Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [Review]Eastern Promises : ทางแพร่งแห่งชีวิต[Spoiler Alert]

    คุณๆ ทั้งหลายครับ เคยกันบ้างไหม กับการที่เราผ่านช่วงชีวิตอันแสนรุ่งโรจน์ หน้าที่การงาน และสิ่งละอันพันละน้อยรอบๆ ตัวมันพุ่งสูงจนถึงขีดสุด สำเร็จเสร็จสิ้นได้ดั่งใจหวังราวกับชี้นิ้วสั่ง จนเราลืมเลือนเพื่อนเก่าบางคนที่เคยช่วยเหลือและร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาช้านาน สำหรับผม นักดูหนังแถว G นั้น ในช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ราบเรียบ สวยงาม ไร้อุปสรรค แน่ล่ะ กับหน้าที่การงานในนิตยสารเกมคอมพิวเตอร์ในอีกชื่อหนึ่งนั้น ทำให้ผมลืมเลือนเพื่อนแผ่นเซลลูลอยด์แห่งภาพยนตร์นี้ไปสนิทใจ จนกระทั่งในช่วงที่ผ่านมา ที่ทุกอย่างมันเหมือนโค้งพาราโบล่าตีกลับดิ่งเหวนั่นล่ะ ผมถึงได้หันกลับมามองและพบว่าตัวเองห่างหายจากมันมานานแค่ไหน ราวกับถูกแช่แข็งจำศีลและตื่นมาในโลกอนาคตกาล ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด นั่นก็หนังเรื่องใหม่ นี่ก็ข่าวสารแปลกๆ เป็นที่ทางที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย จนอดคิดไปไม่ได้ว่า คงถึงเวลาที่ต้องกลับไปหาเพื่อนเก่าผู้นี้กันอีกสักหนเสียแล้ว


    แต่ไม่รู้ว่าจะด้วยบุญกรรมนำส่ง หรือดัดจริตไม่ประสาใดๆ ของตนเอง ผมถึงตัดสินใจเลือกที่จะไปยังโรงภาพยนตร์ลิโด้ที่สยาม พร้อมกับตีตั๋วดูนาฏกรรมดราม่าเรื่องล่าสุดของเดวิด โครเนนเบิร์กโดยไม่ได้เตรียมใจอะไรไว้ก่อน ที่แม้ว่าจะยอดเยี่ยมทั้งเนื้อหา บทสนทนา พลังแห่งนักแสดง และนัยยะที่สามารถย่อยกลืนง่ายกว่า แต่ก็ทำให้ผมอดคิดเป็นกังวลไม่ได้ หากจะมาเริ่มเขียนวิเคราะห์วิจารณ์ภาพยนตร์ด้วยโจทย์ยากๆ เช่นนี้หลังจากเรื้อร้างห่างหายกันไปเกือบปี


    สำหรับ Eastern Promises ภาพยนตร์ดราม่าเรื่องล่าสุดของผู้กำกับแก่แต่เก๋า เก่าแต่ฉมังอย่างเดวิด โครเนนเบิร์กนี้ เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์การในห้องทำคลอดแห่งโรงพยาบาลทราฟัลการ์ ประเทศอังกฤษ ที่มีแอนนา (นาโอมิ วัตส์ ดาราสาวเจ้าบทบาท) สูตินรีแพทย์ชาวรัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบ แน่นอนเด็กคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย หากแต่คุณแม่ยังสาวผู้อุ้มท้อง กลับเสียชีวิตลงไม่มีโอกาสจะได้อุ้มเลือดเนื้อเชื้อไขของตน เหลือทิ้งไว้แต่กระเป๋าถือที่ใส่ของจุกจิกเล็กๆน้อยๆ พร้อมกับ ‘ไดอารี’ ภาษารัสเซียเก่าๆ หนึ่งเล่มเป็นของดูต่างหน้า สำหรับแอนนา ในฐานะแพทย์ผู้รับผิดชอบ รวมถึงการที่เธอต้องแท้งลูกไปถึงสองครั้งสองหน การปล่อยให้หนูน้อยที่พึ่งลืมตาดูโลกต้องกำพร้าพ่อแม่ กำพร้าบ้าน ไปอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์นั้น เป็นสิ่งที่เธอไม่อาจจะทำใจได้ จึงตัดสินใจหยิบยืมไดอารีดังกล่าว ออกตามหาร่องรอยของญาติพี่น้องของคุณแม่ผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันให้กับหนูน้อยกำพร้าในอนาคตข้างหน้าสืบไป


    แต่กระนั้น มีอยู่สิ่งหนึ่งที่แอนนาไม่อาจจะคาดเดาได้ล่วงหน้า เพราะไดอารีดังกล่าว ได้ชักนำเธอให้มาพบกับเหล่าวอแหร็ท ซาคอนยา ‘มาเฟียรัสเซีย’ ที่อาศัยในใจกลางกรุงลอนดอน สู่โลกที่เธอไม่คุ้นเคย ได้พบกับบุคคลอันตรายที่สุจริตชนไม่ควรยุ่งเกี่ยว ทั้งเซมยอน เจ้าพ่อสูงสุด ที่มีความลับดำมืดกุมชะตาชีวิตของหนูน้อยกำพร้า คิริล ลูกชายโทนของเจ้าพ่อผู้หุนหันพลันแล่น และนิโคไล (วิกโก้ มอร์เตนเซน ดาราเจ้าบทบาทที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจาก The Lord of the Ring และ The History of Violence) คนขับรถจอมเงียบขรึม ผู้เป็นตัวจักรสำคัญในนาฏกรรมแห่งการชำระบาปที่มีหนูน้อยกำพร้า กับการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งผลกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนในท้ายที่สุด


    มาถึงตรงนี้ ถ้าจะมีสิ่งใดที่ผมต้องขอชมกันในเบื้องต้นเกี่ยวกับ Eastern Promises นั้น คงหนีไม่พ้นเสน่ห์ของความ ‘น้อย ธรรมดา แต่เก๋า’ ของโครเนนเบิร์ก อย่างที่ทุกท่านทราบ ในช่วงหลังๆ ที่ผ่านมา ภาพยนตร์ของเขาจะเปลี่ยนแนวจากหลุดๆ หลอน ๆ (เช่น Videodrome ,The Fly หรือ Spider) มาสู่ความเรียบง่ายของตัวละครและเรื่องราว แต่เล่นลึกในประเด็นทางความคิดและศีลธรรมเป็นหลัก (อย่างเช่น The History of Violence ที่ผ่านตาไปเมื่อสามปีก่อน) ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังรักษามาตรฐานดังกล่าวไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา เพราะทั้งสูตินรีแพทย์ มาเฟีย และเด็กกำพร้าเป็นสิ่งที่มี และพบเห็นได้ในสังคมปัจจุบันทั่วไป แต่จะมีสักกี่ครั้ง หรือความเป็นไปได้สักเท่าไหร่ที่องค์ประกอบเหล่านี้จะมาเผชิญหน้าในเหตุการณ์ที่มีจุดร่วมเดียวกัน มันดูราวกับเป็นความบังเอิญประหลาดที่ถูกชักนำด้วยมือที่มองไม่เห็น และด้วยความธรรมดาของตัวละครนี้เอง ที่ช่วยหนุนส่งเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาให้โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว


    อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจะเป็นหมัดเด็ดที่สุดสำหรับ Eastern Promises นั้น กลับอยู่ที่ ‘นัยยะทางเนื้อหา’ ที่ผมลองใช้มันสมองอันน้อยนิดของตัวเองวิเคราะห์ดู ก็พบว่ามันเป็นอะไรที่ ‘ง่าย’ กว่าที่เคย (แม้จะพลิกตะแคงทะแยงหลายตลบ หาและดูในมุมอื่นๆ มาบ้างแล้วก็ตาม) และ ‘ทรงพลัง’ กว่าเก่า หลายเท่าตัวนัก


    ภายหลังที่แอนนาได้รู้จักกับเซมยอน ชายชราแก่ใจดี ที่มีปูมหลังเป็นขุนมาเฟียแห่งแก๊งส์รัสเซีย และขยายผลการสืบตามจากข้อมูลในไดอารีที่เธอได้รับมาจากคุณแม่ผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลนั้น ตัวหนังก็ค่อยๆ ฉายให้เห็นถึงความเป็นจริงอันน่าเศร้า ที่ซ่อนอยู่หลังตัวอักษรเก่าคร่ำคร่า….


    เพราะหญิงสาวที่แอนนาทำคลอด แท้จริงแล้ว คือโสเภณีในสังกัดของแก๊งส์ และพ่อของเด็ก ก็หาใช่ใครอื่น….นอกจากเซมยอน เจ้าพ่อสูงสุด ที่กระทำชำเราหล่อนด้วยตัวของตัวเอง


    ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว หลังจากที่ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว ถ้าเป็นคนปกติทั่วไป ย่อมกริ่งเกรงและถอนตัวออกจากเรื่องราวดังกล่าว เพราะการไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสำคัญของทุรชนเช่นนี้ มีแต่เสียกับเสีย แต่กระนั้น


    แอนนากลับตัดสินใจที่จะผลักดัน และพยายามให้เซมยอนรับหนูน้อยกำพร้าไปอยู่ในความดูแลของเขาอย่างสุดความสามารถ


    มันเป็นทางเลือกที่บ้าบิ่น และเสี่ยงตายอย่างมาก เพราะแน่นอนว่า ถ้าเซมยอน ในฐานะขุนมาเฟียระดับสูง ยอมรับเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง ก็เท่ากับเป็นความอัปยศครั้งสำคัญของแก๊งส์ และเป็นจุดอ่อนให้เหล่าตำรวจที่พร้อมจะทลายล้างอาณาจักรอาชญากรรมแห่งนี้ให้พังพินาศ เข้าประชิดได้ทุกเมื่อ และแม้ลุงผู้เป็นอดีต KGB จะโน้มน้าวให้เธอปล่อยเรื่องไว้กับตำรวจ แต่แอนนาก็ยังคงยืนกรานในความตั้งใจเดิมของตนต่อไป


    ไม่รอช้า โครเนนเบิร์กตัดสลับการเดินเรื่องกลับไปที่นิโคไล คนขับรถผู้เงียบขรึม นักกำจัดศพผู้ด้านชา ที่ตัวหนังค่อยๆ เผยออกมาว่า แท้จริงแล้ว เขาเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่ทางตำรวจรัสเซียส่งมาเพื่อบ่อนทำลายแก๊งส์ของเซมยอน อย่างไรก็ตาม สีหน้าตายด้านอันทรงพลัง และน้ำเสียงที่ขรึมเงียบของวิกโก้ ก็ทำให้เราเหล่าคนดูรู้สึกได้ว่า นิโคไล ตำรวจลับผู้นี้ เหนื่อยหน่ายและเบื่อกับภาระจำทนของตนเองนี้เต็มแก่ แต่ในขณะที่พยายามหาทางปัดแอนนาแพทย์สาวออกจากวังวนอุบาทว์และไม่ให้เผชิญลูกหลงจากภารกิจของตน ข้อความในไดอารีที่ผ่านตาทั้งหมด ทำให้เขาพบว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะใช้เป็นอาวุธในการโค่นล้มอาณาจักรของขุนมาเฟีย พร้อมกับช่วยเหลือหนูน้อยกำพร้าให้พ้นจากแวดวงอโคจรไปในทางเดียวกัน เขาตัดสินใจที่จะก้าวต่อ และดำเนินแผนการณ์สร้างความไว้วางใจจากเซมยอนให้กับตัวเอง ไต่เต้าสู่จุดที่จะสามารถดำเนินการใดๆ ได้โดยไม่ติดขัด


    เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงไคลแมกซ์ เมื่อเซมยอน สั่งให้คิริลลูกชายโทน นำตัวหนูน้อยกำพร้าไปกำจัดทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด คิริลจำใจต้องทำตามคำสั่งทั้งน้ำตาในขณะที่มองใบหน้าของเด็กน้อยในอ้อมกอด เขาเองแม้จะหุนหันมุทะลุ ขี้เมาไม่เอาถ่าน ไม่อาจเทียบได้กับนิโคไลผู้เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนสนิท แต่ก็ใช่ว่าจะโฉดอำมหิตโดยสันดาน ลึกๆแล้วเขาเองก็นึกค้านการกระทำเหล่านี้ แต่อีกเสียงในใจก็โหยหาการยอมรับในฐานะลูกชายจากพ่อที่ตนไม่เคยได้ เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากยิ่งนัก….


    จากกรณีที่เกิดขึ้นในเรื่อง (แน่นอนว่าหลายท่านอาจจะบ่นด่า ว่าผมจะ Spoil หมดไส้ไปทำซากอะไร -_-!) ถ้าสังเกตดีๆ จะมีจุดร่วมหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจน และถ้าจะให้ผมสรุปเป็นคำสั้นๆ ที่เป็นหัวใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น….


    “ทางเลือก….”


    อันที่จริง ประเด็นที่ว่าด้วยทางเลือกนั้น ไม่ใช่ของใหม่ มีภาพยนตร์หลากหลายแนวหยิบยืมไปใช้มานักต่อนัก และมีวิธีการนำเสนอและนำพาเรื่องราวไปสู่บทสรุปที่แตกต่างกันออกไป แต่โครเนนเบิร์กกลับเลือกใช้วิธีที่แยบยลและเรียบง่าย เริ่มต้นพิจารณาในแต่ละตัวละคร ถ้าเราดูในทุกๆ ทางเลือกของพวกเขาทีละคน จะพบว่าสามารถเลือกในทางอื่นๆ ได้เสมอ แอนนาสามารถเลือกที่จะทิ้งเรื่องราว ปล่อยมันไปตามยถากรรม เพื่อความปลอดภัยของเธอ แม่ และลุงจากเหล่ามิจฉาชีพ แต่ตัวละครนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ใส่ใจว่าโลกของมาเฟียจะเป็นเช่นไร วงการอาชญากรรมจะอันตรายแค่ไหน สิ่งที่อยู่ในหัวใจของเธอมีเพียงชีวิตของหนูน้อยกำพร้าที่เป็นประหนึ่งตัวแทนลูกในอกที่ตกตายในท้องถึงสองครั้งสองคราของตนเองแต่เพียงเท่านั้น


    นิโคไลเองก็เช่นกัน เขารับหน้าที่ตำรวจลับด้วยความรู้สึกที่ด้านชาลงทุกขณะ เส้นแบ่งระหว่างความถูกต้องดีงาม และโลกแห่งอาชญากรรมเริ่มซ้อนทับกันจนแยกไม่ออก แต่การตัดสินใจของแอนนา ช่วยปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์หลับใหล และไม่หลงลืมว่าตนเองเป็นใคร และควรจะทำอย่างไรกับเรื่องราวทั้งหมด
     

    จนมาถึงคิริล ลูกชายโทนของขุนมาเฟีย เขาหุนหันไม่ฟังใคร ดุเดือดก้าวร้าว แต่ลึกๆ แล้วก็มีธาตุดีอยู่ในตัว หาใช่คนชั่วอำมหิตอย่างผิดวิสัยไม่ ในระหว่างทางแยกของการตัดสินใจ ทั้งนิโคไลและแอนนาต่างมาได้จังหวะประจวบเหมาะนั้น แน่นอน ด้วยจุดร่วมเดียวกันคือการช่วยเหลือหนูน้อยกำพร้าให้รอดชีวิต การตัดสินใจของแอนนา ส่งผลมายังนิโคไล และของทั้งสอง ช่วยฉุดรั้งคิริลออกจากเส้นที่ไม่อาจก้าวข้าม ให้กลับคืนฝั่งอีกครั้ง รวมถึงชีวิตของหนูน้อยด้วย


    ลองมองในมุมกลับ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแอนนาตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกมาเฟีย ไม่ทุ่มทั้งชีวิตเพื่อปกป้องหนูน้อย สิ่งต่างๆ ก็คงกลายสภาพเป็นความเลวร้าย และทำลายชีวิตของใครหลายต่อหลายคนที่เกี่ยวข้องลงในพริบตา….


    ทุกอย่าง….เริ่มต้นแค่ทางเลือกเล็กๆ….แต่กลับมีผลมากมายถึงเพียงนี้…..



    (ต่อที่โพสท์ด้านล่างนะครับ ^ ^)

    แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 51 22:53:41

    จากคุณ : บ้าเกม - [ 24 ม.ค. 51 22:51:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom