 |
2007ของ"หนังไทย"ปีแห่งหนังดีและหนังเลว
http://www.komchadluek.net/2007/10/05/f001_159254.php?news_id=159254
2007ของ"หนังไทย"ปีแห่งหนังดีและหนังเลว 4 ตุลาคม 2550 19:09 น. คงจะด้วย"เงื่อนไขทางธุรกิจ" มากมายหลายอย่าง "ความหมายของศิลปะบันเทิง" จึงถูกเคลื่อนย้ายไปในมิติต่างๆและอื่นๆ เช่น ตามงานเปิดตัวสินค้า บ่อยครั้งมักมีนิทรรศการเพื่อยก "ระดับ" ของงานให้ดูดี (ในแง่นี้คือ เอาศิลปะมารับใช้โปรดักท์)
หรือที่ชัดเจนมานานหลายปีก็คือภาพยนตร์ ซึ่งบ่อยครั้งมัน "แบกรับ"ความหมายเกินกว่าการเป็นหนัง มันอาจเป็นสินค้าที่หวังจะสร้างรายได้ นำพาความอยู่รอดมาให้แก่บริษัท หรือเป็นแฟชั่นของสังคมใหม่ คนรุ่นใหม่ ที่ถูกเคลมมากบ้างน้อยบ้าง ว่าต้องทำหนัง เพื่อความเท่และอินเทรนด์
หนังจึงเป็นมากมายหลายอย่างก็จริงแต่สิ่งหนึ่งที่มันเป็นอย่างเข้มแข็งคือ มันพร้อมจะให้รางวัลและลงโทษ เป็นคำชื่นชมและแส้โบยเฆี่ยน สำหรับคนจริงใจและใครที่ลวงหลอก
ทัศนะข้างต้นสะท้อนออกมาได้อย่างหนึ่งถึงความเป็นไปของหนังไทย7 ปีที่ผ่านมา หนังไทยที่ฟากหนึ่งเลวร้าย(มาก) และฟากหนึ่งดีอย่างน่าใจหาย ภาพของสองด้านนั้นค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะที่ตั้งใจทำให้ดีก็ทำ ที่เจตนาจะโกยแหลก โดยไม่ต้องสนใจอะไรก็ทำ
โดยเฉพาะหนังไทยกลุ่มหนึ่งคิดในการทำเพียงแค่อะไรขายไม่ขาย (ใครจะเถียง) กล่าวคือไม่ต้องบอกก็รู้ว่า แค่นั่งโต๊ะประชุม ก็คุยกันว่าเอาอะไรมาเป็นคาแรคเตอร์ สัตว์ เซ็กส์ กะเทย ผี หรืออะไรดี
จะว่าไปตัวละครเป็นอะไรนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เท่ากับว่าคนทำมีเทสต์หรือคลาสหรือเปล่า สองคำหลังนี้ไม่ใช่เรื่องรวยจน แต่มันคือระดับ เกรดและวิธีคิดที่จะนำเสนอของตัวเอง เป็นเซ็กส์ก็ได้ เป็นกะเทยก็ดี หรือเป็นผีเป็นมอนสเตอร์ก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการ
ปี2007 ของหนังไทยต่างออกไปทุกปีก่อนหน้านั้น ต่างออกไปตรงที่ ช่วงเวลานี้ได้มีหนังไทยดีๆ มากขึ้น มีตัวเลือกที่ไม่ง่ายสำหรับการลงคะแนนของคณะกรรมการหนังแน่นอน และอาจจะยากเสียด้วยสำหรับนักวิจารณ์ ที่จะฟันธงว่าภาพยนตร์เรื่องใด ควรจะติด 1 ใน 5 เรื่องสุดท้าย
ต่างกับปีก่อนๆ2006, 2005, 2004, 2003, 2002 ที่พอถึงเดือนธันวาคม ก็แทบจะมองออกอยู่พอสมควรว่า ม้าตัวใดจะวิ่งเข้าช่วง 100 เมตรสุดท้าย (และก็เป็นเช่นนั้น)
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะมีทั้งหนังไทยดีจนชัดเจนในจำนวนน้อยนิด และมีภาพยนตร์ในระดับเลวร้ายห่วยแตกมากกว่ามาก ยึดพื้นที่เอาไว้ (กรุณาอย่าเอารายได้มาประกันความเป็นหนังดี เพราะตัวเลขนั้นไม่เกี่ยวกับหนังดีหรือหนังเลว)
ผมลองทบทวนดูว่าผ่านไปแล้ว10 เดือนของปี มีหนังไทยอะไรบ้างที่ดีจนน่าจดจำ (อันเป็นรสนิยมส่วนตัวของผมเอง)
สมเด็จพระนเรศวรฯ,พลอย, ลิขิตรักขัดใจแม่, Me Myself, เมล์นรกหมวยยกล้อ, The Body ศพ19, แสงศตวรรษฯ, แฝด, Final Score ฯลฯ
เอาแค่7-8 เรื่องนี้ที่นึกได้ทันที ที่ยังไม่นับรวมที่เหลืออีกบางเรื่อง ก็พอจะบอกได้เลยว่า ปี 2007 คณะกรรมการหนังไม่ว่าสถาบันใด ได้ถกเถียงกันหนักปากแน่ๆ เพราะสูสียิ่งกว่าแมนยูฯ-อาร์เซนอล หรือบดบี้กันไม่แพ้ คมช.ปะทะเหล่าดีเอ็นเอทักษิณแน่ๆ
บางเรื่องไม่ได้เงินเลยแต่อาจติด 1 ใน 5 เรื่องสุดท้ายเข้าชิง และมีหลายเรื่องแน่ๆ ที่ทำเงินมากมายระดับ 70-100 ล้าน แต่อาจไม่มีชื่อในกลุ่มหนังเด่นเลย (เช่น ตั๊ดสู้ฟุด ที่เอ็นเตอร์เทนคนดู แต่ไม่ใช่หนังดีในแง่ของศิลปะ นี่ยังไม่นับ "อีส้มสมหวัง"ที่แทบจะหาอะไรดีๆ ไม่ได้นัก)
ขณะที่หนังในกลุ่มเด่นๆ(โดยเฉลี่ยของตัวมันเอง) มีขนาดใหญ่ขึ้น หนังในกลุ่มเด่นๆ ขนาดกลางกลับเล็กลง และแชร์ส่วนแบ่งไปที่ภาพยนตร์ไร้คุณภาพ (แต่ดันได้เงิน) อย่างไรก็ตาม เรืองดีๆ ที่น่าเอาใจช่วยของหนังไทยสองอย่าง ที่ต้องขอชมก็คือ งานโปรดักชั่นดีมาก และความหลากของแนวทางหนังนั้น กระจายตัวมากขึ้น
ไม่ได้"อุดอู้" อยู่แค่หนังผีเกย์ หนังตลกตลาดล่าง หรือหนังแอ็คชั่นสั่วๆ หลอกคนดู
จนอาจกล่าวได้ว่าหนังไทยในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ปี 2007 จะเป็นปีที่ทำงานใช้ความคิดในการเลือกยากที่สุด
อาจมี"ต่อเวลา" และยิง "ลูกจุดโทษ"
โดยมีหนังเลวๆพวก "ตีหัวเข้าบ้าน" ได้แต่นั่งดูอยู่หลังโกล์ด
นันทขว้าง สิรสุนทร
giengi@yahoo.com
แล้วหนังไทยดีๆในปีนี้ของแต่ละคนมีเรื่องอะไรบ้างครับ
ของผมมีสมเด็จพระนเรศวรฯ,ไชยา, ลิขิตรักขัดใจแม่, Me Myself, The Body ศพ19, แฝด
จากคุณ :
I am เตียบ่อกี้
- [
วันเกิด PANTIP.COM 01:36:44
]
|
|
|
|
|