ความคิดเห็นที่ 233
ตอนนี้ผมอยากหาห้องสมุดมากที่สุด ไม่แน่ใจว่าที่นี้จะมีเหมือนในโลกเราไหม แต่ก็พยายามหาให้เจอ ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นแล้ว การปลุกระดมชุมชนคงเสร็จสิ้นแล้ว ผมคงไม่ได้ความร่วมมือจากคนที่นี้ ทุกอย่างต้องเพิ่งตนเอง
คิดถึงตอนนี้แล้วก็อดห่วงผึ้งไม่ได้ แต่ผมต้องหาข้อมูลของความเป็นมาในโลกแห่งนี้เสียก่อน และก็เป็นไปตามที่คาด ผมเจออาคารใหญ่แห่งหนึ่ง สูง2ชั้นแต่มีอาณาเขตกว้างขวางทีเดียว มีป้ายบอกชื่อสถานที่ซึ่งผมอ่านไม่ออก อยู่ตรงทางเข้า ผมปีนกำแพงเข้าไป และเดินเข้าไปยังตัวอาคารทันที อาคารแห่งนี้ถูกปิดสนิทด้วยกุญแจ หนทางเข้าไปภายในดูเหมือนจะต้องปีนไปทุบกระจกช่องแสงและลอดตัวเข้าไป ผมอาจจะต้องใช้เวลาอยู่ในนี้นานพอดู สำรวจดูสเบียงแล้วก็พออุ่นใจว่าพอจะประทังชีวิตไปได้ 1 วัน
ผมทุบกระจกช่องแสงปีนเข้ามาในอาคารแล้ว ห้องด้านหน้า เป็นที่ประดิษฐาน ของ พระศรีอริยเมตตรัย อยู่ด้านบน ต่ำลงมาเป็นรูปปั้นขนาดเท่าตัวจริงของชายสูงวัย อยู่ในชุดคล้ายๆชุดนักบวชในสมัยโบราณ หน้าตาอ่อนโยน และอบอุ่น ต่อผู้พบเห็น เหมือนผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง รูปปั้นทั้ง 2 เป็นทองคำ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 200กิโลแน่จากการคาดเดาของผม ส่วนต่างๆของร่างกายและฐานรองรับถูกประดับด้วยเพชรหรือพลอยหลากสี นี้คงเป็นของที่มีมูลค่าสูงมากถ้านำออกไปสู่โลกของผม แต่ที่นี้ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้าแตะต้องเพราะห้องนี้น่าจะเป็นห้องโถง ชายคนนั้นน่าจะเป็นองค์ประมุขของพวกเขา ผมตั้งข้อสังเกต เพราะต่ำลงมารูปปั้นอีกหลายคนแต่ย่อส่วนลงมาประมาณ 1 ศอกเศษๆอยู่เรียงรายอีกหลาย10คน คงเป็นผู้ครองนครแห่งนี้ เพราะรุปปั้นแต่ละคนมีความเก่าแก่ต่างกัน
ผมละความสนใจจากรูปปั้นไปที่เบื้องหลังโดยไม่ทันสังเกตให้ดีแต่แรก และผมก็ได้พบกับปริศนาของใบไม้ทองคำเสียที ต้นไม้ลักษณะเหมือนต้นไทร เพียงแต่ไม่มีรากอากาศเท่านั้น แผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่โตปกคลุมอยู่เบื้องหลัง ไม่ห่างจากบริเวณรูปปั้นนัก มีใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่บ้างไม่มากนัก ทุกใบเป็นทองคำหมด ผิดกับใบที่อยู่บนต้นที่มีลักษณะเป็นสีเขียวบ้างสีเหลืองบ้าง ลำต้นเป็นสีน้ำตาลแก่เหมือนไม้ทั่วไป ผมเดินไปจนใกล้ต้นไม้นั้น บริเวณรอบต้นไม้ เป็นพื้นดินทั้งหมด ด้านบนโปร่งโล่งมองเห็นท้องฟ้า ดินบริเวณนั้นเป็นสีขาวนวลตา บริเวณนี้กินพื้นที่น่าจะประมาณ 50 ตารางเมตร ผมหยิบใบไม้ขึ้นมา แล้วหยิบอีกใบของดร.วาลาคอฟมาเปรียบเทียบ พิจารณาดู ใช่แน่นอน มันมาจากแหล่งเดียวกัน แต่ทำไม ดร.วาลาคอฟถึงบอกว่าอายุมันเป็นแสนปี ต้นไม้นี้ เมื่อใบแก่ลงหล่นลงมาก็จะกลายเป็นทองคำ หรือว่า ใบไม้ทองคำเหล่านี้ถูกนำมาจากที่อื่น มาทิ้งไว้ที่นี้เพื่ออะไรสักอย่าง ทำไมยิ่งค้นเรายิ่ง งง
ผมเดินต่อไปพยายามตัดความสนใจจากต้นไม้ต้นนั้นก่อน อย่างน้อยพวกสมุดภาพก็น่าจะพอมีให้เราได้รับความกระจ่างบ้าง ผมใช้วิธีทุบกระจก เข้าไปรื้อค้นตามห้องต่างๆ ก็พอจะสรุปได้ว่า ที่นี้เป็นศูยน์กลางของเมืองนี้ ในยุคโลกของเราควรเป็นศาลาว่าการนั้นละ
การค้นหามาถึงที่สุดเมื่อผมเจอ ห้องเก็บเอกสารเข้าโดยบังเอิญ ความจริงบางเรื่องดูเหมือนจะกระจ่างขึ้น
รูปแปลนของปิรามิด มีทั้งองค์ประธานและ องค์รอง รวมทั้งปราสาทหิน พิมพ์อยู่ในกระดาษขาวอย่างดี ผมรีบเปิดพลิกดูข้างใน ก็มองเห็นชั้นต่างๆที่มีอยู่ในปิรามิดซึ่งมีทั้งหมด 35 ชั้น มีทางเข้าเพียงทางเดียวคือส่วนกลางปิรามิด
ผมเปิดที่ชั้น 18 เพราะเป็นชั้นที่มีทางเข้าอยู่ทางเดียว ดูรายละเอียดจากชั้นนี้ ก็เห็นทางเดินเข้า ที่ผมกำลังจะผ่านเมื่อสักครู่ ไม่มีรูปปั้นของอะไรทั้งนั้น แล้วเจ้าอสูรกายละมันมาที่นี้ได้ด้วยหรือ ไหนชายคนนั้นบอกว่ามันอยู่ที่จุดผ่านของ 2 โลก ดูรายละเอียดแล้วผมพบว่า ภายในเป็นห้องขนาดใหญ่มีรูปทรง 8 เหลี่ยม ตรงกลาง เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ และมีรูปปั้นของพระศรีอริยเมตตรัย และชายแก่คนนั้นอยู่ใกล้ๆ เยื้องไปทางด้านหลัง ทั้ง 2 ด้าน มีสัญลักษณ์ที่สลักลงกับพื้นหินและผมรู้สึกคุ้นตาดีที่สุด ผมหยิบหินทั้ง 2 ก้อนมาพิจารณา แล้วลงความเห็นว่า มันเกี่ยวข้องกันแน่นอน ทั้งลวดลายและสีของหิน ด้านหนึ่งถูกระบายด้ายสีดำ ด้านหนึ่งถูกปล่อยว่าง นั้นหมายถึงความหมายของหินทั้ง 2 ก้อนนี้
และที่ผมสนใจมากกว่านั้น รูปปั้นคนที่ระบายด้วยสีดำ ในอิริยาบถต่างๆ ถูกวางเรียงรายล้อมรอบห้องแห่งนั้น ผมนับดูมีทั้งหมด 8 อัน ตาม 8 ทิศ ผมเปิดดูชั้นต่อไป จนครบ 35ชั้น ก็พอจะสรุปได้ว่า คนที่นี้แบ่งชั้นที่ 18 ไว้สำหรับมนุษย์ ส่วน 17 ชั้นล่างเป็นนรก 17 ชั้นบนเป็นสวรรค์ หนทางเข้าไปแต่ละดินแดนจึงไม่มี การเข้าไปได้ถึงแต่ละชั้นต้องไปจากแดนมนุษย์เท่านั้น ผมต้องลองไปที่นั้นอีกครั้ง หิน 2 ก้อนนี้อาจช่วยให้ผึ้งคืนร่างมาได้
ผมยังคงค้นหาข้อมูลต่อไปอีก จากสมุดบันทึกสมุดภาพ ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่า พรุ่งนี้จะขึ้นไปลองดูอะไรสักอย่างข้างบน แต่ตอนนี้ ต้องหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ข้อมูลจากสมุดบางทีก็มีภาพประกอบ ทำให้ผมพอจะเรียบเรียงเรื่องได้บ้าง ผมทุบกระจกเข้าไปอีกห้องหนึ่ง เพราะดูเหมือนจะเป็นห้องทำงานของคนที่ใหญ่สุดของที่นี้ ดูได้จากรูปที่ติดอยู่หน้าห้อง ห้องนี้ มีภาพเขียนที่น่าศึกษามากมาย ผมเริ่มดูจากภาพเขียนรอบๆห้องก่อน
ภาพเขียนประวัติศาสตร์บ่งบอกถึงอารยธรรมที่สูงสุด ตึกรามบ้านช่อง การเดินทางโดยอากาศยาน ทุกสิ่งดูเหมือนจะเจริญกว่าโลกของผม อีกด้านหนึ่งเป็นภาพการสร้างปิรามิด ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตกว่าที่นี้มากกว่า10 เท่าตัว ทั้ง 2 ภาพถูกวางติดกันไว้ ภาพต่อไป เป็นภาพที่ทำให้ผมขนลุกชัน เลือดในกายไหลไม่เป็นปกติ
เป็นภาพผู้ชายคนหนึ่ง สวมใส่ชุดนักบวช ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ซึ่งน่าจะเป็นเหล่าที่ปรึกษา ข้างกายชายผู้นั้น สตรีนางหนึ่ง สวมใส่ชุดนักบวชเช่นกัน
รูปของพวกเขาเหล่านั้นคุ้นเคยที่สุด
ผม , ผึ้ง , ดร.วาลาคอฟ, ดร.ปราทิค,กรอสโซ่, เซบาสเตียน, เปตอฟ
แม้บางคนในรูปจะดูแก่ไปบ้าง อย่างผมซึ่งน่าจะอยู่ในวัย60ต้นๆ แต่ เค้าโครงหน้านั้นชัดเจน
จากคุณ :
เล็ก (ชายสมบูรณ์)
- [
14 ก.ย. 50 16:34:15
]
|
|
|