1032] - สัตว์เทียมเกวียน (ไม่รู้ว่า วัว ควาย หรือ ม้า) [บทที่ 184 หน้า 1055] แมลง - ผีเสื้อหลากสี [บทที่ 178 หน้า 618] - ผึ้งหลวง (รัง) [บทที่ 178 หน้า 640] พืช - สนภูเขา (ตัดมาใช้เป็นไม้ถ่อพยุงตัวระหว่างเดินตามหิมะ) [บทที่ 176 หน้า 570] - ต้นสน (สีเขียวตัดกับสีขาวของหิมะ) [บทที่ 176 หน้า 574] - ทุ่งหญ้าป่าโปร่ง [บทที่ 178 หน้า 619] - กล้วยป่า [บทที่ 178 หน้า 641] - ต้นกก หญ้าขน ลูกเดื่อย ข้าวกล้อง [บทที่ 178 หน้า 641] - ต้นไม้ใหญ่ สูงตระหง่านอันมีลักษณะเหมือนฉัตรยักษ์ [บทที่ 178 หน้า 641] - ทุ่งหญ้า ป่าละเมาะ [บทที่ 180 หน้า 762] - ไร่ฝ้าย ข้าวโพด และข้าวสาลีเต็มนา และสวนทั้งที่ราบสูงและที่ราบต่ำสุดแต่ลักษณะของภูมิประเทศ [บทที่ 180 หน้า 762] - ไร่นาสลับป่าละเมาะ....ท่ามกลาสีเหลืองสลับเขียว อันเป็นสีของพืชพันธุ์ในนาและแมกไม้พุ่มพฤกษ์เหล่านั้น [บทที่ 181 หน้า 799] - ณ ร่มไม้ใหญ่เหนือลม ห่างจากหมู่บ้านอันเต็มไปด้วยศพและซากโรงเรือน [บทที่ 182 หน้า 738] แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 02:55:40 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 00:11:37 จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 14 ก.ค. 50 22:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แวะมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ อยากช่วยแต่ใกล้สอบแล้วต้องอ่านหนังสือ แบบว่าเป็นเด็กเรียนอ่ะค่ะ จากคุณ : มะขามซ่า - [ 14 ก.ค. 50 23:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สรุป ป่าโลกล้านปี เล่ม 3 สัตว์ บทที่ 146 - นีลา วายา และลิงใหญ่แห่งภูเขานิลกาญจน์ (ลักษณะโดยละเอียด คาดว่าบรรยายไว้ในป่าโลก เล่ม 2 นะีคะ) - ไทรเซราทอปส์ (ไอ้สามเขา) - แมงมุมหกขา บทที่ 149 - เก้ง กวาง รูปร่างลักษณะและสีสันแปลก (แต่ไม่ได้บอกว่าแปลกยังไง) บทที่ 151 - งูเห่าสีเผือกขาวนวล ใหญ่ขนาดข้อมือของคะหยิ่น ก้านคอแลเห็นดอกจันทร์ลายพร้อยชัดเจน แมลง บทที่ 149 - ฝูงแมลงที่ดมดอมวนเวียนสูดเกสรดอกไม้ พืช บทที่ 149 - ทุ่งไม้ดอกประเภทล้มลุก ยืนต้นสูงขนาดเข่า ออกดอกสะพรั่งเป็นสีเหลืองทองอร่ามไปจนสุดลูกหูลูกตา - ทุ่งหญ้าขนที่ออกดอกปุยกระทบสายลมยามสายไหวลู่เป็นระลอก บทที่ 150 - ผงที่บดละเอียดสีเทาห่ออยู่ในใบบัวแห้ง (ยาไฟประลัยกัลป์) บทที่ 154 - ดงว่านประหลาด ออกดอกสีม่วงสะพรั่งไปหมดมีกลิ่นจากเกสรดอกในลักษณะยาสลบ หรือมิฉะนั้นก็ทำลายประสาทอย่างเฉียบพลันรุนแรงที่สุด แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 50 21:58:55 จากคุณ : Wormy707 - [ 15 ก.ค. 50 00:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมขออนุญาตแนะนำว่าลอง  list รายการ ทั้งงูและแมลงนะครับ แล้วลองไปตั้งกระทู้ที่ www.siamreptile.com ดูครับ รับรองว่าได้ครบแน่ๆ ยกเว้นตัวแบบ แปลกเหลือเกินนะแหละครับ ผมมีงานอดิเรกเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานอยู่แล้วครับ (เคยไปแข่งแฟนพันธ์แท้สัตว์เลื้อคลานมาแล้ว) ขอโทษครับ ผมเองอ่านเพชรพระอุมามาตั้งเกือบ  20 มาแล้ว เข้ามาอ่านตลอด แต่ยังไม่เคยโพสก์เลยครับ จากคุณ : nattawut - [ 15 ก.ค. 50 09:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ส่ง มาให้ผม ได้ เลย เอา เล่ม ไหน ครับ ได้ หาให้ นะ ครับ จากคุณ : thanapatpp - [ 15 ก.ค. 50 10:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เจ้าตัวร้าย กะ wormy707 อ่านกันเร็วจังครับผมยังได้ไม่กี่หน้าเลย ผมว่าหาชื่อต้นไม้ด้วยตามที่ป้าดาริฯเสนอก็ดีนะครับ จากคุณ : ล่องฟ้า - [ 15 ก.ค. 50 11:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 งั้นวีขอถามความเห็นอาสาสมัครที่ลงชื่อไว้แล้วเลยดีมั้ยคะ ว่าเราจะหาข้อมูลต้นไม้อย่างที่คุณดาริฯ กับคุณล่องฟ้าบอกด้วยเลยมั้ย โดยเฉพาะคุณเจ้าตัวร้าย กับคุณ wormy707 และคนอื่น ๆ ที่กำลังอ่านอยู่ เพราะเท่ากับว่าจะต้องเริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกรอบนึง ถ้าตกลงตามนี้ เราจะได้หาข้อมูลทั้งสัตว์ และต้นไม้เลย ส่วนเวลาส่งการบ้าน เนื่องจากต้องหาหลายข้อมูล เอาเป็นว่าเสร็จเมื่อไหร่ก็มาโพสต์ละกันค่ะ แล้ววีจะคอยตามเก็บข้อมูลเรื่อย ๆ อีกที >> คุณ thanapatpp คะ เลือกเล่มที่ถนัด/ต้องการอ่านได้เลยค่ะ ตอนนี้เหลืออยู่ 3 เล่ม (ใน คห.21) >> คุณ nattawut ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 15 ก.ค. 50 16:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หาต้นไม้ไปด้วยเลยดีกว่าทำงานกันทีเดียวเลย แต่ขยายเวลาส่งการบ้านไปหน่อยและกันค่ะคุณวี เพราะอาทิตย์หน้าอาจต้องอ่านหนังสือสอบอ่าค่ะ ปีนี้มีเรียน biochem ด้วยอย่างหินเลยยย ...ไปทำการบ้านต่อนะคะ... จากคุณ : Aomsiano_วราฤทธิ์ (Aomsin_Feehily) - [ 15 ก.ค. 50 19:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอทำจอมผีดิบมันตรัยเล่ม 4 ค่ะ ส่งเลยละกัน บรรดาสัตว์ในจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 1. ค้างคาวดูดเลือด ร่างแปลงของพันธุมวดี 2. จักจั่นและพวกลองไนไม่ระบุจำนวน 3. สัตว์เลื้อยคลานและแมลงปีกแข็งไม่ระบุจำนวน 4. ปลาลำธารตัวโตขนาดข้อมือ 3-4 ไชยยันต์หาได้จากลำธาร 5. งูจงอางใหญ่ยักษ์สูงเทียมต้นเสลี่ยงยักษ์สันนิษฐานว่าเป็นงูจ้าว 6. เก้งหนุ่มเขางาม 1 ตัว รพินทร์ยิงเป็นอาหารในเช้าวันรุ่งขึ้นที่พ้น อุโมงค์ลำธารใต้ดินออกมา 7. จ่าฝูงโขลงช้าง 1 ตัวมีงาสีเหลืองจัดทั้งยาวแหลมจนเกือบระดินขนาดใหญ่มากน้องแมมมอส ช้างโบราณ และลูกโขลงคำนวณจำนวนไม่ถูก ที่รพินทร์ต้องใช้คาถาสะกดช้างตะเพิดไล่ไป 8. ช้างโขลงไม่ทราบจำนวนที่ล้อมบุญคำไว้บนต้นไม้แต่ละตัวขนาดเท่าภูเขางาลากดิน 9. แพะ แกะ วัว ควาย ที่บุญคำเห็นในภาพบ้านเมืองของนิทรานครในอดีตตอนที่ติดอยู่บนต้นไม้ 10. ตะกวดดงและสัตว์เลื่อยคลานหน้าตาแปลกไม่ทราบจำนวน 11. อีเห็นแผง 1 ตัว ใหญ่ขนดสุนัขอัสเซเชี่ยนที่ไชยยันต์กับเมย์ยิงเป็นอาหารมีรอยกระสุนทะลุสบักหน้าหนังถูกเปิดลอกไว้ครึ่งตัว ขาหลังด้านหนึ่งถูกมีดเฉือนตัดไป 12. ตะขาบยักษ์ตัวยาวร่วม 50 เมตร ลำตัวปานต้นรัง 2 ตัว ตัวที่ 2 ขนาดย่อมกว่าตัวแรก แต่ปราดเปรียวว่องไวกว่า 13. ค่างดำขนาดใหญ่ตัวหนึ่งรพินทร์ยิงเป็นอาหาร 14. เสือโคร่งดำร่างสิงของมันตรัย 15. หมีควายขนาดใหญ่เต็มที่ 1 ตัว ไชยยันต์ยิง 16. กองกอยเป็นกองทัพมาพร้อมกับวรมันต์ในร่างของแงซาย 17. หมูป่าขนาดใหญ่เขี้ยวขาวโง้งยาวออกมานอกปาก 18. เห็บป่าอยู่เป็นดง 19. ซากกระทิงที่พวกเชษฐายิงทิ้งไว้หัวเกือบเท่าครกตำข้าวที่พวกของรพินทร์ตามรอยไปพบ จากคุณ : กิ่งหลิว&ดอกเหมย - [ 15 ก.ค. 50 20:54:47 A:202.133.154.61 X: TicketID:148440 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เดี๋ยวจะทำพวกต้นไม้ต่อไปให้เลยนะคะ.... จากคุณ : กิ่งหลิว&ดอกเหมย - [ 15 ก.ค. 50 20:58:54 A:202.133.154.61 X: TicketID:148440 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สรุป ดงมรณะ เล่ม 4 ค่ะ  เล่มนี้ไม่มี งูเลยค่ะ เริ่ม ด้วยสรรพสัตว์ บทที่ 59   หน้า  1124   นกกลางคืน   ก่อนที่ไปช่วยมาเรีย ไชยยันต์ได้ยินเสียงนก บทที่  60 หน้า 1137    นกฮูก เกาะอยู่บนยอดกร่าง หน้า 1173    ชะมดแผง ตัวใหญ่ขนาดเสือดาว นกหว้า  ร้องมาจากเนินสูง มีเสียงคล้านเสียงกู่ร้องตะโกนของคน ค่างดำ 2-3 ตัว ส่งเสียงคิกครอก  แล้วกระโจนไปตามยอดไม้ บทที่  62   หน้า 1393  มี จักจั่น ,เขียด, ปาด   หลังจากที่ช่วยมาเรีย ได้จากพวก สางเขียว แล้วค่ะ หน้า 1257     หมาใน กว่า 100 ตัว  ช่วงที่ ดารินกับรพินทร์  ถูกหมาในที่ สางเขียวปล่อยมาตาม หน้า 1278    ค้าวคาว ในถ้ำ ที่รพินทร์ กับดาริน ขึ้นไปหลบหมาใน หน้า 1281 เสียงนกกลางคืน บทที่  64   หน้า   1361    กวางตัวใหญ่  ใช้มาเป็นอาหาร หน้า    1393    หลังจากหลับจากช่วยมาเรียแล้ว ป่ากลับมาเป็นเหมือนเดิม ช้างร้องเรียกลูกอ่อน, เก้ง ,กวาง อยู่ในดงมะปราง และ เสือดาว บทที่ 65 หน้า   1397  สิงโต มีตำหนิคือ ขนคอด้านบนเหนือแสกหน้าเป็นรอยกระจุยด้วยลูกปืนของพ่อมาเรีย มาเรียเล่าให้ฟัง                      (มีกล่าวถึงม้าลาย 6-7 ตัว ช่วงที่มาเรียตามสิงโต) หน้า  1409   กระรอกดง ตัวขนาดแมวเขื่องๆ มาเรียลองปืน หน้า  1414   กระรอกดงที่มีหางเป็นพู่พวง และท้องสีน้ำตาลไหม้ ดารินลองปืนของมาเรีย กระรอกดงทั้งสองตัว บุญคำเอาไปทำเป็นแกงป่า หน้า 1426 ปลาตัวเขื่องขนาดเกือบเท่าหน้าแข้ง 4 ตัว มาเรียกับดาริน จับปลาจากลำธาร ********************************************************* ตามด้วย พืช ค่ะ บทที่ 59 หน้า  1101   ดงไผ่   จุดที่แงซายยิงระเบิดใส่สางเขียว บทที่ 60 หน้า 1132 ว่านพระอาทิตย์  (http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5575836/A5575836.html) ใช้ตอนแก้ยาสะกด หน้า 1137  ต้นกร่าง  "นกฮูกร้องเป็นจังหวะอยู่บนยอดกร่งเหนือตีนเขา" หน้า  1160 รางจืด เป็นรากไม้ สำหรับแก้ ว่านพระอาทิตย์ หน้า  1173 กอเฟิร์น,ดงพลวง (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นพืชหรือเปล่าอ่ะค่ะ) " รพินทร์กวาดตาอย่างระแวงไปรอบด้าน ป่ายังอยู่ในอาการสงบเงียบงันไม่มีสิ่งใดกระโตกกระตากอยู่ตามเดิม แต่แล้วก็ต้องประทับไรเฟิลขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะปรากฏเสียงป่าลั่นสวบสาบขึ้นตรงดงพลวงเบื้องหน้า" บทที่ 61 หน้า 1194   พงหนามและเถาวัลย์ ทางที่คณะเดินทางไปบนหน้าผาของหมู่บ้านสางเขียวเพื่อช่วยมาเรีย หน้า 1195   ต้นมะค่า   เพื่อทำสะพานลิงไปที่หมู่บ้านสางเขียว หน้า 1200  ต้นตะเคียน,ต้นยาง  "ซึ่งบัดนี้แก้จากการมัดโยงอยู่กับแง่โขดหิน พอกลายเป็นเส้นเดียวกันก็นำไต่ขึ้นไปยังคาคบตะเคียนสูงที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ โยงรั้งไว้ ลากปลายไปผูกแน่นไว้ กับต้นยางอีกต้นหนึ่งเพื่อกันหลุด" บทที่ 65 หน้า 1393   เก้งกวางบีบเป้วอยู่ใน ดงมะปราง หน้า 1409  มาเรียก็ลองลูกปืนนัดแรกของหล่อนด้วยการยิงกระรอกดงตัวขนาดแมวเขื่องๆ ไต่อยู่บนกระหร่างสูงลิบ หน้า 1414  ต้นยาง  "หล่อนว่า แล้วก็เบนลำกล้องขึ้นไปยังต้นยางอีกต้นหนึ่ง" หน้า 1418  ต้นตะเคียน แงซายทดลองปืน .460 เวเธอร์บีแม๊กนั่มของดร.ฮอฟมัน หน้า 1426  ต้นไทร มาเรียกับดาริน หาปลาที่ลำธาร ************************************************************************************ สรุป สัตว์ในดงมรณะ เล่มที่ 4 1. จักจั่น     2. เขียด   3. ปาด  4. นกกลางคืน  5. นกฮูก  6. ชะมดแผง 7. นกหว้า  8. ค่างดำ  9. หมาใน 10. ค้าวคาว  11.  กวาง 12. ช้าง 13. เก้ง 14. เสือดาว  15. สิงโต  16. กระรอกดง  17. ปลา สรุปพืช 1. ต้นไผ่  2.ว่านพระอาทิตย์  3. ต้นกร่าง  4. รางจืด  5. กอเฟิร์น  6. ดงพลวง 7. พงหนามและเถาวัลย์  8.ต้นมะค่า  9. ต้นตะเคียน 10.ต้นยาง 11.ดงมะปราง 12. ต้นกระหร่าง 13. ต้นไทร ************************************************************* แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 50 05:39:37 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 50 05:38:56 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 50 05:31:57 จากคุณ : Cute Latae - [ 15 ก.ค. 50 22:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ยังอ่านข้อมูลไม่เสร็จ แต่แวะเข้ามาแล้ว เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มผังรายการ ก็ต้องขอโวยวายกันเล่น ๆ ซักยกหน่อยนะครับ ตอนแรก จั่วหัวข้อว่าให้ช่วยหางู กับแมลง ไหงมาเจอสองเด้งให้หาสัตว์ทุกชนิดเพิ่มเติมอีก ยัง ยังไม่พอให้หาต้นไม้ต่อ เจอสามเด้ง เข้าจนได้ ยังจะมีอะไรมาแถมอีกหรือเปล่าเนี่ย ด่วนจี๋รีบบอกนะครับ ยังอ่านไม่จบ ยังไง ๆ ก็แซวกันเล่น ๆ อย่าเผลอลบชื่อผมออกซะล่ะ ไม่งั้นอับอายขายหน้าชมรมรักเพชรฯ เป็นแน่ เต็มใจทำครับ ผมอ่านไป ก็มีความสุขสนุกสนานในเนื้อเรื่องไปด้วย เป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตของผมที่จับอ่านกี่รอบก็ไม่มีเบื่อ ช่วงนี้การอ่านต้องชะงักลงบ้างเล็กน้อย ผ่านที่ไหนไม่ยอมผ่าน ดันมาแวะผ่านพุเตยซะนี่ จำเป็นต้องเบรคซะก่อน ดึก ๆ อย่างนี้ชักเสียวสันหลัง ช่วงนี้คงหาเวลาอ่านตอนกลางวันน่าจะเหมาะดีกว่า แวะเข้ามารายงานข่าวคราวความคืบหน้า ยังไงก็ตาม ผมจะพยายามหามาให้ครบถ้วนกระบวนสาระพัดพืชและสัตว์ ทันกำหนดเวลาอย่างแน่นอนครับ จากคุณ : ปฏิทิน - [ 15 ก.ค. 50 22:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขออภัยคุณปฏิทินที่เพิ่มการบ้านขึ้นมาเรื่อย ๆ ค่ะ   วีอาจจะคิดไม่ละเอียดตั้งแต่แรก เพราะตอนแรกตั้งใจว่าจะช่วยคุณโอจิ กับคุณ นายเคหาข้อมูล จนมีเพื่อน ๆ มาเสนอให้หาข้อมูลอย่างอื่นด้วย ซึ่งวีก็ว่าดีเหมือนกัน ไหน ๆ ก็อ่านแล้ว แต่คิดว่าตอนนี้คงขอแค่ข้อมูลของพืชกับสัตว์แหละค่ะ ส่วนข้อมูลอื่น ๆ ถ้าจะมีการหา ค่อยหาอาสาสมัครกันใหม่ อยากเปลี่ยนหัวข้อกระทู้เหมือนกัน คนที่เข้ามาจะได้รู้ก่อนว่ามีการบ้านเพิ่ม แต่มันเปลี่ยนไม่ได้อ่ะค่ะ  -_-" จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 15 ก.ค. 50 23:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คุณวี เหลือกี่เล่มผมรับหมดเลยแล้วกันครับ พอดี ไม่ได้เข้า 2 วัน จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 16 ก.ค. 50 09:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 นั่นสิคะ เหลือเล่มไหนมั่ง จะได้ช่วยอีกแรง จากคุณ : lady little bear - [ 16 ก.ค. 50 10:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 13:27:32 จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 16 ก.ค. 50 11:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 2เล่มแล้วกันครับ ที่เหลือให้คุณแม่หมีแล้วกันครับ หา2อย่าง พืชและสัตว์นะครับ จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 16 ก.ค. 50 11:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ป่าโลกล้านปี เล่ม 2 ผม ขอ เล่ม นี้ ละ กัน จากคุณ : thanapatpp - [ 16 ก.ค. 50 11:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนนี้มีผู้อาสาครบทุกเล่มแล้ว ขอบคุณทุก ๆ คนนะคะ ตกลงว่าหาข้อมูลทั้งพืชและสัตว์เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 50 23:47:49 จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 16 ก.ค. 50 12:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณชายฯ คุณ วีวี่ จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 คุณ กิ่งหลิว&ดอกเหมย  ทำไปแล้วนี่ครับ แก้ไขด่วน จากคุณ : ล่องฟ้า - [ 16 ก.ค. 50 12:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอรบกวนอีกครั้งครับ(หลายครั้งจริงวุ้ย) สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ทำ หรือว่าทำไปยังไม่ถึงไหน  เนื่องจากผู้ที่ทำส่งกันมาคนแรกๆ จะไม่ได้บอกหน้ามาด้วยเพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด รบกวนบอกบทที่ หน้าที่เท่าไหร่ด้วยนะครับ สำหรับผู้ที่ทำเสร็จแล้วหรือจะส่งแล้ว ไม่ต้องแล้วก็ได้ครับ เนื่องจากว่าผมต้องการสรุปอกมาเป็นรูปเล่มน่ะครับ จะต้องมีการอ้างอิงด้วยอ่ะ ว่าแมลงหรือสัตว์ตัวนี้อยู่หน้าไหน บทไหนน่ะครับ คือถ้าจัดนิทรรศการจะต้องบอกว่า หน้าตาแมลงเป็นยังไง เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องยังไง แบบนี้อ่ะครับ  เพราะฉะนั้นจะบอกหน้ามาด้วย ม่ายงั้นผมจะกลายเป็นว่าได้ค้นเองอีกรอบครับ  ถ้ารู้ว่าอยู่หน้าที่เท่าไหร่นี่จะง่ายกว่ากันเยอะครับ ย้ำอีกครั้ง  ผู้ที่ทำแล้วไม่ต้องแล้วนะครับ ไม่กล้ารบกวนให้ทำใหม่ ขอวานเฉพาะกับผู้ที่กำลังทำอยู่เท่านั้นครับ  อิอิ บ่นมาได้เลยครับ  ยินดีรับฟัง แต่ไม่เกี่ยวกับคุณวีนะครับ  ระบายที่ผมดีกว่า  แหะๆ เพราะมันจำเป็นต้องมีหน้าอ้างอิง เพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด  คุณวีช่วยรวบรวมข้อมูลให้ผมด้วยนะครับ   ต้องขออภัยคุณวีและทุกท่านด้วยนะครับ  รบกวนเรื่องสัตว์ พืช เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆครับ ตามนี้ครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 12:29:58 จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 ก.ค. 50 12:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตามที่ดูตอนนี้มีคนทำทุกตอนแล้ว เสียดายจัง ไม่ได้เข้ามาแค่ 2 วันเอง งั้นก็ให้กำลังใจทุกคนที่กำลังหาข้อมูลแทนก็แล้วกันนะคะ ^_^ จากคุณ : lady little bear - [ 16 ก.ค. 50 12:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มีคนทำหมดแล้ว ไม่ได้เข้า 2 วัน แต่ว่าจะไปหาข้อมูล เรื่องงู จาก บ้านโคกสง่า ตามที่คุณ - นายเค ได้หลังไมค์มาแจ้งนะคะ มีข่าวคืบหน้า จะให้วินเทอร์ ทำเพิ่มเติมก็บอกได้ แต่ว่าให้ไปจับงูมาให้ไม่เอาเด้อ   ยังไงฝากขอข้อมูลเพิ่มเติมที่จะให้ไปจัดการจากคุณ- นายเค ด่วนก่อนวันที่ 25 นะคะ เพราะอาจไม่ได้เข้ามาอีก  เดี๋ยวบอกเบอร์ติดต่อที่หลังไมค์ อีกทีค่ะ จากคุณ : wynterblue - [ 16 ก.ค. 50 12:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เหอ ๆ ๆ ต้องทำใหม่ฤานี่ แต่ไม่เป็นไรครับเพิ่งอ่านไปได้หน่อยเดียวเอง จากคุณ : ล่องฟ้า - [ 16 ก.ค. 50 13:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ้าว... ดูไม่ละเอียด ขอโทษทีค่ะ และขอบคุณคุณล่องฟ้าที่บอกนะคะ ตกลงคุณเล็ก หาข้อมูลแค่ อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 ก็พอนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 16 ก.ค. 50 13:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อืมม...ถามคุณโอจิค่ะอย่างเรื่องพืชอ่าค่ะ คือคุณโอจิอยากได้ละเอียดแค่ไหนค่ะ อย่างบางตอนที่มีการอธิบายถึงภูมิประเทศว่า เป็นภูเขาสนสลับกับที่ราบเหมือนสนามกอล์ฟ มีหญ้าปกคลุมอย่างงี้เอามั้ยค่ะ... หรือเอาแค่ว่าไปเจอต้นไม้ประหลาดๆอะไรบ้างพอค่ะ จะได้ไม่เข้าใจสับสน... จากคุณ : Aomsiano_วราฤทธิ์ (Aomsin_Feehily) - [ 16 ก.ค. 50 13:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 56 บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ... ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ... บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ... ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ...บ่นๆๆๆ ... เข้ามาบ่นตามที่ขอครับ   แต่ไม่รู้จะบ่นเรื่องอะไร ก็เราไม่ได้ช่วยทำอะไรเลยนี่หว่า 555++ จากคุณ : ฟาฬ - [ 16 ก.ค. 50 14:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ฟาฬ เล่นคุณไสย เหรอเนี่ย ทำไมพี่เห็นแต่ไม้ยมก เต็มไปหมด เดี๋ยวจัดให้นะโอจิ กะ คุณวี สรุปว่า เสื้อผ้าหน้าผม เอ๊ย! ไม่ใช่ สัตว์ทั้งหลาย แมลง งู ต้นไม้ ว่าน เลขหน้า บทที่ ...หึหึ... จะมีอะไรม่ะ จากคุณ : ภคิน - [ 16 ก.ค. 50 18:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 58 รับทราบครับผม แล้วจะมารายงานครับ จากคุณ : เล็ก (ออกหลวงพิสุทธิ) - [ 16 ก.ค. 50 18:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รอบแรกขอเป็นรอบข้อมูลสัตว์ก่อนนะครับ หมายเลขหน้าอ้างอิงจากเวอร์ชั่นปกสีขาวครับ ตอนไพรมหากาฬ เล่ม 4 บทที่ 29 ==> แรดสองนอหรือกระซู่ตัวขนาดช้างรุ่น (หน้า 1069) ==> เหลือบตัวเล็กๆฝูงหนึ่ง (หน้า 1075) ==> มหิงสาเขาเกก (หน้า 1079) ==> ตัวขนาดช้างหนุ่ม อายุมาก แก่จนเขากร่อน น้ำหนักตัวน่าจะมากกว่ากระซู่ ส่วนกว้างงที่สุด กลางลำตัว ขณะที่ล้มตะแคง เชษฐากับแงซายยืนอยู่คนละด้าน เชษฐายื่นส่งมีดเดินป่ายาวศอกเศษให้แงซายซึ่งเอื้อมมือมารับสุดเอื้อมก็ไม่สามารถเอื้อมถึงปลายมีดได้ (หน้า 1093) บทที่ 30 ==> นากฝูงหนึ่งประมาณ 7-8 ตัว (หน้า 1101) ==> เก้งขนาดเขื่องที่แงซายแบกมา (หน้า 1114) บทที่ 31 ==> ค่างดำฝูงหนึ่ง 7-8 ตัว (หน้า 1134) ==> ไก่ป่า 2-3 ตัว (หน้า 1135) ==> เสือดาวร่างสีเหลืองจุดดำพร้อยไปทั้งตัว (หน้า 1137) ==> รังต่อป่าตัวขนาดหัวแม่มือที่ทำรังอยู่ในโพรงไม้ริมทาง (หน้า 1146) ==> งูกะปะ (หน้า 1146) ==> ภูเขาขนาดย่อมลูกหนึ่งวิ่งเหยาะๆหางชี้ ...... ช้างสีดอโทน (หน้า 1148) ==> เก้งขนาดย่อมซึ่งรพินทร์ยิงด้วยปืนสั้น (หน้า 1153) ==> กวางหนุ่มเขางาม, หมูป่าฝูงใหญ่, ฝูงลิงค่าง และบรรดานก (หน้า 1154) ==> กองทัพหมาใน (หน้า 1154) บทที่ 32 ==> ลูกเสือโคร่ง 3 ตัว (หน้า 1166) ==> แม่เสือโคร่งขนาดเฉียด 8 ศอก (หน้า 1168) ==> ตะขาบตัวหนึ่งใหญ่เท่าฝ่ามือสีแดงราวกับไฟยาวศอกเศษ (หน้า 1195) ==> งูเหลือมตัวไม่ใหญ่ขนาดหน้าแข้ง (หน้า 1206) บทที่ 33 ==> เก้ง 3 ตัว (หน้า 1227) บทที่ 34 ==> ยิงเสือทั้งหมด 16 ตัว บทที่ 35 ==> ช้างโขลง 12-13 ตัว ลูกช้างขาติดซอกหินตัวขนาดควาย ช้างงา 4 ตัว แม่ช้าง ช้างสีดอขนาดใหญ่ 2 ตัว   ตัวเมียและลูกช้างเล็กๆอีก 4-5 ตัว (หน้า 1311-1312) ==> เสือโคร่งขนาดใหญ่มากกว่า 4-5 ตัว (หน้า 1312) ==> กระรอกเผือก, ไก่ฟ้า, พญาลอ, นกแก้วโนรี (หน้า 1322) ==> เต่าภูเขาขนาดชามอ่างย่อมๆ (หน้า 1348) บทที่ 36 ==> ฝูงค้างคาวนับแสนในถ้ำค้างคาว (หน้า 1379) ==> งูเห่าหม้อตัวขนาดข้อมือ (หน้า 1379) ==> ฝูงแร้งบินว่อนอยู่เหนือยอดไม้เป็นกลุ่ม (หน้า 1380) ==> ฝูงหมาจิ้งจอก หางเป็นพวง 4-5 ตัว (หน้า 1381) ==> ละมั่ง (หน้า 1383) ==> กิ้งก่าดงตัวขนาดท่อนแขนยาวศอกเศษ (หน้า 1393) ==> ตัวเงินตัวทองขนาดน้องๆจระเข้ (หน้า 1393) ==> บุ้งและหนอนคันบางชนิดตัวยาวตั้งคืบ (หน้า 1393) ==> ฝูงค้างคาวแม่ไก่เหลือคณานับ (หน้า 1394) ==> ฝูงทากนับพัน (หน้า 1395) ---------------------------------- แก้ไขเพิ่มชื่อตอนและรายละเอียดมหิงสากับช้างโขลงเพิ่มเติมครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 22:45:04 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 22:26:35 จากคุณ : ChocolateMousse - [ 16 ก.ค. 50 19:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรื่องสัตว์ทำเหมือนคุณ ChocolateMousse เลยครับ   ส่วนพืช  ถ้าเป็นป่าอะไรก็ตาม ป่าสนหรือหญ้าก็บอกมาตามนั้นเลยครับ  ทำไว้ก่อนเป็นดี  ดีกว่าได้ทำใหม่อีกทีครับ  แหะๆ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 ก.ค. 50 21:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 สัตว์ บทที่ 96 1 กวาง อยู่ในสภาพที่เป็นอาหารแล้ว ซึ่งคณะของเชษฐาล่าไว้ตอนที่พลัดหลงกับกลุ่มของรพินทร์ และกลุ่มไชยยันต์           มีการกล่าวถึงขากวางย่างรมควัน และสันกวางที่เอามาทำซุปใส่ลูกเดือย ที่เอามาเป็นอาหารให้ทั้งคณะ           หลังจากที่พบกัน  (หน้า 5133 , 5142 , 5190) 2. เก้ง 3. กระทิง 4. หมูป่า 5. วัว >>>> ข้อ 1 - 5 (กวาง เก้ง กระทิง หมูป่า วัว) เป็นการบอกจากคำบอกเล่าของเชษฐาว่า บริเวณรอบที่พักของคณะของเชษฐา           ในระหว่างที่ตามหาคณะที่พลัดหลงกัน อุดมไปด้วยสัตว์ที่ล่าเป็นอาหารได้ (หน้า 5160) บทที่ 98 6. สมิงพราย -- เสือโคร่งดำขณะที่เป็นหิน (ไม่รู้ว่าเอาด้วยรึเปล่า) บรรยายลักษณะไว้ว่า “ไอ้โคร่งดำตัวขนาดม้าลูกผสม                     ยืนทื่อสงบนิ่ง ลักษณะเป็นศิลาหยาบทั้งแท่ง (หินภูเขา) โคนขาหลังด้านขวามีรอยกากบาทสีชมพูเล็ก ๆ                     ที่เกิดจากยาทาเล็บ ซึ่งมาเรียเป็นคนลอบทำตำหนิไว้ในครั้งแรกที่ทุกคนพบเสือหินในถ้ำหนึ่ง” (หน้า 5294 , 5314) บทที่ 101 7. นกฮูก ได้ยินแต่เสียงร้องสำเนียงต่ำเครือ ดังแว่วลงมาจากยอดไม้สูงแห่งใดแห่งหนึ่งในป่าทึบ ในคืนที่เผาซากมันตรัย              หลังจากที่ซากของมันตรัยไหม้ไปแล้ว (หน้า 5451) 8. บ่าง   ได้ยินแต่เสียงร้องลักษณะกรีดแหลม หาทิศทางที่มาไม่ได้ถนัด (ได้ยินหลังจากได้ยินเสียงนกฮูกร้อง) (หน้า 5451) มาเพิ่มเติมข้อมูล "พืช" ค่ะ พืช เล่มนี้ส่วนใหญ่เป็นป่าหิน เลยไม่ค่อยมีบรรยายลักษณะของพืชซักเท่าไหร่ มีแต่พูดถึงทั่ว ๆ ไป บทที่ 95 1. ทุ่งหญ้า อันเป็นที่ราบสู่เนินภูเขาหินเตี้ย ๆ (หน้า 5114) บทที่ 96 2. ดอกไม้ป่าบางชนิด ที่มีกลิ่นหอม บริเวณปราสาทพันธุมวดี และถ้ำ/สุสานที่ไชยยันต์กับเมย์เข้าไปติด              ไม่ได้บอกชนิดหรือรูปร่างลักษณะ บอกแต่ว่าส่งกลิ่นหอมระรวย+หอมตลบ (หน้า 5170, 5176) บทที่ที่ 96 3. ไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ที่ถูกตัดเป็นลำปล้องขนาดใหญ่ เพื่อนำมาเป็นภาชนะในการเคี่ยวซุปสันกวาง (หน้า 5190) บทที่ 97 4. ซุ้มไม้เล็ก ๆ ซุ้มหนึ่ง อยู่ใกล้กับโขดหิน เป็นที่ที่พบรอยเท้าของดาริน ในคืนที่ดารินหายออกไปจากค่ายพัก              ... ไม่มีการบรรยายลักษณะของซุ้มไม้ (หน้า 5227) 5. ต้นไม้สูง ขึ้นบนดินแข็ง  แผ่กิ่งใบคลุมอากาศเบื้องบนไว้ ทำให้พื้นไม่เปียกแฉะน้ำค้าง              อยู่ห่างพ้นชายเนินบริเวณค่ายพักของคณะ ตอนที่ตามรอยดาริน (หน้า 5230) 6. ซุ้มไม้ ขึ้นบนดินแข็ง (น่าจะมีหลายซุ้ม) ตอนที่พรานพื้นเมืองหาร่องรอยของดาริน แต่ก็ไม่พบ (หน้า 5231) 7. สนภูเขา ใบร่วงหล่นปกคลุมพื้นอยู่เกลื่อนกลาด ที่ที่คณะพบร่องรอยของดารินอีกครั้ง มีรอยลื่นไถลของพื้นรองเท้า              ครูดไปกับพื้นใบสนแห้งเป็นทางยาวหลายช่วง และมีสนต้นเล็ก ๆ สูงคืบเศษ ที่งอกขึ้นบริเวณนั้น 2-3 ต้นถูกเหยียบ (หน้า 5232) บทที่ 98 8. หมู่ไม้เล็ก ๆ ที่งอกขึ้นอยู่ทั่วไป บริเวณหมู่หินอันสลับซับซ้อนที่รพินทร์ เชษฐา และบุญคำ              ไปซุ่มรอดูมันตรัยมาเอาคัมภีร์ (หน้า 5273) 9. เถาวัลย์ อันเหนี่ยวแน่นที่มัดดารินไว้บนแท่งหิน  (หน้า 5277) บทที่ 100 10. ต้นไม้ (ไม่ระบุชนิด) ที่คะหยิ่นกับจันตัดมาเป็นคานหามซากของมันตรัย โดยใช้เชือกไนลอนที่ติดประจำตัวอยู่              ผูกมัดซากของมันตรัยติดกับคาน ในลักษณะของสัตว์ที่ล่าได้ (หน้า 5392) แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 50 00:52:50 จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 16 ก.ค. 50 22:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ข้อมูลสัตว์และพืช ค่ะ จากดงมรณะเล่ม 3 ปกขาวนะคะ บทที่ 52 1. หน้า 741 "บนพื้นซึ่งกลาดเกลื่อนไปด้วยใบไม้โค้นต้นรัง มีเลือดสีคล้ำกองอยู่......ฝูงแมลงวันตอมหึ่งหยดไข่ขังแลเห็นเป็นแนวขาวไปหมด..." 2. หน้า 745 "พบรอยของงูยักษ์ตัวนั้นอย่างถนัดชัดเจน มีรอยโคลนสดๆเปรอะเลอะเป็นทางกว้างใหญ่ผ่านตรงบริเวณดินแข็งโคนต้นยูง..." 3 หน้า 749-750 "ในที่สุดก็ลงมาถึงบริเวณก้นหุบอันเป็นที่บรรจบของตีนเขาสองลูก รอบด้านเต็มไปด้วยโตรกเหวและซุ้มเถาวัลย์ สลับไปกับกล้วยป่าและเฟริ์น เห็นเขียวชอุ่มไปหมด..." 4. หน้า 754 "ดารินกลั้นใจ ค่อยๆแหงนหน้าขึ้นไปมองเบื้องบนอันเป็นซุ้มกะทกรกและเถาเครือเล็กๆที่ขึ้นพันแน่นทึบอยู่ในระหว่างยอดก้อนหินใหญ่สองลูก..." 5. หน้า 760 "เขาสั่งเป็นรถไฟด่วนแล้วเผ่นเข้าซุ้มเถาวัลย์รกด้านซ้ายมือ มุ่งเข้ายึดต้นสักใหญ่ 6 คนโอบต้นหนึ่ง..." 6. หน้า 761-762 "..มันจะเป็นสัตว์ประเภทงูหรืออะไรก็สุดที่จะลงความเห็นได้เสียแล้ว สำหรับส่วนศรีษะที่เห็นอยู่นี้ เพราะสัณฐานลักษณะไม่เหมือนกับงูชนิดใดในโลก มันเป็นรูปละม้ายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ยอดบนของศีรษะมีอะไรชนิดหนึ่งตั้งแนวอยู่เป็นสันคล้ายๆหงอนไก่ชน ดวงตาทั้งคู่ใหญ่โปนทะลักเด่นออกมานอกเบ้าที่มีขอบสีออกแดงจัดล้อมเป็นวงกลมเหมือนตาปลาทอง กระดิกกลิ้งเหลือบไปมาได้อย่างน่าสยอง เขี้ยวแหลมโค้งทั้งสี่ข้างโผล่พ้นออกมาจากปากเหมือนงาของตัววอลรัส แผล่แซงสวนกันทั้งล่างและบน ใต้คางเป็นแผ่นหนังห้อยยานประดุจเหนี่ยงอยู่สองแถบ ...ลิ้นอันมีปลายสองแฉกที่พุ่งพ้นปากออกมาเป็นจังหวะ ลักษณะท่าทางของการเลื้อยไปได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่วประเปรียวก็ดี รวมทั้งการตั้วหัวชูคอขึ้นไปได้สูงมากจากระดับพื้นราบก็ดี มันเป็นคุณลักษณะของจงอาง.." 7. หน้า 768 "ท่ามกลางดงกล้วยป่า และก้อนหินที่แซมสลับอยู่ทั่วไป ทันใดนั้น .." 8. หน้า 778 "ตัวที่มีหงอน ผมอยากเข้าใจว่ามันเป็นตัวผู้ ส่วนอีกตัวหนึ่งหัวมันคล้ายๆงูเหลือมธรรมดา คงจะเป็นตัวเมีย และตัวเมียนั่นแหละที่ปะทะกับคุณเชษฐาที่หมู่บ้านเป็นตัวที่เราตามรอยมันมา..." 9. หน้า 782 "..บุญคำทดลองใช้มีดดาบเดินป่ากระหน่ำฟันเข้าไปในที่ผนังลำตัว ปรากฏว่ามีดกระดอนกลับออกมา..ราวกับฟันยางรถแทรกเตอร์เมื่อใช้มือสัมผัสลูบคลำรู้สีกไม่ผิดอะไรกับคลำลำต้นของไม้ใหญ่... 10. หน้า 784 " บุญคำและคะหยิ่นช่วยกันถากเกล็ดของสัตว์ดึกดำบรรพ์แผ่นขนาดกระด้งฝัดข้าวใหญ่ๆทั้งสองตัวออกมาตัวละเกล็ดเจาะร้อยเชือกสะพายหลังเพื่อนำติดตัวกลับไปด้วย..." บทที่ 53 11. หน้า 792 "ลูกเสือ(โคร่ง)..ตัวมันขนาดแมวเชื่องๆแต่อวบกลมกว่า โดยเฉพาะที่หน้าสั้นหูมนและอุ้งตีนใหญ่กว่าแมวหลายเท่า ยังป้อแป้เชื่องช้าและเดินไม่ถนัดนัก คลานไปได้สองสามก้าวขาหลังก็พันกันล้มเพละแสดงว่ายังอ่อนมาก ขนฟูปุกปุยน่ารัก ....ของกำนัลจากคะหยิ่น อายุประมาณอย่างมากไม่เกิน30อาทิตย์" 12. หน้า 813 "ครั้นแล้วเรื่องที่ทุกคนต้องหัวเราะกันอย่างท้องคัดท้องแข็งก็ได้มาถึงเอาวันหนึ่ง เจ้าคะหยิ่นแบกลูกซองคู่ชีพไปด้อมไก่...พอเห็นช้างแปร๋นเข้ามาคะหยิ่นก็ยืดอกเต็มภาคภูมิ ซัดลูกปรายตึงเข้าให้เต็มหน้าแงโดยคิดว่าพญาคชสารจะล้มคว่ำม้วนไปคาตา ผลปรากฏว่าเจ้าพลายโทน ..." 13. หน้า 815 "เดี๋ยวนี้ไชยยันต์สามารถเดินป่าในละแวกหมู่บ้านหล่มช้างได้โดยไม่ต้องพึ่งคนนำทาง...เขาทำชื่อให้ลือลั่นไปตลอดทั้งหล่มช้างด้วยการล้มแรดใหญ่หนังเหนียวตัวหนึ่งได้ในทุ่งโล่งหลังเขา... 14. หน้า 815 "ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็ล้มนางแม่แปรกจ่าโขลง ช้างป่าอีกตัวขณะที่มันคุมโขลงเข้าถล่มไร่กล้วยของชาวบ้าน แล้วไล่ลูกโขลงมันแตกกระจัดกระจายไป... บทที่ 54 15. หน้า 840 "ป่าทั้งป่า ตรึงนิ่งอยู่กับที่ไปชั่วขณะหนึ่งอย่างพิศวง .....ครั้นแล้วต่อมาอีกครู่ใหญ่ท่ามกลางควันธูปที่ลอยเป็นก้อนอ้อยอิ่งอยู่ก็มีลมเย็นพัดโชยเบาๆมาจากด้านเหนือ.....จนกระทั้งมองเห็นป่ารอบด้านได้อย่างชัดเจน นกร้องแซ่แซดอยู่บนกิ่งไม้ ฝูงลิงค่างออกหากินเป็นปรกติ. 16. หน้า 847 "รพินทร์ทิ้งระยะนำล้ำหน้าออกไปตามทางเดินเมื่อหนทางแคบเรียงเดี่ยว ผ่านไร่กล้วย ของพวกหล่มช้างเลียบไปตามไหล่เขาด้านตะวันตก อันเป็นด้านตรงข้ามกับที่เคยตามงูยักษ์มาแล้ว ไม่ช้าก็ทิ้งบริเวณอันเป็นไร่นั้นไว้เบื้องหลัง สู่ป่ารก ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้า... 17.  หน้า 848 "นอกจากกิ้งก่าดง ตัวขนาดท่อนแขน สีสันประหลาด ที่มักจะเกาะชูคอทำตัวพองอยู่ตามโคนต้นไม้แล้ว... 18. หน้า 859 " ...ต่อหลุม ตัวขนาดหัวแม่มือ ที่ขุดโพรงทำรังอยู่กับพื้นดิน โดยมีใบไม้กลบอำพรางเป็นกลดักเพื่อรอให้เหยื่อตกลงไป...ระวังหน่อยนะครับ ต่อหลุมชุมมากแถวนี้ .. 19. หน้า 860 "เจ้าสิ่งที่เผ่นลงมาจากคบไม้เบื้องสูงคือ เสือดำ ขนาดหมาอัลเซเชี่ยน ขณะนี้มันกำลังเผ่นตะกุยหนีขึ้นเนินไปอย่างตื่นตกใจ ระยะนั้นมีแต่ลำต้นของไม้ใหญ่ ปราศจากพุ่มไม้บัง... 20. หน้า 863 "พ้นจากทางชันตอนนั้นก็ถึงไหล่อีกตอนหนึ่งซึ่งเป็นด่านช้างเก่า......เลือกได้โคนต้นเสลี่ยงยักษ์ ระหว่างหมู่โขดหินอันโล่งเตียนตอนหนึ่งริมผาตัด รพินทร์สั่งให้ปลงหาบ หยุดพักหุงหาอาหารกลางวัน... 21. หน้า 876 "ระวังงู...ก่อนที่ใครจะทันรู้สึกอย่างใด ไชยยันต์ผู้ย่ำสวบๆตามมาเป็นคนที่สองก็เหยียบลงไปบนกลางลำตัวของงูกะปะตัวหนึ่ง ที่ดิ้นพรวดพราดอยู่ในหลุมรอยตีนช้าง... 22. หน้า 877 "....มันเป็นแท่งดำๆยาวสักเท่านิ้วชี้ได้ เอาชุบน้ำเปียกๆแล้วตั้งตรงปากแผลตรงรอยเขี้ยว 23. หน้า 884 "แล้วก็ไต่ขึ้นฝั่งทางด้านซ้ายมือ...ป่าบริเวณนั้นเริ่มโปร่งขึ้นแลเห็นกอรวก สลับไปกับพลวง และไม้เบญจพรรณ... 24. หน้า 889 "แสงตะวันบ่าย ส่องลอดกิ่งไม้เบื้องบนที่ไม่สู้จะหนาทึบนักเป็นจุดสว่างพราวไปทั่ว ทำให้มองเห็นภาพนั้นได้ถนัดพอสมควร ซากของอะไรชนิดหนึ่ง พื้นสีน้ำตาลเข้ม ริ้วดำ  ลายพาดกลอนด้วยกันทั้งคู่ ที่น่าประหลาดใจยิ่งสำหรับเชษฐาก็คือ ตัวหนึ่งกำลังกินอีกตัวหนึ่ง. 25. หน้า 895 " ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทุกคนเห็นรพินทร์ยืนดักคอยอยู่เบื้องหน้าระหว่างซุ้มกอไผ่ เบิ้องหน้าแทบเท้าเขามีสัตว์อะไรชนิดหนึ่งสีแดงๆกองอยู่ พอใกล้เข้ามาจึงเห็นว่ามันเป็น เก้งหนุ่มตัวหนึ่ง... 26. หน้า 897 "...เกิดกับเส่ยโห่ฮิ่วออกมาอย่างดีใจ คว้าขันพลาสติกกับขวดเหล้าขาวขึ้นมาได้แข่งกันวิ่งแน่บบุกป่าเข้าไปยังโคนไม้ใหญ่ต้นนั้น ครู่หนึ่งก็หิ้วเอา ค่างดำ ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งยิ้มกริ่มเข้ามาเชือดคอรองเลือดผสมกับเหล้าขาวในขวดเรียบร้อย... หน้า 899 "แค้มป์ถูกกำหนดลงยังชัยภูมิอันเหมาะที่สุด...เบทื้องหน้าเป็นบริเวณราบโล่งปราศจากพุ่มไม้บังในระยะประชิด นอกจาก ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ยืนตระหง่านอยู่โดดเดี๋ยวแผ่กิ่งใบประหนึ่งพุ่มฉัตรยักษ์...." หน้า 923 "มดขนไข่กลางดึก ฝนอาจตกหนัก" หน้า 926 " ...พายุก็สงบ สายฝนเหลือเพียงพรำๆได้ยินน้ำจากในลำห้วยที่เคยแห้งใกล้ๆที่พักไหลอู้เชี่ยวกราก แซ่ระงมประสานกันกับเสียงกบเขียด ที่ร้องอยู่รอบด้านทั่วไป.. หน้า 950 " ในกล้องไม้รวกเล็กๆที่ปิดจุกไว้นั่น คือยางน่อง อาวุธประหารสำคัญของพวกชาวเขา ส่วนรากไม้ที่ทุบแตกเป็นฝอยปุยๆนั่นเป็นว่านระงับพิษชนิดหนึ่งที่จะใช้แก้กัน... หน้า 956 "นอกจาก ผึ้งดง ตัวขนาดเขื่องกว่าหัวแม่มือ ...." หน้า 957  "....ที่ก้อนหินใหญ่ลูกหนึ่ง จับเต็มไปด้วยตะไคร่และเฟริ์นแลดูเป็นพุ่มชอุ่มเขียว ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งถู฿กพายุถอนรากเอนทับและคาอยู่ในลักษณะนั้นมานานนม มีกล้วยป่าขึ้นอยู่ประปราย สลับไปกับมะไฟที่ออกลูกดกเป็นช่อสีแดงพือลานตา สอดแซมไปด้วยลูกไข่เน่า..." หน้า 963 "ในพงรกทึบของเสือหมอบและเถาเครือ ไม้รวกอันหนึ่งยาวประมาณวาเศษเสี้ยมปลายแหลมคบกริบราวกับใบหอกในลักษณะปากฉลามถูกปักซ่อนอยู่... หน้า 973 "...ป่าเริ่มโปร่งขึ้น ไม่นานนักก็มาถึง ดงสัก ซึ่งแต่ละต้นสูงใหญ่ทะยานเยี่ยมฟ้าชนิดแหงนคอตั้ง ขึ้นเรียงรายกันเป็นระเบียบปราศจากไม้อื่นๆแทรก.." หน้า 981 "ที่ลานโล่งอันเป็นบริเวณชุมทางด่านแวดล้อมไปด้วยซุ้มไผ่ ห่างออกไปจากที่กำบังอยู่ในขณะนี้ไม่เกิน25หลา ร่างที่มีลักษณะเหมือนภาพสัตว์นรก...." แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 50 21:30:54 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:53:56 จากคุณ : waisayanee - [ 16 ก.ค. 50 23:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มารับทราบ และขอขอบคุณทุกคนครับ   อย่างไร คงต้องดำเนินการ ตามแนวทาง คุณ โอจิ ครับ  คือจะรวบรวมเป็น รายงาน เสนออีกครั้ง ทั้งชนิด จำนวน ลักษณะ การดูแล และ แหล่งที่มา เพื่อส่ง พิจารณา อีกครั้ง จากคุณ : naikay - [ 17 ก.ค. 50 09:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 64 บทที่ 156 หน้า 8045  “กวาง”  ได้กวางมาตัวหนึ่ง เลยย่างรอพวกเราอยู่บนร้านโน่น... บทที่ 156 หน้า 8055 “ดงว่านพิษ” มีดงว่านพิษอยู่ไม่ห่างจากป่าหิน ช่องประตูผาออกไปมาก ออกดอกสะพรั่งหมดทั้งดง บทที่ 157 หน้า 8085 “ไม้สดบางชนิด ที่มีน้ำมันอยู่ในตัวเอง” ส่างปากับเส่ยก็ไปเลือกตัดไม้สดบางชนิด ที่มีน้ำมันอยู่ในตัวเองเป็นเชื้อเพลิงติดไฟได้ง่ายมาช่วยกันทำฟืน บทที่ 159 หน้า 8149  “ตัวอะไรชนิดหนึ่ง” รพินทร์ยิงตัวอะไรชนิดหนึ่ง ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน รูปร่างเหมือนแกะหรือแพะที่มีขนปุกปุยมากร่วงลงมาจากไหล่เขาเนินสูงริมทางผ่าน บทที่ 159 หน้า 81451  “ตัวอะไรชนิดหนึ่ง” รพินทร์ยิงสัตว์อะไรชนิดหนึ่ง เพื่อต่อชีวิตพวกเราทุกคนไว้ได้อีก ... สัตว์อันมีลักษณะเหมือนกวางขนาดใหญ่ และมีขนปุกปุยมากถูกปืนล้มลง บทที่ 159 หน้า 81452  “ไม้ประเภทสนและเฟิร์น”  ท่ามกลางป่าหิน สลับไปกับไม้ประเภทสนและเฟิร์นอันงอกงามชอุ่มอยู่ทั่วไป บทที่ 160 หน้า 8170  “ป่าสน”  ใบสนที่หล่นลงมาทับถมพื้นดินสูงหนา เวลาเหยียบเท้าก้าวย่ำลงไปแทบจะจมมิดรองเท้า บทที่ 160 หน้า 8171  “ซุ้มเถาวัลย์”  บุญคำหายลับไปก่อนแล้ว ในซุ้มเถาวัลย์อันปกรกครึ้มอยู่นั้น บทที่ 160 หน้า 8173  “สนสามใบ” อุดมไปด้วยสนสามใบที่ขึ้นเรียงรายอยู่ราวกับใครมาปลูกไว้ บทที่ 162 หน้า 8265  “หมี” สูงประมาณ 9 ฟุต ยืนตระหง่านด้วยขาหลังสองขา ขนเป็นสีเทาเหมือนขี้เถ้าหนาปุยไปหมดทั้งตัว กำลังแยกเขี้ยวขาวพร้อมทั้งขาหน้าที่อ้ากว้างอยู่บนอากาศ มีอาการเหมือนจะตะปบลงมาบนศีรษะของเขา  (ไม่ทราบพันธุ์ หน้า 8267) บทที่ 166 หน้า 8369 “ตัวอะไรชนิดหนึ่ง รูปร่างเหมือนผสมระหว่างเลียงผา และแกะภูเขา”  ตัวอะไรชนิดหนึ่ง ถูกปืน จากชะง่อนเหนือขึ้นไปหล่นลงมาติดค้างอยู่ รูปร่างของมันเป็นส่วนผสมระหว่างเลียงผาและแกะภูเขา น้ำมันของมันผสมกับรากไม้บางชนิด เคี่ยวให้เข้ากันสามารถทำให้คนที่เป็นโรคง่อยเปลี้ย หรือโรคอันเกิดจากไขข้อ อักเสบทุกชนิดทุเลาลงได้ ภายในเวลาไม่เกิน 5-6 ชั่วโมง วิธีใช้คือการพอกทาตรงบริเวณอักเสบนั้นๆ”  (เขาโค้งงอนตวัด และขนฟูเหมือนแกะ – หน้า 8363 ) บทที่ 166   หน้า 8374 “หมีใหญ่ตัวเมียและลูกอ่อน 2 ตัว ” จากคุณ : ภคิน - [ 17 ก.ค. 50 09:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อุ้ย เขาส่งการบ้านจะหมดอยู่แล้ว เรายังไม่ได้เริ่มอ่านเลย สงสัยต้องเอาซะคืนนี้ ไม่งั้นโดนครูตี อิอิ จากคุณ : gogo777 - [ 17 ก.ค. 50 10:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วอย่าลืมตัว "ย."  กับตัว "ญ." นะ เข้ามาให้กำลังใจน้องๆ...เอ้ย..ลูกๆ หลานๆ ใครตอบได้ให้รางวัล..ถ้าตอบผิดโดนปรับ สนมั้ย........... จากคุณ : ลุงปิง (lungping) - [ 17 ก.ค. 50 10:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ป่าโลกล้านปี 2 -- คุณ thanapatpp เดีียว ไป อ่าน ใ้่ นะ ครับ เมื่อ งาน ยุ่งไม่ได้ ดู เลย แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 14:01:42 จากคุณ : thanapatpp - [ 17 ก.ค. 50 14:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 68 จอมผีดิบมันตรัย 3 (ฉบับพิมพ์เดือนมีนาคม พ.ศ. 2538) ต้นไม้ บทที่ 80 หน้า 704 – ...พื้นเบื้องล่างรกไปด้วยเห็ด ปรง และเป้ง มีด่านเล็กๆ พาดสลับกันไปมา ราวกับใครมาลากเส้นแผนที่ไว้ ส่วนหนึ่งทอดลงไปสู่เบื้องต่ำทางด้านตีนเขา อีกส่วนหนึ่งนำขึ้นสู่เบื้องบนเว้นระยะห่างกันออกไปเป็นไม้ใหญ่ ลักษณะเหี่ยวแห้ง อุดมไปด้วยหนามราวกับต้นงิ้ว ชูลำต้นซึ่งมีแต่กิ่งก้านตระหง่านเงื้อม ท่ามกลางเปลวแดดสีไฟที่ฉายฉานปานจะอบลำต้นไม้เหล่านั้นให้กลายเป็นถ่านสุก หลายต้นมีรอยดำเหมือนถูกไฟกิน มันเป็นป่าแดงที่อยู่ใจกลางดงดิบ หน้า 708 - ...ด้วยการเสาะแสวงหาอาหารไปพลาง เผือก มัน กลอย และพืชบางชนิดพอจะใช้เป็นอาหารได้ ถูกเขาสั่งให้พวกพรานพื้นเมืองเก็บตุนไว้เป็นรายทางไปสุดแต่จะหาได้ ต่อมาที่ริมทุ่งหญ้าคาตีนเนินอีกแห่งหนึ่ง เขาก็ให้เก็บลูกเดือยที่ขึ้นอยู่เป็นดง - ... เบื้องหน้าเป็นป่าเต็งใบแห้งแดงราวกับย้อมไว้ด้วยครั่ง พื้นดินจับหนาไปด้วยฝุ่น... บทที่ 81 หน้า 772 - ...ร่องรอยของไอ้ผีกองกอยก็นำตัดไหล่เขาลงทางด้านใต้แลเห็นทุ่งแฝก และหญ้าคา สลับไปกับเต็งกรอบเกรียมตายซากด้วยความแห้งแล้ง... หน้า 775 - จอมพรานนำเลี่ยงหลบจากทุ่งแฝกอันกว้างใหญ่แลลิบลิ่วไปสุดสายตาแทบจะหาขอบเขตสิ้นสุดมิได้นั้น... - ...สีเหลืองฟางของเถาวัลย์ตลอดจนพงไม้เตี้ยๆ ซึ่งในบางฤดูกาลอาจงอกเงยชอุ่มชื่นขึ้นมาได้บ้าง จากฝนซึ่งคงมีอยู่เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น สังเกตได้จากการที่ไม่มีพืชพันธุ์ชนิดใดซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความชุ่มชื้นของพื้นดินขึ้นอยู่เลย นอกจากไม้เล็กประเภทล้มลุก บทที่ 82 หน้า 815 - พบว่าร่างของเขาขณะนี้นอนติดอยู่กับสายระโยงระยางอะไรชนิดหนึ่ง ลักษณะยาวไหวแกว่งไกวได้เหมือนกระเช้าถัก และมันคือรากไม้กับเถาวัลย์เกี่ยวกันประสานกันอย่างหนาแน่น โดยงอกออกมาจากผนังหินที่แวดล้อมรอบตัวของก้นปล่องเหวที่ใดที่หนึ่ง ... หน้า 821 - ...คนสันทัดในทางพฤกษศาสตร์ และพืชที่ขึ้นในป่าดงอย่างเขาก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันเป็นเถาวัลย์ หรือรากของต้นอะไรกันแน่ ลักษณะที่ดูเป็นเถาวัลย์นั้นมีแต่เส้น ปราศจากใบ ส่วนที่มองคล้ายรากไม้เมื่อสำรวจดูใกล้ๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะเป็นรากฝอยของต้นไม้ใหญ่ที่ชอบไชทะลุหินลงมา หรือว่าเป็นลำต้นพืชประเภทเถา ที่อาศัยงอกขึ้นอยู่ในภูมิประเทศใต้เหวอันชื้นแฉะหรือไม่ มันเลื้อยเกาะไปตามรอยแตกของพื้นหินคล้ายเห็ดรา และบางขณะก็งอกโผล่ยื่นออกมาเกะกะรุงรัง มีแต่ตุ่มตาเป็นข้อๆ หน้า 833 - ...พอขึ้นพ้นร่องน้ำเดินไปได้สองก้าวเท่านั้นก็ถลาลื่นเพราะเป็นทางลาดเท เต็มไปด้วยตะไคร่... บทที่ 83 หน้า 877 - ...ทั้งสองคนขึ้นมานอนฟุบอยู่บนพื้นดินราบเรียบใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ริมแอ่งน้ำกระโจน อากาศสลัวมัวมนลงเป็นลำดับ บทที่ 84 หน้า 904 - ...มันอบอวลหอมกรุ่นเคล้าระคนกับกลิ่นดอกไม้ป่าบางชนิดที่ระชวยโชยมาตามลมดึก บทที่ 86 หน้า 1007 - “มันเป็นเวลาบ่ายที่อากาศโปร่งใสที่สุด เมย์ ผมได้กลิ่นดอกไม้ป่าบางชนิดด้วย!” หน้า 1008 - ...บริเวณนั้นเป็นป่าโปร่งสลับกับก้อนหิน มีต้นไม้เล็กขึ้นอยู่ประปรายทั่วไปพอจะอาศัยทำฟืนได้... หน้า 1013 - ...ริมโขดหินก้อนใหญ่ที่งอกอยู่ในระหว่างกอตะไคร่น้ำ ... หน้า 1022 - ...กลางฉากอันเป็นความมืดมิดที่แวดล้อมไปด้วยม่านหมอกไออุ่นของธารน้ำร้อนนั้น กลิ่นว่านเสน่ห์จันทร์ตลบอบอวลไปตลอดทั้งสองฟากฝั่ง สรุป 1.เห็ด 2.ปรง 3.เป้ง 4.ไม้ใหญ่ - ลักษณะเหี่ยวแห้ง อุดมไปด้วยหนามราวกับต้นงิ้ว ชูลำต้นซึ่งมีแต่กิ่งก้านตระหง่านเงื้อม 5.เผือก 6.มัน 7.กลอย 8.พืชบางชนิด - พอจะใช้เป็นอาหารได้ 9.ทุ่งหญ้าคา 10.ลูกเดือยที่ขึ้นอยู่เป็นดง 11.ป่าเต็ง - ใบแห้งแดงราวกับย้อมไว้ด้วยครั่ง 12.ทุ่งแฝกอันกว้างใหญ่ 13.เถาวัลย์แห้ง 14.พงไม้เตี้ยๆ 15.ไม้เล็กประเภทล้มลุก 16.รากไม้ - ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะเป็นรากฝอยของต้นไม้ใหญ่ที่ชอบไชทะลุหินลงมา หรือว่าเป็นลำต้นพืชประเภทเถา ที่อาศัยงอกขึ้นอยู่ในภูมิประเทศใต้เหวอันชื้นแฉะหรือไม่ มันเลื้อยเกาะไปตามรอยแตกของพื้นหินคล้ายเห็ดรา และบางขณะก็งอกโผล่ยื่นออกมาเกะกะรุงรัง มีแต่ตุ่มตาเป็นข้อๆ 17.เถาวัลย์ - มีแต่เส้น ปราศจากใบ 18.ไม้ใหญ่- ริมแอ่งน้ำกระโจน 19.กลิ่นดอกไม้ป่า 20.ต้นไม้เล็ก 21.กอตะไคร่น้ำ 22.ว่านเสน่ห์จันทร์ สัตว์ บทที่ 80 หน้า 705 - ...มีแต่นกหัวขวานขนาดใหญ่ที่เกาะอยู่ตามลำต้นไม้แห้ง และโขกจะงอยปากอันแข็งราวสิ่วเหล็กของมันดังรัวอยู่เป็นจังหวะ แต่ละตัวที่พบมีขนาดเกือบไก่ชน และสีดำสนิทราวอีกา ส่งเสียงร้องพิกลเมื่อเห็นสิ่งแปลกปลอม...     บทที่ 82 หน้า 803 - ...คงไม่ใช่โขลงขนาด 20-30 ตัวเสียแล้ว แต่กองทัพของช้างป่าทีเดียว กองทัพหรืออีกนัยคลื่นของคชสาร ซึ่งแตกเตลิดหนีไฟป่าแล่นสวนทางขึ้นมา ...     บทที่ 82 หน้า 823 -แมงมุมยักษ์ – มันเป็นลักษณะลูกกลมขนาดใหญ่และเล็กเรียงต่อกันสองก้อน ส่วนที่เล็กเป็นหัว และส่วนใหญ่คือลำตัว ประกอบไปด้วยขายาวโค้งซึ่งแผ่ออกไปเป็นรัศมีรอบตัว 8 ขา นัยน์ตาทั้งคู่แดงก่ำ แวววาวเหมือนเม็ดทับทิม มีขนปุกปุยเป็นสีเทาไปหมดทั้งตัว บทที่ 86 หน้า 1008 - “เลียงผา” แพะภูเขาหนุ่มฉกรรจ์ตัวหนึ่ง นอนคอพับเลือดไหลรินอยู่บนซอกหินก้อนนั้น... สรุป 1.นกหัวขวานขนาดใหญ่ - แต่ละตัวที่พบมีขนาดเกือบไก่ชน และสีดำสนิทราวอีกา 2.กองทัพของช้างป่า 3.แมงมุมยักษ์ 4.เลียงผาหนุ่มฉกรรจ์ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 21:59:10 จากคุณ : สหายน้อย - [ 17 ก.ค. 50 21:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ส่งการบ้าน สัตว์ และ แมลงก่อนนะคะ  พืชจะตามมาทีหลัง  เล่มนี้มีแต่สัตว์แปลกๆ แฮะ  ลิสต์มาทั้งที่เห็นและไม่เห็นตัวนะคะ มีบางตัวที่เป็นคนนั้น คนนี้ เล่าให้คนอื่นฟังด้วย    ทำตัวหนา ขีดเส้นได้ไม่เป็น อาจจะลายตาหน่อยนะคะ อาถรรพ์นิทรานคร 2 สัตว์ บทที่ 102 5503  ไก่ป่า (ได้ยินแต่เสียง) “ไก่ป่าขันเยือกเย็นลอยมาตามลม...” บทที่ 103 5532  ค้างคาวผี (พันธุมฯ) และ ฝูงกองกอย - ดารินเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ฝันเห็นตอนที่สลบไป 5542  สาง     คนกลายเป็นเสือ (บุญคำเล่าให้ฟัง) 5558  ตะโขง (บุญคำเล่า) ลักษณะ รูปร่างเหมือนจระเข้แต่มีเขางอกโง้งมาข้างหน้าอันเดียวเหมือนแรด มีลิ้น 5564  สางห่า (บุญคำอธิบายลักษณะ  ตอนนี้เป็นตอนที่รพินทร์บอกว่ามีอีกสางที่น่ากลัว คือ สางห่า แล้วดารินกรี๊ด เพราะนึกว่ารพินทร์หลอกด่า)  เป็นงูใหญ่ชนิดหนึ่งมีตีนสี่ตีน เดินหรือเลื้อยก็ได้ ผ่านไปทางไหน กิ่งไม้สดๆ จะไหม้เกรียมเป็นทางเหมือนโดนไฟเผา 5580  เสือดำและเสือดาว  สู้กันแย่งจะกินแงซายที่หลับอยู่ใต้ต้นไม้ เสือดำโดนยิง เสือดาวหนีไปได้ บทที่ 104 5591- 5616 แมงมุมดำ (ไอ้หกขา)       รอยกัดของมัน (5591-5592) เป็นรอยเขี้ยว 2 เขี้ยวขย้ำขบเข้าหากัน บาดแผลแต่ละเขี้ยวมีขนาดเท่าก้านไม้ขีดไฟแต่ไม่ลึกนัก ระยะห่างเขี้ยว 2 ซม.  บริเวณปากแผลห่างไปรอบด้านในรัศมี 3 นิ้ว เป็นจ้ำเขียวเกือบดำเป็นแว่นกลม      รูของมัน (5595)  ปากโพรงเป็นรูวงกลมดิก เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว เจาะชอนเป็นรูดำมืดเข้าไปในพื้นดิน ปากโพรงมีรอยตีนคล้ายๆ พวกปู      ตัวไอ้หกขา   (5595 – 5596)  เป็นแมงมุมดงชนิดหนึ่ง ตัวดำสนิทมีขนรุงรัง มีขา 6 ขา อาศัยแถบลุ่มน้ำสาละวินทางตอนเหนือ พิษเหมือนงูแมวเซากัดพร้อมกัน 10 ตัว ปกติจะไม่กัดเว้นแต่เผลอไปเหยียบหรือกระทบตัวมัน ดุเป็นพิเศษเวลาวางไข่ หากินกลางวัน เข้ารูตอนค่ำ ตัวขนาดปูทะเลย่อมๆ คนและสัตว์ที่ถูกกัดจะค่อยๆ ง่วงซึมผล็อยหลับตายภายใน 12 ชั่วโมง ไม่ทุรนทุราย        (5613) แมงมุมดำตัวเท่าปูม้าชนิดเขื่องเต็มที่ หรือปูทะเลตัวย่อมๆ รูปร่างกลมอวบอ้วน ตัวเต็มไปด้วยขนละเอียดดำสนิทกระทบแสงแดดเงาระยับราวกับไหม เขี้ยวแหลมโง้งสองข้าง ตาทั้งสองใสขาวราวกับเพชร ส่างปาจับได้เพราะใช้เลือดตุ่นล่อออกมาจากโพรง      พิษของมัน  (5615) เป็นของเหลวใสสีเขียวจางๆ ขนาดเหลือจากกัดแงซายแล้ว ยังเหลือรีดได้อีก 3 CC. 5636    (ได้ยินแต่เสียง) เสียงนกยูงร้องอยู่ยอดไม้สูง 5637    (ชิ้นส่วน) สมัน   เส่ย เกิด และ จัน กำลังช่วยกันแล่เนื้อสดจากขาหลังซึ่งตัดมาทั้งสะโพกของอะไรชนิดหนึ่ง ถลกหนังออกเรียบร้อยแล้วลักษณะเหมือนกวางหรือฉะนั้นก็สมัน... (ทราบทีหลังว่าเป็นสมันที่แย่งมาจากเสือ) 5638    (เชษฐาเล่า)  พรานแย่งเนื้อสมันที่เสือโคร่งรุ่นหนุ่มสองตัวช่วยกันขย้ำไว้ในดงหญ้าคา 5650    ไดโนเทเรียม  (บุญคำที่หนีกลับแคมป์มา อธิบายลักษณะให้ฟัง) ‘ ตัวอะไรไม่รู้ นาย รูปร่างเหมือนช้าง แต่ใหญ่กว่ามากเหลือเกิน มีงาด้วย แต่งามันไม่ได้งอกออกจากโคนงวง งามันงอกมาจากใต้ปากโง้งลงดิน...’ บทที่ 105 5654-5666   ปะทะกับโขลงไดโนเทเรียม     หน้า 5659 อธิบายลักษณะไว้ว่า  ‘...มันคือช้างสารขนาดมหึมานั่นเอง แต่ที่อัศจรรย์ที่สุดก็คืองาอันใหญ่ยาว โง้งแหลมทั้งคู่ แทนที่จะโผล่ออกมาจากโคนงวง แล้วงอนโค้งเสยขึ้นเบื้องบน กลับปรากฏว่า งอกออกมาจากมุมริมฝีปากด้านล่างและโง้งลงต่ำลักษณะไม่ผิดอะไรกับเขี้ยว หรืองาของตัววอลรัส ’       หน้า 5666 บอกว่า โขลงนี้มีประมาณ 8-9 ตัว แต่อ่านจากที่เชษฐาบอกมาเรียแล้ว สับสนเล็กน้อย เพราะบอกว่า (ยิง)กองอยู่ตรงนี้ 4 ตัว เชษฐากับบุญคำตามไปยิงได้อีก 2 ตัวทางด้านโน้น อีกประมาณ 4-5 ตัวเปิดหนีไป...  แล้วก็บอกว่า ฆ่าได้ประมาณครึ่งจำนวน แต่โขลงของมันมีไม่มากนัก แค่ 8-9 ตัว.. (เรานับได้ 10-11)       5677 มาเรียให้คำอธิบายว่า ‘ช้างพวกนี้คือช้างยักษ์ ไดโนเทเรี่ยม (หรือ ดิไอโนเทเรี่ยม) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในยุค ไมโอซีน ติดต่อกับยุคไพลโอซีน ระยะเวลาระหว่าง 14 – 35 ล้านปี มาแล้ว เป็นต้นตระกูลของช้างในปัจจุบัน’ และ บอกว่า พวกนี้น่าจะเป็นพันธุ์ บาวาริคุม  ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไปนัก น่าจะสูญพันธุ์ไปไม่ต่ำกว่า 15 ล้านปีมาแล้ว  ดารินคอนเฟิร์มเรื่องนี้ในหน้า 5682 ส่วนหน้า 5688 และ 5689 มาเรียอธิบายเรื่องช้างไดโนเทเรี่ยมแบบลงรายละเอียดทางเพลิออนโตโลยี่ (ขี้เกียจพิมพ์แล้วค่า ยาวสองหน้าโลด) 5673  รังมดคันไฟ ในกอไผ่ที่ส่างปามุดเข้าไปหลบโขลงไดโนเทเรี่ยม ตอนออกมา ยังมีมดคันไฟเกาะเต็มตัวเป็นพรืด กัดเป็นตุ่มแดงทั้งตัว บทที่ 106 5743  เสือและไก่ป่า (เสียงร้อง)  “เสียงไก่ป่าขันเย็นเยือกมาตามลมรุ่ง นานๆ ครั้งจะได้ยินเสียงคำรนของพยัคฆ์ร้ายสะท้อนก้องมาจากหลังเขา” 5753  นก ลิงค่าง (เสียง) “ป่ารอบด้านเพรียกระงมไปด้วยเสียงวิหคนกไพรและลิงค่างที่กู่ร้องระงมยังดงข้างล่าง” 5757  นกและหมู่ปลาน้อย “แหม่มสาวเอนตัวลงพิงโขดหิน เท้าแกว่งน้ำเล่นนั่งชมนกชมไม้และหมู่ปลาน้อยที่แหวกว่ายอยู่ในธารน้ำใสอย่างสบายอารมณ์” บทที่ 107 5799   ปลาลำธาร 6-7 ตัว “เขากำลังหิ้วปลาลำธารพวงใหญ่ประมาณ 6-7 ตัว ร้อยเหงือกด้วยหวายเส้นเขื่องบ่ายหน้าขึ้นไปบนที่พัก” (รพินทร์แย่งปลามาจากแงซาย แล้วก็โดนจิ๊กคืนทีหลัง) 5822   แมลงวันป่า และ ผึ้งหลวง  “จอมพรานขณะนี้หยุดยืนแหงนหน้ามองอยู่ที่ไส้ช้างขดหนึ่ง ที่ห้อยรุ่งริ่งติดอยู่บนปลายกิ่งไม้ ซึ่งโน้มเอียงหักกลางอยู่ครึ่งหนึ่ง แมลงวันป่าและผึ้งหลวงตัวเขื่องกำลังรุมตอมหึ่งอยู่ที่นั่น และเป็นกระจุกดำพืด” 5825-5831  ร่องรอยของ T-Rex  รอยเขี้ยว ใหญ่เท่าจอบขนาดใหญ่ และยาวมาก  รอยเท้า เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร รอยเล็บ 3 เล็บ ระยะห่างระหว่างรอยเท้า 12 เมตร   ประมาณไว้ตอนแรก สูงไม่ต่ำกว่า 20 เมตร หนัก 30-40 ตัน 3839-3840 (มาเรียกับดารินไปอาบน้ำ)     ผีเสื้อ  “ผีเสื้อตัวโตๆ บินว่อนไปมาราวกับดวงมณีอันมีปีก”     นกหลากชนิด (เกาะจิกกินลูกส่งเสียงร้องอยู่ขรม)     ฝูงชะนี (สีเหลืองปานทองเกาะอยู่บนยอดยางสูงลิบ)       ลิงค่าง (ขย่มกิ่งไม้เกรียวกราวชุลมุนอยู่ยังยอดป่าตรงข้าม และยังมีที่ไต่ยั้วเยี้ยอยู่บนยอดไม้ริมฝั่งธารที่สองสาวมาอาบน้ำด้วย – 5844) บทที่ 108 5873- 5877 เสือเขี้ยวดาบ       (5874) “...ตัวมันใหญ่กว่าแมวหลายร้อยเท่าเท่านั้น หูทั้งสองลู่เรียบไปเบื้องหลัง ปากแดงอ้าแสยะออกเล็กน้อย แม้ระยะห่างยังสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นได้จะว่าสิงโตภูเขาก็ไม่ใช่ เสือก็ไม่เชิง สันฐานมันดูผสมกันอย่างไรพิกลในระหว่างสองสัตว์ร้ายดังกล่าว โดยเฉพาะเขี้ยวบนคู่หน้า ซึ่งโผล่ยาวโง้งออกมาเลยริมฝีปากล่างมองเห็นถนัดราวกับเอาดาบสองเล่มไปเสียบไว้ แสงตะวันบ่ายสาดกระทบขนสีเหลืองเป็นมันระยับเป็นสีพื้นเดียวกันตลอดปราศจากลายหรือจุด...”       5874-5876 ยิงเสือเขี้ยวดาบ       (5877) ตัวที่แงซายยิง ตอนที่ย่องจะตะครุบรพินทร์กับบุญคำทางด้านหลัง“...เจ้าเสือสีสันและเขี้ยวประหลาดตัวนั้น บัดนี้ขาดใจตายสนิทแล้ว ขนาดของมันเท่าลายพาดกลอนใหญ่ๆ แต่อวบอ้วนและช่วงสั้นกว่า เหลืองคล้ายสีเก้งไปทั้งตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขี้ยวบนทั้งคู่ แหลมโง้งพ้นริมฝีปากออกมาร่วมสามนิ้วชนิดเดียวกันนั่นเองกับที่เขาและบุญคำยิงพลิกท้องไปหยกๆ ตรงธารด้านล่าง...”       (5886) ตัวที่รพินทร์ยิง เขี้ยวยาวกว่าอีกตัว  “...เขี้ยวบนคู่หน้าที่โผล่ยาวออกมาเลยริมฝีปากล่าง แหลมคมน่าสะพรึงกลัว มีความยาวถึงเกือบห้านิ้ว วัดจากฐานเขี้ยว...” ไชยยันต์ว่า...”ฮื้อย์ย์ นี่มันซาเบิ้ล เสือเขี้ยวดาบนี่” แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 50 02:33:03 จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 18 ก.ค. 50 02:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แงซายจอมจักรา "เล่ม 3" อ่านจบเล่มแล้วไม่เจอแมลงเลย   สำหรับพวกสัตว์ ส่วนใหญ่สัตว์ที่กล่าวถึงในเล่มนี้จะเป็นกองทัพม้า ของมรกตนคร และกองทัพม้าของเมยานี ส่วนสัตว์อื่น ๆ ก็เป็นพวกสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน และในวัง ส่วนพืช ก็จะเป็นพวกลักษณะตามภูมิประเทศของบริเวณนั้น ๆ  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ครับ บทที่ 193 หน้า 9257 ม้าศึกขนาดใหญ่ 2 ตัว           (สำหรับเทียมเกวียนพิเศษ มีหลังคาพร้อมเล่มหนึ่งเป็นที่บรรทุกกุตะมะ) 9258 หหารม้า หนึ่งกอง ชุดสะกดรอย           (จำนวน 300 ม้า กล่าวไว้หน้า 9282) 9259 หหารม้า หนึ่งกอง ชุดล่าสังหาร           (ไม่ได้ระบุจำนวน น่าจะเท่าชุดสะกดรอย) 9277 สัตว์เลี้ยงบางชนิด           (..กลับถูกปล่อยทิ้งไว้ให้ร้าง ไม่มีผู้คนเหลืออยู่ให้เห็นเลย นอกจากสัตว์เลี้ยงบางชนิด..) 9277 ไร่ข้าวโพด           (..รวมทั้งบุกตรวจตะลุยค้นหาไปตามไร่ข้าวโพดด้วย..) 9294 ป่าไม้สูง           (..สองด้านเป็นป่าไม้สูงนักแต่ค่อนข้างทึบ ซึ่งสูงชันขึ้นไป..) 9297 ละเมาะโปร่ง ๆ           (..ภูมิประเทศสองฝั่งก็เป็นละเมาะโปร่ง ๆ สลับไปกับที่ราบตามเดิม..) 9298 ป่าของไม้ประเภทที่ปลูกในอุทยาน           (..ป่าสองฝั่งซึ่งบางทีอาจมีเห็นอยู่บ้าง ก็เป็นป่าของไม้ประเภทที่ปลูกไว้ในอุทยานมากกว่าจะเป็นไม้ป่าดงดิบ..) 9298 ลา           (..อันเรียกชานพระนคร....มีผู้คน ม้าลา และเกวียน เริ่มจะเห็นสัญจรอยู่ไปมาตามบริเวณถนนเหล่านั้น..) บทที่ 196 หน้า 9392 เนินหญ้า  บุปผาชาติ           (...ได้บรรลุถึงเนินหญ้าริมธารสายเล็ก ๆ อันอาเกียรณ์กลิ่นบุปผาชาติที่กำลังเบิกบานสะพรั่ง...) 9392 ไทร           (...ในที่สุดมันก็มายืนสงบนิ่งอยู่ใต้ร่มไทรใหญ่อันแผ่ฉายาร่มรื่นเงียบสงัด..) 9399 ทุ่งทานตะวัน           (..ประมาณไม่เกิน 10 ควบเหยาะ ๆ ตัดทุ่งทานตะวันตรงเข้ามา..) 9414 ป่าละเมาะ           (..ล่วงเข้าชายป่ะเมาะระหว่างเนินเขาเตี้ย ๆ สองลูก..) บทที่ 197 หน้า 9456 แกะ โค กระบือ           (..มีกลุ่มคนเลี้ยงแกะ โค กระบือ ที่ต้อมฝูงไปตามถนน..) 9474 สวนพฤกชาติ  ,  สระบัว           (..ผ่านไปตามสวนพฤกชาติอันงดงามข้างปราสาท  ผ่านสระบัวกว้างใหญ่ตรงไปยังตำหนักหลังหนึ่ง..) บทที่ 199 หน้า 9517 นกยูง และ นกพิราบ           (...อุดมไปด้วยฝูงนกยูงและนกพิราบ..) 9542 ต้นไม้ใหญ่           (...ตัวตำหนักที่มาพักกันอยู่ในครั้งแรกอยู่ทางส่วนไหน  เพราะต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไว้โดยรอบ...) 9542 ไม้ใบ ไม้ดอก           (...สองฟากทางเป็นสุมทุมพุ่มพฤกษ์  ทั้งไม้ใบและไม้ดอกแปก ๆ งามสะพรั่ง...) 9544 ตะไคร่น้า           (...สังเกตเห็นหยดน้าซึมลงมาจากเพดนหิน  ที่มีรอยแตกร้าว  และตะไคร่น้ำจับ...) บทที่ 201 หน้า 9649 ไทร           (...ริมภูเขาหินจำลองแห่งหนึ่งภายใต้ร่มไทรใหญ่ใบดก...) 9650 ไม้เลิ้อย           (...เขาเห็นแต่กลุ่มพฤกษชาติที่แวดล้อมอยู่ทางเดินแยกไปหลายทางอันค่อนข้างรกด้วยไม้เลื้อย...) บทที่ 203 หน้า 9672 ละเมาะป่าโปร่ง           (...ระยะทางนั้นผ่านไปในระหว่างละเมาะป่าโปร่ง  บางขณะก็เป็นทุ่งโล่ง...) 9673 ดอกไม้ป่า           (...อากาศยามเช้าใกล้รุ่งสดชื่นยิ่งนัก  หอมกรุ่นระรวยไปด้วยกลิ่นดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่ตามริมทาง...) แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 50 09:12:07 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 50 09:09:17 จากคุณ : Thaneth - [ 18 ก.ค. 50 13:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ส่งงานครับ อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 บทที่117 หน้าที่ 1147 แร้งพันธ์ไก่งวง 1151 ดงกระบองเพชร(โบราณ) บทที่118 หน้าที่ 1154 ไม้พันธ์ที่ขึ้นตามทะเลทราย 1156 พืชล้มลุก สมัยที่โลกเริ่มเย็นลง 1158 พันธ์ไม้ประเภทกระบองเพชรที่เล็กลง 1161 ต้นข่อย จากรากข่อยที่แงซายใช้ขัดฟัน 1173 กัญชา 1175 รากไม้ขนาดใหญ่ฝานเป็นแว่น (ว่านกันหิวน้ำตามที่พรานใหญ่เรียกในหน้า1178) บทที่121 หน้าที่ 1278 โกลเด้นอีเกิ้ล(พยาครุฑของพรานใหญ่) พ่อ แม่ ลูกอีก2 1286 รังนกโกลเด้นอีเกิ้ล  ท่อนไม้ที่ใช้ทำรังเป็นไม้อะไร เพราะเป็นไม้ที่ใช้ทำฟืนตามหน้าที่1302 บทที่122 หน้าที่ 1336 ต้นไม้ที่บุญคำเกาะ บทที่123 หน้าที่ 1364 พืชผลไม้บางชนิดที่ใช้ป็นอาหารได้ 1365 ต้นปรงขนาดใหญ่  ต้นปาล์ม ลักษณะประหลาด 1368 ซากโครงกระดูกสัตว์ใหญ่เก่าแก่โบราณทั้งใหม่และเก่า บทที่124 หน้าที่ 1402 กวางใหญ่ ไม่บอกลักษณะ 1405 ป่าปาล์มสลับพันธ์ไม้ดอกลักษณะแปลกตาที่บานสพรั่ง 1413 วัชพืชที่ออกดอกดวงสีสันประหลาดตา ปรงยักษ์ ไม้ประเภทเครือเถา รายงาน จากช่องระบายน้ำ โดย น้องเล็กเองครับ จากคุณ : เล็ก (ชายสมบูรณ์) - [ 18 ก.ค. 50 14:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไพรมหากาฬ เล่ม 1 บทที่  1 หน้า  1 สถานที่ทำการของบริษัทเป็นอาคารทันสมัยตั้งอยู่กลางบริเวณซึ่งแวดล้อมไปด้วย กรงขังสัตว์ทุกชนิด นับตั้งแต่กรงนกเล็ก ขึ้นไปจนกระทั่งเพนียดช้าง เกือบจะเป็นสวนสัตว์ย่อยๆ หน้า 2 เลี่ยงมายืนใต้ ต้นจามจุรีใหญ่ ใกล้ซุ้มประตู หน้า 5 ขาดอยู่อย่างเดียวคือ ลิง เที่ยวนี้เราได้มาเพียง 1,200 กว่าตัวเท่านั้น ยังขาดอยู่อีกตั้งครึ่ง นอกจากเจ้าแรดน้ำหนักตัว 2 ตันกว่าที่เราฟลุ๊กได้มาเหมือนฝัน ผมยังมีลูกกระทิงมาฝากเป็นของขวัญคุณอำพลอีกตัวหนึ่ง ลายพาดกลอน 2  เสือดาว 5 ไอ้ดำอีก 3 หน้า 12 เมื่อตนเองเดินช้า ๆ อยู่ในระหว่างกรงนกเงือก ภายใต้เงาของต้นทองหลางใหญ่ ใกล้ซุ้ม ข่อยทึบ แล้วชะงักนิ่ง กระโจนไต่ ตะกุยตะกาย ขึ้นไปบนต้นฉำฉา บทที่ 3 หน้า 32 คงจะไม่มากินซากช้าง ในคืนนั้นแน่ ๆ บทที่ 4 หน้า 58 ตั้งอยู่ทางด้านหลังของบริเวณ แวดล้อมไปด้วย กรงนก นานา ชนิด และ พันธุ์ไม้ที่ปลูกไว้ อย่างเป็นระเบียบงามตา หน้า 60 ตาสีเข้มของเขา ทอดจับไปยัง หัวกระทิงขนาดใหญ่ ที่สตัฟฟ์ ติดประดับไว้กับฝาผนัง หน้า 65 ลูกนุ่นดิบพวงหนึ่ง จากต้นนุ่นที่ยืนอยู่ ห่างหน้าต่างบานนั้น ประมาณ 40 เมตร บทที่ 5 หน้า  74 ภายใต้ร่มเงาของไทรยักษ์ บรรยากาศรอบด้าน สวยสดรื่นรมย์ไปด้วย ธรรมชาติของป่าแท้จริง ตัวเขาเองย้ายไปนอนอยู่ที่ เรือนหลังเล็ก ที่ปลูกอยู่บน คาคบ ของไม้ใหญ่ไม่ห่างออกไปนัก หน้า 97 แล้วส่องจับไปยัง ลูกมะขวิดป่า ที่ห้อยระย้า อยู่บนต้นสูงใหญ่ ห่างออกไปประมาณ 25 เมตร บทที่  6 หน้า 133 ควายเทียมเกวียน 8 คัน 16 ตัว หน้า 140 กองเกวียนทั้งหมดเริ่มเคลื่อนออกจากที่ ตัดเข้าสู่ป่าโปร่ง หน้า 147 นอกจากเหยี่ยวดงตัวใหญ่ที่เกาะเด่นอยู่บนยอดกระหร่าง หน้า 149 รพินทร์บุ้ยปากใหคณะนายจ้างดูที่กิ่งตะแบกต้นหนึ่ง หน้า 149 เกิดกับเส่ยที่คุมอยู่ท้ายขบวนเห็นเสือดำวิ่งผ่านหลังไป หน้า 150 ซ้ายมือเป็นเนินของตีนเขาใหญ่รกชัฏไปด้วยป่าทึบ หน้า 150 เมื่อเข้าเขตหุบก็จะมองเห็นฝูงนกเงือกบินโฉบเป็นระยะ นานๆ ครั้ง พวกชะนีหรือฝูงค่างก็ส่งเสียงร้องเกรียวกราว หน้า 151 กวางใหญ่ที่กำลังจะโลดเข้าริมทางกระโจนไปสุดช่วงตัว แล้วคอพับลงพลิกหงายท้องดิ้นตะกุยตะกายอยู่ในพงไม้ หน้า 155 หมูป่าฝูงหนึ่งประมาณ 5 – 6 ตัว หน้า 158 มองเห็นป่าโปร่งอยู่เบื้องหน้า หน้า 159 มัจจุราชแห่งดงดิบ ! พญาจงอาง!! บทที่ 7 หน้า 168 เพราะดอกมะค่าโมงกับลูกมหาดกำลังร่วง หน้า 173 ทั้งหมดข้ามลำธารขึ้นเนินทึบเตี้ยๆ ตัดทางลงสู่ป่าโปร่ง หน้า 174 ตาจับอยู่ที่ชะนีซึ่งโหนนิ่งอยู่บนยอดไม้ หน้า 174 ถ้ามันวิ่งเลยระดับของต้นตะเคียนใหญ่โน่น หน้า 177 ก็เห็นเลียงผาเป็นฝูง ฝูงละสองสามตัวกำลังกระโดดเปะปะอยู่ตามพุ่มไม้และพื้นราบ หน้า 179 รพินทร์ยิงเลียงผาให้ดารินดู 4 ตัว ตัวที่สี่ตัวใหญ่เขางามที่สุด หน้า 182 มีเลียงผาที่ยิงได้ทั้งหมดถึง 20 ตัว เป็นฝีมือดาริน 5 ตัว เป็นฝีมือเชษฐา 6 ตัว ฝีมือไชยยันต์ 5            ตัว หน้า 206 ดารินพยักหน้า ลุกขึ้นเดินทอดน่องช้าๆ มายืนอยู่โคนต้นมะค่าใหญ่ริมหน้าผาหินเกลี้ยง หน้า 207 อีเห็นครับ หน้า 229 ดารินหันมาทางเขาช้าๆ วางปืนพิงพงไม้ริมทาง หน้า 235 ส่องสำรวจไปยังบริเวณป่าโปร่งทางด้านเหนือที่เห็นอยู่ลิบๆ หน้า 241 มีบุญคำเดินหิ้วไก่ป่าและนกเงือกมาพวงใหญ่เดินตามหลังมาด้วย หน้า 242 ได้ไก่ป่ามาตัวเดียว ยิงไม่ค่อยทัน ไวจัง แล้วก็นกเงือกสองตัว กระทาดงอีกสามตัว บทที่ 8 หน้า 245 สลับซับซ้อนไปด้วยหินใหญ่และกอไม้น้ำ หน้า 246 กอต้นบอนก็ใช่ว่าจะขึ้นหนาแน่นทึบอะไรนัก หน้า 248 ไปหลบอยู่หลังไทรใหญ่โน่น เร็ว! หน้า 258 ก็ทะลุออกบริเวณป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้าคา มาถึงห้างแห่งแรกที่ขัดไว้บนซุ้มไผ่คู่ ชัยภูมิเหมาะเพราะบริเวณนั้นเต็มไปด้วยดอกมะค่าโมงและลูกมหาดที่หล่นอยู่เกลื่อนกลาด หน้า 261 พอมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่ล้มขวางทางอยู่ และเบื้องหน้าเป็นพงทึบ หน้า 262 บนกิ่งไม้เอนเตี้ยๆ เหนือระดับของรพินทร์ขึ้นไปไม่เกิน 5 เมตร งูหลามตัวขนาดหน้าแข้งเขื่องๆ พันอยู่กิ่งไม้ต้นนั้น หน้า 266 พอเดินมาได้เพียงไม่กี่นาที ก็ผ่านฝูงลิงนับร้อย หน้า 268 สมเสร็จน่ะครับ หน้า 269 ไชยยันต์ ผู้มัวเดินดูพวกเอื้องและเฟิร์นอันเขียวชอุ่มอยู่บนคบไม้เพลินอยู่ หน้า 269 นั่นคือ หมีควาย! ฝูงเบ้อเร่อทีเดียว (6 ตัว) หน้า 270 เจ้าลูกหาบสองคนเผ่นหวือ ปีนขึ้นบนต้นไม้ใหญ่เร็วยังกะลิง หน้า 275 นอกจากเก้งตัวเดียว ที่วิ่งตัดหน้าไปในระยะไกล หน้า 277 แต่เมื่อเข้ามาใกล้จึงเห็นว่าเป็นวัวโทน ตัวใหญ่เต็มที่สีตาลโตนด บทที่ 9 หน้า 288 มันเป็นพุ่มไม้ทึบ หน้า 299 เชษฐา เลือกได้โคนไม้ใหญ่ ขนาด 6 คนโอบ ต้นหนึ่งมีรากที่โคนต้น ยื่นออกมาเหมือนผนังกั้นห้อง บทที่ 10 หน้า 317 มันเป็นอีเห็นดง ตัวเขือง ขนาดหมาพันธุ์ อัลเซเชี่ยน หน้า 320 พวกแมลงวัน ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหน หน้า 321 ช่วยกันขัดห้างขึ้นอย่างเร่งรีบ บนคบไม้ใหญ่ ชัยภูมิเหมาะต้นหนึ่ง ซึ่งมีพวกเฟิร์น และกาฝากขึ้นอยู่เป็นเครื่องบังไพรอำพรางตาไปในตัว หน้า 326 ขณะนั้นแดดป่า กำลังแผดจ้าลอดกิ่งใบกระหร่าง ลงมาตรงศีรษะ หน้า 327 มีแต่หมาไน ฝูงเบ้อเร่อ จะเข้ามาทึ้งศพ หน้า 328 ทั้งผึ้งและแมงวันบินตอมหึ่ง หน้า 329 นอกจากชะนี สองสามตัว ที่โหนต่องแต่ง ก้มลงมามองอยู่บนยอดไม้เหนือศีรษะ และเจ้ากวางหนู หรือกระจงตัวน้อยๆ พากันเดินย่องอยู่ใต้ห้าง หน้า 340 มันโผล่ออกมาจากดงกระชิด ทางด้านโน้น หน้า 348 รพินทร์ จ้องเข้าไปในพงทึบ อันเป็นหญ้าคาและต้นเสือหมอบที่ข้นสูงท่วมศีรษะ หน้า 350 ท่ามกลางสายตา อันเบิกจ้องของทุกคน เสือลายพาดกลอน ขนาดมหึมา บทที่ 11 หน้า 382 ประมาณเที่ยงครึ่งก็เยียบเข้าถึงบริเวณดงไผ่ ที่แลเหลืองอร่าม ไปทั่วเพราะความแล้ง หน้า 388 เบื้องหน้าเป็นทุ่งหญ้า ลิ่วลิบออกไปมองเห็นเขาเตี้ย หน้า 389 ชิดกับป่าไผ่ด้านขวามือ ห่างออกไปประมาณ 700 เมตร วัวแดงฝูงหนึ่ง จำนวน 10-12 ตัว กำลังเดินและเล็มใบหญ้าอยู่เพลิน หน้า 396 เบื้องหน้าของเขามีต้นมะขามป้อมต้นใหญ่ต้นหนึ่งยืนตระหง่านโดดเดี่ยวอยู่ หน้า 405 เมฆฝนลอยผ่านไปอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จาก นกเงือกฝูงใหญ่ที่จับหมู่บินล่อน อยู่สูงลิบ เก้ง สองสามตัว เผ่นกระโจนตัดหน้าให้เห็น เพราะตื่นพายุ หน้า 411 บรรยากาศครึ้ม วังเวงด้วยไม้ใหญ่ ที่ปกคลุมทึบทะมึน อยู่ทั่วไป เสียงจักจั่นเรไร และลิงค่างบ่างชะนี ได้ยินอยู่รอบด้าน สรุป สัตว์ บทที่ ๑ 1. กรงขังสัตว์ทุกชนิด นับตั้งแต่กรงนกเล็ก ขึ้นไปจนกระทั่งเพนียดช้าง เกือบจะเป็นสวนสัตว์ย่อยๆ 2. ลิง 3. เจ้าแรดน้ำหนักตัว 2 ตันกว่า 4. ลายพาดกลอน 2   5. เสือดาว 5 6. ไอ้ดำอีก 3 7. กรงนกเงือก บทที่ 3 1. ซากช้าง บทที่ 4 1. กรงนก นานา ชนิด 2. หัวกระทิงขนาดใหญ่ สตัฟฟ์ บทที่ 5         - บทที่ 6 1. ควายเทียมเกวียน 8 คัน 16 ตัว 2. เหยี่ยวดงตัวใหญ่ 3. เสือดำ 4. ฝูงนกเงือก 5. ชะนีหรือฝูงค่าง 6. กวางใหญ่ 7. หมูป่าฝูงหนึ่งประมาณ 5 – 6 ตัว 8. พญาจงอาง บทที่ 7 1. ชะนี 2. อีเห็น 3. ไก่ป่าตัวเดียว 4. นกเงือกสองตัว 5. กระทาดงอีกสามตัว บทที่ 8 1. งูหลามตัวขนาดหน้าแข้งเขื่องๆ 2. ฝูงลิงนับร้อย 3. สมเสร็จ 4. หมีควาย! 6 ตัว 5. เก้งตัวเดียว 6. วัวโทน ตัวใหญ่เต็มที่สีตาลโตนด บทที่ 9 - บทที่ 10 1. อีเห็นดง ตัวเขื่อง ขนาดหมาพันธุ์ อัลเซเชี่ยน 2. แมลงวัน 3. หมาใน 4. ผึ้ง 5. ชะนี สองสามตัว 6. กระจง 7. เสือลายพาดกลอน บทที่ 11 1. วัวแดงฝูงหนึ่ง จำนวน 10-12 ตัว 2. นกเงือกฝูงใหญ่ 3. เก้ง สองสามตัว 4. จักจั่นเรไร 5. ลิงค่างบ่างชะนี ต้นไม้ บทที่ ๑ 1. ต้นจามจุรีใหญ่ 2. ต้นทองหลางใหญ่ 3. ซุ้ม ข่อยทึบ 4. ต้นฉำฉา บทที่ 4 1. พันธุ์ไม้ที่ปลูกไว้ อย่างเป็นระเบียบงามตา 2. ต้นนุ่น บทที่ 5 1. ไทรยักษ์ 2. มะขวิดป่า บทที่ 6 1. ป่าโปร่ง 2. ยอดกระหร่าง 3. กิ่งตะแบกต้นหนึ่ง 4. ป่าทึบ 5. พงไม้ บทที่ 7 1. ดอกมะค่าโมง 2. ลูกมหาด 3. ป่าโปร่ง 4. ต้นตะเคียนใหญ่ 5. เลียงผา  20 ตัว 6. ต้นมะค่าใหญ่ 7. พงไม้ริมทาง บทที่ 8 1. กอไม้น้ำ 2. กอต้นบอน 3. ไทรใหญ่ 4. ป่าโปร่ง 5. ทุ่งหญ้าคา 6. ซุ้มไผ่คู่ 7. ดอกมะค่าโมง 8. ลูกมหาด 9. ต้นไม้ใหญ่ 10. พงทึบ 11. กิ่งไม้เอนเตี้ยๆ 12. เอื้อง 13. เฟิร์น บทที่ 9 1. พุ่มไม้ทึบ 2. โคนไม้ใหญ่ ขนาด 6 คนโอบ บทที่ 10 1. เฟิร์น 2. กาฝาก 3. กิ่งใบกระหร่าง 4. ดงกระชิด 5. หญ้าคา 6. ต้นเสือหมอบ บทที่ 11 1. ดงไผ่ 2. ทุ่งหญ้า 3. ต้นมะขามป้อมต้นใหญ่ จากคุณ : บุรุษพเนจร - [ 19 ก.ค. 50 15:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แต่ละคน โคตะระขยันเลยอ่ะ   ข้าน้อยนับถือๆ จากคุณ : ฟาฬ - [ 19 ก.ค. 50 17:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มาส่งงานค่ะ จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 ส่วนของแมลง งู และสัตว์ต่าง ๆ 1.(บทที่ 87 หน้า 4607 ) ค้างคาวดูดเลือด ร่างแปลงของพันธุมวดี 2. (บทที่ 88 หน้า 4707) จักจั่นและพวกลองไน มันร้องวังเวงแซ่ประสานเสียงกรีดกริ่งไปหมด 3. (บทที่ 88 หน้า 4708) สัตว์เลื้อยคลานและแมลงมีปีก กริ่งร้องกันแซดระงมตามพงรกริมฝั่งห้วย 4. (บทที่ 88 หน้า 4710) แต่ก็ยังดีกว่า เขียด ปาด 5. (บทที่ 88 หน้า 4710) ปลาลำธารตัวโตขนาดข้อมือ 3-4 มาเรียหาได้จากลำธาร 6. (บทที่ 89 หน้า 4719) งูจงอางใหญ่ยักษ์สูงเทียมต้นเสลี่ยงยักษ์สันนิษฐานว่าเป็นงูจ้าว 7. (บทที่ 89 หน้า 4741)เก้งหนุ่มเขางาม 1 ตัว รพินทร์ยิงเป็นอาหารในเช้าวันรุ่งขึ้นที่พ้น อุโมงค์ลำธารใต้ดิน ออกมา 10. (บทที่ 89 หน้า 4754)จ่าฝูงโขลงช้าง 1 ตัวมีงาสีเหลืองจัดทั้งยาวแหลมจนเกือบระดินขนาดใหญ่มาก น้อง ๆแมมมอส ช้างโบราณ และลูกโขลงคำนวณจำนวนไม่ถูก ที่รพินทร์ต้องใช้คาถาสะกดช้างตะเพิดไล่ไป 11. (บทที่ 89 หน้า 4772) ช้างโขลงไม่ทราบจำนวนที่ล้อมบุญคำไว้บนต้นไม้แต่ละตัวขนาดเท่าภูเขางาลากดิน 12. (บทที่ 90 หน้า 4789) แพะ แกะ วัว ควาย ที่บุญคำเห็นในภาพบ้านเมืองของนิทรานครในอดีตตอนที่ติดอยู่บน ต้นไม้ 14.(บทที่ 90 หน้า 4800) ตะกวดดงและสัตว์เลื้อยคลานหน้าตาแปลกๆ 15. (บทที่ 90 หน้า 4830) อีเห็นแผง 1 ตัว ใหญ่ขนดสุนัขอัสเซเชี่ยนที่ไชยยันต์กับเมย์ยิงเป็นอาหารมี รอยกระสุน ทะลุสบักหน้าหนังถูกเปิดลอกไว้ครึ่งตัว ขาหลังด้านหนึ่งถูกมีดเฉือนตัดไป 16.(บทที่ 91 หน้า 4834) ตะขาบยักษ์ตัวยาวร่วม 50 เมตร ลำตัวปานต้นรัง 2 ตัว ตัวที่ 2 ขนาดย่อมกว่าตัวแรก แต่ปราดเปรียวว่องไวกว่า 17.(บทที่ 92 หน้า 4920) ค่างดำขนาดใหญ่ตัวหนึ่งรพินทร์ยิงเป็นอาหาร 18. (บทที่ 92 หน้า 4926) เสือโคร่งดำร่างสิงของมันตรัย 19. (บทที่ 93 หน้า 4964) หมีควายขนาดใหญ่เต็มที่ 1 ตัว ไชยยันต์ยิง 20. (บทที่ 93 หน้า หมาจิ้งจอกกลุ่มหนึ่งประมาณ 7-8 ตัว (หน้า 4967) 21. (บทที่ 94 หน้า 5039) กองกอยเป็นกองทัพมาพร้อมกับวรมันต์ในร่างของแงซาย 22. (บทที่ 94 หน้า 5046) หมูป่าขนาดใหญ่เขี้ยวขาวโง้งยาวออกมานอกปาก 23. (บทที่ 94 หน้า 5053) เห็บป่าอยู่เป็นดง 24. (บทที่ 94 หน้า 5059) ซากกระทิงที่พวกเชษฐายิงทิ้งไว้หัวเกือบเท่าครกตำข้าวที่พวกของรพินทร์ตามรอย ไปพบ 25. (บทที่ 94 หน้า 5014) พวกมดปลวกและแมลง 27. (บทที่ 94 หน้า 5046) ยังต้องระมัดระวังตัวแจจากงูพิษขนาดเล็กและทากตลอดจนแมลงก่อความรำคาญ ต่าง ๆ ซึ่งมีชุกชุมตลอดระยะ 27. (บทที่ 94 หน้า 5067) รอยกวางและวัวลงกินเมื่อคืนที่ผ่านมา จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 ส่วนของพืชและต้นไม้ 1.เสียงดิ้นรนน้ำแตกกระจายแล้วตะเกียกตะกายบุกขึ้นไปยังกอตะไคร้น้ำ (บทที่ 87 หน้า 4614) 2.พื้นบริเวณนั้นพ้นจากพงรกแล้วคงมีแต่หินกรวดและกอไม้ประเภทเฟิร์นกับหญ้าบอนบางชนิดเท่านั้น (บทที่ 87 หน้า 4629) 3.หล่อนชี้มือไปที่ยอดเสลี่ยงใหญ่สูงเด่นประดุจฉัตรมหายักษ์เคียงขนานกับต้นสักโบราณ (บทที่ 88 หน้า 4709) 4.ห่างจากชายหินใต้ต้นจิกออกมาเล็กน้อยเป็นพื้นที่ปกคลุมด้วยใบไม้และหญ้าบอนเล็กที่ขึ้นอยู่ทั่วไป (บทที่ 88 หน้า 4712) 5.ยูง ยาง ตะเคียน ตะคร้อ และไม้เบญจพรรณหลายต่อหลายต้น (บทที่ 89 หน้า 4718) 6.ริมก้อนใหญ่ใต้ต้นรัง (บทที่ 89 หน้า 4718) 7.ดอกงิ้วสีแดงสดที่ร่วงหล่นจากต้น (บทที่ 89 หน้า 4741) 8.บนคาคบของต้นกร่างใหญ่ขนาดสามคนโอบที่ยืนต้นตรงชะลูดสูงลิบไปจากพื้นประมาณ 20 เมตร (บทที่ 89 หน้า 4763) 9.ต้องอาศัยขุดหัวเผือกหัวมันประทังชีพ (บทที่ 90 หน้า 4778) 10.ตัดดิ่งเข้าไปในดงเถาวัลย์ยักษ์ที่ระเกะระกะเป็นสายระยางอยู่ทั่วไป (บทที่ 90 หน้า 4800) 11.ในระแวกนั้นก็เต็มไปด้วยกล้วยไม้และกาฝากที่งอกอยู่เต็มคาคบงดงามออกดอกม่วง เหลือง แดงและขาว สลับกันดูลานตาไปหมด (บทที่ 90 หน้า 4800) 12.ต้นพริกขี้หนูยักษ์ ชนิดที่เคยพบกันมาแล้ว แต่คราวนี้ขึ้นเป็นดงมีทางด่านพาดสลับกันไปมาระหว่างต้นพริก ใหญ่ ป่าสักขึ้นเป็นแนวชิดกับชายเขาเตี้ย ๆ ลูกหนึ่ง (บทที่ 90 หน้า 4832) 13.ไม้ขะโมย เป็นไม้เล็กมักจะขึ้นปะปนอยู่ทั่วไปในป่าทุกประเภท คุณสมบัติในตัวก็คือ แม้จะตัดมาสด ๆ ก็ สามารถติดไฟได้อย่างง่ายดายเพราะมียางเป็นเชื้อเพลิง แต่ต้องเจียนออกเป็นชิ้นเล็กสำหรับเป็นเชื้อล่อไฟ เสียก่อน เป็นไม้ประเภทเบา เปราะ ลำต้นตรงราวไม้พลอง เปลือกไม้เป็นสีเขียว (บทที่ 91 หน้า 4834-4866) 14.มันเสาและเห็ดโคน (บทที่ 92 หน้า 4913) 15.ลูกหวายและลูกไข่เน่า (บทที่ 92 หน้า 4917) 16.เถาวัลย์น้ำ (บทที่ 92 หน้า 4922) 17.พงเล็บเหยี่ยวและหนามพุงดอ (บทที่ 93 หน้า 4952) 18.ป่าหญ้าคาและพงเสือหมอบ (บทที่ 93 หน้า 4968) 19.ป่ารกประเภทดงไผ่และหวายซึ่งอุดมไปด้วยหนาม (บทที่ 93 หน้า 4968) 20.หญ้าและเฟิร์นดอกเอื้องสีสันต่าง ๆ (บทที่ 94 หน้า 5096) 21.ต้นกระบากขนาดเท่าขาอ่อน (บทที่ 94 หน้า 5960) 22.เนินหญ้ามอสอุดมไปด้วยไม้ดอกและใบไม้สีสันเจิดจ้าสวยสดงดงามยิ่งพวกเอื้องและกล้วยไม้พันธ์แปลก ๆ (บทที่ 94 หน้า 5965) 23.ภูเขาเตี้ยที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าและต้นสน ไหล่เนินสูง ๆ ต่ำ ๆ ที่อุดมไปด้วย สนสามใบ กอหว้า อบเชย และ ต้นชา พื้นเบื้องล่างแทรกสลับไปด้วยหญ้ามอส กูด และ เฟิร์น (บทที่ 94 หน้า 5067) สรุป งู แมลง และ สัตว์ต่าง ๆ 1. ค้างคาวผีดูดเลือด 2. จักจั่นและพวกลองไน 3. สัตว์เลี้อยคลานหน้าตาแปลก ๆ 4. แมลงมีปีก 5. ปลาลำธาร 6. งูจงอางยักษ์ – งูจ้าว 7. เก้ง 8. ช้าง 9. แพะ แกะ วัว ควาย 10. ตะกวดดง 11. อีเห็นแผง 12. ตะขาบยักษ์ 13. ค่างดำ 14. เสือโคร่งดำ 15. หมีควาย 16. กองกอย 17. หมูป่า 18. เห็บป่า 19. กระทิง 20. หมาจิ้งจอก 21. มด ปลวก 22. กวาง 23. วัว 24. เขียด ปาด 25. งูพิษขนาดเล็ก 26. ทาก สรุป พืช และ ต้นไม้ 1. ตะไคร้น้ำ 2. เฟิร์น 3. เสลี่ยง 4. ต้นสักโบราณ 5. ต้นจิก 6. หญ้าบอน 7. ต้นยูง 8. ต้นยาง 9. ต้นตะเคียน 10. ต้นตะคร้อ 11. ไม้เบญจพรรณ 12. ต้นรัง 13. ดอกงิ้ว 14. ต้นกร่างใหญ่ 15. เผือก 16. มัน 17. มันเสา 18. เถาวัลย์ยักษ์ 19. กล้วยไม้พันธุ์แปลก ๆ 20. กาฝาก 21. ต้นพริกขี้หนูยักษ์ 22. ป่าสัก 23. ไม้ขะโมย 24. เห็ดโคน 25. ลูกหวาย 26. ลูกไข่เน่า 27. เถาวัลย์น้ำ 28. เล็บเหยี่ยว 29. หนามพุงดอ 30. ป่าหญ้าคา 31. พงเสือหมอบ 32. ป่าไผ่ 33. ป่าหวาย 34. ต้นกระบาก 35. หญ้ามอส 36. เอื้อง 37. ต้นสนสามใบ 38. กอหว้า 39. อบเชย 40. ต้นชา 41. กูด (เป็นไม้ประเภทเฟิร์นชนิดหนึ่ง) 42. ไม้ดอกและใบไม้สีสันเจิดจ้า จากคุณ : กิ่งหลิว&ดอกเหมย - [ 20 ก.ค. 50 08:22:33 A:192.168.0.22 X:58.10.18.212 TicketID:148440 ]

ความคิดเห็นที่ 75 งานนี้คุณวีได้เหนื่อยแน่ๆ  ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 20 ก.ค. 50 09:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 76 โห..นับถือนับถือ....สุดยอดความพยายาม.... ขอเป็นแรงเชียร์ด้วยคนค่ะ จากคุณ : เอจังงัง (เอจังงัง) - [ 20 ก.ค. 50 09:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณทุก ๆ คนนะคะ ตอนนี้กำลังเริ่มเก็บข้อมูลที่ได้มาเพื่อนำมาสรุปอีกที คุณโอจิก็ดูนกชมแมลงไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ :) จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 20 ก.ค. 50 23:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ส่งงานค่ะ  ตอน ป่าโลกล้านปี1  ค่ะ สัตว์ ตอน  125  หน้า 6751 – หน้า 6794     1.แร้ง/แร้งไก่งวง  (หน้า 6752)   http://se-ed.net/wildfriend/bird/bowturkeyvulture.html     2.แทรคโคดอน (หน้า 6770)   http://www.petchprauma.com/contents/primitives/trachodon.html  หรือ http://social.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=33     3.ไทรันโนซอรัส  (หน้า 6773)   http://www.mayomdino.com/index.php?option=com_content&task=view&id=32&Itemid=1 หรือ  http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet4/dinosaur/tyrannos.htm  หรือ  http://social.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=33    4.ไดโนเทเรี่ยม  (หน้า 6776) http://petchprauma.com/contents/primitives/dinotherium.html  หรือ  http://social.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=33    5.สเตโกซอรัส  (หน้า 6776) http://www.nsru.ac.th/oldnsru/data/dino/stego.html ตอน  126  หน้า 6795 – หน้า 6837     ไม่มี ตอน  127  หน้า 6838 – หน้า 6880     6.หมาป่า  (หน้า 6839) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2     7.เก้ง  (หน้า 6825) http://www.moohin.com/animals/mammals-7.shtml     8.กวาง  (หน้า 6825) http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/db_directory/exotic/randeer/deer_1.htm     9.หมาจิ้งจอก  (หน้า 6858) http://www.verdantplanet.org/animalfiles/goldenjackal_(Canis_aureus).html     10.แมลงวัน  (หน้า 6861) http://www.ads.co.th/services/services_1_1_6.aspx     11.เสือ  (หน้า 6861) http://www.tigerzoo.com/Tigerthai/edu.html     12.นกยูง  (หน้า 6880)   http://se-ed.net/wildfriend/bird/bowpeacock.html ตอน  128  หน้า 6881 – หน้า 6925     13.สมัน  (หน้า 6893) http://www.ku.ac.th/AgrInfo/wild/tip6.html     14.หมูป่า  (หน้า 6893)   http://se-ed.net/wildfriend/zoo/zoo-f.html     15.วัว  (หน้า 6893) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A7     16.แรดโบราณ/แรดอาร์สินอย  (หน้า 6893) http://www.raorakpar.com/rad01.html       หรือ  http://www.ku.ac.th/AgrInfo/wild/tip4.html  หรือ  http://social.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=33     17.สมเสร็จ  (หน้า 6895) http://www.ku.ac.th/AgrInfo/wild/tip15.html      หรือ http://www.nsru.ac.th/oldnsru/data/wide/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88.html     18.ลิง  (หน้า 6898) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87     19.ค่าง  (หน้า 6898) http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=38791     หรือ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=duen&month=04-2006&date=01&group=7&gblog=262     20.นก/นกนางแอ่น  (หน้า 6898) http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=4642295357584 หรือ  http://www.siambird.com/     21.ค้างคาว  (หน้า 6898) http://www.everykid.com/ZooNET/bat/index.html     หรือhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A7     22.บ่าง  (หน้า 6898) http://std.kku.ac.th/4631800138/homepage3.html     23.งู  (หน้า 6902) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9     24.บรอนโตเซารัส  (หน้า 6907) http://petchprauma.com/contents/primitives/brontosaurus.html หรือ http://www.aksorn.com/lib/libshow.asp?sid=503&sara=sci_06&level=s  หรือ  http://social.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=33     25.ปลา  (หน้า 6916) http://www.moohin.com/fish/     26. แมลงน้ำ/แมลงในน้ำ  (หน้า 6916) http://www.thaithink.com/readingroom/insect/chapter11/chapter11.htm   หรือ http://203.146.15.111/goverment/www.bug.com/008.html       27.ปลาวาฬ  (หน้า 6917) http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-3097.html  หรือ http://www.school.net.th/library/snet4/july8/whale.htm     28.ตะเข้ตะโขง/ตะโขง  (หน้า 6921) http://www.prc.ac.th/tree_an_teen/t_schlegelii.htm       29.พญานาค  (หน้า 6921) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84   หรือ http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/poonsak/buengkhonglong/sec03p02.html     30.เทอโรซอร์/เทอโรแดกทีลอยด์ /มังกรบิน  พันธุ์เทอราโนดอน  (หน้า 6924) http://board.dmr.go.th/news_dmr/data/1478.html   หรือ http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet4/dinosaur/pteranod.htm   ตอน  129  หน้า 6926 – หน้า 6948     31.นกอินทรีย์ พันธุ์ โกลเดล อีเกล/อินทรีย์ทอง (หน้า 6932) http://se-ed.net/wildfriend/bird/bowgoldeagle.html     32.กระทิง  (หน้า 6924) http://www.wildlifefund.or.th/pang_ma4.html         33.จระเข้  (หน้า 6945) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89   หรือ   http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/db_directory/exotic/reptile/crocodile/croc.htm       34.แมว  (หน้า 6947) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7       35.หนู  (หน้า 6947) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9   ตอน  130  หน้า 6949 – หน้า 6970     36.ตัวเงินตัวทอง/ตะกวด  (หน้า 6949) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%94  หรือ   http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2     37.จิ้งจกน้ำยักษ์/ต้นตระกูลจระเข้/ไดโนจระเข้  (หน้า 6952) http://www.pantown.com/board.php?id=14332&area=1&name=board10&topic=18&action=view   ตอน  131  หน้า 6971 – หน้า 7013     38.ปลิง  (หน้า 6976) http://www.si.mahidol.ac.th/department/Preventive/home/article/leechslug.htm   ตอน  132  หน้า 7014 – หน้า 7056     ไม่มี ตอน  133  หน้า 7057 – หน้า 7097     39.เสือดาว  (หน้า 7076) http://se-ed.net/wildfriend/zoo/zoo-f.html     40.มดดำ  (หน้า 7081) http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet4/may11/ant.htm       41.ปลวก  (หน้า 7090) http://www.plantgenetic-rspg.org/termite/termite2.html   ตอน  134  หน้า 7098 – หน้า 7141     42.โป่งค่าง/มนุษย์วานร  (หน้า 7101,7173) http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no16-25-45/paw2.html   หรือ   http://203.185.130.68/Subdetail/old_pakinaka/Pakinaka_nguoi/Pakinaka_nguoi.html       43.อุรังอุตัง  (หน้า 7112) http://www.zoothailand.org/animals/mammals_th.asp?id=64       44.กอริลลา  (หน้า 7112) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B2   หรือ http://miaow.exteen.com/20050621/spirit-of-africa       45.แมงมุม  (หน้า 7116) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1    หรือ http://www.doa.go.th/fieldcrops/ipm/th/Natural_enemies/Predators/spiders.htm     หรือ http://www.bangkokhealth.com/sitesearch_detail.asp?Number=9319   ตอน  135  หน้า 7142 – หน้า 7187     46.หมีควาย  (หน้า 7142) http://www.moohin.com/animals/mammals-81.shtml   พืช ตอน  125  หน้า 6751 – หน้า 6794     ไม่มี ตอน  126  หน้า 6795 – หน้า 6837     ไม่มี ตอน  127  หน้า 6838 – หน้า 6880     1.ปาล์ม  (หน้า  6843) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A1       2.สน  (หน้า  6843) http://www.lks.ac.th/plant/son.html       3.เครือเถา  ไม้พันธุ์ล้มลุกที่อาศัยหยั่งรากเพียงตื้นๆ(หน้า  6851) ตอน  128  หน้า 6881 – หน้า 6925     4.ป่าปอ  (หน้า  6896) http://www.doa.go.th/pl_data/02_LOCAL/oard3/poo/main.html       5.ป่าในที่ลุ่มต่ำต้นยุคซีโนโซอิค  (หน้า  6981)     6.เฟิร์น(โคนิเฟอร์สทรี)  (หน้า  6905) http://www.shc.ac.th/learning/botanical-garden/171.htm  หรือ http://www.morninggarden.com/wiki/index.php/Category:%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99       7.ป่าประเภทไพรัสและอโรกาเรีย  ประเภทสนยืนต้น  (หน้า  6907) http://www.lks.ac.th/plant/son.html   ตอน  129  หน้า 6926 – หน้า 6948     ไม่มี ตอน  130  หน้า 6949 – หน้า 6970     ไม่มี ตอน  131  หน้า 6971 – หน้า 7013     8.เห็ดมรณะ/เห็ดมหัศจรรย์/เห็ดมฤตยู/เห็ดมหากาฬ  มีลักษณะแผ่กว้างเป็นใบเหมือนใบบัวกระด้ง  และดอกลำโพง  (หน้า  7001)    เอาลิงค์ของบัวกระด้งกับดอกลำโพงมาแทนนะคะ  อิอิ http://www.search-thais.com/lotus2/victoria.htm      หรือ  http://www.morninggarden.com/wiki/index.php/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%87       หรือ   http://www.weekendhobby.com/board/photo/Question.asp?ID=2691  หรือ  http://www.geocities.com/toxicol2001/thornapple.html   ตอน  132  หน้า 7014 – หน้า 7056     ไม่มี ตอน  133  หน้า 7057 – หน้า 7097     9.ใบไม้  อันแผ่กว้างใหญ่คล้ายๆใบลาน  (หน้า  7085) http://www.trekkingthai.com/Doyouknow/Q0010.htm       10.เล็บเหยี่ยว  (หน้า  7090) http://kanchanapisek.or.th/kp14/project_dev/project_area/Ratburi/plant_page21.php?plantid=207&page=10       11.ใบเสมา  (หน้า  7090) http://www.greenworld.or.th/beach/AboutBeach/show_plant.aspx?NAME=15   หรือ http://www.greenworld.or.th/beach/AboutBeach/show_plant.aspx?NAME=14       12.กก  (หน้า  7091) http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet2/history_math/papyrus.htm  หรือ http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/weaving_1.htm       13.ว่าน  (หน้า  7091) http://www.udomsuksa.ac.th/Latphrao/botanical/botanic24.asp       14.ป่าหวาย  (หน้า  7093) http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/weaving_4.htm       15.ต้นกระบาก  (หน้า  7093) http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/woods.htm   ตอน  134  หน้า 7098 – หน้า 7141     ไม่มี ตอน  135  หน้า 7142 – หน้า 7187     ไม่มี เหอๆ  ช้าไปป่าวคะเนี่ย  หวังว่าลิงค์ต่างๆคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ  ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ  หากพอใจ  เรียกใช้บริการอีกก็ได้นะคะ   แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 21:39:40 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 00:10:17 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 50 23:57:40 จากคุณ : @^^@ (khattykha) - [ 20 ก.ค. 50 23:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ได้รับมอบหมาย ไพรมหากาฬ เล่ม 2 แต่คงต้องขอเวลาอีกนิดนะคะ จริงๆจะเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ทำละเอียดขนาดนี้ เลยจะขอไปใส่หน้า หารายละเอียดมาให้เพิ่มนะค่ะ จากคุณ : Yamashiro - [ 21 ก.ค. 50 15:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อย่างนี้ครูให้เกรด A เลยจ้า @^^@ (khattykha) จากคุณ : gogo777 - [ 21 ก.ค. 50 17:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอกล่าวชมจากใจ คุณ@^^@ (khattykha) ทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ คะแนนเต็ม ๑๐ จะให้ ๑๐๐ คะแนนไปเลย สำหรับผมขอส่งเรื่องสัตว์ก่อนนะครับ งานหาแมลง ค่อยข้างหากินฝืดซะด้วยครับ ไม่ทราบว่าไปหลบอยู่เล่มไหนกันบ้าง ยิ่งเล่มนี้เจอทั้งไอ้แหว่ง และงูยักษ์ เจ้าพวกแมลงเลยหดหัวส่งเสียงไม่ค่อยจะออกกันสักเท่าไหร่       ๑.หาตัวแมลงก่อนนะครับ         เข้าเขตพุเตย (๔๕/๔๒๘/บ๑๑) มดและแมลงไต่กันขวักไขว่(ซากกระเหรี่ยงหญิง) หมายความว่า บทที่ ๔๕   หน้าที่ ๔๒๘  นับจากบนลงล่างบรรทัดที่ ๑๑ แต่ถ้า ล...  หมายความว่านับจากล่างขึ้นบนบรรทัดที่...นะครับ            ช่วงพักค้างคืนก่อนเข้าหล่มช้าง (๔๗/๕๑๓/ล๕) เสียงจักจั่นเรไรยังดังประสานเสียง(ก่อนงูยักษ์มาเขมือบควาย) ช่วงระพินทร์ฟื้นจากไข้มาลาเรียที่หล่มช้างกลางดึกนอนฟัง (๕๐/๖๗๕/ล๑๑)ส่ำเสียงเรไรดงประสานเสียงกับแงซายร้องเพลง            ตามล่างูยักษ์ที่บาดเจ็บ (๕๑/๗๓๔/บ๗)สัตว์ประเภทเลื้อนคลานและหนอนตัวใหญ่ (๕๑/๗๓๕/บ๔)คะหยิ่นอยากให้เห็นตาเฒ่าตกลงในบ่อต่อหลุม      ๒.รายการต่อไปสาระพัดสัตว์ครับ              ตอนตามล่าไอ้แหว่ง (๔๔/๓๖๐/บ๑๐) เสียงบินพึบพับของค้างคาว (ในอุโมงค์ใต้ภูเขา) (๔๔/๓๗๐/บ๑๓)องครักษ์พิทักษ์แหว่ง ช้างสีดอ ขนาดใหญ่เต็มที่ ๒ เชือก (๔๔/๓๘๖/บ๓)ไอ้แหว่งแท่งงาอันมหึมางอนแหลม หัวขนาดตุ่มสามโคก                เสร็จศึกไอ้แหว่ง (๔๕/๔๒๑/ล๔)ฝูงวัวดำ (วิ่งขนานขบวนเกวียนฝูงใหญ่) (๔๕/๔๒๑/ล๒)ละมั่ง  ฟาน (ตัดหน้าคาราวาน) (๔๕/๔๒๒/บ๒)ช้างโขลงหนึ่ง ๑๐ กว่าตัว (แม่แปรกเป็นจ่าฝูง)               เข้าเขตุพุเตย เจอบรรยากาศแปลกใหม่โดยเฉพาะเสียงหมาหอนประสานเสียง ให้ฟังกันอย่างจุใจไม่ขาดระยะ แถมยังขนสัตว์ต่าง ๆ มากล่อมกลัวจะเงียบวังเวงเกินไป (๔๕/๔๒๒/ล๗)เสียงหมาหอน(ยินดีต้อนรับเข้าสู่พุเตย) (๔๕/๔๒๕/บ๑๔)เสียงหอนของหมาจิ้งจอกดังโหยหวนอยู่ไม่ขาดระยะ (๔๕/๔๒๕/บ๑๕)สำเนียงครางต่ำของนกทึดทือบนยอดไม้ (๔๕/๔๓๒/บ๑๐)นกแสกส่งเสียงร้องแหลมโฉบเงาดำตัดหน้า(ระพินทร์กับไชยยันต์) (๔๕/๔๔๐/บ๑๐)นกทึดทือเกาะอยู่บนไม้คร่าวในห้อง(เสียงเหมือนคนคราง)บนบ้านยะขิ่น (๔๕/๔๔๐/บ๑๑)หนูผีเกือบเท่าแมวกำลังแทะซาก(เสียงคล้ายคนกระซิบ) (๔๕/๔๕๔/บ๑๐)ดักกระซู่กัน(เส่ยกับยะขิ่นเมื่อสองเดือนก่อน) (๔๖/๔๖๖/บ๓)หมาหอนประสานเสียงแซ่(รอบทิศทาง)         ระยะทางจากพุเตยเข้าหล่มช้าง (๔๗/๕๐๙/บ๔)นกกะลิงเกาะจับอยู่เป็นฝูงเขียวราวมรกต (๔๗/๕๑๓/บ๘)ควายป่ามหิงสาประมาณ ๒๐ ตัว (ตกใจได้กลิ่นงูยักษ์วิ่งหนีผ่านให้ขบวนคาราวานเห็น) รายละเอียดที่เสาะหาได้เกี่ยวกับงูยักษ์ถือว่าเพิ่มเติม (๔๗/๕๒๕/บ๘)ปลายสุดของต้นหางขนาดเท่าต้นตาล (ไม่ได้ระบุหน้าแต่มีในหนังสือครับ) -สัณฐานท่อนซุงขนาดใหญ่ขนาด ๕-๖ คนโอบ -ป่าหญ้าถูกแหวกเป็นทางราวกับล้อของรถบดถนน ๑๐ ตัน แล่นผ่าน -เจ้าตัวเบาะ ๆ ต้นรังห้าคนโอบ -ยาวไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ หลา -รถแทกเตอร์ลากซุงขนาดใหญ่ผ่าน -ขนาดเรือเอี้ยมจุ๊น -น้ำหนักไม่ต่ำกว่า ๒๐ ตัน (๔๗/๕๓๐/ล๑๑)เสียควายไปตัวหนึ่ง(งูยักษ์งาบ) (๔๗/๕๓๙/บ๑๔)หมู(โทน)ป่า กำลังพันตูอยู่กับนางอั้ว (๔๗/๕๔๖/บ๑๐)วัวชาวบ้านหาย(เชื่อว่างูผีของเจ้าพ่อเขาจ้าว) (๔๗/๕๔๗/บ๓)วัวคะหยิ่นหาย ๓ ตัว (๔๘/๕๖๕/บ๑๓)ระพินทร์ช่วยคะหยิ่นให้รอดตายจากเสือขบหัว(บุญคำบอกเจ้านาย)         เข้าด่านหล่มช้าง (๔๘/๕๖๗/บ๙)หมาเห่าขรม(คราวนี้ไม่ได้หอนนะครับ) (๔๘/๕๘๘/บ๖)ลิงค่างบ่างชะนีส่งเสียงร้องลั่นอย่างตกใจ(ไชยยันต์โชว์ออฟ) (๔๙/๖๐๙/ล๗)ระพินทร์บอกว่าเคยช่วยกะเหรี่ยงที่ถูกวัวแดงขวิดไส้ไหล (๕๐/๖๖๐/บ๕)นกกาลิงค่างบ่างชะนีสรรพสัตว์หากินในรัศมีแตกตื่น(แงซายแผลงศร)         งูยักษ์โจมตีหมู่บ้านเชษฐาบัญชาการอยู่ (๕๑/๗๑๐/บ๑๐)หมาตัวหนึ่งแอบนอนหางหด วิ่งหางจุกตูด (๕๑/๗๑๐/บ๑๔)วัวในคอกคะหยิ่นแตกตื่น (๕๑/๗๑๐/บ๑๖)ควายเทียมเกวียนสะบัดดึงเชือก เมื่อมีคนรับหน้าที่สรุปแล้ว ผมคงจะไม่ทำเกินหน้าที่ กลัวคนรับสรุปจะตกงาน  สรุปแมลงและสัตว์เองนะครับ สำหรับเรื่องพืช ก็ขอผลัดวันประกันพรุ่งไปก่อน บันทึกไว้แล้วครับ เหลือแต่พิมพ์ลงเครื่อง คงไม่นานเกินรอได้รับอย่างแน่นอนครับ จากคุณ : ปฏิทิน - [ 21 ก.ค. 50 22:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เอาของผมบ้างนะครับผม เรื่องพืชนี่ไม่ต้องหาเลยคับ ไม่มีเลย สัตว์ก็มีแต่ ม้า ม้า แล้วก็ม้า ทั้งนั้นเลย อ้างอิงจาก ปีพิมพ์ 2547 นะครับที่ปกอ่อน สันสีเขียว หน้า  9697 ลูกแกะย่างขนาดเขื่องที่ย่างเหลืองอร่ามไปทั้งตัว หน้า  9706 เรามีทหารม้า อยู่แค่ 3 กองร้อย เท่านั้นครับ หน้า  9707 ทหารม้ารวมทั้งหมดแล้วประมาณหมื่นสองพันเศษแต่สำหรับทหารม้าจะถูกแยกออกมาเพียงสี่พันม้า คือกองพลที่เราควบคุมอยู่ หน้า  9787 ลาต่าง 1 ตัว ไว้บรรจุหีบระเบิด กับทหารม้า ประมาณ  3 กองร้อย หน้า  9799  ม้า 13 ตัว หน้า  9838  ทหารม้า 50 คน  ลาต่าง  2 ตัว จากคุณ : gogo777 - [ 22 ก.ค. 50 00:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 83 โห...คุณ khattykha หา link มาประกอบข้อมูลให้ด้วย นับถือๆ ส่วนคุณปฏิทินก็ใช่ย่อย บอกตั้งแต่บท หน้า ไปจนถึงบรรทัดเลย ขอบคุณนะคะ ระหว่างรวบรวมข้อมูลก็พบว่า เนื่องจากเราอ่านกันจากหนังสือหลายเวอร์ชั่น ทั้งแบบปกขาว แบบพิมพ์ปี 2538 (รวมพิมพ์ครั้งแรก) แบบพิมพ์ปี 2547 (รวมพิมพ์ครั้งที่ 4) ทำให้มีปัญหาในเรื่องของเลขหน้า เพราะเล่มที่พิมพ์หลัง ๆ เค้าพิมพ์หน้าเรียงกันตั้งแต่ ไพรมหากาฬ เล่ม 1 ไปจนถึงแงซายจอมจักรา เล่ม 4 เลย  ...เลขหน้าที่บอกมาก็เลยดูจะไม่ตรงกัน เวลาสรุปคงต้องสรุปเลขหน้าให้เป็นเวอร์ชั่นเดียวกัน ซึ่งวีขอเป็นเวอร์ชั่นที่วีมีอยู่ คือ ฉบับรวมพิมพ์ครั้งที่ 4 ปี 2547 นะคะ ตอนนี้ระหว่างรอข้อมูลก็เลยเทียบเลขหน้าไปพลางๆ ก่อนสำหรับเล่มที่เป็นคนละเวอร์ชั่น (ยังดีที่เลขบทตรงกัน) ...งานนี้ชักจะเริ่มหินซะแล้ว แต่ยังไงจะทำให้ดีที่สุดค่ะ อาจจะช้าไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ก่อนนะคะ... จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 22 ก.ค. 50 00:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เยี่ยมมากเลยครับ คุณ@^^@ (khattykha) และทุกคน มาเป็นกำลังใจให้ คุณวี อีกรอบครับ  ไม่ต้องรีบหรอกครับ  รอได้เรื่อยๆครับ  ตอนนี้ผมก็พอจะทราบเลาๆแล้วว่า ต้องเตรียมหาอะไรบ้าง จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 22 ก.ค. 50 07:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ส่งงาน จอมผีดิบมันตรัยเล่ม 2 ครับคุณวีวี่ รายชื่อสัตว์ บบที่ 73 333  กองกอย 366  ค้างคาวยักษ์ บทที่ 74 412  สัตว์ประเภทกิ้งก่า  (ลักษณะเหมือนกิ้งก่า แต่ตัวใหญ่พอ ๆ กับตะกวดลำตัวเป็นสีน้ำตาลกลืนกับเปลือกไม้ ส่วนหัวดำสนิท ขอบตาแดงเหมือนทาชาด มีหนามแหลมโผลายาวรอบตัวราวกับหนามทุเรียน มี พิษเท่างูเห่า) 421  เสือดำ (สันหลังสูงขนาดอก ยังไม่นับหางเฉพาะลำตัวกว่า 2 วาเต็ม ๆ หัวเท่ากระบุง ตัวสีดำ) 436  ละมั่งหนุ่มเขางาม (นอนตายโดนค้างคาวดูดเลือด ก้านคอเห็นรอยเจาะลงไป 4 รอยเหมือนเขี้ยวสัตว์ใหญ่ขนาดเอาหัวแม่มือยัดเข้าไปได้ ปากแผลซีดแห้ง ไม่มีรอยเลือด) บทที่76 492  ต่อดง (ขนาดหัวแม่มือเขื่อง ๆ ) 507  นกกระทาทุ่ง (ได้ยินแต่เสียง) บทที่78 626 ฝูงค้างคาว 637 งูเห่าหม้อ (ลำตัวยาวประมาณวาเศษ เกล็ดเป็นเงาดำวับ ดอกจันที่ก้านคอ เป็นรูปเกือกม้าสีขาวนวล) รายชื่อต้นไม้ บทที่73 351 ตะเคียน 352 ป่าไผ่ 359 พริกขี้หนูยักษ์ 366 ต้นยาง 370 ต้นกร่าง บทที่74 420 รังตังช้าง (พันธ์ไม้เตี้ย ๆ ชนิดหนึ่งขึ้นเป็นดงอยู่รอบแอ่งน้ำ ใบเป็นขน) 425 สักดำ  (ไม้ใหญ่ขนาด 5 คนโอบ ลำต้นตรงแหน่วสูงชะลูด แก่นสีดำ) 435 แฝก (กรอบเกรียมเป็นสีน้ำตาลด้วยความแล้ง) 435 เต็ง 440 หญ้าคา, สลัดได, ตะบองเพชร บทที่75 450 ใบว่าน (ใช้ห่อก้อนหินอุ่นประคบที่ต้นคอรพินทร์) 461 ใบกระท่อม (บุญคำเอาออกมากิน) 481 ต้นรัง บทที่76 492 เถาวัลย์หนาม 495 เสมา,พุงดอ 495 ทุ่งเต็งรัง 507 ทุ่งหญ้าคา, ป่าไผ่ตายซาก 530 เถาวัลย์น้ำ (แห้งตาย) 531 เฟิร์น, ว่านเสน่ห์จันทร์, กระทือ บทที่77 556 ต้นกระดาษเฟิร์น 557 ต้นไม้กินคน(ต้นไม้ขนาดสองคนโอบ ปราศจากใบ มีหนามแหลมยาวใหญ่ขนาดต้นงิ้วโผล่ออกมารอบลำต้น มีสายรยางค์ห้อยเป็นม่านปกคลุมไปทั่ว ส่วนของรยางค์มีลักษณะหยุ่น ๆ เหมือนยาง มีปุ่มปมอยู่ทั่วไปตลอดทั้งเส้น บางเส้นยาวจรดพื้นดิน บางเส้นก็อยู่ในระดับสูง ๆ ต่ำ ๆ สลับกัน เส้นเล็กจะยาวกว่าเส้นใหญ่  และบริเวณที่ติดใกล้ชิดกับกิ่งเบื้องบน ล้วนเป็นรากเส้นอวบใหญ่ทั้งสิ้นยาวเพียงแค่วาสองวาเป็นอันมาก  ต้นไม้ชนิดนี้กลัวไฟเหมือนกับสัตว์) จากคุณ : ล่องฟ้า - [ 22 ก.ค. 50 10:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 86 มาส่งการบ้านค่ะ จอมผีดิบมันตรัย 1 บทที่ 66 สัตว์ เสือสูงเท่ากับม้า (ส่างปาฝัน) ช้างมีงาตัวใหญ่เท่าภูเขา (คะหยิ่นฝัน) งูเหลือมตัวเท่าต้นรัง (เกิดฝัน) พืช ต้นตะเคียน ดอกมะลิป่า มาลัยดอกเอื้อง บทที่ 67 สัตว์ เสียงจักจั่น ตัวนิ่ม ค่าง 2 ตัว พืช ต้นไม้แต่ละต้นขนาด 7-8 คนโอบ บทที่ 68 สัตว์ หนังงูยักษ์ลอกคราบ กวาง ไก่ป่า พืช ไม้ไผ่ ต้นสะเดาดง ป่าเต็ง หญ้าคา ต้นมะกอกป่า ต้นเคด ป่าลูกเดือย มะขามป้อม มะกอกป่า บทที่ 69 สัตว์ กระทิง พืช ต้นเต็ง ต้นเคด หญ้าสีเหลือง กอหญ้าคา เถาวัลย์แห้ง บทที่ 70 สัตว์ กองทัพกองกอย พืช ต้นมะปริงป่า บทที่ 71 สัตว์ หนังคางคก พืช ป่ายาง เสลา ต้นพริกขี้หนู บทที่ 72 สัตว์ ตะขาบยักษ์ (ไม่มีพิษ) ตะขายยักษ์ (มีพิษ) ผีกองกอย พืช 1 เถาวัลย์และต้นไม้บางชนิดเริ่มมีลักษณะแปลกประหลาดพิสดารขึ้น บางต้นงอกตะปุ่มตะป่ำเป็นตาไม้ผิดรูปทรง ทำให้มองดูเหมือนใบหน้าของภูตปิศาจที่แสยงดักหลอกหลอนอยู่ เถาวัลย์ใหญ่บางชนิดก็มองไม่ผิดอะไรกับภาพสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน 2 แต่ละปล้องของไผ่กอนั้นใหญ่ขนาดเสาเรือนหน้าแปด ยาวเป็นวา ๆ ก่อนจะถึงข้อแต่ละข้อ ใบก็อวบใหญ่ขนาดใบพาย 3 เห็ดโคน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 23:32:16 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 23:29:44 จากคุณ : Mera - [ 22 ก.ค. 50 23:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ป่าโลกล้านปี 2 -- คุณ thanapatpp ผมขอโทษ นะ ที่มาข้า นะ ทั้งเล่ม มี แค่ เรื่อง แมงมุม ตัว หกขาที่ กัด รพินทร์ เท่านั้น หน้าที่ 7596 นะ ครับ งานเยอะ นะ ครับ พืชที่มีในเล่ม นี้ มีแต่ สมุนไพรที่ปิดแผลวายา กิ่งใผ่ทำธนู และ หวาย ทำสายธนู มี ใต้ทำด้วยท่อนไม้ ชุบเปลือกคลุกน้ำมันยาง หน้า7403 ส่วนที่ลุก ตามพื้น เป็นแอ่งหรือมัลักษณะเป็นเตา หรือตะเกียงถาวรเป็นน้ำมันไขสัตว์ หน้า 7404 สัตว์ ที่ กล่าว ถึง มี ลิงใหญ่(นิลเพรช) วายา (นี้ถื่อเป็นสัตว์ปล่าว) ไทรเทอร์ราท็อปตัวเมีย ตายอยู่ในหลุม ไทรเทอร์ราท็อปตัวผู้ ตอน ต่อ สู่้ กันนะ และ สมัน เอามาทำอาหาร แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 50 17:32:37 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 00:08:46 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 23:42:12 จากคุณ : thanapatpp - [ 22 ก.ค. 50 23:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 88 วันนี้ขอแวะทานอาหารเที่ยงที่บ้านด้วยคนนะครับ เห็นผงชูรสมีเพียบอาหารน่าจะอร่อยปาก พอดีเก็บลูกมะขวิด คัดเลือกเฉพาะลูกที่คุณหญิงยิงหล่นมาฝากเป็นของกำนัลด้วยครับ วันนี้ขนต้นไม้มาส่งต้องเหมารถสิบล้อมาหลายคัน เพราะต้นไม้แต่ละต้นขนาดบิ๊กๆ ค่อนข้างเยอะครับ พืชที่เดินไปชนมีอะไรบ้าง อ่านรายละเอียดได้เลยนะครับ                 ฉากตามล่าไอ้แหว่ง (๔๔/๓๖๑/บ๓)    พุ่มไม้และเถาวัลย์ ปกคลุมอยู่ตามผนังบางส่วน(ภายในอุโมงค์) (๔๔/๓๗๔/๑๒)   ปลักตะไคร่กลางถ้ำ (๔๔/๓๘๑/บ๑๖)  รอยของตะไคร่น้ำ(ไอ้แหว่งใช้ปิดปากแผล) ดารินบอกให้ระพินทร์ถางป่าใต้คาง(ไม่ทราบว่าจะให้นับเข้าด้วยหรือเปล่า)                    เข้าพุเตย (๔๕/๔๒๒/ล๘)    ไร่ร้างอยู่ระหว่างป่าโปร่งกลางดงไผ่ (๔๕/๔๒๓/บ๗)    หมู่บ้าน(พุเตย)อยู่ขวามือในระหว่างดงไผ่ (๔๕/๔๒๗/ล๑)    พื้นใต้พงไม้(ซากศพแห้งของหญิงกะเหรี่ยง) (๔๕/๔๓๒/บ๑๐)  กอไผ่ถูกลมพัดเสียดสีกันเป็นสำเนียงประหลาด (๔๕/๔๓๓/บ๕)   พุ่มไม้ทึบสลับกอไผ่(งานนี้ไม่มีการแวะเก็บหน่อไม้แต่อย่างใดครับ) (๔๕/๔๓๓/บ๑๓)  ป่าไผ่ริมทางทั้งสองด้าน (๔๕/๔๓๔/ล๑๐)  ปากทางเป็นตะเคียนต้นใหญ่คู่หนึ่งยืนตะหง่านสูงชะลูด ประหนึ่งเสาประตูทางเข้า (๔๕/๔๓๖/บ๒)   ใต้ต้นพิกุล(ม้วนเสื่อตอกห่อซากศพกองอยู่) มีอีกตอนที่พูดถึงต้นพิกุลลัดตัดมารวมกันไว้ที่นี่เลยนะครับ (๔๖/๔๗๕/บ๑๒)  ที่แคร่ใต้ต้นพิกุลกลางลาน(บ้านยะขิ่น) (๔๕/๔๔๑/บ๓)    ก่อนจะลงจากทุ่งแฝกเราผ่านไร่ร้าง(ระพินทร์พาไชยยันต์หลงทาง) (๔๕/๔๕๔/ล๖)   แอบหลังพุ่มไม้(เส่ยกับยะขิ่น) (๔๖/๔๖๕/ล๙)   กลางไร่ลูกเดือยอันรกทึบสูงท่วมหัว สลับกับหญ้าขน(คณะระพินทร์เข้าไปตามตัวเส่ย)                  พุเตย - หล่มช้าง (๔๗/๕๐๘/ล๒)   เขตป่าดึกดำบรรพ์ ต้นไม้ และเถาวัลย์อายุ ๑๐๐ ปีขึ้น (๔๗/๕๐๘/ล๑)   ไทรยักษ์(รากโคนต้นเป็นถ้ำย่อม ๆ กองเกวียนลอดได้ทั้งขบวน (๔๗/๕๐๙/บ๒)   เถาวัลย์ใบใหญ่ขนาดกระด้งผัดข้าว ล้ำต้นเลื้อยพันไปตามซอกหินผาขนาดพอ ๆ กับซุง (๔๗/๕๒๒/ล๘)  ต้นยางขนาด ๒ คนโอบ(ตอนงูยักษ์มาสวาปามควาย) (๔๗/๕๔๔/บ๓)  ร่างเจ้ามุครางใต้ร่มไม้ใหญ่(ไม่ยักกะบอกชื่อต้นไม้แต่หาง่ายดีครับ)                     เขตหมู่บ้านหล่มช้าง (๔๘/๕๘๑/บ๘)    ลานกว้างหน้ากระโจมพักมีมะขวิดใหญ่ต้นหนึ่ง (แม่มดดารินโชว์ฝีมือให้เจ้าคะหยิ่นศิโรราบ) (๔๘/๕๘๖/บ๑๓)  ต้นยางสูงชะลูด(ถึงคิวไชยยันต์บ้างล่ะ) (๕๐/๖๔๙/ล๑๐)  ลำต้นตะแบก (ระพินทร์ทดลองใช้มือพุ่งลูกธนู) (๕๐/๖๕๕/บ๑๔) ต้นมะค่าขนาด ๒ คนโอบ(พระรามเทพแงซายซ้อมธนู) (๕๐/๖๖๘/บ๘)   ใต้ร่มตะแบกใหญ่ (ระพินทร์นอนขดสั่นเทาด้วยไข้ใจ อุ๊ย!มาลาเรียจ้า) (๕๑/๖๙๖/บ๖)   เก็บกล้วยในไร่(เห็นลำตัวงูยักษ์) (๕๑/๗๐๙/บ๒)  ยึดได้กอรวกกอหนึ่งเป็นที่มั่น ด้านหลังโรงเรือนใหม่(เชษฐาตั้งป้อมสู้งูยักษ์) (๕๑/๗๑๑/บ๑)  ระหว่างลำต้นยางใหญ่สองต้น(เงาเจ้างูยักษ์เริ่มปรากฏ) (๕๑/๗๑๙/บ๘)  ยึดต้นเสลี่ยงใหญ่ขนาดห้าคนโอบ(เชษฐาบุญคำหลบหาที่คุ้มหัว) (๕๑/๗๓๕/ล๖)  ลำของต้นไม้ใหญ่ชูยอดขึ้นไปชนิดแหงนคอตั้งบ่า ยืนเรียงราย กันอยู่ห่าง ๆ ปราศจาคต้นไม้เล็กหรือวัชพืช(ตามล่างูยักษ์) (๕๑/๗๓๗/บ๕)  ระหว่างต้นรังกับต้นยูงเป็นที่แคบที่สุด (ใช้เชือกผูกต้นไม้เพื่อเลื้อยข้ามปลักโคลนใบไม้) ก็พึ่งจะหายใจได้ทั่วท้อง งานที่รับทำเสร็จสิ้นลง ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ ทราบจากการทำงานแล้ว เห็นใจคุณvivee (vivee_t) ครับ ขนาดผมรับงานทำแค่ตอนเดียวก็ยังย่ำแย่แล้ว ยิ่งเล่มของผมอ่านเป็นประเภทนับหนึ่งใหม่ในแต่ละตอนซะด้วย คงค้นหาจนตาเปียกตาแฉะเป็นแน่ ยอมรับนับถือสปิริตในการทำงาน และการเสาะแสวงค้นหาสิ่งของ ทำจนดึกจนดื่นไม่ยอมงีบกันเลย ขอให้ผลงานชิ้นโบแดงสำเร็จในเร็ววันนะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 12:56:12 จากคุณ : ปฏิทิน - [ 23 ก.ค. 50 12:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 89 รอบสองเป็นข้อมูลพืชนะครับ หมายเลขหน้าอ้างอิงจากเวอร์ชั่นปกสีขาวครับ ตอนไพรมหากาฬ เล่ม 4 บทที่ 29 ==> ต้นตะเคียนใหญ่เหนือฝั่งธาร (หน้า 1060) ==> ป่าหนามอันแน่นทึบ (หน้า 1063) เนื้อที่ไม่น้อยกว่า 5 ตร.กม. (หน้า 1064) ==> ละเมาะสลับกับทุ่งแฝกเบื้องล่างติดต่อกับป่าหนาม (หน้า 1064) ==> ป่าหญ้าคา (หน้า 1067) ==> ซุ้มไผ่ใหญ่ (หน้า 1073) ==> พงหนามหวาย (หน้า 1074) ==> ซุ้มไม้ใหญ่ประกอบไปด้วยเครือเถาวัลย์ที่แน่นทึบราวกับใครมาสานไว้ (หน้า 1074) ==> สองฟากทางเป็นป่าสะแกและเถากระทกรกที่แห้งกรอบเกรียมสลับกับต้นไข่เน่า (หน้า 1077) ==> ยอดเนินเต็มไปด้วยต้นยางและพุ่มข่อย (หน้า 1077) ==> ป่าเขียวชอุ่มอึมครึม (หน้า 1078) บทที่ 30 ==> ด้านหนึ่งเป็นดงดิบอันทะมึนหนาแน่นไปดวยไม้ใหญ่ดึกดำบรรพ์สูงเยี่ยมเมฆ อีกด้านหนึ่งเป็นป่าเตี้ยประเภทพลวงและกระชิด (หน้า 1101) บทที่ 31 ==> ป่าพลวงริมธารน้ำ (หน้า 1125) ==> ป่าไผ่ (หน้า 1134) ==> ต้นกระบากใหญ่ (หน้า 1134) ==> ต้นไทรใหญ่ (หน้า 1154) ==> ต้นสักป่าและเต็งรัง (หน้า 1163) ==> ป่าไม้เบญจพรรณ แต่ละต้นสูงใหญ่ทะยานเยี่ยมฟ้า เต็มไปด้วยระกำป่า หลุมพี และหวาย (หน้า 1163) บทที่ 32 ==> ตะเคียนใหญ่ (หน้า 1167) ==> ป่าดึกดำบรรพ์ ต้นไม้แต่ละต้นสูงใหญ่แผ่กิ่งใบเบียดเสียดปกคลุมแสงตะวันมิดชิด ใบไม้หล่นทับสุมกันมองไม่เห็นพื้น หนาถึงศอกเศษ (หน้า 1204) บทที่ 33 ==> ต้นกระบากใหญ่ / พงเล็บเหยี่ยวที่โคนไม้ (หน้า 1215) ==> เอื้องผึ้ง (หน้า 1226) บทที่ 34 ==> พันธุ์ไม้แปลกๆออกช่องามตา ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้ เถาวัลย์ หรือเฟิร์น (หน้า 1298) บทที่ 35 ==> ว่านนานาชนิดรอบแอ่งน้ำใหญ่ราวกับทะเลสาบ (หน้า 1321) ==> ต้นสักมากมายในหุบเขา (หน้า 1323) บทที่ 36 ==> หินผาโขดแก่งเขียวชอุ่มไปด้วยเฟิร์น กล้วยไม้และว่าน (หน้า 1355) ==> ป่าเบื้องล่างในวงล้อมอันกว้างขวางของทิวเขาเป็นดงดิบลักษณะก้นกะทะสลับไปด้วยเนินและลุ่มน้อยใหญ่เหลือคณานับ (หน้า 1365) ==> ป่าโปร่งสลับเนินหินและละเมาะเตี้ย (หน้า 1380) ==> ไม้ใหญ่ยืนต้นเรียงรายอยู่ห่างๆชายดงทึบ (หน้า 1380) ==> ต้นกระหร่างใหญ่ (หน้า 1382) ==> ทุ่งแฝกและหญ้าคาสูงท่วมหัว (หน้า 1392) ==> ดงทึบเถาวัลย์ แต่ละต้นโตเท่าลำขา พื้นปกคลุมด้วยใบไม้ทับถมกันเน่าเปื่อย เวลาเหยียบจมลึกลงไปถึงเข่า ยอดไม้หนาทึบขึ้นปกคลุมเป็นหลังคาหลายซับหลายซ้อน (หน้า 1392) ==> ขอบไม้ผุ มีเห็ดขึ้นกลาดเกลื่อน บางดอกโตขนาดกระด้งฝัดข้าว (หน้า 1393) เพิ่มเติม ข้อมูลสัตว์ครับ ==> เสือไฟ (หน้า 1382) ==> ฝูงหมูป่าประมาณ 7-8 ตัว(หน้า 1400) แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 22:54:08 จากคุณ : ChocolateMousse - [ 23 ก.ค. 50 22:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 90 มาส่งการบ้านแล้วคร่า... ครูโอจิกับครูวีวี่อย่าเพิ่งดุหนูนะที่มาส่งช้า พอดีเพิ่งมีช่วยว่างเว้นจากการสอบมิดเทอมอย่างดุเดือดค่ะ วันนี้สอบ 8.30-11.30 รีบออกมาตั้งแต่ 10.30 (...ทำไม่ได้เลยรีบออก) รีบกลับบ้านมาทำการบ้านต่อจนสำเร็จจนได้ **ไม่รู้ส่งคนสุดท้ายเลยป่าวเนี่ยยยย แงซายจอมจักรา 1 ( อ้างอิงหมายเลขหน้าและบทจากฉบับ 40 ปีเพชรพระอุมา สันสีเขียว ) สรุปสัตว์ แมลง และพืช บทที่ 170 1. หน้า 8467 – คณะทั้งหมดก็เดินทางลงมาสู่ที่ราบลุ่มอันเป็นทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม...สลับกับป่าสนที่ขึ้นเรียงรายเป็นทิวอยู่ตามขอบเนินทั่วไป...ก่อนจะลงมาบรรจบกับพื้นที่ราบราวสนามกอล์ฟยักษ์เบื้องล่าง 2. หน้า 8467 – กวางขนาดใหญ่ขนปุกปุยอุดมไปด้วยไขมัน ลักษณะจะเป็นหัวหน้าฝูงประมาณ 20 กว่าตัว ( กำลังยืมเล็มหญ้าอยู่) บทที่ 175 1. หน้า 8589 – เฟิร์นและต้นปรง บทที่ 176 1. หน้า 8619 – กวางตัวใหญ่ 1 ตัว ( เกิดยิงไว้เป็นเสบียง ) ( ตอนหลังเรียกกวางหิมะ ) 2. หน้า 8621 – ภูมิประเทศแถบนี้เป็นลักษณะทุ่งโล่ง แตกระบัดไปด้วยหญ้าเขียวขจีประดุจพรมปูลาดไว้ทั่วทุกหนแห่งปราศจากที่รกทึบ สลับไปด้วยเถาเครือวัชพืช และไม้ดอกเล็กๆ ส่งกลิ่นหอม...ส่ำสัตว์ชุกชุม ออกหากินอย่างเป็นสุข 3. หน้า 8623 – หมาป่า ฝูงหนึ่งไม่มากนัก ประมาณ 2 – 3 ฝูง วนเวียนอยู่ในระยะห่างราวครึ่งกิโลรอบๆที่พัก บางตัวสีเทา บางตัวสีขาวเหมือนหิมะ ใหญ่กว่าพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดเล็กน้อย แต่ลักษณะคล้ายๆกัน เขี้ยวยาวขนาดนิ้วก้อย...ไม่ใช่หมาไน ไม่ใช่หมาจิ้งจอก และไม่ใช่หมาทั่วไปที่เคยพบในแถบป่าล่าง...ลักษณะมันดูขี้ขลาดอยู่หรอก ฉายไฟกระทบก็จับกลุ่มเดินเลี่ยงหนี แต่ฝูงเท่าที่เห็นมีรวมกันอยู่แค่ 4 – 5 ตัวเท่านั้น...มันอาจรวมฝูงกันเป็นร้อยขึ้นไป 4. หน้า 8648 – กวางหิมะ กวางพันธุ์เดียวกับที่เรายิงได้เมื่อใกล้รุ่งวันนี้ทั้งนั้น ไม่น้อยกว่าพันตัว มันกำลังแตกตื่นอะไรสักอย่างหนึ่ง บทที่ 177 1. หน้า 8653 – หมา...หมานรก แต่ละตัวยังกะลูกม้า 20 ตัวเห็นจะได้ ใหญ่ขนาดเกรทเดน แต่รูปร่างเหมือนอัลเซเชี่ยน สีขาวสลับเทา แต่ละตัวผอมซี่โครงบาน ท่าทางหิวจัด หน้า 8662 – บริเวณยอดเนินตรงข้ามที่เห็นประมาณ 50 – 60 ตัว ที่บังอยู่ใต้เนินลงไปอีกเท่าไรทราบไม่ได้ บทที่ 178 1. หน้า 8692 – ต้นปรงเตี้ยๆและเฟิร์น ( บนขอบหลุมที่หนานอินกับนายชดเคยมาพักอยู่ ) 2. หน้า 8699 – ( อธิบายเรื่งฝูงหมาเพิ่ม ) มีประมาณ 4000-5000 ตัว ไหลกันมาเหมือนกระแสน้ำ...ที่เพ้นพ่านเข้ามาบริเวณหุบนางนอนนี้ มีจำนวนไม่ถึง 1 ใน 10 ของทั้งหมด 3. หน้า 8713 – แรด อาร์สินิย คือแรดโบราณซึ่งมีขนาดเกือบเท่าช้าง บทที่ 179 1. หน้า 8734 – ผีจากว่านผีปอบ ลักษณะเหมือนคนที่เอาผ้าคลุมไว้ตลอดทั้งหัวจรดเท้า มาลอยเคลื่นไหวโงนเงนอยู่ แขนยาว มีส่วนปลายงองุ้มเหมือนเท้าสัตว์ สภาพของมันมีแสงเรืองๆในตัวเองเหมือนพวกกระสือ และเป็นพลังงานโปร่งแสงแบบเดียวกับเงา หน้า 8742 – อธิบายเพิ่มเติม มีประมาณ 7 – 8 เงา มีส่วนสัดอันเป็นทรงยาวขึ้นไปประมาณ 6 ฟุต สิ่งที่ยื่นยาวออกมาเบื้องหน้าทั้ง 2 ข้างมีสัณฐานเหมือนแขนหรือตีน ประกอบไปด้วยนิ้วทั้ง 5 ที่แหลมและงุ้มงอลงเหมือนตีนเหยี่ยว และมีส่วนหัวซึ่งบัดนี้แลเห็นชัดแม้แต่ตำแหน่งอันเป็นดวงตาที่เป็นกรอบดำมืดเข้าไป 2. ว่านผีปอบ ต้นพืชประเภทล้มลุกชนิดหนึ่ง อันมีใบสีคล้ำเกือบจะดำ ลักษณะใบแยกเป็นแฉกฝอยเหมือนต้นเล็บครุฑขึ้นอยู่เต็ม หน้า8752 – คำอธิบายเรื่องว่านผีปอบจากรพินทร์ ว่านผีปอบ เป็นพืชที่จัดอยู่ในประเภทว่าน เพราะต้นไม่โตนัก และมีหัวฝังอยู่ในดินสำหรับแพร่พืชพันธุ์ว่านชนิดนี้เมื่อเจริญเติบโตได้ขนาดของมันแล้ว จะมีปรากฎการณ์ทางอิทธิฤทธิ์สำแดงให้เห็นเป็นตัวตนขึ้นได้ ( เป็นพลังงานตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง ) หน้า 8784 – คำอธิบายเพิ่มเติมเรื่อง ว่านผีปอบ โดยมาเรีย เนื้อในมีลักษณะคล้ายๆเยลลี่สีดำคล้ำ เป็นยางเหนียว มีกลิ่นขื่นเขียวจัด มีคุณสมบัติเป็นยาพิษอย่างแรงพอๆกับไซยาไนด์ ยางจากใบถ้าเข้าตาอาจทำให้ตาบอด ถ้ากินเข้าไปตาย แต่ปริมาณของพิษจะรวมกันอยู่ที่หัวซึ่งฝังอยู่ใต้ดินของมัน จากคุณ : aomsiano_วราฤทธิ์ (Aomsin_Feehily) - [ 24 ก.ค. 50 21:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อืมม..ลืมไปค่ะ อันสุดท้ายเป็นผีอ่า  ไม่ใช่สัตว์ พืข แมลง เอามั้ยค่ะ แต่มันน่ากลัวดีเลยทำมาเผื่อ (เหมือนผู้คุมวิญญาณในแฮรี่ง่ะ) จากคุณ : aomsiano_วราฤทธิ์ (Aomsin_Feehily) - [ 24 ก.ค. 50 21:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณทุกๆ คน สำหรับข้อมูลนะคะ ได้ข้อมูลเกือบครบแล้ว ตอนนี้กำลังเทียบเลขหน้าของคุณ ChocolateMousse จากเวอร์ชั่นปกขาว เป็นเวอร์ชั่นปกเขียวค่ะ คุณปฏิทิน...ขอบคุณสำหรับมะขวิดนะคะ แต่กินไม่เป็นอ่ะ -_-" น้อง aomsiano_วราฤทธิ์ ขอให้โชคดีในการสอบมิดเทอมนะคะ อุตส่าห์เอาเวลาอ่านหนังสือสอบมาทำการบ้านด้วย เกรงใจจัง จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ 25 ก.ค. 50 21:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขนาดช่วยกันสรุปมาแล้ว ยังเยอะขนาดนี้เลย คุณวีกับคุณโอจิงานหนักแน่เลย ยังไงก็สู้ๆ นะครับ ปล. คุณ@^^@สุดยอดจริงๆ นับถือๆ จากคุณ : บุรุษพเนจร - [ 26 ก.ค. 50 01:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เอ่อ...ของผมก็เป็นเวอร์ชั่นปกขาว นะครับคุณวีวี่ งานนี้คุณวีคงงานหนักน่าดูแต่ก็พยายามเข้านะครับ จากคุณ : ล่องฟ้า - [ 26 ก.ค. 50 07:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ส่งงานคับ ไพรมหาหาฬ เล่ม 3 มาช้าไปหน่อยขออภัยจิงๆคับ งานเยอะมากคับ แหะๆ สัตว์ กวาง/วัวแดง 2-3 ตัว หน้า 759 ฝูงลิงหางสั้น (ทหารพระราม ) แต่ละตัวเขี้ยวยาวตั้งนิ้ว 5-6 ร้อยตัว หน้า762 ค่างดำ / นกหว้าลักษณะเหมือนนกยูงตัวสีน้ำตาล หน้า 814 จักจั่นเรไร หน้า 815 ตะขาบ 2 ตัว แต่ละตัวขนาด 3 นิ้ว ยาวเกือบศอก หน้า 815 หมีควายแม่ลูกอ่อน หน้า 826 ลูกหมี2ตัวขนาดลูกหมาอัลเซเชี่ยน พ่อหมี 1ตัว หน้า 827 กบเทียน 20 กว่าตัว หน้า 850 จงอาง ลายลูกหวาย ตัวเท่าหน้าแข้ง หน้า 850 นกทึดทือ หน้า 852 ชะมดแผง หน้า 864 แมวป่า หน้า 864 นกกินยุงขนาดนกเขาใหญ่ หน้า 865 นกยูง หน้า 871 นก ผีเสื้อหลากสี หน้า871 เสือดำ หน้า 872 บ่างควาย หน้า 876 สมัน 1 ตัว หน้า885 ไข่นกกระทาดง หลายใบ หน้า886 ไข่งู หน้า886 งูกะปะไฟ 887 นกต้อยตีวิด หน้า 887 หมูป่าฝูงใหญ่ 70-80ตัว หน้า887 นกกระยาง หน้า 889 ค่างหน้า 889 นกยูง หน้า889 เสือลายพาดกลอน ขนาดเท่าม้าไทย นอนตายร่างแหลกเหลว หน้า 890 นกเค้าแมว 2ตัว หน้า 983 ควายป่า (มหิงสา) หน้า895 นกหว้า หน้า907 งูเหลือม ขนาดท่อนขาอ่อน แก่วงไกวเป็นเปลญวน หน้า 916 ปลา 7-8 ตัว หน้า 919 ตัวลิ่น (นิ่ม) หน้า 931 ตัวโขมดดง สัณฐานคล้ายแมงมุงตัวดำมะเมื่อมดวงตาทับทิม มีทับทิมสีเลือดติดอยู่ที่ท้อง หน้า 935 , 966 ลิงจ๋อ ตัวเล็กๆ 7-8 ตัว หมาไม้ / กระรอก หน้า 982 นกหัวขวาน หน้า 982 ผีเสื้อหลากสีตัวใหญ่ๆ หน้า 982 งูเห่าดง ตัวขนาดหน้าแข็ง สีดำมันปลาบ 2 ตัว 985 – 989 เสือดาว+งูเหลือม หน้า 1000 ซากหมูหริ่งถูกเสือกินไว้ หน้า 1007 นกแต้วแร้ว (นกเต้นตามกวาง ) หน้า 1011 เสือลายพาดกลอน หัวขนาดอ่างชามย่อมๆ หน้า 1034 จากคุณ : .+*^*+.ริวซากิ.+*^*+. - [ 27 ก.ค. 50 13:55:02 A:203.113.50.15 X: TicketID:095976 ]

ความคิดเห็นที่ 96 พืช ดงมะหวด ลูกหว้า ป่าหวาย ป่าไผ่ หน่อไม้ ต้นไทรต้นมะค่า ตะคร้อ รากไม้กันแมลง สัตว์เลื้อยคลาน ของจัน หลุมพี ทุเรียนป่า รังผึ้ง ต้นยางใหญ่ กล้วยไม้ประเภทเอื้อง รวงผึ้ง เฟิร์น ดอกว่านสีเหลือง แดง ม่วง ต้นมะขามป้อม มะกอกป่า มะหวด ป่าไม้เบญจพรรณ กล้วยป่า ดงเถาวัลย์ ขนาดหน้าแข้ง พงเสือหมอบ ดงรวก ป่าหนาม ต้นมะค่า รากไทรใหญ่ ใบรวก มะลิป่า ป่าหนาม ทุ่งไม้ประเภทเครือเถา ดอกปด (รสสุคนธ์) พงหนามพุงดอ กอเล็บเหยี่ยว ต้นกระดาษ ซุ้มข่อย ป่าหนาม จากคุณ : .+*^*+.ริวซากิ.+*^*+. - [ 27 ก.ค. 50 13:56:38 A:203.113.50.15 X: TicketID:095976 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ความพยายามและตั้งใจ  ยังคงมีไปไม่หยุดยั้ง ...ขอเอาใจช่วยนะคะ  ส่งกำลังใจให้เต็ม 100 เลยค่ะ จากคุณ : เอจัง (เอจังงัง) - [ 27 ก.ค. 50 15:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 98 แวะมาเอาใจช่วยและให้กำลังใจแก่คุณวีวี่และคุณโอจิครับ จากคุณ : ChocolateMousse - [ 28 ก.ค. 50 21:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คุณวี สู้ๆ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ วันอาสาฬหบูชา 08:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณทุกคนนะคะ มารายงานความก้าวหน้าค่ะ ตอนนี้กำลังเริ่มสรุปข้อมูลแล้ว (เอาสัตว์ก่อน) พยายามใส่ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมนิดหน่อยจากที่เพื่อนๆ สรุปมา สะดวกขึ้นเพราะมีบท มีหน้า บอกนี่แหละค่ะ อันไหนอยากได้ข้อมูลเพิ่มก็เปิดไปหน้านั้นเลย จะรีบๆ สรุปนะคะ คุณ ChocolateMousse คะ เค้กน่าทานจัง วีเป็นพวกแพ้ช็อคโกแล็ตด้วย (คือเห็นไม่ได้ เป็นต้องกิน) ตกลงคุณ ChocolateMousse มาจากร้านเค้กจริงเหรอะคะ  ^_^ ส่วนบึ้งนี่ วีขอดูตัวเป็นๆ ดีกว่านะคะคุณโอจิ (แค่นี้ยังขยาดแล้วเลย) ถึงจะเหมือนกุ้งเผาก็เถอะ บังเอิญวีชอบทานของหวานมากกว่าของคาวอ่ะค่ะ   จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ วันอาสาฬหบูชา 13:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สู้สุดใจครับ คุณ  vivee จากคุณ : naikay - [ วันอาสาฬหบูชา 14:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 102 จากเพชรพระอุมา ปกแข็งสีทอง พิมพ์รวมเล่มปกแข็งครั้งที่สาม (ต้นฉบับปรับปรุง)  พ.ศ. 2547 สัตว์ ในตอนไพรมหากาฬ เล่ม 2 บทที่ 12 หน้า 419 >> ช้างสีดอ หนึ่งโขลง (ประมาณ 20 ตัว) สวนกับคณะของคุณชายเชษฐาที่แยกกับรพินทร์ ไชยยันต์ ดาริน ที่ออกไปล่าวัวแดง จ่าโขลงโดนเชษฐายิงด้วย .600 ไนโตรเอกซเปรส หน้า 439  >> กวางหนุ่มฉกรรจ์ สูงใหญ่ เกือบเท่าน้องวัวแดง สู้กับเสือดาวขนาดเขื่อง ตายด้วยกันทั้งคู่ที่แอ่งน้ำ ใกล้ๆที่พัก ร่างของเสือดาวเสียบติดแน่นอยู่กับกิ่งเขาอันโง้งแหลมของกวาง หน้า 462  >> เม่น 3 ตัว (เป็ดป่า) ดารินยิงด้วยปืนลูกกรด ให้พรานลูกน้องของรพินทร์ เป็นอาหารมื้อดึก บทที่ 13 หน้า 477  >> ไอ้แหว่ง เป็นช้างตัวโต งาข้างหนึ่งเรี่ยดิน อีกข้างหนึ่งพ้นปากออกมาศอกเดียว หูข้างขวาแหว่งไป     ครึ่งหนึ่ง กองมูลของมันมีสีดำคล้ำผิดปกติ (แงซายเป็นผู้เล่าลักษณะของไอ้แหว่งที่เคยเจอให้     รพินทร์ฟัง) (หน้า 538 ไอ้แหว่งถูกเอ่ยถึงอีกครั้งโดยบุญคำ เพราะเผชิญหน้าพร้อมกับอิน ตอนขากลับจากที่ถูกใช้ไปหนองน้ำแห้ง ซึ่งอินถูกไอ้แหว่งจับโยนเข้าไปกลางโขลงจนอินตาย) หน้า 484  >> ช้างป่าโขลงของไอ้แหว่ง มีประมาณ 20 ตัว ตอนหลังถูกคณะของคุณชายเชษฐา ยิงตายเสีย 8 ตัว (หน้า 591-598)     หน้า 499  >> งูเขียว ตัวเล็กๆ – ดารินท้าพนันกับเชษฐาและไชยยันต์ หน้า 506  >> คณะแกะรอยกระทิง พบงูเหลือมขนาดโคนขาพันอยู่บนกิ่งไม้เหนือศีรษะ ไม่ได้ทำอันตรายใดๆ หน้า 508  >> มีเสียงชะนีโหยอยู่บนปลายไม้ นกยูง บินเรี่ยตามยอดยาง     หมีควาย 2 ตัวไต่งุ่มง่ามอยู่บนด่านสูงที่อยู่ห่างออกไป หน้า 509  >> ซากเก้ง ถูกพบโดยคณะที่ออกแกะรอยกระทิง มีซากเหลืออยู่ครึ่งตัวค้างห้อยอยู่บนกิ่งต้นตะแบก มีแมลงวันตอมหึ่งอยุ่ หน้า 513  >> เสียงฝูงค่างขู่ตะคอกอยู่บนยอดไม้ งูเหลือม ครั้งที่สอง หล่นใส่กลางหลังจันขณะที่ลอดในระหว่างช่องต้นไม้ที่ล้มขวางทาง แล้วรัดตัวจันเอาไว้ มีขนาดลำต้นกล้วยอวบๆ ยาวไม่ต่ำกว่า 10 เมตร บทที่ 14 หน้า 523  >> เสือลายพาดกลอน พื้นเหลืองพาดด้วยริ้วดำ ขนาดย่อมกว่าไอ้กุด คอยตามหลังแงซาย ขณะที่แยกกับรพินทร์-ดาริน เพื่อออกล่ากระทิง หน้า  525  >> ฝูงกระทิงที่วิ่งหนีเพราะเสียงของปืนที่ยิงเสือลายพาดกลอนที่กำลังจะขย้ำแงซาย หน้า  531  >> หมีหมา 1 ฝูง ประมาณ 6 ตัว วิ่งผ่านหน้าคณะที่กำลังกลับจากการแกะรอยกระทิง หน้า  531  >> งูจงอางตัวย่อมๆ ขนาดแขนเลื้อยผ่าน หน้า 534  >> หมูป่า ตัวขนาดปานกลางตายเพราะถูกเล่นงานโดยฝูงหมาไน 3-4 ตัว หน้า  557  >> งูสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 2 วา มีเกล็ดสะท้อนแสงไฟเป็นมันละเลื่อม เหลืองสลับดำ ขนาดเท่าท่อนแขน ถูกดารินยิงตายขณะพยายามเลื้อยมุดมุ้งของไชยยันต์เข้าไป หน้า  566  >> ควายเทียมเกวียนของคณะ ดิ้นสะบัดหงุดหงิด เนื่องจากมีเสือไม่น้อยกว่า 2 ตัวมากวน มีควาย 2 ตัวที่เชือกล่ามขาด แล้ววิ่งหนีไป (ตัวนึงชื่อ “ไอ้พุก”) หน้า  578 >> เสือดาวขนาดหมาอัลเซเชี่ยน พื้นเหลือง ดอกดำ รพินทร์ยิงเสือดาวที่กำลังจะกระโจนลงมาขย้ำบุญคำ หน้า  579 >> หมูป่า และเก้งหลายตัว เผ่นตัดหน้าขบวน ขณะเข้าเขตพุบอน บทที่ 15 หน้า 620 >> ผึ้งตัวเล็กๆ หน้า 642-659 >> ตอนดารินนั่งห้างดักยิงกระทิงกับรพินทร์ **นกเงือกฝูงใหญ่บินมาจิกกินผลอันมีเปลือกแข็งของต้นตีนเป็ด **ชะนีสองตัวแกว่งไกวอยู่บนกิ่งยาง **กางเขนดงตัวหนึ่งถลาจากพงเถาวัลย์ลงมาเกาะที่โขดหินกลางแอ่ง คาบตัวหนอกหรือแมลงเล็กๆ **นกกรดหางยาวอีกตัวหนึ่งบินเตี้ยๆ ลอดใต้ห้างมาจับเกาะอยู่ที่กิ่งข่อย ส่งเสียงร้องเบาๆ **เสียงไก่ป่าขันเสียงเล็กแหลม **ไก่ฟ้า 1 คู่ – สีสันเบญจรงค์ เลื่อมพรายงดงาม **อีเห็นดงหางพวง ตัวขนาดหมาเขื่องๆ **เสียงกระจงร้อง  จั๊กจั่นเรไรและตุ๊กแก **เก้งตัวหนึ่งวิ่งเตลิด **หมูป่าแม่ลูกอ่อน มีลูกเล็กๆตัวลายเป็นทาง 3 ตัว ขนาดเท่าสมเสร็จตัวย่อมๆ เส้นขนจากคอตลอดสันหลังตั้งชันเป็นแผง เขี้ยวขาวโง้งโผล่ออกมาพ้นปาก **หมีโทนควาย ร่างทะมึนใหญ่โต แถบขาวเป็นรูปตัววีที่กลางอก **ผึ้งสองสามตัว ตัวหนึ่งไต่เข้าไปในอกเสื้อของดาริน **เสียงเขียดปาดร้องแซ่อยู่ใต้ห้าง **หมาป่าเห่าหอน สลับกับเสียงนกที่หากินกลางคืนและตุ๊กแกดง **สมเสร็จ **กวางหนึ่งตัว หน้า 662 >> กระทิงโทนตัวขนาดช้างรุ่น บทที่ 16 หน้า 715 >> รพินทร์กับไชยยันต์ พบฝูงวัวแดงวิ่งผ่านหน้า ประมาณ 10 กว่าตัว ขณะออกติดตามแม่กระทิงตัวที่ถูกไชยยันต์ยิงบาดเจ็บ หน้า 723 >>ไก่ฟ้า กระทาดง พากันบินพรูขี้นจากพงรกแตกกระเจิง ออกไปพร้อมกับเสียงคำรามของเสือและกระทิง ** เสือลายพาดกลอนรุ่นหนุ่มสองตัว ตัวหนึ่งถูกเขากระทิงเสียบ อีกตัวหนึ่งถูกยิงโดยรพินทร์ **เสือตัวที่สามเป็นเสือลายดำสลับเหลือง (ลายพาดกลอน???) **แม่กระทิงที่บาดเจ็บ ถูกเสือรุม ในที่สุดก็ถูกยิงโดยไชยยันต์ รพินทร์บาดเจ็บ บทที่ 17 หน้า 765-766 >> หลังจากคืนที่รพินทร์บาดเจ็บ รพินทร์ จัน บุญคำ ออกไปตามรอยไอ้แหว่งขากลับจันหาบตัวนิ่มเป็นๆกลับมาที่กระโจมพัก 2 ตัว พร้อมบุญคำหิ้วกรงพญาลอมาให้ดาริน (ตัวนิ่ม หรือตัวลิ่น เป็นสัตวที่มีหนังเป็นเกล็ดหนา, พญาลอ เป็นสัตว์ปีกขนงาม) บทที่ 18 หน้า 802 >> รพินทร์และเชษฐาเข้าไปอยู่ใต้ท้องช้างตกมัน ซึ่งมีน้ำมันตกเยิ้มอาบร่างเป็นมันระยับโดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณศีรษะอันใหญ่โตและที่งาหรือขนายอันกุดสั้นโผล่พ้นริมฝีปากออกมาเพียงสองคืบ มันเป็นสีดอตัวขนาดใหญ่เกือบเท่าไอ้แหว่ง บทที่ 19 หน้า 808 >> รพินทร์กับเชษฐาพบงูกะปะ มีรอยขาดอยู่ครึ่งตัวเพราะถูกหมูป่ากัดไว้ หน้า 816-820 >> รพินทร์กับเชษฐาเฝ้าดู เสือดำต่อสู้กับเสือลายพาดกลอนแย่งกวางตัวที่เสือลายพาดกลอนขย้ำทิ้งไว้ เสือดำตัวเล็กกว่า แต่มีอายุมากกว่าไอ้ลาย ในที่สุดไอ้ลายก็เป็นฝ่ายถอย ยอมให้ไอ้ดำครอบครอง หน้า 824 >> ช้างตกมันตัวที่รพินทร์กับเชษฐาไปแอบดู มาบุกแค้มป์ของคณะเดินทาง เหยียบข้าวของในเต้นท์พังพินาศ ก่อนที่จะโดนแงซายยิงตายกลางแค้มป์ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 22:53:46 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 15:15:32 จากคุณ : Yamashiro - [ วันอาสาฬหบูชา 15:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มาต่อค่ะ สัตว์ที่เอ่ยถึง เห็นแต่รอย หรือได้ยินเสียง ในตอนไพรมหากาฬ เล่ม 2 บทที่ 12 หน้า 424 >> เอ่ยถึงวัวแดง ที่ไชยยันต์ปราบลงได้ ขณะที่ออกไปล่ากับรพินทร์-ดาริน ในเล่ม 1 หน้า 432 >> ค่าง – ถูกยิงเพื่อเอาเลือดมาผสมกับเหล้าโรง นำมาเป็นยาแก้เมื่อย หน้า 436 >> เชษฐา รพินทร์เอ่ยถึง ไก่ฟ้า นกกระทา เพื่อหลอกล่อให้ดารินไม่ต้องออกไปยิงกระทิงด้วย หน้า 440 >> รพินทร์เอ่ยถึงเสือลายพาดกลอนที่พบที่ป่าอุทัยธานี ตายในลักษณะเดียวกับเสือดาว แต่มันโดนเขาควายลากไม้ของพวกชาวบ้าน ในขณะที่ควายป่าก็โดนเสือลายพาดกลอนตัวนั้นขย้ำที่คอเป็นแผลเหวอะหวะ ตายคาที่เหมือนกัน บทที่ 13 หน้า 518 >> เสียงนกกระรางร้องลั่นอยู่ตามกิ่งไม้ และบินว่อน หน้า 520 >> มีเสียงนกระวังไพรและฝูงค่างร้องเกรียวอยู่บนยอดไม้ บทที่ 14 หน้า 574 >> รอยกระทิง ไม่ต่ำกว่า 7-8 ตัว ตะกุยขึ้นมาจากโตรกชันริมทางย่ำตัดด่านช้างไป หน้า 589 >> เสียงจั๊กจั่นลองไนร้องแซดระงม ฝูงค่างบนยอดไม้กระโดดโครมคราม หน้า 605 >> กวาง ถูกยิงโดยเกิด พรานพื้นเมืองที่นั่งห้างเหนือหนองน้ำใกล้ๆแค้มป์ หน้า 608 >> ไชยยันต์ ดาริน เกิด แงซาย ออกหาไก่ป่า กระทาดงมาทำกับข้าว ขณะรอรพินทร์ ไปขัดห้าง บทที่ 15 หน้า 621 >> ที่ใต้ห้างที่ดารินจะขี้นนั่งยิงกระทิงกับรพินทร์ มีรอยเท้าสัตว์เกือบแทบจะทุกชนิด นับตั้งแต่กระจงขึ้นไปจนถึงโขลงช้างที่ย่ำทับกันสับสนทั้งเก่าและใหม่ มีรอยกระทิง รอยเท้าเสือลายพาดกลอน หน้า 640 >> รพินทร์เอ่ยถึงกระทิงตัวที่ยิงเป็นตัวที่ 54 ที่ทำให้ซี่โครงหัก ต้องไปนอนโรงพยาบาล หน้า 684 >> ดารินประสาทหลอนเห็นตัวอะไรต่อมิอะไรห้อยหัวอยู่บนกิ่งตะคร้อเหนือห้าง เหมือนเงาหนังตะลุง บางครั้งเป็นเสือ บางครั้งเป็นช้าง ที่น่าขนลุกก็คืออะไรก็ไม่รู้ มีรูปร่างลักษณะของมันไม่เจริญตาเลย ห้อยโหนตัวอยู่ตามกิ่งไม้ด้านบน ร่างสูงกว่าห้างนี้เสียอีก บางทีก็เห็นนายเอิ้นที่ถูกไอ้กุดลากเอาไปกิน มายืนร้องครวญครางเรียกให้ฉันช่วยอยู่ใต้ห้าง บางทีก็เห็นศพแหลกเหลวน่าทุเรศของลูกหาบที่ถูกไอ้แหว่งขยี้ บทที่ 16 หน้า 695 >> ตอนที่คุณหญิงหลับ รพินทร์บอกว่า เห็นมี เก้งสามตัว ได้ยินบ่างและหมาไนร้องอยุ่สองสามครั้ง หน้า 699 >> คุณชายเชษฐากับบุญคำเล่าว่า สอยค่างริมทางลงมาสองตัว ระหว่างเดินกลับมาหารพินทร์-ดาริน หน้า 702 >> ไชยยันต์นั่งแทะขากระจง ซึ่งยิงได้ด้วยปืนยิงช้าง ระหว่างรอรพินทร์-ดาริน-เชษฐาและบุญคำ ไชยยันต์เล่าว่า ยิงลูกกระทิงตัวสูงเท่าอีเก้ง อายุไม่เกิน 2 เดือนตาย แล้วยิงตัวแม่โดนขาหลังบาดเจ็บ หน้า 721 >> พบรอยเสือ 2-3 ตัว ตามกระทิงเหมือนกัน เป็นลายพาดกลอนหนึ่งตัว ที่เหลือยังไม่แน่ใจว่าเป็นเสืออะไร บทที่ 17 หน้า 754 >> แงซายเล่าให้รพินทร์ฟังว่า ขณะกำลังตามแร่ดตัวหนึ่งแถบห้วยเสือร้อง ก็ได้ข่าวว่านายชด ประชากรกับหนานอินจะออกเดินทางจากหล่มช้าง เพื่อมุ่งเทือกเขาพระศิวะ ระหว่างทางถูกงูกัด หน้า 758 >> มีเสียงช้างร้องแว่วมาจากหุบเขาลึกสลับไปกับเสียงเห่าหอนของหมาไนที่มาจากด้านตรงข้าม บทที่ 18 หน้า 770 >> รพินทร์ได้ข่าวจากกะเหรี่ยงสองคนของหมุ่บ้านผาเยิง ว่าไอ้แหว่งยกโขลงช้างเข้าเหยียบไร่ และรื้อทำลายหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่ผาเยิง และทำลายแค้มป์ของฝรั่งนักสำรวจสามคนที่ตั้งแคมป์อยู่ที่ ตะเคียนล้ม หน้า 780 >> รพินทร์เล่าให้คณะฟังว่าพบซากลูกกวางรุ่นๆ เขาเพิ่งจะงอกออกมาเล็กน้อย ถูกไอ้ลายกัดทิ้งไว้ตัวหนึ่งในหุบด้านใต้ของแค้มป์ที่พัก หน้า 782 >> รพินทร์ชวนเชษฐาออกล่าเสือลายพาดกลอนที่ขย้ำกวาง หน้า 787 >> ช้องหมู คือขนของหมูป่า ลักษณะขดพันกันเป็นวงกลมเหมือนวงแหวน ถือว่าเป็นของอาถรรพ์หายากประเภทเดียวกับงาช้างกำจัด หน้า 790 >> รพินทร์เล่าให้คุณชายเชษฐาฟังว่าตอนเด็กเคยยิงหมูป่าไม่เข้า เป็นหมูโทนตัวสูงเกือบท่วมเอว เขี้ยวแต่ละข้างยาวเกือบคืบ หลอกให้เชษฐาเข้าใจว่าต้องเป็นหมูที่มีช้อง พอตอนหลังเฉลยว่า ที่ยิงไม่เข้านั้นเป็นเพราะยิงด้วยปืนแก๊ป หน้า 798 >> กลิ่นขะมดเชียง กลิ่นหืนน้ำมันช้างจากช้างตกมัน บทที่ 19 หน้า 860 >> แงซายเล่าถึงสภาพป่าดินแดนต่อจากหล่มช้างที่เคยเข้าไปมาครั้งหนึ่งตอนที่ติดตามคณะของนายชด ประชากร เป็นป่าดงดิบที่มองไม่เห็นแแสงเดือนแสงตะวัน พบสิ่งที่ไม่เคยเห็นที่ป่าไหนมาก่อน เช่น -พบพริกขี้หนูต้นขนาดสี่คนโอบลูกของมันมีลักษณะเป็นหวีเหมือนกล้วย -พบตะขาบตัวเท่าไม้กระดานฝาเรือน ยาวห้าวา -งูบางชนิดมีหงอน -อีเห็นใหญ่เท่าเสือลายพาดกลอน -ตัวต่อไม่ทำรังอยู่บนกิ่งไม้ แต่อาศัยอยู่ในหลุม แต่ละตัวเกือบเท่าฝ่ามือ กวางเดินพลาดตกลงไปในหลุมของมัน ชั่วอึดใจเดียวก็เหลือแต่กระดูก แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 50 00:11:36 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 50 00:06:47 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 23:04:28 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 15:23:18 จากคุณ : Yamashiro - [ วันอาสาฬหบูชา 15:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 104 พืช ในตอนไพรมหากาฬ เล่ม 2 บทที่ 12 หน้า 429 >> ใต้ร่มเงาของต้นหลุมพอ เป็นโขดหินก้อนใหญ่ที่ รพินทร์ชี้ให้หัวหน้าคณะดูว่าเป็นที่ๆคุณชายอนุชาปลดเกวียนพัก หน้า 462 >> พงเสือหมอบ ต้นยางใหญ่ พออ้อริมจอมปลวก (ระหว่างด่านเล็กๆทางไปยิงเม่นหรือเป็ดป่า) หน้า 472 >> ต้นมะค่า อยู่แถวๆแค้มป์ที่โป่งกระทิง บทที่ 13 หน้า 483 >> เถาวัลย์เกี่ยวพันกันเป็นซุ้มทึบเป็นอุโมงค์ (ขณะที่รพินทร์กับเกิดย่องไปดูโขลงของไอ้แหว่งที่มาดูลาดเลาแถวแคมป์ที่โป่งกระทิง) หน้า 499 >> ต้นมะค่าใกล้แคมป์ มีงูเขียวตัวเล็กๆพันอยู่ที่กิ่งของมัน (ตัวที่ดารินท้าพนันจะยิงหัวของมัน) หน้า 504 >> ป่าทึบปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ราวกับอุโมงค์ ป่าสัก ป่ายาง ที่มีแสงตะวันลอดผ่านได้เพียงรางๆ  (ระหว่างทางการเดินไปแกะรอยกระทิงของ รพินทร์ เจ้านายทั้งสาม จัน และแงซาย) หน้า 505-506 >> ต้นลานใกล้ๆแอ่งน้ำ ที่หมูโทนเอาสีข้างของมันขัดสีลำต้นเอาไว้  ที่รากไทรก็มีรอยที่หมูโทนลับเขี้ยวเอาไว้ พงหนาม ป่าผาก หน้า 508-509 >> ต้นหลุมพอใหญ่ ต้นตะแบกที่ง่ามของมันมีซากเก้งตายติดคาอยู่ หน้า 511 >> ซุ้มข่อยป่าขึ้นทึบ ใกล้ๆตรงที่พวกกระทิงมานอนเกลือกอยู่ในโตรก หน้า 515-518 >> เนินป่าสัก ดงไผ่ ดงผาก ป่าหนามพุงดอ ทุ่งแฝก ป่าหวาย ซุ้มเถาวัลย์ บทที่ 14 หน้า 523-524 >> ต้นกระหร่างใหญ่ ที่รพินทร์ ดารินไปหมอบแอบดูเสือที่กำลังจะเล่นงานกระทิง หน้า 534 >> พุ่มเล็บเหนี่ยว ที่หมูป่าตัวนอนตายอยู่ หน้า 538 >> โคนกอไผ่ใหญ่อันเต็มไปด้วยหนาม ที่บุญคำเข้าไปซุกเพื่อหนีโขลงไอ้แหว่ง หน้า 563 >> รพินทร์พูดถึง ว่านนาคราช ลักษณะเป็นเถาไม้เลื้อย มองผาดๆนึกว่างู ยางหรือกลิ่นของมันเป็นพิษสำหรับสัตว์เลื้อยคลาน สามารถนำมาทุบหัวให้ช้ำๆ นำมาโรยรอบเต้นท์กันงูไม่ให้เข้าใกล้ หน้า 579-580 >> ป่าสัก ป่าไผ่ กอไผ่ ที่ช่วยชีวิตบุญคำจากโขลงไอ้แหว่ง หน้า  583-589 >> ป่ารวก ป่าโปร่ง หน่อหญ้าคา ทุ่งหญ้ากว้าง ป่าละเมาะ ทิวมะขาม พงหนาม ป่าข่อยสลับไปด้วยยูงยางที่สูงระเหิด ปกคลุมเป็นหลังคาทึบไปด้วยเถาวัลย์และเฟิร์น หน้า 590-592 >> ต้นไม้ล้มกลางดงผากสลับไปด้วยต้นลาน ดงเถาวัลย์กลางป่าลาน ต้นตะเคียนใหญ่ บทที่ 15 หน้า 620 >> ป่าโปร่ง ต้นกร่างใหญ่ขนาด 7-8 คนโอบ ห้างขัดไว้บนกิ่งตะคร้อ ภายใต้หลังคาธรรมชาติของซุ้มข่อยทึบ เยื้องกับบริเวณแอ่งน้ำ มีพันธ์ไม้ประเภทกาฝากและเฟิร์น หน้า 642 >> ต้นตีนเป็ด กิ่งยาง พงเถาวัลย์ กิ่งข่อย หน้า 662 >> ต้นตะเคียนต้นใหญ่ บทที่ 16 หน้า 710-723 >> ป่าหนามและเถาวัลย์ ต้นมะค่าใหญ่ ป่าโปร่ง ป่าละเมาะ ป่าเถาวัลย์ที่สลับไปด้วยพงเสือหมอบสูงท่วมหัว ดงหวาย ป่ารวก ทุ่งแฝกสลับพงอ้อ พุ่มเล็บเหยี่ยว ดงสะแก พงรวก ป่าหวาย ต้นข่อยใหญ่ บทที่ 18 หน้า 782-784 >> ต้นไทรพู มีรอยถูกงากระหน่ำแทงฉีกพรุน และมีส่วนปลายของงาแทงหักติดคาอยู่ ที่มาของคำว่า “งาช้างกำจัด” เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง เป็นของอะไรที่หายากโดยเกิดขึ้นจากกรรมวิธีอันพิสดารผิดไปจากธรรมชาติ ลักษณะเป็นบริเวณปลายงาแหลมยาวประมาณสี่นิ้ว ตอนปลายแหลมสุดของงาฉีกบิ่นออก มีรอยเสี้ยนไม้ประทับอยู่เห็นชัด หน้า 798 >> โป่งเล็กๆ ที่ดินเริ่มจะจืด  มะปริง มะไฟป่าที่ออกลูกดกเป็นพวงสีแดงจัด  ต้นมะค่าใหญ่ พงรกของซุ้มไผ่ แต่ละลำมีขนาดเท่าโคนขาแผ่ใบย้อยปรกถึงดินคลุมแทบไม่ผิดอะไรกับถ้ำ กลุ่มต้นลานและต้นกระดาษเตี้ยๆ บทที่ 19 หน้า 808 >> มะไฟป่า ป่ายาง เถาวัลย์ทึบ หน้า 848 >> ลำต้นไม้ตายซากต้นหนึ่งปราศจากกิ่งใบ ลำต้นสูงเพรียวตั้งตรงขึ้นไปราวกับเสาธง มีพูโหนกเป็นลักษณะคล้ายตาไม้งอกออกมาที่บริเวณส่วนกลางลำต้นตอนหนึ่ง ขนาดลูกมะพร้าวห้าว ใช้ซ้อมยิงปืน .458 โดย รพินทร์ หน้า 854 >> ต้นยางสูง ลำต้นผอมเรียวขนาดต้นหมากเขื่องๆ มีกิ่งใบทึบเฉพาะตรงปลายยอด ใช้ซ้อมยิงโดยเชษฐา แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 50 00:10:53 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 50 00:05:55 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 23:02:30 จากคุณ : Yamashiro - [ วันอาสาฬหบูชา 15:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 105 คุณวีคะ ..ขอโทษนะคะที่ส่งการบ้านช้า ตอนแรกคิดว่าพอจะว่าง เอาเข้าจริงๆ งานยุ่งมากเลยค่ะช่วงนี้ ต้องเอากลับบ้านมาทำกลางคืนด้วย และโดยเฉพาะตอนไพรมหากาฬเล่ม 2 นี่ สัตว์เยอะจริงๆ ใส่เลขที่บทเพิ่มให้แล้วนะคะ   แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 23:05:26 จากคุณ : Yamashiro - [ วันอาสาฬหบูชา 15:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 106 แวะมาให้กำลังทุกๆคนค่ะ   และเอาบุญทุกบุญมาฝากด้วยนะคะ  สาธุ  ค่ะ จากคุณ : @^^@ (khattykha) - [ วันอาสาฬหบูชา 22:18:23 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ คุณ Yamashiro ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ขอเลขบทด้วยได้มั้ยคะ เพราะเป็นคนละเวอร์ชั่นกับที่วีมี เลขหน้าไม่ตรงกัน ถ้าได้เลขบทมาด้วย จะทำให้เทียบเลขหน้าได้เร็วขึ้นน่ะค่ะ เอาไว้ว่างจากงานแล้วค่อยมาเพิ่มทีหลังก็ได้ค่ะ ตอนนี้วีกำลังเทียบเล่มอื่นอยู่ จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ วันอาสาฬหบูชา 22:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ^ ^ เพิ่งทำให้เสร็จพอดีค่ะ จากคุณ : Yamashiro - [ วันอาสาฬหบูชา 23:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ขอบคุณค่ะคุณ Yamashiro รวดเร็วทันใจจัง :D จากคุณ : vivee (vivee_t) - [ วันอาสาฬหบูชา 23:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ....^_^.....เยอะเหมือนกันนะครับ...สู้ๆ จากคุณ : ฟองฟ้า ละอองเมฆ - [ วันเข้าพรรษา 06:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ตกลงคุณ ChocolateMousse มาจากร้านเค้กจริงเหรอะคะ  ^_^ จากคุณ : vivee (vivee_t) ^ ^ ^ จริงๆแล้วต้องบอกว่าหาเจอได้ตามแถวๆร้านเค้กมากกว่าครับคุณวี แบบว่าชอบกินพวกชีสเค้ก มูส พาย อะไรพวกนี้อ่ะครับ แบบว่าถ้ามีโอกาสก็จะแวะไปตามที่ที่มีเค้กขาย บางทีไม่ซื้อ...แค่ได้ดูก็ยังดีครับ ของพวกนี้กินบ่อยๆไม่ดี เปลืองตังแถมยังทำให้อ้วนอีกตะหาก หุหุหุ จากคุณ : ChocolateMousse - [ 31 ก.ค. 50 21:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 112 แวะมาให้กำลังใจทุกคนคะ สอบเสร็จแล้วหวังว่าครั้งนี้คงไม่ผ่านไปได้ด้วย D นะ..อิอิ.. มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจเลยนะคะ...มีไรบอกได้ยินดีช่วยเสมอ ...................................................เพื่อหนังที่รอคอย จากคุณ : Aomsiano_วราฤทธิ์ (Aomsin_Feehily) - [ 3 ส.ค. 50 19:51:06 ]