ความคิดเห็นที่ 22
ก็อปของตัวเองมาลงไว้เพราะรู้สึกว่าคนไม่คลิกลิ้งค์ไปอ่าน แต่อันที่ก็อปมาก็ท่าจะไม่มีคนอ่านอยู่ดี
วิชาการเลยล่ะ ส่วนการม่านตาสีแดงนั้นคงเกี่ยวข้องกับการเผือก albinism (แปลมาจาก revoptum.com ผสมกับ madsci.org) การเผือก(albinism)พบได้ประมาณ๑ใน๒๐,๐๐๐ โดยการเผือกแบ่งออกเป็น ๓ แบบ คือ oculocutaneous(เป็นมากและเป็นทั่วทั้งกาย)ocular(ซีดชัดเจนเฉพาะที่ตา อาจมีสีผมและผิวอ่อนกว่าสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆเล็กน้อย)albinoidism(ผิว ตา ผม สีซีดกว่าพ่อแม่พี้น้องนิดหน่อย เรียกได้ว่าไม่เผือกจริง)ภาวะของตาที่พบบ่อยในคนเผือกแบบoculocutaneous และแบบocular คือ สายตาสั้นหรือยาว,ตาสู้แสงไม่ได้,ตาเหล่,ตากลอกเอง,ตาพร่า,สมองรับภาพจากตาข้างเดียว ปัญหาเกี่ยวกับตาเกิดจากการขาดรงควัตถุทำให้จอประสาทตาไม่พัฒนาอย่างเป็นปกติ และ/หรือการเชื่อมต่อที่ไม่ถูกต้องระหว่างจอประมาทตาและสมอง ภาพที่เห็นจะไม่คมชัดแม้จะใส่แว่นปรับแล้วก็ตาม (ปกติแล้วแสงจะส่องไปยังจอประสาทตาผ่านทางรูม่านตาเท่านั้น แต่ในคนเผือกแสงบางส่วนจะแยงผ่านม่านตาด้วย) คนเผือกแบบocularมีปริมาณรงควัตถุที่หลากหลายต่างกันไปในแต่ละคนและอาจจะมองเห็นได้ชัดเจนทีเดียว คนเผือกแบบoculocutaneousจะมีรงควัตถุน้อยกว่าคนเผือกแบบocularและมีแนวโน้มที่จะมองเห็นได้ชัดน้อยกว่า การเผือกนี้สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม ทั้งนี้การเผือกแบบocularบางประเภทถ่ายทอดผ่านโครโมโซมเพศX หลายคนคิดว่าคนเผือกมีตาสีแดง ที่จริงแล้วคนเผือกส่วนมากมีตาสีฟ้าหรือเทา ตาสีม่วงๆหรือสีแดงๆพบได้ในการเผือกบางประเภท(ประเภทของการเผือกแบ่งตามการผิดปกติที่พบบนDNA) สาเหตุที่ตาเป็นสีแบบนี้เป็นเพราะในม่านตามีรงควัตถุน้อยมากๆทำให้มองเห็นแสงที่สะท้อนกลับมาจากจอประสาทตาที่เป็นสีแดง(ฟังแล้วน่ากลัวชอบกล)
จากคุณ :
นากากาฉิ
- [
22 ส.ค. 50 07:28:44
]
|
|
|