ความคิดเห็นที่ 12
3. ANNA AND THE KING สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ และ โจดี้ ฟอสเตอร์ สร้างโดย บริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ ซึ่งได้เตรียมเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยพร้อมกับเรื่อง The Beach ที่ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ นำแสดง แต่เนื่องจากทางคณะอนุกรรมการพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยได้พิจารณาแล้วเห็นชอบเฉพาะเรื่อง The Beach ก็เลยทำให้ กองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Anna and the King ต้องไปถ่ายทำในประเทศมาเลเซียแทน
หลังจากนั้นก็มีข่าวคราวซึ่งรายงานจากทีมงานชาวไทยที่อยู่ในกองถ่ายภาพยนตร์ ออกมาเปิดเผยด้วยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการบิดเบือนข้อมูลอยู่หลายตอน เช่น ฉากตอนยกทัพไปพม่า แล้วไปออกด่านทางจังหวัดหนองคาย ซึ่งความจริงเป็นไปไม่ได้ เพราะหนองคายคือทางไปประเทศลาว แต่พวกเขาบอกว่า ชอบเสียงคำว่า หนองคาย ฟังแล้วเพราะมาก ออกเสียงแล้วเพราะกว่าจังหวัดอื่น ๆ ของเรา แล้วเรื่องนี้จะมีแค่คนไทย 60 ล้านคนเท่านั้นที่รู้ คนดูคนอื่น ๆ ไม่รู้หรอก
ด้านนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าอนุญาตให้ฉายเนื้อหาสาระในเรื่องนี้ จะต้องตัดออกกว่า 33 ตอน มีดังนี้
(1) เปิดเรื่องกล้องซูมให้เห็นประตูพระบรมมหาราชวังที่เป็นประตูทองทั้งหมด แต่ความจริงประตูทาสีแดง
(2) แอนนากับลูกนั่งรถลากจากท่าเรือมาที่พระบรมมหาราชวัง ผ่านมาที่โบสถ์วัดพระแก้ว ซึ่งตามปกติแม้แต่พระมหากษัตริย์เองก็ไม่สามารถที่จะนั่งรถผ่านหน้าพระอุโบสถได้
(3) ในเรื่องพยายามบอกว่า วัดพระแก้วมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่
(4) คำพูดของหลุยส์ที่พักในตำหนักค่อนข้างจะดูถูกรัชกาลที่ 4 โดยการนำเอาไปเปรียบเทียบกับพ่อ
(5) รัชกาลที่ 4 เปิดประตูให้แหม่มแอนนา ซึ่งตามธรรมเนียมในวังต้องมีเจ้าหน้าที่คอยเปิดให้
(6) จำนวนพระโอรสกับพระราชธิดาในเรื่องไม่ตรงกับความเป็นจริง ในเรื่องมี 68 คน ความจริงมี 82 พระองค์ และเจ้าจอมมารดาเที่ยง ถูกทำให้ด้อยกว่าแอนนาตลอดเรื่อง รวมทั้งพระโอรส พระธิดา ดูต่ำกว่าแอนนา
(7) การทะเลาะกันระหว่างเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์กับหลุยส์ บุตรของแอนนา ขณะชกต่อย แอนนากำลังอธิบายรูปแผนที่ประเทศสยาม รูปนั้นคือพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 4 (ภาพหน้าของโจวเหวินฟะ ; จขคห.) พอเห็นลูกทะเลาะกัน แอนนาก็โยนรูปทิ้ง
(8) เจ้าจอมทับทิมถวายตัวในห้องบรรทม ฉากนี้มีพระพุทธรูปที่มีการจุดเทียนบูชาอยู่ เหมือนให้พระพุทธรูปมองดูการกระทำ
(9) พระสงฆ์กวาดลานหน้าปราสาทเทพบิดร
(10) ฉากการว่าราชการระหว่างรัชกาลที่ 4 กับขุนนาง มีพระปิ่นเกล้า , อารัก แต่ปรากฏว่าที่ฉากหลังมีบุ้งกี๋ วางอยู่หลังกำแพงแก้ว
(11) แหม่มแอนนากำลังสอนให้ข้าราชการข้างในรู้จักวิธีรินกาแฟ เทไวน์
(12) แอนนาไปหาเจ้าจอมทับทิมที่อยู่ในสภาพห่มจีวรเป็นพระภิกษุ โกนผม แต่ไม่โกนคิ้ว มีข้อความที่ว่า ความรักทำให้ต้องแปลงเป็นเพศบรรพชิต ตามพระปลัดไปอยู่ที่วัด
(13) รัชกาลที่ 4 ปัดพระมหาพิชัยมงกุฎล้ม
(14) รัชกาลที่ 4 พาแอนนานั่งเรืออนัตนาคราช (สังเกตที่หัวเรือจะไม่ใช่ ; จขคห.) มีการสบตาเหมือนพระเอกส่งนางเอก
(15) การเสด็จประพาสทำพิธีพืชมงคลให้สนมนั่งบนรถพร้อมแอนนา รัชกาลที่ 4 ทรงช้างหยิบซิการ์มาสูบเหมือนหนังจีน มีบทสนทนา รัชกาลที่ 4 ชักชวนให้หลุยส์สูบบุหรี่ จึงถูกแอนนาต่อว่า
(16) ฉากที่อารักยิงพระปิ่นเกล้า และบอกจะโค่นล้มราชวงศ์
(17) การแสดงโขน แต่ดนตรีจีน
(18) ประหารชีวิต ตัดคอเจ้าจอมทับทิมหน้าโบสถ์วัดพระแก้ว
(19) รัชกาลที่ 4 ขอโทษแอนนาต่อหน้าขุนนาง
(20) พระปิ่นเกล้าถูกยิงที่หน้าผาก เลือดกระจาย
(21) เอาคนชาติอื่นแต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์ และพระพูดภาษาไทยไม่ชัด
(22) บทสนทนาบางบทไม่สุภาพ เช่น รัชกาลที่ 5 พูดถึงรัชกาลที่ 4 ต้องใช้ทูลกระหม่อม แต่ในเรื่องใช้เสด็จพ่อเหมือนกับลิเก ฯลฯ (มีอีกหลายฉากที่มีลักษณะคล้าย ๆ กัน ; จขคห.)
(23) แสดงให้เห็นถึงรัชกาลที่ 4 มีความอ่อนแอ ต้องตามแอนนาตลอด ใครทำอะไรต้องผ่านแอนนา
(24) บทของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สมุหกลาโหมให้ความเคารพแอนนามากเป็นพิเศษ แม้แต่รัชกาลที่ 5 ตอนเด็ก รวมทั้งเจ้าจอมทั้งหลาย
(25) แอนนาสามารถอยู่ร่วมใต้กลดเดียวกันกับของรัชกาลที่ 4
(26) แอนนานั่งอยู่กับรัชกาลที่ 4 มีเจ้าพนักงานมาเชิญโบกให้แอนนาเหมือนเป็นกษัตริย์
(27) อารัก พูดว่า ราชวงศ์นี้อ่อนแอ สู้พระเจ้าตากสินไม่ได้ พระเจ้าตากสินเข้มแข็งมากแต่ถูกทรยศ และโจวเหวินฟะก็พูดว่า ทรยศจริง ๆ
(28) รัชกาลที่ 4 ผูกระเบิดที่สะพาน ต่อสายชนวนเอง แล้วห้อยตัวออกมาซึ่งความจริงกษัตริย์อย่างนั้นไม่ได้ (ฉากนี้ คล้ายกับตอนใกล้จบของภาพยนตร์เรื่อง สะพานข้ามแม่น้ำแคว หรือ The Bridge on The River Kwai ของผู้กำกับเดวิด ลีน ปี คศ. 1957 ; จขคห.)
(29) แอนนาพูดถึงสามีตัวเอง ตอนมาลารัชกาลที่ 4 ว่า ตอนนี้ไม่คิดถึงสามีตัวเอง คล้าย ๆ กับมารักท่านแล้ว และรัชกาลที่ 4 พูดว่า ทำไมเราถึงไม่ยอมให้เจ้าเป็นมเหสีตั้งนานแล้ว
(30) รัชกาลที่ 4 โอบกอดแอนนา พร้อมเอาหน้าผากมาแนบที่แก้ม ต่อหน้าสาธารณชน
(31) รัชกาลที่ 5 พูดว่า แผ่นดินสยามต้องขอบคุณแอนนา ที่ทำให้รอดพ้นจากอาณานิคม
(32) รัชกาลที่ 4 จูบปากพระราชธิดาต่อหน้าทูต
(33) ภาพรวมของหนังมีการกล่าวยกย่องแอนนาว่า ถ้าไม่มีแอนนา ประเทศสยามอาจตกเป็นอาณานิคมของประเทศอื่น
ข้อความทั้งหมดนี้ บางส่วนคัดลอกมาจาก หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Anna and the King ในประเทศไทย หลังจากคณะอนุกรรมการพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย มีมติไม่ให้ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศไทย และหนังสือฟลิกส์ ฉบับที่ 136 วางจำหน่ายระหว่างวันที่ 5 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ได้นำความในหนังสือดังกล่าวมาตีพิมพ์อีกครั้งในคอลัมน์ Thai Flicks Issue โดย วิกฤษ ศิษย์พยายาม
บทสรุปส่งท้ายครับ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง The King and I ซึ่งสร้างในปีเดียวกัน แต่บริษัทผู้สร้างเป็นของ วอร์เนอร์ ครับ มีแผ่นดีวีดี โซน 1 ออกมานานแล้ว แต่ จขคห. ไม่มีข้อมูลครับ อีกอย่างหนึ่งก็คือ หนังสือการ์ตูน (Comic) ที่กล่าวถึงเรื่อง Anna and the King of Siam เหมือนกัน เป็นตอนหนึ่งในคอลัมน์ของหนังสือ ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งผมซื้อมาจากร้านขายหนังสือมือสองแถวจตุจักร เอามาอ่านร่วมกับ Anna and the King of Siam ที่เขียนขึ้นโดยตัว Anna เอง เป็นฉบับภาษาอังกฤษครับ
จากคุณ :
หนามเตยแมน (หนามเตยแมน)
- [
25 ธ.ค. 50 13:07:52
]
|
|
|