CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    <<<<<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... หม่ำ เดียว หัวเหลี่ยม หัวแหลม , หนังตลกไทยไร้มลพิษที่ ดูได้ แต่ยังไม่ ดูดี >>>>>>>>>

      ชอบมาก ห้ามพลาด (1 คน)
      ชอบ (8 คน)
      เฉยๆ (4 คน)
      ไม่ชอบ (2 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (15 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 30 คน

     3.33%
     26.67%
     13.33%
     6.67%
     50.00%


    เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป อ่านความเห็นท่านอื่นๆ และเชิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2008&date=13&group=14&gblog=61


    ...จุดเริ่มต้นที่ต้องชื่นชมหนังเรื่องนี้ คือ


    1. นี่คือ หนังตลกไทยไร้มลพิษ ที่คัดกรองมุกคำหยาบลามกแบบไม่จำเป็นออกไป ไม่ต้องมีไอ้เปี้ยไอ้หาด ฯลฯเ หมือนหนังตลกส่วนใหญ่ในบ้านเรา มุกในหนังเรื่องนี้ก็แป้กบ้างได้ผลบ้าง แต่ชอบตรงที่หลายๆมุกน่ารัก เหมาะกับการนั่งดูพร้อมเด็กๆแบบไม่ตะขิดตะขวง และ มีมุกเฉพาะกลุ่ม สามช่า ที่แฟนประจำจึงจะเข้าใจ (เช่น มุกกัดลูกหม่ำที่ไปเรียนเมืองนอก)


    2. คือ หนังตลก ที่เห็นคุณค่าของเนื้อเรื่อง ให้ความสำคัญกับพล็อตเรื่องมากกว่าตั้งหน้าตั้งตายิงมุก ไม่เหมือนหนังตลกบ้านเรากว่าครึ่ง ที่ให้ความสำคัญของ มุก  นำหน้า พล็อต  จนบางครั้งหนังออกทะเลไปถึงอ่าวตังเกี๋ย ยังไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่จะ ด่าไอ้เปี้ยไอ้หาดกันไปมา หรือ ตบหัวสลับไปมา กะว่า ต้องขำซักครั้งนึง


    3. ภาพในหนัง ดูดี และ ถ้าเทียบกับ ของ สองช่าคนมาหาเฮีย ก่อนหน้านั้น เรียกได้ว่า เรื่องนี้ดีมากกว่าอักโข งานสร้างการถ่ายทำ การเลือกเพลงประกอบ ของหนังออกมาในระดับที่เรียกว่า เป็นหนังตลกที่ออกมาดูรวมๆแล้วดีทัดเทียบกับหนังไทยเรื่องอื่นๆ เพราะส่วนใหญ่ หนังตลกบ้านเราไม่ค่อยประณีตในเรื่องเหล่านี้เท่าไรนัก


    ... ซึ่งเพียงเท่านี้ สำหรับคนดูหนังนานๆครั้งหรือดูไม่บ่อยนัก ก็น่าจะพึงพอใจ แต่ถ้าจะมองในแง่คุณภาพของตัวหนัง จัดได้ว่า ยังมีปัญหาใหญ่ๆอยู่สองสามประการ ที่ทำให้หนังออกมาแค่ 'ดูได้' มากกว่า จะ 'ดูดี' เป็น ปัญหาที่เหมือนรูโหว่โตๆของหนัง ในการทำให้หนังไปได้ไม่ถึงในระดับที่เข้าใจว่า อยากจะพาคนดูไปให้ถึงเป้าหมาย


    เพราะจากเรื่องย่อที่ให้ น้องเดียว เป็น ลูกของหม่ำที่กำลังรอเกิดมาหา พ่อหม่ำ ในร่างวิญญาณ เพื่อบอกให้ พ่อหม่ำ เริ่มต้น จีบแม่ เสียที แต่ก็ดูจะยากแสนเข็ญ เพราะว่าที่แม่ เป็นสาวสวยดูดีมีชาติตระกูลสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน


    ...เรียกได้ว่า จากพล็อตเรื่องของ สองคนต่างวัย ที่ขาดหาย ใครบางคน มาเติมเต็มโลกของตัวเอง

    บวกกับ พล็อต ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ใช้ความซื่อพิชิตใจนางฟ้าแสนงาม

    บวกกับ เรื่องราวที่มีหักมุมและซ้อนความเหนือจริงเกี่ยวกับภูติผี


    ...หนังสามารถออกมาเป็น โรแมนติกดราม่าคอมิดี้ ที่สร้างความอบอุ่น เรียกรอยยิ้ม และ จบลงอย่างประทับใจ แต่ หนังเรื่องนี้ กลับทำได้เพียง เรียกรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะเป็นพักๆ พออุ่นๆเล็กๆน้อยๆ แล้วก็เบื่อๆเนือยๆในครึ่งหลัง ก่อนที่จะจบลงแบบที่ไม่ได้อินมากมายเหมือนตัวละครที่พยายามบิวต์คนดู


    ...สองปัญหาหลักๆของหนัง ไม่ใช่ ประเด็นจิ๊บๆ แต่กลับเป็น จุดใหญ่ๆ ที่ทำให้ หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองได้เต็มที่ คือ

    1.การกำกับนักแสดง  ... ในบรรดาสามตัวแสดงหลัก (หม่ำ เดียว นางเอก) หม่ำ เพียงคนเดียวที่ผมมองว่า สอบผ่าน ซึ่งส่วนหนึ่งนั้น ผมเคยเขียนถึงในเฉิ่มมาก่อนแล้วว่า หม่ำ เป็น นักแสดงที่มีดีในตัวมากกว่า การเล่นตลก สุดแต่ว่า ผู้กำกับจะดึงศักยภาพ ด้านการแสดง ออกมาได้มากแค่ไหน

    ในเรื่องนี้ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไหร่ เพราะ บทของเขายังไม่ต้องอาศัย ความลึก มากมายนัก (ถ้าใครได้ดู เฉิ่ม ก็จะเห็นถึง ความสามารถทางการแสดงที่ต่างกันพอสมควร)

    แต่พอหันไปดู น้องเดียว กับ นางเอก  เราจะเห็น จุดอ่อนในการดึงความสามารถนักแสดง

    ...อย่าลืมว่า การสร้างหนังเรื่องหนึ่ง คือ การนำนักแสดงมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เล่นเป็น ตัวละคร ที่อยู่ในหนัง ประโยคนี้ดูเป็นcommom sense แต่เราก็จะยังเห็นหนังอีกหลายๆเรื่องที่ ดึง ดารา มาเล่น แต่ ดารา คนนั้นไม่สามารถดึงศักยภาพตัวเองให้เปลี่ยนแปลงเป็น ตัวละคร

    เช่น คนดังๆแบบ ทอม ครูซ มีเพียงไม่กี่เรื่องที่ผู้กำกับเปลี่ยนเขาให้เป็น ตัวละคร ในหนัง ในขณะที่อีกหลายเรื่อง เราก็เห็นเขาเป็น ทอม ครูซ ที่แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผม

    น้องเดียว ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน เขาเป็นบทบาทสำคัญและมีอิทธิพลต่อตัวหนังไม่แพ้หม่ำในการเรียกความประทับใจ แต่ หนังกลับใช้ความเป็น น้องเดียว โดยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยจาก น้องเดียวเกมทศกัณฑ์ จอมแก่นก๋ากั่นช่างพูด

    ซึ่งผมเองที่ไม่ใช่ แฟนพันธุ์แท้น้องเดียว จึงรู้สึกขัดๆตลอดเวลาที่น้องเดียวโผล่มาประชันมุกกับหม่ำ ยิ่งบวกกับการแสดงที่ไม่ชวนให้รู้สึก soft หรือ น่ารัก หรือ น่าสงสาร ส่งผลให้ ฉากเซอร์ไพรส์และตอนจบไม่ดึงอารมณ์คนดูตามที่พยายามจะบิวต์


    ...เช่นเดียวกับ นางเอกของเรื่อง ที่มาจาก นางแบบโฆษณา ‘ครีมขาวอย่างไร้สติ’ ที่ผมเกลียดแนวคิดของโฆษณา แต่ชอบในแง่ ตัวหนังที่ออกมาพอสมควร

    นางเอกทั้งสองคนดูดีมีเสน่ห์ และ นางเอกของเราในหนังเรื่องนี้ ก็คือ คนเดียวกับ นางเอกผิวคล้ำที่ถูกแฟนทิ้ง ก่อนที่สุดท้าย เธอใช้ครีมขาวเปลี่ยนผิวให้แวววาว แล้วคนรักก็กลับมา  (ไม่ชอบ โฆษณาที่ส่งเสริมค่านิยมเชิดชู 'ผิวขาว' ไปพร้อมๆกับ ลดคุณค่า 'คนผิวคล้ำ' ประมาณว่า ต้องขาวเท่านั้นจึงจะต้องสวย แถมเปลี่ยนแปลงสีผิวแบบเว่อร์เอามากๆ)

    เธอในโฆษณาปรากฏตัวไม่กี่นาที แต่เธอแสดงสีหน้าท่าทางดึงดูดและดูมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง (ภาพจับล็อกเก็ตยังติดตา) แต่ในหนังเรื่องนี้ เธอดูเหมือน นางเอกลูกครึ่งที่เล่นแข็งๆบ้างพออภัยได้สำหรับหนังใหญ่ครั้งแรก แต่ที่น่าผิดหวังคือ หนังเรื่องนี้ทำให้เธอดูสวยแบบจืดๆดูแห้งๆขาดเสน่ห์ ไม่ดึงดูดเท่าตอนดูในโฆษณา


    2.การเล่าเรื่อง  ... จังหวะการเล่าเรื่องมีปัญหาอย่างรุนแรง หนังเริ่มต้นได้เข้าท่าเข้าทางเอามากๆ กับ ฉากเปิดตัวที่หม่ำเข้ากรุงเทพ แต่ พอเข้าครึ่งหลังโดยเฉพาะเมื่อเฉลยจุดสำคัญ หนังกลับเหมือนเปลี่ยนผู้กำกับเป็นคนละคน

    เพราะ ช่วงเวลาหลายๆตอนของหนังเข้าขั้นน่าเบื่อ บทหนังก็เหมือนหาทางออกให้กับตัวละครไม่ได้ ไม่รู้จะนำไปสู่จุดจบได้อย่างไร ก็แก้ปัญหาให้ตัวละครแบบเล่นดื้อๆทื่อๆ นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะใส่เรื่องราวไหนก็ใส่ ( เช่น เล่นงิ้ว , ได้ทอง ฯลฯ)

    และ เกือบทำให้หนังที่ผมคิดว่าเหมาะกับเด็ก กลายเป็นไม่เหมาะเพราะทางออกที่หนังเลือกให้ตัวละครดูจะไม่เหมาะไม่ควร เรียกได้ว่า เป๋ไปพักใหญ่ๆจนเกือบออกอ่าวตังเกี๋ย ยังดีที่สุดท้ายยังตบกลับเข้าเนื้อเรื่องถูก

    แถมความต่อเนื่องของหนังหลายๆตอนท้าย ก็สะดุดๆ จาก ฉากหนึ่งไปต่ออีกฉากหนึ่ง เหมือนเอามาชนต่อๆกันเลย หรือ บางตอนก็ใส่แบบไม่จำเป็น เอาที่จำได้ เช่น ช่วงท้ายไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมาอธิบายผลลัพธ์ของหนุ่มนักต้ม ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อเรื่องราว



    สรุป  .. ความตลกแบบน่ารักใสซื่อ ของหนัง เป็น จุดเด่นสำคัญที่หนังตลกของไทย น่าจะเดินตามบ้าง ไม่ใช่สักแต่ อัดคำหยาบ อัดมุกเพศที่สามแบบไม่สร้างสรรค์ อัดมุกสิ่งปฏิกูล วนไปเวียนมา ราวกับว่า ไม่มีอะไรในความคิดอีกแล้ว

    สำหรับ แฟน หม่ำ-เดียว ไปดูก็คงไม่ผิดหวัง แต่ ถ้าไม่ใช่แฟนของใคร หวังตลกก็พอได้ ไม่แป้กเท่าไหร่ ไม่ได้ถึงกับน่าประทับใจ ภาพในหนังดูดี แต่ตัวหนังแค่พอดูได้ อย่างน้อยก็ดีกว่า เท่งโหน่ง คนมาหาเฮีย หรือ บอดี้การ์ด 2 ผลงานของก๊วนสามช่าของปีที่ผ่านมา

    ป.ล. ... หลายคนที่ถามเพื่อเที่ยบกับหนังตลกๆช่วงใกล้ๆนี้ ส่วนตัวแล้วผมชอบมากกว่า โปงลางฯ ส่วนน้องๆที่ไปด้วยที่ได้ดู ก่อนบ่ายฯ  บอกว่าเรื่องนี้ ดีกว่าหลายขุม

    ป.ล.2 ... โฆษณาแฝงในหนัง น่าเกลียด เกินไป จะ ‘มาม่า’ อะไรกันขนาดนั้น



    บทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
    (บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)

    เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2005&date=14&group=1&blog=1

    โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=04-2006&date=01&group=1&blog=1

    แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 51 10:25:33

    แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 51 10:24:38

    แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 51 10:20:39

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 15 ม.ค. 51 10:09:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com