ความคิดเห็นที่ 1 ต.  ต.. ตะ ..   ตรูด...   !? แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 51 11:46:29 จากคุณ : ฟาฬ - [ 15 มี.ค. 51 11:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมคิดว่าแว่บแรกที่นึกเรื่องนี้น่าจะเป็นเหตุผลสามประการครับ คือ ผมเป็นแฟนหนังของท่านมุ้ยมานานแล้ว เรื่องนี้พี่เอกสรพงศ์ (ใครทราบบ้างครับว่าชื่อ สรพงศ์ มีที่มาอย่างไร) เล่นได้ประทับใจมาก และผมประทับใจหนังเรื่องนี้มาก เคยเห็นภาพเบื้องหลังที่ท่านผู้กำกับนุ่งผ้าขาวม้าลงไปในแม่น้ำสาละวินกำกับหนัง แล้วผมก็คิดว่าท่านนี่ช่าง....กล้าจริงๆ แหะๆ เรื่องนี้น้าเอก สรพงศ์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องที่น้าเอกได้รางวัลตุ๊กตาทองที่ประทับใจที่สุด เพราะก่อนหน้านั้นที่ได้รางวัล เช่น มือปืน น้าเอกยังเล่นแบบเป็น สรพงศ์ อยู่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่น้าเอกเล่นแบบไม่ใช่ สรพงศ์ เล่นเป็นจ่าแก่ๆ ที่อยู่ชายแดนไทย-พม่า ขนาดที่จ่าจริงๆมาเห็นยังบอกว่าเหมือนมาก หนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจชายแดนลุ่มแม่น้ำสาละวิน โดยมีตำรวจหนุ่มน้อยจบใหม่ไฟแรงคนนึงอาสาสมัครที่จะมาเป็นหัวหน้าตำรวจที่นี่ ทั้งๆที่จ่าที่อยู่มานานแล้วอยากจะไปซะให้พ้นๆ แต่ก็ไม่มีที่ไป (ปรากฏว่าผมเล่าจากควาทรงจำจริงๆ คือจำชื่อใครไม่ได้เลย แหะๆ รบกวนเพื่อนๆ ช่วยบอกด้วยสิครับ) เรื่องก็พัวพันระหว่างการปราบไม้เถื่อน และปัญหาตะเข็บชายแดน ที่มีการสู้รบกันระหว่างพม่ากับกระเหรี่ยง แล้วชาวกระเหรี่ยงพอสู้ไม่ได้ก็หนีข้ามฝั่งมายังไทย พี่ไทยก็จริงๆคือผิดกฎหมาย แต่จะทำยังไงในสถานการณ์แบบนั้นที่คนหนีมาถ้าไม่ให้เข้า ก็ต้องตายต่อหน้าต่อตา จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 15 มี.ค. 51 11:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีฉากหลายฉากที่ยังอยู่ในความทรงจำ เช่น - ตำรวจหนุ่ม(สิริคุปต์) ขี่มอเตอร์ไซต์เข้ามาที่สถานีในตอนเปิดเรื่อง แล้วก็คลอด้วยเพลงของสมยศ ทัศนพันธ์ - จ่า (สรพงศ์) ไล่ตบหน้าพวก เอ่อ ต่างชาติ ที่พกปืนเข้ามาฝั่งไทย - จ่าแกใช้บาซูก้ายิงถล่มโจร มีมาก่อนอาร์โนลแล้ว - จ่าโดนยิงตาย หนังท่านมุ้ยน่ะประจำครับ แอนตี้ไคลแมกซ์ประจำ ฯลฯ ปล. พอดีผมมีภารกิจที่จะต้องรีบทำแฮะ ขอแว่บพักเบรคแบบเซ็นคือแบบซะงั้นก่อนนะครับ แล้วตอนเย็นจะมาเขียนต่อครับ เสียดายมากกำลังเมามัน ถ้าเพื่อนๆ คนไหนคอเดียวกัน จะเขียนต่อไปก่อนก็เชิญนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 15 มี.ค. 51 11:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เง้อ....ไม่ได้ดูอะ ปู่.... จากคุณ : NuHring - [ 15 มี.ค. 51 12:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มารออ่านครับ ไม่มีโอกาสได้ดูเรื่องนี้ ว่าแต่...ทำไมต้องมือปืน 2 ล่ะครับ เท่าที่อ่านนี่ไม่ใช่หนังภาคต่อนินา และก็ไม่เห็นจะมีใครในเรื่องเป็นมือปืนเลยนิ จากคุณ : แฟนสวย - [ 15 มี.ค. 51 13:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อิอิ ตอนแรกเห็นหัวกระทู้ นึกว่าแบบมีลายเซ็นต์ซะอีก อิอิ ที่มาของสรพงศ์ นี่นานมากๆเลยนะคะ แต่รู้สึกว่าชื่อเล่นสมัยก่อนเข้าวงการ ชื่อ ชิ้น มั๊ง อิอิ ( อ่านหนังสือจากพี่สาว เป็นมรดกตกทอดมา) แต่ถ้าจะให้แสดงความคิดเห็นคงต้องหาหนังมาดูก่อนอ่ะ จากคุณ : mim_peter - [ 15 มี.ค. 51 13:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ดูแล้วค่ะ ^^ ชอบฉากที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย กำลังตัดสินใจระหว่าง กฎหมายกับมนุษยธรรม สื่ออารมณ์ได้ดีมากค่ะ จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 15 มี.ค. 51 13:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยดูอ้ะค่ะ แต่จำเนื้อเรื่องไม่ได้ นานมากแล้วเหมือนกันนะนี่ แถมไม่มีแผ่นเก็บไว้อีกต่างหาก เดี๋ยวรอปู่มาเล่าต่อ ว่าแต่เล่าแบบฟูจิได้ไหมอ้ะค่ะ หนูล้อเล่นนนนนนนนน จากคุณ : เจ้านิ - [ 15 มี.ค. 51 15:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนอื่นใด  ขอบอกกว่าจะถ่ายเสร็จ... ทีมงานเข้าป่า กันสนุกสนาน อิอิ ชอบมากอ่ะ  เรื่องนี้ ... มือปืน 2 สาละวิน อยากดูอีกจัง... จากคุณ : naragorn - [ 15 มี.ค. 51 15:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้าพเจ้ามีแผ่น แสดงว่าดูแล้ว555 แต่เข้ามาจับตาดูปู่เล่าแบบเซ็น จะเป็นยังไง อิอิ จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง - [ 15 มี.ค. 51 15:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 "พ้ม...จ่าแร่ม  เริงชัย     รักษาการหัวหน้า  สภ.ต. ครับพ้ม..." เขาคือผู้ใดดูกันเองเองครับ  อิอิ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 15 มี.ค. 51 16:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 -_-" เอ่อ..รูปเด็กยืนถือ ปืนอาก้า จะถือว่า อนาจารเด็กอายุไม่เกิน15 ปี อ่ะป่าวครับ 5555 จากคุณ : หนุ่มเหน่อ - [ 15 มี.ค. 51 18:33:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มือปืน 2 สาละวิน เป็นหนังอีกเรื่องของท่านมุ้ย ที่ทำออกมาลงตัวมากคือได้ทั้งเนื้อหาที่เข้มข้น และฉากแอ็คชั่นที่เร้าใจ คือดูได้ทั้งสาระ หรือดูเอามันก็ได้ ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก เพราะเดิมทีคิดว่าจะดูหนังสาระเรื่องหนึ่ง แต่กลับได้เพิ่มด้านแอ็คชั่นด้วย โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องที่กลุ่มพระเอกต้องหลบหนีออกจากพม่านั้น เร้าใจมากครับ จากคุณ : Mackenna - [ 15 มี.ค. 51 19:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มารออ่านตอนต่อไปค่ะ..ไม่ได้ดูเหมือนกันเรื่องนี้...ตอนนี้หาดูที่ไหนได้อ่ะคะ.. จากคุณ : ฝน วนันฯ (fon_wanan) - [ 15 มี.ค. 51 19:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พึ่งไปดูแรมโบ้ 4 มาครับ มีบรรยากาศคล้ายสาละวินเหมือนกัน  แค่คล้ายๆ นะครับ  ไม่ลุ่มลึกเท่า ทำไมจ่าแกต้องตายด้วยครับ เฮ่อ จากคุณ : เด็กแคสติ้ง - [ 15 มี.ค. 51 19:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ช่วยเล่าหนังต่อครับ ปู่อุปฯ เล่าหนังแบบเซ็นจริง ๆ คือ ยังไม่ยอมจ่าย (เล่าต่อให้จบ) จากความทรงจำเหมือนกันนะครับ มือปืน 2 สาละวิน เล่าผ่านมุมมองของตำรวจหนุ่มไฟแรง (เหมือนกับคนเลี้ยงช้างที่มองผ่านสายตาป่าไม้หนุ่ม) ในตอนแรกเราจะเห็นถึงการทำงานตามอุดมคติของตำรวจหนุ่มในขณะที่ จ่าแร่ม ตำรวจเก่ากลับทำงานตามสัญชาตญานมากกว่า ผมชอบฉากที่มีการตรวจแถว แล้วพบว่าตำรวจพื้นที่แต่ละคนเหมือนโจรมากกว่าตำรวจ ท่านมุ้ยแนะนำตัวละคร (ลูกน้องจ่าแร่ม) ได้ดีมากในฉากนี้ ก่อนจะต้องไปลุยเป็นทีมในตอนท้าย อีกประการที่ผมชอบคือ การเปรียบเทียบสองตัวละครหญิง ระหว่างลูกสาวจ่าแร่ม (วิชุดา มงคลเขตร์) กับ เมียเศรษฐีหนุ่ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) คนแรกมีความสุขแม้จะไม่มีฐานะ แต่คนหลังมีพร้อมแต่ไม่มีความสุข ขอพูดถึงคุณปวีณา สักนิด ผมว่าเธอเป็นนักแสดงหญิงมากความสามารถคนหนึ่ง เสียดายที่ไม่ค่อยจะมีผลงาน แต่ฝีมือใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยังพิสูจน์ว่าเธอจะคงฝีมือไว้ครบถ้วน เข้าเรื่องต่อครับ บทของมือปืน 2 สาละวิน เหมือนหนังฝรั่ง คือชอบปูเรื่องก่อน แนะนำตัวละคร เงื่อนไข และความสัมพันธ์ และพอถึงเวลาเก็บคราวนี้ก็มันสุดสุด หนังเรื่องนี้กล่าวถึง ตำรวจหนุ่มไฟแรง ตำรวจเก่าหมดไป พ่อเลี้ยงหนุ่มผู้โลภโมโทสัน และทหารกะเหรี่ยงที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก หลังจากปูเรื่องเสร็จ ความสนุกมาเริ่มที่ พ่อเลี้ยงหนุ่มฆ่าเมียตาย หนีข้ามพรมแดน ถูกตำรวจไทยตามล่าจนต้องขอความช่วยเหลือจากนักรบกะเหรี่ยง การปะทะกันจึงเกิดขึ้น พอก่อนครับ รอปู่อุปฯ มาเซ็นต่อครับ จากคุณ : Mackenna - [ 15 มี.ค. 51 19:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มารอปู่อุปฯด้วยคนค่ะ หนังเรื่องนี้ตอนเข้าโรง อยากดูมาก จำได้ว่า ต้องให้แม่พาไปดูเยย จากคุณ : Wormy707 - [ 15 มี.ค. 51 19:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมเป็นมือปืน 2 เพราะว่า....มีมือปืน(เฉยๆ)ใช่หรือไม่ อันนี้ตอบอย่างมั่นใจ(มั๊ง) แหะๆ ไม่เคยดู มือปืน(เฉยๆ ไม่มี 1) อย่างนี้ต้องรอท่านผู้กำกับมาไขให้ฟัง เรื่องราวเกี่ยวข้องกันหรือไม่ สรพงศ์ยังคงเป็นจ่าแร่มจากเรื่องเดิมรึเปล่า หุหุ จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง - [ 15 มี.ค. 51 20:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มือปืน 1 สรพงศ์ รับบท จ่าสมหมายครับ เป็นช่างตัดผม ขาเป๋ มีอาชีพเสริมเป็นมือปืน จากคุณ : Mackenna - [ 15 มี.ค. 51 21:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาต่อแล้วครับๆ ว่าแต่ถึงไหนแล้วครับนี่ ขอเป็นเล่าแบบโออิชิได้มั๊ยครับน้องนิ ที่มาของสรพงศ์ขอต๊ะไว้ก่อนนะครับน้อง mim คือช่วงนี้ผม'เซ็น'มากเลยครับ แบบไปไหนไปแต่ตัว ไม่ยึดติดตำรา ที่จดๆไว้วางวางไว้ไหนก็ไม่รู้ แหะๆ อีกอย่างที่ผมยังหาไม่เจอคือ ภาพของท่าน Cinephile ตอนที่นุ่งผ้าขาวม้าลงไปกำกับหนังในแม่น้ำสาละวินครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 51 23:39:46 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 15 มี.ค. 51 23:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หนังเรื่องนี้ได้รับหลายรางวัลตุ๊กตาทองในปี 2536 ครับ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – มือปืน 2 สาละวิน  ของ บริษัทพร้อมมิตรภาพยนตร์ จำกัด ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม – สรพงศ์ ชาตรี จาก มือปืน 2 สาละวิน ผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม – ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล จาก มือปืน 2 สาละวิน ลำดับภาพและตัดต่อยอดเยี่ยม - ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล จาก มือปืน 2 สาละวิน บันทึกเสียงยอดเยี่ยม – คุณากร เศรษฐี จาก มือปืน 2 สาละวิน จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 15 มี.ค. 51 23:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาต่อแล้วครับๆ ว่าแต่ถึงไหนแล้วครับนี่ //ถึงลำปางแล้วค่าปู่ ต่อๆเร็วๆ  กำลังมันส์เลยค่ะ แต่อยากเห็นภาพท่าน Cinephile ตอนที่นุ่งผ้าขาวม้ากำกับหนังนะคะ เอาใจช่วยปู่ให้หาเจอนะคะ อิอิ จากคุณ : เจ้านิ - [ 15 มี.ค. 51 23:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเกาะขอบกระทู้  ติดตามต่อเลยค่ะ ปู่ฯ... จากคุณ : naragorn - [ 15 มี.ค. 51 23:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนคำถามที่ว่าทำไมต้องเป็นมือปืน 2 นั้น ถ้าตอบแบบฟันธงคือผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ถ้าตอบแบบคลับคล้ายคลับคลาคือ เพราะในเรื่องนี้ สรพงศ์รับบทจ่าเหมือนกัน จ่าแร่มแกเป็นตำรวจที่ถ้าถอดเครื่องแบบออก แกก็ไม่ต่างจากมือปืนเหมือนกัน คือเป็นมือปืนฝ่ายขาวว่างั้นครับ ผมจะขอเล่าเรื่องย่อๆ เพื่อยั่วน้ำตา (จะบอกว่ายั่วน้ำลายคงไม่ได้) เพื่อนๆที่ยังไม่ได้ดูนะครับ เช่นเคยครับ เล่าจากความทรงจำ เรื่องมีอยู่ว่า... มีนายตำรวจหนุ่มจบใหม่คนนึง คาดว่าจะเป็นลูกของผู้มีอันจะกินที่มีเส้นสายพอสมควร เพราะแกเป็นตำรวจที่ใส่แว่น ขอย้ายตนเองมาลงที่สถานีตำรวจแห่งนึงไกลปืนเที่ยง แถบตะเข็บชายแดนไทยลุ่มน้ำสาละวิน จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 00:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 <โอเคถึงลำปางแล้วนะน้องนิ ไปอีกนิดก็ถึงชายแดนลุ่มน้ำสาละวินแล้ว อิๆ....> มายังไม่ทันถึงก็มีมุขเล็กน้อยว่าตำรวจหนุ่มคนนี้ แล้วกันนะครับ (ชื่ออะไรก็จำไม่ได้แว้ว) ซึ่งขี่มอไซต์วิบากมา แวะเติมน้ำมันหลอดที่ร้านเล็กๆร้านนึง ซึ่งแกก็บ่นตำรวจแถวนี้ให้ฟัง พอบ่นเสร็จก็ถามว่าแล้วน้องจะไปทำงานอะไรที่นั่น น้องเขาก็บอกว่า "ผมเป็นตำรวจ" พอนายตำรวจไปถึงก็ไปเจอกับจ่าแร่มกำลังลุยกับผู้ร้ายพอดี ซึ่งจ่าแร่มแกแต่งตัวก็ยังกะมือปืนจริงๆนั่นแหละ ซึ่งนายตำรวจคนนั้นพอไปถึงก็จัดแจงให้ตำรวจที่นั่นปฏิบัติตัวให้ตามกฎ เรื่องต่อไปก็จะออกประมาณนี้ครับ คือนายตำรวจคนนั้นก็ค่อยๆซึมซับว่าที่นั่นมันไกลปืนเที่ยง กฎหมายมันช้ากว่าปืน แล้วเรื่องก็โฟกัส (แหม ผมใช้คำซะ) ไปที่จ่าแร่ม ซึ่งน้าเอก สรพงศ์ เล่นได้ดีมากๆ คุมหนังทั้งเรื่องอยู่หมัด โดยมีเรื่องของความขัดแย้งของพม่า/กระเหรี่ยง แล้วก็เรื่องของไม้เถื่อนเป็นตัวปัญหาของเรื่อง แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 00:30:09 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 00:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไคลแม็กซ์ก็จะอยู่ในช่วงที่จ่าแร่มพาตำรวจแอบเขาไปในฝั่งพม่าเพื่อไปตามจับนักโทษที่หนีข้ามฝั่งไป ซึ่งก็จะไปปะทะกับกลุ่มทหารกระเหรี่ยงที่รับจ้างคุ้มกันนักโทษนั้น ซึ่งหัวหน้าก็เล่นโดย น้านก ฉัตรชัย สุดท้ายก็... ลองหามาดูกันครับ สนุกมาก จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 00:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ้าว  ซะงั้น  อะคะ ปู่ฯ ... กำลังอ่านเพลินเลย ... แล้ว ปู่ฯ มีภาพมาให้ชม กันหน่อยด้วยป่าวค่ะ อยากเห็นอ่ะ.. จากคุณ : naragorn - [ 16 มี.ค. 51 00:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สำหรับเกร็ดของหนังเรื่องนี้ที่ผมอยากเล่าให้ฟังก็คือ ผมคิดว่าท่าน Cinephile น่าจะอยากทำหนังเพชรพระอุมามานานแล้วครับ ยิ่งเรื่องนี้ล่ะเต็มๆ ครับ เช่น - แม่น้ำสาละวิน คือที่ผมเคยเล่าให้น้องนิฟังว่า พอมาถึงตอนนี้ ความรู้ที่ผมเคยมีเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ในเพชรพระอุมา เมื่อมาสนทนากับท่าน Cinephile ทำให้ความมั่นใจของผมหดหายไปมากครับ ตอนนี้ผมเลยได้แค่ฟันครึ่งธง เพราะท่าน Cinephile ส่วนใหญ่เวลาทำหนังเรื่องอะไร ท่านจะเข้าไปลงพื้นที่อยู่ในนั้นเป็นเดือนๆ ก่อนทำ แถมเวลาทำก็ไปอยู่อีกเป็นปี เช่นอย่างเรื่องนี้ ท่านไปสำรวจเส้นทางจนอธิบายได้หมดเลยว่า แม่น้ำสาละวินไหลจากไหนไปไหน ถ้าคณะรพินทร์เดินทางข้ามพม่าโดยไม่ข้ามลำน้ำสาละวิน จะต้องข้ามในช่วงไหน แถมข้ามไปแล้ว ถ้าข้ามตรงนี้จะเจอถนนที่ญี่ปุ่นตัดไว้ แสดงว่าไม่ใช่ อะไรทำนองนี้ แล้วในเรื่องนี้ก็จะเห็นภาพที่แม่น้ำสาละวินกลายเป็นน้ำตกด้วยครับ แหม ถ้าไม่ดู เสียดายแย่ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 00:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 (อ้ะ ว่าไม่ได้ นู๋ naragorn อยากเห็นก็ลองหาหนังมาดูครับ อิๆ) - สภาพป่าแถบลุ่มน้ำสาละวิน เรื่องนี้ก็เห็นกันเต็มๆ ครับ ซึ่งกว่าจะได้ภาพนี้มา ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า บางครั้งตอนถ่ายหนังอยู่ ไอ้ที่ยิงกันก็ยิงกันไป ที่ถ่ายหนังก็ถ่ายกันไป ใกล้ๆกันนั่นแหละครับ - ลักษณะหน้าตาของชาวกระเหรี่ยงครับ ท่านก็ใช้พวกกระเหรี่ยงเข้าฉากจริงๆ แถมทหารบางคนก็ทหารกระเหรี่ยงจริงๆ อีก จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 00:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ที่เห็นผมเขียนแต่ละคห. สั้นๆ ก็อย่าว่ากันเลยนะครับ ผมเขียนแบบ'เซ็น'น่ะครับ คือ สั้นๆ เป็นห้วงๆ...ว่าไปนั่น คือนึกอะไรได้ก็เขียนน่ะครับ แหะๆ เช่นตอนนี้ผมนึกแต่ว่าจะหาภาพท่าน Cinephile นุ่งผ้าขาวผ้า มาจากไหนดี งั้นผมขอไปหาก่อนนะครับ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 00:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อะ  ว่าไม่ได้เหมียลลล กัลล  ขอบอกๆๆ แหะๆๆ วันนี้อ่ะไปหาแล้วด้วยอ่ะค่ะ... แต่ยังไม่ได้มาค่ะ อยากดูอีกรอบ....จะหามาดูอีกรอบให้จงได้ .... ฟัง  ปู่ฯ อุป เล่าไปพลางๆ ก่อน... ขออภัย ที่ปาด ตลอดจ้า เอาเป็นว่ารอติดตามต่อจ้า และจะไปหามาดูอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 00:59:12 จากคุณ : naragorn - [ 16 มี.ค. 51 00:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมกับปูนซีเมนต์ก็เคยบ้าไปนั่งเรือหางยาวล่องน้ำสาละวินไปเหยียบฝั่งประเทศพม่ามาเหมือนกันครับ  แต่เป็นดินแดนที่กระเหรี่ยงยึดครองอยู่ จากภาพที่เห็นคือยืนอยู่ฝั่งไทยบ้านสบเมยครับ จะมีแม่น้ำเมยมาจากด้านซ้ายมือไหล มาบรรจบกับแม่น้ำสาละวินไหลไปทางประเทศพม่า  ไหลออกอ่าวเมาะตะมะสู่ทะเลอันดามัน  ส่วนภูเขาด้านซ้ายมือจะเป็นฝั่งทหารพม่ายึดครอง  ส่วนฝั่งขวามือก็จะเป็นทหารกระเหรี่ยงยึดครอง  วันดีคืนดีกระเหรี่ยงกับพม่าก็สู้รบกัน  กระเหรี่ยงสู้ไม่่ได้  ก็หนีมาฝั่งไทย   และกองกำลังกระเหรี่ยงพออพยพมาฝั่งไทยแล้วก็จะแอบซ่องสุมกำลังที่ฝั่งไทย ทั้งเงิน เสบียง และอาวุธ  เพื่อที่จะต่อสู้กับพม่าต่อไป  ที่นี่จึงเป็นที่มาของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์     ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ไม่จบสิ้น ถึงแม้ปัจจุบันกองกำลังกระเหรี่ยงจะอ่อนแอไปมากแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าดูหนังเรื่องนี้  แล้วเจาะลึกถึงรายละเอียด  จะทำให้ทราบถึงความเป็นมาเป็นไปของดินแดนแถบนี้ครับ และจะทำให้ทราบว่า  อดีต ร.ต.อ.รพินทร์  ไพรวัลย์  กับ ร.ท.แงซาย  จะต้องเคยปะทะกันบ้างในดินแดนแถบนี้ครับ   ก่อนทีแงซายจะสมัครมาเป็นลูกหาบรับใช้ครับ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 03:47:28 จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 มี.ค. 51 03:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มัวแต่พล่าม   ลืมภาพซะงั้น จากภาพที่เห็นที่ยืนอยู่   คือฝั่งไทยบ้านสบเมยครับ จะมีแม่น้ำเมยมาจากด้านซ้ายมือ ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน   จึงเรียกว่าสบเมย  ซึ่งจะไหลออกอ่าวเมาะตะมะ สู่ทะเลอันดามัน  ประเทศพม่าต่อไป แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 03:50:57 จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 มี.ค. 51 03:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีค่ะ ปู่อุปฯ คิดถึงค่ะ ... ....เรื่องนี้ ตอนที่ดิฉันและเพื่อนไปดู เพราะ คุณ อั๋น สิริคุปต์ด้วยค่ะ ตอนนั้นไม่คิดว่า น้าแอ๊ด สมบัติ จะมีลูกชายเป็นหนุ่มหล่อ จากคุณ : walnutsoda - [ 16 มี.ค. 51 04:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเบื้องหลังสาลวิน (ชื่อเดิมของเรื่องครับ ส่วนมือปืนนายทุนของผมใส่เข้าไปทีหลังเพราะมือปืนแรกของผมทำเงินมากมาย) แต่วันนี้ไม่มีใครมาทำงานเลยไม่รู้จะไปเอาอัลบั้มเก็บรูปที่ใคร เห็นจะต้องรอจนวันจันทร์ครับ(แต่วันจันทร์ผมต้องไปกาญจนบุรีครับ เลยไม่รู้ว่ามีเวลาหรือเปล่า เอาเป็นคุยกันเล่นๆ โดยไม่มีรูปไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกันนะครับ) จากคุณ : Cinephile - [ 16 มี.ค. 51 11:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ความจริงเรื่องสาลวินเกิดขึ้นหลังจากที่ผมทำคนเลี้ยงช้างครับ คือว่าฉากจบของคนเลี้ยงช้างผมอยากให้คุณสรพงค์กับครอบครัวเดินอยู่บนไหล่เขาที่มีแต่ตอไม้ (เพราะการกระทำของคนเลี้ยงช้างมีส่วนที่ทำลายป่าไม้ด้วย แต่นั่นเป็นหนังอีกเรื่อง)ผมก็ต้องออกหาที่ซึ่ง เป็นไหล่เขาแล้วมีป่าไม้ที่ถูกทำลาย แล้วไปพบที่พบพระ จังหวัดตาก ครับ เพราะป่าไม้ที่นั่นถูกทำลายจนเหลือแต่ตอ มองไปสุดลูกหูลูกตา ในระหว่างที่ถ่ายทำฉากจบของคนเลี้ยงช้างอยู่นั้นผมเกิดได้ยินเรื่องของนายตำรวจคนหนึ่ง (เป็นสวป.ครับ)ที่แกนิยมวิสามัญคนร้ายจนขึ้นชื่อลือชาแถบชายแดน คือถ้าจับคนร้ายได้แกจะไม่เอาไปโรงพักในเมืองแต่วิสามัญตรงที่จับได้เลย ผมคิดในใจว่ามันช่างเหมือนจ่าสมหมายในมือปืนเหลือเกิน ก็เลยเข้าไปคุยกับแก แกบอกผมว่าคนที่แกวิสามัญส่วนใหญ่เป็นคนพม่าหรือกระเหรี่ยงที่ข้ามแม่น้ำเมยมาปล้นฆ่าคนไทย เพราะแม่น้ำเมยมันกว้างแค่ 50 กว่าเมตรเท่านั้นเอง น้ำก็ตื้นแค่เข่าเดินลุยข้ามได้สบาย พวกที่เข้ามาปล้นจะลุยน้ำข้ามมาปล้น มีอยู่รายหนึ่ง (สดๆร้อนๆ ตอนที่ผมไปหาข้อมูล) ลุยข้ามน้ำมาฆ่าครอบครัวชาวไร่ที่อยู่ชายแดน พ่อแม่กับลูกสามคนรวมเป็น5ศพ โดยแทงด้วยดาบปลายปืนไม่นับแผล แล้วได้เงินไปสองร้อยบาท "คนอย่างนี้จะให้ผมเก็บเอาไว้หรือครับ" จากคุณ : Cinephile - [ 16 มี.ค. 51 11:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาแอบรอดูรูปของท่านครับ.... เป็นหนังเรื่องนึงในดวงใจเลยละครับ.... ชอบพี่เอก สรพงษ์.... หนังที่แกเล่นทุกเรื่องตีบทกระจุย.... จากคุณ : ฉันทั้งน้านนนน.... - [ 16 มี.ค. 51 12:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีของแก แต่ยังมองหาทางออกไม่ได้ว่าควรจะจัดการอย่างไรกับปัญหาเหล่านั้น หลังจากที่ถ่ายทำคนเลี้ยงช้างจบผมกับทีมงานของผมออกตะเวนตามตะเข็บชายแดนไทยพม่าเพื่อทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ในช่วงนั้นยังมีการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงระหว่างทหารพม่ากับทหารกระเหรี่ยง KNU ออกจากแม่สอดเพียงไม่กี่กิโลก็เป็นค่ายของกระเหรี่ยงชื่อว่าค่ายวังแก้ว ค่ายนี้สร้างอยู่ในคุ้งน้ำรูปตัวยู ซึ่งจะดูคล้ายๆเกาะ ทางเดียวที่พม่าจะเข้าตีค่ายได้ก็ต้องเข้ามาในไทยแล้วตีจากฝั่งไทย ซึ่งฝ่ายเราก็ไม่ยอมให้พม่าเข้ามาในไทย ค่ายของกระเหรี่ยงส่วนใหญ่จะเกาะชายแดนไทย เอาไทยเป็นเกราะกำบังหลัง ซึ่งถ้าพลาดพลั้งอย่างไรก็หนีข้ามแม่น้ำเข้ามาในไทยได้ ดังนั้นการสู้รบจะเกิดขึ้นตามชายแดนไทย บางทีก็ข้ามเข้ามาเขตไทยก็มีทุกบ่อย อย่างเช่นที่แม่ตอวอหรือสามแลบก็เคยถูกพม่าถล่มด้วยปืนค.ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง จากคุณ : Cinephile - [ 16 มี.ค. 51 12:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หลังจากที่ตะเวนดูตามตะเข็บชายแดนพม่า โดยเฉพาะสองฝั่งของแม่น้ำลาลวินผมก็เริ่มได้แนวทางของเรื่อง ซึ่งคงจะไม่พ้นเรื่องไม้เถือนกับการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ผมเริ่มที่เจ้าพ่อไม้เถื่อน(หนังประเภทนี้ต้องมีเจ้าพ่อเป็นเรื่องธรรมดา) ซึ่งผมเอาหลายเจ้าพ่อมายำรวมกัน เจ้าพ่อที่ชายแดนคนนี้จะมีเบื้องหลังที่ขายอาวุธให้พวกกระเหรี่ยงด้วย เพื่อแลกกับการเข้าไปทำไม้ในพม่าได้ ตามความเป็นจริงแล้วพม่าเองก็รู้ว่าพี่ไทยแอบเข้าไปทำไม้ในพม่าตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพราะการทำไม้ก็ต้องตัดถนนเพื่อเอาไม้ออก อะไรบางอย่างที่พม่าทำไม่ได้เพราะถ้าทำก็จะถูกกระเหรี่ยงโจมตีรบกวน ดังนั้นถ้าพวกทำไม้ไทยช่วยทำถนนให้ก็เป็นการดีสำหรับพม่า เพราะบริเวณชายแดนเป็นป่าทึบ ทหารพม่าต้องเดินบุกป่าเข้ามาเพื่อโจมตีกระเหรี่ยง ซึ่งก็ทำได้แต่ช่วงฤดูแล้ง เพราะเมื่อฝนมาก็ไม่มีทางที่จะเข้ามาจนถึงชายแดนไทยได้ จากคุณ : Cinephile - [ 16 มี.ค. 51 12:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 40 นอกจากเจ้าพ่อแถวชายแดนแล้ว ผมยังนึกถึงเจ้าพ่ออีกคนที่ไม่ได้อยู่ชายแดน เจ้าพ่อคนนี้เป็นคนธรรมธรรมโมเป็นที่นับหน้าถือตาในบริเวณที่แกมีอำนาจอยู่ แต่ปัญหาของแกอยู่ที่ลูกครับ เพราะลูกของแกแต่ละคนเหลือร้ายเอาจริงๆ (ไม่ใช่คุณเฉลิมครับ) คนหนึ่งแต่งงานกับดาราหนังชื่อดัง(ไม่ใช่คุณวัฒนาอีกนั่นแหละ) ในตอนเขียนบทผมนึกถึงป๋าสอ (ส.อาสนจินดา) ที่เคยร่วมมือกันมาก่อนแล้วในอุกาฟ้าเหลือง ส่วนลูกชายผมเลือกคุณนพพล โกมารชุน และเมียที่เป็นดาราผมเลือกคุณเจี๊ยบปวีณาครับ ลูกชายเจ้าพ่อคนนี้นอกจากจะเป็นคนโหดเหี้ยมแล้วยังเป็นอีแอบอีกด้วยครับ ทำให้คาแร็คเตอรของคุณนพพลมีความลึกเพิ่มขึ้น จากคุณ : Cinephile - [ 16 มี.ค. 51 12:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กราบสวัสดีครับท่าน มาฟังท่านเล่าต่อครับ วันจันทร์ ผมขออนุญาตลงรูปท่านนุ่งผ้าขาวม้ากำกับหนังครับท่าน จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 16 มี.ค. 51 12:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ส่วนตัวตำรวจจอมวิสามัญผมเลือกคุณสรพงค์ชาตรีครับให้แสดงเป็นจ่าแร่ม (เอ ผมคิดถึงแรมโบหรือเปล่าก็ไม่รู้ซี แต่ชื่อจ่าแร่มนี่ผมเขียนมาตั้งแต่เรื่องลายคราม ซึ่งเป็นบทที่ผมไม่เคยทำออกมาเป็นหนัง คัวพระเอกชื่อแร่ม เป็นคนอิสาน จนมีคนมาทักว่าชื่อของคนอิสานชื่อแร่มไม่ได้เพราะภาษาลาวไม่มีร.เรือ เป็นฮ.นกฮูกแทน ดังนั้นตัวพระเอกจึงน่าจะชื่อแฮ่มมากกว่าแร่ม ซึ่งฟังดูไม่ค่อยจะดีนัก) คุณสรพงค์มีลูกสาวชื่อดอกไม้ซึ่งคุณสรพงค์จะเรียกว่า:-) (ชื่อเหมือนกับนางเอกเรื่องอุกาฟ้าเหลือง ที่ป๋าเรียกว่า:-)จนผมลืมไปแล้วว่านางเอกคนนั้นชื่อจริงชื่อว่าอะไร)บ้านของจ่าแร่มที่ผมเลือกอยู่ริมแม่น้ำเมยตรงกันข้ามกับค่ายแม่ตอวอ ซึ่งถูกพม่าตีแตกไปได้ไม่กี่วัน ความจริงบ้านนี้เป็นบ้านของสายลับกระเหรี่ยงครับ แต่ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเป็นบ้านของใครเลยขอยืมมาถ่ายเพราะเห็นวิวที่มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นแม่น้ำเมยกับค่ายกระเหรี่ยง ยังมีโบสถฝรั่งตั้งอย สามารถมองเห็นจากหน้าต่างบ้านได้ ต่ำลงไปจากบ้านจะเป็นท่าเรือของแม่ตอวอที่เราสามารถว่าเรือไปที่สบเมยกับสามแลบ (หรือค่ายมอเนอปรอของกระเหรี่ยงได้) ส่วนตัวพระเอกที่พึ่งได้รับยศและต้องการที่จะเป็นตำรวจที่ดีผมเลือกคุณศิริคุปต์ ลูกชายของคุณสมบัติซึ่งเป็นพระเอกอันดับหนึ่งของไทย(ในสมัยนั้น) พอได้ดาราครบเราก็พร้อมที่จะถ่ายทำเรื่องสาลวิน (เอาเป็นวันจันทร์เมื่อมีรูปแล้วผมจะเปิดกระทู้ว่าด้วยการถ่ายทำเรื่องสาลวินให้ฟังกัน) แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 12:42:10 จากคุณ : Cinephile - [ 16 มี.ค. 51 12:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มารอวันจันทร์ค่ะ สาลวิน จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง - [ 16 มี.ค. 51 13:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กราบสวัสดี และ เป็นพระกรุณาครับ ท่าน  จะรออ่านต่อครับ เป็นหนังอีกเรื่องครับ ที่ประทับใจมากครับ ฉากที่ ชาวบ้าน กระเหรี่ยงหนีข้ามแม่น้ำ สะเทือนใจมากครับ เพลงที่ พี่แอ็ด ร้องก็กินใจครับ จากคุณ : naikay - [ 16 มี.ค. 51 13:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขออนุญาตนำบรรยากาศของแม่น้ำสาละวินกับบ้านแม่สามแลบในปัจจุบันมาให้ดูกันก่อนครับ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 มี.ค. 51 13:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตามมาเกาะกระทู้ค่ะท่าน.... เดี๋ยวไปหามาดูดีกว่าจะได้เข้าใจเรื่องบ้าง จากคุณ : NuHring - [ 16 มี.ค. 51 14:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 กราบสวัสดีค่ะท่าน.. มาฟังท่านเล่าต่อค่ะ และรอชม  ท่านเล่าการถ่ายทำเรื่องสาลวินให้ฟังด้วยค่ะท่าน เดี่ยวจะไปหาหนังมาดูอีกค่ะ .. จากคุณ : naragorn - [ 16 มี.ค. 51 15:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามารอด้วยครับ ^-^ จากคุณ : P Q BOY - [ 16 มี.ค. 51 18:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ครั้งแรกดูหนังเรื่องนี้นานมากๆ แล้ว มีอยู่ฉากหนึ่งที่จำได้ติดตา ติดใจ เพราะสะเทือนใจ คือฉากที่พวกกะเหรี่ยงโดนพวกพม่าไล่ยิงมา ฝ่ายไทยก็พยายามไล่ให้ออกไปเขตชายแดน แต่สุดท้าย พระเอกของเราก็ต้องสั่งให้ยิงฝ่ายพม่า แล้วมาช่วยพวกกะเหรี่ยง ฉากนี้ซึ้งใจมาก มารออ่านด้วยค่ะ จากคุณ : ภคิน - [ 16 มี.ค. 51 19:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาเกาะกระทู้ค่ะ กระทู้นี้ ยิ่งอ่านยิ่งเข้มข้น ปู่คะ รอไคลแมกซ์ รูปท่านกำกับหนังลุยน้ำอยู่นะคะ จากคุณ : เจ้านิ - [ 16 มี.ค. 51 21:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่า...  ผมจำได้ว่า ท่านเพิ่งไปทำบอลลูนหัวใจมาเมื่อไม่กี่วันนี้นี่ครับ..!? วันนี้จะออกกองเลยเหรอครับ  ....    -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 17 มี.ค. 51 09:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 วันนี้วันจันทร์ มาทวงสัญญาจากปู่และมาฟังท่านเล่าต่อค่ะ   โอจิ........แม่น้ำดูกว้างเหมือนกันนะ  น่าแล้งจะแล้งไม๊เนี้ย จากคุณ : ปลาพะยูน - [ 17 มี.ค. 51 11:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มารอติดตามความเคลื่อนไหวต่อไปค่ะ หาหนังเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ แถวบ้าน (ยโสธร) ไม่มีเลย ตอนนี้ได้มือปืน 1 มาเก็บแล้ว ก็เลยอยากได้ สาละวิน มาเก็บเหมือนกัน ยังหาไม่ได้เลย  แต่จะหาจนกว่าจะได้ล่ะค่ะ รอต่อไปค่ะ... จากคุณ : นานเท่าไหร่ก็จะรอ - [ 17 มี.ค. 51 12:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามาบอกว่ายังหารูปไม่ได้เลยครับ แหะๆ คือนึกภาพออก แต่ยังนึกไม่ออกว่ามาจากหนังสือเล่มไหนน่ะครับ ขอไปหาก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 16:22:07 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 17 มี.ค. 51 16:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อย่าว่าแต่ป่เลยครับ ผมเองก็หารปเก่าๆสมัยนันม่เจอเหมือนกันได้มาไม่กี่รูปเอง รูปแรกเเป)กลบววงครบ โดยมีพ่อของผมเป็นประธานม พ่อเป็นประธานบวงสรวงหนังของผมเกือบทุกเรื่องจนท่านจากพวกเราไปก็เลยกลายเป็นผมต้องทำแทน ภาพนี้จะมีหม่อมของมกำลังทำอะรอย่กไม่ร้ ขงหม่อมจมี๋าสอ และข้างลังพ่อเปส.ส.รณ ผ้แสดงเปนยทหาพม่าครั จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 18:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หลังจากบงสวแล้วเราก็ยกกองไปแม่สอดเพื่อถ่ายทำแรก คือทีี่จ่าแร่มวิสามัญคนร้าย ฉากนี้โป๊นิดหน่อยครับ (ความจริงโป๊มากๆเพราะตัวที่เล่นเป็นเมียคนร้ายต้องแก้ผ้าหมดทังตัว) อากาศวันนันหนาวมากๆครับ ใส่เสื้อกีตัวก็ไม่หายหนาว มาถ่ายวันแรกก็มีเรื่องเพราะมีพวกแฟนหนังมาดูการถ่ายทำ แล้วมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งมาขอให้นายอั้น(สิริคุปตฺ)เซ็นชื่อให้ แฟนของเด็กซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของทีนั่นเกิดเขม่นนายอั้น เลยชวนพรรคพวกไปดักนายอั้น ซึ่งโชคไม่ดี เกาะท้ายมอเตอรไซด์ไปซื้อของที่ตลาด นายคนนั้นดักรออยูู่กลางทางด้วยดาบซามไรกับปืนพก ฟันเข้าหัวนายอั้นตกจากรถ ส่วนอีกคนถือปืนกะจะส่องให้ตายกันปข้าง ดีที่นายอั้นคลานหนึเข้าไปแอบในคูข้างทางเลยรอดครับ นี่แหละครับเมืองชายแดนในสัยนั้น จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 18:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 จากแม่สอดเราย้ยไปอยู่แม่ตอวอซึ่งใช้เป็นสถานีตำรวจครับ แม่ตอวออยู่ริมแม่น้ำเมยตรงกันข้ามกับค่ายใหญ่ค่ายหนึ่งของกเหรี่ยง ตัวสถานีโรงพักจะถูกกระสุนปืนพรุนเป็นรังผึ้ง แล้วยังมีเศษลูกระเบิดที่พม่าทิ้งพลาเข้ามาในเขตุไทย(หลายลูกเลยล่ะครับ) ตอนเราไปเปนตอนที่มีการสู้รบกันอย่างหนัก และพม่าพึ่งยึดค่ายแม่ตอวอได้ครับ แต่ก็ยังมีการสู้รบกันตลอดซึ่งเราจะได้ยินเสียงจรวดกับปืนค.แทบทั้งคืน ภาพนี้เป็นภาพที่อั้นตรวจแถวตำรวจที่หน้าสถานีตำรวจแม่ตอวอครับ จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 18:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบพระคุณท่าน Cinephile มากครับที่กรุณามาเล่าเรื่องราวเบื้องหลังต่างๆให้ฟัง และขอบคุณปู่อุปฯครับที่เริ่มต้นกระทู้นี้ขึ้นมา จากคุณ : ChocolateMousse - [ 17 มี.ค. 51 18:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 บริเวณแม่ตอวอ เลยขึ้นไปทางเหนือจนถึงสามแลบจะเป็นสมรภูมิที่มีการสู้รบกันเกือบตลอดเวลาที่เราถ่ายทำ เราถ่ายทำอยู่ฝั่งไทย ห่างออกไปข้ามแม่น้ำเมยพม่ากับกระเหรี่ยงเขาสู้กันจริงๆ ลูก RPG ตกลงมาในแม่น้ำแล้วไม่ระเบิดมีเป็นสิบๆลูก พวกเด็กๆ เอามาโยนเล่นกันแล้วระเบิดตายไปหลายคน ตามแนวแม่น้ำจะมีกับระเบิดฝังเต็มไปหมด มีทั้งแบบทำเองจนถึงแบบทันสมัยที่ทำด้วยพลาสติค ใช้เครื่องตรวจกับระเบิดตรวจไม่ได้ครับ ที่ผมดูอยู่เป็นกับระเบิดที่เรากู้ได้ที่ริมแม่น้ำสาลวิน ไม่รู้ว่าพม่าหรือกระเหรี่ยงวางเอาไว้ เผลอๆ ก็เป็นของพวกเราเองก็เป็นไปได้เหมือนกัน จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 18:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 กราบสวัสดี ท่านฯ ค่ะ ขอบพระคุณ ท่านฯ ค่ะที่ กรุณามาเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง... ติดตามต่อ ค่ะ.... เมื่อวาน ไปหาเรื่อง สาละวิน อยากดูอีกรอบค่ะ ยังไม่ได้มาค่ะจะหาต่อไปค่ะ ได้มา 3 เรื่อง - มือปืน ภาคแรก - คนเลี้ยงช้าง - น้องเมีย จากคุณ : naragorn - [ 17 มี.ค. 51 18:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เคยได้ดูสมัยวัยรุ่น ตอนนั้นจำได้ว่าประทับใจมาก รู้สึกว่าเสียดสีได้โดนใจมาก อยากดูอีกจังเลยครับ ปล.เพิ่งเคยเห็นรูปท่านตอนหนุ่ม จากคุณ : บุรุษพเนจร - [ 17 มี.ค. 51 18:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 บ้านพักของผมเป็นบ้านพักของครูอยู่ริมแม่น้ำเมย ใต้ถุนบ้านจะเป็นบังเกอร์ที่พอมีการยิงกันก็กระโดดหลบลงไปในบังเกอร์ บ้านนี้ผมใช้เป็นบ้านพักของหมวดดนัย(อั้น) ูไม่ห่างจากโรงพักจะเป็นวัดแม่ตอวอของหลวงปู่สร้อย ที่เวลาเกิดเรื่องทั้งไทยทั้งพม่าทั้งกระเหรี่ยงจะอพยพเข้าไปอยู่ในวัดกันเพราะเชื่อว่าลูกค.จะไม่ตกในนั้น หรือถ้าตกก็จะไม่แตก หลวงปูู่สร้อยพาผมไปดูหลุมลูกค. ท่านว่าท่านเอาไม้แหย่ลงไปลึกเป็นวา (ดีมันไม่ระเบิดใส่ท่าน) หลวงปู่สร้อยเป็นเกจิที่คนที่นี่นับถือ สรพงค์เองก็ไปนอนอยู่ที่วัด คอยช่วยกวาดลานวัดถวาย มีอยู่วันหนึ่งก่อนที่ผมจะออกไปถ่ายหนัง ซึ่งเราจะต้องใช้เรือหางแล่นไปตามแม่น้ำเมยเพื่อไปสบเมยกับแม่น้ำสาลวิน หลวงปู่วิ่งจีวรปลิวเอาลูกประคำมาให้ กำชับให้คล้องคอเอาไว้ แม่น้ำเมยตอนนั้นถูกยึดครองทั้งพม่าและกระเหรี่ยงสลับกันไป พอตกเย็นห้ามเดินเรือในแม่น้ำเป็นอันขาด เพราะจะถูกยิงเอา แต่วันนั้นเราถ่ายนานไปหน่อย ขากลับโดนไม่พม่าก็กระเหรี่ยงซัดด้วยเอม 60 ผ่านหัวไปอย่างหวุดหวิด ตชด.ที่ไปด้วยต้องโบกธงไทยแล้วร้องตะโกน Thailand Thailand พวกมันถึงหยุดยิง จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 18:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ผมกำลังพยายามหาครับท่าน แบบว่าชอบมาก แหะๆ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 18:56:31 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 17 มี.ค. 51 18:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 น่าตื่นเต้นจังค่ะ ชอบฟังท่านเล่า สนุกเหมือนได้ไปด้วยเลยค่ะ อิอิ จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง - [ 17 มี.ค. 51 18:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เกาะกระทู้อย่างใจจดใจจ่อค่ะ ขอบพระคุณท่านที่มาเล่าให้ฟังค่ะ จากคุณ : นานเท่าไหร่ก็จะรอ - [ 17 มี.ค. 51 19:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ค่ายใหญ่ของพวกกระเหรี่ยงอยู่ริมแม่น้ำเมยใกล้ๆ สบเมย(ทางฝั่งพม่า) ส่วนลุงอ้วนหรือโบเมี๊ยะมีบ้านอยู่ในเขตุไทยที่แม่ยวม จากแม่ตอวอนั่งเรือไปราวๆครึ่งชั่วโมงก็ถึง แต่เขาไม่ให้คนนอกเข้า บังเอิญมือปืนของลุงอ้วนชื่อเนวินมาป้วนเปี้ยนอยู่กับกองถ่ายบอกผมว่าเขาจะไปขอลุงอ้วนให้ เราเลยนั่งเรือไปดักรอลุงอ้วนที่กลางแม่น้ำสาลวิน ขออนุญาตเข้าไปถ่ายที่ค่ายมอเนอปรอ ลุงอ้วนคงจะลำคาญ คนเขาจะรบกันเสือกมาขอถ่ายหนัง พอลุงอ้วนอนุญาตพวกเราก็นั่งเรือหางไปที่ค่ายให่ญของกระเหรี่ยง KNU ซ่ึงวันนั้นมีงานครบรอบ 42 ปีของการปฏิวัตพอดี ระหว่างถ่ายทำ กองทัพพม่าส่งของขวัญมาให้กระเหรี่ยงโดยเอาเครื่องบินบินมาทิ้งระเบิด แต่โชคดีที่ตัวคา่ยอยู่ใหุบเขา เครื่องบินเขามาโจมตีลำบาก แล้วเครื่องบินจะอยู่นานไม่ได้เพราะกระเหรี่ยงจะสอยเอาด้วยจรวด SAM แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราต้องเผ่นลงบังเกอรกันแทบไม่ทัน รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายที่ค่ายใหญ่ของกระเหรี่ยง KNU ครับ มีนายอั้นกับแอน ซึ่งเล่นเป็นลูกสาวของจ่าแร่มครับ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 19:12:32 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 19:11:20 จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 19:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ฉากที่คนดูชอบมาที่สุดคือฉฉากที่กระเหรี่ยงหนีพม่าข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาไทย ที่ชอบก็เพราะเพลงที่ใส่อยู่ในพื้นหลัง เพลงนี้เป็นเพลงกระเหรี่ยงที่พวกต.ช.ด.พบในเป้หลังของศพทหารกระเหรี่ยงครับ เนื้อหาของเพลงแปลเป็นไทยว่าจะมารอที่รัก(คงจะเป็นทหารที่ตายนั่นแหละ)ที่ริมแม่น้ำสาลวินจนกว่าจะกลับมาอยู่ดวยกันอีครั้ง ผมเห็นว่าเพราะดีและเนื้อหาตรงกับเรื่อง แต่ไม่รู้ว่าจะไปขอเพลงจากใครหรือใครเป็นคนแต่งหรือใครเป็นคนร้อง ให้เป็นความทรงจำของสงครามที่รบกนมากว่า 42 ปีก็แล้วกันครับ จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 19:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แม่น้ำสาลวินไหลผ่านเมืองไทยเป็นระยะสั้นๆ เป็นแม่น้ำที่มีความลับครับ ความลับก็คือใต้ลงไปแม่น้ำสาลวินทั้งสายกลายเป็นน้ำตกครับ เรียกว่าแจปอนทีลอซู เพราะยี่ปุ่นต้องการที่จะยกพลลงไปตีกองทัพอังกฤษที่มะละแหม่ง แต่ไม่รู้ว่ามีน้ำตก ทำให้ทหารยี่ปุ่นตายเรียบ น้ำตกนี้อยู่ลึกเข้าไปในพม่าประมาณ 30 กม.ครับ ผมอยากจะเข้าไปถ่ายที่น้ำตกที่ว่านี้แต่ไม่มีเรือพม่าลำไไหนกล้าไปส่งเพราะหนึ่งกลัวทหารพม่า สอง กลัวน้ำตก แต่พี่ไทยของเราไ่ม่กลัวครับ เราถึงได้เข้าไปจนถึงน้ำตก เป็นครั้งแรกที่เข้าไปในดงมรณะของเพชรพระอุมาครับ ก็ป่าริมแม่น้ำสาลวินแถวนั้นก็ดงมรณะดีๆนี่เอง จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 19:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 69 หารูปได้อีกก็จะเอามาโพสครับ ถ้าอยากรู้เรื่องเบื้องหลังหนังเก่าๆก็ถามมาได้ครับ เล่าสู่กันฟังสำหรับพวกเราคนรักหนังครับ จากคุณ : Cinephile - [ 17 มี.ค. 51 19:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แวะมาชมภาพค่ะ ครั้งแรกจริงๆที่เห็นท่านสมัยหนุ่มๆๆ แต่ว่ารู้สึกจะเป็นหนังที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันหน้าดูเลยค่ะ ทั้งกระสุน ทั้งระเบิด ไหนจะนักเลงแถวนั้นอีก จากคุณ : เจ้านิ - [ 17 มี.ค. 51 19:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าอยากรู้เรื่องเบื้องหลังหนังเก่าๆก็ถามมาได้ครับ เล่าสู่กันฟังสำหรับพวกเราคนรักหนังครับ จากคุณ : Cinephile  - [ 17 มี.ค. 51 19:32:09 ] ^^^ ขอความกรุณาเล่าเรื่องราวการทำงานในภาพยนตร์เรื่อง "เสียดาย" ได้มั๊ยคะท่าน  ประทับใจเนื้อหาและการแสดงของหลายๆ คน  อย่างคุณวิจิตราน่ะค่ะ  แต่เธอดูจะไม่ค่อยมีผลงานสักเท่าไหร่ในช่วงหลัง จากคุณ : เสี่ยวลี่ - [ 17 มี.ค. 51 21:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขออนุญาตค่ะ โดยส่วนตัวประทับใจเสียดาย 1 มากกว่าเสียดาย 2 ค่ะ เพราะรู้สึกว่าเสียดาย 1 เหมือนเข้าไปดูชีวิตของเพื่อนน่ะค่ะ จากคุณ : เสี่ยวลี่ - [ 17 มี.ค. 51 21:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณแนนหลายปีต่อมา จากคุณ : เสี่ยวลี่ - [ 17 มี.ค. 51 21:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบพระคุณครับท่าน Cinephile อยากอ่านเรื่องราวของหนังเรื่อง"เสียดาย"เช่นกันครับ จากคุณ : ChocolateMousse - [ 17 มี.ค. 51 22:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 75 มาตามเก็บข้อมูล.... ขอบพระคุณท่านมากครับที่เอามาเล่าสู่กันฟัง..... จากคุณ : ฉันทั้งน้านนนน.... - [ 17 มี.ค. 51 22:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มือปืน ผมดูด้วยความรู้สึกที่แตกต่างในการดู 2 ครั้งของช่วงวัยครับ ครั้งแรกดูแบบเด็กๆ หนุ่มรุ่นๆ แต่ครั้งที่ 2 ดูด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป ซับพลอตของแต่ละคนมีที่มาที่ไป แต่ผมกลับมองไม่เห็น เป็นเรื่องของประสบการณ์และความลุ่มลึก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการคนดูที่มีประสบการณ์และความลุ่มลึกตามไปด้วย นี่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือ นี่คือ งานศิลป์ ที่คนมองศิลปะเป็นจะเข้าใจได้ ข้อเสีย คือ ตลาดแคบ เพราะหนังอย่างมือปืน ต้องดูแบบดื่มด่ำในอารมณ์ของคน แล้วถึงจะมองเห็นถึงโลกอีกใบที่ซับซ้อนในจิตใจของคน อีกเรื่อง ผมชอบ เสียดาย 1 ครับ เล่าเป็นธรรมชาติ เหมือนชีวิตจริง สมัยวัยรุ่น ได้เห็นได้รู้ได้เจอพวกนี้ เพราะสภาพแวดล้อมของเด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ มันจะดึงดูดไปหากัน โชคดีผมเป็นโรคภูมิแพ้ และเป็นโรคกลัวเข็ม และของแหลมทุกชนิดอย่างรุนแรง (ไม่รู้มีใครเป็นบ้าง) ก็เลยผ่านเรื่องพวกนี้มาได้ โดยไม่ได้ไปแจมกับเขา แต่ช่วงชีวิตหนึ่งก็ได้เห็นลูกแกะหลงทาง และก็รู้สึกดีมากๆที่มีหนังแบบนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สัมผัสได้ คือเรื่องของความละเมียดละไมในการทำหนัง หนังไม่ได้เป็นแค่งาน แต่เป็นชีวิต มันจึงเป็นความสุขที่ได้ทำ ผมมีความสุขที่ได้ดูหนังที่กลั่นออกมาจากคนทำหนัง เพราะอารมณ์ที่รับรู้และสัมผัสได้มันสื่อมากกว่าคำว่างานครับ จากคุณ : granun - [ 17 มี.ค. 51 22:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ชอบ "เสียดาย" ค่ะ ประทับใจมาก จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 17 มี.ค. 51 23:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขออนุญาตนำภาพที่ท่านโพสต์มาเทียบกับภาพในหนังครับท่าน เปรียบเทียบเบื้องหน้าและเบื้องหลังครับ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 17 มี.ค. 51 23:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 79 หมวกของคุณอั๋นยังมีขี้หมูติดอยู่เลย ลุงทุนมากมาย  หุหุ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 18 มี.ค. 51 06:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ไปถ่ายหนัง....            หรือไม่รบครับท่าน  -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 18 มี.ค. 51 10:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ยังจำตอนข้ามแม่น้ำได้ ร้องไห้ซะ ตอนแรกแอบร้อง กลัวคนเห็น ต่อมาไม่ไหวแล้วเศร้า ๆๆๆ  หน้า ผม มือ เปียกน้ำตาไปหมด จากคุณ : jittra - [ 18 มี.ค. 51 14:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เบื้องหลังงานถ่ายทำนี่ น่าจะเอามาทำหนังได้อีกเรื่องเลยนะครับ ^-^: จากคุณ : P Q BOY - [ 18 มี.ค. 51 22:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ไปถ่ายหนังครับคุณฟาฬ จากคุณ : Cinephile - [ 20 มี.ค. 51 12:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อ่า..   เห็นท่านขึ้นลำแล้ว                             เอ่อ...     ไปถ่ายหนังก็ถ่ายหนังครับ    -_-" .................. จากคุณ : ฟาฬ - [ 20 มี.ค. 51 13:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ชอบภาพใน คห.83  จังเลยค่ะท่านฯ จากคุณ : naragorn - [ 20 มี.ค. 51 14:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 86 มารออ่าน ต่อ ครับ ได้ความรู้ เบื้องหลังมากมาย การจะทำภาพยนตร์สักเรื่อง มีที่มามากมาย จริง ๆ ปล.อ่านไป ทำให้นึกถึง รตอ.รพินทร์ ก่อนค่ายแตก เลยครับว่า ต้องเจออะไรบ้าง จากคุณ : OntheWay_VaGrant - [ 20 มี.ค. 51 15:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ท่านเท่ห์สุดๆอ้ะค่ะ ชอบมากรูปนี้ จากคุณ : เจ้านิ - [ 20 มี.ค. 51 15:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 88 บริเวณที่เราใช้ถ่ายเรื่องสาลวินเป็นบริเวณเดียวกันกับที่คุณโอจิเคยตะเวนมาแล้ว อย่างเช่นแม่สามแลบ สบเมย ฯลฯ. คงจะยังเห็นร่องรอยของสนามเพาะกับหลุมที่ลูกปืนค.ตกลงมาบ้าง อยากให้คุณโอจิหารูปมาให้พวกเราดูกันบ้างครับ จากคุณ : Cinephile - [ 20 มี.ค. 51 16:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ครับ เดี๋ยวจะหาโอกาสไปตระเวนหารูปมาให้พวกเราดูกันครับท่าน จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 20 มี.ค. 51 17:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 90 รอดูๆ...     ^__^ จากคุณ : ฟาฬ - [ 21 มี.ค. 51 10:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มารอดูด้วย จากคุณ : ภคิน - [ 24 มี.ค. 51 10:08:42 ]