| ชอบมาก ห้ามพลาด (2 คน) |
| ชอบ (4 คน) |
| เฉยๆ (11 คน) |
| ไม่ชอบ (6 คน) |
| ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (6 คน) |
|
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 29 คน |
เลือกอ่านบทความเดียวกันนี้และชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=10-03-2008&group=14&gblog=77
... เครดิตที่ใช้ขาย 10,000 B.C. เวลาโปรโมท คือการขายว่า หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ ID4 (โรแลนด์ เอ็มเมอริค)
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า โรแลนด์ เอ็มเมอริค อาจไม่ใช่ผู้กำกับที่เด่นในแง่สร้างอารมณ์ร่วม หรือ ทำหนังที่ลึกซึ้งซับซ้อน แต่ จุดเด่นของเขาคือมีความสามารถในการคุมหนังสเกลยักษ์ได้ดี ซึ่งการทำหนังสเกลยักษ์ๆประเภท สงคราม หรือ โลกแตก ฯลฯ ใช่ว่า ผู้กำกับระดับมือรางวัลหรือที่ว่าเจ๋งๆนั้นจะทำได้ดีทุกคน เพราะ ผู้กำกับหลายคนที่คว้ารางวัลคว้าคำชมมากมาย แต่สุดท้ายก็มาตกม้าตายเมื่อมาทำหนังฟอร์มยักษ์
โรแลนด์ เอ็มเมอริค สามารถควบคุมให้หนังฟอร์มยักษ์ๆมีความสมดุลและมีความสนุกสนานตื่นเต้น เช่นเดียวกับที่เคยทำ ID4 , The Day After Tomorrow, The Patriot, Godzilla ซึ่งทุกเรื่องที่ว่ามา ล้วนมีเนื้อหาไปในสูตรสำเร็จ และ เดินเรื่องตรงไปตรงมา ดังนั้น ผลลัพธ์ของเขาพอจะเดาได้ว่าหนังจะเป็นเช่นไร แต่จะถูกหวยได้รับคำนิยมหรือเสียงชื่นชมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า หนังงวดนั้น มี บท อย่างไร
ดังนั้นหากมองในแง่ดี ก็จะพบว่า เขารู้ตัวว่าถนัดทำหนังแบบไหนและไม่ทะเยอทะยานทำหนังเกินความถนัดตัวเอง ขนาดเรื่องที่บทหลวมโพรกสุดๆแบบ Godzilla หนังก็ยังคงตื่นตาและไม่ทำให้หาวหวอด แต่มองอีกแง่ก็คือ งานของเขาล้วนย่ำอยู่กับที่ เพียงเปลี่ยนฉากหลัง จาก
มนุษย์ต่างดาว (ID4) --> ภัยพิบัติ (The Day After Tomorrow) --> โลกย้อนยุค (10,000 B.C.)
โดยตั้งอยู่บนโครงเรื่องคล้ายๆกัน ที่ตัวละครเอกสองคนถูกพลัดพราก แล้ว อีกฝ่ายเดินทางไปตามช่วยชีวิตอีกฝ่าย จะต่างออกไปบ้างก็ตรง 10,000 B.C.มีเรื่องราวของ คำพยากรณ์ และ การต่อสู้เพื่อคนรัก กับ กลุ่มคนที่ถือครองอำนาจและเรียกตัวเองว่าพระเจ้า
... 10,000 B.C. อยู่ในกลุ่มโชคร้าย ที่ได้บทน่าผิดหวัง เป็นบทสูตรสำเร็จแบบสุดๆ ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย และ เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆของผู้กำกับคนนี้ จัดได้ว่า บทหนังดีกว่าแค่ Godzilla ดังนั้น เมื่อถึงคราวต้องบิวต์อารมณ์ต้องปลุกใจ มันก็ไม่ชวนให้คล้อยตามเหมือนตอนที่เขากำกับ The Patriot
ตัวช่วยหลักๆที่ประคับประคองหนังให้ไม่น่าเบื่อจนเหงาหลับ คือ CG กับงานสร้าง ที่อลังการน่าตื่นตา เช่น ฉากช่วงท้ายที่ปลดปล่อยแมมมอธให้ออกวิ่งร้อยเมตร หรือ สิ่งก่อสร้างใหญ่โตมโหฬาร แต่ในขณะเดียวกัน CG บางฉากโดยเฉพาะตัวสัตว์ที่ละเอียดขนาดเห็นขนเป็นเส้นๆ ดูเน้นสวยเกินเหตุจนรู้สึกว่าไม่สมจริง
...ตอนดูก็รู้สึกว่าดูได้ผ่านๆเพลินๆ นั่งดูช้างดูเสือเหมือนเที่ยวสวนสัตว์โลกล้านปี ถึงไม่มีอะไรให้น่าจดจำ ก็ไม่เลวร้ายมาก มีขำๆเป็นระยะๆกับป้าเทพธิดาพยากรณ์ที่หนังคงกะมีไว้ให้ขลังแต่เห็นป้าสะดุ้งเฮือกทีไรอดขำไม่ได้ทุกที และก็มีนางเอกที่งามเหลือแสนดูแล้วสบายสายตา
แต่พอมาเจอตอนจบที่เล่นกับ ลมหายใจสุดท้าย กันแบบไม่เกรงใจคนดู ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพลางคิดไปว่า ไรว้า จบแบบนี้ วัยรุ่นเซ็ง 
สรุป ... พอจะนิยามหนังเรื่องนี้สั้นๆได้ว่า เนื้อหาบวกอารมณ์ความสนุกตื่นเต้น ประมาณนั่งดู สารคดี History Channel + Animal Planet ที่มีเรื่องราวความรักประเภทผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (ทั้งฝั่งตัวร้ายที่หลงรักนางเอกก็ห้ามใครแตะ ฝั่งพระเอกของเราก็ไม่ยอมให้ใครมาเอาไปครอง) บน พล็อตหนังสำเร็จรูปชนิดสุดๆ ดูเพลินๆก็อลังการดี แต่ดูแผ่นดีกว่าเพราะช่วงนี้มีหนังน่าดูมากกว่าอีกหลายเรื่อง
ป.ล. ผมเชียร์เรื่อง Dan in real life หนังน่ารักๆฉลาดๆที่เข้าฉายอยู่โรงพาราก้อน เป็นหนังที่ชอบมากในช่วงนี้
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 17:06:00
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 16:33:10
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 
- [
10 มี.ค. 51 16:29:27
]
<<<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... 10,000 B.C. , ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ + History Channel + Animal Planet >>>>>>>
ความคิดเห็นที่ 1
