ความคิดเห็นที่ 1
สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน เรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซีวิทยาศาสตร์ ที่ผมเขียนโดยใช้ฉากหลังเป็นแฟนตาซีไทย มีครุฑ มีนาค มีเทวดา มีเวทมนต์ หลักๆก็เอามาจากรามเกียรติ์แหละครับ
เรื่องนี้แบ่งเป็นสองช่วง
ช่วงแรก เป็นช่วงตำนาน ที่ผมรวบรวมตำนานเรื่องต่างๆมาเขียนรวมกัน เช่นตำนานเมขลาล่อแก้ว ตำนานกวนเกษียรสมุทร
ช่วง ที่สอง เป็นช่วงการผจญภัยของพระเอก ที่ไปผจญภัยยังดินแดนของพวกอสูร มีการเรียนเวทมนต์ มีสงครามระหว่างเทพ-มาร มีตัวประหลาดหลายๆตัว
เรื่องย่อ : นิยายแฟนตาซี ที่มีตัวละครและฉากหลังจากวรรณคดีไทย ตำนานมหาสงครามแย่งชิงความเป็นเจ้าพิภพทั้งหก ณ ห้วงเวลาก่อนที่รามเกียรติจะอุบัติขึ้นบนโลก เป็นเวลาที่ "ธรรม" กับ "อธรรม" ถูกแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน จนไม่อาจอยู่ร่วมภพได้ หากแต่ในระหว่างการขับเคี่ยวกันในสมรภูมิแห่งเลือด เนื้อ และปณิธาน ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ล้มตาย ไม่มีใครล่วงรู้ว่า "ธรรม" ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของ "อธรรม" โดยสมบูรณ์แล้ว
...
อันนี้คำนิยมจาก ด.ร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล หรือ "ชัยคุปต์" อดีตประธานชมรมนิยายวิทยาศาสตร์ไทย (ปัจจุบันเป็นกรรมการที่ปรึกษา)
...
ใครๆก็เล่านิทานได้ แต่มิใช่ว่าใครๆก็เล่านิทานที่ดีได้! การเขียนนิยายแฟนตาซี มีทั้งความง่ายและความยาก ความง่ายก็เพราะว่า นิยายแฟนตาซีเป็นนิยายประเภทเดียว ที่ผู้เขียนสามารถใช้จินตนาการได้อย่างเต็มที่ อย่างไม่มีกรอบ ไม่มีขีดจำกัด ไม่เหมือนกับการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์เชิงแฟนตาซี ซึ่งถึงแม้ผู้เขียนจะ สามารถใช้จินตนาการได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีกรอบมีขีดจำกัดที่จะทำให้ผลงานที่เขียนออกมาเป็นนิยาย วิทยาศาสตร์เชิงแฟนตาซีที่ดีได้
ทว่า ถึงแม้การเขียนนิยายแฟนตาซีจะง่าย เพราะผู้เขียนมีอิสระในการใช้จินตนาการเต็มที่ แต่การเขียนนิยาย แฟนตาซีก็ยาก ถ้าจะให้ได้ผลงานเป็นนิยายแฟนตาซีที่ดี ที่มีคุณค่า
หลักฐานสนับสนุนความจริงข้อนี้ก็คือ ในโลกของวรรณกรรมแฟนตาซีระดับโลก จริงๆแล้วที่เป็นผลงานการ เขียน ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นนิยายแฟนตาซีมีคุณค่าถึงระดับเป็นอมตะ ก็มีอยู่ไม่มาก ถ้าไม่นับเรื่องเล่า ประเภทตำนาน หรือเทพนิทานเทพนิยายของชนชาติต่างๆ ที่มีอยู่มากมายทั่วโลก
สำหรับโลกวรรณกรรมในอดีต เรื่องเล่าแฟนตาซีอมตะจำนวนมากจะเป็นเทพนิทาน หรือ เทพนิยายที่ไม่ยาว นัก ดังเช่น เทพนิทานของสองพี่น้องตระกูลกริมม์ (Jacob Grimm และ Wilhelm Grimm) นักเล่า นิทานอมตะชาวเยอรมันแห่งศตวรรษที่สิบแปดและสิบเก้า เทพนิทานของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) นักเล่านิทานอมตะชาวเดนมาร์กแห่งศตวรรษที่สิบเก้า ที่เป็นเรื่องยาว แฟนตาซีอมตะ มีเช่น เรื่อง The Wonderful Wizard of Oz ของ เอล. แฟรงค์ โบม (L. Frank Baum) นักเขียนชาวอเมริกันแห่งศตวรรษที่สิบเก้าและยี่สิบ และล่าสุดก็คือ นิยายแฟนตาซีที่ ขายดีที่สุดยุคใหม่ ชุด Harry Potter ของ J.K. Rowling
ปัจจัยสำคัญที่สุดของความสำเร็จในการสร้างสรรค์นิยายแฟนตาซี เทพนิทาน หรือ เทพนิยาย คือ จินตนาการ ซึ่งผู้เขียนหรือนักเล่านิยายแฟนตาซี เทพนิทาน หรือเทพนิยายทุกคนต้องมี แต่ก็มีบางคนซึ่งมีจินตนาการพิเศษ เหนือคนอื่นๆ ทำให้สามารถสร้างนิยายแฟนตาซี เทพนิทาน หรือเทพนิยายที่ไม่ธรรมดาได้
นอกเหนือไปจากจินตนาการแล้ว ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จของนักเขียน หรือนักเล่านิยายแฟนตาซี เทพ นิทาน หรือเทพนิยาย อีกปัจจัยหนึ่งคือ การเตรียมการ โดยการศึกษา หรือถึงระดับลงมือวิจัยทีเดียว ที่ ชัดเจนคือ เทพนิทานของสองพี่น้องตระกูลกริมม์ ซึ่งทั้งคู่เป็นนักวิจัยภูมิปัญญาเรื่องราว ทั้งที่เป็นตำนานและ เรื่องเล่า ที่รวบรวมจากชาวบ้าน แล้วจึงนำมาสังเคราะห์เขียนเป็นเทพนิทานอันไม่ธรรมดา กลายเป็นเทพนิทาน อมตะแพร่หลายไปทั่วโลกถึงทุกวันนี้
"ลำนำหกพิภพ" เป็นนิยายแฟนตาซีของ พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ ซึ่งความโดดเด่นแห่งจินตนาการและศิลปะการ สร้างสรรค์เรื่องแต่งที่มีรางวัลดีเด่นของโครงการ Young Thai Artist Award 2006 เป็นหลักประกัน อยู่แล้ว นับเป็นความน่าชื่นชม และสมควรแก่ความภาคภูมิใจของผู้เขียนที่เป็นนักเขียนรุ่นใหม่ ประสบความ สำเร็จอย่างงดงามกับผลงานเป็นเล่มจริงๆเล่มแรก หลังจากที่สั่งสมผลงานมาพักใหญ่บนเวทีไซเบอร์ และใน ระหว่างการเป็นนักเรียน นักศึกษา แต่พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ยังมีความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งในกระบวนการ สร้างสรรค์ผลงาน ที่อยู่ในแนวทางใกล้เคียงกับสองพี่น้องตระกูลกริมม์...
นั่นคือ การเตรียมตัว เตรียมการ และการสังเคราะห์ข้อมูล เรื่องราว ที่ศึกษามาสำหรับการเขียน "ลำนำหก พิภพ" ดังปรากฏเป็นฐานข้อมูลประกอบเรื่องอย่างละเอียดท้ายเล่ม ซึ่งมีส่วนอย่างสำคัญทำให้เรื่อง "ลำนำหก พิภพ" มีความเป็นนิยายแฟนตาซีเรื่องยาวที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และทำให้ พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ มีศักยภาพจะเป็น นักเขียนที่สร้างผลงานคุณภาพต่อๆไปได้อย่างน่าตื่นเต้น
ขอให้ พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ รักษาวิธีการทำงานสร้างสรรค์ผลงานการเขียนที่เป็นระบบอย่างนี้ให้มีคุณภาพต่อๆ ไป แล้ววงการวรรณกรรมเมืองไทยของเราก็จะมีนักเขียนคุณภาพที่น่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และความ ปรารถนาของพงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ ที่จะแต่งนิยายเป็นภาษาอังกฤษประดับวงการวรรณกรรมสากล ก็จะไม่ไกล เกินฝัน
ขอให้ "พลังที่สร้างสรรค์" จงอยู่กับพงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ ตลอดไป!
จากคุณ :
กริชครับผม
- [
22 มี.ค. 51 00:04:59
]
|
|
|