Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    <<<<< ขอสวมหน้าม้ามาอาสาเชียร์ >> Atonement << หนังดีๆที่แพรวพราวและงดงาม >>>>>

    ...เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป อ่านความเห็นท่านอื่นๆ และเชิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=10-02-2008&group=14&gblog=68


    man...ปกติ ผมไม่หยิบ หน้าม้า มาสวมบ่อยนัก หากหนังเรื่องไหนที่ดูท่าว่าจะดีแต่มีกระแสดีแล้วก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องหยิบหน้าม้ามาสวม แต่หนังบางเรื่องเป็นหนังดีๆ ที่บ้างก็ขาดการโปรโมท บ้างก็เข้าผิดช่วงเวลา อาทิเช่น Always , The Village album หรือ The Prestige ก็อดไม่ได้ที่จะต้องสวมหัวม้าเพื่อเรียกลูกค้าเข้าโรงหนัง

    ด้วยไม่อยากให้เพื่อนผู้อ่านต้องพลาดหนังดีๆที่ ตัวหนังสามารถเข้าถึงคนดูส่วนใหญ่ แต่ถูกจำกัดการเข้าถึงคนดู เพราะเหตุผลเช่นที่กล่าวมา ซึ่งก็เหมือนกับหนังเรื่องนี้ที่ดันเลือกฉายพร้อมยักษ์ใหญ่หลายเรื่อง


    smile...ผมเข้าใจดีว่า อาทิตย์นี้มีน้องจีจ้ารอตีลังกาเตะคนดู มีโจวซิงฉือพร้อมเต็มที่จะเรียกเสียงฮา มิหนำซ้ำยังมี L ที่นั่งยองๆรอท่าเราอยู่ แต่ผมก็ไม่อยากให้พลาด Atonement

    Atonement แนบเครดิตเจ้าของรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากลูกโลกทองคำและดนตรีประกอบยอดเยี่ยม พร้อมเข้าชิงออสการ์อีกหลายสาขา เรียกคะแนนชื่นชมสวยหรูจากนักวิจารณ์กับคนดู


    love...ผมมอง Atonement ว่าเป็น 'หนังรัก' เพียงแต่เป็น ความรักที่แหวกว่ายท่ามกลางคลื่นของความผิดบาปและความโกรธเกลียด

    จากจุดเริ่มต้นเล็กๆของความมืดหม่นในใจมนุษย์ ที่ความริษยาบังตา กับ อารมณ์ชั่ววูบ ความรู้เท่าไม่ถึงการ ใช้มันตัดสินพิพากษาชีวิตคน ก่อให้เกิด ชะตากรรม อันเลวร้ายที่ไม่อาจเรียกคืน

    ความรักของคนสามคน และ ความทุกข์ของคนสามคน นำไปสู่ ความพยายามมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุผลแตกต่างกัน

    คนหนึ่ง มีชีวิตอยู่ เพื่อหวังจะได้ คนรักกลับคืนมา หลังจากมีโอกาสเพียงเสี้ยวนาทีที่ได้เผยความปรารถนาแล้วก็ถูกพรากไปตลอดกาล

    คนหนึ่ง พยายามมีชีวิตอยู่ เพื่อรอคอยที่จะได้ไถ่บาปและได้รับโอกาสกลับมาเป็นครอบครัว

    คนหนึ่ง พยายามมีชีวิตอยู่ เพื่อกลับไปหาคนรักและรอล้างมลทิน


    อาจมีกลิ่นอายของความเป็น The English Patient ผ่านเนื้อหารักระหว่างรบและความอ่อนโยนของมัน แต่ก็แค่ กลิ่นจางๆ เพราะ Atonement มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความคลาสสิคแบบร่วมสมัย และมีจุดเด่นตรงการเล่าเรื่องที่แพรวพราวด้วยเทคนิกมากมาย


    flower ...ถ้าผมเป็นคณะกรรมการออสการ์ ผมไม่ลังเลใจที่จะส่งมอบตุ๊กตาคุณลุงสีทองให้กับสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , บท และ ผู้กำกับให้ทันที ถึงแม้ว่าตัวเองจะยังดูเรื่องอื่นๆยังไม่ครบก็ตาม

    และ ถ้าหากว่าดูเรื่องอื่นตามมา แล้วดีกว่า ผมก็พร้อมจะกลับบ้านไปปั้นตุ๊กตาออสการ์มามอบให้ต่างหากฮ่าฮ่าฮ่า แต่ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องได้รางวัลจากผม (โชคร้ายที่ ตัวบท ไปเข้าชิงในฝั่งบทดัดแปลง ซึ่งปีนี้คู่แข่ง เขี้ยวลากดิน ทั้งนั้น)

    อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ใช่ว่าจะดีแค่ ภาพยนตร์ , บท หรือ ผู้กำกับ แต่ ดนตรีประกอบ , การถ่ายภาพ , การลำดับภาพ , การใช้แสง , การเล่นกับสี ล้วนอยู่ในขั้นยอดเยี่ยมและเพิ่มความงามให้กับหนังมากขึ้นไปอีกขั้น

    ข้ามนักแสดงไปก็ไม่ได้ เรื่องนี้ยืนยันแล้วว่า คีร่า ไนท์ลี่ย์ ดูดีเสมอในหนังของ โจ ไรท์ และ เชื่อว่า หลังจากผลงานชิ้นนี้ เขาจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้กำกับที่นักแสดงเฝ้ารอที่จะได้ร่วมงานด้วย เพราะ เขาสามารถดึงศักยภาพนักแสดงได้เต็มเปี่ยม เจมส์ แมคอะวอย เล่นได้ดีมาก แทบจะดีที่สุดในผลงานที่ผ่านๆมา

    ที่ประทับใจคือ สามนักแสดงที่รับบท ไบรโอนี่ สาวหน้าม้า ต่างวัย วัยเด็กดูร้ายๆเกินไปหน่อย ผมปลื้ม โรโมลา การาย ที่รับบทหน้าม้าช่วงวัยรุ่น กับ คุณป้าหน้าม้า วาเนสซ่า เรดเกรฟ


    idea ... นอกจากคนรักหนังห้ามพลาด หนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังที่คนทำหนังต้องดู โดยเฉพาะคนทำหนังที่รู้ตัวเองว่าเป็นประเภท ชอบโชว์ เพราะนี่คือหนังที่ เน้นโชว์ แต่เป็นการโชว์แบบคนทำหนังเป็นและเล่นแบบรู้จักพอดี

    จากเดิมที่เคยดู Pride and Prejuidice งานชิ้นก่อนของโจ ไรท์ ผมทึ่งกับฉากงานเต้นรำซึ่งถ่ายทำได้อย่างอัศจรรย์ แต่ในหนังเรื่องนี้ มีการโชว์ของที่ทำให้ทึ่งมากกว่าหนึ่ง และ เป็นการโชว์ของแบบไม่โดดเด้งเกินตัวหนัง กลมกลืนไปด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว แสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจของผู้กำกับ ซึ่ง ลูกเล่นที่ผมชอบ เช่น

    - วิธีเล่าเหตุการณ์ซ้ำสอง แบบไม่เตือนไม่อะไรแต่เล่าต่อๆกันเลย เพื่อเล่นสนุกกับ Perception ของคนดูกับตัวละคร ชนิดดูจบแล้วมานั่งคิดย้อนหลังก็ยังสนุกอยู่

    - ฉากลองเทคริมหาด ที่ไม่รู้ตัวมาล่วงหน้า พอตัวละครเดินไปเรื่อยๆ โอ้ สุดยอด ฉากนี้สร้างมาเพื่อโชว์โดยแท้และก็เป็นลองเทคที่น่าทึ่งยิ่งนัก สำหรับการคุมคนจำนวนมากในลานกว้างๆแบบนี้

    - การเล่าเรื่องกระโดดข้ามช่วงเวลาไปมาชนิดใจกล้าข้ามแบบไม่เกรงใจคนดู แต่ก็ทำออกมารู้เรื่องดี

    - การเล่นสี ที่ค่อยๆสดขึ้นเรื่อยๆ จาก สีสันชวนฝันในครึ่งแรกไปสู่สีแดงที่สดมากขึ้นจนแดงฉานทั้งผ้าม่านและองค์ประกอบรอบๆ

    - เสียงพิมพ์ดีดที่มีความหมายมากกว่าสกอร์ประกอบฉาก

    -จังหวะเล่าเรื่องแบบมีทิ้งช่วง มีเร่งกระชั้น สลับไปมาเหมือนนักดนตรีที่รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาเวลาเล่นดนตรี และ ผู้กำกับสามารถเอาหนังตัวเองได้อยู่หมัด

    ฯลฯ



    redrose... เหนือกว่าสิ่งใด ผมรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้ งดงามเหลือเกิน เฉกเช่นเดียวกับ ความรู้สึกที่ได้ดูหนังอย่าง Finding neverland หรือปีก่อนก็เป็น The Fountain กับ The Lives of others

    หนังเหล่านี้ไม่ได้งดงามจากการถ่ายภาพหรือวิวทิวทัศน์ แต่เป็น ความรู้สึกที่เบ่งบานในหัวใจคนดู ถึงแม้จะมีความเศร้าแต่เราก็ยังรู้สึกถึงความสวยงามผ่านเรื่องราวของตัวละคร ผ่านภาพที่เห็น และ ผ่านเสียงที่ได้ยิน

    ถ้าเทียบกับปีผ่านมา หากไม่นับ The Lives of others แล้ว Atonement เป็นหนังที่ผมชอบมากกว่าทุกๆเรื่องที่ได้ดูของปีก่อน

    เชียร์มาขนาดนี้ก็คงเห็นได้ชัดว่า ไม่เป็นกลาง เพราะรักในหนังเรื่องนี้มากๆและอยากให้ไปดูกัน จึงอาสามาเป็นหน้าม้าเพื่อเชียร์ ส่วนตัวเองนั้นความจริงเขียน ประเด็นและแง่มุมในหนังไว้มากกว่านี้ แต่ขออนุญาตนำไปลงคอลัมน์ตัวเองใน Filmax ฉบับอีกสองสามเดือนข้างหน้านะครับ


    สรุป ... ไม่อยากให้เพื่อนผู้อ่านทุกท่านต้องพลาดด้วยประการทั้งปวง จะชอบมากชอบน้อยก็คงต่างกันไป แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีใครต้องรู้สึกเสียดายตังค์ค่าตั๋ว เพราะ หนังเรื่องนี้มีความดีและความงดงามเกินค่ามาตรฐานอย่างแน่นอน


    บทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
    (บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)

    Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2006&date=13&group=1&blog=1

    The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2006&date=29&group=1&blog=1

    The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2006&date=13&group=1&blog=1

    The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=04-2007&date=06&gblog=230

    The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=04-2007&date=10&gblog=232

    แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 10:50:32

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 12 ก.พ. 51 10:47:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom