CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "The Warlords" ... คำสาบานก็แค่ลมปาก ความเป็นพี่้น้องก็เพียงหน้าที่

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (12 คน)
      เกรด B -> 6-8 คะแนน (9 คน)
      เกรด C -> 3-5 คะแนน (1 คน)
      เกรด D -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 22 คน

     54.55%
     40.91%
     4.55%
     0.00%


    ถ้าจะให้ผมคิดถึงเรื่องราวของพี่น้องร่วมสาบาน ที่มีความเกี่ยวพันกับทางตำนานประวัติศาสตร์ เรื่องแรกที่ผมจะนึกถึงก็ต้องเป็น "สามก๊ก"

    อย่างที่หลายๆคน เคยคุ้นกันดีว่า สามก๊ก มีตัวละครนำหลักๆ 3 คน (โดยยังไม่รวมตัวละครหลักไม่หลักที่ไม่นำเรื่องอีกร่วมเป็นร้อย...จำไม่หวาดไม่ไหว) คือ 'เล่าปี่' 'กวนอู' และ 'เตียวหุย' ...และทั้งสามคนนี้ ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวดองทางสายเลือด แต่ต้องมาเป็นพี่น้องร่วมกัน ด้วยเหตุผลที่จะทำให้ทั้งสามได้ร่วมต่อสู้เพื่อรวมความเป็นใหญ่ในแผ่นดินจีนด้วยกัน

    การมาเป็นพี่น้อง ของพวกเขา ต้องแลกด้วยความลำบาก นานาอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟัน ...ซึ่งก็พิสูจน์ได้ว่าการร่วมเอ่ยคำสาบานต่อฟ้าดิน เป็นสิ่งที่ยึดมั่นถือสัตย์ในตัวคนทั้งสาม ที่อาจจะมีเบาะแว้งเป็นครั้งคราว สุดท้ายก็รวมกำลังสมอง และสองมือ จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้อยู่ในแทบเท้าของพวกเขาในที่สุด

    แต่กับ เรื่องราวของพี่น้องร่วมสาบาน ในอีกหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งของจีนเช่นกัน กับไม่ใช่เรื่องราวที่นำพามาซึ่งความสงบสุขของแผ่นดิน ทั้งยังเป็นโศกนาฏกรรมในตอนจบที่ทำให้คำว่าพี่น้อง เป็นเพียงแค่ลมปาก ที่พูดออกมาแล้วก็พัดผ่านไปไม่หวนกลับมาอีก

    "The Warlords" ...คือ เรื่องราวของพี่น้องร่วมสาบาน เรื่องนั้น ที่ได้หยิบเอาตำนานบทกวี "Blood Brothers" มาสร้างเป็นภาพยนตร์ทุนอภิยิ่งใหญ่ โดยฝีมือของผู้กำกับและนักเขียนบทคุณภาพคับจอ อย่าง "ปีเตอร์ ชาน" ที่เคยทำให้เราซาบซึ้งประทับใจกับ 'เถียนมีมี่', 'Perhaps Love' และหลอนสุดๆกับหนึ่งในตอนของ 'Three : อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต' ที่ดีที่สุดของหนังสั้นสามเรื่องในหนังยาวที่ว่าถึงเรื่องผีๆ ของเอเชีย

    The Warlords ...เริ่มเรื่องด้วย จุดจบของสงครามๆหนึ่ง ที่ทำให้เหล่าทหารในทัพของราชวงศ์ ต้องแลกชีวิตกับมัจจุราชไปกันจนหมดสิ้น เหลือเพียงแต่ แม่ทัพ "หม่าซิงอี้" ที่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ...แม่ทัพหม่า โซซัดโซเซหนีตายมาจนได้ถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ยากจนข้นแค้นสุดๆ ถึงขนาดต้องตั้งกองทัพเพื่อปล้นสดมภ์ของเหล่าทหารร่วมชาติ เพื่อมาประทังชีวิตไปวันๆ ...กองทัพที่ว่านี้ นำขบวนการโดย สองพี่น้อง "เฉาอี้หู" และ "จางเหวินเฉียง"

    แต่เมื่อการปล้นครั้งหนึ่งของพวกเขา ต้องพบกับการเอาคืนอันน่าชี้ช้ำเจ็บปวด ...หม่าซิงอี้ จึงออกความเห็นให้พวกเขาไปร่วมทัพกับราชวงศ์เสียดีกว่า การมาใช้ชีวิตแบบขัดสนเช่นนี้ ...เฉาอี้หู และ จางเหวินเฉียง เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่พวกเขาทั้งสองก็ต้องการคำยืนยันที่หนักแน่นจากหม่าซิงอี้ ด้วยการขอให้เขาร่วมสาบานกับฟ้าดินว่าจะเป็นพี่้น้องกับพวกเขาไปตราบจนวันสิ้นฟ้าดินสลาย

    เมื่อทั้งสามได้ร่วมสาบานกัน และนำทัพชาวบ้านไปร่วมสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ ...การต่อสู้เพื่อแลกกับเลือด น้ำตา และความไว้ใจ ก็เริ่มต้นขึ้น

    เลือด... กองทัพที่มีหม่าซิงอี้เป็นแม่ทัพ เฉาอี้หูเป็นกำลังสมอง และจางเหวินเฉียงเป็นกองหน้าท้าประจัญ สามารถรวมใจ สละเลือด เพื่อเอาชนะกองกำลังอื่นๆ ได้อย่างราบคาบ นำมาซึ่งอำนาจที่ยิ่งพูนเพิ่มทวีคูณเป็นบำเหน็จจากราชวงศ์เบื้องบน ...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมีอำนาจ ความเหลิงของหม่าซิงอี้ก็มีเพิ่มมากขึ้นไปด้วย และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ีความเป็นพี่น้อง ต้องมีรอยร้าวเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

    น้ำตา... ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น กับอีกหนึ่งความจริงที่เฉาอี้หู ไม่มีทางจะได้ล่วงรู้ ก็คือ การที่ หม่าซิงอี้ แอบลักลอบได้เสียกับภรรยาของเขา "อาเหลียน" ...และอาเหลียนก็ยังยอมรับกับความเป็นจริงว่าเธอก็รักหม่าซิงอี้หมดหัวใจ ยิ่งไปกว่า เฉาอี้หู ที่เธอทำได้แค่สนองตอบบุญคุณ แต่ไม่เคยลึกซึ้งหัวใจอะไรกับเขาเลย

    ความไว้ใจ... เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างอันเลวร้ายที่ล้อมรอบความเป็นพี่น้องของเขาไว้ กำลังย่างตราทัพมาบ่อนทำลายใกล้ชิดเรื่อยๆ ...หัวใจที่เคยว่าจะซื่อสัตย์ ยึดถือในความสัมพันธ์ไว้เช่นปากที่เอื้อนเอ่ยคำสาบาน ก็กลายเป็นเพียงลม เป็นอากาศที่ไม่สามารถสัมผัสได้ ...และความรักของ หม่าซิงอี้ ที่เคยมีให้กับน้องทั้งสอง มันก็เป็นเพียงหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติตาม เพียงเพื่อจะเอามันมาเป็นบันไดก้าวไปสู่ความสำเร็จสูงสุดในฐานะเจ้าเมืองที่คนของราชวงศ์จะไว้วางใจ

    The Warlords ...มีพลอตเรื่องที่ยิ่งใหญ่ มีประเด็นที่สะเทือนใจ และมีความเป็นดรามาที่สามารถบีบบังคับอารมณ์คนดูให้ต้องคล้อยตามไปกับสิ่งที่หนังแสดงออก ...เมื่อทั้งสามสิ่ง มาอยู่ในมือ ของผู้กำกับที่ฝีมือเยี่ยมอีกคนหนึ่งของเอเชีย ก็กลายเป็นเรื่องที่น่าจะคาดหวังกับความประทับใจได้เป็นแน่ ...แล้วยิ่งได้นักแสดง 3 ซูเปอร์สตาร์ระดับแพลทินัมของเอเชียมาร่วมงานด้วย ก็ยิ่งอยากเชื่อว่ามันต้องให้อะไรที่ตรึงหัวใจเราๆไว้กับภาพพจน์ของ "เจ็ท ลี", "หลิวเต๋อหัว" และ "ทาเคชิ คาเนชิโร่" ที่อยู่ร่วมเป็นพี่น้องบนจอหนังด้วยกัน

    แต่เมื่อผมได้ดูหนังฉบับเต็มๆกับตาทั้งสอง หนึ่งสมอง และหนึ่งหัวใจ ควบรวมหน้าที่รับรู้กันไป ...ผมกลับยังรู้สึกไม่อิ่มในสิ่งที่ The Warlords มีตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ออกจะผิดหวังนิดๆ ที่ผลงานของ ปีเตอร์ ชาน ในหนนี้ ทำเอาไว้ได้ดีในทุกฉากแล้ว แต่มันก็ยังไม่ถึงจุดพีคของอารมณ์สักที

    เรื่องราวของหนังจะว่ากั้กเก็บไว้ไม่บอกรายละเอียดกันจนหมด ก็ไม่ได้รู้สึกถึงขนาดที่ทำให้อารมณ์สะดุดอะไรหรอก ...แต่ตัวหนังที่รวมเอาความเป็นดรามา และหนังสงครามเข้าไว้ด้วยกัน กลับไม่ให้ความรู้สึกที่ไปได้สุดทางของแต่ละอารมณ์เอาไว้ได้ ...ฉากสงครามที่ดูยิ่งใหญ่ และทำได้สมจริง แต่ความรู้สึกของผมกลับไม่ได้ตื่นเต้นลุ้นระทึกเท่าที่มันควรจะเป็นไปตามความกดดัน ...เรื่องราวดรามา อาจสามารถกระชากน้ำตาผมร่วงได้แบบนันสตอปจากฉากหนึ่งต่อเนื่องไปอีกฉากหนึ่งไปยังฉากถัดไป ประหนึ่งเขื่อนได้แตกพัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็แค่มีรอยร้าวในหัวใจ ที่ไม่ได้แตกสลายไปตามอารมณ์ตัวละครที่บิวต์เท่าไหร่ ก็ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ผมได้

    ซึ่งอย่างหนึ่ง ที่ต้องโทษไปยังบท ก็คือ การสร้างความผูกพันของตัวละครกับคนดูที่ยังมีอยู่น้อย จนน่าแปลกใจว่าทำไม ปีเตอร์ ชาน ถึงได้หลงลืมเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ไปได้ ...เพราะเมื่อเทียบกับหนังเรื่องก่อนๆแล้ว เขายังจะทำให้เรารู้สึกเชื่อและให้ความไว้ใจไปกับตัวละครที่เขาบรรจงเขียนได้อย่างเต็มที่ มากกว่านี้ ...โดยไม่อาจจะสรูปว่าเกี่ยวข้องกับสเกลงานที่ใหญ่ขึ้น ต้องคุมเรื่องราวที่ยากขึ้น จึงทำให้ต้องยอมละเลยความละเอียดบางอย่างที่สำคัญน้อยกว่าไปหรือเปล่า แต่กับแง่ความรู้สึกที่ผมมีต่อหนัง ปีเตอร์ ชาน เรื่องล่าสุดของเขายังให้อะไรที่น้อยกว่าเรื่องก่อนๆ

    "เจ็ท ลี" พลิกมาเล่นร้ายอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นผู้ร้ายที่มีความเป็นคนอยู่สูง(กว่าในหนังแอ๊คชั่นหลายๆเรื่องของเขา) ซึ่งตัวเขาก็เล่นได้ถึง ให้ความรู้สึกเชื่อในความชั่วที่มีความอ่อนไหวได้อยู่ ..."หลิวเต๋อหัว" ก็ยังคงเยี่ยมกับความเจ้าบทบาทของเขา แม้กระทั่งภาพความเป็นคนดีที่อาจไม่ได้เห็นบ่อยๆในหนังหลายๆเรื่อง ช่วงหลายปีมานี้ ที่ทำให้เราพร้อมจะลืมภาพเก่าๆไปได้เสมอ ..."ทาเคชิ คาเนชิโร่" พัฒนาตัวเองให้เทียบฝีมือปะบ่ากับหลิวเต๋อหัว ได้อย่างสูสี เมื่อไปเทียบกับตอนที่พวกเขาแสดง "House of Flying Daggers" ด้วยกัน แล้วก็เห็นได้ชัดว่า ในวันนี้เขาได้กลายไปเป็นอีกหนึ่งดาราคุณภาพที่มีความดีมากไปกว่าหน้าตาอันหล่อเหลาใสกิ๊กโดนใจสาวแท้สาวเทียม

    แต่ก็ด้วยความผูกพันต่อเรื่องราว และตัวละครที่มีอยู่น้อยนั่นเอง จึงส่งผลโดยตรงๆไปถึงการแสดงของ 3 ซูเปอร์สตาร์ ที่ควรจะทรงพลัง ก็ได้กลายเป็นการบั่นทอนพลังลงไปอย่างน่าเสียดาย ...แม้อาจจะทำให้ผมรู้สึกเศร้าสะเทือนใจอินในอารมณ์ได้โดนลูกตาขนาดไหน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นไม่มีใครที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ ...รวมไปถึงอึกหนึ่งตัวละครหญิงหนึ่งเดียวในหนังมาดแมน "ซูจิงเหล่ย" ก็ไม่ได้ช็อกอารมณ์ผมเท่าไหร่ในฉากสุดท้ายของเธอ

    มาถึงกระนี้แล้ว ผมก็ไม่ได้อยากหมายความว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่น่าผิดหวัง ...ถึงแม้ว่าอารมณ์ความรู้สึกจะไม่สุดๆเช่นที่ใจผมคาดหวัง แต่ในภาพรวมแล้ว The Warlords ก็ยังเป็นหนังที่ดี และน่าดู สำหรับคนที่ชอบพลอตเรื่องที่ยิ่งใหญ่ มีประเด็นที่สะเทือนใจ และก็เป็นหนังดรามาที่ให้อะไรกับคนดูมากไปกว่าน้ำตา ...สุดท้ายแล้วคุณจะประทับใจ หรือไม่ประทับใจก็ต้องขึ้นอยู่กับความคาดหวังของคุณที่จะมีต่อสิ่งที่คุณอยากได้เห็นในหนังเรื่องนี้แล้วล่ะครับ

    "The Warlords" ...อีกหนึ่งหนังเอเชียคุณภาพที่ยิ่งใหญ่ ให้ความรู้สึกขึงขัง ที่อาจยังไม่ถึงขั้นเติมเต็มอารมณ์ความลึกซึ้งในจุดสูงสุดได้เต็มที่ ...แต่อย่างน้อยก็เป็นหนังที่มีอะไรให้ึคุณได้ซึมซับ และรู้สึกได้ว่ามันเป็นหนังทึ่คุ้มค่าต่อการได้ดูด้วยสองตา หนึ่งสมอง และหนึ่งหัวใจ

    เกรด B+

    ส่วนที่ขีดเส้นใต้เน้นข้อความ... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี-ดูด้อยในหนังครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดี มีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลงความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของ จขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน...

    แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 50 13:33:15

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 21 ธ.ค. 50 13:17:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com