ความคิดเห็นที่ 27
อยากให้ลองอ่านข้อเขียนของคุณคงเดชกันดูค่ะ
สำหรับผมหนังเป็นมากกว่าความบันเทิงเพียงชั่วครู่ หลายๆครั้งมันได้ให้คำตอบบางอย่างในชีวิตเมื่อได้ดูมัน และประสบการณ์เหล่านั้นที่ทำให้ผมอยากทำหนัง และหลายๆครั้ง หนังที่เราอาจจะไม่เข้าใจมันทั้งหมด แต่ก็ผมทำให้เรากลับไปนั่งครุ่นคิดกับมัน กลับมีค่ากว่าหนังที่เคี้ยวทุกอย่างให้แล้ว จบแล้วก็จบกัน
คนทำหนังทุกวันนี้ ไม่สามารถยึดอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงปากท้องอย่างเดียว ต้องทำมาหากินอย่างอื่นไปด้วย สถานการณ์ในวงการ รวมทั้งเศรษฐกิจก็ง่อนแง่นมากนะครับ หนังอย่างช๊อกโกแลตของน้องจีจ้า ก็ยังรายได้ไม่เข้าเป้าอย่างที่คิด (ขอโทษนะครับในการอ้างถึงตัวอย่างคนอื่น)
ในเมื่อมันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวอยู่แล้ว ผมเลยขอเลือกที่จะทำหนังในแบบที่ตัวเองเชื่อเท่านั้นครับ
เพราะมันจะเป็นหนทางเดียวที่เมื่อเราย้อนมองกลับมาดูผลงานแล้ว เราจะภูมิใจมันได้ตลอดเวลา รสชาติอาจจะแตกต่างจากหนังสูตรทั่วไป แต่เชื่อว่าเมื่อทำด้วยใจรัก คนดูก็จะรู้สึกได้ เพราะหนังมีอายุที่ยืนยาวกว่ารายได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ยืนยาวกว่าชีวิตผมซะอีก
ใครรู้สึกไม่สุดไม่เต็มเหนี่ยว ผมต้องอขอภัยด้วย อาจเป็นเพราะโลกของผมวัยของผมตอนนี้มันไม่ค่อยฟูมฟายมากแล้ว ความรู้สึกดีๆ เงียบๆ เบาๆ มันสะเทือนใจผมกว่า และในแง่ของการเสียดสีสังคมนั้น ส่วนหนึ่งมาจากบุคลิกส่วนตัวผม อีกส่วนหนึ่งผมเห็นว่ามันเป็นหน้าที่ที่เราต้องคอยสะกิดสะเกาสังคมบ้าง ก็ไม่ค่อยมีหนังเรื่องไหนพูดกันเลยนี่ครับ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามผมก็ทำให้มันมีคุณภาพที่สุด ให้นักแสดงที่มาร่วมงาน จะได้จดจำและมองมันได้อย่างภูมิใจไปตลอดชีวิต
จากคุณ :
popka'
- [
26 ก.พ. 51 15:04:15
]
|
|
|