ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นขอพูดถึงภาพรวมของตอนที่ 9 ที่เป็นตอนที่สำคัญมากที่สุดตอนหนึ่งของเรื่องนี้ก่อน (เป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุดและอยากให้เป็นตอนสุดท้ายของซีรีย์เรื่องนี้ด้วยซ้ำ)   ในตอนนี้จะเล่นกับคำว่า  “เวลา” มากกว่าตอนอื่นๆ  นั่นเพราะเรื่องเริ่มเดินมาถึงจุดคลายปมที่เคยผูกๆ ไว้แล้วนั่นเอง  เราจะเห็นว่าในตอนนี้มีหลายปมเลยที่ถูกคลี่คลายด้วยดี  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคู่ของเพื่อนพระเอกทั้งสองคู่ ที่ก็มาคลายปมกันตอนนี้ว่า Happy Ending ไปแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นตอนที่ Tada ซังตัดสินใจขอเรดิแต่งงานด้วย ซึ่งหากดูบทพูดดีๆ จะพบกว่ามีการเล่นกับช่วงเวลามาก  และสื่อให้เห็นถึงตัวตนของ Tada ซัง ด้วยว่ามุมมองของเขากับคำๆ นี้เป็นอย่างไร   ซึ่งแน่นอนว่าเขาให้ความสำคัญกับความรู้สึกของหัวใจตัวเอง  มากกว่าการให้ความสำคัญกับเรื่องของ “เวลา” สังเกตจากคำเอ่ยขอแต่งงานของเขา  หรือคำพูดที่เขาพูดกับเคนตอนที่ตอบเคนไปว่าทำไมเขาถึงขอเรดิแต่งงานไวขนาดนี้  โดยเทียบกับเวลาที่นั่งทำข้อสอบแล้วมีเวลาเหลือ  เขามักจะทำอะไรไม่ถูกเสมอ นั่นเพราะเขารู้ตัวเองดีว่าไม่ว่าจะตรวจทานอย่างไร  เขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลงคำตอบที่เขาตอบไปแล้วเด็ดขาด  ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกหวาดกลัวกับการร้องขอกับเรดิครั้งนี้แม้แต่น้อย ส่วนเรดินั้น หลังจากที่เรดิได้ยินคำขอแต่งงานจาก Tada ซัง เธอก็ยังไม่ตอบเขา อาจจะเป็นเพราะเธอยังไม่แน่ใจในบางเรื่องที่ยังค้างติดอยู่ภายในใจ  แต่ที่แน่ๆ คือคำพูดขอแต่งงานของ Tada ซัง มีส่วนสำคัญกับการตัดสินใจและความคิดของเรแน่นอน  จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในช่วงท้ายๆ ว่าคำพูดนั้นทำให้เรื่องเลื่อนไหลไปด้านใด  ซึ่งตรงนี้เรื่องเปิดเอาไว้ให้คนดูสงสัยและติดตามต่อไป ว่าเรดิลังเลใจเรื่องอะไร และกำลังจะตัดสินใจแบบไหน ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเรดิกับเคนก็ยังคงเหมือนเดิม  ขอสรุปความสัมพันธ์ของคู่นี้สักหน่อยหลังจากที่ผ่านมา 8 ตอนแล้ว เราจะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เรดิพยายามที่จะเปิดโอกาสให้กับเคนเสมอ  แล้วก็เฝ้ารอให้เคนเดินเข้ามาหาเพื่อที่จะบอกกับเธอว่า  "เขารักเธอ" แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เคนก็ยังเป็นคนเดิมคือเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า แต่ก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน  ไม่ถอยไปมากกว่านี้  แต่ก็ไม่ได้เข้ามาใกล้มากไปกว่าเดิม  ระยะทางและความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่ก็เลยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปเรื่อยๆ ก็ตามที จุดเปลี่ยนของความรู้สึกของเรก็คือในคืนวันที่เธออายุครบ 20 ปีนั้นเอง  เราเห็นเรบอกกับตัวเองเอาไว้ว่าเธอจะตัดใจจากเคนเสียที  หลังจากปล่อยให้ตัวเธอเองเฝ้ารออย่างนั้นมาเนิ่นนานเหลือเกิน จากนั้นเธอก็เริ่มเปิดใจและรับหัวใจของ Tada ซังที่เขากล้าพอที่จะเอ่ยคำๆ นั้นที่เธอเฝ้ารอมาเนิ่นนานให้เธอฟังอย่างมั่นคง และไม่มีความลังเลใดๆ  (หรือมีหว่า ตานี่ยิ่งดูไม่ค่อยเต็มยังไงพิกล) แม้ว่าขณะนั้นเรจะยังไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษใดๆ  กับ Tada ซังมากนัก  แต่เมื่อเขากล้าพูดคำๆ นั้น (ที่เธอเฝ้ารอมาเนิ่นนาน)  ออกมาให้เธอได้รับรู้  เธอเองก็พร้อมเช่นกันที่จะเปิดโอกาสให้เธอกับเขาได้ลองคบกัน  แต่ระหว่างนั้นสายตาและความรู้สึกที่มีให้กับเคนก็ยังไม่ได้ลอยหายไปไหน  มันยังคงที่อยู่อย่างนั้น ภายใต้ตะกอนที่ตกค้างอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ระหว่างนั้นเราได้เห็นว่าเคนก็ยังเป็นอิตาเคนที่น่าหมั่นใส้เหมือนเดิม ยังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าลึกๆ แล้วจะเจ็บใจ และเสียใจ  แต่เขาก็ยังไม่มีแม้แต่ความกล้าใดๆ ที่จะเดินเข้าไปหาเร  เพื่อที่จะบอกกับเธอว่า "เขารักเธอ" มากมายแค่ไหน ดังนั้นท่ามกลางเวลาที่ผ่านเลยไป  ความรู้สึกไม่แน่ใจในตัวเคนก็ค่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับความมั่นใจที่เธอมีให้กับ Tada ซังที่ยังคงมั่นคงกับเธอเสมอ  แม้ว่าบ่อยครั้งเธออาจจะแสดงออกให้เขารับรู้  ว่าลึกๆ ในใจแล้วเธอมีใครซ่อนอยู่ในนั้น  แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเธอเลย  มีเพียงแค่ความเข้าใจเท่านั้นที่มีให้กับเธอเรื่อยมา ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ระหว่างความมั่นใจที่เธอให้กับเคนโซที่น้อยลง  ทำไมความรู้สึกที่เธอมีให้กับอาจารย์นั้นถึงได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอไม่รู้ตัว และในคืนนั้น  คืนที่เป็นความทรงจำที่ปวดร้าวที่สุดของเคนโซ  ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันคือค่ำคืนที่ปวดร้าวที่สุดสำหรับเรเช่นกัน คืนนั้นเคนมาดักรอพบกับเรที่กำลังอยู่ในระหว่างเดินทางไปพบกับ Tada ซัง โดยที่เคนรู้ดีว่าคืนนี้อาจารย์จะขอเรแต่งงาน  และนั่นหมายความว่านี่คือโอกาสสุดท้ายสำหรับเขาที่จะเปลี่ยนใจเรให้กลับมาหาเขาอีกครั้ง เรเองตอนแรกก็คงแปลกในที่อยู่ดีๆ เคนมาดักพบเธออย่างนั้น  แต่คำพูดแรกของเคนก็ทำให้เรเข้าใจได้ไม่ยากนักว่าทำไมเคนถึงต้องทำเช่นนี้   ... นั่นก็เพราะเคนรู้แล้วนั่นเอง ว่าคืนนี้ Tada จะขอเรแต่งงาน... จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 14:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อรู้เช่นนั้นเธอจึงบอกกับเขาไปตามตรงว่าเธอจะตอบรับคำขอแต่งงานของเขา  ซึ่งเมื่อเคนได้ยินก็รีบเอ่ยขัดไปทันทีด้วยเหตุผลที่ว่า เธอและ Tada ซังยังไม่รู้จักกันดีพอ อย่าตอบรับตำร้องแต่งงานของใครต่อใครง่ายดายอย่างนั้นสิ แค่ปีกว่าๆ เองไม่ใช่เหรอที่เธอกับ Tada ซังเริ่มคบหาดูใจกัน แค่ปีกว่าๆ เธอรู้จัก Tada ซังมากพอที่จะมั่นใจในตัวเขามากมายแค่ไหนกันนักเชียว คำพูดของเคนนั้นเรียกรอยยิ้มบางๆ ของเรให้ฉาบแต้มขึ้นมาใบหน้าได้ไม่ยากนัก ก่อนที่จะพูดกับเคนไปตามตรงว่าเธอเองก็ไม่รู้จัก Tada ซังมากมายอะไรนักหรอก และเธอก็รู้ดีด้วยว่า Tada ซังเอง ก็ไม่ได้รู้จักอะไรเธอมากนักเช่นกัน  แต่สำหรับเธอแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอพร้อมหรือไม่ ที่จะเรียนรู้คนๆ คนนั้นต่อไปหลังจากนี้  สำหรับเธอเอง  เธอต้องการเรียนรู้จักเขาให้มากกว่านี้  เช่นเดียวกับหวังให้เขาได้รู้จักเธอให้มากขึ้นเช่นกัน บทสนทนาตรงนี้ถือเป็นช่วงสำคัญครับ  หาก Read between the line ดีๆ แล้ว  เราจะพบว่าสำหรับเรแล้ว  เวลาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด  คงเพราะเธอเองรู้ดี ว่าถึงแม้จะทุ่มเทเวลามากมายแค่ไหน  เรียนรู้ใครบางคนมากมายเท่าไหร่ก็ตาม   แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรเลย  หากว่าเขาคนนั้นไม่กล้าพอที่เอ่ยความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจออกมาให้เธอได้รับรู้  ดังนั้นวันนี้เธอถึงได้ตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กับคนที่กล้าพอที่จะเอ่ยคำๆ นั้นออกมา  แม้ว่าจะยังไม่รู้จักเขาคนนั้นดีพอก็ตาม   นั่นเพราะเธอเชื่อว่าเธอและเขายังมีเวลาที่จะเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้คำว่า “แต่งงาน” มาเป็นเงื่อนไขสำคัญระหว่างนั้น เธอพร้อมที่จะแต่งงานกับ Tada ซัง และเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น โดยไม่กังวลใจใดๆ เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมา แต่สำหรับเคน  เขาก็ยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอเรพยายามสื่อออกมาให้เขารับรู้อยู่ดี  นั่นเพราะเขายังคงยึดมั่นอยู่ในใจ ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คนสองคนจะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นหมายความว่าคนทั้งสองคนนั้นต้องรู้จักกันมากพอที่จะเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียซึ่งกันและกันแล้วเท่านั้น  เมื่อนั้นแหละ ถึงควรที่จะตัดสินใจรับคำร้องขอแต่งงานของใครสักคน ไม่ใช่แต่งก่อนแล้วไปเรียนรู้กันทีหลังซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ตามมาในอนาคต “How can you marry someone that you don’t even know?” ทำไมเธอถึงตัดสินใจแต่งงานกับใครสักคน ทั้งๆ ที่เธอเองก็ยังไม่รู้จักเขาดีพอล่ะ “decided to get married like that is stupid” ตัดสินใจแต่งงานไปแบบนั้นมันโง่มากรู้ไหม อีกครั้งที่คำพูดของเคนที่เอ่ยออกมา ยังคงให้ความสำคัญจนมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องของเวลาและการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน  คำพูดของเคนดึงเรให้หันหลังกลับมาหาเขาพร้อมกับเสียงถอนใจที่เบาบาง  ไม่นานนักคำพูดที่ติดค้างอยู่ในใจของเธออยู่เนิ่นนานก็ค่อยๆ เลื่อนไหลออกมา “Even though we’ve always been so close to each other, Ken-Zo really doesn’t understand a thing. You don’t understand at all” แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจะผูกผันใกล้ชิดกันมากมายแค่ไหน แต่สุดท้ายเคนเองก็ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย นายไม่เข้าใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คำพูดของเรจบลงพร้อมๆ กับร่างของเธอที่ค่อยๆ เดินห่างออกไปเรื่อยๆ สุดท้ายเคนเองก็ทนไม่ไหว เพราะเขารู้ดีว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะเปลี่ยนใจของเธอ  เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะเป็นไปเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 14:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อรู้ตัวอย่างนั้นเขาจึงค่อยๆ เดินตามเรไปก่อนจะวิ่งไปกอดเรไว้ในอ้อมแขนของเขา   “Please I don’t want you to go” ขอร้องนะ... อย่าไปเลย คำพูดสั้นๆ ของเคนที่เลื่อนหลุดออกไป  ดึงรั้นให้เรได้แต่นิ่งเงียบอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นราวกับเฝ้ารอว่าจะได้ยินอะไรบางอย่างที่เธอเคยเฝ้ารอที่จะได้ยินจากเคนตลอดมา เลื่อนหลุดออกมาจากปากของเขาเสียที   ... แต่แล้วสุดท้ายคำพูดของเคนที่เอ่ยออกมานั่น กลับเป็น ... “Marry me” แต่งงานกับฉันนะ คำพูดที่เลื่อนหลุดออกมานั่นไม่ต่างอะไรกับเข็มเล่มใหญ่ ที่ทิ่มเข้าไปที่ใจกลางหัวใจที่เคยโป่งพองก่อนหน้าของเร สีหน้าและแววตาของเธอหม่นลง  พร้อมกับคำพูดที่สั่นพร่าจากหัวใจ เมื่อคำพูดของเขาไม่ใช่คำพูดที่เธอเฝ้ารอ “Why Why are you saying these things now?” ทำไมล่ะ ทำไมนายพูดมันออกมาตอนนี้ คำพูดนั้นจบลงพร้อมกับภาพของเรที่เอื้อมมือไปคลายอ้อมกอดระหว่างเขาและเธอออกจากกัน อีกครั้งที่คำพูดเหล่านั้นเลื่อนหลุดออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงริน “You’re really don’t understand a thing” “You don’t understand a thing at all” คำพูดสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าของเร ฉุดให้เคนได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่  ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งมองดูภาพขอเรที่เดินห่างออกจากเขาไปเรื่อยๆ  จนลับสายตา ======================================== จากบทบรรยายด้านบนน่าจะพอเข้าใจได้ไม่ยากนะครับ  ว่าทำไมเรถึงได้พูดคำๆ นั้นออกไป เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอรู้สึกตอนนั้น และหวังว่าเคนจะรับรู้และเข้าใจมัน แต่เคนก็ยังเป็นคนเดิมที่ไม่เคยสนใจที่จะรับรู้ความรู้สึกของเรเลยแม้แต่น้อย  เขาสนใจเพียงแค่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น กระทั่งวันนี้วันที่สำคัญที่สุดระหว่างเขาและเธอ เขาก็ยังคงยึดมั่นกับความรู้สึกและสิ่งที่เขาเชื่ออยู่อย่างเคยโดยไม่เปลี่ยนแปลง ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หากว่าภายใต้อ้อมกอดและคำร้องขอให้เธออย่าไปนั้น  มีคำว่า “เขารักเธอ” เลื่อนหลุดออกมา  แต่น่าเสียดายที่เหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้น  พื้นฐานของความคิดที่ไม่เหมือนกัน  คือสิ่งที่ทำให้เรื่องในคืนนั้นจบลงพร้อมกับรอยแผลที่บาดลึกในจิตใจระหว่างคนทั้งคู่ จริงอยู่ที่เคนอาจจะถูก สำหรับความเชื่อของเขาที่ว่าการที่คนสองคนจะรักกัน  จะแต่งงานกัน ย่อมสมควรอย่างยิ่งที่จะใช้เวลาเรียนรู้กันให้นาน  ศึกษากันให้ดี  ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว  ไม่ใช่เพียงแค่ใช้ความรู้สึกตัดสิน แต่ในขณะเดียวกัน  เรที่เธอก็เรียนรู้มาเช่นกัน  ว่าต่อให้ใช้เวลายาวนานเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหากว่าใครคนนั้นไม่กล้าพอที่จะพูดความในใจออกมาให้กับเธอได้รับฟัง ไม่มีใครผิด  ไม่มีใครถูก  มันเป็นเพียงแค่ความไม่เข้าใจระหว่างกันของคนทั้งคุ่เพียงเท่านั้นเอง  และก็จริงอย่างที่เรพูด  เคนโซในคืนนั้นและตลอดเวลาที่รู้จักกันมา  เขาไม่เข้าใจเธอเลย ... จึงไม่แปลกอะไรนักที่คำว่า “Marry me”  ที่เคนพูดออกไปจะไม่มีความหมายใดๆ กับหัวใจของเรเลยแม้แต่น้อย นั่นเพราะคำพูดคำนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการจะฟังจากเขา เธอต้องการฟังคำอื่น  คำที่เธอเฝ้ารอมาเนิ่นนาน  คำพูดเพียงแค่สั้นๆ คำนี้ ... “ฉันรักคุณ” ... “You’re really don’t understand a thing” “You don’t understand a thing at all” จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 14:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คืนนั้นหลังจากเรเดินลับหายไปจากเขา  เคนโซพาตัวเองไปนั่งเงียบๆ เพียงลำพังตรงลานน้ำพุ  เขาหยิบกล่องแหวนที่เขาใช้เงินเดือนๆ แรกทั้งหมดที่ได้มาซื้อแหวนวงนี้  นี่เป็นการซื้อแหวนครั้งแรกของเขา และเขาเองก็ไม่รู้ขนาดนิ้วของเร  ทำให้เขาบอกกับคนขายว่าให้เอาขนาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มี แหวนวงนั้นถูกหยิบออกมาจากกล่อง  ก่อนที่จะเคนจะสวมมันลงไปบนนิ้วของเขา “When I was asking about the ring’s size, because I didn’t want the ring to not fit Rei’s finger, I asked the staff to give me the biggest size possible” “Even on my finger, it’s too loose” ฉากสั้นๆ ฉากนี้แสดงให้เห็นตัวตนของเคนได้เป็นอย่างดี  ว่าเขาเป็นพวกที่ไม่กล้าตัดสินใจ  และเมื่อต้องตัดสินใจก็จะเลือกเส้นทางที่เขารู้สึกว่าปลอดภัยอยู่เสมอ  ไม่ต่างอะไรนักกับการเลือกซื้อแหวนวงนี้ที่เขาเลือกขนาดนิ้วที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  และเมื่อลองสวมมันลงบนนิ้วเขา  มันยังหลวมเกินไปด้วยซ้ำ ประโยคสุดท้ายสื่อให้เห็นถึงผลของการไม่กล้าตัดสินใจครับ  แหวนวงนั้นที่แม้กระทั่งนิ้วของเขายังหลวม นับประสาอะไรกับนิ้วเล็กๆ ของเร   ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่ผลที่ออกมาของการตัดสินใจของเรจะเป็นเช่นนั้น ========================================= ฉากต่อมาตัดมาที่ร้านอาหารที่ Tasa ซัง นัดเรมาพบเพื่อขอแต่งงาน ภาพของ Tada ซังที่นั่งมือสั่นพยายามจะทานอาหารนั้น  เรียกรอยยิ้มออกมาจากเรได้ไม่ยากนัก  เพราะนั่นสื่อให้เธอรับรู้ว่า Tada ซังเองก็ไม่ได้กล้าอะไรมากมายนัก แต่ที่เขาตัดสินใจไปอย่างนั้นเพราะความรู้สึกของเขาเป็นคนบอกให้เขาทำ เขาอาจจะกล้าน้อยกว่าเคนด้วยซ้ำในบางเรื่อง แต่สำหรับเรื่องของเธอเขากลับพยายามข่มความกลัวต่างๆ ที่มีเพื่อที่จะร้องขอให้เธออยู่ข้างๆ เขาตลอดไป เรยิ้มมองดูร่างสูงโปร่งเบื้องหน้าที่แม้กระทั่งขณะนี้มือของเขาทั้งคู่ยังสั่นเทิ้ม  ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่กลั่นกรองออกมาจากหัวใจของเธอให้กับเขาได้รับรู้ “Tada-Sensei I have decided to accept Tada-Sensei’s marriage proposal” อาจารย์ Tada คะ ฉันตัดสินใจแล้วที่จะรับคำขอแต่งงานจากอาจารย์ค่ะ คำพูดนั้นดึงร่างที่ยังได้แต่นิ่งอึ้งเบื้องหน้าให้เต็มไปด้วยความมึนงงกับคำพูดของเธอ  ก่อนที่สุดท้ายใบหน้าของเขาจะอาบอิ่มไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ “I’m going to marry Tada-Sensei” คำพูดของเรที่เอ่ยออกไปไม่ได้เป็นเพราะเธอต้องการประชดใคร  แต่เพราะเธอรู้สึกมั่นใจในตัวของชายหนุ่มเบื้องหน้า ว่าเขาจะสามารถดูแล และเข้าใจเธอได้ดีที่สุด  ดีกว่าใคร แม้ว่าตอนนี้เขาทั้งคู่จะไม่ได้รู้จักกันมากมายเท่าไหร่นักอย่างที่เคนเคยพูดเอาไว้ แต่เธอก็พร้อมที่จะเรียนรู้และเข้าใจเขาให้มากขึ้น โดยร้างไร้ความกังวลใจใดๆ แววตา สีหน้า และรอยยิ้มของเรดิ สื่อให้เราเข้าใจดี ว่าการตัดสินใจครั้งนี้  มันออกมาจากส่วนลึกของหัวใจเธออย่างแน่นอน และนับจากคืนนั้นเรดิก็ไม่เคยเรียกเคน ว่าเคนโซอีกเลย   =========================================== จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 14:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น่าจะตอบคำถามได้เคลียร์มากพอสมควรแล้วนะครับ  สำหรับใครที่สงสัย ค้างคาใจเกี่ยวกับประเด็นข้างต้น  ส่วนใครที่ยังสงสัยอยู่  ก็ฝากคำถามไว้ได้ครับ   แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 50 16:19:15 จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 14:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอความร่วมมือ งดใช้เว็บบอร์ดพันทิป โปรโมท blog http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=webmaster&month=29-10-2007&group=1&gblog=23 ========================== ผมว่า edit เอาลิงค์ Blog ออกดีกว่าครับ เดี๋ยวจะมีปัญหา จากคุณ : music:response - [ 7 พ.ย. 50 15:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดูแล้วเหมือนกันค่ะ น่ารักดีค่ะ แต่เนือยๆไปหน่อย คนเรามักชอบพูดว่าคนอื่นไม่เข้าใจเรา แต่บางที่เราก็ลืมที่จะเข้าใจคนอื่นเขาบ้างเหมือนกัน จากคุณ : Monniva - [ 7 พ.ย. 50 15:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 music:response  - เอาออกแล้วครับ ^^ Monniva - นั่นสิเนอะ  คงเพราะบ่อยครั้งเราชอบที่จะให้คนอื่นเข้าใจเรา  แล้วสนใจความรู้สึกของเรา  จนบ่อยครั้งลืมมองไปว่าเราลืมคิดถึงความรู้สึกของเขาไปหรือเปล่า แต่ในกรณีนี้ผมว่าตาเคนมันก็เกินไปนะ  ก็งี้แหละ พวก ปากดี ขี้เหงา เอาแต่เก็ก  หุๆๆ (วิ่งหนีแม่ยกตายามะพีก่อน) จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 16:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าคุณ Mr.Forever ต้องไปดูตอนจบตอนที่ 11 อีกทีนะครับ " ใครกันแน่ที่ไม่เข้าใจใคร " เรอิ เองก็ไม่ยอมบอกความในใจของตัวเองให้เคนรู้เหมือนกันนะครับ มีแต่เก็บงำเอาไว้ทั้งคู่ ขนาดเคนบอกความในใจตัวเองออกมาแล้ว เรอิ ก็ยังไม่ยอมที่จะเข้าใจใจของตัวเองซักที ว่ารักเคนมากขนาดไหน ผมว่าเรื่องนี้โดยรวมทั้งเรื่อง คือเคนกลับมาทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองที่มีกับเรย์  และเข้าใจจิตใจตัวเองให้ดีขึ้น จนในที่สุดผมว่าเคนทำดีที่สุดแล้ว ที่จะสามารถทำได้ เพียงแต่เรอิต่างหากที่คล้ายๆกับยังไม่ยอมเปิดใจตัวเองซักที และไม่ยอมที่จะเข้าใจเคน เหมือนที่คุณ Monniva พูดหล่ะครับ คนเรามักชอบบอกว่าคนอื่นไม่เข้าใจเรา แต่ตัวเองกลับไม่ยอมที่จะเข้าใจคนอื่นบ้าง ปล. ผมชอบก่อนจบมากๆเลย การที่จะทำให้เรอิเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองคิดแต่ว่าเคนไม่เข้าใจตัวเอง แต่ตัวเรอิเองตะหาก ที่ไม่เข้าใจอะไรเลย แล้วเรอิก็มานึกย้อนความ (คล้ายๆกับว่าตัวเรอิ เองย้อนเวลาด้วย) มันเหมือนกับว่าถ้าเรานึกทบทวนอะไรต่างๆ ให้ดีให้รอบคอบ กับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด แล้วเราก็จะเข้าใจทุกอย่างดีขึ้นเอง จากคุณ : ซักวัน - [ 7 พ.ย. 50 19:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แฮ่... ประเด็นที่ผมอธิบายไม่ได้จะมาชี้ชัดว่าใครผิดใครถูกอะครับ  นั่นเพราะเมื่อคนสองคนที่มีพื้นฐานทางความคิดที่แตกต่างกัน ย่อมมองเห็น เข้าใจ รับรู้ และส่งผลถึงการตัดสินใจที่ไม่เหมือนกัน   เช่นเดียวกันกับคู่นี้ ที่ทั้งเร และ เคน ต่างก็ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองเป็นสำคัญ และคาดหวังจะให้อีกฝ่ายยอมรับและทำตามที่ตัวเองต้องการ และผลที่ตามมาก็อย่างที่เห็นนั่นเองครับ ว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างเป็นอย่างไร จากเหตุการณ์คืนนั้น ทำให้เรมั่นใจมากขึ้นที่จะตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กับคนที่มีพื้นฐานทางความคิดใกล้ๆ กันกับเธอ  ซึ่งก็คือ Tada ซัง  ในขณะที่เคน แม้จะรักเรอิ แต่เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเท่าไหร่เพื่อที่จะได้เธอกลับมาเช่นกัน  ตลอดเวลาเราจะเห็นเคนวิ่งไปวิ่งมาอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะทำให้เขาวิ่งตามความรักที่กำลังลอยหลุดไปจากมือเขาได้สักที  นั่นเพราะต่อให้เขาวิ่งเร็วเท่าไหร่ มากมายแค่ไหน  แต่สุดท้ายเมื่อเขาไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาควรจะทำ  มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นอยู่ดี ดังนั้นทุกอย่างจึงจบลงตามที่ตอนแรกของละครเสนอนั่นเอง  ว่าเรกับ Tada ซังก็แต่งงานกันไป เพราะต่างก็ยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี  จะเห็นว่าเรย์ชอบ Tada ซัง ที่เขาไม่ให้ความสำคัญกับ "เวลา" มากไปกว่า "ความรู้สึกที่มีในใจ"  ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ตรงกันกับสิ่งที่นางเอกต้องการ  เธอก็เลยเลือกที่จะแต่งงานกับเขา มันก็เท่านั้นเอง แต่ในกระทู้นี้ที่อธิบาย  ก็คือผมตอบคำถามที่มีคนถามผมว่า  ทำไมเรถึงบอกว่าเคนไม่เข้าใจเธอ  ซึ่งเหตุผลก็ตามที่ผมเขียนไว้ด้านบนครับ  คือเคนให้ความสำคัญกับคำว่า "เวลา" มากกว่า "ความรู้สึก"  ทำให้เรรู้สึกว่าเคนไม่เข้าใจเธอเลย จนเป็นที่มาของประโยคนั้นที่หลุดออกมานั่นเอง ส่วนจะให้ตอบว่าใครไม่เข้าใจใครกันแน่ ใครผิด ใครถูก  มันก็คงตัดสินไม่ได้หรอกครับ  เพราะในเรื่องของความรู้สึกแล้ว  ทุกคนมีเหตุผลที่จะทำให้ตัวเองถูกอยู่เสมอ  ดังนั้นตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายไม่พร้อมที่จะปรับใจเข้าหากัน  โอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันมันก็น้อยเต็มทีครับ ถ้าคุณเคยดูละครญี่ปุ่นเรื่อง  101 ตื้อรักนายกระจอก  เมื่อสัก 14 - 15 ปีที่แล้ว  จะมีคำพูดหนึ่งของพระเอกที่พูดกับน้องชายของเขาเกี่ยวกับมุมมองความรักที่เขามี "To love Someone means... you have a desire to change together with that person" การรักใครสักคน... นั่นหมายความว่าคุณตัดสินใจแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อมๆ กัน กับเขาคนนั้น นั่นคือต่างฝ่ายต่างปรับตัวเข้าหากันนั้นเอง  แต่นี่คงเป็นมุมมองของความรักจากคนที่สูงวัยกว่าครับ  มันก็เลยจะลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความเข้าใจชีวิตมากกว่าหน่อย   จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 20:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนประเด็นที่ว่าเรก็ไม่ยอมเปิดใจเช่นกันนั้น  ผมกลับเห็นตรงกันข้ามนะครับ เพราะตลอดเวลา เธอให้โอกาสเคนเสมอ เธอรอเขาอยู่ที่เดิมตรงนั้นไม่ได้เปลี่ยนใจไปไหน  รอเพียงแค่เคนจะหันหน้ามาหาเธอ  พร้อมกับพูดกับเธอแค่ว่า ... "ฉันรักคุณ" .... ผมว่าแค่นี้แหละครับ กุญแจที่จะทำให้เคนเดินเข้าไปอยู่กลางหัวใจของเรได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะเห็นว่าสุดท้ายเขาก็พูดมันออกมาจนได้ในวันแต่งงานของเธอ และนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับกุญแจที่พาเขาเดินกลับเข้าไปหาหัวใจเรอีกครั้ง ในส่วนของการกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีตของเคนนั้น  แม้ว่าเขาจะกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง แต่เหมือนกับว่าจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน  แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับ  เพราะสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เคนทำระหว่างนั้น มันก็คือสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้เรรู้สึกในตอนสุดท้ายด้วย ว่าเคนก็พยายามทำดีกับเธอไม่น้อยเหมือนกัน ภาพสไลด์ที่เปลี่ยนไปแต่ละภาพนั้น ก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกันที่ช่วยทำให้ เรตัดสินใจได้ว่าสุดท้ายแล้วคนที่เธอรัก และต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วยนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ... แต่เป็นเคนโซ... คนที่รู้จักเธอดีที่สุด และรักเธอมากที่สุดคนนี้นี่เอง ... ส่วนที่บอกว่าเคนทำได้ดีที่สุดแล้ว  ผมว่ายังไม่ที่สุดอะครับ  แค่พูดสามคำนั้นออกไปก็จบแล้ว  สรุปได้ว่าเคนทำได้ดีแล้ว  แต่ยังไม่ดีมากพอครับ จากคุณ : Mr. Forever - [ 7 พ.ย. 50 20:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนอื่นเลยขอขอบคุณ จขกท.มากๆค่ะ ที่วิเคราะห์ออกมาให้เข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นทำให้เราชอบมากขึ้น ทั้งๆที่เราก็ชอบมันมากๆอยู่แล้ว ก่อนที่จะดูเรื่องนี้อ่านเรื่องย่อแล้วมันก็น่าจะธรรมดาแค่ย้อนเวลาไปตอนม.ปลาย แต่พอดูแล้ว มันกลับไม่ใช่อะ เรื่องนี้ทำให้เราชอบมาก อยากดูต่อไปเรื่อยๆว่าจะทำยังไงต่อ ลุ้นดี จากที่คิดว่าน่าจะจบแบบนี้มั้ง กลับกลายเป็นอีกแบบนึง อิอิ ทั้ง จขกท. ทั้งคุณ Monniva และคุณซักวัน พูดถูกแล้วค่ะ เรอิ รอฟังคำว่า ฉันรักเธอ จากเคนโซ และบอกว่าเคนโซ ไม่เข้าใจอะไรเธอเลย แล้วเธอก็มาคิดได้ ตอนที่เทวดา มาพูดให้ฟัง (จำไม่ได้แล้ว่าเทวดาพูดว่าไร) อิอิ ปล. เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่นในดวงใจของเราเลยอะ เห็นเขาบอกว่ามีทั้งหมด 12 ตอนจริงหรอคะ คุณ Mr.Forever รู้หรือเปล่าอ่า ปล.ของ ปล. ตอนที่ดูตอนนั้นอารมณ์เราประมาณพระเอกเลยอะ ย้อนไปเยอะแล้วกลับมาก็เหมือนเดิม รู้สึกเหนื่อย (แต่ก็เปลี่ยนอะไรทีละนิดซึ่งเราชอบมากๆ) ไม่อยากไปแล้ว ยิ่งฉากที่ร้องไห้ตอนที่เพื่อนๆไปทะเลกันหมด เคนโซร้องไห้อันนั้นเราเศร้าไปกับเขาจริงๆค่ะ (เวอร์ไปปะแต่เป็นแบบนั้นจริงๆอะ) จากคุณ : ดัมมี่อินดี้ - [ 7 พ.ย. 50 23:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนที่ 12 ได้ยินมาว่าจะออกมาพร้อมกับ DVD ชุดพิเศษนะครับ  ไม่มีออกฉายทางทีวีปกติ  เพราะงั้นจะได้ดูได้ก็คงต้องรอให้ดีวีดีทำออกมาขายก่อนอะครับ  แต่เชื่อว่าออกมาเมื่อไหร่คงมีให้โหลดกันอย่างรวดเร็วแน่ๆ  จากนั้นก็ต้องลุ้นว่าจะมีใครแปลไวมากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่าไม่มีปัญหามั้ง เรื่องออกจะดังขนาดนี้ ส่วนเรื่องนี้ ประเด็นสำคัญของโทนเรื่องก็อย่างที่ผมเขียนไว้ใน Review ใน Blog ครับ ประเด็นหลักคือ อย่าให้ความสำคัญกับการย้อนไปแก้ไขอดีต เพราะมันอาจจะมีเงื่อนไขอื่นๆ  มากมายที่ทำให้ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปในแบบที่เราต้องการ สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันเพื่ออนาคต  เพราะนั่นคือสิ่งที่เราทุกคนทำได้ โดยไม่ต้องหวังพึ่งปาฏิหารย์ใดๆ จากใครทั้งสิ้น จากคุณ : Mr. Forever - [ 8 พ.ย. 50 00:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รอดูตอนที่ 12 ต่อไปค่ะ จากคุณ : ดัมมี่อินดี้ - [ 8 พ.ย. 50 08:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยครับ ว่า การที่ เคนโซ ย้อนเวลากลับไป ถึงแม้ว่า จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงปัจจุบันในทันที แต่มันก็มีผลต่อการตัดสินใจ ในปัจจุบัน ตอนจบ ของ เร   ซึ่งถ้าเคนโซไม่ย้อนกลับไป ถึง วันงานเคนโซจะพูดจากใจแค่ไหน ผมว่า เร คงไม่รู้ซึ้งหรอกครับ จากคุณ : jedijoke - [ 9 พ.ย. 50 09:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่าฉากที่ไปตีเบสบอล แล้วร้องไห้ เราก็ร้องเหมือนกัน ฮือๆๆ สงสาร จากคุณ : akikosang - [ 27 พ.ย. 50 18:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ของเราตอนที่เทลงมาบนมือแล้วเห็นเป็นกระดุมสีขาวนี่น้ำตาพร่างพรู จากคุณ : ยะมะพี - [ 21 ม.ค. 51 01:37:37 A:124.121.77.33 X: TicketID:150682 ]