ความคิดเห็นที่ 4
ตอนสอง การท้าทายด้วยชีวิต
วันแรก 11 สิงหาคม เวลาบ่ายสาม โอคุเดระและคิตาซาวาเดินทางออกจากเบสแคมป์ อากาศดี อุณหภูมิ 4 องศา
การจะเข้าสู่แมจิคไลน์ ต้องเดินทางผ่านแนว Crevasse อย่างระมัดระวัง และเพื่อความปลอดภัยจะใช้วิธีปีนข้ามกำแพงน้ำแข็งที่ยากกว่าแทนที่จะเดินบนแนวสะพานหิมะที่ปกคลุมอยู่
ก่อนจะถึงจุดบีบาคแรก ที่ Negrotto Col ต้องเดินขึ้นทางชันขึ้นเขายาว 400 เมตร ระหว่างเส้นทาง ทั้งคู่เห็นสภาพว่าเพิ่งมีหิมะถล่มไป โอคุเดระบอกว่าการออกเดินทางช้าหน่อยเป็นการเลือกที่ถูกต้อง ในการปีนระยะแรกนี่ ทั้งคู่ผลัดกันเป็นคนนำ
หลังจากออกจากเบสแคมป์ 7 ชั่วโมง - เวลา 4 ทุ่ม ช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้เล็กน้อย ก็ถึงจุดบีบาคแรก Negrotto Col ที่ความสูง 6300 เมตร อุณหภูมิ 15 องศา
คิตาซาวารายงานเหตุการณ์ผ่านวิทยุไปยังเบสแคมป์ ทุกอย่างปกติ และพรุ่งนี้จะเริ่มออกเดินทางตอน 7 โมงเช้า โอคุเดระจดบันทึกในสมุดโน้ตการเดินทางของตัวเอง
การอยู่ในที่สูง ต้องระวังไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ โอคุเดระทำอาหารเย็นโดยละลายน้ำแข็ง ต้มข้าวต้ม และเพื่อลดน้ำหนักที่ต้องแบกให้น้อยที่สุด พวกภาชนะและช้อนจะเอาไปแค่ชิ้นเดียว ผลัดกันกิน (Indirect Kiss?)
คิตาซาวาคุยกับโอคุเดระว่านึกถึงความหลังที่พ่อของคิตาซาวาพาสองคนไปปีนเขาด้วยกันสมัยยังเป็นเด็กประถม เป็นครั้งแรกที่ได้กางเต๊นท์พักแรม โอคุเดระบอกว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ พ่อของคิตาซาวาเป็นคนแรกที่ชักนำให้รู้จักภูเขา พอพูดเรื่องสมัยก่อน ทำให้โอคุเดระนึกขึ้นมาได้ บอกว่าแม่ของคิตาซาวาโทรมาหาก่อนเดินทางไม่กี่วัน พอคิตาซาวาถามว่าโทรมาคุยเรื่องอะไร โอคุเดระบอกไปว่า คุณป้าสั่งมาว่าให้ทั้งสองคนทำให้เต็มที่อย่างที่ต้องการ
แต่ที่จริงแล้ว คุณแม่ของคิตาซาวาโทรมาด้วยความเป็นห่วง บอกกับโอคุเดระว่าการเดินทางคราวนี้มีอะไรที่แปลกไปจากทุกคราว อธิบายไม่ถูก สังหรณ์ของคนเป็นแม่มั้ง รู้สึกว่าเหมือนคิตาซาวามีอะไรอยู่ในใจ ถามโอคุเดระว่ารู้เรื่องอะไรบ้างมั้ย มีลางไม่ดี โอคุเดระตอบไปว่า ไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลคิตาซาวาให้
คิตาซาวาบอกโอคุเดระว่า ดูเหมือนน้องสาวตัวเอง ยูคาริจะชอบโอคุเดระ (โอคุเดระนึกไปถึงตอนที่ยูคาริมาส่งที่สนามบิน และฝากฝังคิตาซาวากับโอคุเดระ โอคุเดระบอกว่าไม่ปล่อยให้คิตาซาวาตายแน่) คิตาซาวาเสนอว่าทำไมโอคุเดระไม่แต่งงานกับยูคาริซะ จะได้กลายเป็นพี่น้องกัน โอคุเดระบอกว่าตัวเองตั้งใจจะอยู่คนเดียว โซโลตลอดชีวิต
แล้วคิตาซาวาก็นึกไปถึงฉายา Lady Finger ที่โอคุเดระตั้ง บอกว่าตั้งได้ดี โอคุเดระบอกว่ามินาโกะเป็นคนพูดขึ้นมาถึงเรื่อง Lady Finger เองเรื่องมีก้อนหินขนาดเท่าตู้เย็นตกลงมา โอคุเดระถามว่าคิตาซาว่าเป็นคนเล่าให้ฟังใช่มั้ย คิตาซาวาพูดถึง nail art ของมินาโกะมีชื่อเรียกว่า French Nail ทำให้โอคุเดระนึกไปถึงตอนที่มินาโกะโชว์เล็บ ความเปล่าเปลี่ยว ให้ดู คิตาซาวาบอกโอคุเดระว่าไม่ต้องห่วง ตอนนี้มุ่งสมาธิไปกับการปีนเขา แต่หลังจากกลับเคทูแล้ว ก็จะมุ่งไปที่ Lady Finger ล่ะ โอคุเดระถามว่านั่นคือภูเขาที่หมายใหม่ของคิตาซาวาเหรอ คิตาซาวาตอบว่าใช่แล้ว เป็นภูเขาที่สูง ปีนได้แสนยาก แต่ก็เป็นภูเขาที่สวยงามมาก
- ยังมีกระทู้โนดาเมะอีกค่ะ อาทิตย์หน้า เตรียมตัวเดินทางด้วย กลางเดือนหน้าจะไปญี่ปุ่นน่ะค่ะ (ถ้าวีซ่าโอเค ก็คงไม่เปลี่ยนกำหนดแล้ว) มีใครจะฝากซื้อ Tama's goods มั้ยคะ
จากคุณ :
ก (Eureka101)
- [
27 ก.พ. 51 19:06:16
]
|
|
|