ขออธิบายแบบง่ายๆ เท่าที่ทราบนะคะ บางท่านอาจมีวิธีต่างกันออกไปก็ได้
ขมิ้น ดินสอพอง ส้มมะขาม
เป็นอุปกรณ์หลักในการบำรุงผิวแบบคนโบราณ
คล้ายๆ สปาสมัยนี้แหละค่ะ
คือสมัยก่อนไม่มีสบู่ สครับ
พวกทาสที่อาบน้ำแบบขอไปทีก็มักจะผิวไม่งาม กระดำกระด่างไปด้วยขี้ไคล เพราะไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าโดดลงคลองแล้วเอามือถูๆ ตัวจนหายเหนียว
พอจะมาเอามา 'บ่มผิว' เพื่อที่จะส่งตัวขึ้นไปให้นาย ก็เลยต้องมาผ่านกระบวนการ 'ขัดสีฉวีวรรณ' ก่อน (เดิมทีมันเป็นขั้นตอนการอาบน้ำแบบเบสิคของพวกสตรีชั้นสูงหรือคนที่รวยๆ หน่อยน่ะค่ะ เพราะจัดว่าเป็นคนที่ไม่ต้องทำอะไรมากในแต่ละวัน จึงมีเวลาอาบน้ำทีละนานๆ ดูแลตัวเองให้สวยเสมอ ยิ่งเป็นคนชั้นสูงหรือรวยมากเท่าไหร่ อุปกรณ์เครื่องสำอางของหอมต่างๆ ที่ใช้จะยิ่งอลังการและมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่สำหรับทาสอย่างอีเย็นหรือชาวบ้านธรรมดา จัดว่าเป็นเรื่องพิเศษทีเดียว เพราะไม่ใช่วิสัยของคนระดับนี้ที่จะทำกัน)
เริ่มจากเอาส้มมะขาม (มะขามแกะเปลือกผสมกับน้ำนิดหน่อยนี่แหละ) เป็นอ่างๆ มาขัดผิว มันมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ อยู่แล้ว ช่วยให้ผิวขาวขึ้น เสร็จหนึ่งครั้งแล้วก็ใช้ขมิ้นที่ตำจนน้ำมันออกมาพอกให้จับเข้าผิว เพราะคนโบราณเชื่อกันว่าคนผิวเหลืองนวลนั้นคือคนงาม ล้างออกแล้วก็ขัดส้มมะขามใหม่ ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนผิวเริ่มดูมีความแตกต่าง (คนโดนขัดงี้แสบจนพูดไม่ออกเลยค่ะ) ส่วนดินสอพองก็เหมือนแป้ง ทาทับครั้งสุดท้ายให้นวลเนียน แต่ถ้าโดนขัดผิวมานานเกินไป ทาแล้วก็คันๆ นะคะ เพราะทำกันทีก็เป็นชั่วโมงๆ ความชุ่มชื่นมันโดนดึงหายออกไปหมดแล้ว
ถ้าอยากอ่านขั้นตอนการบ่มผิวของคนโบราณแบบนี้
มีให้อ่านอยู่บ้างในนิยายเรื่องทวิภพและรักที่ต้องมนตราของทมยันตีค่ะ
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 23:15:20
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 23:13:06
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 23:11:15