 |
@@@เรื่องย่อสวรรค์เบี่ยง@@@
ที่มา : oknation.net สวรรค์เบี่ยง 1 ลีลาเดินเด๋อๆ ด๋าๆ เข้ามาในงานปาร์ตี้สุดหรูกลางสวน เลี้ยงส่งคาวีไปเรียนต่อต่างประเทศ ลีลาถือดอกไม้ช่อขนาดกำลังน่ารักอยู่ในมือ แซมหันมาเห็นลีลา ก็รีบเดินเข้าไปหา บอกว่าคาวีอยู่ข้างในให้เข้าไปหา แต่ลีลาไม่กล้า บอกว่าเธอแต่งตัวโทรม จะฝากดอกไม้ให้แซมเอาไปให้คาวี แต่แซมคะยั้นคะยอไม่ให้ลีลาอาย บอกว่าลีลาแต่งยังไงก็น่ารัก แซมให้ลีลาไปหาคาวีก่อน แล้วเขาจะตามเข้าไป ลีลาจำใจต้องเดินเข้าไปด้วยใจเต้นระทึก ลีลามองคาวีที่ยืนอยู่กลางงานด้วยความตื่นเต้น เห็นคาวียืนหันหลังให้ลีลา เขากำลังกับคุยสาวๆที่รายล้อมอยู่อย่างสนุกสนาน สาวๆบางคนที่หันมาเห็นลีลา แสดงอาการรังเกียจออกทางแววตาอย่างเห็นได้ชัด ลีลาเดินใกล้เข้ามาจนคาวีรู้สึกและหันมา ความหล่อใสของคาวีทำให้เขาดูราวกับเทพบุตรที่ยืนอยู่ท่ามกลางสาวๆ พอคาวีเห็นลีลาแววตาของเขาเปลี่ยนเป็นดูถูกอย่างร้ายกาจ ถามว่ามาทำไม ใครเชิญ ลีลาเหงื่อแตก หน้าซีด "ซะ แซมบอกว่าพรุ่งนี้คุณจะไปเรียนต่างประเทศแล้ว ถ้าฉันว่างก็ให้มาร่วมงาน ฉันก็เลยแวะเอาดอกไม้มาให้" คาวีปรายตามองกดอย่างดูถูก "ดอกไม้ราคาถูกแบบนี้ ฉันไม่เอาหรอก ทีหลังจะซื้ออะไรให้ฉัน หัดเลือกของที่มันคู่ควรหน่อย แต่ก็อย่างว่านะ ของที่เหมาะกับฉัน คนอย่างเธอคงไม่มีปัญญาซื้อ" สาวไฮโซพากันหัวเราะคิกคัก บางคนพูดขึ้นอย่างสมเพช "วีคะ คุณพูดแรงเกินไปหรือเปล่าคะ ? ดูสิ หน้าซีดจะเป็นลมอยู่แล้ว น่าสงสาร" คาวียักไหล่ "ไม่เห็นจะน่าสงสารเลย น่าสมเพชมากกว่า ที่ผ่านมาฉันยังเกรงใจเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนคณะเดียวกับแซมถึงไม่อยากจะพูดอะไร แต่ตอนนี้ก็เรียนจบกันหมดแล้ว ฉันก็พูดตรงๆเลยแล้วกัน ฉันรำคาญมาก เวลาที่เธอพยายามจะตีสนิทกับฉัน เธอคิดว่าฉันจะสนใจผู้หญิงอย่างเธออย่างนั้นเหรอ หลงตัวเองมากเกินไปหน่อยแล้ว" ลีลาอึ้ง แทบเป็นลม นารินน้องสาวของลีลาที่แม่ให้มาตามลีลากลับบ้าน เดินเข้ามากับแซม นารินได้ยินพอดี นารินเหวอไปไม่แพ้แซม คาวีพูดต่อด้วยน้ำเสียงประจาน "ฉันจะบอกให้นะ ต่อให้เธอตายไปแล้วเกิดใหม่อีกสัก 3-4 ชาติ ก็ยังไม่มีบุญมากพอที่จะทำให้ฉันสนใจ แม้แต่ปรายตาไปมอง ฉันก็ยังไม่อยากทำ เพราะฉะนั้น อย่าคิดฝันอะไรที่มันเกินตัว ผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับฉัน" คาวีมองจิกด้วยหางตาอย่างเย้ยหยัน ลีลาสะท้านไปทั้งหัวใจ คนรอบข้างมองหน้าลีลา บางคนอึ้ง บางคนสมน้ำหน้า บางคนเห็นใจ แต่ทุกสายตาทำให้ลีลาทั้งอาย ทั้งเสียใจ อยากจะแทรกแผ่นดินหนี ลีลารีบขอตัวออกไป ก้มหน้างุดจากงาน คาวียืนอยู่กับที่ใบหน้าเย็นชาไม่มีความรู้สึก และไม่หันไปมองแม้แต่นิดเดียว นารินมองหน้าคาวีด้วยแววตาสุดแค้น และเกลียดชัง พร้อมปาแก้วเชมเปญลงพื้นด้วยความโกรธ คนในงานร้องด้วยความตกใจ คาวีค่อยๆหันไป แต่ไม่เห็นนารินแล้วเห็นแต่แซมยืนเหวออยู่คนเดียว ลีลาเดินออกมาในสภาพร้องไห้ ไม่มีสติ แล้วลีลาก็ถูกรถชน นารินที่ตามมาติดๆ เห็นพี่สาวนอนจมกองเลือด ก็ช็อก รีบนำส่งรพ.ทันที ประตูโรงพยาบาลถูกเปิดอย่างแรง เตียงผู้ป่วยถูกเข็นเข้ามาอย่างเร็ว ลีลานอนอยู่ตัวเต็มไปด้วยเลือด ลีลาตาปรือ ใกล้จะหมดสติ มีนารินผู้เป็นน้องสาว วิ่งเกาะขอบเตียงตาม ร้องไห้ขอร้องไม่ให้พี่เป็นอะไร ลีลาพยายามปรือตาขึ้นมองหน้านารินไว้ น้ำตาลีลาค่อยๆ ไหล เป็นแววตาแห่งความเจ็บปวดร้าวลึกถึงหัวใจ 000000000000000000000000000000000000 5 ปีต่อมา ในโรงแรมของแซม กำลังจัดงานต้อนรับการกลับมาของคาวี โดยมีเสาวภา ภรรยาคนใหม่ของคิด พ่อของคาวีเป็นหัวหอกในการจัดแจงเตรียมงาน โดยจัดดอกไม้สีแดงประดับไว้ทั่วไป ขณะที่เสาวภากำลังจัดแจงงานอย่างปลื้มอกปลื้มใจ คาวีก็เดินเข้ามามองงานอย่างดูถูกว่าไร้รสนิยม ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น ทำเอาเสาวภาหน้าม้าน แซมรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่คาวีพูดเสียงดัง "งานคืนนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับฉัน ไม่ใช่งานศพ จะได้มีดอกไม้มาวางเรียงยังกะพวงหรีด แล้วฉันก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นสีแดง" "ดิฉันเห็นว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของคุณพ่อคุณ แล้วท่านก็เกิดวันอาทิตย์ ดิฉันเลยให้ทางโรงแรมใช้สีแดงเป็นสีหลัก" เสาวภาหน้าเสีย คาวีหันมาเสียงแข็งใส่เสาวภา "แต่งานนี้เป็นงานของผม ไม่ใช่งานคุณพ่อ ทีหลังจะประจบประแจงก็ทำให้มันถูกที่ถูกทางหน่อย ไม่ใช่สักแต่ว่าเลียไม่เลือก และที่สำคัญ ผมเกลียดสีแดง" คาวีประจันหน้าเสาวภา เสาวภาสะอึกต้องเบือนหน้าหนี คาวีมองด้วยแววตาเชือดเฉือนเหมือนเกลียดชังกันมาแต่ชาติปางก่อน ด้านนารินที่มารับหน้าที่จัดดอกไม้ให้กับงานนี้ พอรู้ว่าเป็นงานของคาวี และคาวีก็สั่งให้เปลี่ยนดอกไม้กะทันหัน นารินจากที่เป็นสาวอ่อนโยน ก็สีหน้าเปลี่ยนเป็นขึงขัง เดินไปทางคาวีที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงทันที ทำเอาแยม เนย เพื่อนร่วมอาชีพถึงกับงงกับอาการของนาริน คาวีบอกว่าเขาเกิดวันจันทร์ จะให้เปลี่ยนดอกไม้ทั้งหมดเป็นสีเหลืองทั้งหมด แซมพูดอะไรไม่ออก ทุกคนเงียบอึ้งตะลึงกันไป เสาวภาจุกคอหอย ทันใดนั้นเสียงนารินก็ดังขึ้นอย่างหนักแน่น แต่นุ่มนวล "ดิฉันไม่สามารถเปลี่ยนดอกไม้จากสีแดงเป็นสีเหลืองให้คุณได้ เพราะถ้าต้องเปลี่ยนสีดอกไม้ สีของผ้าไหมก็ต้องเปลี่ยนด้วย ซึ่งดิฉันต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๑ วันในการเบิกผ้าไหมชุดใหม่มาจากโรงงานของคุณ" คาวีมองนารินด้วยหางตา แววตาเหยียดระคนแปลกใจ นารินยังพูดต่อด้วยโทนเสียงเดิม "แต่ถ้าคุณบอกว่าไม่ต้องใช้ผ้าไหม ดิฉันก็หาดอกไม้ให้ไม่ทันอยู่ดี เพราะดอกไม้สีเหลืองที่ใช้จัดได้มีอยู่ไม่กี่ชนิด และต้องสั่งพิเศษในจำนวนมาก ซึ่งถ้าสั่งตอนนี้จะได้เร็วที่สุดประมาณหนึ่งทุ่ม แต่งานคุณจะเริ่มตอนทุ่มครึ่ง เวลาแค่ 30 นาที ดิฉันไม่สามารถจัดดอกไม้ให้ได้ตามที่คุณต้องการ" คาวีตวัดหางตามามองนารินเพียงหนึ่งแว่บแบบไม่ให้เกียรตินารินเชิดหน้าขึ้นอย่างหมั่นไส้ คาวีพูดกับแซมโดยไม่สนใจนารินแม้แต่นิดเดียว "แซม ถ้าพนักงานแกทำงานนี้ไม่ได้ ก็เปลี่ยนให้คนอื่นมาทำแทน แล้วก็บอกเค้าด้วยว่าไม่ต้องพูดมาก เพราะฉันไม่ว่างมาฟังคำแก้ตัวของพนักงานระดับล่าง" นารินสวนขึ้นก่อน "ดิฉันมาจากบริษัทรับจัดดอกไม้ที่ทางโรงแรมจ้างมา ไม่ได้เป็นพนักงานของที่นี่ และดิฉันไม่ได้แก้ตัว แต่ชี้แจงด้วยเหตุผล ดิฉันทำตามแบบที่ได้รับมอบหมายทุกอย่าง ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงต้องจ่ายเงินค่าเสียหายมาทั้งหมด" คาวียิ้มเยาะ "ที่แท้ก็อยากได้เงิน" นารินแววตาแข็งขึ้นสวนกลับทันที "ใช่ เพราะคนอย่างคุณนอกจากเงินแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรที่ "ให้" คนอื่นได้" คาวีหันมาทางนาริน แววตาไม่พอใจสุดๆ "มันจะมากเกินไปแล้วนะ เธอรู้หรือเปล่า ว่ากำลังพูดอยู่กับใคร" "ขอบคุณมากนะคะที่หันหน้ามาพูดกับฉันตรงๆ ค่อยดูมีมารยาทขึ้นมาหน่อย และถ้าคุณจะชดใช้ค่าเสียหายของดอกไม้ในวันนี้กรุณาจ่ายเป็นเงินสดด้วยนะคะ ดิฉันไม่รับเชค แล้วหาคนอื่นมาจัดดอกไม้แทนได้เลย เพราะดิฉันไม่รับงานนี้ สวัสดีและลาก่อนค่ะ คุณคาวี วรวัตน์" คาวีสะอึกใจเต้นแรงด้วยความโกรธ แต่ยังพยายามยืนเท่ไม่ให้รู้สึกว่าเสียหน้า นารินเดินมาเก็บของจำเป็นแล้วเดินออกไป เนยกับแยมรีบเดินตามไปงงๆ เหวอๆ เสาวภาอมยิ้มนิดๆ แอบสะใจ คาวีโวยใส่แซม เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ถามว่าผู้หญิงที่มายืนด่าเขาเป็นใคร รู้จักเขาแต่ยังกล้ามาพูดแบบนี้ แซมยิ้มแหย ว่าปกตินารินไม่ใช่คนแบบนี้ แต่สงสัยนารินอาจจะต้องการแก้แค้นให้พี่สาว คาวีชะงักสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย แซมบอกว่าเกี่ยวเต็มๆ เพราะพี่สาวนารินก็คือลีลา คาวีอึ้งไป ด้านลีลา พอได้ยินข่าวว่าคาวีกลับมาแล้ว จากปากของนาริน ก็ทำเอาเธอใจเต้นไม่เป็นส่ำ แม่ว่าตอนนี้ลีลาจะเตรียมเข้าพิธีแต่งงานกับเจตต์ แฟนของเธอแล้วก็ตาม ระหว่างนั้น เจตต์ถือของชำร่วยไว้ในมือเดินเข้าไปเรียกลีลาจะถามความเห็น แต่ลีลายังคงเหม่อคิดถึงเรื่องคาวี จนเจตต์ต้องเรียกซ้ำ "ลี เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซึมๆ เมื่อกี๊ผมเรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน คิดอะไรอยู่เหรอ ?" ลีลารู้สึกตัว ก็อึกอัก "เอ่อ ก็ คิดถึงงานแต่งอยู่น่ะค่ะ คือ ลียังกังวลหลายเรื่อง เหมือนยังเตรียมอะไรไม่เรียบร้อยเลย อีกสองวันจะถึงวันงานอยู่แล้ว" "ลีไม่ต้องกังวลไปนะ ผมจะพยายามทำให้เรียบร้อยทันเวลา ถึงงานแต่งงานของเราจะไม่หรูหราเหมือนคนอื่น แต่ผมจะตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด" เจตต์บีบมือลีลาด้วยความมั่นใจ ลีลามองหน้าเจตต์ ความอบอุ่นของเขาทำให้เธอยิ้มได้ และตัดใจจากคาวีไปได้ชั่วขณะ คิด พ่อของคาวี เข้ามาต่อว่าลูกชายที่หาเรื่องแกล้งเสาวภา จนต้องหาทีมงานใหม่มาจัดเตรียมงาน แต่คาวีไม่สนใจ คิดโมโหบอกว่าเสาวภาไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นเมียของเขา แต่คาวีกวน บอกว่าอีกหน่อยเขาก็ต้องเป็นประธานบริษัท และเสาวภาก็ต้องเป็นลูกจ้างเขา ถ้ารับไม่ได้ก็ให้ลาออกไป คิดมองคาวีแววตาผิดหวังอย่างแรง "แกนี่มันเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ แกเคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่นเขาบ้างหรือเปล่าหะ ว่าเขาจะคิดยังไง รู้สึกยังไง ฉันอยากรู้จริงๆว่า แกมีหัวใจหรือเปล่าตาวี?" คาวีฟังแล้วสะท้อนใจ พูดตอบกลับไปเสียงแข็ง "แล้วตอนที่ผมนอนป่วยอยู่ที่โรงเรียนประจำเป็นอาทิตย์ พ่อไม่เคยไปเยี่ยมผมแม้แต่วันเดียว แล้วก็ไม่คิดจะไปรับกลับบ้าน ตอนที่ผมเข้าเฝือกอยู่ โรงพยาบาลเป็นเดือนพ่อก็ไม่เคยไปนอนเฝ้าแม้แต่คืนเดียว นี่ยังไม่รวมตอนที่ผมอยู่เมืองนอก 5-6 ปี แต่พ่อไม่เคยไปเยี่ยมผมสักครั้ง ถ้าพ่อเป็นคนมีหัวใจ มันก็คงมีไว้สำหรับให้คนอื่น ไม่ใช่ผม" คิดยังไม่ยอมรับ "ก็แกทำตัวยังเนี้ย ใครจะไปรักลง แกต้องพิจารณาตัวเองแล้วว่าทำไมขนาดฉันเป็นพ่อ ฉันยังไม่อยากจะรักแก นี่กลับมาไม่ถึงอาทิตย์ สร้างเรื่องจนให้ฉันปวดหัวทุกวัน ฉันน่ะกลุ้มใจจริงๆที่มีลูกอย่างแก" คาวีเจ็บแปลบ "แล้วพ่อคิดว่าผมภูมิใจหรือไงครับ ที่เกิดเป็นลูกของพ่อ ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากเป็นลูกพ่อเหมือนกัน แต่ทำไงได้ในเมื่อผมไม่มีสิทธิ์เลือก แล้วพ่อก็เป็นคนทำให้ผมต้องเกิดมา พ่อก็รับผิดชอบต่อไปแล้วกัน อยู่แบบรักกันไม่ได้ ก็อยู่แบบเกลียดๆกันแบบนี้แหละ สะใจดี" คาวีหยิบเสื้อสูทแล้วเดินออกไป คาวีเดินออกจากห้องไป คิดโกรธจัดหน้าแดง และปวดแปลบขึ้นมาที่หน้าอก ทรุดตัวลง เอามือกุมหัวใจ เสาวภาเดินเข้ามาในห้องด้วยความตกใจรีบเข้าพยุง สักพักคิดรู้สึกดีขึ้น บอกว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ชวนให้เสาวภารีบนั่งรถไปดูงานด้วยกัน ก่อนที่คาวีจะทำงานให้ป่วนไปกว่านี้ โดยคิดบอกให้คนรถเตรียมรถไว้ แล้วเขาจะขับรถออกไปเอง ลีลายืนถือของชำร่วยยืนดูอยู่หน้าร้าน ลีลาอมยิ้มนิดๆ รถมอเตอร์ไซด์ของเจตต์เข้ามาเทียบรับลีลาที่ยืนรออยู่หน้าร้าน ทั้งสองคนยิ้มให้กัน ลีลาเก็บของใส่กระเป๋าสะพายแล้วขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์ เจตต์ขี่มอเตอร์ไซด์ ลีลานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง ทั้งสองคนมาในความเร็วพอประมาณ ลีลามองเจตต์จากข้างหลัง ลีลาโอบมือมากอดเอวเจตต์ไว้ด้วยความรัก เจตต์ยิ้มนิดๆด้วยความอบอุ่น ทันใดนั้นมีรถเลนส์ตรงข้ามขับแซงออกมาอย่างเร็ว รถเจตต์กำลังพุ่งเข้าชนกับรถที่แซงออกมา เจตต์ตกใจรีบหักรถหลบกะทันหัน รถเจตต์หักหลบล้มลงข้างทาง เจตต์และลีลาล้มกลิ้งกระเด็นกระดอน ลีลานอนสลบอยู่ที่พื้น ของชำร่วยตกเกลื่อนกระจาย ลีลาค่อยลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกเบลอๆ หันไปมองเจตต์ที่นอนแน่นิ่ง แล้วลีลาก็สติดับวูบ
จากคุณ :
ryjarja
- [
28 มี.ค. 51 20:56:38
]
|
|
|
|
|