| เกรด A -> 9-10 คะแนน (27 คน) |
| เกรด B -> 6-8 คะแนน (29 คน) |
| เกรด C -> 3-5 คะแนน (11 คน) |
| เกรด D -> 1-2 คะแนน (5 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 72 คน |
ตั้งแต่กระทู้รีวิวนี้เป็นต้นไป ผมขอเปลี่ยนเกณฑ์การให้คะแนนโหวตใหม่นะครับ... ซึ่งจากเดิมนั้นจะมี เกรด E ด้วย หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว หนังที่ว่าแย่สุด นักวิจารณ์ทั่วๆไปก็จะต้องให้ระดับเกรด D เป็นอย่างต่ำ และเนื่องด้วยเกณฑ์การให้เกรดของผมเองด้วยแล้ว ถ้าตัดเกรด E ออกไป ก็จะมีระดับคะแนนที่ลงตัว เป็นดังนี้ครับ...
เกรด A -> 10 คะแนน [Super Recommended]
เกรด A- -> 9 คะแนน [Recommended]
เกรด B+ -> 8 คะแนน
เกรด B -> 7 คะแนน
เกรด B- -> 6 คะแนน
เกรด C+ -> 5 คะแนน
เกรด C -> 4 คะแนน
เกรด C- -> 3 คะแนน [It's Badddd]
เกรด D+ -> 2 คะแนน [It's Ugly Badddd]
เกรด D -> 1 คะแนน [It's F**king Badddd]
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ถ้ามองด้วยสายตาของคนนอกคนหนึ่ง ...หนังไทยขายตลกเรื่องล่า "สายลับจับบ้านเล็ก" ก็น่าจะถือให้เป็นกรณีศึกษาอีกเคสหนึ่งของ GTH ที่ได้สอนให้รู้ว่า "การทำหนังแนวคลายเครียดก็สามารถที่จะสร้างความเครียดให้คนดูที่ได้ดูหนังได้เหมือนกัน"
ถ้ามองในมุมของคนที่ปลื้มหนัง ...ก็คงเห็นว่า สายลับฯ ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ก็คือ การสร้างความสนุกและเสียงหัวเราะ ทำให้คนดูมีความสุขไปกับสิ่งที่หนังแสดงให้ดู
ถ้ามองในมุมของคนที่ไม่ปลื้ม ...ก็คงคิดไปว่า สายลับฯ คือ หนังที่ทำออกมาแบบมักง่าย ขายความกะหลั่ว เพียงเพื่อหวังจะได้เงินกันอย่างไม่ลืมหูลืมตากันลูกเดียว
ถ้ามองในมุมของคนๆหนึ่งที่ได้ดูหนังมาแล้ว ...ผมก็ชักไม่แน่ใจว่าผมควรจะมองหนังในมุมไหนดี เพราะถึงผมจะมั่นใจว่ายังไง มันจะไม่ยอดเยี่ยมเทียบเท่า หนังที่ผมปลาบปลื้มเป็นที่สุดของ GTH (และหนังไทยทั้งหมดทั้งมวล) อย่าง "เพื่อนสนิท" มันก็ยังมีพาลผิดหวังที่ สายลับฯ ทำดีที่สุดได้เพียงเท่านี้ ...เท่าที่หนังตลกบ้านๆเรื่องหนึ่งจะทำให้ผมมีความสุข แค่เพียงผิวๆ
"สายลับจับบ้านเล็ก" ...เป็นงานกำกับบินเดี่ยว เรื่องที่ 3 ของ ผู้กำกับ "เอส-คมกฤษ ตรีวิมล" ที่นำเอาเรื่องราวในจากหนังสือ "สะกดรอยชู้" มาตีแผ่เป็นหนังตามความถนัด (คล้ายจะเป็นลายเซ็นอย่างหนึ่งของพี่คนนี้ก็ว่าได้) ...หากแต่ก็ยังต้องปรับแก้แทบยกเล่มเพื่อหวังจะสร้างความหรรษาสนุกเฮฮาให้มากไปกว่าที่หนังสือนั้นมีความจริงจัง และซีเรียสปะปนเข้ามาด้วย
จากที่ตัวหนังสือ จะเล่าถึงชีวิตนักสืบคนหนึ่งที่ต้องทำตัวเป็นนักล่าเงินรางวัล คอยตามจับภาพพฤติกรรมคบชู้สู่ชายของสาวๆ บรรดาผู้หญิงที่อยากเป็นเมียน้อย ...ก็มากลายเป็นหนัง ที่สร้างภาพให้นักสืบกลายเป็นคนใจง่าย ที่ดันไปเผลอตกหลุมรัก สาวบ้านเล็กสุดสวยหน้าใส ที่มาหว่านเสน่ห์ทำเคลิ้มจนลืมไปว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายตามจับ ไม่ใช่มาตามจีบเยี่ยงนี้
เรื่องของการปรับแก้ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรที่จะต้องมาตัดพ้อต่อว่าตัวหนัง เพราะถ้ามองในแง่ของการสร้างความบันเทิง มันก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนวิถีให้มันอยู่ในทางที่หนังเรื่องนี้จะสร้างความสนุก เหนือไปกว่าการเอาจริงเอาจังกับตัวหนังสือในทุกกระเบียดนิ้ว ...หากแต่จะโอเคอย่างกระนั้นก็ตามที ประเด็นใหญ่ที่ดูจะสำคัญเหนือไปกว่าความบันเทิงอื่นใด ที่ สายลับฯ ทำ ก็คือ การลดคุณค่าของความเป็นหนังเรื่องหนึ่ง ที่พอจะมีทางทำให้มีอะไรที่น่าจดน่าจำได้แต่เลือกจะไม่ทำ
ผมไม่คิดโทษไปที่บทหนัง เพราะผมเชื่อว่าทีมผู้เขียนบทรู้จุดประสงค์ที่ตัวเองจะเขียนเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ...หากแต่ในความตื้นๆที่เราได้เห็นจากมุขตลก ความชวนหัว การสร้างความซึ้ง และแง่มุมสะท้อนสังคม มันก็ดูเป็นอะไรที่ยังแค่ผิวๆในความรู้สึก ไม่ลึกถึงเนื้อใน ไม่ฝังใจอะไรกับส่วนเหล่านี้ที่หนังน่าจะสามารถเน้นย้ำ และตอกกลับใส่คนดูให้แรงกว่านี้ได้อีก หากทีมผู้เขียนบทคิดจริงคิดจังมากกว่านี้อีกสักหน่อย
ซึ่งยิ่งถ้าใครได้ดูหนังจากทีมผู้กำกับแฟนฉัน อย่างเช่น เพื่อนสนิท , เด็กหอ หรือ Season Changes มาก่อนด้วย ...ก็ยิ่งจะรู้สึกว่า สายลับฯ เป็นอะไรที่ธรรมดาเบสิกๆมาก ทั้งๆที่พลอตหนังน่าสนุกอย่างนี้ จะทำให้มีชั้นเชิงที่ยอดเยี่ยมอย่างเทียบเท่าก็ยังได้
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ อคติข้ออ้างทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้พูดออกมา ก็ไม่ได้แปลความหมายว่า หนังเรื่องนี้นั้นช่างหาดีไม่ ... เพราะเมื่อมองกันด้วยใจที่เป็นกลางแล้ว สายลับจับบ้านเล็ก ก็ย่อมไม่ใช่หนังที่คู่ควรกับคำว่า 'แย่' แต่อย่างใด มิหนำซ้ำแล้วถ้าลบความคาดหวังในหัวออกไปได้อย่างหมดจด ผมคงจะมองว่ามันเป็นหนังที่ซื่อสัตย์ และซื่อตรงต่อคนดู อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
เพราะ สายลับฯ ไม่ได้ทะเยอทะยานพยายามทำตัวให้เกินเลยจากการเป็นหนังที่หวังสร้างความบันเทิงให้กับคนดู ...ซึ่งถึงแม้มันอาจจะเป็นดูเป็นความบันเทิงแบบสำเร็จรูป เพียงแค่ฉีกซอง เติมน้ำร้อน แล้วกินได้ แต่กระนั้นรสชาติของตัวหนังก็ไม่ปรุงแต่งให้เกินผิดจากธรรมชาติ ไม่เน้นความจัดจ้านแสบร้อนจนกลายเป็นของชวนสะอิดสะเอียนให้มวนท้องปั่นป่วน อย่างที่หนังไทยบางเรื่องดัดจริตแสร้งทำจนกลายเป็นแฟชั่นแบบผิดๆ (ยกตัวอย่างล่าสุดๆ ก็ "บ้านผีสิง" ...ที่เอาความรักมาทำเนียนกับเรื่องหลอนๆ ไม่ลงตัวเอาซะเลย)
ผกก.เอส อาจจะเหมือนว่ามือตก ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาทำไว้ใน "เพื่อนสนิท" ...แต่ถ้ามองว่านี่มันเป็นหนังคนละรูปแบบ คนละแนวทางกัน สายลับฯ ก็ไม่ใช่งานที่ทำให้ผู้กำกับมีไฟคนนี้ ถึงคราวต้องมอดลง ...วัดจากการสร้างความหรรษาขำๆ แม่นยำในจังหวะปล่อยมุข คุณเอส ก็ยังคือ ผู้กำกับที่มีความเป็นนักคอมเมเดี้ยนในตัวสูงเหมือนเคย แล้วเมื่อถึงช่วงซึ้ง เขาก็จับจุดในเวลาที่เหมาะสม และปล่อยให้คนดูรู้สึกเคลิ้มตามไปได้โดยเนียนๆ
ส่วนของทีมนักแสดงหลัก ก็ให้การแสดงที่ดี เป็นสีสันกับหนังได้อย่างเข้ารส ..."ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" ทำได้เกินคาด และไม่คิดว่าเขาคือธรรมชาติที่ดีที่สุดของหนัง ทั้งในการเล่นหน้าเล่นเสียงทำเปิ่นตลกๆ หรือจะในฉากโรแมนซ์ก็เห็นได้ชัดว่า "ไอ้จ๊อก" รู้สึกจะอินในเลิฟมากกว่า "ไข่ย้อย" ซะอีก (เสียเพียงแต่มันไม่โดน มันไม่จี๊ดเท่า ...อาจเพราะผมยังไม่มีประสบการณ์แอบรักเพื่อนสนิทที่เป็นบ้านเล็กซะละมั้ง อิอิ) , "พีค-ภัทรศยา" น้ำปั่นน่ารักมั่กๆ ทำผมเคลิ้มซะทุกฉาก ผู้หญิงอย่างนี้ ไม่มีความเหมาะจะยัดเยียดตำแหน่งบ้านเล็กให้ แต่ควรจะมาเป็นบ้านใหญ่ ทำหน้าที่เป็นแม่ของลูกผมซะจริงๆ หุหุ (ส่วนการแสดงในฐานะมือใหม่ อาจมีแข็งบ้าง แต่ก็เห็นเป็นเล็กน้อย เพราะใจมันยินยอมให้อภัยกันตั้งแต่แรกพบ ฮิ้ววว) , "แจ็ค" & "โอปอล์" ศักยภาพในการขโมยซีนอาจจะลดน้อยลง แต่ความ(ดำ)ขำไม่ได้หดหายไป หากจะดีกว่านี้มากๆ ถ้าแจ๊คไม่พูดหยาบคายจนเกินวัย และให้บทพี่ปอล์ได้มีฉากที่สร้างเสียงฮาหนักๆมากไปกว่า เชฟบ๊ะล้างรถอันชวนให้หลอนติดตาซะเหลือเกิ้นนนน...!!!
เจ้าหมาน้อย "ริชาร์ด" อาจมีบทบาทเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่ความน่ารักน่าชังของมันก็มีความหมายความสำคัญไม่น้อยไปกว่า คุณๆดารามนุษย์ เลย
แม้บทหนังอาจจะไม่ได้ดั่งใจผมไปซะเท่าไหร่ ...แต่ผมก็ยังมีที่รู้สึกชอบๆอยู่ กับพลอตในส่วนของน้ำปั่น ที่มีความฝันว่าอยากได้มีบ้านเป็นของตัวเอง หากแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยการบ่อนทำลายบ้านของคนอื่นไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ...ทีมเขียนบทตีความคำว่า "บ้าน" มาสร้างเป็นเรื่องเป็นราวได้ดีและเนียน ทำให้เราเข้าใจในเหตุและผลที่น้ำปั่นเป็นเช่นนี้ (ซึ่งอาจดูว่าเป็นทางเลือกที่ผิด แต่ก็ไม่ได้ผิดอย่างร้ายแรงที่เธอเลือกมาทางนี้) ...หากแต่ก็เสียดาย ที่ถ้าเอา "บ้านใหญ่" และ "บ้านเล็ก" มาตีความในแง่ศีลธรรมลงไปด้วย หนังก็น่าจะให้ความรุนแรงกับคำว่า "บ้าน" ได้หนักแน่นยิ่งไปกว่านี้
"สายลับจับบ้านเล็ก" ... สนุกกับความตลก(แอบโรแมนติก)แบบ 'บ้านๆ' ...ซึ่งถ้ายกคนทั้งบ้านมาดูด้วยกัน ก็ย่อมน่าจะได้รับความพอใจในความบันเทิงได้ทุกผู้ทุกคนเหมือนๆกัน (หากแต่เด็กๆ ทั้งหลายแหล่ ก็ควรมีผู้ปกครองไปดู ให้คำแนะนำในความหยาบและการกระทำตัวเป็นบ้านเล็กของนางเอกด้วย) ...นี่อาจยังไม่ใช่หนังดีที่ต้องดู แต่ก็เป็นหนังบันเทิงอย่างบ้านๆ ที่ให้ความสุขกับเราได้แน่ ...แม้มันอาจจะแค่ผิวๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วอยู่นะ
เกรด B+
ส่วนที่ขีดเส้นใต้เน้นข้อความ... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี-ดูด้อยในหนังครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดี มีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน
วันนี้ คุณดู "ไชยา" แล้วหรือยัง ...ถ้ายัง ขอเชิญชวนให้ไปดู
ถึงหนังจะไม่เพอร์เฟกต์เลิศเลอ แต่คุณจะรู้สึกประทับใจในสิ่งที่คุณได้เห็นแน่นอน...อย่างน้อยๆ ก็เป็นการให้กำลังใจสนับสนุนกับกลุ่มคนคุณภาพกลุ่มหนึ่งที่ร่วมกันสร้างสรรค์อีกหนึ่งหนังดีๆ ควรค่าให้จดจำครับ
"ไชยา" ... หนัง(มวย)ไทยที่คุณต้องดูด้วยตา แล้วจะ(ต่อย)ทะลวงไส้ไปถึงหัวใจ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=03-09-2007&group=2&gblog=86
สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลงความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของ จขกท."
ขอบคุณครับ รักคนอ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 50 00:26:04
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 50 20:25:01
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 50 20:17:48