|
เมื่อครอบครัวเราถูกพนักงานธนาคารกรุงเทพโกงเงินไปกว่า 2.7 ล้าน
แจ้งจับ สาวแบงก์ โกง2.7ล.
เศรษฐินีเมืองกรุงเก่า เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรดัง แจ้งจับสาวแบงก์กรุงเทพโกง 2.7 ล้าน เผยให้บริการสุดประทับใจไปรับเงินฝากถึงบ้านจนวางใจใช้บริการมาตลอดสิบกว่าปี แถมให้ถือบัญชีเงินฝากอีกต่างหาก กว่าจะรู้เรื่องก็โดนดูดเงินไปเกลี้ยงเกือบ 3 ล้านรวม 17 บัญชี แฉใช้พิมพ์ดีดพิมพ์ยอดเงินตบตา อ้างคอมพ์เจ๊ง สารภาพเอาเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว เพราะสามีไม่ได้ทำงาน ล่าสุดเผ่นหนีไปแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 ก.ย.ที่สภ.อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา นางมะลิวัลย์ จารุพันธ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 448/26 ถ.เทศบาล 2 ต.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร "มะลิวัลย์" และร้านมินิมาร์ท เข้าพบพ.ต.ท.อำนาจ สุขทรัพย์ศรี รองผกก.เพื่อยื่นเอกสารทางการเงินเป็นหลักฐานเพิ่มเติมกรณีถูกพนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาตลาดอำเภอท่าเรือ ฉ้อโกงเงินไปประมาณ 2.7 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 8 ก.ย.กับพ.ต.ท.วิชิต ปานพรหม พนักงานสอบสวน สภ.อ.ท่าเรือ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
นางมะลิวัลย์ กล่าวว่า ใช้บริการของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาท่าเรือมานาน เนื่องจากสนิทสนมกับนางสุกัญญา หรือกุ้ง ผดุงแสง อายุ 42 ปี พนักงาน มีภูมิลำเนาอยู่หลังสถานีรถไฟ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี โดยนางสุกัญญามารับเงินฝากถึงร้าน และยังให้นางสุกัญญาถือสมุดเงินฝากหลายสิบบัญชีไว้ด้วยเพราะเห็นว่าเป็นพนักงานที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจกันมาตั้งแต่ปี 2538 โดยตนเองทำบัญชีคุมการเบิกจ่ายเงินอีกเล่มไว้ตลอดนานถึง 11 ปี เมื่อนางสุกัญญามารับเงิน ตนก็ให้เซ็นชื่อในสมุดคุมกำกับไว้ด้วยทุกครั้ง
นางมะลิวัลย์ กล่าวอีกว่า ต่อมาพบว่าสมุดเงินฝากธนาคาร นางสุกัญญาใช้เครื่องพิมพ์ดีดพิมพ์ตัวเลข ลงสมุดบัญชีแทนเครื่องพิมพ์จากคอมพิวเตอร์ ตนเคยถามว่าทำไมจึงใช้พิมพ์ดีดพิมพ์เพราะตามระเบียบในปัจจุบันของธนาคารห้ามใช้พิมพ์ดีด นางสุกัญญาอ้างว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของธนาคารเสียบ้าง ไฟฟ้าดับบ้าง ตนไม่ได้เอะใจ เพราะไว้เนื้อเชื่อใจมาตลอด กระทั่งวันที่ 8 ก.ย.ลูกสาวได้ตรวจสอบเอกสารทางการเงินทั้งหมดทุกด้าน และพบว่าตัวเลขสมุดคุมบัญชีของตนเอง และยอดเงินที่นางสุกัญญา แจ้งสรุปยอดเงินฝากในสมุดเงินฝากธนาคารไม่ตรงกัน จึงขอสมุดเงินฝากที่นางสุกัญญาถือไว้มาตรวจสอบอย่างละเอียด
นางมะลิวัลย์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสมุดบัญชีที่ได้มาเพียง 17 เล่ม พบว่าตัวเลขเงินฝากที่พิมพ์ด้วยพิมพ์ดีดยอดเงินหายไปทั้งหมด 2,776,340 บาท สอบถามนางสุกัญญายอมรับว่านำเงินไปใช้จริง โดยมีความจำเป็นต้องเอาเงินไปจุนเจือครอบครัว เพราะสามีไม่ได้ทำงาน ช่วยพ่อแม่ที่ป่วย และไปให้ญาติฝ่ายสามีลงทุนทำการค้า นางสุกัญญาขอโทษและร้องไห้ขอร้องไม่ให้บอกใคร รวมทั้งผู้จัดการ เพราะจะต้องถูกไล่ออกและถูกดำเนินคดีด้วย และจะหาเงินมาชดใช้คืนให้ในเวลา 5 ปี แต่ตนเองไม่เชื่อ จึงแจ้งให้นายสุทธิพงษ์ วงษ์ขันธ์ ผู้จัดการธนาคารทราบ
"ทางธนาคารขอร้องว่าอย่าให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เพราะเกรงว่าธนาคารจะเสียชื่อเสียง พร้อมรายงานต่อไปยังนายประยุทธ์ ยืนวงศ์ ผู้จัดการภาค 2 และสำนักงานใหญ่ โดยทางธนาคารรับปากว่าจะให้ฝ่ายตรวจสอบมาตรวจสอบความจริง จนถึงปัจจุบันไม่มีความชัดเจนใดๆ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารอ้างว่านางสุกัญญาพ้นสภาพจากพนักงานของธนาคารไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.และเมื่อไปตรวจสอบที่บ้านพักก็ไม่พบตัวนางสุกัญญา ทราบว่าไม่ได้เข้าบ้านมาหลายวันแล้ว เชื่อว่าได้หลบหนีไปแล้ว" นางมะลิวัลย์ กล่าว
จากคุณ :
ป้าหมาบูล
- [
28 ก.ย. 50 17:18:18
]
|
|
|
|
|