CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง}วิธ มายเซลฟ์ ; "Sweeney Todd" ...'ความแค้น'ไม่เคยช่วยอะไร รังแต่จะช่วยให้ตายไวกว่าเดิม (เช่นเดียวกับ'เซ็นเซอร์')

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (14 คน)
      เกรด B -> 6-8 คะแนน (3 คน)
      เกรด C -> 3-5 คะแนน (0 คน)
      เกรด D -> 1-2 คะแนน (2 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 19 คน

     73.68%
     15.79%
     0.00%
     10.53%


    เราเคยได้ดูได้เห็นในเรื่องราวเนื้อความของ 'ความแค้น' บนแผ่นฟิล์มมาอยู่มากมายหลากหลายประเด็นแล้ว ...เราเคยได้สนุกทะลุจักรวาล เมื่อ ลุค สกายวอร์กเกอร์ พยายามตามล้างตามล่า คนที่ฆ่าอาจารย์ที่เขารัก (หากสุดท้ายกับเจอเรื่องที่ทำให้แค้นใจตัวเองมากกว่า) ใน "Star Wars" ...เราเคยลุ้นเลือดสาด เมื่อ เดอะ ไบรด์ ต้องเพียรเดินทางข้ามโลกเพื่อปลิดชีพของผู้สมรู้ร่วมคิดเคยฆ่าเธอ ใน "Kill Bill" ...และก็เคยระทึกหดหู่ใจสุดกู่ กับการเก็บบัญชีแค้นที่เคยทำให้คนๆหนึ่งตายทั้งเป็นมาฟรีๆ ในตระกูลหนังไตรภาคของผู้กำกับ "ชาน-วุค พาค" (หนึ่งในนั้นก็คือ "Oldboy" ที่ทุกคนต้องจำภาพฉากตัด..อวัยวะบางชิ้น..ได้จนติดตา)

    แต่ถึงกระนั้นแล้ว สารบบของ 'ความแค้น' ก็ยังไม่เคยมีวันจะได้จบสิ้น... ตราบใดที่วัฏจักรของการโดนกระทำ ที่ต่อเนื่องไปสู่การเป็นผู้กระทำกลับ ยังคงเป็นเรื่องที่สากลโลกต้องพบเจอ และสามารถนำมันมาขายเป็นหนังได้ไม่รู้จักจบจักสิ้น

    แม้กระทั่งกับผู้กำกับที่ได้ชื่อว่า 'เซอร์แด๊ก'ตลอดศก คลั่งความ'ติสต์ตลอดกาล อย่าง "ทิม เบอร์ตัน" ก็มีอาจห้ามใจจะหยิบฉวยนำเรื่องราวแสนสากลนี้ มาขายเป็นหนังเรื่องล่าสุดของตัวเอง ที่ก็ยังเคยได้ชื่่อว่าสร้างมาจากละครเวทีที่เข้าขั้นอมตะอีกเรื่องในโลกของบอร์ดเวย์

    "Sweeney Todd : The Demon Barber of Fleet Street" ... เป็นเรื่องราวเนื้อความของ 'ความแค้น' ที่ถูกจุดประกายมาจากหนังสือนิยายเก่าแก่ที่ว่ากันว่า มันนำมาเขียนจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริง ...โดยมีลอนดอนในช่วงยุควิคตอเรียน เป็นฉากหลังแห่งความแค้น ของชายหนึ่งคน ที่ต้องสูญเสียความเป็นคนที่มีความสุข ไปด้วยข้อกล่าวหาจากใครบางคนที่ยัดเยียดความทุกข์อย่างตั้งใจ

    15 ปีต่อมา ของชายที่ชื่อ "เบนจามิน บาร์กเกอร์" ...ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาไปจนสิ้นเชิง กระทั่งกับชื่อเก่าก็ยังถูกลบล้าง และกลับมาสู่วังวนแห่งการเอาคืน ที่ตั้งชื่อแห่งความแค้นให้กับตัวเองเสียใหม่ว่า "สวีนนีย์ ทอดด์"

    แม้ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจะไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ก็ยังอยู่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน แถมยังได้รับการสืบทอดแห่งแข็งแกร่ง และรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ...นั่นก็คือ คมมีดเล่มเก่าที่ยังอยู่ในมือของ สวีนนีย์ กับฉากหน้าที่เขารับบทเป็นช่างตัดผมมือเยี่ยม เพียงผู้เดียวแห่งถนนฟลีท

    สวีนนีย์ ได้สู้อุตส่าห์เก็บงำความแค้นที่ยังฝังอกมาตลอด 15 ปีทีผ่านพ้น ...เพียงต้องการจะทำทุกวิถีทางเพื่อปาดคอผู้ชายเพียงหนึ่งเดียวที่เคยแย่งของรักของเขา สองสิ่ง ไปตลอดกาล ...เมียสุดที่รัก และลูกสาวแสนงาม คือ สองสิ่งที่มีชีวิต และยังเคยเป็นชีวาที่ไม่อาจคาดฝันว่าจะทำให้เขาต้องมีชีวิตที่ทุกข์ทนเยี่ยงนี้ ด้วยน้ำมือของผู้พิพากษาใหญ่แห่งลอนดอน นาม "เทอร์ปิน"

    จากฉากหน้าของการเป็นช่างตัดผม ซึ่งโกนหนวดได้เนียนที่สุดบนถนนฟลีท... เขาเลือกจะใช้งานบังหน้าเพื่อเป็นการระบายความแค้น เข่นฆ่าผู้คนที่มีฐานะลาภยศสูงกว่า ใช้มีดคู่ใจปาดคอเลือดสาด อย่างไม่เว้นหน้าและไม่สนว่าใครจะมาเอาคืน... ถ้านั่นจะเป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุด ที่ทำให้วันที่เขารอคอยมาทั้งชีวิตสิ้นสุดลงตรงหน้าพร้อมกับการตายของ เทอร์ปิน ในที่สุด

    อ้าว!!! แล้วศพของคนที่ตายไป จะเอาไงดีล่ะ? ...ก็จะยากอะไรเล่า ในเมื่อเบื้องล่างร้านตัดผมของสวีนนีย์ ก็ยังมีร้านพายเนื้อของ "มิสซิส เลิฟเว็ตต์" รองรับรอคอยจะเอาเนื้อของ..(ก็นั่นแหละ).. มาทำเป็นไส้ในของพาย ที่ขายดิบขายดีที่สุึดแห่งถนนฟลีท เลยทีเดียว ...หยึ๋ยยยย!!!

    (ตั้งแต่บรรทัดนี้ จะมีการ SPOILER เรื่องราวในหนัง...ถ้ายังไม่ได้ดู อย่าเพิ่งอ่านจะดีกว่า)








    เรื่องราวของความแค้นใน Sweeney Todd อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องราวที่มาจากพิมพ์เขียวเดียวกัน กับหนังอีกหลายต่อหลายร้อยเรื่องที่่ว่ากันด้วย การโดนกระทำ และต้องเอาคืนอย่างสาสม ...แต่กับสิ่งที่แตกต่างออกไปจากสารบบของคำว่า 'ความแค้น' ในตอนจบของหนัง ก็คือ ความจริงที่มันไม่ได้ช่วยอะไรเอาไว้ให้มันดีขึ้นได้เลย

    วันเวลา 15 ปี ที่ต้องแลกไปกับความทุกข์แสนสาหัส อาจจะเป็นเหตุผลที่ฟังแล้วขึ้นสำหรับการเอาคืนของคนหนึ่งคนที่สูญเสียความสุขอย่างสิ้นเชิงและถาวร... แต่แล้วมันจะสร้างความสะใจทำให้สภาพจิตของเขาดีขึ้นกว่าเดิมได้เหรอ ?

    เริ่มต้นแต่มีดคมแรกที่ปาดลงไปบนคอของเหยื่่อที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่เกี่ยวเนื่องอะไรด้วยเลย ...นั่นก็แสดงออกได้ว่า จิตของ สวีนนีย์ หลุดลอยจากความเป็นคน ไปจนถาวรแล้วจริงๆ

    แล้วเมื่อเลือดของเหยื่อรายแล้วรายเล่า ถูกปาดให้สาดกระจายเลอะเต็มใบหน้าและคมมีดที่กรีดเฉือน จากหนึ่ง เป็นสอง จากสอง เป็นสี่ จากสี่ เป็นสิบ... นั่นก็ยิ่งบ่งชี้ว่า สวีนนีย์ ไม่มีทาง และจะไม่มีวัน ได้หลุดจากตัวตนอันบ้าคลั่งที่เขาตั้งใจสร้างขึ้น ...ต่อให้เหยื่อรายสุดท้าย อย่าง เทอร์ปิน จะเป็นศพที่สิบ หรือ ศพที่ร้อย ก็ตามที ก็ไม่มีสิทธิ์จะหยุดความจริงที่เขาเลือกจะเป็นนี้ไปได้เลย

    นั่นยังไม่รวมกับการหลอกลวง ที่สวีนนีย์ พยายามใช้คนรอบข้างเป็นเครื่องมือระบายความแค้นจนไม่ลืมหูลืมตา ...แม้กับคนที่รักเขา และเชื่อใจเขามากที่สุด อย่าง มิสซิส เลิฟเว็ตต์ ก็ไม่เคยเป็นคนดีที่ได้อยู่ในสายตาเลยสักครั้ง

    การหลับตาเพื่อล้างแค้น... อาจเป็นวิธีการเอาคืนที่ดีที่สุดที่ทำให้งานของ สวีนนีย์ จบลงได้สมบูรณ์แบบ ...แต่มันก็เลวร้ายที่สุดเช่นกัน ที่ยิ่งทำให้เขาไม่เคยจะเปิดใจเพื่อยอมรับกับอดีตที่เลวร้าย ไม่รับความหวังดีจากคนที่อยากให้ปัจจุุบันของเขาไม่ต้องจมปลัก ...ช่างน่าเสียดายและสงสารที่คำว่า "ให้อภัย" คงไม่มีวันได้หลุดจากปากของคนๆหนึ่งที่ชีวิตทั้งชีวิต ที่เหลือยอมจะอุทิศให้กับการเป็นฆาตกรอย่างสมบูรณ์แบบ

    และก็เป็นอย่างที่ผมคาดคิดเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อ เทอร์ปิน ไม่ใช่ศพสุดท้ายที่ได้สังเวยความกระหายเลือดของ สวีนนีย์ ...แต่คนที่โชคร้ายในท้ายที่สุดคนนั้น กลับเป็นหญิงแก่สติเลอะเลือนคนหนึ่ง ที่ช่างมีใบหน้าเหมือนกันกับอดีตผู้หญิงคนที่เขารักมากที่สุด

    สวีนนีย์ ทอดด์ จบเรื่องราวทุกอย่างได้โดย การฆ่าเมียของตัวเองตายด้วยน้ำมือและคมมีดคู่ชีวิตตัวจริงของเขา ...นี่คือ ความจริงที่โหดร้ายที่สุดที่เขาต้องกลับมาเผชิญ และสามารถบรรลุมันลงได้ ด้วยจิตใจที่ไม่หลงเหลือความเป็น เบนจามิน บาร์กเกอร์ ที่แสนดีผู้นั้นอีกต่อไป

    ไม่ใช่แค่ฆ่าเมียเท่านั้น ...เขายังเกือบฆ่าหญิงสาวอีกคน ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวของเขา (แต่ก็โชคดีที่มีอะไรบางอย่างเบนความสนใจไป และสุดท้ายอะไรบางอย่างนั้นก็ทำให้เขาไม่มีวันได้เจอใบหน้าลูกสาวคนเดียวของเขาได้อีกเลยตลอดทั้งชีวิต) ...และสวีนนีย์ก็เลือกจะจบวังวนแห่งการเอาคืน ด้วยชีวิตของผู้หญิงอีกหนึ่งที่รักเขา แต่เขาไม่เคยรู้ตัวเลย ในสิ่งที่เธอพยายามทำเพื่อเขามาโดยตลอด

    ก็อาจจะถือเป็นเรื่องที่น่าสมควรอยู่เหมือนกัน สำหรับจุดจบของ มิสซิส เลิฟเว็ตต์ ที่มีจุดเริ่มต้นของความมีใจ เป็นเหตุจำเป็นที่ทำให้เธอต้องโกหกปิดบังความเป็นจริงของอดีดคนรักของสวีนนีย์ ...แต่มันเป็นเรื่องที่ผิดเหรอ ? ที่ผู้หญิงที่แอบรักและห่วงใยในผู้ชายคนหนึ่งเลือกจะไม่บอกความจริง เพียงต้องการให้ผู้ชายคนนั้นเลิกจมปลัก และตื่นลืมตาขึ้นมาเพื่อยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ ...

    มิฉะนั้น เลิฟเว็ตต์ จึงย่อมไม่ใช่คนที่ผิดในเรื่องนี้ ...หากแต่วิธีที่เธอเลือกมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุดที่จะทำให้ สวีนนีย์ จบเรื่องราวทุกอย่างได้อย่างมีความสุขเช่นกัน

    ฉากสุดท้ายของ Sweeney Todd ที่เป็นการจบซึ่งเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกนำพามาด้วยความแค้น ถือว่าเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมและทรงพลังเป็นที่สุดในความคิดของผม... เมื่อคมมีดคู่ใจที่เขาศรัทธา กลับเป็นเครื่องมือที่ร้ายกาจที่สุด ที่ปลิดชีวิตชายชื่อ สวีนนีย์ ทอดด์ ด้วยน้ำมือของคนนอกที่ได้รับรู้ความชั่วร้ายพยาบาทอันสมบูรณ์แบบที่เขาได้สั่งสมสร้างมาตลอดทั้ง 15 ปี ...มันเป็นได้ทั้งความสะใจ และสะเทือนอารมณ์ ที่บ่งนิยามอันแท้จริงของความแค้น ได้รุนแรง(จนเลือดสาด) และงดงาม(อย่างเจ็บปวด)เป็นที่สุด

    เท่าที่ผมดูหนังแค้นๆฆ่าๆมาพอสมควร ...ก็เพิ่งมีเรื่องนี้ ที่สื่อสารความหมายของคำว่า "แค้น" ได้ดีโดนใจผมที่สุด  









    (จบการ SPOILER)

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 51 14:11:40

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 51 14:10:52

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 1 ก.พ. 51 13:50:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com