ความคิดเห็นที่ 1 ชอบคำถามคุณแฮะ ใครบอกว่าหนังเรื่องนี้ดี ถ้าเป็นผม ไม่ชอบหนังแนวนี้ ไม่ชอบดาราในเรื่องนี้ ก็ไม่ดู ใครจะว่ายังไงก็ไม่สน ว่าจะดูไม่เป็นก็ไม่ว่า กาตังค์ของพ้ม แต่ผมจะไม่ไปพูดกับคนอื่นที่เขาดูหนังที่เขาชอบ แล้ว ผมไม่ชอบว่า ดูไม่เป็น แต่จะ วิจารณ์ไปตามความเห็นของตัวเองว่า  มันไม่ดี ตรงนั้น อย่างนี้ ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือไม่กับความเห็นนั้น แล้ว แต่บุคคล เพราะแต่ละท่านคิดไม่เหมือนกัน หนังบางเรื่อง ได้ ออสการ์เป็น เข่ง สำหรับผม ก็งั้นถ้าผมดูแล้ว ไม่ดี ใครจะว่าดูไม่เป็น ก็ไม่ว่าอะไรอ่ะ จากคุณ : LODI - [ 11 มี.ค. 51 13:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้นี้เริด เฉกเช่นเดียวกับ เอาอะไรมาวัด ว่า คนไหนแสดงเก่งและไม่เก่ง เคยมีครั้งนึง ดูสองเสน่ห์หา อั้มแสดง เรามีความรู้สึกว่าอั้ม แสดงเป็นฝาแฝดเก่งมาก สามารถ ตีบทแตกได้ทั้งสองบท แล้ว ก็มีคนมาแย้งเราว่า ดูยังไงอั้มแสดงเก่ง อั้ม ก็แสดงเป็นอั้ม วันยังค่ำ ดูคนแสดงไม่เป็นเหรอ ว่ายังไงเรียกว่าแสดงเก่ง เราขึ้นมากเลยคะ จี๊ดเลย การแสดงเป็นฝาแฝดบุคลิกต่างกันสิ้นเชิง แล้วแดงออกมาได้แตกต่าง ทั้งสีหน้าแววตา อารมณ์เข้าถึงบท ยังว่าแสดง ไม่เก่งอีกเหรอ บอกตามตรงว่า ตอนนั้นอยากตบ คนที่มาแย้งเรามาก จากคุณ : ละออง - [ 11 มี.ค. 51 13:19:41 A:58.8.30.19 X: TicketID:158627 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนหนังเรื่องแฟนฉัน ผมเคยได้ยินคนเค้าคุยกันว่า "ทำไมตอนจบนางเอกหันมาเป็นเด็ก ดูแล้วไม่เข้าใจ งง" ซึ่งผมเดาเอาว่า คนดูหนังไม่เป็นคือคนที่ดูแล้วไม่ได้คิดตาม หรือคิดตามแต่คิดไม่เป็น ไม่รู้วิธีการสร้างจินตนาการตามเนื้อเรื่อง(มั้ง) แต่ สุดท้ายคือ ชอบหรือไม่ชอบครับ บางคนชอบดูหนังตลกต๊องๆไร้สมองของจาตุรงค์ ของโก๊ะตี๋ บางคนไม่ชอบ บางคนขำกับSean of the Death บางคนงงว่าขำตรงไหน บางคนไม่ชอบเลยที่The mist ทั้งเรื่องเห็นสัตว์ประหลาดไม่ถึง20นาที บางคนชอบที่มันเป็นอย่างนี้ มันขึ้นอยู่กับคุณครับ แต่จะบอกว่า การได้ดูหนังดีๆหลายๆประเภทนี่ มันดีมากๆเลยนะครับ อยากให้ดูหนังหลายๆแนว หลายๆประเทศ ไม่ใช่ดูแค่หนังตลาดทั่วๆไป(หนังตลาดคือหนังฮอลลี่วูด หนังตลกไทย) จากคุณ : HeavyToon - [ 11 มี.ค. 51 13:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าไปตามน้ำกับกระทู้ในเฉลิมไทย ดูหนังแล้วก็เป็นตัวของตัวเอง ชอบก็ตั้งกระทู้ว่าชอบ ไม่ชอบก็ตั้งกระทู้ไม่ชอบ ส่วนใครจะมาเหน็บแนมอะไรก็อย่าไปถือสา กระทู้สาธารณะเราตั้งแล้วเขาไม่เห็นด้วยก็ควรจะทำใจ... จากคุณ : ผมก็ยังคิดว่าผมหล่อ - [ 11 มี.ค. 51 13:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า คนดูหนังเป็น หมายถึง คนที่ดูหนังได้ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นแนวที่ชอบหรือไม่ชอบ ดูหนังแล้วได้เรียนรู้ ได้เข้าใจถึงธรรมชาติและความเป็นหนังในแนวต่างๆ และถึงแม้จะเป็นหนังที่(คนอื่นว่า)ห่วยยังไงก็ตาม ก็สามารถที่จะรับรู้และชื่นชมในสิ่งที่หนังเรื่องนั้นพยายามสื่อออกมา คนดูหนังไม่เป็น คือคนที่ดูหนังแล้วเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง "ถ้ากรูชอบคือหนังดี ถ้ากรูไม่ชอบคือหนังห่วย" แล้วเที่ยวประณามคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยว่า "ดูหนังไม่เป็น" จากคุณ : มนุษย์บัตรผ่าน - [ 11 มี.ค. 51 13:29:56 A:146.23.250.105 X: TicketID:110995 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อจากความเห็นที่ 5 ส่วนคนธรรมดา ก็คือคนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิงแบบคนทั่วๆไป แล้วแต่ว่าความบันเทิงของแต่ละคนนั้นจะเป็น บู๊ล้างผลาญไร้สติ ตลกไร้สมอง ดราม่าชีวิตรันทด หรือ ผีนรกแตก ขึ้นกับความชอบของแต่ละคน ตราบใดที่ไม่ไปก้าวก่ายความชอบของคนอื่นก็โอเค จากคุณ : มนุษย์บัตรผ่าน - [ 11 มี.ค. 51 13:36:43 A:146.23.250.105 X: TicketID:110995 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มันคือรสนิยมคับ.....เหมือนข้าวจานเดียวกันแท้ๆ บางคนยังกินข้าวหอม บางคนข้างกล้อง.......คือ สาขาอะไรที่เกี่ยวกับศิลป(หนังก้คือศิลป) มันไม่มีอะไร ถูก ผิด ดี เลว........เพราะมันคือแง่มุม จะชอบรึไม่ชอบ ก็คือรสนิยมคับ........ทุกคนดูหนังเป็นหมด แต่ชอบไม๊ นั่นอีกเรื่อง จากคุณ : dark leklek - [ 11 มี.ค. 51 13:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เวลาผมพูด ก็จะพยายามพูดว่า หนังเรื่องนี้ "ผมชอบ" หรือ "ผมไม่ชอบ" และพยายามหลีกเลี่ยงการพูดว่า "หนังดี" หรือ "หนังไม่ดี(ห่วย)" (แต่ก็มีเผลอกันบ้าง) จากคุณ : มนุษย์บัตรผ่าน - [ 11 มี.ค. 51 13:43:06 A:146.23.250.105 X: TicketID:110995 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วิธีแรกคือ  เลิกสนใจพวกเทพในเฉลิมไทย   แล้วจะค่อยๆดูหนังเป็นขึ้นมาเอง  เพราะเฉลิมไทยชอบสร้างกระแส..... จากคุณ : ความตายสีชมพู - [ 11 มี.ค. 51 13:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความรู้สึก การรับรู้ถึงตัวหนังของคนมันไม่เท่ากันครับ 2คนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งมองเห็นsora aoi ต่างคนต่างความคิด จากคุณ : อ้วน กลม อารมณ์ดี - [ 11 มี.ค. 51 13:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องแยกได้ด้วยว่า หนังนะ ไม่ใช่ชีวิตจริง ไอ่ที่เริ่มพูดว่าถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ เอาแล้ว :-)ดูหนัง หรือสมมุติตัวเองเป็นพระเอก นางเอกฟะ หนังเขาสร้างมาแล้ว ก็ดู รับอรรถรส จะวิจารณ์ก็ให้มันเปนไปตามเนื้อผ้า ไม่งั้นก็สร้างแบบที่ ถ้างั้น งี้ โง้น ซะเอง จากคุณ : offey - [ 11 มี.ค. 51 13:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ชอบที่บางคนคอยกระแนะกระแหนว่าเฉลิมไทยชอบสร้างกระแส (เพราะอาจจะเคยไม่ชอบหนัง ที่คนอื่นๆในเฉลิมไทยชอบ เลยโดนสะกิดต่อมหงุดหงิด) ต้องยอมรับว่าโดยธรรมชาติแล้ว หากใครดูหนังมาแล้วชอบ ก็มักจะต้องการแสดงออก แสดงความชื่นชม และแนะนำให้คนอื่นๆไปดู คนชอบมีมาก ก็พูดถึงกันมาก คนชอบมีน้อย ก็พูดถึงกันน้อย เป็นธรรมดาโลก ปัญหามันไม่ได้มาจากคนสร้างกระแสหรอก ปัญหามันอยู่ที่คนตามกระแสต่างหาก หากตรึกตรองและตัดสินใจแล้วว่าจะไปดูหนังเรื่องใด แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ชอบใจ ก็ต้องยอมรับมันซะว่าพลาด เพราะตัดสินใจเอง ไม่มีใครบังคับ จะมาตีโพยตีพายโวยวายว่าไม่น่าเชื่อคนเฉลิมไทย ก็ดูจะไร้สติไปหน่อย จากคุณ : มนุษย์บัตรผ่าน - [ 11 มี.ค. 51 13:57:37 A:146.23.250.105 X: TicketID:110995 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าคนดูเป็นคือคนที่เข้าถึงจุดประสงค์ของหนังเรื่องนั้นนะ  ถ้าหนังตลก ดูแล้วตลกก็ถือว่าดูเป็น  ถ้าหนังแอกชั่น ดูแล้วสะดุ้งสะเทือนไปด้วยตลอดเรื่องก็จัดว่าดูเป็น  ผมว่าที่สำคัญมันอยู่ที่ว่าแต่ละคนชอบและถนัดดูหนังอะไรแนวไหน  ผมชอบดูดราม่า ก็ไม่เห็นว่าหนังตลกหรือแอกชั่น จะสู้ได้  นั่นก็เพราะว่าผมดูหนังแนวนั้นไม่เป็น  ไม่ใช่้หนังไม่ดี มันอยู่ที่ตัวคนน่ะครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่าจะดูว่านักแสดงคนไหนเล่นดีไม่ดียังจะดูง่ายกว่าเยอะเลย จากคุณ : Don Freelancero (freelance_law) - [ 11 มี.ค. 51 14:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่า พวกที่ชอบดูถูกรสนิยมคนอื่น ไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนอื่นที่แย้งกับตน พวกที่ชอบบอกว่าพวกที่ดูหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วไม่รู้เรื่องเป็นพวกดูหนังไม่เป็น คนพวกนี้แหล่ะครับ "ที่ดูหนังไม่เป็น" เพราะคนที่ดูหนังเป็นต้องรู้จักเคารพความเห็นของผู้อื่นครับ จากคุณ : ข้าวผัดปลาเค็ม - [ 11 มี.ค. 51 14:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...ไม่มีนิยามที่เป็นสากลของ 'ดูหนังเป็น' ดังนั้นแต่ละคนก็จะมีเลเว่ลของความหมายที่แตกต่างกัน แต่ ต้องยอมรับว่า 'เลเวลหรือระดับของการดูหนัง' มีไม่เท่ากัน ดูหนังมีได้ตั้งแต่ ดูเอาสนุกเอามัน - ดูแล้วตีความดูแล้วคิดวิเคราะห์ - ดูแล้วสามารถประยุกต์องก์ความรู้ของตัวเองเช่นประวัติศาสตร์ สังคม เข้าไปผสมให้สนุกมากขึ้น - ดูรายละเอียดของโครงสร้างของการแสดง ฯลฯ บางคนดูหนังแนวเดียว บางคนดูได้หลากหลาย บางคนสนุกกับการดูหนังแนวใหม่ๆ ซึ่ง ระดับที่ไม่เท่ากัน ไม่ได้แปลว่า ใครดีกว่าใคร ...ปัญหาของการดูหนังอันดับต้นๆที่จะทำให้ เลเวลของการดูหนังไม่ค่อยไต่ระดับมักมาจาก ‘อคติกับความหมั่นไส้’ เช่น ไม่ชอบดูหนังอาร์ตเพราะขี้เกียจปีนบันไดดู , ไม่ชอบดูหนังตลาดเพราะมันไม่มีคุณค่า , ไม่ชอบอ่านบทวิจารณ์เพราะนักวิจารณ์ดีแต่เขียนทำหนังเองคงไม่เป็น ฯลฯ หรือ พอเราดูหนังไม่รู้เรื่องแล้วก็เลยพาล กลัวคนอื่นหาว่า ดูหนังไม่เป็น ก็รีบออกตัวประชดประชันว่า หนังเทพให้พวกเทพดู หรือ เราชอบดูหนังอาร์ตก็พาลกวาดคนชอบหนัง transformer ว่าพวกนี้ไม่พัฒนา ...แต่หากเมื่อไหร่ที่สลัดอคติเหล่านี้ได้ และ เปิดใจดูหนังที่หลากหลาย อ่านบทความเพิ่มเติมก็จะช่วยให้เราดูหนังได้สนุกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วการดูหนังก็จะสนุกมากกว่าที่เป็นมา เขียนซะยาว สรุปได้สั้นๆว่า แต่ละคนก็ดูหนังเป็น แต่จะเป็นได้แค่ไหน ก็ขึ้นกับแต่ละคน และ ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเหยียดหรือกระแนะกระแหนรสนิยมที่แตกต่างกัน เพราะแบบนั้น ไม่ใช่แค่ดูหนังไม่เป็น แต่ยังเท่ากับ ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นไม่เป็นอีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 14:16:34 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 11 มี.ค. 51 14:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การดูหนังคงเหมือนกับการกินอาหารครับ คือต้องรู้ว่ารสชาติที่ตัวเองชอบ ว่าชอบรสไหน โดยไม่ใส่ใจว่าร้านนั้นจะมีโล่ห์ มีดาวหรือไม่ คนกินอาหารเป็นคือคนที่รู้จักตัวเอง เหมือนคนดูหนังครับ ถ้าเรารู้จักตัวเองแล้ว ไม่ต้องสนคนอื่นหรอกครับ เงินเรา ความสุขเรา เวลาของเรา เราเท่านั้นที่จะบอกได้ว่ามันดี หรือไม่ดี แต่ถ้าคนกินอาหารที่รอบครอบ นอกจากรสชาติแล้วคงต้องมองไปที่ความสะอาด วัตถุดิบที่นำมาปรุง ภาชนะที่ใส่ บรรยากาศของร้าน ถ้านำองค์ประกอบทั้งหมดนี้มารวมกับรสชาติด้วยก็จะยิ่งดีครับ จากคุณ : บทเพลงเดือน10 - [ 11 มี.ค. 51 14:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หนังดี ไม่ดี มันมีองค์ประกอบ ทางด้าน บท การถ่ายทำ การตัดต่อลำดับภาพ การมี Sound ประกอบ รวมถึงนักแสดง เพราะฉะนั้น หนัง ดี หรือไม่ดี บอกได้ครับ เพราะมันมีมาตรฐาน เกี่ยวกับหนัง ไม่ใช่บอกว่า หนังที่ชอบ คือหนังดีเท่านั้น แต่ ว่า คนเราจะชอบหรือไม่ชอบ หนังดี หรือไม่ดี นั่นคือความเห็นของแต่ละคน  บางอารมณ์ ผมอาจชอบหนังที่ไม่ได้ดีเด่อะไรมาก แต่ ณ เวลานั้น หนังมันโดน ทั้งๆที่หนัง มันอาจมี กรุ๊ปนักแสดงที่แข็งเป็นตอไม้ บท มีแต่จุดอ่อน แต่อาจมีบางอย่างที่ทำให้เราชอบ   แต่ผมก็จะไม่บอกว่า หนังเรื่องนั้นเป็นหนังดีได้ ส่วนหนังดี บางเรื่อง ผมอาจดูไม่รู้เรื่อง หรือไม่ชอบ  แต่ก็จะพยายาม ดู และลองติดตาม คนที่เขาวิจารณ์ว่า สิ่ง หรือสารที่ได้จากหนังเรื่องนั้นเป็นอย่างไร ก็จะเอาวิเคราะห์กับตัวเอง  อย่างน้อย ถึงแม้ว่าเราไม่ชอบหนังดีๆ บางเรื่อง แต่เราก็ได้อุดหนุน หนังดีๆเหล่านั้น ในความเห็นผม ผมว่าคนดูหนังเป็น คือคนที่จับ สารของหนังได้ ว่า เขาจะบอกถึงอะไร  ซึ่งมันต้องใช้ประสบการณ์ รวมทั้งจินตนาการของเราด้วย หรืออาจต้องใช้ ความรู้รอบตัว การเมืองระหว่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศที่ทำหนัง  ซึ่งผมว่าบางครั้งก็สนุกดีนะครับ  ผมอยากให้คนไทย ดูหนังแล้วคิดตาม ปรับทัศนคติ ต่อสิ่งรอบๆตัว ไม่อยากให้ดูเพื่อ บันเทิงอย่างเดียว  คือเข้าใจว่า บางครั้งอยากบันเทิง แต่บางครั้ง ก็เอาสาระบ้างก็ได้ ผสมกันไป ส่วนคนดูหนังไม่เป็น อันนี้มะแน่ใจเหมือนกันว่าจะอธิบายอย่างไร ยกตัวอย่าง ความเห็นที่ 3 เรื่องแฟนฉัน ฉากสุดท้าย ที่นางเอกหรือหันมาแต่เป็นนางเอกในวัยเด็ก   อันนี้เป็นตัววัดอย่างนึงกับคนที่ดูหนังเป็น กับไม่เป็นนะ ในความคิดผม ส่วนคุณความเห็น 9 ( ความตายสีชมพู  ) ผมไม่เห็นด้วยบางอย่าง  คนที่วิจารณ์หนังในพันธุ์ทิพย์ที่ดี มีหลายคนครับ ที่เขาวิจารณ์ในสิ่งที่ดี เช่น คุณหมอ ผมอยู่ข้างหลังคุณ เป็นต้น หรืออีกหลายๆคน ที่คุณได้อ่านข้อเขียนของเขาก็จะรู้เอง    หนังบางเรื่องผมไม่ได้ดู ก็มาอ่าน ข้อเขียนของคนเหล่านี้   ได้เปิดมุมมองว่า อืม บางครั้งเราก็คิดไม่ถึง เป็นต้น สำหรับผมไม่รู้ว่าผมดูหนังเป็นรึป่าว แต่ผมชอบที่จะดู หรือพยายามที่จะดูหนังหลายๆแนว บางครั้งยอมรับว่า อาจจะต้องศึกษา อ่านข้อเขียน นักวิจารณ์บางคนบ้าง เพื่อเป็นข้อมูล อยากให้หลายๆคนดูหนัง แล้วได้สิ่งที่มาจากหนังมาเป็นมุมมองของชีวิตเรา หรือเพื่อที่จะต่อยอด หาข้อมูลต่อไป จากคุณ : jedijoke - [ 11 มี.ค. 51 14:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แตกต่าง แต่อย่าแตกแยกครับ จากคุณ : cheychai - [ 11 มี.ค. 51 14:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คนดูหนังเป็นคือพวก ไม่เคี้ยวขนมเสียงดัง ปิดมือถือ เวลาสงสัยจะกระซิบข้างหู ห้ามปวดฉิ๊งฉ่องระหว่างดูหนัง ส่วนคนดูหนังไม่เป็นคือพวก เคี้ยวดัง ชอบฮัลโหล และมากันเป็นฝูงเวลามีฉากขำก็จะได้พากันเฮดัง เรียกร้องความสนใจว่าข้ามาเป็นกลุ่ม คนที่ดูหนังเป็นมักจะชอบมาดูคนเดียว คนที่ดูหนังไม่เป็นชอบดูแบบจ้องจะจับผิดอย่างเดียว แล้วเอามาวิจารณ์ในนี้งัยจ๊ะ!? จากคุณ : ยอมเกรียนเพราะรักเธอ - [ 11 มี.ค. 51 14:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่มี.. ใครก็ตามที่มาบอกคุณว่า คุณดูหนังไม่เป็น.. เข้าใจได้เลย ว่า เขาเองแหละที่ดูหนังไม่เป็น.. ไม่มีหรอก ไอ้ ดูเป็น / ไม่เป็น ถ้าใช้คำว่า ดูเข้าใจ / ไม่เข้าใจ น่าจะถูกกว่า.. ล่าสุด.. ดิฉันดู I'm Not There หลายคนก็ชมกัน.. แต่ดิฉัน..ไม่เก็ท!! ดูหนังไม่เข้าใจในสารที่หนังต้องการสื่อ ไม่เก็ทหนังเรื่องนั้น.. ไม่ใช่เรื่องผิด.. การที่เข้าถึงสารของหนังเรื่องหนึ่ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความดีของหนังเพียงอย่างเดียว.. หนังหลายเรื่อง.. ต้องการ ประสบการณ์การดูหนัง และยิ่งไปกว่านั้น ประสบการณ์ชีวิต ของคนดูด้วย เพื่อที่ให้เข้าใจ สาร/ความดี ของหนัง.. ดิฉันดู The Bridges of Madison County  ครั้งแรก ตอนอายุ 16.. ก็ไม่เก็ท.. เพราะไม่เข้าใจ ว่าทำไม ตัวเอก ที่มีสามีดีพร้อมทุกอย่าง แล้วยังไปมีชู้ได้อีก.. เลยไม่ชอบ.. มาดูอีกทีคอนนี้ หลงรักหนังเรื่องนี้ไปเลย.. เพราะประสบการณ์ชีวิต สอนให้รู้ว่า รักแท้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว.. จากคุณ : จูริง - [ 11 มี.ค. 51 14:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนหนังดี ไม่ดี อันนี้ มีอยู่จริงบนโลกนี้.. เพียงแต่ว่า ความดี ของหนังเรื่องๆหนึ่ง.. มันไม่มีอะไรมากำหนดตายตัว ว่า อย่างนี้ดีนะ อย่างนี้ เรียกว่า ไม่ดีนะ.. เพราะคนทุกคน ก็เลือกที่มอง หนังเรื่องเดียวกัน ในมุมที่แตกต่างกันออกไป.. อะไร ดี อะไร ไม่ดี.. ของสิ่งๆหนึ่งของแต่ละคน จึงไม่เหมือนกัน แต่ คห. 19 ทำให้ดิฉันเปลี่ยนความคิดใหม่ การดูหนังไม่เป็น มีอยู่บนโลกนี้ จริงๆด้วย.. นั่นคือ ไอ้พวกที่เข้าไปในโรง แล้วไปรบกวนสมาธิการดูหนังของคนอื่น(แบบจนเกินเหตุ.. ถ้ารบกวนเล็กๆน้อยๆ หรือหน้าตาดี ดิฉันให้อภัย) ได้แหละ คำนิยามของคนที่ดูหนังไม่เป็น จากคุณ : จูริง - [ 11 มี.ค. 51 14:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอแก้.. ...ถ้ารบกวนเล็กๆน้อยๆ หรือหน้าตาดี ดิฉันให้อภัย ..ยกเว้นมากับแฟน จากคุณ : ^__^' (จูริง) - [ 11 มี.ค. 51 14:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คนดูหนังเป็น คือ คนที่ดูหนังอะไรก็ได้ แล้วได้อะไรที่เป็นประโยชน์จากหนัง ไม่ว่าผู้กำกับจะจงใจใส่เข้าไปในหนังหรือไม่ได้ใส่เข้าไปก็ตาม เป็นคนที่เอาหนังมาเป็นบทเรียน ได้อะไรอย่างน้อยก็หนึ่งอย่างจากหนังที่ดู เช่น ดูหนังตลกโปกฮาไร้สาระ แล้วหัวเราะไปกับมัน (นั่นคือได้ประโยชน์จากหนังเรื่องนี้แล้ว แม้ว่าคนอื่น ๆ อาจจะมองว่าหนังเรื่องนี้ไร้สาระมาก ๆ แต่มันก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่รู้จักรับเอาประโยชน์ของมัน) หรืออาจจะเศร้ากับบางตอนที่สะท้อนใจ แล้วเอามาเป็นตัวอย่างดี ๆ สำหรับตัวเอง หรืออาจจะดูหนังโป๊แล้วรู้จักปลง หนังดีไม่ดีมันก็ตัดสินยาก แต่คนที่ดูหนังเป็น จะได้อะไรดี ๆ จากหนังแน่นอน ส่วนคนที่ดูหนังไม่เป็น คือ คนที่ดูไปแล้วไม่ได้อะไรเลย ดูแล้วหันมาถามคนข้าง ๆ ว่า ทำไมมันถึงเป็นอย่างั้นอย่างนี้ล่ะ พวกนี้เป็นพวกมีตาไว้รับภาพ แต่ประมวลผลออกมาไม่ได้ หรือเป็นพวกดูหนังอะไรก็มองเห็นแต่ด้านเสียของหนัง ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟ็กต์แย่ หรือบทอ่อนบ้างล่ะ จากคุณ : ดูเป็น - [ 11 มี.ค. 51 14:41:57 A:172.18.206.235 X:133.62.137.101 TicketID:148450 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมมีมาตรฐานส่วนตัวว่า หนังดี คือหนังที่ทำให้เราดูแล้วมีความสุข ส่วนหนังที่เทพๆท่านเชียร์ แต่ผมดูไม่ไม่สนุก มันก็แค่หนังขยะครับ จากคุณ : ย่ามฝัน - [ 11 มี.ค. 51 14:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับ #17 หนังดีหรือไม่ดีมันมีมาตรฐาน มีหลักวิชาการที่สามารถบอกได้ครับ ไม่ใช่มาบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ หนังที่เราชอบคือหนังดี ฯลฯ พูดแบบนี้มันก็แค่คำพูดเท่ๆแค่นั้น แต่หนังดีตามมาตรฐาน อาจจะไม่ถูกใจคนดูส่วนใหญ่ก็เป็นได้ ต้องแยกประเด็นกัน จากคุณ : กัซจัง - [ 11 มี.ค. 51 14:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ... การสรุปหนังดีไม่ดี ถ้าจะเอาตัวเองเป็นเกณฑ์นั้นได้อยู่ แต่ต้องมีวงเล็บแบบนี้จึงจะสรุปความได้ดีที่สุดครับ หนังดี(ของเรา) = หนังที่เราชอบ หนังห่วย(ของเรา) = หนังที่เราไม่ชอบ และ หนังที่เราชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็น หนังดี หนังที่เราไม่ชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็น หนังห่วย ... เพราะอย่างที่ความเห็นบนๆว่าไว้ ทุกอย่างมีมาตรฐาน มีเกณฑ์ตัดสิน โดยคนตัดสินถ้าใช้ รสนิยมหรือความรู้สึกส่วนตัว มันก็จะบอกได้ยาก เช่น เราเดินไปชี้ๆบอกว่า หมอผ่าตัดห่วย มันก็ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะ เราไม่มีความรู้ทางการแพทย์จะรู้ได้อย่างไร ว่า แบบไหนห่วย แบบไหนดี ดังนั้น หนังดี หรือ ไม่ดี สามารถบอกได้แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ หรือ หลักวิชาการการเรียนรู้ ฯลฯ ไม่ใช่ ความชอบไม่ชอบส่วนตัว (นอกเสียจากจะใส่วงเล็บแบบข้างต้น) จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 11 มี.ค. 51 15:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คคห 10... สองคนนั้นยลอะไรกันครับ...? น้องอ้อยเล่นมวยปล้ำโคลน...? จากคุณ : Sydt - [ 11 มี.ค. 51 15:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าพูดถึงหลักการคงไม่มีแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องของความรู้สึก และ ความชอบส่วนตัวล้วน ๆ ,ประเด็นถกเถียงจะเกิดขึ้นกับภาพยนตร์ประเภทที่ต้องใช้จินตนาการส่วนตัวร่วมด้วย หรือ ต้องตีความออกมาหลังจากดูเสร็จแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ .... คำพิพากษามหาสมุทร , There will be blood ลองไปหาคำวิจารณ์เก่า ๆ ดู จะเห็นว่าประเด็นของหนังมีร้อยแปด และความชอบ/ไม่ชอบ ต่างกันฟ้ากับเหว ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิดนะ อีกทั้งประสบการณ์ชีวิต ความเชื่อ นิสัย แต่ละคนไม่เหมือนกัน จะให้ชอบและยกย่องว่าดีเหมือนกันคงยาก แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 15:34:56 จากคุณ : Capt.Cook - [ 11 มี.ค. 51 15:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กระทู้นี้อ่านสนุกดีแฮะ จากคุณ : ความสุขอยู่ที่ใจ - [ 11 มี.ค. 51 15:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แค่ดูหนังแล้วรู้เรื่อง ก็ถือว่าดูหนังเป้นแล้วครับ แต่ถ้าดูแล้วสื่อออกมาได้ว่าคนทำหนังการสื่ออะไรออกมาด้วย นั้น เขาเรียกว่า คนวิจารณ์ แต่สำหรับผมดูหนังแล้วคิดว่ามันให้แง่คิดอะไรบ้าง สร้างความบันเทิง สร้างความหดหู่ หรือกระตุ้นต่อมอะไรผมได้ ผมว่ามันโอเคแล้วน่ะ แล้วแต่คนน่ะครับ ความคิดใครความคิดมัน แต่ดูบ้านผีปอบที่ไร ผมเหนื่อยแทนนักแสดงทุกที ขำ ฮา ดี อิอิอิ ก็ถือว่าผมดูหนังเป้นแล้ว  ไปล่ะ ฟริ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : The_kop_san (แผ่นดินคือหัวใจข้าฯ) - [ 11 มี.ค. 51 15:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วชักสับสน ดูหนังเป็น ไม่ได้แปลว่า ดูแล้วรับสาร หรือ "หาข้อดี" จากหนังทุกแบบนะครับ นั่นนะเรียกคน รู้จักคิด มองเห็นรอบด้าน เป็นคนเข้าใจและมองโลกในแง่ดีครับ นิยามว่าดูหนังเป็นไม่เป็นเนี่ยยาก เพราะมันจะมีความชอบไม่ชอบ ความคุ้นเคยไม่คุ้นเคย รสนิยมส่วนบุคคล วัยวุฒิ วุฒิภาวะ ประสบการณ์ โอ้ย องค์ประกอบมากมาย สารพัดละครับ แต่ดูแล้วบอกว่าหนังเรื่องไหนดี ไม่ดี อันนี้ง่าย (ไม่เกี่ยวกับชอบไม่ชอบนะครับ) อย่างทีความเห็นบนๆบอก เพราะฉะนั้น นิยามสำหรับผม ที่จะบอกว่า เออคนไหนดูหนังเป็นไม่เป็นเนี่ย จะดูจาก 1. ความเข้าใจในเรื่องเบื้องต้นก่อน 2. สามารถติดตามสถาณการณ์และเข้าใจถึงความเป็นเหตุเป็นผล ของ ตัวละคร หรือ อารมณ์ของหนังที่จะสื่อ (ประมาณว่า เข้าใจระดับสอง) ได้ 3.มีความสามารถ ที่จะถ่ายทอดให้คนอื่นรับทราบ (ไม่ใช่แค่เล่าว่าหนังแนวไหน เรื่องคร่าวๆยังงัย แค่นั้นนะ ) และพอจะรู้ถึงแกนหลักของหนังที่นำเสนอได้ 4. มีความสามารถ พอที่จะวิเคราะห์หนังได้ว่า จัดอยู่ในประเภท หนังดีหรือไม่ ตามแนวทางของหนังเองได้หรือไม่ 5. ต้องมีประสบการณ์ในการดูหนังหลากหลายแนว และพอจะเข้าใจเบื้องหลังของหนัง เช่น นักแสดง ผกก. บ้าง สรุปง่ายๆครับ คือ ประเภท ดูแล้ว "พอที่จะ" เข้าใจหนัง ถ่ายทอดเรื่องราว และวิเคราะห์ ให้คนอื่นหรือตัวเองรับรู้ได้ และมีความสนใจหนัง มากกว่าแค่ จะดูเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ "ระดับ" ของการดูเป็น ก็จะขึ้นกับ ประสบการณ์การดูหนังที่ผ่านมาของตนเองครับ จะอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้รักที่จะดูหนัง มีมารยาทที่ดีในการดูหนัง และวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ เท่านี้ ก็เป็น "คนดูหนังเป็น" แล้วละครับ จากคุณ : Maddog - [ 11 มี.ค. 51 15:34:16 A:125.25.196.122 X: TicketID:163930 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่รู้สิว่าดูหนังเป็นไม่เป็นมันต่างกันยังไงเอาอะไรเป็นมาตรฐาน เราเองถ้าหนังเรื่องไหนเราดูแล้วพอใจก็บอกว่ามันดี ถ้าหนังเรื่องไหนดูแล้วไม่ชอบก็จะบอกว่าไม่ดี ว่ากันตรงๆเลย จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 11 มี.ค. 51 15:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ในความคิดผม มาตราฐานของคนที่ดูภาพยนต์เป็น คือคนที่ดูภาพยนต์แล้วเข้าใจในตัวเนื้องานของหนังที่พยายามสื่อสารมาให้กับคนที่ดู เช่นพวก พล๊อตเรื่อง บทสนทนา เอฟเฟคต่างๆ ไม่ก็คอสทูม ทั้งยังรวมถึงแง่คิด ปรัชญาต่างๆที่แฝงมาในตัวหนัง แน่นอนผมว่าจุดประสงค์หลักๆของภาพยนต์แต่ละเรื่องที่ออกมาคือต้องการเอนเตอร์เทนผมชมในกลุ่มที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็ชอบแอ็คชั่น ดราม่า ก็ว่ากันไป แต่ถ้าว่ากันโดยเหตุและผล ผมว่าภาพยนต์ที่มีส่วนประกอบหลักๆอย่างที่ได้ว่ามาข้างต้นค่อนข้างจะดี น่าจะเป็นหนังที่ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่สนุกสนานไปกับการชมได้ถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม ผมขอยกตัวอย่างเรื่อง TransFormers รู้สึกได้เลยว่าผู้ไปชมส่วนมากจะพอใจและชื่นชอบ นั่นหมายความว่า ภาพยนต์ได้บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวมันเอง รวมถึงคนที่ดูก็บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองเช่นกัน แต่มีผู้ชมอีกส่วนอาจจะไม่ชื่นชอบก็ไม่ได้แปลว่าดูภาพยนต์ไม่เป็น เพียงแต่ว่า ภาพยนต์ไม่ได้ทำหน้าที่ของมันได้เต็มที่เนื่องจากคนที่ดูไม่ชื่นชอบในแนวๆนี้ ผมเลยคิดว่าเราแต่ละคนดูหนังเป็นในแนวที่ต่างกันออกไป ถ้าคุณคือคอแอ็คชั่นเลย ผมว่าคุณจะดูส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระเอกใช้ปืนอะไร เสียงปืน เสียงระเบิดเป็นยังไง เครื่องแต่งกายหน่วยสวาท ต้องเป็นแบบไหน คุณจะเข้าใจหนังประเภทนี้ได้ไม่ยาก ในขณะที่ท่านอื่นๆ อาจจะไม่ได้สนใจในส่วนนั้น แล้วผมก็เลยสรุปว่าคนที่เข้าใจภาพยนต์ได้หลายๆประเภทน่าจะเป้นคนที่ดูภาพยนต์เป็นและสนุกสนานไปกับการชมมากที่สุด จากคุณ : mr.Santury - [ 11 มี.ค. 51 15:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คห. ส่วนตัวนะ... (สำหรับบุคคลทั่วไป...ที่ไม่มีความรู้เรื่องการทำหนังเลย) ดูหนังเป็น คือ ดูจบแล้วตอบตัวเองได้ว่า..ชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องที่ดูเพราะอะไร...แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ...อย่าไปเครียดกับคำพูดของคนอื่นมากนักเพราะมันเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แต่คงจะดีกว่า...ถ้าตอบตัวเองว่าได้อะไรจากหนังที่ดูบ้าง... จากคุณ : อรุณจันทรา - [ 11 มี.ค. 51 16:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มันขึ้นอยู่กับเรื่อง และ แนวที่ดูด้วย ยกตัวอย่างเป็น 2 แบบ แบบแรกถ้าไปดู romantic comedy มันแยกแยะไม่ได้หรอกว่าใครดูเป็น หรือไม่เป็น แบบ2 แต่หนังบางเรื่องมันมีดีอยู่ลึกๆจริงๆ คือคุณเข้าไปนั่งดู อ้าปาก รอคนพ่น อาหารที่ บด แล้วมาให้ อย่างเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยตัวเองในการวิเคราะห์หรือคิด เอาเอง มันถึงจะมีคุณค่าออกมา หนังแบบหลังเนี๊ยะ ที่คนดูหนังไม่เป็น(ในความหมายของ จขกท.) เขาจะไม่ชอบดู ซึ่งความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่ควรใช้คำว่าดูหนังเป็น-ดูหนังไม่เป็น มันทำให้คนที่ไม่ชอบ ดูหนังแบบที่ 2 เขาจะรู้สึกโดนดูถูก เพราะจริงๆแล้ว มันไม่มีใครมาดูถูกเราได้ จากอีแค่รสนิยมการชอบดูหนังอ่ะนะ เพราะบางคนอยากดูหนังสบายๆ หลังจากเหนื่อยจากการเรียน-ทำงาน บางคนอยากจะใช้สมองตลอดเวลา บางคนก็ทำได้ทั้ง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา สรุปคือมันแล้วแต่อ่ะ คุณจะทำอะไร มันก็ ไม่ผิดหรอก ไอคนที่จะมาบอกว่าคุณ ควรจะแบบนั้น คุณควรแบบนี้ เนี่ย เขาต้องพิจารณาตัวเองแล้ว แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 16:13:26 จากคุณ : ทาโกะยากิลูกโต๊โตกรอบนอกนุ่มใน - [ 11 มี.ค. 51 16:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ จขกท ถามมาก็เหมือนกับคำว่า กินเป็น กับ กินไม่เป็น นั้นแระครับ กินเป็นคือกินแล้วอร่อย กินไม่เป็นคือกินแล้วไม่อร่อย หรือไม่อยากกิน หรือรู้วิธีกินที่ถูกต้อง แต่สุดท้ายก็คือเข้าปาก เคี้ยวๆ (ดื่ม หรืออม) แล้วก็กลืน (บ้างอย่างอาจกลืนไม่ได้) เหมือนกัน ดูเป็นคือดูแล้วสนุก ดูไม่เป็นคือดูแล้วไม่สนุก หรือไม่อยากดู หรือรู้วิธีดูที่ถูกต้อง แต่สุดท้ายก็ดู ให้สมองคิด ตีความเหมือนกัน จากคุณ : ก็แค่นั้น (MasterK) - [ 11 มี.ค. 51 16:18:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พวกที่วิจารณ์แบบมีอคติไงครับ เช่น ... จากคุณ : Jenjutakarn - [ 11 มี.ค. 51 16:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอาแบบไม่ต้องวิชาการอะไรมาก สำหรับผมมันง่ายมากๆที่จะนิยามว่าดูหนังเป็นหรือไม่เป็น มันขึ้นอยู่กับว่า 1.คุณไม่ดูถูกความคิดของคนอื่นไม่ว่ามันจะตรงกับความคิดเห็นของคุณหรือไม่ก็ตาม ต้องรู้และยอมรับว่าคนเรามันต่างกัน พื้นฐานการรับรู้ก็ต่างกันเช่นกัน ไม่มีใครโง่ ไม่มีใครฉลาดกว่าใคร ทุกคนเท่าเทียมกันหมดในด้านความคิด 100 คน 100 ความคิดครับ 2.ดูหนังหรือละครเสร็จแล้ว ไม่ว่ามันจะเป็แนวติงต๊องแค่ไหน คุณสามารถหาข้อคิดของหนังเรื่องนั้นๆได้ ตามนั้นมั้งครับ จากคุณ : toy_score24 - [ 11 มี.ค. 51 16:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คนดูหนังเป็น ..จะรู้ว่า หนังเรื่องนี้ ควรไปดูกับใคร เพื่อน แฟน กิ๊ก พ่อแม่ หลานๆ คนเดียว .... มั้ง จากคุณ : biggyme - [ 11 มี.ค. 51 16:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 "ภาพยนต์ที่ดีคือภาพยนตร์ที่คุณเองดูแล้วสนุก" แค่นั้นเองครับสั้นๆง่ายๆได้ใจความ จากคุณ : นายสองสี - [ 11 มี.ค. 51 16:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เหมือนและต่างกับที่ทุกคนพูดมาในที่นี้ครับ.... โดยเฉพาะเรื่องหนังดีกับหนังที่ชอบเนี่ย.... โดยปกติผมและผองเพื่อนสมัยอยู่โรงเรียน..... เวลานัดรวมกลุ่มรียูเนียนกันอีกทีก็จะมีกิจกรรมหนึ่งทำตอนกลางคืนคือ..... เทศการหนังห่วย.....โดยการเปิดหนังที่คิดว่าแย่ๆ.....หนังแอ็คชั่นไก่กา.....หนังสยองขวัญเกรดบี....หนังไซไฟทุนต่ำ..... แล้วทุกคนก็สนุก.....ทุกคนก็ตลกไปกับมัน..... ไม่ใช่ตลกกับสิ่งที่หนังต้องการสื่อนะครับ..... ตลกกับเอฟเฟกต์ที่ไม่เนียน..... ตลกกับแอ็คติ้งไก่กาของนักแสดง..... ตลกกับฉากหลุดๆหรือไม่สมจริงของเรื่อง..... ตลกกับบทสนทนาแปลกๆ...... ตลกกับเนื้อเรื่องที่ไม่เป็นเหตเป็นผลเอาซะเลย..... ตลกเวลาที่มีเหตุการณ์อะไรในหนังที่มันไปพ้องกับชีวิตจริงของคนในกลุ่ม.... เป็นหนังที่ทำให้พวกเรามีความสุขครับ.....สนุกด้วย.....แบบดูในโรงไม่มีทางสนุกแบบนี้..... แต่พวกเราก็ไม่สามารถเรียกหนังพวกนี้ว่าเป็นหนังที่ดีได้ครับ..... หนังที่ดีในความคิดผมเนี่ย.....เป็นหนังที่ผู้ดูสามารถเข้าใจใน....สาร....ที่ตัวหนังต้องการสื่อออกมาได้.... และยังต้องมีมีเนื้องานกับโปรดักชั่นที่ดีในทุกส่วนครับ..... จะสนุกไม่สนุก (โดยเอาตัวเองเป็นตัววัด) ก็ยังขึ้นชื่อว่าหนังดีครับ..... จากคุณ : UNFORTUNATELY - [ 11 มี.ค. 51 16:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สั้นๆง่าย คนดูหนังเป็น จะรู้ว่า หนังเค้าสื่อถึงอะไร คนดูหนังไม่เป็น จะไม่เข้าใจว่าหนังมันต้องการสื่ออะไรกับเรา จากคุณ : arito - [ 11 มี.ค. 51 16:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 43 "ความงามอยู่ในตาของผู้ดู" .... ผมว่าคำพูดนี้ใช้ได้กับงานศิลปะทุกแขนง ไม่ควรเอาความคิดตัวเองไปติดสินคนอื่นโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรสนิยม ^-^ จากคุณ : don_custom - [ 11 มี.ค. 51 16:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สำหรับเรา ดูหนังเป็น อาจไม่จำเป็นต้องดูแล้วรู้ว่าหนังมันจะสื่อถึงอะไรมากนักก็ได้ แต่ว่าดูแล้วต้องมี "อะไร" เก็บไปคิดบ้าง และที่สำคัญต้องรู้ว่าตัวเองจะ "เชื่อม" กับหนังแนวนั้นๆ ได้มั๊ย เช่นหนังเรื่อง "Dolls" ของ ทาเคชิ คิตาโน่ ที่มีแต่คนบอกว่าดูไม่รู้เรื่อง ดูยาก พาลไม่อยากดู เราว่าสารที่ผกก. เค้าต้องการจะสื่อมันก็มีแน่ๆ อยู่แล้วล่ะ แต่ในระดับหนึ่ง คนดูหนังทุกคนย่อมมีประสบการณ์ที่สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวในหนังได้ ซึ่งนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราดูหนังรักแล้วซึ้ง ดูแล้วร้องไห้ ฯลฯ เพราะเราสามารถเอาตัวเองไปเชื่อมโยงกับหนังได้ เราว่าคนดูหนังไม่เป็น คือคนที่เชื่อมโยงตัวเองกับหนังไม่เป็น และไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเชื่อมโยงกับหนังแนวไหน อันทำให้เกิดปรากฎการณ์ ดังนี้ 1.ไม่มีความรู้สึกเชื่อมโยงกับหนังเกย์ พอไปดูแล้วเลยไม่อิน ไม่เข้าใจวิถีทางของตัวละคร เลยพาลไม่ชอบ และบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่เห็นมีดีตรงไหน แต่ที่จริงๆ นั่นเพราะแยกตัวเองออกมาจากตัวละครต่างหาก เลยทำให้ดูหนังไม่สนุก 2.คนกรุงแท้ๆ บางคน ไม่มีความเชื่อมโยงกับสังคมในชนบท เลยทำให้ไม่อินกับหนังแนวค่ายพระนครฟิล์ม ในขณะที่คนต่างจังหวัดบางคน ก็อาจไม่ค่อยมีอะไรที่จะเอามาเชื่อมโยงกับหนังแนวจีทีเอชได้ สรุป คนสองกลุ่มนี้ เลยกลายเป็นเส้นขนาของกันและกัน   เราว่ามันจะไม่มีการดูหนังไม่เป็น ถ้าคุณรู้ และศึกษาหนังแต่ละเรื่องมาแบบคร่าวๆ หรือจะให้ดี เอาแบบละเอียดๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเอง จะอินกับหนังแนวนี้ได้รึเปล่า อย่าไปดูหนังตามกระแส โดยไม่รู้ว่ามันเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร เพราะถ้าโชคดี คุณก็จะได้ดูหนังที่ถูกรสนิยม แต่ถ้าโชคร้ายคุณก็จะได้ดูหนังแนวที่คุณไม่ชอบ เหมือนอย่างที่หลายคนมาบ่นในนี้ว่า โดน "รักแห่งสยาม" หลอก หลอกให้ไปดูหนังเกย์ เพราะเห็นหน้าหนังแล้วคิดว่ามันเป็นหนังรักวัยรุ่นชายหญิงทั่วไป เค้าไม่ได้หลอก แต่คุณไม่ยอมหาข้อมูลก่อนรับชมต่างหาก ว่ามันเป็นหนังเกย์ (ข้อมูลมาก่อนหนังฉายประมาณปีนึงเห็นจะได้ มาเป็นระยะๆ ) แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 16:42:26 จากคุณ : dogsma - [ 11 มี.ค. 51 16:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ในความคิดส่วนตัว คำว่าดูเป็นกับไม่เป็นนี่ ชัดเจนครับ ดูแล้วเก็ทไปกับหนังได้ทันที รู้เรื่อง รู้ว่าหนังจะสื่ออะไรออกมา (หนังหรั่งจะวัดตรงนี้ได้ดี เพราะหนังหรั่งจะไม่ป้อนรายละเอียดมากจนน่ารำคาญ บางเรื่องนะ ) คนที่ดูไม่เป็น ดูมากๆ บ่อยๆเข้าก็อาจจะดูเป็นขึ้นมาได้ ของแบบนี้อยู่ที่ความชอบด้วย มันเป็นสิ่งสั่งสมมา เป็น EXP. ส่วนตั๊วส่วนตัว... จากคุณ : BoatDevil28 - [ 11 มี.ค. 51 16:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เอาง่ายๆ คิดแบบ งูๆปลาๆครับ ดูหนังไป 100 เรื่อง เข้าใจเนื้อเรื่องซัก 80 เรื่องขึ้นไป ดูหนังเป็นละกัน 100 เรื่อง เข้าใจ 40 - 60 เรื่อง ระดับ คนธรรมดาทั่วไป ดูหนังคลายเครียด 100 เรื่อง เข้า ใจ ต่ำกว่า 20 เรื่อง ดูหนังไม่เป็นครับ ความเห็นตลกๆของผมเอง หุหุ จากคุณ : หุหุ - [ 11 มี.ค. 51 17:37:27 A:124.121.183.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดูหนังเป็นกับไม่เป็น กับ ดูหนังแล้วคิดเป็น กับ ไม่เป็น นี่ต่างกันรึป่าว จากคุณ : Meroko - [ 11 มี.ค. 51 18:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอกดโหวตกระทู้นี้ได้มั้ย ^^ จากคุณ : ความรู้สึกช๊าช้า - [ 11 มี.ค. 51 18:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มันจะเหมือนกับถามว่า คนทำกับข้าวเป็น กะคนทำำกับข้าวไม่เป็น ต่างกันยังไงรึป่าวนะ เอิ้กๆ ต้องทำได้กี่อย่างถึงเรียกว่าทำเป็น ต้องทำได้อร่อยรึป่าวถึงเรียกว่าเป็น ทำได้อร่อยอย่างเดียว ทำได้หลายอย่างแล้วอร่อย เป็นพ่อครัวไปเลย คนทำเครื่องปรุงต้อง ทำอาหารเป็นด้วยมั้ย.... จากคุณ : ปีกแห่งรัก - [ 11 มี.ค. 51 18:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แหะๆ ดูเป็นป่าวไม่รุ แต่ชอบดูค่ะ จากคุณ : Pat_lm - [ 11 มี.ค. 51 18:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ง่ายๆ อ้างอิงจาก คหที่17 หนังดี ไม่ดี มันมีองค์ประกอบ ทางด้าน บท การถ่ายทำ การตัดต่อลำดับภาพ การมี Sound ประกอบ รวมถึงนักแสดง เพราะฉะนั้น หนัง ดี หรือไม่ดี บอกได้ครับ เพราะมันมีมาตรฐาน เกี่ยวกับหนัง และ คหที่26 หนังดี หรือ ไม่ดี สามารถบอกได้แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ หรือ หลักวิชาการการเรียนรู้ ฯลฯ  ดังนั้น คนที่ด่า "หนังดี" ว่าห่วยหรือไม่ดี =  "คนที่ดูหนังไม่เป็น" และคนที่ประสบการณ์น้อย ทั้งประสบการณ์ในการดูหนังและประสบการณ์ในการอยู่อาศัยบนโลกใบนี้น้อย มักจะเป็น "คนที่ดูหนังไม่เป็น" จากคุณ : ซอมบี้หม่ำการ์ตูน - [ 11 มี.ค. 51 18:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 52 รับสารที่คนสร้างต้องการสื่อได้  ก็ถือว่าดูหนังเป็นแล้ว แต่ดูเป็นแล้วจะชอบหรือไม่ชอบ  ก็เป็นเรื่องของรายบุคคล จากคุณ : jedi-jaidee - [ 11 มี.ค. 51 19:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ลอก 17 แบบนั้นแหละ อย่ามาบอกว่าชั้นชอบเรื่องนี้แสดงว่าชั้นดูเป็น ไม่ใช่ อย่างคนไข้อังกฤษ อเมริกันสวยงาม ผมก็ไม่ได้ชอบเล้ย แต่ก็ไม่บอกว่ามันห่วย เพราะมันต้องมีอะไรดีแน่ ๆ กรรมการที่มีความรู้(กว่าผมและหลาย ๆ คน)ถึงได้ตัดสินออกมาแบบนั้น จะไม่ดัดจริตว่า ก็กรูไม่ชอบนี่ ก็กรูชอบของกรูนี่นา มันมีมาตรฐานของมัน ถ้าใครบอกว่าครอบครัวตัวดำสนุก และเป็นหนังดี นี่แหละ ดูไม่เป็น หรือเรื่อง..................ห่วย ไม่ดี แต่คนอื่นเค้าชมทั้งบ้านทั้งเมือง กวาดรางวัลมาเพียบ นี่แหละ คือพวกดูไม่เป็น แต่กระแดะบอกว่าหนังไม่ดี หนังห่วย แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 20:54:56 แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 19:54:22 จากคุณ : วี - [ 11 มี.ค. 51 19:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมไม่ชอบรักแห่งสยามคับ ความเห็นผม จากคุณ : saz - [ 11 มี.ค. 51 20:00:00 A:58.9.158.42 X: TicketID:170517 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 53 คุณ วี ตอนแรกก็งง แต่ ก็แกะปริศนาของคุณออก คนไข้อังกฤษ  = English Patient อเมริกันสวยงาม = American Beauty แหะๆๆ จากคุณ : jedijoke - [ 11 มี.ค. 51 21:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมว่า แค่เข้าใจว่าคำว่า "ชอบ" กับคำว่า "ดี" มีความหมายไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับคำว่า "ไม่ชอบ" กับคำว่า "ห่วย" ก็เป็นคนละความหมายกัน แค่นี้ก็เป็นพื้นฐานในการดูหนังแล้วครับ จากคุณ : Wiz - [ 11 มี.ค. 51 22:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หนังดี ผมเคยเขียนไปแล้ว http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=myopinion&month=24-07-2005&group=2&gblog=1 แต่หัวข้อกระทู้คือ ดูหนังเป็น หรือ ไม่เป็น ประเด็นนี้ คลับคล้ายว่าเคยมีในกระทู้แล้วเช่นกัน แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหน โดยส่วนตัว คือ มันไม่มีหรอกครับ ดูหนังเป็น หรือไม่เป็น ดูหนัง ก็คือ ดูหนัง แต่หากศึกษา(หนัง)มากขึ้น ตามเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของหนัง ก็จะดู "สนุกขึ้น" เท่านั้นเองครับ ตอบคุณ arito คห. ๔๒ >>คนดูหนังเป็น จะรู้ว่า หนังเค้าสื่อถึงอะไร >>คนดูหนังไม่เป็น จะไม่เข้าใจว่าหนังมันต้องการสื่ออะไรกับเรา ๑. คุณจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่า ที่คุณเข้าใจว่าหนังสื่ออะไรเนี่ย ... คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว ? ๒. ถ้าคนดู ดูแล้วไม่เข้าใจ ว่าหนังสื่ออะไร ควรจะถือว่าเป็นความล้มเหลวของผู้สร้าง(คนกำกับ) ในการสื่อสาร ได้ไหมครับ ? .... จริงๆ อันนี้นี่ ตีได้สองทาง หนึ่ง คนกำกับ ล้มเหลวในการสื่อสาร สอง เรา(คนดูไม่รู้เรื่อง) ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ผู้กำกับต้องการสื่อสารด้วย ลองคิดดูนะครับ จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ - [ 11 มี.ค. 51 23:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สำหรับผม คำว่า"ดูหนังไม่เป็น"ไม่ใช่การดูถูก ก็เหมือนคนเรากินโน่นเป็น แต่กินนี่ไม่เป็น แล้วกินอาหารบางอย่างไม่เป็นถือเป็นการดูถูกมั้ยครับ คนไทยเราติดนิสัยที่ว่าทำอะไรไม่เป็นแล้วน่าอาย พอถูกวิจารย์ว่าทำนั่นไม่เป็นทำนี่ไม่เป็นก็คิดว่าโดนดูถูก ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันไอ้ตรรกะความคิดแบบนี้ทำไมถึงได้ปลูกฝังรากลึกได้ขนาดนี้ อย่างผมก็ยังถือได้ว่ายังดูหนังไม่ค่อยเป็นนัก ก็ยอมรับนะครับ ดูหนังไม่เป็นน่าอายตรงไหน ดูหนังไม่เป็นถือเป็นการดูถูกตรงไหน ส่วนแบบไหนดูเป็นดูไม่เป็น ก็มีคนตอบไปแล้ว จะรับฟังกันรึเปล่าก็อีกเรื่อง จากคุณ : A,บันทึกยุทธฉบับที่1 รายปักษ์ (หมื่นกระบี่สู่หนึ่ง) - [ 11 มี.ค. 51 23:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ใครดูเพื่อน กุรักมิงว่ะแล้วเห็นว่าบทสมควรได้รับรางวัล = ดูหนังไม่เป็น จากคุณ : Special A - [ 12 มี.ค. 51 19:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อ.ที่คณะบอกว่า การททำงานศิลปะให้คนดูได้คิดตาม พอคิดตาม คนดูจะคิดว่าตัวเองเก่ง แล้วก็บอกว่างานชิ้นนั้นดี เป็นเรื่องของแต่ละคนจริงๆค่ะ จากคุณ : Chikau - [ 12 มี.ค. 51 22:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 555... เห็นด้วยกับคุณ Special A มั่กมากกก... จากคุณ : อรุณจันทรา - [ 13 มี.ค. 51 13:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่ทราบค่ะ ๕๕๕๕๕ ไม่รู้เหมือนกัน จะจัดตัวเองเข้าอยู่ในประเภทไหนดีน๊อ? เป็นคนดูหนังไปเรื่อยๆค่ะ ที่อยากดูก็ดั้นด้นให้ได้ดูให้ได้ ที่เฉยๆแต่ไม่มีอะไรทำ หรือบังเอิญผ่านตา ก็ดูๆกันไป แต่เวลาเป็นหนังที่อยากดู มันจะพ่วงเอาคำว่าความคาดหวังแถมมาให้เสมอๆ ก็มีบ้างที่ .. ว๊า ทำไมมันไม่ถูกใจเราเลยล่ะ ก็ตามแต่ความคาดหวังกันเน๊าะ หลังจากดูหนังจบ แล้วเราได้อะไรจากหนังที่เราดู นั่นล่ะสำคัญที่สุด เพราะว่าบางคนไม่ได้ดูหนังเพื่อบันเทิงเท่านั้น แต่ดูเพื่อรับสารใหม่ๆที่คนทำหนังอยากจะสื่อ(หรือบางทีไม่ได้สื่อ แต่ดันคิดได้จากหนังของเค้าซะงั้น!) ช่วงเวลาและประสบกาณณ์ชีวิตก็สำคัญค่ะ เด็กๆดูหนังบางเรื่องไม่เข้าใจ แก่ตัวมาดูอีกที เห้ย ทำไมเราอินกะมันจังหนอ? ดูเป็น ดูไม่เป็น ไม่ใช่ประเด็นเอามาถกเถียงกันว่าใครแน่กว่าใครซะหน่อย ขอให้ทุกคนสนุกกับหนังทุกเรื่องที่ได้ดูนะคะ ^^ จากคุณ : CupidVoiZe - [ 13 มี.ค. 51 14:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ดูหนังเป็นไม่เป็นน่าจะสำคัญน้อยกว่าชอบหรือไม่ชอบหนังที่ดูหรือเปล่า หนังเป็นตัวสะท้อนให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ของสังคมและผู้คนในช่วงที่หนัง เรื่องนั้นออกฉาย ผมพาเจ้าลูกชายเข้าโรงหนังตั้งแต่อายุไม่ถืง 10 ขวบ [จะจบมหาลัยปีนี้] เริ่มแรกแกชอบหนังอย่าง Forrest Grump เป็นชีวิตจิตใจ ตอนหลังเรียนมัธยมก็ชอบหนังของ Roland Emerich, Michael Bay หนังประเภทบู้แอกชั่นอย่าง Bad Boys จนมาถึง The Shooter, Hitman ก็ตามดูมาตลอด แต่พอผมเอา DVD หนัง The God Father ทั้ง 3 ภาคให้ดูกลับบอกเฉยๆ แถมยังถามว่าคนดูหนังสมัยผมชื่นชมหนังเรื่องนี้อะไรกันนักหนา สองอาทิตย์ก่อนโทรมาบอกว่าผมต้องไปดู The Mist ให้ได้ กดดันคนดู ยิ่งกว่า No country for old man ซะอีก เมื่อวานก็โทรมาบอกว่าเพิ่งไปดู Once มา และนี่คือหนังที่ดีที่สุดที่ได้ดู มาในปีนี้ สรุปเมื่อเราโตขึ้นและดูหนังมากขึ้น  มุมมองของเราก็จะเปลี่ยนไปตามวัย ไม่มีใครสามารถบอกเราว่าเราดูหนังเป็นไม่เป็น ถึงจะยอมรับว่าดูหนังไม่เป็น แต่ถ้ามีความสุขกับหนังที่ดูก็ไม่มีอะไรน่า กังวลนะครับ จากคุณ : Subtitle (Subtitle) - [ 15 มี.ค. 51 13:00:03 ]