| ชอบมาก ห้ามพลาด (11 คน) |
| ชอบ (19 คน) |
| เฉยๆ (3 คน) |
| ไม่ชอบ (0 คน) |
| ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 33 คน |
เลือกอ่านบทความเดียวกันนี้และชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=03-2008&date=16&group=14&gblog=79
...สองสามปีนี้ คอหนังแฟนตาซี คงอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ที่มี หนังแฟนตาซีหลากหลายรูปแบบดาหน้ามาให้ลิ้มลอง แต่ละเรื่องล้วนทำออกมาในระดับดีเกินมาตรฐาน หากไม่นับคนดังอย่าง แฮรี่ หรือ ครอบครัวนาร์เนีย เรายังมี
Pans labyrinth - แฟนตาซีสำหรับคอหนังผู้ใหญ่ที่เป็น Darkside of fairy tale ที่ปีศาจยืนเคี้ยวหัวนางฟ้าหยับๆอย่างเอร็ดอร่อย
Bridge to therabithia - แฟนตาซีที่มีบทบาทน้อยแค่น้ำจิ้มแต่จำเป็นต้องมีเพื่อรองรับ ความเป็นหนัง coming of age
StarDust แฟนตาซีขำๆอารมณ์ดี มีติงต๊อง มีโรแมนติกหวานเจี๊ยบ
...ปีนี้ The Spiderwick Chronicles เป็นตัวแทนหนังแฟนตาซีที่เริ่มต้นสร้างความประทับใจผ่านการดัดแปลงวรรณกรรมเยาวชนจำนวน 5 เล่มให้มาอยู่ในหนังความยาวสองชั่วโมงได้อย่างกระชับลงตัว
เรื่องของ ครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วย หนึ่งคู่แฝด กับ พี่สาวคนโต ที่เพิ่งย้ายตามแม่มาอาศัยในบ้านร้างเขตชานเมือง หลังจากแม่แยกทางกับพ่อ บ้านหลังนี้เป็น บ้านเก่าของยายที่เคยมีเรื่องราวกล่าวขานกันว่า ยายเป็นบ้าเพราะบอกว่าพ่อตัวเองถูกนางฟ้าจับตัวไป
หนึ่งในฝาแฝดไม่แฮปปี้ที่จะตามแม่มา เพราะเข้าใจว่า แม่คือตัวการที่ทำให้พ่อจากเขาไป
แม้แม่จะพยายามแค่ไหน แต่ ลูกชายก็ไม่เคยเข้าใจและต่อต้านตลอดเวลา ปัญหานี้ยังไม่ทันจะคลี่คลายปัญหาใหม่ก็แทรกเข้ามา เมื่อเจ้าลูกชายตัวดีไปเจอ หนังสือปริศนา ที่เขียนว่าห้ามเปิดอ่าน มิเช่นนั้น ทุกชีวิตต้องสิ้นสูญ
เมื่อหนังสือถูกเปิดอ่าน เรื่องเล่าในตำนานกับเหล่าตัวประหลาดก็ปรากฏตัวให้เห็น
ในแง่ความเป็นหนังครอบครัว .....หนังแฟนตาซีพันธุ์แท้มักจะเป็นยาขมสำหรับผู้ใหญ่หลายๆคน(รวมผมไปด้วย) เพราะเราจะรู้สึกว่าหนังมันเด็กเกินไป ดูไม่สนุก แต่งานนี้ผู้กำกับ มาร์ค วอเตอร์ส ยังประสบความสำเร็จในการทำหนังสำหรับเด็ก ให้ผู้ใหญ่ดูสนุก เหมือนที่เคยทำได้มาแล้วใน Mean girls และ Freaky Friday
ด้วยความช่ำชองในการเล่นกับหนังที่มีประเด็นครอบครัวมาก่อนแล้ว หนังเรื่องนี้จึงสร้างภาพครอบครัวกำลังมีปัญหาออกมาดูเป็นธรรมชาติ สะท้อนให้เห็น ปัญหา children of divorce หรือ เด็กที่ประสบปัญหาจากการหย่าร้างแยกทางของพ่อแม่ ผ่านการแสดงออกของตัวละครได้สมจริง และมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างน่าเชื่อถือ จนทำเอาบางฉากคนดูอาจน้ำตาซึม กับ ชะตากรรมของเด็กสองคน สองครอบครัว ที่สูญเสียพ่อไปตั้งแต่เล็ก
ในแง่ความเป็นหนังแฟนตาซี ... ได้เห็นนกยักษ์ เห็นหมูป่าพูดได้ เห็นกอบลิน เห็นตัวประหลาดมีปีกมีสีสัน ฯลฯ เรียกได้ว่ามากันครบสูตรหนังแฟนตาซี มีมากเพียงพอที่จะเติมเต็มความต้องการของคนดูได้อย่างเต็มอิ่ม CG ของหนังทำออกมาสวยงามไม่เด่นเกินตัวหนัง (ชอบเทคนิคตอนที่ตัวส่งเสียงฟิ้วๆๆบินมารวมกันเหมือนผีเสื้อ กับ CG ตัวที่อยู่กับคุณย่าในรพ.)
ประการสำคัญคือตัวหนังรักษาสมดุลระหว่าง ความเป็นเด็ก และ ความเป็นผู้ใหญ่ ได้อย่างลงตัว ไม่ออกมาเด๊กเด็กเกินไปแบบ Narnia หรือ ผู้ใหญ่เกินเหตุแบบ Pans labyrinth และ ก็ไม่ได้มีความแฟนตาซีน้อยแบบเป็นน้ำจิ้มเหมือน Bridge to therabithia
ข้อด้อยของหนังมีอยู่หน่อยเดียว คือช่วงท้ายที่อารมณ์หนังแผ่วปลายไปนิด แต่ โดยรวมถือว่าสนุกมาก น่าประทับใจ
... เฟร็ดดี้ ไฮมอร์ เป็น ตัวอย่างชั้นเยี่ยมของการเล่นบทฝาแฝด เพราะ ปกติบทฝาแฝดที่ใช้นักแสดงคนเดียว หนังมักจะอำพรางด้วยการใช้คอสตูมเข้าช่วย เช่น คนนึงใส่แว่น คนนึงไม่ใส่ หรือ คนหนึ่งแต่งสูท อีกคนแต่งโทรม หาไม่เช่นนั้นก็จะเขียนบทให้มีบุคลิกแบบผิดมนุษมนาต่างกันสุดขั้ว เช่น คนหนึ่งแสนชั่ว อีกคนแสนดี เพื่อที่คนดูจะแยกสองบทบาทนี้ออกจากกัน
แต่ในเรื่องนี้ เฟร็ดดี้ ไฮมอร์ ไม่จำเป็นต้องใช้แว่น และ ไม่ได้แสดงแบบโอเวอร์แอคติ้งเพื่อแบ่งตัวเองเป็นสองตัวละคร เขาให้การแสดงที่เป็นธรรมชาติและสร้างบุคลิกที่ชัดเจนมากพอให้คนดูสามารถแยกสองคนนี้ออกจากกัน บวกเทคนิคดีๆกับการแสดงๆดีทำให้ แฝด ในหนังเรื่องนี้ เนียนตายิ่งนัก
สรุป ... เพิ่งผิดหวังมาหมาดๆกับหนังแฟนตาซีหมีขั้วโลกที่หน่อมแน้มเกินเหตุ การได้มานั่งดู The Spiderwick Chronicles จึงเป็นหนังแฟนตาซี ที่คอ(ไม่)แฟนตาซีอย่างผมสนุกมาก และ มองอย่างจ้องจับผิดก็หาจุดด้อยได้น้อยมากอีกเรื่องหนึ่ง
(ชอบตัวละครอยู่สองตัวคือ คนเฝ้าบ้านที่ติดน้ำผึ้ง กับ ตาหมูป่าบ้านกที่คุยๆกันทีไรนกบินมาก็สมาธิหลุดเสมอ ฮาดี)
ป.ล. จขกท.ขอเชิญชวนเพื่อนผู้อ่านในกระทู้ ใน Blog และ ใน Book มาเยี่ยมเยือนพูดคุยและบังคับรับลายเซ็น ที่ บูธซีเอ็ด ใน งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน เที่ยงครึ่งถึงบ่ายสองโมง จ้า (อย่าปล่อยข้าพเจ้านั่งหง่าวเพียงลำพังเลย)
บทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
(บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)
Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=03-2007&date=22&gblog=226
Stardust , เพราะเหตุใดดวงดาวจึงเปล่งประกายบนท้องฟ้า เพราะเหตุใดมนุษย์จึงควรค่าแก่การเฝ้ามอง
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=09-10-2007&group=14&gblog=37
The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2006&date=02&group=1&blog=1
The Golden Compass , ง๊ายง่าย เด๊กเด็ก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=06-12-2007&group=14&gblog=50
Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=04-2007&date=16&gblog=235
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 10:48:48
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
17 มี.ค. 51 10:47:41
]