CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "Ratatouille" ... Pixar จานเด็ด กินแล้วอิ่มทั้งน้ำตา

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (72 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (3 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (0 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 75 คน

     96.00%
     4.00%
     0.00%
     0.00%
     0.00%


    ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบ 'อาหาร' ...ทั้งในรูปแบบ การกิน และ การทำ

    การกินอาหารของผม ...จะเป็นอะไรที่แปลกอยู่อย่าง ประมาณเหมือนเป็นสาลิกาลิ้นทอง ที่พอลองได้กินอะไรถูกปากเข้าไปหน่อย ก็ร้อง "Oh, Delicious" ออกมาได้แล้วแต่ถ้าเกิดดันบังเอิญโชคร้าย ไปพลาดพลั้งกินอะไรที่ผิดลิ้นขึ้นมา ก็ไม่สามารถยับยั้งปาก ไม่ให้พูดว่า "หมาไม่***" ได้เลย

    การทำอาหารของผม ...ผมชอบที่จะพัฒนา ดัดแปลง สร้างสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ๆอยู่เสมอ ชอบที่จะลองผิดลองถูก (โดยส่วนใหญ่ ผลลัพธ์มักจะออกมา ผิด (-_-')) เป็นพ่อครัวอย่างกับนักวิทยาศาสตร์ที่จับสารนู้นสารนี่ มาผสมปนมั่วรวมกัน ดูว่าอันไหนมันถูกต้องทางเคมีกันขึ้นมา ก็ยึดถือเป็นความสำเร็จ(แบบฟลุ๊คๆ)ที่ยิ่งใหญ่ (หากอันไหน มันไม่ใช่ มันเละเทะ ก็ช่างมันเถ้อ เรามาฉลองความล้มเหลว ด้วยการต้มไวไว ใส่ไข่ กันเถอะ...สูตรสำเร็จ จงเจริญ!!! (#_#''))

    ผมอาจจะไม่ใช่แม่ช้อยนางรำ หรือ คุณหมึกแดง ที่มีความเชี่ยว และชาญ เป็นกูรู กรูรู้ อย่างเทพอะไร ในเรื่องอาหาร ...แต่ผมก็กล้าจะชมตัวเองว่า "ผมเป็นคนรักอาหาร" ที่เชี่ยว และชาญ ในความใส่ใจ กินแต่ละคำ ทำแต่ละที ล้วนแล้วต้องมีความตั้งใจ เป็นที่ตั้ง

    แต่ความตั้งใจที่ว่านี่ มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะมีอยู่ในทุกๆรายละเอียด ... เพราะผมไม่ใช่คนที่กินแต่ละคำ แล้วรู้หมดว่า ใส่ไอ้นี่มากไป ใส่ไอ้นั่นน้อยไป ถ้าไม่ใส่จะดีกว่านี้ และ ก็ไม่ใช่คนที่ทำแต่ละที แล้วจะตรงกับสูตร จะถูกวิธี จะดีทุกขั้นตอนไปซะทั้งหมด ...ผมก็เป็นแค่มือสมัครเล่นที่มีความตั้งใจในการจะกิน การจะทำ อาหารจานหนึ่ง ด้วยความหวังว่ามันจะดีพอ และสามารถกลืนลงกระเพาะได้คล่องคอ สะดวกใจ ...ผมมันก็ยังเพียง 'หนู' ตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ที่วิ่งไปวิ่งมาในห้องครัวอันใหญ่โต เท่านั้นเอง

    ในโลกความเป็นจริง ผมคงไม่สามารถพอจะขออัพเกรดตัวเองไปเป็นคนทำอาหารให้คนกินอีกนับร้อยนับพันได้ลิ้มลอง ...ผมจะขอหวังเอาแค่น้อยๆ เป็นเพียงเจ้าหนูที่ทำอาหารให้คนหมู่เล็กๆ ในครอบครัวผม ได้กิน และกินได้ก็พอใจมากมายแล้ว (...หากแต่จะพอใจมากไปกว่านี้อีกสักนิด ถ้าในอนาคต ผมจะเป็นเจ้าหนูใหญ่ ที่ทำอาหารให้อีกสองสามชีวิต ภรรยาหนู กับคุณ(ลูก)หนู ได้กินทุกๆเย็น ...ตอนนี้นึกภาพตามแล้วก็สุขใจจนอยากจะลงมาจากคานไวๆแล้วเนี่ย)

    "Ratatouille" ... อนิเมชั่นของ Pixar Studio ประจำปี 2007 ทำให้จี๊ดโดนใจเหลือเกินตั้งแต่ตัวอย่างทีเซอร์ ที่ได้เห็น เจ้า'หนู' สัตว์สกปรกในครัวเรือน สร้างความอลหม่านยุ่งเหยิง จนเกือบวางวายไม่รอดคมมีด ...เห็นเพียงแค่นี้ ก็น่าสนุก น่าตื่นเต้น และน่าดูมากมาย

    ผู้กำกับ "แบรด เบิร์ด" ที่เคยฝากความตื่นเต้นเร้าใจไว้กับเหล่าครอบครัวพลพรรคซูเปอร์ฮีโร่ "The Incredibles" ...หวนกลับมากับพิกซาร์เป็นหนที่ 2 (แต่ถือเป็นเรื่องที่ 3 เน้อ ...เรื่องแรกคือ "Iron Giant" ที่ผมยังไม่ได้ดู และเขาก็ว่ากันว่าซึ้งมั่กๆ) ด้วยเรื่องราวที่ไม่ใช่เขาเป็นต้นคิด (เคยอ่านข้อมูลเบื้องหลังมา) แต่ก็ยอมเป็นคนลงมือทำ เพราะจี๊ดใจในรายละเอียดเรื่องราวมากมาย

    เจ้าหนูตัวที่ว่านี้ มีชื่อว่า "เรมี่" ...มันได้พรสวรรค์พิเศษมาเหนือชาวหนูทุกตัว ที่สามารถดมกลิ่นอาหารตรวจหาสารพิษ เพื่อให้ชาวประชาอยู่ดีกินดีไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ที่เรมี่ยังเหนือไปกว่านั้นอีกก็คืออีกหนึ่งพรสวรรค์ที่คงจะมี 1 ใน Infinity ของชาวหนู (พูดง่ายๆ Impossible) เท่านั้นที่เป็นไปได้ คือ การที่มันสามารถทำอาหารของมนุษย์ได้

    เรมี่ มีแรงบันดาลใจในการทำอาหาร จากการได้ดูรายการทีวี ของยอดเชฟแห่งฝรั่งเศส "กุสโตว์" ...นั่นทำให้เขาได้ลองฝึกฝนตัวเอง เพื่อรู้จักกับ การผสมผสานรสชาติที่แตกต่างของเครื่องปรุงที่แปลกแยก ให้ออกมาลงตัว และอร่อย ...หากแต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันจะได้เจอตัวจริง กุสโตว์ ก็ด่วนจากไปเสียก่อน เพราะต้องตรอมใจให้กับ การเสียดาวและชื่อที่โดน ยอดนักวิจารณ์อาหาร "อังตวน อีโก้" ทำปี้ป่นซะไม่เหลือชิ้นดี

    แล้วโชคก็ได้เข้าข้างเรมี่ ให้เขาได้มีโอกาสไป(บังเอิญ)เจอกับภัตตาคาร "กุสโตว์" ที่เขาเคยใฝ่ฝันจะได้ไปเห็นกับตา ...หากที่เรมี่จะมีปัญหาก็ตรงที่ ดันมีไอ้หนุ่มเก็บขยะหน้าซื่อ "ลิงกุยนี่" มาจ๊ะเอ๋เจอตัวเป็นๆของมัน แต่สุดท้าย เรมี่ก็ยังรอดชีวิตมาได้ เพราะความเฮง(ซวย)บางอย่างที่ ไอ้หนุ่ม ไปก่อเอาไว้ ได้ พ่อครัวน้อยเรมี่ ขี่ม้าขาวมาช่วยไว้ได้ทัน

    ซึ่งความที่ ลิงกุยนี่ ไม่เอาไหนเลยกับการทำอาหาร แต่ดั้นต้องมาทำอาหารเพื่อเป็นการพิสูจน์ในตัวเขาเอง ...นั่นจึงเป็นเหตุให้ต้องเกิดความร่วมมืออย่างลับๆ ระหว่าง เรมี่ และ ลิงกุยนี่ ที่ถ้าขืนมีใครแพร่งพรายออกไปรับรองได้ว่า ครัวกุสโตว์ได้แตกยับพังเยินเป็นแน่แท้ ...(ที่เล่ามานี่แค่เรื่องราวในเบื้องต้นเท่านั้น เพราะถ้าขืนให้ผมแพร่งพรายอะไรไปมากกว่านี้ ผมคงเป็นหน้าม้าที่นิสัยแย่น่าดูเชียวล่ะ)

    Ratatouille (ชื่อหนังที่พิมพ์แต่ละที ต้องมีผิดซะทุกทีเถอะน่า) ก็คือ อีกหนึ่ง พิกซาร์ ที่ไม่ทำให้ผมผิดหวัง (ซึ่งจริงๆมันก็ไม่เคยพานพบความผิดหวังเลย แม้กับเรื่องไหนก่อนหน้า) ...หนังสนุก น่าติดตาม และน่ารัก ในแบบฉบับของพิกซาร์ไม่ผิดเพี้ยน ...หากแต่หนังอาจจะดูสนุกน้อยกว่าที่คาด สำหรับเด็กๆ เพราะ เนื้อหาโดยรวม มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่สูง

    อะไรต่อมิอะไรทั้งหลายแหล่ ที่เห็นในหนังเรื่องนี้ แทบทั้งนั้นจะเป็นอะไรที่ดูคนมีวัยวุฒิ จะดูแล้วเก็ทได้มากกว่า ...แล้วยิ่งกับคนที่มีประสบการณ์ชีวิตที่ไปพ้องต้องเกี่ยวกับเรื่องราวในหนัง ก็ยิ่งจะเข้าใจอะไรต่อมิอะไรได้ง่าย ทั้งยังเข้าถึงแก่นสาระที่หนังหวังจะทำให้โดนกันอย่างรู้ซึ้ง

    คนที่รักการทำอาหาร ...จะรู้ซึ้งถึง ภาพต่างๆ อย่างที่ตัวเองเคยทำในครัว ทั้งบรรยากาศความชุลมุนเวลาที่ลูกค้าเข้ามากันแย่งที่นั่งและสั่งอาหารอย่างหิวโหย หรือจะเป็นการเอาใจใส่ในรายละเอียดที่ต้องมีความเหมือนกันในทุกๆจาน ห้ามผิดเพี้ยนไปแม้สักขั้นสักตอน

    คนที่รักการกินอาหาร ...จะรู้ซึ้งถึง ความยากเย็นกว่าจะมาเป็นอาหารจานหนึ่ง ที่ต้องมีพิธีรีตองหลายสิบขั้น แล้วไอ้ที่เราเคยบ่นๆ ต่างๆนานา (ส่งช้ามั่ง...ทำนานมั่ง...กินอันนี้ไม่ได้มั่ง...) ก็ยังได้รู้ซึ้งว่า มันไม่ได้ลำบากเข้าปากอะไรเราเลย ในเมื่อคนทำนี่สิ ที่ต้องลุ้นระทึก กลัวใจหายเสียมากกว่า

    คนที่ชีวิตไม่เคยฝัน ไม่มีจุดหมายอะไร ...จะรู้ซึ้งถึง ความอีเรื่อยเฉื่อยแฉะ ของ ลิงกุยนี่ ที่จู่ๆก็บังเอิญมี เรมี่ เข้ามาช่วยเปลี่ยนชีวิตอย่างกะทันหัน

    คนที่เคยทำลายความฝันใครบางคน ...จะรู้ซึ้งถึง การทำตัวเป็นนักวิจารณ์อย่างเทพ ของ อังตวน อีโก้ ที่มีความคิดแต่จะดับชีวิตผู้อื่น ไม่เคยสนหัวจิตหัวใจอะไรเลย

    คนที่มีความฝัน แล้วสู้สุดใจ ...จะรู้ซึ้งถึง การกระทำอันใหญ่เกินตัวของ เรมี่ และ การต่อสู้กับคำปรามาสจากพวกผู้ชาย ของแม่ครัวเฟมินิสต์ "คอลเล็ตต์"

    และคนที่เคยปรามาสตัวเอง ว่าไอ้นู้นก็ทำไม่ได้ ไอ้นี่ก็ทำไม่ได้ ...จะรู้ซึ้งถึง ความเป็นจริงว่า "ใครๆ ก็ทำได้" ขอเพียงแค่ลองได้ทำ

    ผกก. เบิร์ด เข้าถึงเรื่องราวในส่วนของสาระและความเป็นดรามาได้อย่างเข้มข้น ที่แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยที่ผสมเจือเข้ามา แต่มันก็สามารถทำจี๊ดโดนใจได้มากมาย ...ผมว่าผมอินกับความจี๊ดตรงนี้ มากกว่าที่เคยจี๊ดมาจากเรื่องก่อนๆของ พิกซาร์ เสียอีก และที่สำคัญกว่านั้น บทสรุปที่มีความสุขของมัน ยังทำให้ผมต้องเสียน้ำตาออกมาด้วยความปลาบปลื้ม (ยังสำคัญกว่านั้นอีกที ในฉากที่ว่านี้ มันคือฉากเด่น ของตัวละครที่น่าหมั่นไส้ที่สุด "อังตวน อีโก้"...ผมต้องเสียน้ำตาให้กับเขา แทนที่ในใจคิดถึง เรมี่ ซะมากกว่า)    

    ถึงจะเป็นหนังผู้หญ่าย ผู้ใหญ่ ซะเกือบเต็มขั้น แต่อย่างไรก็มีเหตุมีผลพอจะสนับสนุนให้เด็กๆได้ดูด้วย เพราะ Ratatouille ก็ยังถือเป็นหนังการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ที่ให้ความหรรษาเพลินใจ ในภาพและเสียง(หัวเราะ) ...กับมุขตลกโดยส่วนมาก จะเป็นมุขที่เล่นกับลีลาท่าทาง (แตกต่างไปจากพิกซาร์เรื่องก่อนๆ ที่มักจะออกมาเป็นคำพูดขโมยซีน) ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่เรียกความสนุกได้ไม่ยากไปกว่าการออกเสียงเลย อย่างในรอบที่ผมดู ก็ได้ยินเสียงขำดังเล็ดลอดออกมาจากน้องๆวัยใส ไม่แพ้วัยรุ่นขุ่นๆเลย ...และก็ไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะเบื่ออะไรในความหนักของเนื้อหา เอาเวลาชั่วโมงกว่าๆไปแค่ดูแค่เห็น เจ้าหนูขนสีฟ้า 'เรมี่' แสดงความน่ารักแอ๊บแบ๊ว (จะมีใครในกระทรวงวัฒนฯ ผ่านมาอ่านแล้วแบนตูมั้ยเนี่ย อิอิ) ก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินเจริญใจคุณหนูๆแล้ว

    หรือ ถ้าคุณหนูๆ มีความ(อาร์ต)ติสต์ อยู่หน่อยๆ ก็คงจะนั่งมองภาพอนิเมชั่นที่สวยสด ดูงามทุกมิติ โดยไม่รู้จักเบื่อ ...อย่างผมเอง(ที่เห็นว่ามันเป็นภาพการ์ตูนมาชาชิน)ก็ชอบมาก ในพัฒนาการงานเทคนิคของพิกซาร์ ที่ดูดีขึ้นกว่าเดิม(อีกแล้ว) ...ในขณะที่ภาพอาหารตากำลังยั่วใจได้เสมือนว่ามันจริง ตอนนั้นผมก็ได้แต่ปาดน้ำลาย ลูบท้องไปพลาง หิวเกินประมาณอยากสวาปามแรททาทูอี้เหลือกิน

    และอีกอย่างที่รู้สึกเพลินใจอย่างมากมายก็คือ โลเคชั่นของเรื่อง 'เมืองปารีส' ที่ผมกำลังตกหลุมรักอย่างเอาเป็นเอาตาย อันเนื่องจากความอินเดิมใน "Paris Je T'aime" ยังค้างคาตกตะกอนฝังใจอยู่ ...ในเรื่องนั้นดูแล้วอยากไปเที่ยว มาในเรื่องนี้ดูแล้วก็อยากจะทำตัวอินเป็นอย่างไฮโซ เข้าภัตตาคารหรู รับทานปลาทู(น่า)กลั้วเหล้า(องุ่น)ขาว แล้วตบท้ายด้วยจิ้มแจ่ว(ฟองดูร์) ..."Oh, Deilicious หลายเด้ออออ"  

    "Ratatouille" ... นี่คือ หนังที่ทุกคนในครอบครัว ควรจะไปตีตั๋วดูโดยพร้อมเพรียงกัน ...ในขณะที่ทั่นๆผู้ใหญ่ก็ซาบซึ้งไปกับเนื้อหา เหล่าคุณหนูตัวน้อยๆ ก็จะได้สนุกสนานเฮฮากับเรื่องราวสุดหรรษาน่ารักบริสุทธิ์ รับรองว่าออกจากโรง แล้วต้องอิ่มอกอิ่มใจกันถ้วนทั่ว...ส่วนตัวในความชอบของผม จะขอสรุปได้เป็นภาษาหน้าม้าว่า "นี่คือ 1 ใน 10 หนังดีในรอบปีที่ผมรักเป็นที่สุด"

    คนที่รักพิกซาร์ คนที่รักอาหาร และคนที่รักหนังดี ห้ามพลาดเป็นเด็ดขาด!!! ...ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ...ครับ

    เกรด A

    ส่วนที่ขีดเส้นใต้เน้นข้อความ... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี-ดูด้อย ในหนังครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมขีดเส้นไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

    ปล.1 หนังสั้นปะหน้า "Lifted" ...ตลกมากมายครับ ขนาดจบเรื่องจบเครดิตไปแล้ว ผมยังขำค้างนาน ไปถึงตอนโชว์โลโก้ดิสนีย์ กันเลยทีเดียว
    ปล.2 "Paris Je T'aime" ...1 หนังยาว จาก 18 หนังสั้น อีกหนึ่งหนังดีที่ผมให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของปีนี้ ...ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ทุกคนได้ดูกันครับ ฉายที่ "สกาลา" (ดูควบกับ Rat แล้วรับรอง ว่าจะปลาบปลื้ม ปารีส หัวปักหัวปำ)

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 50 15:58:06

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 50 15:43:44

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 50 15:34:33

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 27 ก.ค. 50 15:17:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com