ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยเจอเรื่อง มิติลี้ลับ ครับ.... ล่าสุด แค่เดินเข้าป่า ที่ชาวบ้าน ถือเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์มีการเลี้ยงผีเป็นประจำ ขาเดินเข้าไป ก็ปกติดี แต่ พอขาออกมา เจอต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทางเดินถึง 2 ต้นด้วยกัน  และเพื่อนผมที่เข้าป่าด้วยกัน ก็มาหลงป่า ณ จุดนี้นี่เอง เป็นห่วงกันแทบแย่ เพราะกลัวเสือ เข้าใจว่าแกเป็นวัว ที่เคยจับกินมาก่อน... แต่โชคดี หาทางกลับมาจนเจอกันอย่างปลอดภัย เพราะยึดเอาลำห้วยเป็นเส้นทางเดินกลับ เราไม่ได้ลบหลู่ท่านนะครับ ก่อนกินข้าวในป่า เราก็มีการ แบ่งข้าวเพื่อเลี้ยงท่าน และ จะเดินป่า หรือ ทำธุระส่วนตัว ก็มีการบอกกล่าวท่านไว้แล้ว มีรุ่นน้อง ที่อยู่ในหมู่บ้าน บอกว่า น่าแปลกใจที่ต้นไม้ใหญ่ล้มถึง 2 ต้น แต่รุ่นน้องก็บอกแค่ว่า  สงสัยจะเป็นหมูป่า วิ่งมาชนมั๊งครับพี่.... จากคุณ : ณภวังค์ - [ 21 ม.ค. 51 18:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าตื่นเต้นมาก จากคุณ : ตี๋น้อย (praphansak) - [ 21 ม.ค. 51 20:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 10 กว่าปีที่แล้วไปฝ่าฝืนกฏการเข้าป่าป่า ของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเข้าน่ะ แอบเข้าไปกันเอง ช่วงหน้าร้อน คนก็ไม่ค่อยมี เพราะเพื่อนมันเข้าไปท่องป่านั่นบ่อย เลยบอกว่าชำนาญทางแล้ว เข้าไป 7-8 คน  พอไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานมาด้วยเท่านั้นแหละ ความกลัวแบบขี้ขึ้นสมองก้เริ่มออกอาการ  ป่าเงียบก็เงียบ อาวุธก็ไม่มี ขี้ช้างเห็นเป็นหย่อมๆ  ไปถึงน้ำตกขุนพองเกือบบ่ายสี่โมง แต่ป่ามืดยังกะอะรัยดี ปีนขึ้นน้ำตกขุนพองไป แล้วเดินตามทางน้ำด้านบน คราวนี้อึช้าง ปูพรมเป็นยางมะตอยเลยคราวนี้ ยังดีที่ออกมาได้ก่อนพระอาทิตย์ตก พอได้ยินช้างร้องแทบวิ่งหาก้อนหินกันแทบไม่ทัน แม้จะได้ยินอยู่ไกลก็เถอะ ตั้งแต่นั้นไม่ขอทำแบบนี้อีกแล้ว ยิ่งพักหลังๆ ได้ข่าวช้างเหยียบคนตายบ่อยๆ ยิ่งนับว่าพวกตัวเองโชคดีเป็นบ้า วัยรุ่นคึกคะนองจัด   ส่วนอีกที่ก็น้ำตกชาติตระการที่พิษณุโลก กำลังนอนที่ทุ่งนอกน้ำตก ดูพระอาทิตย์ตกดินกับเพื่อนอยู่ดีๆ ตามองขึ้นไป เห็นงูอยู่เหนือหัว แล้วพอจ้องดูอีกที เป็นดงเลย  สิบกว่าตัวได้ ไม่รู้งูอะไร นั่นก็สิบปีที่แล้วอีกเหมือนกัน ส่วนความลี้ลับนี่  เจอหลายที่ครับ แต่ไม่ค่อยเจอในป่า เจอในชนบทมากกว่า ขนลุกเกรียวเลย โบกรถเที่ยวแถบภาคกลาง เหนือ อีสาน เจออะไรแปลกๆเยอะครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 51 22:37:01 จากคุณ : Reonard - [ 21 ม.ค. 51 22:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ Reonard  ประสบการณ์ชีวิตเยอะจัง เล่าต่อซิค่ะ จะติดตามตอนต่อไปค่ะ จากคุณ : กระรอกสีฟ้า - [ 21 ม.ค. 51 22:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้ว..สนุก ๆ ต่อเลยครับ จากคุณ : แพ้เป็นพระ ชนะเป็นแชมป์ - [ 21 ม.ค. 51 23:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฟังคุณ Reonard เล่าเรื่องงู สยองมากเลยค่ะ ทำให้นึกถึงเรื่องแปลก ขนลุกอยู่เรื่องหนึ่ง   ประมาณ 2 ปีก่อนไปที่หลวงพระบาง ประเทศลาว ได้ไปที่พิพิณภัณฑ์เจ้าของทางลาว  จำชื่อไม่ได้ แต่คนลาวบอกว่า คนที่นั่นให้ความเคารพมาก และเจ้าองค์นี้ชอบล่าสัตว์ บรรยากาศก็วังเวงดีแท้ หุหุ  ไปเดินชมห้องบรรทมของท่าน  เห็นปืนสวยมากๆ แขวนอยู่ ก็เลยบอกกับพี่สาวที่เดินเข้าไปด้วยว่า พี่ๆ ถ่ายรูปปืนหน่อยดิ พอพูดจบ หน้าต่างห้องบรรทมปิดดังปังเลยค่ะ มีคนบอกทีหลังว่า นั่นเป็นปืนล่าสัตว์ที่ท่านรักมาก พอลงไปข้างล่าง ฟังบรรยายอะไรซักอย่างเพลินๆ อยู่ มีคนทักเสียงดังว่า น้องๆ มดแดงเต็มขาเลย พอก้มไปมอง โอ้...มดแดงอะไรไม่ทราบค่ะ เต็มขาสองข้างเยอะมาก ๆๆ จนขนลุกเลยค่ะ ทั้งที่คนอื่นที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันไม่เห็นเป็นไรซักคน... แต่เข้าป่า ไม่เคยเจอเรื่องแปลกๆ เลยค่ะ จากคุณ : เสี่ยวลี่ - [ 22 ม.ค. 51 00:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งูอยู่รวมกันหลายๆตัวเนี่ย คาดว่าจะเป็นช่วง อะจึ๋ยๆ~~~ หรือเปล่าอ้ะคะ เหมือนเคยดูสารคดี ถ้าจำไม่ผิด จากคุณ : เจ้านิ - [ 22 ม.ค. 51 00:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มดแดงมันไม่กัดเอาหรือคะคุณเสี่ยวลี่  ฮึย หยองมากกับมดแดงเพราะพี่ชายเคยวิ่งไปชนรังมดแดง  ร้องลั่นสวนเลย  ถอดเสื้อวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน พออาบน้ำล้างมดแดงออกมาหันหลังให้ดูว่าออกหมดยัง  มันมีอยู่ตัวนึงค่ะน่าจะตายแล้วนะแต่ยังกัดแน่นอย่างเหนียวหนึบต้องดึงออก  ช่างแค้นฝังมดแดงจริงๆ คุณReonard มาเล่าเรื่องที่เจอตามชนบทให้ฟังหน่อย  อยากรู้ๆ ประสบการณ์ของตัวเองไม่มีอ่ะ  ทั้งลี้ลับทั้งแปลกๆไม่มีเลย  มีแต่ฝันเป็นตุเป็นตะตื่นมาก็จำไม่ได้ รออ่านของคนอื่นดีฝ่า จากคุณ : ผู้หญิงเปรี้ยวหวาน - [ 22 ม.ค. 51 00:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาติดตามค่ะ ตื่นเต้นทุกเรื่องเลย กรึ่ย! ไม่เคยเจอบริเวณป่าค่ะ  แต่เคยเจอ(บ่อย) ตอนไปทำงานในพืนที่สึนามิค่ะ บรือส์! จากคุณ : เจ้าของฝีเท้า - [ 22 ม.ค. 51 01:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 น่าตื่นเต้นกันทั้งนั้น ช่วยเข้ามาเล่าต่อทีค่ะ อยากรู้ น่าติกตามมั๊กมาก จากคุณ : ยิ้มไว้^^ โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง - [ 22 ม.ค. 51 02:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเดินเข้าป่าตอนเป็นเด็ก ไปเข้าค่ายลูกเสือครับ แล้วก็มีผีครับ ผมจำได้เลยว่าเป็นผี คืออย่างงี้ครับ เรื่องมันยาวครับ เอาเป็นว่าผมเจอผีตอนเข้าป่าขณะไปเข้าค่ายลูกเสือครับ จากคุณ : งุ้งงิ้ง - [ 22 ม.ค. 51 03:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ -_-" จากคุณ : หนุ่มเหน่อ - [ 22 ม.ค. 51 08:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ในป่าไม่เคยเจอครับ เจอแต่ในสวน... เรื่องมีอยู่ว่า  เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมและเพื่อนรวม 10 กว่าชีวิตได้ไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อนอีกคนที่อยู่แปดริ้ว ซึ่งบ้านเพื่อนผมนั้นห่างจากถนนใหญ่เข้าไปในซอยที่เป็นสวนอีกหลายกิโล   งานเลี้ยงผ่านไปอย่างราบรื่น สนุกสนานกันปกติดี  แต่พอตอนที่จะนอน ปรากฏว่า  ในบ้านไม่มีที่พอให้คนสิบยี่สิบคนนอน  จึงทำให้บางคนต้องลงไปนอนที่รถปิ๊กอัพคันที่นั่งมา ซึ่งจอดอยู่ในสวนที่ไม่ห่างจากตัวบ้านนัก (ส่วนผมอาสานอนบนบ้านเอง) ^ ^ ลักษณะของรถเป็นรถปิ๊กอัพหลังคาสูงติดตะแกรงเหล็กรอบด้าน (ให้นึกถึงรถที่ไปขายของตามตลาดนัดอ่ะครับ)   เวลาประมาณเที่ยงคืน ระหว่างที่ทุกคนหลับกันอยู่ดีๆ จู่ๆ เหมือนมีใครมาเขย่ารถแรงๆ ประมาณสี่ห้าที (ผมพิมพ์อยู่ตอนนี้ยังขนลุกไม่หายเลยครับ)  ทุกคนต่างรู้สึกตัวจากแรงเขย่านั้น งัวเงียลุกขึ้นมามองหน้ากันเลิ่กลั๊ก  เพื่อนผมคนนึงเลยเปิดผ้าใบแล้วรีบชะโงกหน้าไปดูข้างนอก ไม่เจออะไรนอกจากไก่ตัวนึงกำลังเดินวนเวียนอยู่บริเวณนั้น  คราวนี้เลยชวนกันลงมาทั้งหมดเลยครับ ช่วยกันหา คิดกันว่าคงต้องมีใครเล่นพิเรนมาแกล้งแน่  แต่ไม่เจอใครนอกจากไก่ตัวนั้นครับ  คืนนั้นทุกคนเลยไม่ได้นอนกันเลย ขึ้นบ้านมานั่งล้อมวงคุยกันจนถึงเช้า เรื่องตื่นเต้นยังไม่หมดแค่นั้นครับ  วันรุ่งขึ้นผมกับเพื่อนอีก  7 คน ก็ชวนกันออกเดินเข้าไปในสวนลึก เดินเล่นโลดโผนกันตามประสาวัยมันส์ ระหว่างที่เดินกันไปเพื่อนผมคนนึงที่ชื่อหมู มันก็ถามขึ้นว่า ใครอยากได้กระรอกบ้าง   เพราะมันเห็นกระรอกตัวนึงเพิ่งมุดลงไปในรูล้อเกวียนที่ไม่ได้ใช้แล้ววงหนึ่ง  มันถูกวางอยู่อยู่ในลักษณะตะแคง  ทีแรกก็เข้าไปยืนล้อมวงกันเพ่งลงไปในรูนั้น แต่ก็ไม่เห็น เลยช่วยกันพลิกล้อเกวียนนั้นให้เอียงเพื่อที่จะให้กระรอกตัวนั้นหล่นลงมาอีกทาง ดันกันยังไม่ทันที่ล้อนั้นจะพลิกดีนักคางคกตัวนึงก็หล่นออกมาจากรูนั้นดังตุ๊บ  สะดุ้งกันเล็กน้อย และเมื่อล้อเกวียนนั้นถูกดันไปจนสุด สิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนในชีวิตว่าจะได้มีโอกาสได้เข้าใกล้มันในระยะสี่ห้าเมตรอย่างนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น  งูตัวสีดำตัวใหญ่มาก (ย้ำว่าใหญ่มาก) หล่นลงมาจากรูที่คางคกตัวนั้นหล่นมา  มันลงมากองอยู่บนพื้นสักพักก็ชูหัวขึ้นมาแผ่แม่เบี้ยใส่พวกผมที่กำลังยืนล้อมวงอยู่ทันที  เท่านั้นแหละครับ ไม่ต้องมีใครเตือนใคร วิ่งกันกระจายไปคนละทิศละทาง ตอนนั้นผมวิ่งได้เร็วอย่างที่ไม่เคยเร็วได้ขนาดนี้มาก่อนครับ  ตอนนั้นผมก็ไม่รู้จะวิ่งไปที่ไหน เลยวิ่งเข้าหาต้นมะพร้าวต้นหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทำอะไร ปีนต้นมะพร้าวก็ไม่เป็น คิดเพียงแค่ว่าต้องหาอะไรมาบังตัวไว้ก่อน เพราะแถวนั้นเป็นที่โล่งกว้าง หญ้าก็สูงเพียงแค่เข่า ไม่มีที่ให้หลบแล้ว   ผมมายืนหอบอยู่ใต้ต้นมะพร้าวนั้น มองหาคนอื่นที่กำลังวิ่งกันกระจายอยู่ทั่วบริเวณ มีเพื่อนคนนึงตะโกนบอกผมว่า "เอ๊ย มันไปทางนั้นแล้ว"  ผมก็พยายามมองหาตัวมันเพื่อจะได้ไม่วิ่งไปสวนทางกับมันเข้า  แต่ก็ไม่เห็นเพราะหญ้ามันบัง  เพื่อนผมมันก็ร้องเตือนมาอีก  เอาไงเอากันผมตัดสินใจเลยวิ่งเข้าหาพวกที่รวมกลุ่มกันอยู่สามสี่คน ที่อยู่ห่างไปประมาณไม่เกิน 50 เมตร  พอวิ่งไปถึงได้สักพักพวกที่เหลือก็วิ่งเข้ามาสมทบ พอทุกคนมารวมกันแล้วต่างก็ขำ นึกไปถึงท่าวิ่งหน้าตื่นของแต่ละคน หน้าตาบางคนหน้าซีดหัวเราะยังไม่ออกอยู่เลยก็มี มารู้ทีหลังว่า ตอนที่เพื่อนผมร้องเตือนว่ามันเลี้อยมาทางผม แล้วผมออกวิ่งนั้น ผมวิ่งสวนทิศกับมัน แต่ห่างจากทางเลี้ยงของมันไปแค่สองสามเมตรเท่านั้น ยังเสียวอยู่เลยว่าถ้าสวนใกล้กว่านี้ ผมอาจจะไม่ได้มานั่งพิมพ์อยู่ตรงนี้แล้วก็ได้ จนถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยครับว่าเจ้างูตัวนั้นมันเป็นงูอะไร แว๊บแรกเลยคิดว่ามันเป็นงูเห่า  แต่ตัวมันใหญ่เหลือเกิน ขอบคุณครับ จากคุณ : สาริกาไนโตร - [ 22 ม.ค. 51 09:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปนอนเขาอีเกก ..   ขับรถขึ้น แต่บังเอิญมันคว่ำซะกลางทาง  แล้วตอนไหนไม่คว่ำ มาคว่ำซะตอนสี่ทุ่ม   หม้อน้ำพัง ไปไหนต่อไม่ได้   สี่ทุ่มแล้วอ่ะ ทำไรไม่ได้แล้ว  -_-" สุดท้ายก็ต้องนอนตรงนั้นแหละ   เหมือนเคราะห์ร้ายกรรมซัด  ต้นไม้ใหญ่ต้นเดียวที่พอจะอาศัยซุกหัวได้  มีต้นเดียว  แล้วดั้นนนเป็นต้นตะเคียนขนาดยักษ์  ราวๆสิบคนโอบได้อีก    -_-" ก็อ่ะนะ...  ทำไรไม่ได้แล้ว  ก็เตรียมที่นอนไป  ก่อนนอนก็ปกติ สวดมนต์ แล้วก็มีนิดนึง ขอพรให้เจ้าแม่   (-_-"  น่าจะเจ้าแม่นะ ต้นเบ้อเร่อ)  ให้คุ้มครองดูแล  .....   เช้าขึ้นมา ล้างหน้าล้างตา ซ่อมรถเสร็จ เตรียมออกเดินทางต่อ ... คุณพระช่วย เลยที่พักไปไม่ถึงห้าเมตร  มีรอยช้างลงตีแปลงเป็นวงเบ้อเร่อ  .....!?        อย่างต่ำๆต้องมีร่วมห้าหกตัวขึ้นอ่ะ เหอๆๆ...    มะคืนตรูรอดมาได้ไงฟระนั่น         -_-" ปล. (-/\-)  ขอบคุณเจ้าแม่ที่คุ้มครองครับ  ... จากคุณ : ฟาฬ - [ 22 ม.ค. 51 09:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก็ที่เคยอ่ะนะครับ ที่ผมคิดว่า ผมหลอนที่สุดแล้วนะครับ ก็ไปนั่งห้างกะเพื่อนชาวกะเหรี่ยงของผมอ่ะครับ คืนนั้นมันเป็นอะไรที่เงียบมากๆ เงียบจน หูหวิ่ง  (อาการแบบหูมันมีเสียงหวิ่งๆอะครับ บอกไม่ถูก ) เอาง่ายๆนะ ครับ มันเงียบมาก  เงียบขนาด เข็มตกยังได้ยิน...! และทันใดนั้นเองผมตกใจสุด ขีด เกือบจะเป็นลม มีตัวอะไรไม่รู้ครับมาโดนเท้าของผม มันเป็นขนๆอะครับ ตัว เล็กๆ จะว่าหนูก็ไม่ใช่ จะว่าลิง ก็ไม่เชิง ตามันโปนๆครับ ผมพยายามรวบรวมสติ เพื่อจะจัดการกะไอ้ตัวต่างดาวที่มาเกาะเท้าผมให้จงได้ โดยเอาเท้าอีกข้างหนึ่งถีบ มัน(ในตอนนั้นกะจะถีบให้โดนหนังหน้ามัน) แต่ในตอนที่ส้นเท้าของผมจะโดนหนัง หน้ามันนั้นเอง เพื่อนผมที่นั่งอยู่ใกล้ ก็ห้ามผมไว้ และพูดกะผมว่า อย่าไปทำมัน เลย มันไม่ทำอะไรเราหรอก มันแค่มาหาอาหารกิน ผมทำหน้างง แบบหมางง? มัน มาหาอะไร..แDก ฟ่ะ บนห้างที่คนอยู่ ป่าออกจะกว้างใหญ่ หึๆๆ เป็นเสียงหัวเราะใน คอของเพื่อนผม ผมเลยถามมันว่า มันคือตัวอะไรฟ่ะ เสียงแบบช้าๆผสมอากาศใน ตอนนั้นที่หนาวไปถึงหัวใจ!  ผีโป่งข่าง!!  ผมถามมันอย่างไม่แน่ใจว่า ตัว เ ตู๊ด ย   (ตัวเงินตัวทอง)อะไรฟ่ะ ผีโป่งข่าง ตูว่ามันเป็นสัตว์จากต่างดาวแน่ๆ แล้วผมก็ถามว่า มันกินอะไร ฟ่ะ ตูอาจจะเอาไปเลี้ยงที่บ้าน หึๆๆ มันหัวเราะอีกครับ แล้วผมก็ไม่เชื่อหูผมเลย มัน ตอบซื่อๆว่า มันแDก เลือด เท่านั้นล่ะครับ ส้นเท้าผมก็ถีบเข้าเต็มหน้าของได้ ต้วต่างดาวที่ผมเห็น ดังอึก! แล้วก็มีเสียงดัง ตับ! ผมรู้สึกจุกๆที่หน้าอก และผมรู้สึก ตัวว่าตัวผมสั่นๆ .....เอ่อ..แล้วผมก็ตื่นขึ้น พร้อมอาการจุกเสียด และเสียงตวาด ของเพื่อนผมก็ว่า มรึงถีบตูทำไม่! ไอ้ฉิหายโดนชายโครงตูพอดู...ผมมึนงงกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมาก แล้วผมก็ถามเพื่อนผมด้วยอาการที่ยังไม่หาย จุกว่า  มรึงรู้จัก ผีโป่งข่าง หรือเปล่าฟ่ะ  สีหน้าของเพื่อนผมจากอาการจุกพอๆกับ ผม เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยและซีดลง พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นที่ใบหน้า ทั่งๆที่อาการ ก็หนาวเย็น พร้องกับเสียงสั่นๆที่ยิงคำถามผมว่า...ม..มรึง..ร..รู้ จ..จจ จัก ผีโป่ง ข่าง ด..ด้วยหรือ?? ใครบอกมรึงฟ่ะ?? ผมตอบแบบยังไม่หายงงและจุกเสียดว่า...เมื่อ คืนตูฝันเห็นฟ่ะ !!! มันมาเกาะเท้าตู... โปรดติดตามตอนต่อไป... ปล. หัวหน้าจอมโหดมาแล้วครับ ต้องไปทำงานนรกก่อน บรื๋ออออ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 51 09:44:39 แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 51 09:42:55 จากคุณ : หนุ่มเหน่อ - [ 22 ม.ค. 51 09:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นึกว่าหลุดเข้ามาในห้องสยองขวัญซะอีก แต่อ่านแล้วสนุกทุกเรื่องเลย เอาอีก เอาอีก เอาอีก...ชอบๆๆๆๆๆ จากคุณ : เมย์32 - [ 22 ม.ค. 51 10:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 -_-"   ป้าข้างบนนี้อ่ะ  เก็บอาการนิดนึง   !? จากคุณ : ฟาฬ - [ 22 ม.ค. 51 10:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ประสบการณ์ป่า แบบเข้าป่า ไม่มีค่ะ มีแต่ อาศัย อยู่บริเวณ ที่เป็นป่ารกทึบ แล้วก็ เจอ สิ่งที่ เค้าเรียกกันว่า วิญญาณ  หลอน 3 คืน ติดต่อกันเลยล่ะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี 2549 วินเทอร์ฯ จับผลัด จับผลู ไปเป็นครู อยู่ แถบ จ. ชายแดน ติดกับ ประเทศลาว เป็นโรงเรียน ขนาดใหญ่ มีนักเรียน ประมาณ 1500 คน สถานที่ ตั้งของ โรงเรียนเดิม เป็นวัด พอน้ำท่วม ก็ ปรักหักพัง ร่วง หล่น ลงแม่น้ำ ปัจจุบัน ยังพอมีทราก หลงเหลืออยู่บ้าง ช่วงที่ลาวเกิดการ ปฏิวัติ  คนแก่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ขณะนั้น  เล่าว่า มีศพ ลอย มาติดที่ท่าวัด เยอะมาก จนแทบจะขนขึ้นไม่ไหว และ เล่าสืบไปก่อนโน้น สถานที่แห่งนี้ นั้น มีการคุมขังนักโทษ ถึงได้ เป็นชื่อ จนถึงปัจจุบัน ในสมัยก่อน ยามค่ำคืน จะมีเสียง ลากโซ่ แกรก ๆ รอบ  ๆ บริเวณ  ซึ่งไม่น่า แปลก ที่ เราจะเจอ เหตุการณ์ ขนหัวลุก   หอพักของครู  อยู่ติด กับป่าป่าช้า เรื่องราวเกิดขึ้น ขณะที่ ย้ายเข้าไป พักในหอพัก ของพวกครู ที่ปลูก เป็นตึก ยาว ใต้ถุนสูง มาก ๆ ที่สูง ก็ คง เพราะ น้ำท่วมล่ะค่ะ  ก่อนหน้ามีคนเล่าว่า เค้าเจอเหตุการณ์ แปลก ๆ แต่ก็ ไม่ได้ระบุว่าห้องไหน พอเราเข้าไปพัก ก็ รู้สึก เย็น ๆ แปลก ๆ ใจมัน เต้น แรงมาก ๆ  ยิ่งตอนกลางคืนมันจะเงียบ เงียบจริง ๆ นะพี่น้องงง   คืนที่เกิดเรื่อง เป็นคืนเดือนหงาย เราปิด ไฟนอนตามปกติ จนกระทั่ง สะดุ้ง ตื่นขึ้นมา เราคงงัวเงียนะ (เราคิดเอง) เพราะสิ่งที่เราเห็นก็ คือ มีคน ตะแคง มองหน้าเรา (เรานอนตะแคง) เรารีบหลับตา และรู้สึกว่า ขนลุกทั้งตัว และ เย็น เรากดรึโหมท ทีวี ให้ภาพ ซ่า ๆ ขาว ๆ มันช่วยให้แสงสว่างก่อน เราลุก ขึ้นเปิดไฟ  เป็นเวลา 2 นาฬิกา เราตั้งสติ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ ปิดไฟนอน โดย ยังเปิดทีวีค้างภาพ ซ่า ๆ แต่ปิดเสียงเอาไว้  คืนที่สอง สะดุ้งตื่น เวลาเดิม ขน ลุกเหมือนเดิม  พอคืนที่สาม เราเจอ เงาดำใหญ่  ยืนอยู่ปลายเตียง สภาพที่ ที่จำได้ แว่บเดียวนั้น เป็นผู้ชาย ร่างใหญ่โต นุ่งผ้าเตียวสีเทาสกปรก ไม่สวม เสื้อ เราหลับตา สวดผิดสวดถูก ไปตามเรื่อง มือควานหา รีโหมด เปิดทีวี เหมือนเคย  พอตั้งสติได้ ก็เปิดไฟดูเวลา   เวลาเดิมเลยค่ะ ตี 2 ทั้งสามคืน เราเป็นคนกลัวผีนะคะ  แต่ก็มานั่งวิเคราะห์ว่า มันใช่รึเปล่า แต่เราก็ตื่น ขึ้นมา เจอในเวลาเดิม ทั้ง 3 คืน  เพื่อน ๆ อ่านแล้วคิดว่าไง.......ผี จริง หรือ ว่า เรา หลอน....... แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 51 11:09:25 จากคุณ : wynterblue - [ 22 ม.ค. 51 11:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สักประมาณสิบกว่าปีก่อน เคยไปเที่ยวป่าน้ำตก กับเพื่อนๆ ที่เมืองกาญจน์ค่ะ จำชื่อสถานที่ไม่ได้แต่ที่ๆไปมีถ้ำหินปูนขนาดใหญ่มากๆด้วย ทางเดินบางตอนในถ้ำเป็นเพียงไม้กระดานพาดระหว่างผาหินที่ไม่กว้างนัก มีทางเดินพญานาคด้วยค่ะ(ความเชื่อกระเหรี่ยง)... เข้าเรื่องเลยดีกว่า คือ พวกเราหลงป่ากันค่ะ หาทางออกไม่เจอ เดินไปเดินมาก็เจอต้นไม้ล้มพาดต้นเดิม อยู่นั่นแล้ว จะว่าเหนื่อย หิวข้าวหรืออย่างไรไม่ทราบ พอมีใครสักคนยกมือไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา พักใหญ่ๆต่อมานั่นเอง เขาผู้นั้นได้มายืนตรงหน้า หมวกสักหลาดใบเก่าๆ เสื้อซาฟารีปล่อยชาย คาดผ้าขาวม้า.....ไม่ได้มีอะไรอย่างนี้ออกมาหรอกค่ะ สักพักหนึ่งก็มี สุนัขสีขาว ตัวขนาดกลางค่ะ มายืนจ้องกลุ่มพวกเรา ออกมาทางไหนก็ไม่มีใครสังเกต เพื่อนบางคนก็กลัวว่ามันเป็นบ้ารึเปล่า บางคนก็กลัวมันกัด สักพัก มันพยักหน้าค่ะเหมือนจะเรียก ดิฉันกับเพื่อนอีกคนก็เดินเข้าไปหา(เพราะรักสุนัข) มันหันหลังให้ แล้วหันหน้ามาอีกที ผงกหัวอีก ทีนี้ตามมันไปเลยค่ะ ตะโกนบอกกันให้ตามมันไป มันเดินเร็วมาก ทิ้งช่วงห่างพอสมควร ที่ตลกคือบางตอนมันมุดพุ่มไม้ พวกเราต้องคลานตามมันไป เกือบชั่วโมงถึงหลุดไปเจอช่วงที่พวกเราจำทางได้ ...มัวแต่ดีใจกัน มันเดินหายเข้าป่าไปอีก กะจะให้ขนมกินซะหน่อย หายไปซะเฉยๆ เลย ตกกลางคืนเพื่อนเอาเหล้า ไปไหว้จุดธูปกลางแจ้ง .....ไม่ทราบว่าเป็นสิ่งศักสิทธิ์จัดให้ หรือสุนัขแถวนั้นมันฉลาดและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ที่แน่ๆ ประทับใจเจ้าขาวตัวนั้นมาก จากคุณ : walnutsoda - [ 22 ม.ค. 51 11:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ประสบการณ์แต่ละคน ช่างขนหัวลุก แต่ดีๆ ชอบๆ เอาอีกๆๆๆ จากคุณ : ภคิน - [ 22 ม.ค. 51 12:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แต่ละคน ได้ใจจริงๆ ไม่เคยเข้าป่าแบบจริงๆ จังๆ แต่เคยไปถ่ายสารคดีที่ทะเลน้อย จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่พาเราไปที่วางไข่นก ซึ่งเป็นป่าโกงกาง เป็นป่าพลุ คล้ายๆ ป่าชายเลนนั่นแหละ บรรยากาศเหมือนทะเลสาปมรณะไม่มีผิด เพราะเดินแต่ละก้าวนี่ จมน้ำโคลนไปครึ่งหน้าแข้ง ปลิงก็เยอะ โดนปลิงเกาะกันแทบทุกคน เดินส่องนกกันสักพัก เจ้าหน้าทีก็เดินพาอ้อมๆ บอกว่า ข้างหน้ามีงูเห่าตัวบะเร่อ T_T ให้เดินเบาๆ แต่ทำไงก็มีเสียงอยู่ดี เพราะเราเดินอยู่ในโคลน สักพักได้ยินเสียง จ๋อม!! ดังๆเหมือนอะไรตกน้ำ เจ้าหน้าที่บอกว่า งูเหลือมครับ T_T ทีมงานก็บอก กลับกันเถอะครับ ... เราโดนปลิงดูดไปสองที่ กลับมาล้างเนื้อล้างตัวเสร็จ ขาเป็นรอยถลอกเต็มไปหมด เพราะโดนรากไม้โกงกางบาดเอา แถมคันคะเยอไปทั้งขา ... ตอนนั้นมันไม่สนุก แต่นึกตอนนี้ สนุกดีจริง อยากไปอีก จากคุณ : กากีแกมเขียว - [ 22 ม.ค. 51 12:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พี่ คห 20 ออกอาการแบบนี้ เดี๋ยวก็เจอคุณหลาน คห 17 แซวอีกคนหรอก...55555 จากคุณ : เมย์32 - [ 22 ม.ค. 51 12:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อตอนผมขับรถไปสกลนครคนเดียว เพื่อตามเพื่อนๆ ไปถ่ายหนังสั้น ตอนนั้นเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ต้องถ่ายฉากกลางคืน ผมจึงรีบไป แต่รถผมเกิดเสีย หม้อน้ำแห้งอีก ยางก็ฉีก ในระหว่างการเดินทาง บรรยากาศวันนั้นถือว่าเลวร้ายมากๆ ฝนก็ตกหนักมาก และติดต่อกันเป็นเวลานาน ฟ้าก็ร้องอื้ออึงไม่หยุดหย่อน แทบมองไม่เห็นข้างนอก ผมมองหารถคันอื่น เผื่อว่าจะผ่านมาทางนี้บ้าง แต่ไม่เลย 30 นาทีแล้วยังไม่มี 1 ชั่วโมง ก็ไม่มี... จนเข้าชั่วโมงที่ 2... อยู่ดีๆ ก็มีมือจากด้านหลัง เอื้อมมาสกิดที่ไหล่ ขณะที่ผมนั่งอยู่ที่เบาะ ก็ผมมาคนเดียวนี่หว่า !! ผมสะดุ้งโหยงสุดตัวหันขวับกลับไปทันที ชายวัยประมาณ 60 ผู้เป็นเจ้าของมือบนไหล่ผมนั้นเอง "รถเสร็จแล้วครับ" ชายผู้นั้นบอกผม จากนั้นผมก็จ่ายเงินให้เขาไป แล้วขับรถออกจากอู่ของเขา ฝนก็หยุดตกพอดี (นึกว่าผมอยู่ในรถเหรอ ฮิฮิ) จากคุณ : Gerbkheeb - [ 22 ม.ค. 51 12:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มดแดงมันไม่กัดเอาหรือคะคุณเสี่ยวลี่ จากคุณ : ผู้หญิงเปรี้ยวหวาน  - [ 22 ม.ค. 51 00:59:12 ] มันก็เหลือเชื่ออยู่ค่ะ รู้แต่ว่า ตอนนั้นมีแต่คนชี้ๆ ไม่มีคนเข้าใกล้เราเลยค่ะ เราก็แบบวิ่งออกมาจากจุดนั้น ปัดๆ มดแดงที่ไต่ยั่วเยี้ยมาถึงหัวเข่าแล้วไง แล้วมันก็หายๆ ไปเองอ่ะค่ะ แปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะไม่โดนกัดเลยค่ะ นับว่าโชคยังดีอยู่มั๊งคะ คุณเจ้าของฝีเท้า เจอเรื่องสยองขวัญอะไรในพื้นที่สึนามิมั่งคะ เล่าได้มั๊ย มีเพื่อนเคยเจอประมาณแบบผู้หญิงผมเปียกน้ำเดินเล่นบนระเบียงโรงแรมแห่งหนึ่งแถวๆ เขาหลักค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 10:50:04 จากคุณ : เสี่ยวลี่ - [ 22 ม.ค. 51 13:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยเหมือนกันค่ะ แต่เป็นพี่ชายเจอนะค่ะ คือว่าเกือบ10ปีแล้วล่ะค่ะ กำลังจะกลับบ้านจากลพบุรีมากรุงเทพฯ ก็เลยแวะผ่านมาเข้าเขาใหญ่ค่ะ มาถึงก็ช่วงค่ำๆแล้ว(เข้าทางปากช่อง) ก็เลยแวะไหว์เจ้าพ่อเขาใหญ๋กัน พี่ชายก็เลยขอให้เจ้าพ่อคุ้มครอง พอไหว้เสร็จก็ลงมาที่รถแล้วขับเลยไปหน่อยเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ ทำธุระกันเสร็จ ก็เตรียมที่จะออกรถแต่รอพี่ชายอีกคนยังไม่มาค่ะ พวกเราก็เตรียมขึ้นหลังกระบะ พี่ชายอีกคนก็หันไปเห็นช้างค่ะ เขาก็เลยถ่ายรูปไว้ พอถ่ายรูปปุ๊ปช้างตัวนั้นก็วิ่งเข้ามากะจะชนรถเลยค่ะ อาเราก็เลยเร่งเครื่องหนีแปปนึง ช้างตัวนั้นก็ตกใจอะไรสักอย่าง แล้วก็วิ่งเข้าข้างทางไป พี่ชายอีกคนก็ออกมาจากห้องน้ำเพราะได้ยินเสียงรถ เขาก็เห็นอะไรแวบๆวิ่งเข้าข้างทางไป เลยวิ่งไปดู จุดที่ช้างวิ่งออกไปพอดีอ่ะค่ะ แล้วเขาก็ร้องเฮ้ย แล้ววิ่งขึ้นรถเลย แล้วเขาก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังด้วย จนรถออกมาจากเขาใหญ่ แวะเข้าปั๊มนั้นล่ะค่ะ เขาถึงยอมบอกว่า ที่เขาร้องเฮ้ยเพราะว่า เขาเห็น ผู้ชายคนนึงยืนอยู่ ตรงจุดที่ช้างวิ่งเข้าไปอ่ะค่ะ แต่หันหลังให้เขา(แต่ดึกๆป่านนั้นแล้วใครจะมายืนกลางป่า) เขาบอกผู้ชายคนนั้นใส่เสื้อมอฮ่อม และก็ใส่หมวกค่ะ อาเราเลยบอกว่าโชคดีที่เราแวะไหว้เจ้าพ่อกันก่อน            หลังจากนั้นพวกเราก็ยังไปเที่ยวเขาใหญ่กันอยู่ และก็ไม่ลืมที่จะไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ทุกครั้งค่ะ แต่ก็มีอยุ่วันหนึ่งที่ พี่ชายเราไปกัน2คนค่ะ แล้วขากลับพี่ชายเกือบที่จะขับรถเหยียบงู เขาก็ขับกันไปเรื่อย สักพักมีเสียงกิ่งไม้ใหญ่ๆหล่นใส่หลังคารถดังมาก รถก็ยวบลงตามแรงหล่นด้วยค่ะ เขาก็เลยออกไปดูกัน ปรากฎว่า ไม่มีอะไรเลยค่ะ กิ่งไม้ก็ไม่มี รอยบุบสักนิดยังไม่มีเลยค่ะ พี่ชายต้องยกมือไว้ขอขมา แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลยค่ะ และเมื่อ2-3ปีที่แล้วพี่ชายก็ได้ไปเที่ยวกับเพือนค่ะ ช่วงที่มีข่าวรถทั่วตกเขาพอดีค่ะ พี่ชายขับรถไปคนละคันกับเพื่อน ขับๆตามกันไป ขับไปสักพักเจองูข้างทางค่ะ ก็เลยจอดรถแล้วลงไปถ่ายรูปกัน พี่ชายก็ดับเครื่องรถแล้วก็ถอดกุญแจออก แต่ถ่ายรูปไปได้สักพัก รถดันติดเครื่องเองค่ะ แล้วก็ดับเองเป็นอยู่2ครั้ง เขาก็บอกหน้ากันกับเพื่อนแล้วแบมือให้ดูกุญแจรถ เขาก็มองหน้ากันแล้วก็กะว่าจะรีบขึ้นรถกัน แต่เขาก็ได้ยินเสียงรถวิ่งผ่าน แต่มันไม่มีรถวิ่งผ่านสักคันแต่ได้ยินเสียง เป็นรถทัวร์แล้วก็เสียงฉิ่งฉับ ร้องเพลงกันนะค่ะ เขาก็เลยรีบขับออกมาเลย ไม่ได้แวะถ่ายรูปอะไรกันอีก      มีอีกหลายเรื่องนะค่ะ แต่พิมพ์ไม่ไหว ไว้วันหลังมาพิมพ์ต่อค่ะ ปล.เหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเป็นตอนกลางคืนทั้งหมดค่ะ จากคุณ : aom_kasumi (Aom_kasumi) - [ 22 ม.ค. 51 13:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โห..  ถ้าป้าคห.22 ยังเรียกพี่แล้ว    ผมจะเรียกว่าอะไรได้ล่ะครับ     -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 22 ม.ค. 51 13:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระทู้สยองขวัญ ปนฮาป่าเดือดเลยค่ะ เอาอีก เอาอีก ชอบอ่าน................ จากคุณ : ~แอ่งน้ำซับ~ (Oases) - [ 22 ม.ค. 51 15:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ คห. 22 แอบเนียนเลยนะ คุณ คห.26 ก็เรียกพี่อย่างเดิมล่ะกันนะ  ไม่ต้องมาเพิ่มตำแหน่งให้หรอก ปกติก็ชอบเรื่องขนหัวลุกอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยมีใครยอมเล่า โดยเฉพาะป้าเป๋า กะ เจ้าตัวร้าย 2 รายนี้ เจอบ๊อยบ่อย (อิอิ... แอบแฉ) จากคุณ : ภคิน - [ 22 ม.ค. 51 18:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอเล่าประสบการณ์ของเพื่อนสนิทก่อนนะคะ... เมื่อสมัยเรียน ปวช.  ตอนปิดเทอม เพื่อนๆทั้งชาย-หญิง ประมาณ 10 คน ได้ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดกาญจนบุรี  เนื่องจากไม่มีเต๊นท์ ก็เลยว่าเข้าไปหาที่อาศัยนอนในอุทยาน  ระหว่างเดินๆเข้าไปบังเอิญ ไปเจอบ้านร้างอยู่หลังหนึ่งกลางป่า ทางไม่ไกลจากทางไปน้ำตก ก็ตกลง นอนกันที่นี่ อยู่กันทั้งหมด 14 วัน  จนคืนสุดท้ายก่อนจะกลับ เพื่อนๆก็นั่งกิน เหล้ากันตามปรกติจนดึก จนประมาณ ตี 1  ก็มีเสียงก้อนหินก้อนใหญ่ๆ ถูก โยนลงมาจากด้านบนหลังคาบ้าง  ข้างฝาบ้านบ้าง ประมาณ สัก 10-20 ก้อน ได้  เพื่อนๆ ก็ตกใจ เพราะคิดว่าอาจจะเป็นลิง หรือสัตว์ชนิดอื่นโยนลงมา ก็เลยลงไปเดินสำรวจรอบๆ บ้าน  แต่ไม่เห็นร่องรอยของหินที่จะถูกโยนมา อีกทั้งข้างฝาก็ไม่มีรอย  บนพื้นรอบๆบ้าน ก็ไม่มีหินแปลกๆ ต่างๆคนก็ต่าง กลัว  ไม่มีใครกล้านอนกัน  รอจนถึงเช้า ก็รีบกลับกันเลย  ระหว่างกลับแวะ กินข้าวที่ร้านค้า  แม่ค้าก็ถามว่าพวกน้องๆ ไปนอนกันที่บ้านร้างหลังนั้นกัน เหรอ  เจออะไรแปลกๆมั่งมั้ย เพราะบ้านหลังนั้นเค้าเอาไว้ตั้งศพที่จมน้ำตาย จากน้ำตก  พวกเพื่อนๆ เลยชวนกันไปขอขมา แล้วรีบกลับกรุงเทพกันเลย และหลังจากนั้นไม่กี่ปีที่ไป ก็ไม่เจอบ้านหลังนั้น เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานรื้อ ทิ้งไปแล้ว... จากคุณ : kiwipop - [ 23 ม.ค. 51 01:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาเล่าเรื่องที่เจอที่พื้นที่สึนามิค่ะ หลังจากประชุมดึกเพื่อเตรียมค่ายให้น้องๆ เสร็จประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ เราก็ต้องขับรถไปส่งน้องร่วมงานที่บ้านเค้าอยู่แถวทับละมุ ส่วนที่ทำงานอยู่บริเวณเขาหลักค่ะ ซึ่งบ้านน้องเค้าต้องข้ามเขาหลักไปลงอีกฝั่งหนึ่งแล้วเข้าแยกทับละมุไป  รถที่ขับก็เป็นรถกระบะแต่มีหลังคาและที่นั่งเหมือนรถสองแถว ขับเข้าไปผ่านศาลของกรมหลวงชุมพรฯก็ผงกหัวทำความเคารพเฉยๆ ไม่ได้บีบแตรเพราะว่าดึดแล้วเกรงใจพี่ทหาร แล้วก็ขับเลยไปพอช่วงที่จะผ่านโรงเรียนพระราชทานทับละมุ น้องคนที่นั่งมาด้วยก็เรียกชื่อเราขึ้นมา ก้ถามว่ามีอะไร  เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไร  เราก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ปล่อยผ่านไป ส่งน้องเสร็จเราก็ขับกลับคนเดียว พอผ่านโรงเรียนอีกครั้ง...กึก! กึก! มีคนดึงเบาะที่เราขับไปข้างหลังสองที ซึ่งถนนก็เป็นลาดยางและไม่มีหลุมบ่อหรือก้อนหินอะไร เราก็เริ่มคิดเพราะว่าลักษณะมันไม่ใช่แบบรถกระดอน  แต่มันเป็นการดึงเบาะไปด้านหลังและไม่ใช่เสียงตัวปรับเบาะ  เราก็เลยข่มใจมองไปทางกระจกมองหลัง  ซึ่งถนนสายนั้นจะมีเสาไฟสามารถมองเห็นได้ตลอดแต่ครั้งนี้พอมองออกไปกลับเห็นแต่สีดำมัวๆ อยู่ทางกระบะหลังไม่สามารถมองเห็นถนนได้  ตอนนั้นขนหัวลุกมากๆ แต่ใจเร็วไปนิสปากพล่อยด้วย ก็ตะโกนไปในรถว่า "นี่รถชั้นชั้นไม่อนุญาตให้ใครขึ้นมา ลงไปเลยนะ  ถ้าไม่ลงไปจะแช่วจริงๆด้วย ขอให้ไม่ได้ผุดได้เกิดเลย ถ้ามาไม่ดีนะ  ลงไปเลย"  ตอนนั้นกลัวมากกลัวเค้าโกรธ ก็ไม่รู้ว่าเค้านั้นเป็นใครหรือสิ่งใดหรอกนะ นึกถึงเสด็จเตี่ยก็ตายล่ะ! ขับผ่านมาแล้วทีนี้ต้องขับรถขึ้นเขาอีกรอบก็ภาวนาให้ถึงศาลเจ้าพ่อเขาหลักเร็วๆ ใจฝ่อมาก พอผ่านมาได้ ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อยบีบแตรทำความเคารพ ท่านแล้วก็ขับมาถึงห้องพัก เตรียมตัวเสร็จก็รีบเขานอนน้องคนนั้นก็โทรมาถามว่าถึงหรือยัง เรียบร้อยดีไหม ตัดสินใจไม่เล่าให้ฟังตอนนั้นเพราะว่าตัวเองก็กลัว  และก็ยังไม่ได้คิดอีกรอบว่าที่เราเจอนั้นคืออะไรก็บอกไปว่าไม่ต้องห่วงถึงห้องแล้ว ก็แต่นอนได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงโต๊ะหัวเตียงมีเสียงเคาะ เหมือนคงลงนิ้วทีละนิ้วไล่ไป สักประมาณสองสามรอบ ก็ลุกขึ้นมาฟังให้แน่ๆ ว่าเสียงอะไร ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เริ่มเซ็งเพราะว่าง่วงและเหนื่อยมาก ก็เคลิ้มๆอีกรอบทีนี้เป็นเสียงน้ำหยดอ่ะ ก็เลยเปลี่ยนที่นอนไปนอนอีกฟากของเตียง ไหว้พระด้วยคราวนี้ ก็ยังได้ยินนะแต่ด้วยความเพลียก็เลยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้   เช้าวันรุ่งขึ้นน้องคนเดิมก็เข้ามาถามอีกรอบว่าขับรถเมื่อคืนโอเคไหม  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอ  ทีนี้แหละนึกขึ้นมาได้ก็เลยถามน้องเค้าไปว่าทำไมถามแปลกๆ น้องเค้าก็เล่าว่าจริงๆ แล้วจะเล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อคืนแต่เห็นว่าขับรถกลับคนเดียว เลยยังไม่เล่า เรื่องจองเรื่องก็คือ  ตอนที่กำลังจะผ่านหน้าโรงเรียนเมื่อคืนน้องเค้าเห็นเหมือนตาแก่ๆ กำลังจะข้ามถนน เค้าก็เรียกเราเพราะเหมือนว่าเราไม่เห็นตาคนนั้น แต่พอรถเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าไม่มีขาแล้วก็ลอยข้ามถนนหายไป... ทีนี้ก็เลยเล่าให้ฟังทั้งที่ทำงานเลย ก็ไม่กล้าประชุมดึกอีก  สบายลูกน้องไป   ...นึกถึงเรื่องนี้ทีไรมันก็แจ่มชัดทุกทีความรู้สึกที่โดนดึงเบาะนั่นน่ะ หวิวมากเลย ขอบคุณที่ติดตามค่ะ จนทุกวันนี้ทำบุญทีไรก็ยังอุทิศไปให้ผู้ประสบภัยอยู่เลยค่ะ จากคุณ : เจ้าของฝีเท้า - [ 23 ม.ค. 51 01:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนอันนี้ ก็ประสบการณ์ เพิ่งผ่านมาหมาดๆเมื่อต้นปี ตอนขากลับจากแม่ฮ่องสอน  มาถึงออบหลวงตอนประมาณ 3 - 4 ทุ่ม เห็นรถกระบะเก่าๆ จอดอยู่ข้างทาง และเห็นว่ากระจกแตก เกือบรอบคัน แต่ไม่เห็นรอยชนกับอะไร  เราพยายามมองหาคน ว่ามีใครเป็นอะไรหรือเปล่า ให้เพื่อนที่ขับรถไป ชลอรถ เพื่อจะดู แต่ไม่เห็นมีใครอยู่รอบๆรถเลย เพื่อนก็รีบขับผ่านไปโดยไม่ชลอ  จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน เพื่อนถึงได้บอก ว่าตอนที่เราบอกว่าไม่เห็นใครเลยนั้น  เค้าเห็นผู้ชายใส่ชุดขาว ตัวใหญ่ๆ ยืนอยู่หน้ารถคันนั้น ... แต่  ทำไม เราไม่เห็นอ่ะ จากคุณ : kiwipop - [ 23 ม.ค. 51 01:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นเรื่องของพ่อ..ประมาณ 10 กว่ามาแล้ว  พ่อกับเพื่อนๆชอบไปนั่งห้างกันประสบการณ์ล่าสัตว์ของพ่อไม่หวือหวา เหมือนรพินทร์นักและขนาดปืนก็ใช้ล่าสัตว์ขนาดเก้งกวาง แต่ก็มีเรื่องเล่าให้สนุกสนานมากมาย เรื่องที่ลึกลับของป่ามีอยู่ว่า....      ในช่วงสงกรานต์ของปีหนึ่งแทนที่จะไปวัดกันกลับพากันไปทำบาป....ล่าสัตว์ขึ้นห้าง... แลนโลเวอร์ 2 คัน คน10 คน เกือบเอาชีวิตไปสังเวยให้เจ้าป่าเจ้าเขา ..... ในเขตป่าตอนเหนือของเชียงใหม่  คณะนำรถแลน 2 คันขึ้นไปนั่งห้างออกตัวเมืองก็เย็นแล้วพอเข้าเขตหมู่บ้านชายป่าที่เพื่อนพ่ออยู่ ก็ ตะวันตกดิน ในวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าแทบไม่มีเมฆเลย พ่อเป็นคนขับรถไปตามทางที่รถเข้าถึง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ยืนต้นใหญ่มั่นคงแข็งแรง เมื่อเข้าไปลึกมากขึ้น บรรยากาศเริ่มมืดลง  พ่อบอกว่า  ในวันที่ไม่มีเค้าของเมฆฝนนั้นอยู่ดีๆ  ก็เกิดลมกรรโชกแรงราวกับอยู่กลางพายุซึ่งไร้ฝน ต้นไม้ทุกต้นในตอนป่านั้นเคลื่อนไหวราวกับมีใครมาเขย่าทั่งป่า จากนั่นต้นไม้ใหญ่ริมสองทางนั้นต้นหนึ่งไหวน่ากลัวก็กระชากตัวลงมายังแลนโรเวอร์  พ่อกระชากพวงมาลัยหลบมาได้ หันหลังกับมาดูต้นยังยืนอยู่ที่เดิม ทุกสายตาเริ่มเห็นอะไรบางอย่าง    ต้นไม้แทบทุกต้นข้างทาง ที่ถูกลมกระหน่ำ     และราวกับมีมือยักษ์ที่มองไม่เห็นเกี่ยวมันลงมายังทางที่รถแลนที่เคลื่อนทีอยู่นั้น        ต้องใช้คำว่าเกี่ยวเพราะแต่ละต้นนั้นไม่ได้หักคนลงมา บนทางด่านแต่เหมือนกับมัน เอนลงเข้าใส่แล้วเอนกับไปตั้งต้นเด่น  เอนไปเอนมาไม่เข้ากับลมที่โหมอยู่เลย   ขณะทุกคนเริ่มคิดว่าแย่แน่ๆแล้ว   แล้วใครคนหนึ่งก็ตะโกนอย่างขวัญเสียว่า   " โอ้ย  บ่หื้อ ก่ บ่เอาก่ได้บ่ "  (แปล ไม่ให้ก็ไม่เอาก็ได้)       แล้วอยู่ดีๆลมก็หยุดลง ต้นไม้ทุกต้นหยุดการเคลื่อนไหวแค่นั้น ..มีแค่ลมบางๆโบกมาเตือนความจำ พ่อเองก็รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ จึงกลับรถหันหน้ากลับเข้าหมู่บ้าน อีกวันจึงกลับเชียงใหม่      เคยได้ยินพ่อคุยกันนานแล้ว  ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ พออ่านเพชร เลยไปถามพ่อ ช่วงนั้นเพื่อนพ่อก็มาเที่ยวพอดี พากันเล่าได้ปะติดปะต่อสนุกสนานเหมือนกับวันนั้นเราเดินทางไปกับพ่อด้วย   อ่านด้วยวิจารณญาน ละกันนะคะ    พ่อเล่าเรื่องนี้เราชอบเพราะมันได้ผจญกับสัตว์แต่ผจญกับป่าและสิ่งลึกลับในป่า  พ่อเล่าบรรยายกาศการนั่งห้างให้ฟังเนี่ยเข้าใจความรู้สึกคุณหญิงตอนนั่งห้างครั้งแรกเลย โอ้...ยาวไปแล้ว ไม่เคยโพตยาวอย่างนี้  โม้ไปนิด ความจริงมีอีกนะเนี่ย แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 12:03:33 จากคุณ : ฟ้าเปลี่ยนสี (kaewla) - [ 23 ม.ค. 51 11:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 hmmm, I'm scared yet I kept reading these stories, why oh why ?? and I'm home alone too, help me.........!! จากคุณ : Darin - [ 23 ม.ค. 51 13:34:00 A:75.4.229.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 อืม เรื่องมีอยู่ว่า แมวน้อยฯ เคยไปนั่งสมาธิที่วัดแห่งหนึ่ง(....)  พอกลางคืน เค้าก็ปิดไฟหมด แล้วนั่งสมาธิ พอผ่านไปสักพัก เหมือนมีนิ้วไครมาเขี่ยเล่นแถวไหปลาร้า นานใช้ได้ จากนั้นก็เริ่มสะกิดแรงๆ รู้สึกได้ถึงความเจ็บเลยค่ะ แต่ไม่เปิดตาดู ไม่เอามือไปจับ นั่งนิ่งแต่ใจก็สั่นกลัว สุดท้ายก็เลยไม่รู้ว่าเป็นอะไร จากคุณ : แมวน้อยtake off (แมวน้อยtake off) - [ 23 ม.ค. 51 14:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีแต่เรื่อง สัมผัสที่หก อ่า พอดีเป็นคนที่มีสัมผัสตรงนี้ค่อนข้างแรงและค่อนข้างตรง เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าให้ฟังค่ะ (จะว่างมานะเนี่ย - - ) จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 23 ม.ค. 51 18:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ค่อยได้เข้าป่าเท่าไรครับ แต่กระทู้นี้สนุกมากจริงๆ เก็บเข้าคลังเลยครับ ป.ล. รออ่านคุณเจ้าตัวร้ายอยู่นะครับ ^-^ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 19:34:30 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 51 19:33:00 จากคุณ : P Q BOY - [ 23 ม.ค. 51 19:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สนุกดีครับ รออ่านเรื่องต่อไปต่อ อ่านเพลินดีเหมือนกัน อิอิ ผมก็เจออะไรแปลกๆบ่อยๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรมาก เพราะคิดในแง่ดีไว้ก่อน อย่าง ปั่นจักรยานร้องเพลงไปกับเพื่อนสองคนตอนสี่ทุ่ม เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่กลางสี่แยกมืด จำได้ว่าเสื้อยืดสีขาว เพราะตรงมุมหนึ่ง มีไฟจากในสวนที่พอเล็ดลอดออกมา พอถึงสี่แยก ตัวชาเลย เพราะมองไม่เห็นหัวชายคนนั้น ผมกับเพื่อนก็นิ่งเงียบปั่นจักรยานเลี้ยวซ้าย โดยไม่มอง ไปที่คนนั้นอีกเลย แล้วก็มาถามกันว่าเห็นเหมือนกันมั้ย ก็ใช่อีก กลับถึงบ้าน เล่าให้พ่อแม่ฟัง ท่านก็บอกว่าตาฝาดแล้ว แต่ตอนนั้นกลัวมากๆ (แบบเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก) ยายก็ให้สายสิญจ์ผูกข้อมือและให้สวดมนต์ ในใจก็คงคิดว่าตาฝาดแหละมั้งตลอดมา ไม่อยากคิดว่าเจอจริงๆ (ต่อให้ผม ไม่เชื่อยังงัย ก็อย่าโผล่มาให้เห็นอีกนะครับ ได้โปรด ถึงจะไม่ค่อยกลัวอะไรแล้วก็ตาม เหอๆ  -*-) เอ๊ะ มันเกี่ยวกับป่ามั้ยเนี่ย แค่สวนเอง 55 จากคุณ : Reonard - [ 23 ม.ค. 51 21:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไปเทียวกับเพื่อนแล้วก้อไปเดินเล่นริมชายหาดตอน 5 ทุ่มกว่า ๆ อยู่ดี ๆ หมาแถวนั้นก้อเดินตาม ๆ ๆ ๆ เริ่มเพิ่มจำนวน มี 10 กว่าตัวได้ เราก้อเริ่มกลัว ๆ ๆ แล้วก้อเลยเดินกลับบ้านพักกัน มันก้อตาม เราก้อเลยหยุดเดินมันก้อหยุดเดิน พอเราเดินเร็ว ๆ มันก้อเดินเร็วตาม พอเราเดินจะเข้าบ้านพักไปมันก้อกรูกันมาล้อม แล้วก้อหอน ๆ ๆ ๆ เราก้อทั้งกลัวหมา กลัวผี พอสักพักมันก้อวิ่งเลยไป เราก้อรีบเข้าบ้านพักไป เห็นว่ามันวิ่งเลยไปแล้ว จะเข้านอนก้อได้ยินเสียงหมาหอนอีกเราก้อโผล่ออกไปดู มันมองเข้ามาในบ้านชั้นล่างแล้วก้อหอน ๆ ๆ ๆ ทั้งกลัวทั้งงง อะคะ จากคุณ : TK_1 - [ 23 ม.ค. 51 22:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาแล้วจ้า.... เรื่องมันมีอยู่ว่า ในช่วงประมาณ 4.30-5.00 ของเช้ามืดวันหนึ่ง ตัวร้ายได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเล่น แล้วบอกว่า "เตรียมชุดดำให้แม่ด้วย" ด้วยความที่หลับอยู่ได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาถามพี่ที่นอนห้องเดียวกันว่า "พี่ๆ เมื่อกี้ใครมาเรียก...เหรอ" พี่ที่กำลังพับผ้าห่มอยู่เลยตอบกลับมาว่า "ไม่มีนี่" ตัวร้ายเลยคิดว่า ตัวเองคงฝันไป และนอนต่อ เวลาผ่านไป....ประมาณ 6.00 น. มีคนมาตะโกนเรียกที่หน้าบ้าน ถามว่าแม่กลับมาจากตลาดหรือยัง ก็ตอบไปว่ายัง เกือบๆ 7 โมงเช้าเดินเข้าไปที่ร้าน ปรากฎว่าแม่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ ถามพี่ที่ร้านเลยได้ความว่า น้องสาวแม่อยู่ในเหตุการณ์รถแก๊สระเบิดที่เพชรบุรีตัดใหม่ จบแระ แหะๆ จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 24 ม.ค. 51 14:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ^ ^_^ เล่าบางนะ เรื่องแม่หมอมือใหม่ (ไม่ใช่ปรากฏการณ์ลึกลับ แต่ก็ทำเอาใจหายได้) คือเราและเพื่อนไปเที่ยวภูสอยดาวกัน ระหว่างอยู่บนภูกลางคืน ไม่มีไรทำ เราก็เลยเป็ฯแม่หมอฝึกหัดดูไผ่ยิปซี กางตำราดูเนี่ยแหละค่ะแปลกันโต้ง ๆ เป็นที่เฮฮากันไป แต่ที่ทำเอาเสียงเฮฮาหมดไปทีละนิดคือ ทุกคนได้ไผ่ใบ หนึ่ง ที่เหมือนกันค่ะ คือใบที่บอกว่าดวงจะเกิดอุบัติเหตุ โดยคนแรกเจอในตำแหน่งที่ผ่านมา 2 3 4 ตำแหน่งอนาคต เสร็จแล้ว พี่คนที่ 1 บอกว่าเพิ่งขับรถไปชนมา โห 3 คนเลยไม่ยอมดูต่อ (ตัวเองด้วยก็ไม่เปิด) รีบแยกย้ายไปนอน เช้าเดินลงมาแวะไหว้ศาลตรงทางขึ้นทุกคน แต่ละคนนานมากกกกกกกกก ธูปเกือบหมดดอก และทุกคนก็ถึงกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย แต่ วันต่อมา คนที่ 1 โทรมาพี่ถูกรถชน  คนที่ 2 ก็รถชน คนที่ 3 รถบัสที่นั่งเกิดอุบัติเหตุ ถ้าไม่ได้ไหว้ขอพร จะเป็นมากกว่านี้มั้ยเนี่ย พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็ต้องกราบขอบคุณมาไว้ก่อนเลยค่ะ ที่ไม่เกิดอะไรร้ายแรงตอนเดินทางกลับ (ระหว่างเดินทางถึงกรุงเทพ ไม่หลับเลยค่ะ) จากคุณ : jittra - [ 24 ม.ค. 51 15:42:42 ]