PANTIP.COM : A6084523 ฮัน แทวุง หรือ ฮันด๊กกู ใน "ลิขิตรัก ละลายใจ" ....ทำไม ? ต้องทำร้ายตัวเองขนาดนี้ ไม่ใช่ความผิดของนายซักหน่อย !!!! [วิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 27

คห. 12

คุณจะบอกว่าละครเรื่องนี้สมเหตุสมผลหรือไม่สมเหตุสมผลได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้จักใช้เหตุผลได้เสียก่อน แต่เท่าที่อ่านความเห็นของคุณ ดูเหมือนคุณจะไม่รู้ใช้เหตุใช้ผลเลย

อย่างเรื่องที่คุณบอกว่าละครเรื่องนี้ ถ้าจะให้พระเอกมีความรู้สึกผิดอย่างที่เห็น ก็ควรจะตัดตอนที่จองกิลมีจม.ถึงพระเอกก่อนที่จะไปฆ่าตัวตาย ผมว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้พระเอกยิ่งมีความรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เหมือนกับถ้าพระเอกจะเข้าใจไปเลยว่าจองกิลมันนิสัยแย่จริงๆ คบไม่ได้ แค่เพื่อนชนะตัวเอง ก็ต้องโวยวายไม่ยอมแพ้ซะงั้น อย่างนี้ ถ้าจองกิลไปฆ่าตัวตายซะ พระเอกก็คงจะไม่รู้สึกเสียใจมากนัก แต่เพราะการที่จองกิลมีจม.ถึงพระเอกว่าขอโทษที่ทำไม่ดีลงไป มันยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นแก่พระเอกมากขึ้นไปอีกที่เข้าใจเพื่อนผิดไป มันก็เหมือนกับเวลาที่เราด่าใครซักคนโดยที่เราเข้าใจว่าเค้าเป็นคนผิดจริงๆ เราจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเรามาพบทีหลังว่าเราเข้าใจเค้าผิด เราจะนึกเสียใจตัวเองทันทีว่าไม่น่าเลย ตรู

ฉะนั้น จดหมายฉบับนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ตอกย้ำให้พระเอกรู้สึกผิดและเสียใจต่อเพื่อน และก็ช่วยทำให้คนดูเข้าใจความรักระหว่างเพื่อน 2 คนนี้ว่าเป็นสิ่งที่ตัดกันไม่ขาดจริงๆ และสิ่งที่พูดรุนแรงไปนั้น ก็เป็นแค่อารมณ์เท่านั้น แต่เพื่อนสองคนนี้ก็ยังทิ้งกันไม่ลง และทำให้คนดูไม่โทษทั้งจองกิลและพระเอก เพราะไม่งั้น คนดูก็จะนึกตำหนิจองกิลว่าทำไมนิสัยแย่ขนาดนั้น สมควรไปตายซะก็ดี แต่เมื่อมีจม.ฉบับนี้ ทำให้คนดูยกโทษให้จองกิลทันที

และอีกเรื่องนึงที่แสดงถึงความไม่รู้จักใช้เหตุใช้ผลของคุณก็คือที่คุณบอกว่า ตอนที่พระเอกบอกว่า "ฉันไม่อยากมีเพื่อนอย่างนาย " ทำไมพระเอกพูดกับจองกิลแค่ 2 คน แต่ทำไมคนอื่นถึงได้รู้หรือคิดว่าจองกิลตายเพราะคำพูดของพระเอก >>> ก็โถ ทำไมคุณไม่คิดมั่งว่าพระเอกที่กำลังเสียอกเสียใจร้องไห้รำพันที่เพื่อนรักตายขนาดนั้น จะไม่พร่ำรำพันออกมาว่า "จองกิลตายเพราะชั้นเอง จองกิลตายเพราะชั้นเอง เพราะชั้นพูดแรงกับจองกิลเอง ชั้นไม่ควรเลย" คนอื่นที่ได้ยิน ก็ปลอบพระเอกว่าอย่าคิดมาก แต่มีบางคนที่เอาคำพูดนี้ไปขยายต่อจนรู้ไปถึงญาติหรือลูกน้องของจองกิล มันมีหลายทางที่จะรู้ไปถึงได้นะ ลองจินตนาการต่อเองสิครับ

การดูละครหรือหนังนั้น เราต้องหัดจินตนาการหรือต่อเติมตรรกะในส่วนที่ขาดหายไป เพราะหนังหรือละครไม่จำเป็นต้องบอกเราไปทุกเรื่องหรอกครับ และที่สำคัญ จะสมเหตุสมผลหรือไม่นั้น เรายังต้องดูค่านิยมหรือสภาพสังคมนั้นๆ ด้วย จะเอาทัศนคติหรือค่านิยมของสังคมเราเองไปวัดความสมเหตุสมผลของหนังที่มาจากประเทศอื่นไม่ได้เสมอไปหรอกครับ อย่างเคยมีละครเกาหลีเรื่องหนึ่งที่พ่อนางเอกทิ้งลูกทิ้งเมียแล้วไปแต่งงานใหม่ ปล่อยให้แม่นางเอกเลี้ยงดูลูกสาวจนโต เรื่องการทิ้งลูกทิ้งเมียเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากในสังคมเกาหลีนะครับ ฉะนั้น เมื่อเรื่องนี้รู้แพร่หลายออกไป จึงทำให้พ่อนางเอกถูกผู้คนรังเกียจ ตรงนี้ ถ้าเราเอาค่านิยมของสังคมไทยไปวัด แล้วจะบอกว่าไม่สมเหตุสมผลเลย อย่างนี้คงไม่ถูก เพราะค่านิยมของไทยที่มองเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายจะมีเมียน้อยหรือจะทิ้งลูกเมียไปมีเมียใหม่ สังคมบ้านเรามองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ที่โน่นไม่ใช่ ฉะนั้น จะรีบไปด่วนสรุปไม่ได้ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่

จากคุณ : ฯลฯ - [ 2 ธ.ค. 50 21:51:42 A:58.9.77.241 X: TicketID:160054 ]