CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "National Treasure : Book of Secrets" ... การตามล่าหาความจริง (หนที่ 2) ที่ไม่ได้อิงนิยาย

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (11 คน)
      เกรด B -> 6-8 คะแนน (7 คน)
      เกรด C -> 3-5 คะแนน (2 คน)
      เกรด D -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 20 คน

     55.00%
     35.00%
     10.00%
     0.00%


    ในช่วงเวลาที่หนังสือนิยายในแนวสืบความลับจับความจริงจากประวัติศาสตร์กำลังดังเป็นพลุแตก ...ในปี 2004 ได้มีการให้กำเนิดหนังขึ้นมาเรื่องหนึ่ง ที่มิทราบว่าได้แรงบันดาลใจจากอะไรมาหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ "National Treasure" ก็ค่อนข้างเข้าข่ายได้รับการค่อนขอดว่ากะจะเจริญรอยตามความดังของนิยาย แดน บราวน์ "The Da Vinci Code" กันนะซี้

    แต่เมื่อเอาตัว NT ไปเปรียบเทียบกันกับเวอร์ชั่นหนังที่มีตามหลังมาของ DVC (ซึ่งไปนำนิยายฉบับกึ่งสำเร็จรูปมาปรุงรสให้กลายเป็นหนังสำเร็จรูปอีกทีหนึ่ง) แล้ว... ก็คงจะมีคนเห็นด้วยกับผมเสียส่วนใหญ่ว่า ของที่มาก่อนกลับยังดูสนุก ให้อารมณ์ที่เพลิดเพลินกว่ากันอยู่เยอะเลย

    ในแง่ที่หนึ่ง อาจจะเกี่ยวกับที่ NT เป็นหนังที่มีเบื้องหลังเป็นยอดผู้อำนวยการสร้าง "เจอร์รี่ บรั้คไฮเมอร์" ที่ชอบทำหนังขายบันเทิงอย่างถึงความสนุก และงานของเขาก็ไม่เคยมีเรื่องไหนที่เข้าข่ายน่าเบื่อ ถึงแม้หนังบางเรื่องของเขาอาจจะมีบทที่อ่อนเหตุผล ยันจนถึงเรื่องราวเยิ่นเย้อยืดเยื้อเกินไปบ้าง ก็พอจะวางอคติให้อภัยได้อยู่

    ในอีกแง่หนึ่ง มันก็เกี่ยวกับการที่ NT ไม่ได้มีมาตรฐานใดๆมาเป็นตัวกำหนด ให้ต้องซีเรียสจำเป็นยึดติดไปกับข้อแม้อันมากมายหลากหลายประการ เฉกเช่นที่ "รอน ฮาวเวิร์ด" พยายามจะทำ DVC ให้ออกมาสนุกแบบหนัง แต่คนที่เคยได้อ่านหนังสือโดยส่วนมาก จะพบว่า มันดูน่าเบื่อ และพลาดนู้นพลาดนี่ที่ตัวหนังสือมี แต่ตัวหนังไม่มีอีกเยอะแยะตาแปะไก่

    แต่อันด้วยประการฉะนี้ที่ บรั้คไฮเมอร์ ได้ตกลงปลงใจจะสร้าง National Treasure ภาคต่อออกมาอีก ...มิฉะนั้น จึงจำเป็นที่ ภาคแรก ของมันจะต้องถูกยกขึ้น กลายมาเป็นตัวกำหนดมาตรฐาน ของหนังในภาคสองที่ให้ชื่อตอนว่า "Book of Secrets" อย่างเลี่ยงไม่ได้

    เรื่องราวของ "Book of Secrets" ...เริ่มต้นมาใน ช่วงเวลาที่ความโด่งดังมีชื่อเสียงของ "เบน เกตส์" จากวีรกรรมที่ก่อเอาไว้ในภาคที่แล้ว ได้โดนบ่อนทำลายจากคนไม่หวังดีใครคนหนึ่ง ซึ่งเอาข้อมูลจากเสี้ยวหนึ่งในบทบันทึกของ 'จอห์น วิลค์ส บู๊ธ' มาใส่ร้ายว่า ปู่ทวดของเบน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อคดีลอบสังหาร ประธานาธิบดี 'อับราฮัม ลินคอร์น' ...เมื่อคนตระกูลเกตส์ ต้องพบกับเรื่องเสียหน้าที่โดนยัดเยียดอย่างเจตนา แล้วมีหรือที่ เบน จะยอมให้นามสกุลของเขาต้องเสื่อมศักดิ์ศรี ...มิเช่นนั้นแล้ว การออกโรงตามล่าหาความจริง จึงเป็นสิ่งเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่า ปู่ทวดของเขาเป็นผู้บริสุทธิ์

    ถ้าให้ความน่าสนใจที่มีต่อพลอตหนังเป็นตัวประเมินผลคะแนนความอยากดูต่อหนัง ...ผมก็อยากจะให้ 10 เต็ม 10 ไปเลย ทั้งในส่วนของการผูกเรื่องจากภาคแรกมาสู่ภาคสองที่พอมีเหตุมีผลที่ดี รวมไปถึงส่วนเนื้อในของภาคสองที่เท่าที่เห็นในตัวอย่างก็มีอะไรให้น่าสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ตะลุึยขยับขยายไปสู่นอกพื้นที่อเมริกา หรือการนำเรื่องราวที่มนุษยชาติหลายคนสงสัย ถึงการมีความลับลมคมในในเบื้องหลังของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อเหตุการณ์ต่างๆที่น่าฉงนมากมาย (อาทิเช่น การลอบสังหาร JFK , การปิดบังการมีอยู่ของ Area 51) มาใส่ลงไปในหนังสือหนึ่งเล่มที่ให้ชื่อเป็น "หนังสือแห่งความลับ" ที่กลายมาเป็นชื่อของหนังในภาคนี้

    พลอตหนังมีความสำคัญต่อการดึงดูดอาจเป็นส่วนที่ใช่ที่สุดแล้ว แต่เมื่อรวมกันกับทีมงานหลักๆจากหนังภาคแรก ที่ได้พากันเฮโลสาระมาร่วมสมทบในตำแหน่งเดิมกันอย่างครบถ้วนแล้ว ...ก็พอจะวางใจได้ว่า การกลับมาของ NT มีอย่างหนึ่งที่น่าจะดีก็คือ ความบันเทิง ส่วนจะอิ่มหรือไม่นั้น ก็ต้องไปวัดผลเอาตอนที่ได้ดูฉบับตัวเต็มกันอีกที

    "จอน เทอร์เทิลโท้บ" ที่คงความเหนียวแน่นกับเก้าอี้ผู้กำกับตัวเดิม ก็ยังคงทำหน้าที่สร้างความสนุก ได้เพลิดเพลินเจริญความคิดอยู่เช่นเคย... แม้ทว่าส่วนลูกเล่นของภาคสองแทบจะเดินตามรอยของภาคแรก มาก้าวต่อก้าว แต่การเดินย่ำในสเตปเดิมของจอน ก็มีความมั่นคงในจังหวะ และมีความหนักแน่นในเรื่องราว ที่ถูกผูกรวมเอาไว้ภายใต้เงื่อนไขของประวัติศาสตร์ที่เหมือนจะแตกต่าง แต่มีจุดที่ต่อเนื่องให้ความรู้สึกแนบเนียนอย่างน่าอัศจรรย์ ...รวมถึงคนเขียนบท ก็ถือว่าเก่งมากที่สามารถตีโจทย์อันสุดจะยากเย็นแสนเข็ญ จากเรื่องที่อยู่คนละฝากฝั่งของความเป็นไปได้ มากลายเป็นความน่าติดตาม ชวนให้เชื่อว่ามันเป็นไปได้ และก็เป็นไปแล้ว ...อาจมีอยู่ที่บางอย่างมันจะอ่อนเหตุด้อยผล คิดว่ามันเว่อร์ไป แต่ความน่าสนใจของเรื่องราวที่ร้อยเรียงเป็นเส้นเดียวกัน และความเพลินของตัวหนังที่มีให้มา ก็พอจะดึงให้ตรงนั้นหลุดจากโฟกัสการมองระหว่างดูหนังไปได้

    งานสร้างของ เจอร์รี่ บรั้คไฮเมอร์ ก็ยังคงความอลังสมมาตรฐานจอมทุนหนัก ...กับฉากแอ๊คชั่นที่มีมากขึ้นกว่าภาคก่อน ก็ให้ความรู้สึกสนุึก ที่น่าตื่นเต้น ระทึกอารมณ์ และ ชวนให้ลุ้นอย่างใจหายใจคว่ำ โดยเฉพาะกับช่วงสุดท้ายในฉากที่กลุ่มตัวเอกจะต้องผจญอุปสรรคสุดท้าทายเพื่อจะไปถึงจุดมุ่งหมายสุดท้ายของการตามล่าหาความจริง

    "นิโคลาส เคจ" ยังคงสนุกกับการสวมบทเป็นอัจฉริยะนักประวัติศาสตร์ "เบน เกตส์" ที่แสนจะหยิ่งทะนงแต่มั่นคงในความศรัทธา ..."ไดแอน ครูเกอร์" ในบทบาท "อบิเกล เชส" ที่มีความสวยซ่อนฉลาดคู่ควรกับการน่าจดจำเสียยิ่งกว่าการสวมวิญญาณเป็น เฮเลน แห่ง Troy อย่างมากมาย ..."จัสติน บาร์ธา" ก็ยังฮาได้อีกกับบทผู้ช่วยจอมอวดที่ขโมยซีนได้ตลอดโดยไม่สนว่าต่อหน้าของเขา มีดาราออสการ์ล้อมรอบประกบบทอยู่นะนั่น ..."เฮเลน มิเรน" ดูผ่อนคลายหลังจากคว้าออสการ์ กับมาดกูรูทางภาษาศาสตร์ี ที่มีแง่มีงอนกับบทบาทผู้สร้างสีสันที่มีมากขึ้นของ "จอน วอยท์" ได้อย่างน่ารักน่าขำ ..."ฮาร์วี่ย์ ไคเทล" อาจไม่ได้สำคัญอะไรต่อภาคนี้ แต่การมีเขาอยู่ในเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดอะไร ...ในขณะที่ "เอ็ด แฮร์ริส" กลับกลายเป็นบทที่ดูจะมีมิติน้อยกว่าคนอื่นๆ แล้วเมื่อไปรวมกับภาพเดิมๆที่รู้สึกเคยชินจากหนังเรื่องก่อนๆ ก็ไม่ได้ร้ายกาจแตกต่างอะไร

    จากสิ่งที่ทำได้ตรงตามมาตรฐานอันเก่าอย่างน่าพอใจโดยรวมๆแล้ว ในภาคสองนี้ก็ยังคงมีความสนุกที่อาจจะให้ความคุ้นเคยเฉกเช่นที่ภาคแรกมีอยุ่ ...ประมาณว่า ภาคแรกมีอะไรบ้าง ในภาคนี้ก็ยังมีอย่างนั้นอยู่ ซึ่งอาจจะดัดจะแปลงเปลี่ยนไปหน่อยก็ถือว่า ไม่ได้ลดความเพลิดเพลินให้น้อยลงไปกว่าเก่า ...แต่ถ้าถามในแง่ของความชอบ ก็กลับรู้สึกว่าภาคนี้ มันยังไม่ได้ดีเทียบเท่ากับของเก่า

    ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้รู้สึกอย่างนั้น ก็ต้องย้อนกลับมาว่าถึง แนวการเดินเรื่องที่แทบถอดแบบมาจากภาคแรก นั่นเอง... ที่เมื่อลองเอามาเปรียบและเทียบคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องราวในหนังภาคนี้ ก็ยังจะมีอีกหลากวิธีหลายรูปแบบ ที่หนังจะสามารถเอามาเล่น และบิดให้ออกมาเป็นอีกแนวทางได้อยู่ ...ยกตัวอย่าง ในช่วงท้ายเรื่อง ที่หนังภาคแรก กำหนดให้ผู้ร้าย (บทของ "ฌอน บีน") จับตัวประกัน (คนที่โชคร้ายในภาคก่อน คือ พ่อของพระเอก) เพื่อเป็นการข่มขู่พระเอกให้ร่วมมือกับเขา ...พอมาในภาคนี้ บทหนังก็ไม่ได้พยายามจะบิดเงื่อนไขใดๆให้ดูแตกต่าง จะเปลี่ยนแปลงก็แค่บทตัวประกัน ที่มอบหมายหน้าที่ให้แม่ของพระเอก เป็นเครื่องต่อรองที่ทำให้ผู้ร้ายได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการผจญภัย (และสุดท้ายก็เข้าไปตายอย่างสมเกียรติ (หรือจะให้สมน้ำหน้าดีหว่า ?) ...เหมือนอย่างภาคแรกอีกเช่นกัน)

    แต่ถึงกระนั้น ที่ทำให้ภาคสองอาจจะไม่ได้ดีเด่สักเท่าไหร่ก็จริง ...อย่างน้อยๆ แล้วจุดจบของเรื่องราวในภาคนี้ ก็มีเหตุผลที่ดีเพียงพอ จะเรียกร้องให้ต้องมีภาคต่อไปดำเนินรอยตามมา... และก็ค้างคาให้อยากจะรู้ว่า หน้าที่ 47 มันจะมีอะไรกันแน่ ที่ทำให้โลกของเราต้องถึงคราวช็อกซีเนม่า!!? (หวังว่าคงไม่ใช่ความจริงที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุซ มีสัมพันธ์สวาทแบบเพื่อน กรุรักเมิงว่ะ กับ บิน ลาเดน...แล้วฝ่ายแรกกลับหักหลัง เป็นเหตุให้ฝ่ายหลังต้องส่งเครื่องบินมาบอมบ์ตึกแก้แค้น ...หุหุ คิดไปด้ายยยย)

    "National Treasure : Book of Secrets" ... คุณภาพงานบันเทิงสมมาตรฐานหนังบรั้คไฮเมอร์ ความสนุกเพลิดเพลินสมมาตรฐาน NT แต่ถ้าวัดกันที่ความดีความชอบภาคนี้ ก็ยังคงถือว่าเป็นรองจากภาคก่อน ...สำหรับคุณที่อยากจะดูหนังเรื่องนี้ ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่า ความอยากจะคุ้มค่ากับหนังบันเทิงๆสักเรื่อง ที่น่าจะทำให้การเฉลิมฉลองปีใหม่ของคุณ มีอะไรที่น่ามันส์น่าลุ้นไปกว่าการจับขั้วรัฐบาลอันน่าปวดหัว ...ไม่ไหวจะทน!!!

    เกรด B+

    ปล. อีกไม่กี่วันข้างหน้าได้เวลาที่... ผมจะคัดเลือกหนังโรง 10 เรื่องที่ผมประทับใจที่สุด , 5 การแสดงชาย 5 การแสดงหญิง 5 การแสดงเป็นทีม , 5 ฉากประทับใจในหนังโรง , 5 หนังอยากลืม และ 5 หนังดูในบ้าน ที่ประทับใจที่สุด ...ในรอบปี 2007 มาบอกกล่าวแล้ว สำหรับคนที่อยากรู้และอยากแจมกัน ขอเรียนเชิญล่วงหน้าให้เตรียมตัวเตรียมความประทับใจ แล้วมาเจอกันแน่ เมื่อผ่านพ้นปีใหม่จ้า

    ส่วนที่ขีดเส้นใต้เน้นข้อความ... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี-ดูด้อยในหนังครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดี มีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลงความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของ จขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน...

    แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 50 15:28:59

    แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 50 15:16:57

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 26 ธ.ค. 50 15:05:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com