ความคิดเห็นที่ 1 ไฮ-คลาส คุณพ่อมีส่วนตัดสินใจบ้างหรือเปล่าเพราะได้ยินข่าวว่าพ่ออยากให้คุณเสริมเป็นหมอ ข่าวก็เป็นข่าวลงกันเรื่อย ความจริงคุณพ่อไม่ได้อยากให้เราเรียนหมอมาตั้งแต่ช่วงแรกอยู่แล้ว การตัดสินใจเรียนวิศวก็เป็นการตัดสินใจของผมเอง เราตั้งเป้าว่าจะเรียนทางนี้ แต่พอเรียนจริงมันยากพอสมควร เราต้องเรียนหนัก ความจริงแล้วเราก็ไม่ได้เป็นคนที่เรียนเก่งอะไรมากมาย เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 2 กว่ายังไม่ถึง 2.5 เลยด้วย ซ้ำ ข่าวเอาไปเขียนว่าเรียนเก่งเป็นเด็กอัจฉริยะ ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เราก็เรียนมาจนจบวิศว เราเข้าเรียนปี 2535 มาจบเอาปี 2539 ก็ 4 ปีพอดีช่วงที่เราเรียนอยู่ปี 4 เป็นปีที่คุณพ่อเสียชีวิตพอดี ไฮ-คลาส มารู้จักกับ 'เจนจิรา' ได้อย่างไร ความจริงก่อนที่เราจะมารู้จักกับ 'เจนจิรา' ผมเคยมีแฟนมาก่อนแล้วคนหนึ่งแต่พอตอนหลังเขาขอเลิกไปเพราะเรียนหนัก ก็แยกกันด้วยดี จากนั้นเราก็มารู้จักกับ 'เจนจิรา' ประมาณปี 3 เข้าปี 4 ก็รู้จักด้วยการเป็นเพื่อนกันก่อนตอนนั้นยังไม่ได้้เป็นแฟนกัน เขาเรียนมหิดลเราเรียนจุฬาฯแต่ไปเจอกันในโบถส์เพราะเขาก็นับถือศาสนาคริสต์เหมือนกัน คือไปเจอกันก็เลยมีโอกาสพูดคุยกัน เขาเป็นคนเรียบร้อย ส่วนผมเป็นคนเรียบๆเฉยไม่ค่อยคบหากับใครมากนักชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวจึงไม่ค่อยมีเพื่อนอะไรเท่าไหร่ ไฮ-คลาส ทำไมมีนิสัยเก็บตัวอยู่คนเดียว ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อใจใครง่ายๆโดยเฉพาะผู้ชาย ถึงแม้เราจะเคยเรียนโรงเรียนที่มีแต่ผู้ชายล้วนๆ ก็ตาม เพราะเราเจอแต่ความไม่จริงใจเจอความเห็นแก่ตัวมาเยอะ เราอาจจะมองว่าเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีคอยช่วยเหลือกันแต่ความเป็นจริงที่เราเจอมันต่างกัน มีแต่การใส่หน้ากากเข้าหากันตลอด ต้องอยู่ในสังคมที่ใช้ความหรูหรามาวัดกัน อวดมั่งอวดมีอวดรวย ชอบงานรื่นเริง เป็นสังคมที่พยายามแสดงตัวเองออกมาว่าเป็นคนระดับสูง ไม่ได้คบกันด้วยความจริงใจ เราเลยไม่ค่อยเชื่อใจใคร เมื่อมาอยู่มหาวิทยาลัยจึงไม่ค่อยมีเพื่อจะมีก็แต่เพื่อผู้หญิง ไฮ-คลาส ทำไมถึงคิดมาเรียนหมอ ตอนนั้นผมเริ่มอยู่ปี 4 ใกล้จบแล้วเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นเราเริ่มแคร์เขามากขึ้น เขาเคยพูดถึงเรื่องอนาคตของเขากับเราว่า หากเรียนจบแล้วอยากจะไปอยู่เมืองนอกและอยากมีแฟนเป็นหมอเหมือนเขา คือตอนนั้นเราคบกันแบบเพื่อนะยังไม่ได้บอกว่าเราชอบเขา และจากตรงนั้นมั้งทำให้เราตัดสินใจเรียนหมอ ไฮ-คลาส เราบอกกับ 'เจนจิรา' อย่างไรว่าวันนี้เรารู้สึกกับเขามากกว่าการเป็นเพื่อนธรรมดา ไม่ได้บอกอะไรตรงๆ มันเป็นเรื่องที่รู้กันเองเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันธรรมดามีเวลาให้กันมากขึ้น เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้นมันก็พัฒนาไปเองโดยที่เราก็รู้กันว่าระหว่างเรามันมากกว่าการเป็นเพื่อนแล้ว เริ่มมีการหึงหวงบ้างอะไรแบบนี้ ช่วงวันสำคัญเราก็มีอะไรพิเศษให้กันบ้างอย่างวาเลนไทน์ก็ให้ดอกไม้กัน มันเข้าใจกันโดยไม่ได้บอกออกมาเป็นคำพูด ไฮ-คลาส บอกได้มั้ยว่าเรามีอะไรดีที่ทำให้ผู้หญิงมาชอบเรา คงเป็นเพราะผมเป็นคนที่พูดอะไรตรงๆ มั้ง แต่ก็ไม่เคยถามเขานะว่าเขาชอบผมตรงไหน ส่วนเขาค่อนข้างจะเป็นคนจริงจังกับชีวิตพอสมควร ลักษณะนิสัยเรากับเขาคงคล้ายๆ กันคุยกันได้ก็เลยคบกัน คือหลายอย่าง ครอบครัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แยกทางกันตั้งแต่เขายังเด็ก แม่ก็ไปเปิดร้านอาหารอยู่อเมริกา พ่อก็อยู่อีกทางหนึ่ง เขาต้องมาอยู่กับญาติ คงทำให้ขาดความอบอุ่น พอมาเจอกับเราคุยกันได้ก็สนิทกันจนพัฒนามาเป็นแฟนกัน จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไฮ-คลาส ข้ามไปเร็วหน่อยหลังจากคบกันมาระยะหนึ่งรู้ได้อย่างไรว่าเขาเริ่มถอยห่างจากเรา เราคบกันมากระทั่งจุดหนึ่งก็เริ่มมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคน คือผมเช่าหออยู่เขาก็มาอยู่ด้วยกับเราเหมือนแฟนทั่วไปที่ผู้หญิงผู้ชายใช้ชีวิตร่วมกันก่อนแต่งงาน อันที่จริงเขาก็มีบ้านนะบางทีเขาก็กลับบ้านบ้าง นอนหอตัวเองบ้าง อยู่กับเราบ้าง อาทิตย์หนึ่งอยู่กับเราประมาณ 3-4 วัน อะไรแบบนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแต่ระยะหลังเราเริ่มสังเกตว่าเขาเปลี่ยนไปจากเดิม เริ่มมีธุระมากขึ้นเริ่มไม่ค่อยว่าง คือโดยสัญชาติญาณเรารับรู้ได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม เขาเคยพูดขึ้นมาครั้งหนึ่งว่าไปรู้จักกับพี่ชายของเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนที่ให้คำปรึกษาในหลายๆ เรื่อง และเคยมีครั้งหนึ่งเขามาเล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนผู้หญิงซึ่งมีแฟนอยู่แล้วมาปรึกษาเขา บอกว่าเขาไปชอบผู้ชายอีกคนหนึ่งจะทำอย่างไรดี ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรก็ให้คำปรึกษาไปว่าแล้วแต่ผู้หญิงคนนั้นว่าจะคิดอย่างไรทำนองนี้ แต่พอกลับมานั่งนึกก็เลยเข้าใจว่าอาจเป็นตัวเขาเองที่ไปชอบผู้ชายคนอื่น เราเริ่มสังเกตพฤติกรรมเขามากขึ้นช่วงที่อยู่กับเรา มีครั้งหนึ่งที่เรานัดกันไปไหนสักแห่งแต่ปรากฏว่าเขาไม่ยอมมาตามนัด ผมเลยจะโทรไปฝากข้อความทางเพจเจอร์ของเขา แต่ก่อนจะฝากข้อความผมก็เช็คข้อความของเขาก่อนว่าฝากอะไรถึงเราหรือเปล่าเพราะเราใช้เพจร่วมกัน โดยที่ผมเองก็มีรหัสผ่าน พอเข้าไปเช็คก็เจอข้อความที่ถูกส่งมาจากรุ่นพี่คนนั้น เป็นคำพูดโรแมนติคมากที่หยิบมาจากภาพยนต์เรื่องหนึ่งแต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร และในข้อความนั้นเขาก็นัดไปดูหนังกัน เราเลยรู้ว่าที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เองถึงไม่ว่างและไม่มาตามนัด พอรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งเราก็ถามว่าเมื่อวานไปไหนมา เขาตอบว่าไปดูหนังแล้วก็กินข้าวกับน้องซึ่งไม่ได้เจอกันนาน เราก็รู้แล้วว่าเขาโกหกไม่บอกความจริงกับเรา ความจริงแล้วมันมีอะไรมากกว่าการไปดูหนังกันธรรมดา มันมีหลักฐานซึ่งผมรู้มานานแล้วไม่ใช่แค่ครั้งนี้ผมไม่อยากพูดถึงเอาเป็นว่าผมพูดกว้างๆ ดีกว่าว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่นด้วยนอกเหนือจากเรา พอดีวันนั้นเป็นวันที่ผมระเบิดออกมาจึงเกิดการทะเลาะกัน หากวันนั้นเขายอมรับออกมาเรื่องก็อาจไม่บานปลายถึงขนาดนี้ ผมมานั่งคิดดูเราอาจจะต่างคนต่างเลิกรากันไป แต่วันนั้นเขาไม่ยอมรับผมเลยโกรธมาก ไฮ-คลาส เหตุการณ์โศกนาฎกรรมวันนั้นเป็นอย่างไรอยากได้ยินจากปากคุณโดยตรง วันนั้นเราโกรธมาก มันหน้ามืดไปหมดอาจเป็นเพราะเราควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ด้วย ตอนนั้นผมเองเพิ่งอายุ 22 ปี ความคิดอะไรมันก็ยังควบคุมไม่อยู่ อารมณ์ตอนนั้นมันโกรธจัด ทะเลาะกันรุนแรงมาก ผมเองไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโกหกเรา มาหลอกเราทำไม คิดอะไรไม่ออกโมโหมากเดินเข้าไปหยิบปืนแล้วก็เขายิงทันที ไฮ-คลาส ไปเอาปืนมาจากไหน กระแสข่าวออกมาว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ผมเก็บปืนไว้ที่ห้องนานแล้วเขาก็รู้ เพราะแถวที่ผมอยู่นั้นมันเปลี่ยวชาวต่างชาติพวกไนจีเรียอยู่กันเยอะ ผมเองรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยไปเอาปืนจากที่บ้านมาเก็บไว้เผื่อป้องกันตัว ไฮ-คลาส ตอนที่ยิงเขาคิดหรือเปล่าว่าจะต้องยิงให้ตายหรือแค่ให้เจ็บตอนนั้นก็คิดเลยว่ายิงให้ตายเพราะมันโกรธจัด คือผมจ่อยิงที่หัวเลย เป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า ไม่ใช่เราฆ่าเขาแล้วเราจะรู้สึกดีนะ ไม่ใช่เราฆ่าเพราะอยากให้เขาตายให้สมกับความแค้นที่เขาได้หักหลังเรานะ มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไฮ-คลาส สังคมมองว่าคุณเป็นฆาตกรโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ที่ฆ่าแฟนตัวเองแล้วยังแล่ศพด้วยความใจเย็น ตอนนั้นผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี ยิงเขาไปแล้วมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ พอตั้งสติได้ก็ร้องไห้เสียใจสงสาร ไม่น่าทำแบบนี้เลย จากนั้นก็อุ้มศพเขาเข้าไปในห้องน้ำนั่งมองศพอยู่นานไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ตอนนั้นเริ่มกลัวแล้วไม่อยากถูกจับ เลยจัดการแร่เป็นชิ้นๆ เพื่อทิ้งลงน้ำโดยใช้มีดทำครัวธรรมดานี่แหละไม่ใช่มีดผ่าศพของหมออย่างที่เข้าใจ แล่เป็นชิ้นแล้วทิ้งลงชักโครก แต่พอทิ้งไปได้สักพักมันกดน้ำไม่ลงคือท่อมันตัน ผมเลยทิ้งศพไว้ในห้องแล้วออกมาซื้อถุงดำ ซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ซื้อไม้ที่ปั้มท่อ พอกลับมาน้ำมันเพิ่งลดลงไปหน่อยเดียวเองเลยต้องใช้ที่ปั้มนั้นปั้มท่อไปด้วย ส่วนกระดูกที่เหลือก็เอาไปทิ้งที่แม่น้ำบางปะกง ไฮ-คลาส เป็นไปได้หรือไม่ว่า เพราะการที่คุณเรียนหมอต้องเคยเรียนผ่าศพด้วยและต้องเห็นศพบ่อยๆ ทำให้ไม่รู้สึกกลัวและสามารถแล่ศพได้อย่างใจเย็น คือเป็นเรื่องชาชินธรรมดาความจริงรู้สึกนะไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไร เพราะศพที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นแฟนเราเป็นคนที่เรารัก ต่างจากการเรียนผ่าศพที่เรียกว่าอาจารย์ใหญ่นั่นเราจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรเพราะเราไม่รู้จักเขา การที่ต้องแล่ศพเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรเราทำลายหลักฐานไม่ได้ เราเอาลงมาจากข้างบนหอไม่ได้มันใหญ่เกินไปคนจะสงสัย เลยต้องแล่ศพ หากเป็นที่อื่นก็อาจเผาทำลายหลักฐานได้หรืออย่างอื่น แต่นี่เป็นห้องที่เราอยู่จึงต้องใช้วิธีนี้ เรื่องเรียนหมอหรือไม่ได้เรียนหมอมันไม่เกี่ยวแต่มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำวิธีนี้ คุณพ่อค้าขายหมูก็อาจใช้วิธีนี้ก็ได้ ไฮ-คลาส ตอนที่คุณชำแหละศพช่วงที่ต้องตัดคอคุณไม่เห็นหน้าเขาหรือคุณมองหน้าเขาอยู่หรือเปล่า เปล่าผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง คืออย่าเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกที่ดีนะ มันแย่มากตอนนั้น เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ ผมยังพูดกับศพเลยไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้ ขอโทษเขาตลอด แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ ไฮ-คลาส หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปแล้วคุณรู้สึกกลัวหรือเปล่า เพราะได้ยินว่าคุณก็ยังอยู่ที่ห้องที่เกิดเหตุ ไม่ได้กลัวอะไร ผมเองก็ยังอยู่ที่นั่นเป็นเดือนไม่ได้หนีไปไหน แต่ก็เหงาบ้างเวลาที่เราขาดเขาไปเพราะเคยอยู่ด้วยกัน ไฮ-คลาส เหตุการณ์วันที่คุณถูกจับกุมเป็นอย่างไร เรื่องมันผ่านมาได้เกือบเดือนหนึ่งแล้วหลังจากที่ผมฆ่าเจนจิรา ผมก็ยังอยู่ที่ห้องนั้นปกติต่อมา วันนั้นผมเดินๆ อยู่ริมถนนก็มีคนมาอุ้มผมขึ้นรถตู้ ปิดตาผม จากนั้นก็ใส่กุญแจมือแล้วก็ซ้อมด้วย พอเปิดตามาก็รู้ว่าเป็นตำรวจ หลังจากนั้นเขาก็พามาส่งที่สน.สอบสวนผมเสร็จแล้วก็ให้เราเซ็นชื่อรับสารภาพ ว่าฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าด้วยความทารุณโหดร้าย เขาบอกว่าเซ็นไปก่อนแล้วค่อยไปสู้กันที่ศาล จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไฮ-คลาส ทำไมถึงต้องซ้อมด้วย ผมก็ไม่รู้แต่ได้ยินว่าทางญาติจะให้เงินรางวัลหากใครเจอศพลูกสาวเขา ผมก็ไม่รู้เป็นอย่างไร แต่พอหลังจากจับผมได้แล้วดูเหมือนตำรวจคนนั้นจากที่เคยใช้โทรศัพท์ธรรมดาก็เปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่ การซ้อมก็อาจเป็นการคาดคั้นเอาหลักฐานก็เป็นได้ อันนี้ผมไม่รู้เหมือนกันอาจจะเป็นเพราะแบบนี้ก็ได้ ไฮ-คลาส รู้สึกอย่างไรบ้างกับคุณหญิง แพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่เข้ามาทำคดีนี้ ถึงแม้เขาไม่เข้ามาทำคดีนี้ ผมรู้ว่าผมก็คงต้องติดคุกอยู่ดี เพราะเรารับสารภาพไม่ใช่เพราะคุณหมอพรทิพย์เข้ามาพิสูจน์ แต่สังคมมองว่าเพราะคุณหมอเข้ามาทำคดีถึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ความจริงนั้นมันไม่ใช่ ผมคิดว่าโดยทางรูปคดีสามารถสาวมาถึงตัวผมได้อย่างแน่นอนผมเลยรับสารภาพ โดยส่วนตัวผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับคุณหมอ ไม่มีความโกรธแค้นเขาแต่อย่างใด ไฮ-คลาส ตอนที่ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตตอนนั้นรู้สึกอย่างไร ผมทำใจไว้แล้วไม่มีอะไร แต่ก็ต่อสู้จนถึงศาลฎีกา ในชั้นฎีกาผมต่อสู้ในประเด็นที่ว่า ผมไม่ได้โดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ทุกชั้นศาลก็ไม่ได้เชื่อเราอย่างนั้นเพราะเขามองเห็นว่าเรามีปืนอยู่เขามองว่าเราเตรียมการ แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้ไตร่ตรองเป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่เราก็ทำใจไว้แล้ว ไฮ-คลาส คำว่า 'โหด' ในพจนานุกรรมของเสริม สาครราษฎร์ หมายถึงอะไร การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น บางคนแก่หง่อมทำอะไรไม่ได้แล้วยังต้องติดคุกอยู่อีก ไฮ-คลาส แสดงว่าวันที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตวันนั้น หากเลือกได้คุณอยากถูกประหารชีวิตมากกว่า ผมว่าประหารยังดีเสียกว่าเพราะการติดคุกมันทรมาน แต่ถามว่าอยากตายมั้ยต้องตอบว่าไม่อยากเพราะผมยังมีแม่อีกคนที่รออยู่ผมยังอยากเจอแม่ แต่สิ่งที่ผมกำลังบอกก๋คือการขังใครในระยะเวลานานขนาดนั้นมันไม่มีประโยชน์ ออกไปเขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ซึ่งอาจจะกลับไปกระทำผิดอีกเพราะไม่รู้จะทำอะไร ไฮ-คลาส คุณเชื่อว่าการกักขังอิสระภาพไม่ใช่วิธีลงโทษที่ถูกต้อง มันเป็นวิธีลงโทษที่ช่วยได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น แต่นานเกินไปไม่มีประโยชน์ การที่คนติดคุก 20 ในนี้กับข้างนอกมันต่างกันโดยสินเชิง ข้างนอกอาจมองว่าแป๊บเดียวแต่สำหรับคนที่นี่มันนานแสนนาน ไฮ-คลาส วันแรกที่เดินเข้าเรือนจำรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกแรกเลยเราคิดว่ามันต้องน่ากลัวโหดร้าย มีมาเฟียร์เหมือนอย่างในหนังที่เราเคยดูมา แต่พอเข้ามามันไม่ใช่อย่างนั้นเป็นการอยู่ร่วมกันแบบเพื่อนมากกว่า เจ้าหน้าที่ให้การดูแลเราดี ไม่ใช่ว่าจะมาทำร้ายอะไรเรา เรื่อง จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ร้ายๆ ก็มีบ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่ใช่ทั้งหมดมีเพียงส่วนหนึ่ง แต่เอาเป็นว่าไม่พูดถึงดีกว่าครับพูดแล้วไม่ดีผมอาจไม่มีโอกาสมานั่งคุยแบบนี้ได้อีกเอาก้วางก็พออย่างเรื่อพี่ใหญ่ก็มีบ้าง เช่นเราไปช่วยงานเขา ไปซักผ้าให้เขาทำงานให้เขาบ้าง แล้วเขาก็ให้สิ่งของตอบแทนเป็นการพึ่งพากันมากกว่า อย่างผู้ต้องขังบางคนไม่มีญาติมาเยี่ยมเลย คนที่มีญาติมาเยี่ยมก็จะมีของกินข้าวใช้ก็แบ่งกัน คือให้สิ่งตอบแทนเป็นข้าวของ ไฮ-คลาส มีคนมาเยี่ยมคุณเสริมบ่อยหรือเปล่าหลังจากเกิดเรื่อง ก็ไม่มีแล้ว ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย เพราะข่าวสร้างให้เราดูน่ากลัว วันนี้เพื่อนเก่าๆ กับเรามันเหมือนกับอยู่กันคนละโลกแล้ว ตอนนี้เราจะมีเพียงเพื่อนใหม่ที่เข้าใจเรา เพื่อนที่อยู่ในคุกเหมือนกับเรา เรารู้สึกว่าทุกอย่างข้างนอกจบสิ้นแล้วเรามีเพียงโลกของเราในนี้เพื่อนก็มีเท่าที่นี้เท่าที่อยู่ร่วมกัน เพื่อข้างนอกหายหน้าไปหมดแล้ว แม่ก็ไม่ค่อยมานานๆ จะมาสักครั้งคงเพราะเราทำให้เขาเสียชื่อเสียง ผมเองเคยเขียนกลอนไปให้ที่ช่อง 3 ด้วยนะช่องคำคม เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนี่แหละเขียนในทำนองว่า เวลาเราดีก็มาหากันเยอะแยะแต่พอเราพลาดไปก็หายหน้ากันไปหมด ไฮ-คลาส ได้ยินมาว่าคุณเสริมไม่ค่อยถูกกับผู้คุมใช่หรือเปล่า (หัวเราะ) เรื่องนี้พูดไม่ได้เอาเรื่องที่คุยได้ดีกว่า ไฮ-คลาส แสดงว่าคุณเกเรหรือเปล่า ผมทำตัวเรียบร้อยนะ แต่อาจจะเป็นคนที่พูดตรงไปหน่อยเท่านั้น เป็นคนที่ไม่ค่อยตามน้ำเหมือนคนอื่นเท่าไหร่ อย่างสมมุติว่ามีเรื่องเกิดขึ้นในคุกผมเห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น บางทีเขาก็ไม่ค่อยชอบเพราะคนอื่นอาจถูกสั่งให้ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ แต่ผมเห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้นเลยไม่เป็นที่ถูกใจ ไฮ-คลาส ผลที่ตามมาเป็นอย่างไรก็โดนย้ายบ้าง อย่างที่ผมเคยโดนย้ายไปที่เรือนจำกลางคลองไผ่ ที่โคราช ที่นั่นกฎระเบียบเข้มงวดกว่าที่นี่มาก ลำบากกว่า ที่นั่นขนาดน้ำที่ใช้กินเขาต้องผ่านเครื่องกรองใช่ใหมยังเขียวอื๋ออยู่เลย ลำบากกว่าที่นี่ อย่างที่นี่ค่อนข้างอบอุ่นเขาดูแลเราดี ขึ้นอยู่กับนาย นายที่ย้ายมาอยู่ที่นี่เขาใจดีดูแลเรื่องสวัสดิการดี ไฮ-คลาส คนที่ทำความผิดกับคนที่มีนิสัยไม่ดีเหมือนหรือต่างกันอย่างไร คนที่มาอยู่ในนี้มีทั้งคนที่ไม่ดีและคนที่ดี คนที่เป็นผู้ร้ายโดยสันดารก็มีแต่ไม่เยอะนะในความคิดของผม คนที่คิดว่าเมื่อออกไปก็จะทำความผิดอีกก็มีแต่ไม่เยอะ ไม่อยากให้คนข้างนอกมองว่าคนที่มาอยู่ตรงนี้เป็นคนไม่ดีไปเสียทุกคน ไฮ-คลาส อยู่ที่นี่ผู้ต้องขังต้องทำอะไรบ้าง ตื่นเช้ามาก็ออกกำลังกาย กินข้าว จากนั้นก็แยกย้ายไปทำงาน ใครเรียนหนังสือก็ไปเรียน อย่างผมก็สอนหนังสือให้ผู้ต้องขัง สอนภาษาอังกฤษพอดีเรามีความรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้างก็ช่วยสอนได้ ใครถนัดอะไรก็ทำอย่างนั้น กำลังคนเจ้าหน้าที่มีน้อยก็เลยเอาผู้ต้องขังเข้ามาช่วยงาน จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไฮ-คลาส ได้ยินว่าเพิ่งเรียนจบคณะนิติศาสตร์อีกใบหนึ่งทำไมถึงเลือกเรียนวิชานี้ อยากที่จะช่วยเหลือคนอื่นด้านคดีอะไรแบบนี้ เพราะเรารู้สึกว่าอย่างตอนที่เราเซ็นชื่อรับสารภาพโดยไม่รู้ว่าจะส่งผลให้รูปคดีเสีย ไม่รู้ว่าข้อกล่าวหานั้นมันเกินความจริงเพราะไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายทำให้เราเสียเปรียบก็เลยอยากช่วยคนอื่นบ้าง เลยเลือกเรียนนิติศาสตร์มสธ.ก็จบแล้วตอนนี้ อย่างในนี้ก็เหมือนกันบางคนก็เป็นแพะรับบาป ไม่ได้ทำความผิดจริงก็มีเยอะแยะ เราอยากช่วยเขา ช่วยพิมพ์คำร้องบ้าง ช่วยพิมพ์ใบถวายฎีกาบ้าง บางทีเขาก็ให้ของตอบแทนเราบ้างอะไรแบบนี้ แต่บางทีเขาไม่มีก็เข้าเนื้อเราเหมือนกันแต่ก็อยากช่วย เราไม่เคยไปเรียกอะไรจากเขา ไฮ-คลาส ความหวังสูงสุดวันนี้คืออะไร ความหวังสูงสุดก็อยากได้รับการอภัยโทษลงบ้าง เพื่อโอกาสวันหนึ่งจะได้กลับออกไปอยู่กับครอบครัวเรา อีกสิ่งหนึ่งคือหากมีโอกาสได้ออกไปอยากเจอหน้าแม่อีกครั้ง อยากออกไปทันในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ ถ้าหากพูดความหวังในปัจจุบัน ก็อาจเป็นเรื่องสวัสดิการในเรือนจำอยากให้ผู้ต้องขังมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ แต่ที่พูดอย่างนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้มันเลวร้ายรับไม่ได้นะ ตอนนี้ตั้งแต่ผบ.คนนี้มาอยู่ที่นี่ก็ดีกว่าเมื่อก่อนท่านสนใจเรื่องสวัสดิการของผู้ต้องขังมากขึ้น เรื่องห้องเยี่ยมก็มีการตั้งตั้งโทรศัพท์ให้ ในวันศุกร์ผู้ต้องขังมีโอกาสพบญาติใกล้ชิดมากขึ้น เรื่องราคาสินค้าก็ปรับปรุงให้มีราคาถูกลงกว่าแต่ก่อนซึ่งก็ถือว่าดีกว่าเมื่อก่อน เรื่องสวัสดิการนี่แหละคือเรื่องที่ผู้ต้องขังต้องการ ไฮ-คลาส ต้องสรุปว่าชีวิตรักของคุณล้มเหลว เป็นความรักที่เจ็บปวด วันนี้คุณยังศรัทธาในความรักอยู่หรือเปล่า ยังเชื่อมั่นอยู่ ไม่ได้คิดว่าความรักเป็นเรื่องหลอกลวงอะไรเพียงแต่ความรักที่เราเจอมันไม่สวยงานเท่านั้นเอง ยังศรัทธาอยู่เสมอเชื่อว่าคงมีสักวันที่ได้เราเจอความรักที่งดงามเป็นคนที่รักเราจริงๆ ไฮ-คลาส ณ วันนี้คุณยังเชื่อว่ามีความหวังที่จะได้เจอความรักแบบนั้น ก็ยังหวังอยู่เสมอ แต่คงจะมีความคิดอีกแบบหนึ่ง คืออาจไม่รักใครหัวปักหัวปำแบบนั้นอีกแล้ว คงไม่กล้ารักเขาเต็มร้อยอีกแล้ว ไฮ-คลาส หากมีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเหตุการณ์อย่างนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่หากเขาทิ้งคุณไปอีก ไม่เอาแล้ว ครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่ฆ่าอีกแล้ว ไฮ-คลาส อย่างแรกที่อยากทำเมื่อออกไปแล้วคืออะไร ตอนนี้ผมก็มีความหวังอยู่อย่างหนึ่งคือหากวันหนึ่งผมได้ออกไปจากที่นี่ ผมหวังว่าแม่ของผมยังคงอยู่ไม่เสียชีวิตไปก่อนเพราะผมเหลือแม่คนเดียว แต่แม่จะเปิดรับผมเข้าบ้านหรือไม่นั้นยังไม่แน่ใจว่าท่านรับผมได้หรือเปล่าเพราะผมทำให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูล แม่คงเสียใจเรื่องผมมากส่วนเรื่องออกไปแล้วอยากทำอะไรนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับอายุด้วยว่าตอนนั้นอายุเราเท่าไหร่แล้ว หากอายุมากก็อยากกลับทำเกษตร หากอายุยังน้อยก็อยากเป็นทนายช่วยคนอื่น หรืออาจต้องทำงานใช้หนี้ที่ญาติผู้ตายที่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 18 ล้าน เรายังไม่รู้ว่าจะเอาปัญญาที่ไหนไปใช้หนี้ แต่ผมก็อยากใช้หนี้เขานะเพราะผมเป็นคนก่อเรื่องขึ้นเอง ไฮ-คลาส อยากบอกอะไรกับสังคมบ้างจากบทเรียนที่คุณผ่านมา ก็อยากจะบอกว่าอย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา เพราะอารมณ์ชั่ววูบเพียงนิดเดียวทำให้เราเสียใจไปตลอดชีวิต นอกจากเราเองแล้วครอบครัวเขาก็ต้องสูญเสียคนที่เขารักไปด้วย เราเองก็ต้องสูญเสียคนที่เรารักไป ทุกอย่างมันแย่ไปหมด ในส่วนของครอบครัวเจนจิราผมก็อยากจะบอกว่าผมขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น ผมรู้ว่าเขาอาฆาตผมมาก แต่มันพลาดไปแล้วผมเสียใจ วันนี้ผมได้รับผลกรรมที่ตัวก่อแล้ว ผมไม่อยากให้ใครตกอยู่ในสภาพนี้เหมือนผม จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จบล่ะคะ ยาวไปหน่อย ขอบคุณข้อความจากหนังสือ Hi Class คะ จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 14:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ ตามอ่านจนจบเลย ไม่กล้าปาดก่อน อืม ปล.ไม่รู้จะแสดงความเห็นว่าใง พูดไม่ออก บอกไม่ถูกครับ จากคุณ : printemp - [ 28 มี.ค. 51 14:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดี ลงชื่อก่อน เดี๋ยวมาอ่านครับ จากคุณ : มอสทาร่ายักษ์ - [ 28 มี.ค. 51 14:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาอ่านค่ะ จากคุณ : rock hits the water - [ 28 มี.ค. 51 14:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ..ไฮ-คลาส หากมีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเหตุการณ์อย่างนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่หากเขาทิ้งคุณไปอีก.. ^ ^ ช่างถาม!! จากคุณ : ตาลสามต้น - [ 28 มี.ค. 51 14:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ ที่นำมาให้อ่าน เค้าเป็นคนมีความคิดนะคะ ให้สัมภาษณ์ตรงไปตรงมาดี ก็.. ชดใช้ กรรมไปนะ ทำอะไรไว้ ต่อให้อารมณ์ชั่ววูบก็ตาม จากคุณ : tikprim - [ 28 มี.ค. 51 14:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แค่อารมณ์ชั่ววูบ - - จากคุณ : the'60s - [ 28 มี.ค. 51 14:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ จริงๆ แล้ว เค้าดูเป็นคน มีความคิด การพูดที่ดีจัง แต่เพียงอารมณ์ชั่ววูบ   ไม่งั้นป่านนี้ ประเทศเราก็คงมี คุณหมอ เพิ่มอีกสองคน สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมแท้ๆเลย อ่านแล้ว ได้ข้อคิดดีจังครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : Mr.Saw - [ 28 มี.ค. 51 15:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากค่ะ  ได้ข้อคิดหลายๆเรื่องทีเดียว จากคุณ : LitTleO - [ 28 มี.ค. 51 15:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยาวมากเลยอ่ะ อ่านแล้วอึ้ง..ตอนชำแหละศพแฟน จากคุณ : ต้นไม้ไร้ใบ - [ 28 มี.ค. 51 15:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มันสะท้อนให้เห็นว่า สติต้องอยู่กับเราตลอดเวลา ขอบคุณทุกท่านที่ตามมาอ่านนะค่ะ อ่านดูแล้วก็ได้เห็นว่า เค้าก็พูดเยอะเหมือนกัน เห็นเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อนพูด อ่านแล้วก็ได้อะไรหลายอย่างจากผู้ชายที่ทำพลาดในชีวิต คนนี้ จากคุณ : Athens-Atime - [ 28 มี.ค. 51 15:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ...................................... จากคุณ : nothingman - [ 28 มี.ค. 51 15:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Au-ensign - [ 28 มี.ค. 51 15:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เสริมบอกว่า "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น" คนที่ตายไปก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่พ่อแม่ที่ฟูมฟักเลี้ยงลูกเค้ามากว่าจะโตขนาดนี้ เสียใจแทบเป็นบ้า เสริมไม่ได้นึกถึงข้อนี้เลย      การที่เสริมต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ต้องติดคุกนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่มีใครอยากอยู่ในนั้นแน่นอน ถึงแม้ว่าจะรู้สึกต่อคดีที่ตนก่อขึ้นมากแค่ไหนก็ตาม  และทุกคำพูดของเสริมนั้นน่าเชื่อถือมาก สุภาพชน ปัญญาชนมาก ซึ่งนั่นก็คือปัญหาว่า ไม่รู้จะเชื่อดีหรือไม่ เพราะเสริมเป็นคนที่ฉลาดมากๆ จากคุณ : gone4good - [ 28 มี.ค. 51 15:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ จากคุณ : HokeyPokey - [ 28 มี.ค. 51 15:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายสิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี อย่างนี้ถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น.... การฆ่าคนไม่ได้ฆ่าแล้วจบเลยซะหน่อย แล้วพ่อแม่ของผู้ตายที่ต้องตายทั้งเป็นจากการเสียลูกละ จากคุณ : เฮ้อ... - [ 28 มี.ค. 51 15:16:22 A:58.10.198.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะที่ทำให้ได้อ่านความรู้สึกอีกแง่หนึ่ง ^^ จากคุณ : ฮิเมโกะ - [ 28 มี.ค. 51 15:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ อ่านแล้วเห็นอีกแง่มุมของเขามากทีเดียว การที่คนเราเป็นฆาตกรยังเชื่อเสมอว่าไม่ได้มีแค่แง่มุมเดียวเท่านั้น ที่สำคัญ แม้เขาเป็นฆาตกร แต่ความคิดของเขาเป็นความคิดที่ดีทีเดียว ชอบที่เขากล้าพูดเรื่องสวัสดิการของคนคุก เรื่องการเรียนนิติเพื่อหวังช่วยเหลือคน หากตั้งใจทำจริงๆ ก็ขออนุโมทนาด้วย จากคุณ : jedi2543 - [ 28 มี.ค. 51 15:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ ที่หามาให้อ่าน .. จากคุณ : Thaistingray - [ 28 มี.ค. 51 15:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายสิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี อย่างนี้ถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น.... ไม่ชอบคำพูดนี้เลย จากคุณ : ว้าเหวยยยยยยยยย - [ 28 มี.ค. 51 15:28:53 A:58.10.195.98 X: TicketID:143314 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เฮ้ออออออออออ จากคุณ : สลัดผักรวม - [ 28 มี.ค. 51 15:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อืม มีตรง คห 22 นี่แหละที่ผมสะดุด นอกนั้นก็รู้สึกว่าตอบได้ดีทีเดียว อ่านแล้ว ... เฮ้อ จากคุณ : มอสทาร่ายักษ์ - [ 28 มี.ค. 51 15:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านประโยคนี้แล้วอึ้งค่ะ "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น บางคนแก่หง่อมทำอะไรไม่ได้แล้วยังต้องติดคุกอยู่อีก" ฆ่าคนนี่ไม่โหดหรือคะ.. คิดได้ยังงัยเนี่ย จากคุณ : Select Star - [ 28 มี.ค. 51 15:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ได้ประโยชน์จากการอ่าน ขอบคุณที่พิมพ์ให้อ่าน จากคุณ : เมื่อดอกรักบาน.. - [ 28 มี.ค. 51 15:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราว่าเค้าไม่เห็นจะมีความคิดตรงไหนเลย.... สมแล้วละ ที่เค้าได้รับกรรมที่เค้าก่อ... กล้าพูดได้ไงอะ การฆ่าคนนั้นไม่โหด..... .. นั้นก็จงชดใช้ กรรม ที่ ก่อต่อไปเถอะ... จากคุณ : วว - [ 28 มี.ค. 51 15:55:42 A:210.86.128.35 X: TicketID:171888 ]

ความคิดเห็นที่ 32 "การฆ่าคนไม่โหดอะไร..." เค้าคงคิดถึงแค่คนถูกฆ่า(ตาย จบ ไม่ทรมาณ)ไม่ได้คิดถึงพ่อแม่ แต่ยังไงก็โหดแหละ ฆ่า ไม่ใช่ค่า จากคุณ : *- (อมยิ้มของชีร่า) - [ 28 มี.ค. 51 15:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อืม จะพูดยังไงดี จากคุณ : นางมารหน้าใส - [ 28 มี.ค. 51 15:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เหมือนเค้าจะสำนึกนะ แต่พอบอกว่าฆ่าคนนี่ไม่โหด ก็ฟังเหมือนเค้าไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาเลย จากคุณ : Kissune - [ 28 มี.ค. 51 15:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เฮ้อ หนีไม่พ้นว่าต้นเหตุคือ กาเม ไม่อยากซ้ำเติมผู้ตาย แต่เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อีกเรื่อง รวมทั้งสติสัมปชัญญะต่างๆ อ่านแล้วเศร้าต่อทุกคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด จากคุณ : เศร้าและปลง - [ 28 มี.ค. 51 16:01:49 A:10.7.161.198 X:202.28.181.200 ]

ความคิดเห็นที่ 36 "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายสิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี อย่างนี้ถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น.... พูดได้เข้าข้างตัวเองมากเลยนะ ไม่ได้สำนึกเลย จากคุณ : ดอกลินสีด - [ 28 มี.ค. 51 16:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านแล้วพูดไม่ออกเลย...คนเคยรักกันนะ...ทำไม?   จากคุณ : ++ Little Miss Someone ++ - [ 28 มี.ค. 51 16:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 38 การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น บางคนแก่หง่อมทำอะไรไม่ได้แล้วยังต้องติดคุกอยู่อีก /////ถ้าญาติคนตายเค้ามาอ่านเค้าจะรู้สึกอย่างไร////////////// จากคุณ : leummao - [ 28 มี.ค. 51 16:06:44 A:58.8.83.206 X: TicketID:172126 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วอึ้ง !  ขอบคุณมากค่ะที่นำมาให้อ่าน จากคุณ : เมเปิ้ลสีแดง - [ 28 มี.ค. 51 16:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนะ ก็รับกรรมกันต่อไป อารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ จากคุณ : มาสามวิหกอาแปด - [ 28 มี.ค. 51 16:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คงหมายถึงว่าถ้าตัวเองโดนประหารไปเลยดีกว่ามั้ง อย่างน้อยก็ไม่โดนฆ่าทั้งเป็น..คงหมายความอย่างนี้มั้ง หากเค้าคิดดีๆ..ก็ทำดี พูดดีได้นี่คะ.. อย่าให้ความคิดชั่ววูบชนะการไตร่ตรองของสมองเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆที่เอามาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : วาฬน้อยตากลม (pinkywhale) - [ 28 มี.ค. 51 16:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ได้เค้าใจอะไร ๆ ในตัวเค้ามากขึ้นเยอะ จะตั้งใจหรือไม่ ความผิดพลาดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับผลกรรม จากการกระทำของตนเอง จากคุณ : yudsheng - [ 28 มี.ค. 51 16:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 43 การฆ่าใครสักคน ที่เป็นที่รักของครอบครัว คุณไม่ได้ฆ่าคนแค่คนเดียว แต่... คุณได้ฆ่าครอบครัวเขาทั้งหมดให้ตายทั้งเป็น สำนึกผิดเมื่อสายเกินไป.... อดีตที่ไม่อาจหวนกลับคืน จากคุณ : โมกข์สัก - [ 28 มี.ค. 51 16:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จำได้ว่าเมื่อสิบปีที่แล้วคดีนี้โด่งดังมาก ที่จริงน่าสงสารทั้งคู่ คนนึงตายจาก อีกคนเหมือนตายทั้งเป็น จากคุณ : อาชิโกะ - [ 28 มี.ค. 51 16:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ว่าจะคนฆ่าหรือคนที่ถูกฆ่า....ชีวิตก็ถือว่าจบสิ้นครับ จากคุณ : Albedo (อสูรแห่งแสง) - [ 28 มี.ค. 51 16:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สะดุดประโยคนี้เหมือนกัน "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น" แต่มีการบอกด้วยนะว่า  ถ้าถามว่าอยากตายมั๊ย ก็ไม่อยาก แน๊ อะไรกันคุณ  เจนจิราเค้าก็ไม่ได้อยากตายนะ  ก่อนยิงคุณถามเค้าก่อนรึเปล่า ว่าโดนจับขัง 20 ปี 25 ปี กับตายเดี๋ยวนี้เค้าจะเลือกอะไร คุณยังอยากอยู่เลย ทำไมไม่ให้โอกาสคนอื่นบ้างล่ะ ไม่รู้อะ อ่านแล้วรู้สึกว่าเค้า "เห็นแก่ตัว" จากคุณ : IrisGiRL - [ 28 มี.ค. 51 16:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตามอ่านจนจบ ขอบคุณค่ะ ขอไม่ออกความเห็นดีกว่า.... จากคุณ : bevergirl - [ 28 มี.ค. 51 16:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อืม...ตอนตัดคอหน้ากลัวค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ที่พิมพ์มาให้อ่าน จากคุณ : พระแสงของ้าวมีดดาบกรรไกรหอก - [ 28 มี.ค. 51 16:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 49 "การฆ่าคนไม่โหดอะไร..."  ในที่นี้ เค้าคงหมายถึง การประหารชีวิตนะ เพราะพูดเปรียบเทียบกับการติดคุก จากคุณ : chackinthehat - [ 28 มี.ค. 51 16:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สะดุดกับประโยคนี้เหมือนกันค่ะ "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายสิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี อย่างนี้ถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น.... " ความคิดไม่ธรรมดาจริง ๆ *-* จากคุณ : Synthia - [ 28 มี.ค. 51 16:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไฮ-คลาส ตอนที่คุณชำแหละศพช่วงที่ต้องตัดคอคุณไม่เห็นหน้าเขาหรือคุณมองหน้าเขาอยู่หรือเปล่า เปล่าผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง คืออย่าเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกที่ดีนะ มันแย่มากตอนนั้น เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ ผมยังพูดกับศพเลยไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้ ขอโทษเขาตลอด แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ ***********น่ากลัวจังเลยตอนนี้ -_-' สงสารผู้หญิงเนาะ! จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ - [ 28 มี.ค. 51 16:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เอ่ออออ เค้าพูดถึงโทษประหารกับจำคุกตลอดชีวิตไม่ใช่เหรอคะ? จากคุณ : ตาลสามต้น - [ 28 มี.ค. 51 16:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณจขกท.มากนะคะ ที่อุตส่าห์พิมพ์มาให้อ่าน.. อ่านแล้ว พูดไม่ถูกเหมือนกันค่ะ.. รู้แต่ว่า ได้อะไรกลับมาเยอะแยะ.. จากคุณ : จูริง - [ 28 มี.ค. 51 16:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 54 กระทู้นี้ควรจะโหวตมั้ย? จากคุณ : รุงรังจัง - [ 28 มี.ค. 51 16:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ฆ่าคนยังไงก็ต้องชดใช้ อีกฝ่ายเขาสูญเสียเท่าไหร่ ลูกเขาตายไปทั้งคน ยอมรับโทษไปเถอะนะ อย่ามาเรียกร้องว่าการติดคุกโหดเลย ฆ่าคนแล้วจะให้ลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างนอกเหรอ  หมอวิสุทธิ์อีกคดีนึงป่านนี้ไม่รู้เรื่องขออภัยโทษไปถึงไหน แต่ไม่อยากให้ได้ โหดยิ่งกว่าเสริม วางแผนแนบเนียน เตรียมการอย่างดี แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 51 16:37:11 จากคุณ : autumn whispers - [ 28 มี.ค. 51 16:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องเจนจิราไปมีผู้ชายคนใหม่ มีหลักฐานหรือเปล่า มาพูดตอนนี้ ก็พิสูจน์ไม่ได้ แต่ความจริงคือ ขาดสติ และการควบคุมตัวเอง ถึงได้ลงมือฆ่า แต่ก็กลับมามีสติตอนทำลายศพ เพราะกลัวถูกจับ เฮ้อ.... โหดจัง ไม่รู้ว่าการถูกจำคุก จะช่วยเค้าให้มีสติดีขึ้นจริงๆหรือเปล่า แต่ก็อยากให้เค้าได้ออกมาตอบแทนบุญคุณแม่เค้าบ้าง จากคุณ : เจ้จ๋า - [ 28 มี.ค. 51 16:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เขาเรียนวิศวะ ก่อน แล้วมาเรียนหมอเหรอ จากคุณ : งง - [ 28 มี.ค. 51 16:36:37 A:58.8.117.71 X: TicketID:168767 ]

ความคิดเห็นที่ 58 งั้นถ้าเปลี่ยนเป็น ศาลตัดสินประหาร เขาจะบอกว่า ขอบคุณศาลที่ปราณี หรือ ทำไมศาลโหดยังงี้ ทำไมไม่ให้อยู่ใช้ชีวิตสำนึกผิดล่ะ จากที่อ่านมาเขาเองยังไม่อยากตายเลยนิ จากคุณ : จริงมั้ย - [ 28 มี.ค. 51 16:41:25 A:58.10.198.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านจบแล้ว...คนทำผิดยังไงก็รับโทษกันไป จากคุณ : มิ้นท์จ๋า - [ 28 มี.ค. 51 16:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แจ๋มครับ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 28 มี.ค. 51 16:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เราว่าเค้าเป็นคนที่มีความคิดดีนะ แค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ จากคุณ : BeingBetter - [ 28 มี.ค. 51 16:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ฆาตกรยังไงมันก็เป็นฆาตกรล่ะนะ เรายังมองว่าหมอนี่มันโรคจิตอยู่นั่นแหล่ะ เป็นการฆาตรกรรมที่โหดร้ายที่สุดที่เคยได้ยินตั้งแต่เกิดมาเลย น่าจะประหารเลยคนแบบนี้ ไม่ควรได้รับการอภัยโทษ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 28 มี.ค. 51 16:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 63 "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายสิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี อย่างนี้ถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น.... ปล : รู้สึกว่าคำพูดประโยคนี้หลายๆคนต่อต้านน่ะรวมทั้งเราด้วย จากคุณ : nOoploy - [ 28 มี.ค. 51 16:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ก็จริงนะคะ หลายคดีเลยที่ฆ่ากันเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ถือว่าเป็นเรื่องเตือนใจที่ดีทีเดียว ให้คนเรามีสติ อะไรที่เลี่ยงในการปะทะกันรุนแรงได้ก็เลี่ยงเถอะค่ะ ชีวิตทุกคนมีค่า จากคุณ : หนูนากระป๋อง - [ 28 มี.ค. 51 16:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านแล้วอึ้ง ! ................................................. ไม่ชอบเสริม --เปล่าผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง คืออย่าเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกที่ดีนะ มันแย่มากตอนนั้น เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ ผมยังพูดกับศพเลยไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้ ขอโทษเขาตลอด แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ-- .......................................................... โหด ไม่สำนึก จากคุณ : jeji o - [ 28 มี.ค. 51 16:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 รู้สึกว่าหลายคนอ่านแบบขาดวิจารณญาณ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 28 มี.ค. 51 16:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไฮ-คลาส ตอนที่คุณชำแหละศพช่วงที่ต้องตัดคอคุณไม่เห็นหน้าเขาหรือคุณมองหน้าเขาอยู่หรือเปล่า เปล่าผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง คืออย่าเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกที่ดีนะ มันแย่มากตอนนั้น เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ ผมยังพูดกับศพเลยไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้ ขอโทษเขาตลอด แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ * อ่านอยู่กับคุณแม่แล้วปิดปากกันทั้งคู่เลยค่ะ 555 จากคุณ : ฟ้องแม่นะเออ - [ 28 มี.ค. 51 16:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ...ตอนแรกเข้าใจผิด เหมือนเคยเห็นข่าวว่าคุณเสริมได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตอนนี้เช็คดูแล้ว คุณเสริม ยังคงอยู่ในเรือนจำค่ะ แก้ไขข้อความนะคะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 51 17:08:25 จากคุณ : Crazy_nichy - [ 28 มี.ค. 51 16:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 69 "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี ีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น" พูดเข้าข้้างตัวเองไปนิดนึงมั้ง การฆ่าใครซักคน มันแค่จุดเริ่มต้นต่างหากไม่จุดจบ เพราะผลลัพท์มันก็เท่ากับ ทำให้คนในครอบครัวของเหยื่อเหมือนตาย...ทั้งเป็น ใครอยากถูกฆ่าบ้าง...ต่างคนก็ต่างรักชีวิตตัวเอง เพราะตัเองก็ยังไม่อยากถูกจับเลย เสริมเป็นคนฉลาด แต่ขาดความเป็นมนุษย์ จากคุณ : jetboat - [ 28 มี.ค. 51 16:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านจบ ถึงจะดูว่า ที่ทำไปเพราะขาดสติ และ อารมณ์ชั่ววูบ แต่คิดว่า ถ้าพ่อแม่ ของคุณเจนจิรา  มาอ่านเข้า เค้าคงเสียใจมากกว่าเดิม ส่วนเรื่อง  ตาย กับ ติดคุก  ผมตีความว่า  ถ้าเลือกได้เค้าไม่อยากตาย  แต่เมื่อมีการตัดสินโทษระหว่าง ติดคุก กับ ประหาร  เค้าคงคิดว่า การประหาร โหดร้ายน้อยกว่า มั้ง ถึงแม้เค้าจะไม่อยากตายก็ตาม  งงกันมั้ยเนี่ย จากคุณ : งงเหมือนผมมั้ย? (BiteTheDust) - [ 28 มี.ค. 51 17:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่อยากจะโทษว่าใครถูกใครผิด อารมณ์ชั่ววูบ ผู้หญิงก็ผิดที่มีชู้ ผู้ชายก็ผิดที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่ เฮ้อ..... จากคุณ : tananhan - [ 28 มี.ค. 51 17:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากนะคะ วันนี้เขาก็ได้รับโทษตามกฎหมาย   ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ครอบครัวฝ่ายหญิงสูญเสียไปก็ตาม หวังว่าช่วงเวลาที่เหลือ  เขาคงได้มีโอกาสทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคม จากคุณ : Latte with Whipped Cream - [ 28 มี.ค. 51 17:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 73 "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น" รู้สึกว่าหลายคนจะสะดุดใจกับประโยคนี้เหมือนเราเลย ... จากคุณ : goibuta - [ 28 มี.ค. 51 17:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เราว่าคนทำผิดครั้งเดียว(แต่เรื่องใหญ่) ต่างกับคนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกนะ เพราะการทำผิดครั้งเดียวอาจเกิดจากอารมณ์ ขาดความยั้งคิด บันดาลโทสะ เราเชื่อว่าทุกคนเคยเป็น เพียงแต่ว่าคุณเสริมทำในสิ่งที่โหดร้ายเกินไป ขาดสติเกินไป ถ้าเขากลับมามีสติยั้งคิด กลับมาเป็นคนที่มีบทเรียนมีความคิดอ่าน เขาอาจจะสร้างคุณให้ผู้อื่นโดยใช้บทเรียนที่เจ็บปวดหันมาทำความดี ถ้าสังคมให้โอกาส ถ้าถามว่าแล้วความรู้สึกของครอบครัวผู้ตายหล่ะเขาก็เจ็บปวดมากไม่ใช่หรือ นั่นคือความจริงที่ครอบครัวผู้ตายต้องเจ็บปวดและอาฆาตคุณเสริม มันไม่ผิดที่ครอบครัวคุณเจนจิราจะไม่ให้อภัย เพียงแต่จะบอกว่ายังไงเหตุการณ์นี้ไม่หวนคืนกลับ ถ้าคุณเสริมทำอย่างที่เขาพูดถ้าเขาได้ออกจากคุก "ทำงานใช้หนี้ที่ญาติผู้ตายที่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 18 ล้าน เรายังไม่รู้ว่าจะเอาปัญญาที่ไหนไปใช้หนี้ แต่ผมก็อยากใช้หนี้เขานะเพราะผมเป็นคนก่อเรื่องขึ้นเอง" อย่างน้อยเขาก็ได้ชดใช้บาปกรรมที่ทำให้แก่ครอบครัวคุณเจนจิรา เราไม่ได้เข้าข้างคุณเสริม เพียงแต่ถ้ามีวันที่คุณเสริมชดใช้ให้ครอบครัวนี้จริง อยากให้สักวันหนึ่งความอาฆาตแค้นต่างๆยุติลง เพราะคนที่มีความแค้นก็เหมือนกับตายทั้งเป็นไม่ต่างกันเช่นกัน คุณเจนจิราก็คงไม่อยากให้พ่อแม่ทุกข์ระทมกับการตายของตัวเองไปทั้งชาติ (เราเข้าใจว่ามันอาจจะเป็นไปได้ยาก) แล้วอย่างน้อยคุณเสริมคงได้มีโอกาสเลี้ยงดูมารดาตนบ้าง หลังจากการกระทำที่อกกตัญญูนี้แล้ว คุณแม่ของคุณเสริมก็คงร้าวรานไม่แพ้กัน พอดีเราคิดว่าถ้าเราเป็นคุณเสริมเราจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าสมมติว่ามันเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ เราก็อยากมีโอกาสได้แก้ตัวสักครั้ง แม้ว่าจะไม่มีใครเชื่อก็ตาม แล้วเราก็คิดว่าถ้าเราเป็นพ่อแม่ของเจนจิราจะเป็นยังไง เราก็รู้สึกว่าเราไม่สามารถให้อภัยได้แต่มันเจ็บปวดเหลือเกินและตลอดชีวิต ถ้าแรงอาฆาตนั้นไม่ออกไปจากใจ แล้วถ้าเป็นแม่ของเสริมหล่ะ คงไม่กล้ามองหน้าใคร แต่ลูกใคร ใครก็รัก จะดีจะชั่วก็ลูก ตอนนี้ก็อาจจะรอวันที่ลูกกลับมา แต่ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เจอกันหรือไม่ เจ็บปวดทุกฝ่ายจริงๆ จากคุณ : kittima235 (kittima235) - [ 28 มี.ค. 51 17:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ ทำลายชีวิตคนไปหลายชีวิตเลย "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายอย่างนี้สิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น" เราว่าเค้าเทียบระหว่างโทษประหารกับจำคุกตลอดชีวิตนะ ไม่ใช่เรื่องการฆ่าเจนจิรา จากคุณ : เมี๊ยวหง่าว - [ 28 มี.ค. 51 17:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณค่ะ ที่นำมาให้อ่านกัน จากคุณ : Amazing Love - [ 28 มี.ค. 51 17:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ใช่ค่ะ เค้าหมายถึง การประหารชีวิต กับ การจำคุก แต่คำตอบเค้า ทำให้เรารู้สึกว่า เค้าตอบว่าการจำคุกมันโหด เพราะต้องโดนกักขังไปนานแสนนาน มันทรมาน ยิ่งกว่าการโดนประหาร แต่เค้าดันบอกต่อเองว่า..."แต่ถามว่าอยากตายมั้ยต้องตอบว่าไม่อยาก" *********************************************** คุณบอกว่าการจำคุกนั้นโหด และไม่มีประโยชน์ จำคุกนาน ๆ กว่าจะออกมาคนก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วฆ่าคนควรจำคุกกี่ปีถึงจะเหมาะสมคะ  ซัก 5-6 ปี งั้นเหรอ แล้วพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงผู้ตาย ที่เค้าต้องจมปลักอยู่กับความสูญเสียไปตลอดชีวิต <<<<<<<<<<<อย่างนี้เรียกโหดมั๊ยคะ เราใช้วิจารณญาณดีแล้ว มองมุมไหน "เสริมก็เป็นได้แค่ฆาตกรเห็นแก่ตัว(ที่ฉลาดหน่อย)คนนึงเท่านั้นเอง" จากคุณ : IrisGiRL - [ 28 มี.ค. 51 17:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อารมณ์ชั่ววูบจริง ๆ ด้วย เฮ้อ... การทำอะไรอย่างมีสติ ดีที่สุดเลยนะคะ ขอบคุณนะคะ ที่นำมาให้อ่านกัน จากคุณ : ทำอะไรอย่างมีสติ (foreverlove_ning) - [ 28 มี.ค. 51 17:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คือเราอ่านแล้วรู้สึกว่า  เค้ามองว่าเค้าโดนกระทำอย่างโหดร้าย ยิ่งกว่าการประหารชีวิตซะอีก เราคิดว่า ถ้าสิ่งที่เค้าเจอมันโหดร้าย แล้วสิ่งที่เค้าทำต่อเจนจิราล่ะ โหดมั๊ย ถ้าตอบว่า โหด แล้วมันสมควรมั๊ย ที่คนที่ทำแบบนั้นจะต้องเจอผลลัพธ์แบบนี้ เราว่ามันก็สมควรดีแล้ว ไม่ใช่เฉพาะรายนี้นะ ฆาตกรทุกคนแหละ ชีวิตทุกชีวิตมีค่า เรามีสิทธิ์อะไรไปทำลายชีวิตคนอื่น พอทำลงไปแล้วจะมาบอกว่าสิ่งที่ตนเจอมันเลวร้ายขนาดไหน  มันไม่แฟร์นะ คือเราไม่ได้บอกว่าเสริมหมายถึงอะไร  แต่เรารู้สึกว่าสิ่งที่เค้าพูด เค้าสื่ออะไร แล้วเรารู้สึกว่าเค้าเห็นแก่ตัวเท่านั้นเอง เค้าพยายามจะให้สื่อรู้ ว่าเจนจิราทำอะไรไม่ดี เจนจิรานอกใจ เจนจิราไปมีอะไรกับคนอื่น เป็นสาเหตุให้เค้าเกิดความโกรธรุนแรง จนเป็นเหตุให้ก่อความรุนแรงโดยไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เค้าพยายามจะพูดให้ตัวเองดูดีอะ เรารู้สึกอย่างนั้น จากคุณ : IrisGiRL - [ 28 มี.ค. 51 17:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มันก็ใช่ที่ผู้หญิงผิด แล้วผู้ชายผิดกว่าที่ฆ่าคน แต่ผมมานึกเรื่องโจรใต้วางระเบิดฆ่าตำรวจ ทหาร หรือแม้แต่ผู้บริสุทธิ์ล่ะ ยังลอยนวลปลอดภัยจากคดีได้จนบัดนี้กี่สิบ กี่ร้อยคน? โทษน่าจะประมาณประหารทั้งนั้น แต่กลับรอดไปได้ ผมว่าโจรใต้เลวร้ายที่สุด และจำนวนมากยังรอดจากการจับกุมอีกด้วย (เน้นซ้ำ) จากคุณ : Tomorrow she must be my girl. - [ 28 มี.ค. 51 17:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 28 มี.ค. 51 17:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านกัน อ่านแล้วอึ้งไปเลย จะผิดไหมนะถ้าจะเขียนว่า คนๆนี้ I.Q.สูงE.Q.ต่ำ จากคุณ : ehja - [ 28 มี.ค. 51 17:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ทุกที ที่มีข่าวว่านักโทษต้องได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ก็ต้องมีเสียงลอยๆมา ว่าทำไมไม่ประหารชีวิตไปเสียเลย ให้โอกาสเขาอยู่ต่อไปทำไม เหมือนสังคมจะบอกกลายๆ ว่าโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษที่ปราณีเกินไป แต่คุณเสริมเขากลับยืนยัน ว่าการจำคุกตลอดชีวิตตะหาก ที่ทรมาณนักโทษที่สุด มันเหมือนตายทั้งเป็น ก็เท่านั้น จากคุณ : มินเอง - [ 28 มี.ค. 51 17:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 84 วันเกิดเหตุผมค่อนข้างแน่ใจว่าเหนทั้งคู่ทะเลาะกันที่ข้างห้างเวิล์ดเทรดแล้วฝ่ายชายฉุดกระชากฝ่ายญ.ลงไปที่ลานจอดรถ สมัยตอนนนั้นผมไปเล่นไอซ์สเก็ต  ไปก็ช่วงเช้าเลยห้างยังไม่เปิดเลย  พูดแล้วขนลุกฝะ จากคุณ : StraitFudge - [ 28 มี.ค. 51 17:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ที่อ่านมาผมว่าประเด็นนี้น่้าคุยเหมือนกันนะ "เราอาจจะมองว่าเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีคอยช่วยเหลือกันแต่ความเป็นจริงที่เราเจอมันต่างกัน มีแต่การใส่หน้ากากเข้าหากันตลอด ต้องอยู่ในสังคมที่ใช้ความหรูหรามาวัดกัน อวดมั่งอวดมีอวดรวย ชอบงานรื่นเริง เป็นสังคมที่พยายามแสดงตัวเองออกมาว่าเป็นคนระดับสูง ไม่ได้คบกันด้วยความจริงใจ เราเลยไม่ค่อยเชื่อใจใคร" ผมว่าที่เขาบอกว่าคนอื่นใส่หน้ากากแล้วไม่ชอบนั้น สุดท้ายเขาก็ไม่้ต่างจากคนอื่นๆที่ใส่หน้ากากหรอกครับ เขาก็ใส่หน้ากากเหมือนกัน เพราะหลังจากที่เขายิงแฟนเขาแล้ว แทนที่จะรับสารภาพผิดโดยทันที กลับต้องมาอำพลางคดีเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งก็ไม่ต่างจากคนที่ใส่หน้ากากคนอื่นๆในสังคมหรอก พอคนอื่นๆใส่หน้ากากมันเห็นได้ง่าย แต่เมื่อตัวเราเองต้องเป็นฝ่ายลำบากถูกบังคับถูกกดดันจากความผิด เขาก็กลับไม่ลังเลยเลยที่ต้องมาใส่หน้ากากโกหกเหมือนกับคนอื่นๆในสังคมเหมือนกัน   สำหรับคนจริงที่ไม่ใส่หน้ากากนั้น ทำผิดก็ต้องรับผิดโดยทันที(แม้จะกลัว แม้จะอยากทำผิด แม้จะมีความลังเล แม้จะอยากโกหก แต่คนพวกนั้นจะไม่โกหกอย่างเสนิมแน่นอน) ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาก็คงไม่ต้องติดคุกนานขนาดนี้หรอก ผมว่าเขาก็แค่คนใส่หน้ากากคนนึงในสังคมที่วิจารย์คนอื่น แต่พอตัวเองผิดก็พร้อมจะใส่หน้ากากด้วยเหมือนกัน ปล ชอบคำถามที่ว่าตอนตัดคอมองหน้ามั้ย<-----เป็นคำถามที่เห็นภาพมากๆเลย แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 51 17:53:52 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 51 17:50:54 จากคุณ : Super pippo - [ 28 มี.ค. 51 17:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านแล้วอึ้งๆ ตัวเย็นๆไงไม่รู้ อือ พูดไม่ถูก แต่กลัวคนแบบนี้จับใจเลย ทั้งความคิด ก่อนฆ่า และ หลังฆ่า และ ปัจจุบัน ขณะอยู่ในคุก อือ น่ากลัว จากคุณ : chosen - [ 28 มี.ค. 51 18:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 87 รักตัวเองมากไปหน่อย ไม่เผื่อแผ่ความรักถึงคนอื่นบ้าง ไม่เปลี่ยนเลย จากคุณ : Blosm - [ 28 มี.ค. 51 18:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ถึงจะเข้าใจในประเด็นที่คุณเสริมพูดเรื่อง จำคุกกับประหาร แต่ก็รู้สึก สะดุดกับสิ่งที่เค้าพูดเหมือนกัน และก็คิดว่าเค้าพูดแบบเห็นแก่ตัวไปหน่อย จริงอยู่ที่ติดคุก 10-20 ปีนี่เป็นการสูญเสียเวลา หรือการทำประโยชน์ต่างๆ ตามที่เค้าพูดไป แต่ก็ต้องคิดกลับไปว่าตนเองทำอะไรที่ทำให้ต้องติดคุก นานขนาดนี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็โดนจับเข้าคุกเสียเมื่อไหร่ อ่านดูแล้วคิดว่าเค้าเป็นคนฉลาด พูดจาดี แต่เหี้ยมมาก ฆ่าคนไปเพราะ อารมณ์ชั่ววูบ แต่ตอนแล่ศพนี่ทำได้ไง มานั่งตัดเนื้อเป็นชิ้นๆ หั่นกระดูกอีก บอกตรงๆ ว่ากลัวใจจริงๆ จากคุณ : Saor - [ 28 มี.ค. 51 18:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เท่าที่อ่าน คุณเสริมน่าจะหมายถึง การฆ่าคนคือการประหารชีวิตนะคะ อ่านแล้วทำให้ได้คิดว่า คนเรา สติ สำคัญที่สุด จากคุณ : citizen girl - [ 28 มี.ค. 51 18:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ จากคุณ : ทุกอย่างจะผ่านไป - [ 28 มี.ค. 51 18:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ จากคุณ : Someone In This World - [ 28 มี.ค. 51 18:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณค่ะ ทำให้เรารู้ว่า อารมณ์ชัววูบน่ากลัวกว่าฆาตกรทั้งมวล จากคุณ : devillish girl - [ 28 มี.ค. 51 18:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : i-tim (i-tim) - [ 28 มี.ค. 51 19:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อืม อารมณ์ชั่ววูบน่ากลัวจริงๆ อ่านจบจบเลย ติดประโยคเดียวกันกับที่ข้างบนๆ บอกกัน (คือแบบ ตอนอ่านคห.ต่างๆไล่ลงมายิ่งได้อ่านประโยคนั้นซ้ำๆอีกหลายรอบ จะติดตาอยู่แล้วเนี่ย) จากคุณ : g_toub - [ 28 มี.ค. 51 19:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 95 จากคุณ : My life in Japan. - [ 28 มี.ค. 51 19:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ยังไม่สำนึก คนดีๆที่ปรกติทำความผิดครั้งแรกถึงแม้จะอารมณ์ชั่ววูบจะรู้สึกผิดและรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนกระทำ แต่นายคนนี้รักตัวเองอย่างรุนแรง ทำลายหลักฐาน....อย่างเหี้ยมโหด ต่อให้ติดคุกตลอดชีวิตจนตายคาคุกก็ยังคิดเข้าข้างตัวเอง...จนลมหายใจสุดท้าย เรียนจบนิติฯก็เพื่อตัวเอง.......แน่จริงอย่าขออภัยโทษสิ! ความเก่ง ความฉลาดของนายไม่มีค่าเลย คนอย่างนี้ต้องกฏแห่งกรรมอย่างเดียว จากคุณ : ไม่สำนึก - [ 28 มี.ค. 51 19:37:24 A:125.25.189.116 X: TicketID:171651 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เราว่าการฆ่าคนนี่บาปหนักเลยนะ เป็นบาปหนักที่สุด โหดร้ายที่สุดด้วย ที่ตัวเค้าเองบอกว่าแคร์แม่ อยากเจอแม่ แล้วไม่คิดกลับกันบ้างเนอะ ว่าตัวเองพรากลูกสาวไปจากพ่อแม่เค้าแบบไม่มีวันหวนกลับ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 28 มี.ค. 51 19:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เข้ามาขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ ที่ตั้งใจพิมพ์มาให้อ่าน เฮ่อ สติขาด ชีวิตก็ขาด โปรดจงใช้ชีวิตอย่างมีสติ หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้ว อิอิ จากคุณ : Miss perjer_123 - [ 28 มี.ค. 51 19:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สัตว์นรก....คิดจะเรียนกฎหมายมาแก้ต่างให้ตัวเองน่ะสิ / นึกถึงหัวอกพ่อแม่ ฝ่ายหญิงบ้างเถอะ / ถ้าเกิดมาแล้วมันเออร์เล่อ(เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ มันก้อต้องกำจัดทิ้ง) จากคุณ : เดี๊ยวก้อมีคนเอาเยี่ยง (ซาอิคุง) - [ 28 มี.ค. 51 20:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 100 พูดดีนะเนี่ย แต่ว่า... ใส่หน้ากากอยู่รึเปล่านะ จากคุณ : PADAPA--DOO - [ 28 มี.ค. 51 20:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เข้าใจเหมือนกับ 52 กับ 75 คือ คิดว่าเค้าน่าจะ เปรียบเทียบระหว่างโทษ ประหาร กับ จำคุกตลอดชีวิต จากคุณ : Exosphere - [ 28 มี.ค. 51 20:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณจขกท.ค่ะ จากคุณ : ลูกสาวคนที่สาม - [ 28 มี.ค. 51 20:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 103 อ่านแล้วรู้สึกอึมครึมๆ ไงไม่รู้ ขอบคุณค่ะ ที่เอามาให้อ่าน จากคุณ : TayTayHayashi - [ 28 มี.ค. 51 20:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 104 คนที่มาอยู่ในนี้มีทั้งคนที่ไม่ดีและคนที่ดี คนที่เป็นผู้ร้ายโดย สันดารก็มี.. งืม..ขัดใจอยู่นิดเดียว ไฮคลาสเขียนผิดเหรอ หรือว่า จขกท.มาแก้เพราะติดกรองคำคะ >< จากคุณ : godspuppy - [ 28 มี.ค. 51 20:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ แต่อ่านแล้ว ...ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกลัวใจกลัวความคิดของคุณเสริมแกจริงๆนะเนี่ย จากคุณ : มิสยูนิเวอร์ส - [ 28 มี.ค. 51 20:23:47 A:58.9.13.2 X: TicketID:167542 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขอบคุณมากนะคะที่นำบทความดีดีมาให้เราได้อ่านกัน อ่านแล้วทำให้เราได้รู้ว่าการที่เรารีบใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย จากคุณ : นู๋นุ่น10 (นู๋นุ่น10) - [ 28 มี.ค. 51 20:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 107 อ่านตอนแรกก็รู้สึกว่าเค้าก็ดูตรงๆจริงใจดี พอมาเจอประโยค "ฆ่าคนไม่ใช่เรื่องโหด" กับที่บอกว่า "พอฆ่าแล้วก็เฉยๆไม่ได้กลัวอะไร มีเหงาบ้างนิดหน่อยเพราะเค้าไม่อยู่แล้วเนี่ย" อืม ... รู้สึกว่าน่ากลัวมาก ไม่ได้น่ากลัวเพราะเค้าไม่กลัวหรืออะไรนะ มันติดใจประโยคว่าก็มีเหงาบ้างนิดหน่อย -*- ขนาดคนเป็นแฟนกันเลิกกันไปธรรมดาหรือแฟนตายยังเสียใจแทบบ้า นี่ฆ่าเค้ากับมือแท้ๆ แต่ก็แค่เหงานิดหน่อย เฮือก.... จากคุณ : ป่ามป๊าม - [ 28 มี.ค. 51 20:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 108 อ่านจบแล้ว รู้สึกว่า.....อึดอัดจัง มันบอกไม่ถูกว่าเศร้าใจ เข้าใจ หรือยังไงกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ทุกคนในเหตุการณ์นี้ล้วนเสียใจทั้งนั้น จากคุณ : -Ki- - [ 28 มี.ค. 51 20:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เลือดเย็นมากคะ มีหลายประโยคที่ทำให้รู้สึกว่าบุคคลผู้นี้ เพียงแค่ อาศัยร่างมนุษย์เท่านั้น เลือดเย็นไม่รู้จักบาปบุญ หนำซ้ำไม่มีโอกาสได้รู้ผิดชอบชั่วดี ติดอยู่ในรสชาติชั่ว จากคุณ : สาวเจียงใหม่ - [ 28 มี.ค. 51 21:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เยี่ยมมาก... บทสัมภาษณ์นี้ช่วยเตื่อนสติคนในเรื่องของการจัดการอารมณ์ของตัวเองอันเกี่ยวเนื่องจากผลของความรัก จากคุณ : เทพบุตรโลกันตร์ - [ 28 มี.ค. 51 21:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 111 จริง ๆ เขาก็ไม่ได้หมายความว่าการฆ่าไม่ใช่ไม่โหด    แต่ว่าการฆ่ากันมันสิ้นสุดตรงนั้น อารมณ์โกรธ เกลียด  แค้น  รัก  มันหมดลงสิ้งตรงตรงทำให้สิ่งที่ทำให้โกรดเกลียดสิ้งสุดไป  จากนั้นก็จะมีอารมณ์กลัว การที่คน ๆ หนึ่งได้รับผลกรรมโดยขังอยู่ในคุก จนตลอดชีวิตมันทรมานมาก คนเราจะมีอะไรที่ต้องการมากไปกว่าอิสรภาพ การไม่ถูกบังคับขู่เข็ญ การอยู่อย่างอิสระเสรี  ทำตามใจตัวเองปราถนา   แต่เมื่อถูกคุมขัง 1 ปี มี 365 วัน  แล้วตลอดชีวิตมันจะมีกี่วัน  ไม่อยากนึกเลยที่ต้องอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต ถ้าเราลองนั่งอยู่ในบ้านในห้องของเราโดยไม่ออกไปไหน เอาแค่ 2 วัน  จะมีความรู้สึกอย่างไร  แต่อยู่ในคุกแค่คิดก็สยองแล้ว ตลอดชีวิตไม่เห็นอนาคต ไม่เห็นความหวัง .... คนที่ตายไปแล้วก็จบสิ้นตรงนั้น   แต่คนที่ตายทั้งเป็นมันทรมานเหลือเกิน   คนที่ฆ่าตัวตายเพราะอารมณ์ชั่ววูบเขาคิดว่าเมื่อเขาตายทุกอย่างก็จบสิ้น ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน  แต่คนที่รับกรรมคือพ่อแม่ ที่ต้องทรมานเจ็บปวดตลอดไป จากคุณ : เพื่อนร่วมโลกที่ไม่เรื่องมาก - [ 28 มี.ค. 51 22:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อ่านแล้วก็นึกขึ้นได้ มีบางครั้งขับรถเจอรถตู้ปาดหน้า แกงค์มอเตอร์ไซด์ดูดตูดบ้าง ก็เคยคิดอยากยิงมันซะที นอกจากอารมณ์แล้วก็พวกอาวุธนี่แหละทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ผมก็ได้ยินคนเตือนหลายคนขับรถอย่าพกอาวุธไว้ในรถ เพราะเวลาฟิวล์ขาดจริงๆคงหยิบเอามาใช้แน่ๆ ถ้าไม่มีก็แค่ต่อยกัน อาจไม่เกี่ยวเลยกับเรื่องนี้เลยก็ได้ แต่ก็ถ้าวันนั้นไม่มีปืนก็อาจจะไม่เป็นอย่างเช่นวันนี้ การยับนั้งชั่งใจ และให้อภัย จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น จากคุณ : OjoA2zz - [ 28 มี.ค. 51 22:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เ ร า ว่ า   เ ส ริ ม โ ห ด ม า ก เห็นแก่ตัว ให้แลกกันเอามะ ให้เจนฆ่าหั่นศพแกแทน ต อ น นี้ ก็ ยั ง โ ห ด  ไม่ สำ นึ ก ไม่ อ ย า ก ใ ห้ อ อ ก ม า เ ล ย  . . . . ก ลั ว จากคุณ : Boy's love - [ 28 มี.ค. 51 22:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 114 อืมมม.. อึ้งค่ะ ขอบคุณ จขกท. นะคะที่กรุณาพิมพ์มาให้ได้อ่าน ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ลำเนา - [ 28 มี.ค. 51 22:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณนะค่ะที่อุตสาพิมพ์ให้อ่านยาวแบบนี้ ได้ข้อเตือนใจมากมายเลยค่ะ ที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าให้อารมณ์มาอยู่เหนือสติ และอย่าให้สติหลุดออกจากร่างโดยเด็ดขาด อ่านหลายๆ คห. ในนี้มองเห็นได้ว่าอารมณ์เริ่มอยู่เหนือสติเหมือนกันนะค่ะเนี้ย จากคุณ : live-walk - [ 28 มี.ค. 51 22:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ไอ้ประโยคที่ว่า "ฆ่าคนไม่โหด แต่ขังคุกโหดกว่าเนี่ย" เราคิดตรงกันข้ามนะ - -" ขังคุกมันปรานีกว่าเยอะ ฆ่าคนแล้วบาปหนักกว่าเดิม ประวัติก็เสียด้วย แต่เค้าพูดเหมือนหั่นหมู หั่นไก่เลยอ่ะ คนเป็นสัตว์โลกที่มีวิวัฒนาการสูงกว่าสัตว์อื่นบนโลกนะคะ - -" ทำยังกะมันเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยอ่ะ เราว่า บางทีการที่นักโทษได้ออกไปโลกภายนอก การไปทำงานในตำแหน่งที่ต้องการความน่าเชื่อถืออย่างทนายความเนี่ย ถือว่าลำบากในการสมัครงานนะคะ เพราะเค้าจะเช็คประวัติด้วย แม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อ นามสกุลแล้วก็ตาม ยังไงก็ต้องมีหลักฐานการเปลี่ยนชื่ออยู่ดี เราก็เห็นว่า ถ้าเกิดว่าอยู่ในคุกแล้วมันมีความสุขมากกว่าข้างนอก บางทีมันก็อาจจะดีกว่าก็เป็นได้นะคะ ออกไปแล้ว สังคมภายนอกก็ไม่ค่อยจะยอมรับเท่าไรด้วย เพราะก็กลัวว่าพี่แกจะหน้ามืดเอาปืนไปจ่อหัวใครอีกรึเปล่า ใช่มั้ยคะ - -" อันนี้ตามความเห็นเรานะ - -" จากคุณ : pae_ya - [ 28 มี.ค. 51 22:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 117 อย่าตีความคำพูดคนอื่นให้เป็นไปในทางที่ตัวเองอยากให้เป็นโดยเมินเฉยต่อบริบทที่ชี้ถึงเจตนาจริงของผู้พูดสิคะ แล้วก็เห็นด้วยกับคห.บน   หลายๆความเห็นใช้อารมณ์เหนือสติอยู่เหมือนกัน   เพียงแต่ความผิดมันต่างกัน หมอเสริมฆ่าคน  บางคห.ก็แค่พูดผิด หรือกล่าวหาเท่านั้น จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย - [ 28 มี.ค. 51 22:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เลือดเย็น จากคุณ : อาซิ่ม - [ 28 มี.ค. 51 23:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เด็กเนิร์ดนี่น่ากลัวนะ ไอคิวสูง อีคิวต่ำ เราว่าเค้าเห็นแก่ตัวอะ จากคุณ : Slurbody - [ 28 มี.ค. 51 23:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ดูจากความคิดแล้ว ผมว่าน่าหวาดหวั่น + สยองเป็นอย่างมาก กับแฟนคนต่อไปของคุณเสริม ไม่รู้ว่าวันไหนเกิดพี่ไม่พอใจขึ้นมา คงได้หยิบปืนมาจ่อหัว หรือ เอามีดมาชำแหละอีกแน่นอน ".....ผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง .....เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ .....แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ..." "...จัดการแร่เป็นชิ้นๆ เพื่อทิ้งลงน้ำโดยใช้มีดทำครัวธรรมดานี่แหละ.. แล่เป็นชิ้นแล้วทิ้งลงชักโครก แต่พอทิ้งไปได้สักพักมันกดน้ำไม่ลงคือท่อมันตัน ผมเลยทิ้งศพไว้ในห้องแล้วออกมาซื้อถุงดำ ซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ซื้อไม้ที่ปั้มท่อ พอกลับมาน้ำมันเพิ่งลดลงไปหน่อยเดียวเองเลยต้องใช้ที่ปั้มนั้นปั้มท่อไปด้วย ส่วนกระดูกที่เหลือก็เอาไปทิ้งที่แม่น้ำบางปะกง ....คุณพ่อค้าขายหมูก็อาจใช้วิธีนี้ก็ได้..." โอ้....นี่มันฉากฆาตกรอำหมิตของ สตีเฟ่น คิง ชัดๆ เลือดเย็นโดยสันดาร ของแท้...ชีวิตคนกับหมู คงไม่ต่างกันในสายตาของเสริม ไม่พอใจก็ฆ่าทิ้งซะกันง่ายดายเหลือเกิน... จากคุณ : Greatest - [ 28 มี.ค. 51 23:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 121 หากการต้องมีชีวิตอยู่ในสถานที่ที่จำกัดเป็นเวลานานนับสิบๆปีเป็นเรื่อง ทรมาน.... มันก็น่าจะเป็นตัวอย่างเตือนใจคนอื่นมากกว่าการไปช่วยเรียกร้องหรือ เห็นใจว่า นั่นน่ะซิ..ทำไมต้องไปทรมานเขาด้วย แค่ฆ่าคนตายเอง.... คนทำผิดย่อมพยายามพูดแก้ต่างหาเหตุผลร้อยแปดให้ตัวเองทั้งนั้น และคำว่าอารมณ์ชั่ววูบไม่ใช่สิ่งที่ใครๆจะนำมาใช้แก้ต่างให้ไม่ต้องรับ ผิดได้...ถึงอย่างไรศาลและกระบวนการยุติธรรมก็ตัดสินถูกต้องแล้ว อย่างน้อย ชีวิตคุณเสริมอาจช่วยเตือนใจคนต่อๆไปที่ตกอยู่ในอารมณ์ หึงหวง โมโห โกรธ ให้ชะงักการคว้าปืนมายิงๆแม่ม....ซะให้ตายๆ..ไปบ้าง ลองหลับตานึกสมมติดูซิ...ว่าถ้าคุณเป็นคุณเสริมในนาทีนั้น.... นาทีที่คุณเผลอยิงแฟนสาวคนที่คุณบอกว่ารักมากมายลงไปแล้ว... คุณทำได้อย่างเขาหรือเปล่า หั่นศพแฟนทีละชิ้นๆๆ แน่นอน...ร่างกายคนไม่ใช่เนื้อหมูเนื้อไก่ มันต้องมีเลือด มีอะไรต่ออะไร ออกมามากมายก่ายกอง....นึกแค่นี้ก็แทบจะลมใส่.... มันไม่ใช่เรื่องที่ "ใครๆก็ทำได้" สักนิดเดียว.... โดยเฉพาะตอนตัดคอ...โอ้โห....เราก็ยังไม่เชื่อว่า คนอื่นๆจะทำได้แบบเขา จากคุณ : กุ๊กกลาง - [ 28 มี.ค. 51 23:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ไม่มีใครเข้าใจนาย แต่เราเข้าใจนายนะ เสริมนะ เข้าใจเฉยๆ นะ แต่ให้เป็นแฟนคงไม่เอา -_-" จากคุณ : เมษาพาเพลิน - [ 29 มี.ค. 51 00:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 123 จขกท.อุตส่าห์พิมพ์มาเพื่อให้ข้อคิดเตืินใจ ให้เหตุการณ์ของเสริมมาเตือนเรื่องขาดสติ  ที่เพียงชั่ววินาทีที่สติขาดไป ต้องชดใช้ด้วยเวลาที่เหลือทั้งชีวิต รวมไปถึงต้องรับความรู้สึกผิดบาปตลอดชีวิต   ไหงหลายคนเข้ามาด่าเค๊า ซึ่งไม่เห็นเกิดประโยช์อันใด ในเมื่อเจ้าตัวก็รับกรรม ที่ตัวเองก่ออยู่ จากคุณ : -zzz- - [ 29 มี.ค. 51 00:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ไม่เชื่อว่าอารามณ์ชั่ววูบอย่างเดียวครับ อาการทางจิตน่าจะเป็นส่วนหนึ่งด้วย ฆ่าคน ๆ หนึ่ง ด้วยอารมณ์อาจจะไม่ได้เกิดจากความโหดร้ายลึกๆในใจจริงๆ แต่การมีสติมากพอที่จะหั่นศพคนที่ตัวเองรู้จักดี ได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน แล้วที่หลอนมากคือ การกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ อยู่ห้องนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงจุดนี้ บอกได้เลยว่าน่ากลัว สยดสยองกว่าความโหดร้ายที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบมากครับ คนปกติ แค่เผลอฆ่าคนตาย ก็เตลิดหนีเข้าป่า บ้าบอไปหลายตลบแล้ว มีสติหน่อยก็ หาทางหอบศพไปทิ้งเวลาปลอดคน แต่นี่เล่นฆ่าแล้วหั่นศพและยังพักอยู่ที่เดิมได้เป็นเดือนๆ ปฏิเสธได้ยากจริงๆ ครับ ว่าเป็นคนปกติที่อารมณ์ร้อน จากคุณ : หยอง - [ 29 มี.ค. 51 00:48:04 A:203.118.97.41 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125 ขาดสติ + ปืน ที่เหลือคือตำนาน จากคุณ : เสริม - [ 29 มี.ค. 51 00:53:13 A:124.120.34.244 X: TicketID:162240 ]

ความคิดเห็นที่ 126 โอเค ฆ่าเพราะขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ เป็นอุทาหรณ์ แต่เรื่องชำแหละศพซึ่งเป็นคนที่ตัวเองรักน่ะ มันไม่ธรรมดาหรอกนะมันผิดปรกติ คุณๆคนที่มีแฟนอยู่ข้างๆลองมองหน้าแฟนสิ แล้วถามตัวเองว่ากล้าหั่นแฟนมั้ย?? กรื๋ยยยย หมอนี่ไม่ธรรมดาเลย จิตใจไม่เหมือนคนปรกติ จากคุณ : A Legend of Love - [ 29 มี.ค. 51 01:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เสริมเป็นคนฉลาด   ฉลาดคคิด ฉลาดพูด   แต่ขาดความเป็นมนุษย์  รอบคอบ  จิตวิทยาดี  และโหดเหี้ยมมาก จากคุณ : allabouteve_guava - [ 29 มี.ค. 51 05:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ฟังแล้วทะแม่มๆ "การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปีอย่างนี้ผมถือว่าโหดเหมือน "ฆ่าเขาทั้งเป็น"  " กำลังเปรียบเทียบระหว่างการฆ่ากับการกักขังไม่ใช่เหรอ แล้วบอกว่าเหมือนกัน - -" สงสัยยกคำมาเปรียบผิด ตัวเองก็รู้แท้ๆ ว่าคำว่า "ฆ่าทั้งเป็น" เป็นคำเปรียบเปรยที่รุนแรงที่สุด แต่ก็หาคำที่รุนแรงกว่านั้นมาเปรียบไม่ได้ แล้วยังมาบอกว่าการกักขังรุนแรงกว่า อีกจุดคือเรื่องคุณหมอพรทิพย์ "ถึงแม้เขาไม่เข้ามาทำคดีนี้ ผมรู้ว่าผมก็คงต้องติดคุกอยู่ดี เพราะเรารับสารภาพไม่ใช่เพราะคุณหมอพรทิพย์เข้ามาพิสูจน์ แต่สังคมมองว่าเพราะคุณหมอเข้ามาทำคดีถึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ความจริงนั้นมันไม่ใช่ " แล้วไหนตอนแรกบอกว่าไม่อยากโดนจับ จึงทำทุกวิถีทางเพื่ออำพราง แล้วตอนนี้ดังบอกว่าสารภาพเอง พูดเหมือนกับจะบอกว่าไม่ได้แพ้คุณหมอซักหน่อย ท่าทางจะเป็นพวกไม่ยอมคนมากๆ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ - [ 29 มี.ค. 51 06:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เป็นคำถาม และคำตอบที่ฉลาดทัดเทียมกัน บทสัมภาษณ์ทำให้เห็นภาพได้ในภาวะการลงมือกระทำ และเสริมก็ฉลาดที่จะตอบอย่างสุภาพและคมคาย คำกลอนของศรีปราชญ์ ธรณีนี่นี้          เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์            หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร           เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้    คืนสนอง แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 08:34:10 จากคุณ : ladydunce - [ 29 มี.ค. 51 08:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อ่านแล้วยิ่งสังเวช ติดคุกจนตายก็คงไม่สำนึก อย่ามาคร่ำครวญกับสิ่งที่ได้รับจากการกระทำของตัวเองเลย จากคุณ : แหม ก็บอกแล้วว่าสวย - [ 29 มี.ค. 51 09:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 131 "การที่ฆ่าใครสักคนในความคิดของผมมองว่าไม่ใช่เรื่องโหดอะไร แต่การที่ขังคนจนตายสิโหด การฆ่าคนๆ หนึ่งมันจบลงตรงนั้นเลยเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อ แต่การขังให้เขาอยู่อย่างนั้น 20 ปี 25 ปี อย่างนี้ถือว่าโหดเหมือนฆ่าเขาทั้งเป็น.... ก่อนอื่น ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากค่ะ ที่มีอะไรมาให้เพื่อนได้อ่าน ได้คิด สำหรับคนอ่าน อย่าไปซ้ำเติมเค้าเลย ช่วยกัน อโหสิกรรมให้เค้าเถอะค่ะ ดีกว่าไปแช่งเค้า มันจะมีกรรมชนิดไม่ตั้งใจติดตัวเราไปเปล่าๆนะคะ คนตายก็สบายไปแล้ว คนเป็นต้องตายทั้งเป็นชั่วชีวิต มันทรมานยิ่งกว่าค่ะ เสริมเค้าไม่ได้กะจะพูดเพื่อ ให้เรามองว่าเห็นแกตัวหรอก แต่เค้าพูดจากความรู้สึกจริงว่าขนาดนี้ การติดคุกตลอดชีวิตมันทรมานเหมือนต้อง ใช้กรรมไปอีกนานแสนนาน จำแต่สิ่งดีๆที่เค้าเตือนเราดีกว่าว่า การทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ มันผิด เราต้องควบคุมสติให้ได้  ถ้าผู้อ่านที่มีครอบครัวแล้ว ก็หันดูตัวเราว่า เราให้ความรัก ความอบอุ่นกับลูกแค่ไหน ลูกเห็นเราเป็นเพื่อนยามมีทุกข์หรือไม่ ถ้าเราเป็นอยู่แล้วก็ดีแล้วค่ะ  ขอบคุณนิตยสารเล่มนี้ ที่มีมุมมองที่ดี นำเอาคำพูดจาก เสริมมาฝากพวกเรา สรุปแล้วทุกคนที่ทำอะไรเลวๆลงไป เค้าก็ยังมีส่วนดี มีสมอง มีความรัก เหมือนกับพวกเรา แต่เค้าขาดหลายๆอย่างเช่นความอบอุ่นจากครอบครัว โดดเดี่ยว มากเกินไป น่าสงสารจริงๆ  ทำให้นึกถึงคำสอนของท่านพุทธทาสที่ว่า ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ทุกอย่างก็ดับ คำสอนท่านพุทธทาสที่จำได้ ----------------------------------------- เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่ เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริงฯ จากคุณ : daik - [ 29 มี.ค. 51 10:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ติดคุกต่อไปเถอะ สาสมแล้ว กับโทษตลอดชีวิตน่ะ เหลือแค่ 40 ปีแล้วนี่ มีโอกาสได้ออกมา ตอน 60 กว่าๆก็บุญแล้ว จากคุณ : JazzMiroQuai - [ 29 มี.ค. 51 12:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ขอบคุณค่ะที่พิมพ์ให้อ่านยาวมากๆ ทำให้มองเห็นอีกมุมหนึ่งของคนที่หลายคนเรียกเค้าว่า ฆ า ต ก ร โ ร ค จิ ต จากคุณ : ก๊องโต้กะอองรี - [ 29 มี.ค. 51 13:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เขาเป็นคนฉลาด รู้จักพูด แต่จากที่อ่านมา นอกจากความฉลาดแล้ว เรายังเห็นว่าเขามี 1. ความเห็นแก่ตัว บอกว่าฆ่าคนตายไม่โหด แต่การขังคนคนหนึ่ง 20 ปี 25 ปีต่างหากที่เรียกว่าหา นี่เขาหมายความถึงตัวเขาเองที่โดนขังใช่ไหม เขาบอกว่า ถ้าออกไปตอนแก่ก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว แต่ถ้าฆ่า ตายแล้วก็จบ ไม่คิดถึงพ่อแม่พี่น้องคนที่เขาฆ่ามั่งหรือ เลี้ยงลูกคนหนึ่ง จนโต ได้เรียนหมอ หมดเงินไปตั้งเท่าไหร่ พ่อแม่เขาตั้งความหวังไว้แค่ไหน ถ้าเขาถูกตัดสินประหาร เขาจะคิดว่าตายเีีสียก็ดี ตายแล้วก็จบ จะคิดแบบนี้ไหม 2. ความโหดเหี้ยมเลือดเย็น ฆ่าคนนะคุณ ยิงคนตายแล้ว ถ้าเป็นคนปกติที่เผลอทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ต่อให้ใจแข็งแค่ไหนมันก็ต้องมี break down กันบ้างแหละ ยิ่งเป็นคนที่รักกันยิ่งน่าจะเสียใจมาก นี่พี่แกเล่นเอามีดทำครัวหั่นศพซะเฉยๆ แล้วตอนตัดคอนะ ถ้าเป็นมีดทำครัวธรรมดา ใช้ตัดคอเนี่ย ไม่ได้ง่ายๆ นะคะ ต้องออกแรงกันเหงื่อตกเหมือนกันนะ แล้วตานี่ก็ไม่ได้ตัวใหญ่โตมโหฬารเท่าไหร่เลย ถ้าไม่รู้สึกตัวตอนแล่เนื้อทิ้ง ก็น่าจะรู้สึกตอนตัดคอนี่แหละ ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่า คนฉลาด พูดจาดี ความคิดดี ก็เป็นโรคจิตได้นะคุณ จากคุณ : kate_rocks - [ 29 มี.ค. 51 14:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 135 หุๆ ฟังดูก็ยังไม่สำนึกอะไรขึ้นมาเลย ถ้าไม่ีรู้จักกับคนที่รู้จักกับตัวจริงมาก่อน ผมก็คงคิดว่าเค้าเป็นคนธรรมดาที่พลาดบันดาลโทสะรุนแรงไปเท่านั้นเอง แต่ความจริงแล้ว... ถามเพื่อนรุ่นนั้นเองดีกว่าครับ ว่าทำไมเขาถึงไม่มีเพื่อนสนิทรุ่นเดียวกันเลย ทำไมมีแต่รุ่นน้องที่รู้จัก(เจอรุ่นน้องในมหาลัย เลี้ยงตลอด sport มากเลย น้องๆสาวๆชอบกันมาก แต่ก็ไม่สนิทกัน) อ่านดูดีๆ ว่าสุดท้ายแล้วเค้าก็ยังโทษผู้หญิงก่อน ว่าเพราะไม่ยอมรับคำโกหก ก็เลยต้องฆ่า ถ้ายอมรับก็คงไม่ฆ่า แปลว่าเค้าไม่ได้รู้สึกผิดเลยกับการฆ่าคนนั้นไป(ลองเทียบกับหมูแฮม ถ้าคนขับรถเมล์ไม่เถียง ก็คงไม่ไล่ชนชาวบ้าน?!?!) แถมพูดออกมาว่าการขังคุกไม่มีประโยชน์ (แล้วจะให้ปล่อยออกมาเร็วๆ?) เพื่อนผมบางคนเป็นระดับอาจารย์หมอแล้ว ผ่านการผ่าศพอาจารย์ใหญ่เพื่อทำวิจัยมานับร้อยศพ แต่ก็ไม่เคยกล้าหรือคิดกล้าแล่เนื้อคนศพของคนรู้จักได้ง่ายๆหรอกนะครับ ยิ่งเ้ป็นคนที่่รักมากด้วย คนที่ทำได้ ถ้าไม่จิตนิ่งเพราะฝึกมาดี ก็เป็นพวกอำมหิตเลือดเย็นเลยทีเดียว ขอบคุณจขกท.ที่เอามาอ่าน ให้ได้ข้อคิดดีๆว่า คนบางคน สุดท้ายก็ยังไม่สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำไป แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเลวร้ายแค่ไหน สังคมต้องจำไว้ให้ดี อย่าได้ไปหลงเชื่อกับภาพลักษณ์ภายนอก ป.ล. ถ้าแอบมีกิ๊กแล้วต้องโดนฆ่า ผมว่าวัยรุ่นยุคนี้่คงเหลือรอดไม่ถึงครึ่ง เหอๆ ไม่ได้บอกว่ามันถูก แต่ก็ไม่ได้ผิดขนาดต้องตายหรอก จากคุณ : ....4จุด - [ 29 มี.ค. 51 16:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 136 อีกอย่างนึง... "ถึงแม้เขาไม่เข้ามาทำคดีนี้ ผมรู้ว่าผมก็คงต้องติดคุกอยู่ดี เพราะเรารับสารภาพไม่ใช่เพราะคุณหมอพรทิพย์เข้ามาพิสูจน์ แต่สังคมมองว่าเพราะคุณหมอเข้ามาทำคดีถึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ความจริงนั้นมันไม่ใช่ ผมคิดว่าโดยทางรูปคดีสามารถสาวมาถึงตัวผมได้อย่างแน่นอนผมเลยรับสารภาพ โดยส่วนตัวผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับคุณหมอ ไม่มีความโกรธแค้นเขาแต่อย่างใด" เราว่าจริงๆแล้วเค้าโกรธ เกลียด คุณหมอพรทิพย์นะคะ เหมือนที่คุณคห.128 พูดแหละว่าเค้าดูเป็นคนไม่ยอมคน เค้าไม่อยากจะยอมรับว่าแผนเค้าพลาด เท่าที่เราตามข่าว ทราบมาว่าคุณหมอมีส่วนอย่างมากนี่คะในการหาหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้เสริมรับสารภาพ หรือเราได้ข่าวมาผิดคะ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 17:09:10 จากคุณ : Boy's love - [ 29 มี.ค. 51 16:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เคยอ่านแล้ว ก็รู้สึกว่า เสริม อำมหิตเงียบ และก็งงว่าทำไมต้องให้เกียรติ เรียก คุณๆๆๆๆๆ เสริม ทุกคำพูดที่สัมภาษณ์ เขาก็ฆาตกรอีกคนหนึ่ง แต่ก็บทสัมภาษณ์ที่ดีครับ ได้แง่คิดอีกเยอะ คล้ายๆ กับ fwd เมลเรื่อง พลอยกับปอม อาจารย์ ABAC ที่กำลังส่งกันเป็นที่สนุกสนานในตอนนี้ จากคุณ : freestyler - [ 29 มี.ค. 51 18:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 138 อ่านแล้วเข้าใจเลยว่า เสริมไม่กลัวผี จากคุณ : *.* - [ 29 มี.ค. 51 19:24:48 A:125.25.234.73 X: TicketID:170618 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ความฉลาดแต่แฝงความโหดร้ายโรคจิตเลยนะเนี่ย จากคุณ : ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง - [ 29 มี.ค. 51 20:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอบคุณ จขกท. ที่นำมาให้อ่านครับ ขอบคุณเพื่อนที่ส่งกระทู้นี้มาให้อ่านด้วยครับ ได้แง่คิด ในการดำเนินชีวิตไปพอสมควรเลยทีเดียวครับ จากคุณ : [เทวดาน้อย] - [ 29 มี.ค. 51 21:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ขอบคุณมากๆสำหรับการแชร์บทความนี้ครับ จากคุณ : G~U~D 2 2 - [ 29 มี.ค. 51 21:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ยังไงก็ต้องรับกรรมที่ก่อไปก่อนนะ แล้วหลังจากนั้นจะไปทำประโยชน์อะไร เพื่อชดใช้ความผิดบาปที่คิดว่าตัวเองทำก็ค่อยว่ากัน...ถ้ายังมีโอกาสได้ออกมา แต่คงอีกนาน จากคุณ : กลีบดอกโมก - [ 30 มี.ค. 51 01:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ความจริงคุณเสริมก็มีความคิดความอ่านดีนะคะ แต่ขาดสติไปเท่านั้นเอง...ไม่น่าเลย อารมณ์ชั่ววูบแท้ ๆ ".....ผมตัดจากทางด้านหลัง ผมจับเขาหันหลัง .....เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่คิดว่าจะมาจบลงตรงนี้ .....แต่ก็ไม่อยากถูกจับมันจำเป็นต้องทำ..." รักกันเค้าทำกันอย่างนี้หรอคะ ถ้าคนธรรมดาก็รู้สึกแย่ตั้งแต่คิดฆ่าแล้วค่ะ เห็นแก่ตัวไปรึเปล่าเนี่ย ฆ่าเพราะรัก แล้วก็หนีเพราะกลัว จากคุณ : อักษราภรณ์ - [ 30 มี.ค. 51 11:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 145 น่ากลัว....เป็นคนที่น่ากลัวมาก จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 30 มี.ค. 51 14:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 146 อะจึ๋ย...คห.84 เห็นวันที่เค้าทะเลาะกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ด้วยเหรอ  เป็นเราจำติดตาไปจนตายเลยนะเนี่ย  อ่านแล้วกลัว..จิตใจมนุษย์นี่ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ  สาธุ...ขออย่าให้เจอใครนิสัยแบบเสริมเลย  กลัวมั่กๆ.... จากคุณ : Kitakaze - [ 30 มี.ค. 51 23:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 147 อ่านๆดู ดูนายเสริมมันไม่ได้รู้สึกผิดเท่าไหร่ที่มันไปฆ่าเขาเลยนะ   ผมเป็นคนพกปืนติดตัว  เล่นปืนมาตั้งแต่อายุ 14 พ่อแม่ผมก็เป็นคนชอบปืน แบบว่ามีปืนเต็มบ้าน ตั้งแต่ลูกกรดสั้น ไปถึงไรเฟิล แฟนเก่าผม โกหกผมเสียจนเป็นตัวตลก เป็นหมา เป็นไอ้งั่งของกลุ่มเพื่อน แบบว่าจนจับได้คาตา แฟนผมก็ยังโกหกหน้าชื่นตาบาน ผมไม่เห็นต้องฆ่าแฟนผมเลย  ทุกวันนี้แฟนเก่าผมก็ยังคบหาพูดคุยกัน เหมือนเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าบทความนี้ต้องการเน้นโจมตีเรื่องศาสนาคริสต์หรือเปล่า เพราะเห็นว่าเน้นเหลือเกินเรื่องความย่อยยับอัปปรีย์ของศาสนาเนี่ย อ้อ ลืมไป ศาสนาคริสต์มันคงเป็นศาสนาพลเมืองชั้นสองมั้ง ชอง ปอล ซาร์ท กล่าวว่า เสรีภาพ มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ดังงนั้น นายเสริม ก็จงรับผิดชอบการติดสินใจของตัวเองต่อไปเถิดครับ จะว่าชั่วว่งชั่ววูบอะไร แต่มันก็ไม่ได้มีใครมาตัดสินใจในวินาทีนั้น นอกจากนายเสริมเอง ดังนั้นก็ควรรับผิดชอบความโง่ชั่ววูบของตัวเองต่อไป จนครบวาระแล้วกัน สรุปคือไม่เห็นใจ ไม่สงสารครับ จากคุณ : todtoh - [ 1 เม.ย. 51 23:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 148 อ่านจบแล้วก็คิดว่าเค้าเป็นคนฉลาด แต่ขาดความเป็นมนุษย์ เป็นคนที่มีความคิด แต่อำมหิตลึกๆ !!! เสียดายความรู้ความสามารถ ถ้าในวันนั้นเค้ามีสติ เรื่องราวทั้งหมดมันคงไม่เกิดขึ้น ประเทศเราจะได้มีหมอคอยรักษาคนไข้เพิ่มขึ้นอีก 2 คน จากคุณ : >ร้อยความฝัน พันจินตนาการ< - [ 2 เม.ย. 51 11:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 149 แกมโกง เห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงคนอื่น   เหมือนเดิม พวก เก่งๆ และ แล้ง..จิตใจปกติ จากคุณ : คนไทยก็ทำได้ - [ 5 เม.ย. 51 06:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 150 หมอเสริมคงสำนึกผิดแล้ว แต่คำพูดน่ากลัวอยู่ดี จากคุณ : pig - [ 25 เม.ย. 51 15:12:50 A:58.8.172.166 X: ]