CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "American Gangster" ... อีกครั้งที่เส้นแบ่ง'กฎหมาย' นำ 'เจ้าพ่อ' กับ 'ตำรวจ' มาพบกันที่ปลายทาง

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (9 คน)
      เกรด B -> 6-8 คะแนน (2 คน)
      เกรด C -> 3-5 คะแนน (1 คน)
      เกรด D -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     75.00%
     16.67%
     8.33%
     0.00%


    เมื่อ เส้นทางของ'คนนอกกฎหมาย'คนหนึ่ง ที่ต่อสู้ควบคู่ไปกับการไต่ระดับเติบโตทางอำนาจบารมีอันพอกพูน ต้องมาเกี่ยวเนื่องทับเส้นบน เส้นทางของ'คนในกฎหมาย'อีกคนที่ใช้ชีวิตที่มีทั้งหมดทุ่มเทเพื่อตามล้างตามจับคนที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดแล้ว ...เรื่องราวของ "American Gangster" จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกมองว่าเป็นการพยายามผสมพลอตเดิมๆที่เคยชินตาให้เหมือนมีอะไร แต่ที่มีที่ว่าก็ล้วนแต่เป็นของคุ้นๆอยู่แล้ว ...หากความคุ้นที่ว่านี้ไม่มีคำว่า 'เจ้าพ่อ' เข้ามาแทนที่คำว่า 'โจร' ซึ่งเป็นเรื่องที่หนังทำให้รู้สึกแตกต่างออกไปเล็กๆน้อยๆ

    American Gangster ...นำเสนอเรื่องราวอันเคยคุ้นของสองคนสองคม ที่ต่างก็อยู่กันคนละฝากฟั่งของบทกฎหมาย ...คนแรก คือ เจ้าพ่อ ผู้เคยมีชีวิตอยู่อย่างลำบากแต่หนหลัง และใช้ประสบการณ์ที่เคยมีเพื่อไต่เต้าขึ้นมาเป็นที่หนึ่งในหมู่มวลเจ้าพ่อด้วยกัน ...ส่วนอีกคน คือ นายตำรวจ ที่ยอมจะมีชีวิตที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อเอาชนะทุกเรื่องที่ถือเป็นความผิดในสายตาของเขา

    "แฟรงค์ ลูคัส" ...คือ คนหนึ่งผู้โชคดี ที่ได้รับการชุบเลี้ยงและไว้ใจจากเจ้าพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งย่านฮาเล็ม (ในนิวยอร์ค) ...เขาถือเป็นมือขวาผู้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่เคียงข้างกับคนที่เขานับถือเป็น พ่อ อีกคน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แฟรงค์ก็คือคนๆเดียวที่ได้อยู่เห็นในนาทีที่จากไป ...เมื่ออำนาจอันยิ่งใหญ่ กลับไร้ซึ่งคนจะรับช่วงต่อ คนๆนั้นที่โชคดีควรจะได้รับมันไป ก็ย่อมต้องเป็น แฟรงค์ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ...และวิธีการที่แฟรงค์จะสามารถรักษาดุลอำนาจในถิ่นฮาเล็มได้อยู่ต่อไปอย่างที่ดีที่สุด ก็คือ การใช้บรรทัดฐานของการเป็นเจ้าพ่อ เข้าไปมีเอี่ยว ทำการแบ่งผลประโยชน์กับการค้ายาเสพติดจากตลาดมืด

    "ริชชี่ โรเบิร์ตส" ...คือ นายตำรวจตงฉินหนึ่งในน้อยคนของนิวยอร์ค ที่นับถือตัวบทกฎหมายเสียยิ่งกว่าเงินทองของมีค่าอันล่อตาล่อใจ ...เขาพยายามจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางโลก เพียงจะจัดการสร้างระเบียบแบบแผนอันดีต่อสังคม อันเป็นจรรยาบรรณของตำรวจที่เหลือคนยึดมั่นมันน้อยลงเรื่อยๆ ...หากแม้ชีวิตการเป็นตำรวจที่ดีของโรเบิร์ตส จะทำให้เขาเป็นที่ชื่นชมของคนรอบข้างก็ตามที ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีเรื่องที่โชคร้ายบัดซบเกิดขึ้นกับชีวิตของผู้ชายหนึ่งคน ที่กำลังจะสูญเสียภรรยาและลูกไป ด้วยกฎหมายที่ต้องการจากพรากให้หย่าร้าง ก็พยายามเล่นงานให้เขาต้องเสียการทรงตัวอย่างรุนแรง

    แฟรงค์ ...พยายามประคับประคองสถานภาพของตัวเอง ให้เข้าใกล้คำว่า ยิ่งใหญ่ เข้าไปเรื่อยๆทุกขณะ...ด้วยสุดยอดแห่งยาเสพติดที่เรียกขานกันนามว่า "บลูเมจิค" (ผงขาวที่มีความบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ราคาถูกจนน่าใจหาย ...ซึ่งใช้ช่องโหว่ในสถานการณ์สงครามเวียตนามอันรุนแรง ลอบนำเข้ามาด้วยการคอรัปชั่นในวงการการเมือง)

    โรเบิร์ต ...พยายามจะหาหนทางเพื่อเข้าใกล้ ตัวการที่กำลังบั่นทอนสังคมอเมริกันให้ต่ำทรามลงไปทุกเมื่อ...ด้วยจรรยาบรรณอันแรงกล้า ที่ไม่สามารถงัดอะไรกับเขาได้ แม้แต่เงินร้อนๆ ที่พร้อมจะประเคนให้ได้ทุกเวลา

    แต่จนสุดท้ายแล้วสถานการณ์ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อสองคนสองคม ผู้ที่แตกต่างกันในคนละขั้ว ต้องมาเกี่ยวเนื่องบรรจบพบกันบนเส้นทางของการต่อสู้ เส้นเดียวกัน... พร้อมกับการเปิดเผยความจริงอันดำมืดต่ำทราม ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ใต้ตราตำรวจ และก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดฉาวในประวัติศาสตร์ของอเมริกาที่ผู้คนโจษจัน

    American Gangster ...ใช้ประโยชน์จากบริบทของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง มาทำเป็นหนังทริลเลอร์อาชญากรรมมีฟอร์ม ที่มี "ริดลีย์ สก๊อตต์" ผู้กำกับฝีมือเฉียบคมน่ายกย่องอีกคน มารับหน้าเสื่อดูแล ...พร้อมทั้งยังเลือกใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าเป็นที่สุด ด้วยการแสดงระดับรางวัลเป็นประกัน ของสองคุณภาพต่างสี(ผิว) "เดนเซล วอชิงตัน" และ "รัสเซลล์ โครว์"

    จากสามชื่อที่ได้เอ่ยมานั้น ...เอาเพียงแค่นี้ก็พอจะการันตีความเข้มข้นของตัวหนังทั้งเรื่องได้อย่างมั่นใจ แถมก็ยังมีโอกาสไปได้ไกลในระดับออสการ์ ถ้าหนังเรื่องนี้มีดีมากกว่าความเข้มข้น

    ซึ่งก็ดูเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่อย่างหลังมันยังไม่เข้าข่ายนั้น ...(ออสการ์ที่ไปได้ถึงก็มีเพียงแต่สาขา นักแสดงประกอบหญิง เท่านั้น ที่มีโอกาส)

    แล้วเมื่อรวมกับการเป็นหนังหนึ่งเรื่องที่ได้ชื่อว่า 'ยอดเยี่ยม' ในใจผู้ชม อีกหนึ่งเรื่อง ...สำหรับผมแล้ว American Gangster ก็ยังไม่ใช่เรื่องนั้นที่ผมจะรู้สึกว่ามันใช่

    ถ้าแยกมองกันไปเป็นส่วนๆ หาส่วนที่ดีที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณภาพ ...ส่วนแรกที่เห็นและรู้สึกได้ ก็คือ ความสนุก ...ถึงอาจไม่ใช่ความสนุกชนิดที่ต้องคอยลุ้นอย่างใจจดใจจ่อทุกๆวินาที แต่หนังเรื่องนี้ ก็ดูสนุกได้ด้วยความเข้มข้นของตัวเรื่อง และการเดินหน้าของคนสองคนที่ต่างทางจะก้าว แต่ก็ได้มาบรรจบอยู่บนเส้นเดียวกันในท้ายที่สุด

    ความเข้มข้นที่หนังมี เกิดมาจากการเขียนบทเล่าเรื่องที่ดูไม่มีอะไรแปลกใหม่ ให้กลายเป็นมีอะไรที่น่าสนใจ ต้องจับตามอง คอยประคับประคองให้คนดูรู้สึกเชื่อตามไปกับเหตุการณ์ที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า ...แล้วยังรวมไปถึงงานกำกับของ ริดลี่ย์ สก๊อตต์ ที่ทั้งคอยกำหนดในสิ่งที่ต้องการเสนอของหนังได้อยู่ และสามารถควบคุมอารมณ์คนดู ให้จับจดอยู่กับเวลาอันยาวนานของหนัง โดยไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ น่าหลับ อย่างที่หนังเดินเรื่องเนิบๆอีกหลายเรื่อง มักจะทำให้ผมต้องเป็น

    อีกอย่างที่ต้องบวกเข้าไปในส่วนของความสนุก ...ก็คือ การแสดงของ 'วอชิงตัน' และ 'โครว์' ที่เอากับบทของตัวเองได้อยู่ แสดงออกถึงความเป็นดาราเกรดเอ ที่จับจิตวิญญาณความรู้สึกตัวละครมาใส่เอาไว้ในร่างรูปลักษณ์ที่เราคุ้นเคยของพวกเขา โดยไม่มีอะไรให้ขัดข้องติดความในใจเลยแม้แต่น้อย ...โดยเฉพาะ 'แฟรงค์ ลูคัส' ของ วอชิงตัน ที่สุดจะแสนเสียดาย อดได้เข้าชิงออสการ์อีกสักครั้ง จากบทที่ทำให้ผมเชื่อในความร้ายจนหมดใจ เฉกเช่นเดียวกับ เมื่อครั้งที่เป็นตำรวจชั่วสุดโฉดใน Training Day

    ส่วนที่สอง ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ ได้ชื่อว่ามีคุณภาพ ก็คือ ความพิถีพิถัน... ในการเก็บอารมณ์แฝงความรู้สึกจากภาพและฉากต่างๆ ให้คนดูรู้สึกเสมือนเป็นคนที่อยู่ในโลกเดียวกันกับเหล่าตัวละคร ...แง่มุมของความเป็นดรามา ถูกนำเสนออย่างมีความประณีตในรายละเอียด ที่จับเอาสถานการณ์ต่างๆของตัวละครสองตัวหลัก มาเดินควบคู่ขนานกันไปโดยให้น้ำหนักอย่างเท่าเทียม ...นอกไปจากการแข่งขันระหว่างสองตัวละครหลักที่ต่างฝ่ายต่างต้องพยายามอยู่เหนืออีกฝ่ายให้จงได้ การที่หนังยังใส่ใจมาลงเรื่องอีกค่อนครึ่งหมดไปกับการแข่งขันภายในตัวตนและจิตใจของตัวละครทั้งสองเองก็ยังหนุนนำให้คนดูรู้สึกอินจับติดกับสิ่งที่หนังเสนอได้มาก ยิ่งไปกว่าความสนุก

    แต่มันก็น่าเสียดาย ที่ท้ายที่สุด ความสนุก และ พิถีพิถัน อาจจะยังไม่ช่วยให้หนังทั้งเรื่องกลายเป็นความยอดเยี่ยมได้ ...เพราะความรู้สึกโดยส่วนตัว ยังมองว่า บทหนังมันเล่าได้ดี แต่ก็ธรรมดาเกินไป ไม่มีลูกเล่น หรือจะลูกล่อลูกชนที่จะทำให้คนดูรู้สึกมันส์หยดไปกับการตามล่าตามหลบของทั้ง 2 ฝ่าย หรือพูดง่ายๆ หนังเนิบ แต่ไม่มีแรงกระตุ้นที่แรงพอจะให้ฮีกเหิมไปกับหนัง (แม้ฉากแอ๊คชั่นบู๊ตะลุยเพียงฉากเดียวในช่วงท้าย จะเรียกอะดรีนาลีนได้พอสมควร แต่มันก็มาช้าเกินไปแล้วที่จะทำให้รู้สึกคึกได้) ...

    และอีกอย่างที่รู้สึกว่าน้อยเกินไป ก็คือ บทบาทของดาราเพียงผู้เดียวที่ได้เข้าชิงออสการ์อย่าง "รูบี้ ดี" ...แค่ 3 ฉาก กับเวลาไม่กี่นาที ยังไม่เห็นว่าจะเข้มข้นสมบทบาทมากมายเพราะหนังเทน้ำหนักเปิดทางให้ตัวละคร แม่ของแฟรงค์ เอาไว้เพียงน้อยมากๆ จนไม่สามารถจับติดอะไรกับตัวละครของเธอมาได้เท่าไหร่ ...ช่วงเวลาเดียวที่ผมอินกับการแสดงของเธอ ก็คือ ฉากตบหน้าลูกชายที่กระชากอารมณ์ได้อยู่หมัด แต่มันก็สายเกินไปที่เพิ่งมารู้สึกเชื่อในความสำคัญของเธอเอาตอนนี้แล้ว

    ส่วนฉากที่หนังโดนเซ็นเซอร์ ที่มีอยู่ประปราย (ไม่มากและโคตรน่ารำคาญเท่า Sweeney Todd) ...ก็นับว่าทำได้เนียนอยู่ (คือ ถ้าไม่จงใจจ้องมอง ก็ไม่รู้สึกติดขัดอะไรมาก) แต่ปัญหาคือ ถ้าไม่มีจะดีกว่ามั้ย ...? และ ประเทศไทยที่กลายมาเป็นส่วนประกอบในฉากของหนัง ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศอันป่าเถื่อนในสายตาน้ำข้าวของพี่ฝรั่งเขาอยู่ดี ติดแต่ว่า มันก็คือความจริงที่ต้องยอมรับล่ะนะ ...ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ต้องพูดแบบนี้

    "American Gangster" ...สำหรับผม เป็นหนังที่ดีมีคุณภาพอีกเรื่องที่ไม่น่าผิดหวัง แต่กลับมีอะไรให้เสียดายมากกว่า กับเวลาสองชั่วโมงครึ่งที่เหมือนว่ามากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บอารมณ์ของผมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่รู้สึกคาดหวัง ...สำหรับใครคนอื่น ที่ชอบเรื่องราวทริลเลอร์เข้มข้น ที่มีความเป็นดรามาเป็นตัวประสานความอิน หนังเรื่องนี้น่าจะให้ความสนุกกับคุณได้ หรืออย่างน้อยๆก็ไม่อาจหลับคาเบาะได้ลง

    เกรด B+

    2 หนังเกรด A ที่ผมขอแนะนำเป็นยิ่งๆในตอนนี้ :

    เรื่องนี้...ชวนไปดูในโรง
    "Enchanted" ... เทพนิยายรักแท้'ดิสนีย์' ของโฉมงาม สวยใส(เกือบ)ไร้สติ กับเจ้าชาย(ผู้รู้ตัวว่า)หลุดโลก
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=28-01-2008&group=2&gblog=107

    เรื่องนี้...ชวนรอดีวีดี (ก็อยากให้ดูโรงอยู่หรอก...แต่เมื่อมันเป็นงั้น จะทำไงได้)
    "Sweeney Todd" ... 'ความแค้น' ไม่เคยช่วยอะไร รังแต่จะช่วยให้ตายไวกว่าเดิม (เช่นเดียวกับ 'เซ็นเซอร์')
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=04-02-2008&group=2&gblog=108

    ส่วนที่ขีดเส้นใต้เน้นข้อความ... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี-ดูด้อยในหนังครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดี มีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลงความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของ จขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน...

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 12:19:50

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 8 ก.พ. 51 12:05:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com