ความคิดเห็นที่ 1 .... ขณะเดียวกัน Sam ที่ตอนนี้เกลี๊ยกล่อมและกลับมาคืนดีแม่ของเขาได้แล้ว ก็ยังเล่นเนียนแบบไม่มีใครสังเกตุ จนกระทั่งถึงตอนที่ หมอ Jack ได้มาบอกแม่ Clay ว่า "ผมเสียใจ ผมทำทุกสิ่งอย่างทุกอย่าง เท่าที่ทำได้แล้ว แต่ความสามารถอย่างสุดฝีมือของผมนั้น ก็ได้แค่นี้" แต่แม่ Clay ได้พูดสวนไปว่า "คุณลองพูดสิว่า คุณล้มเหลว! แน่จริงก็พูดออกมา" ตรงนี้เราเริ่มเห็นความรู้เสียใจของแม่คนนึงที่รักลูกอย่างสุดหัวใจซึ่งพึ่งเสียลูกชายสุดรักไป เพราะเธอไม่ยอมว่า หมอ Jack สุดฝีมือแล้วก็ช่วยลูกชายเธอไม่ได้ ถ้าล้มเหลวต่างหากน่าจะเป็นเหตุผลมากกว่า และทำให้เธอเริ่มสงสัยกับเลขาและลูกสะใภ้ของเธอว่า มันยังไงกัน ??? ขณะที่ยัย Samantha ได้เล่นบทน้ำตาไหลเสียใจ (ที่ช่างเนียนอยู่) แม่ Clay ได้แอบค้นกระเป๋าของหล่อน และพบว่าตัวตนที่แท้จริงที่ Sam ได้เป็นมาตลอดคือหมออินเทิรน์คนนึง และทำให้แม่ Clay เข้าใจกับสิ่งที่เธอสังเกตุในตัว Sam ก่อนหน้านี้ และเข้าใจแล้วว่า ทำไมยัยนี้มันต้องการตีซี้ก้บตัวเธอ! แม่ Sam จึงต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้ลูกรักของเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะรู้ว่าทางเดียวที่จะทำให้ลูกชายของเธอกลับมาได้ ก็ต้องแรกด้วยบางสิ่งบางอย่าง เนื่องจากว่า Clay เป็นคนเลือดกรุ๊ป O-Negative ซึ่งการตามหาคนที่มีหัวใจกรุ๊ปเลือดนี้หายากมาก! ฉะนั้นเธอจึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ด้วยการมอบหัวใจที่แข็งแกร่งของเธอให้กับ Clay และแจ้งให้หมออีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทโอนกรรมสิทธิ์การผ่าตัดครั้งนี้ให้หมอที่เธอไว้วางใจ ซึ่งเมื่อแม่ Clay ได้อย่างนั้น ทำให้แม่ Clay ไปหลุดอยู่ที่โลกจิตใต้สำนึกของ Clay และได้พบกับ Clay อีกครั้ง ซึ่ง Clay ก็แปลกใจที่ได้พบแม่ และเมื่อแม่ได้บอกทุกสิ่งทุกอย่าง Clay ก็ยังไม่รู้สึกตัวที่อยากจะกลับไป เพราะเขาเองยังรู้สึกผิดเรื่องพ่อของเขาที่จากไป ตรงนี้เองทำให้แม่ได้ให้ Clay ลองนึกเรื่องตอนสมัย Clay ยังเล็กว่าการตายของพ่อ จริงๆแล้วมัเป็นอย่างไร ? เพราะในวันนั้นพ่อพยายามจะมาทำร้าย Clay หลังจากที่พ่อเขาพึ่งโด๊บโคเคนอย่างหนัก แม่จึงเอาเหล็กฟาดหัวพ่อแต่พ่อกลับตายไป ทำให้ Clay ต้องเข้าใจใหม่ว่า ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นนี้ เกิดจากความรักที่แม่มีให้ต่อ Clay โดยเฉพาะ แม่ไม่เคยให้ใครมาทำร้ายลูกเป็นอันขาด เพราะลูกคือสุดที่รักและหัวใจของแม่ที่สุดของชีวิต เหตุการณ์ครั้งนั้นและครั้งนี้ ก็เป็นเหตุการณ์เดียวเหมือนกัน และต้องการให้ Clay ได้เข้าใจว่า "ไม่ใครรักลูกแม่จริง เท่าแม่คนนี้อีกแล้ว" มันจึงแป็นบทเรียนอันมีค่าที่ Clay ได้รับมาก่อนที่จะฟื้นกลับมา แล้วพบกับความจริงที่ว่าคนที่รักเราจริง ได้จากเราไปอย่างไม่มีวันหลับแล้ว (จุดนี้จึงเป็นจุดที่มีพลังให้กับตัวหนังอย่างเต็มเปี่ยมมากๆ และทำให้รู้ว่าหนังเรื่องนี้ดีแค่ไหน แล้วทำไมถ้าพลาดแล้วมันจะเสียใจ หากมาดูในแผ่นทีหลัง!) .... ส่วนพวกทีมของหมอ Jack ก็ต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อไป รวมถึง Sam ที่แสบสุดและไร้หัวใจสุดๆด้วย แต่ตอนเปิดเรื่องของหนังได้หลอกคนดูว่า Clay ตายแล้ว แต่อีก 2 ชม.ต่อมา Clay ได้ฟื้นขึ้นมาใหม่ หลังจากการผ่าตัดครั้งที่ 2 เพื่อนของเขาก็ต้องเอาตัวรอดตัวใครตัวมัน แม้กระทั่ง ยัย Sam ที่ไร้หัวใจคิดว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างนั้นหรือ ? (ด้วยเหตุผลที่ตัวเองเป็นศรีภรรยาของ Clay) แต่ขอโทษครับ หลักฐานอยู่ที่ Jack หมดแล้ว หนียังไงก็ไม่พ้น ก็กลายเป็นตัวละครที่คนดูสะใจสุดๆจากการกระทัที่เธอได้ก่อ สำหรับหมอ Jack เอง หนังยังบอกว่าการที่แต่ละครั้งที่เขาต้องตัดสินใจ หรือครุ่นคิดอะไรบางอย่าง มันก็บอกว่าเขายังรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรอยู่ มันแสดงว่า หมอนี่ยังมีความดีอยู่ในตัว! แต่การกระทำที่เขาคิดไม่ซื่อกับคนที่เขาไปหลอกว่าเป็นเพื่อนนั้น มันคือบาปที่เขาต้องรับไปและเขายอมรับกับผลที่จะตามมาในอนาคต เขารู้แล้วว่าในเมื่อความคิดและการกระทำของเขา ช่างชั่วช้านดักดาน มันก็ต้องรับบาปและบทเรียนราคาแพงไม่รู้ลืม อย่างน้อยที่เขารู้ในปัจจุบันก็คือ "Clayton Beresford ได้ฟื้นแล้ว" ภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่าดีกว่าคำวิจารณ์ที่นักวิจารณ์สหรัฐด่าเสียอีก (สำหรับผม) ผมกลับยังรู้สึกเลยว่า เหมือนดูหนังของพี่มาโนช หรือหนังของ Chriatopher Nolan ยังไงอย่างงั้นเลยแหละครับ! ต้องยกย่องให้กับหน้าที่ของผกก.หน้าใหม่และเขียนบทให้กับหนังที่ไอเดียถึงกึ๋นอย่าง Joby Harold เพราะตอนแรกจากคำวิจารณ์ที่แย่เอาการแบบ Number 23 และ Perfect Stranger ทำมห้ผมเริ่มลดความหวังจากหนังเรื่องนี้ หลังจากที่ได้ยลโฉมตัวอย่างหนังแล้ว แต่ตอนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ที่โรง Paragon เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลับทำให้รู้สึกแปลกใจหลายๆอย่าง อย่างแรกที่แปลกใจก็คือตอนเดินเข้าโณงก็ไม่ยักเห็นว่ามีคนดู เข้าไปดูเรื่องนี้ แต่พอเข้าไปในโรง ผมตะโดนในใจเลยว่า "โอ้มายก๊อด ทำไมมีคนมาดูเยอะขนาดนี้" ที่แปลกใจก็เพราะว่า หนังเรื่องนี้ในเมืองไทยไม่ได้โปรโมทอะไรกันเยอะมากมายมหาศาล กลับโปรโมทแค่ทางหนังสือพิมพ์และเว็บไซท์ และไม่โฆษณาในโทรทัศน์อีกด้วย ส่วนใหญ่ที่มาดูนี้วัยรุ่นมัธยมปลายกับวันรุ่นในช่วงมหาลัยทั้งนั้นล่ะครับ! นอกนั้นก็มีผู้ใหญ่นิดๆและก็พวกฝรั่งนิดหน่อย (แม่พาเด็กมาดูก้วย ทั้งๆที่เป็นหนังเรตอาร์นะ คาดว่าอาจเจอแบบนี้ในหนังลองของ 2 แน่ๆ) แต่ก็แปลกใจไม่หายว่าทำไมคนมาดูกันเยอะเกือบเต็มโรงขนาดนี้! ผมคิดนึกๆว่าพวกที่เข้ามาดูเนี๊ย ไม่ดู Hayden Christensen ไม่ก็ Jessica Alba โดยเฉพาะ Jessica Alba หลังๆไม่ว่าหนังเรื่องไหนที่ Jessica เล่นเนี๊ย คนก็แน่นโรงแทบทุกเรื่องเลย! ซึ่งสำหรับ Awake ผมไม่คาดคิดว่ากระแสที่คนไทยตอบรับให้กับหนังเรื่องนี้ จะดีขนาดนี้! .... อีกเรื่องคือการแสดงของทีมนักแสดงเรื่องนี้ ค่อนข้างระดับ Brillant ก็ว่าได้ เพราะทุกๆคนกับทำหน้าที่ได้สุดฝีมือมากๆในแต่ละคน คือแบบว่าขนาดนักแสดงบางคนในเรื่องที่บทไม่ค่อยเยอะก็ยังน่าจดจำเลยล่ะครับ (ผู้ช่วยหมอ Jack ทั้ง 2 คน, หมอที่มาดูแลการผ่าตัด และหมอที่มาทำการผ่าตัดรอบ 2 รวมถึงบทพ่อของ Clay อีกด้วย) ขณะตัวละครเด่นของเรื่อง ไม่ว่าจะ Clay กับการแสดงของ Hayden Christensen ในเรื่อง ที่บทนี้เป็นการพลิกแนวอีกครั้งหลังจากบท Anakin ผมชอบการแสดงอารมณ์ทางความสับสนที่เขามีให้กับคนรักที่เขาไว้ใจ โดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าทุกๆคนที่เขาไว้ใจกลับคิดไม่ซื่อกับเขา คือแบบว่าเป็นช่วงที่เราเห็นได้ใจเขาได้เลย น่าชมเชย Hayden Christensen ว่าเขามีการฟัฒนาการแสดงของเขามากขึ้นกว่าที่ผ่านมาจากที่เราเห็นก่อนหน้านี้ตั้งแต่ บท Anakin จาก Episode III (แต่ก็ยังแปลกใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับการแสดงของเขาใน Jumper ที่เหมือนทำให้เขากลับมาขี้แงอีกครั้ง!) น่าชื่นชมกับการแสดงของ Hayden ในเรื่องนี้, แต่ที่ต้องชื่นชมกว่าก็เห็นจะเป็น Jessica Alba ที่ร้ายสุดฤทธิ์ ร้ายแบบไร้หัวใจจริงๆ คือปกติจากที่เราเห็น Jess ในนอกจอและในหนังหลายๆเรื่อง เรากลับรู้สึกว่า Jessica ก็ยังเป็นแค่ Jessica Alba อยู่อย่างงั้น ยังเซ็กซี่ไม่เปลี่ยนและยังสวยไม่สร่าง แต่การแสดงของเธอยังเดิมๆ แต่กับบท Sam ในหนังเรื่องนี้ ทำเอาผมอึ้งไปเลย เพราะไม่คาดคิดว่า Jess ในหนังเรื่องนี้ จะร้ายแบบว่า เราไม่เห็นความเป็น Jessica Alba คนเดิมเลย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่า Jess นั้นสามารถทะลุกำแพงของตัวเองได้ จากบทที่เธอเคยเป็น และเมื่อวิญญาณจริงๆของตัวละคร Sam ได้เปิดตัวขึ้นมา ผมก็พบว่า นี่ไม่ใช่ Jessica ที่เป็น Jessica Alba คนเดิมที่ผมเคยเห็นอีกต่อไป กลับเป็น Sam ผู้หญิงที่ไร้หัวใจซะกระนั้น ถือว่าควรยกนิ้วเป็นอย่างมาก และผมเองก็อยากจะเห็นบทของ Jessica Alba แบบนี้อีกครั้งในครั้งต่อไป ก็คงจะดี น่าชื่นชมอีกราย, อีกคนนึงคือ Tarrance Howards ตั้งแต่พ่อเล้าใน Hustle & Flow ที่ทำให้เขาแจ้งเกิดจนได้ชิงออสการ์ ก็ทำให้เขามีบทดีๆตามมา ก่อนหน้า Awake นี้ก็มีบทที่ผมชอบมากๆคือเรื่อง The Brave One ทีเรื่องนั้นเขาแสดงได้ดีไม่แพ้ Jodie Foster มาในเรื่อง Awake กับบทหมอ Jack กลับรู้สึกว่าการแสดงของเขาเรื่องนี้ ช่างลุ่มลึกและมีพลังกว่าที่ผ่านมา เป็นผู้ชายชั่วที่ยังมีความดีอยู่ข้างในตัวเขา ทำให้แทนที่เราจะรู้สึกเกลียดตัวละครนี้อย่างสุดๆ แต่ลึกๆแล้วกลับเป็นตัวละครที่น่าสงสารอย่างมาก ที่เขานั้นต้องกระทำไม่ซื่อกับเพื่อนเขา และที่ทำไปก็เพื่อผลประโยชน์คนอื่นกับนิสัยที่ติดมือเขามาตลอด หลอกคนไข้และเอาหัวใจเขาออกมา ค่อนข้างป็นตัวละครที่คนดูสามารถเกลียดเขาและสงสารเขาไปพร้อมๆกันได้ภายในเวลาเดียวกัน! และอีกคนนึงที่ผมประทับใจอย่างมากก็เห็นจะเป็น Lena Olin ถือว่าการแสดงของเธอเป็นหัวใจของเรื่องก็ว่าได้ บทแม่ของ Clay ดูแรกๆผมคิดว่าหลายๆคนนึกถึงพวกแม่พระเอกละครน้ำเน่า ที่แม่พระเอกไม่ยอมให้แต่งกับนางเอกประมาณนั้น แต่ความจริงบทเธอเป็นสิ่งที่ไม่คาดว่า เธอจะแสดงได้เต็มเปี่ยมขนาดนี้ ในช่วงตอนที่เธอเสียสละหัวใจของเธอให้ลูกชายของเธอ ถือว่าฉากหรือการแสดงที่จัดได้ว่าทรงพลัง มันแสดงให้เห็นว่า ความรักของแม่ยิ่งใหญ่กว่าความรักอื่นๆ และถึงแม้ว่าในหัวใจลูกเองจะไม่มีแม่อยู่ในใจอันดับ 1 ก็ตาม แต่ในหัวใจแม่ลูกยังคงเป็นอันดับ 1 เสมอมา ฉนั้นการแสดงของ Olin ในเรื่องนี้ ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ความเป็นแม่มากกว่าตอนที่เธอเล่นเป็นแม่นางเอกในซีรี่ส์เรื่อง Alias (เพราะว่าเรื่องนั้น แม่นางเอกเป็นคนไม่ซื่อ หลอกทุกคน รวมถึงหลอกทั้งผัวและลูกด้วย) น่าชื่นชมกับการแสดงของ Lena Olin ในหนังเรื่องนี้ ที่เราไม่ได้เห็นการแสดงดีๆของเธอแบบนี้มานานแล้ว! (มีต่อ) จากคุณ : billy bob - [ 5 เม.ย. 51 03:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพยนตร์เรื่อง Awake โดยรวมแล้ว ไม่ใช่หนังแนวระทึกขวัญ-ตื่นเต้น-ดราม่า เป็นอย่างเดียว แต่นี่เป็นเหมือนหนังแม่-ลูกที่ดีเรื่องนึงที่ถูกสอดแทรกเข้ากับเนื้อเรื่อง จนคนพึ่งมารู้สึกที่หลังว่า หนังเรื่องนี้มีการพลิกโผเนื้อเรื่อง ให้คนดูรู้สึกเปลี่ยนไปกับตัวละครใฝนช่วงครึ่งหลัง ด้วยการแสดงอันแสนทมีศักยภาพของนักแสดง และการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ภาพยนตร์เรื่องจึงการเป็นหนังอีกเรื่องของปีนี้ที่ผมประทับใจเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าในตัวอย่างหนังนำเสนอเนื้อเรื่องครึ่งนึง และด้วยชื่อของนักแสดงชื่อดังอย่าง Jessica Alba และ Hayden Christensen แต่กระนั้นไม่ได้หมายความว่า หนังเรื่องนี้จะเป้นหนังที่ขายดาราก็ตาม และเราเดาเรื่องง่าย ความจริงหนังเสร็จผมตั้งแต่ตอนครึ่งเรื่องแล้ว จากการที่มาเปลี่ยนความคนดูแบบพลิกผันเกินคาด ซึ่งผลที่ได้กลับทำให้เรารู้สึกว่า หนังได้หลอกความรู้เราเต็มๆแบบที่เราไม่ได้ตั้งตัว ทั้งๆที่เชื่อกันว่า ขณะที่ดูหนังเรื่องต้องมีใครบางคนแอบคิดเดาเนื้อเรื่องว่าจะเป็นไง แต่สุดท้ายตัวละครที่ทำให้คนดูรู้สึกหลงรักในตัวเธอ กลายเป็นตัวละครที่ร้ายกาจที่สุด ที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้ในเหตุกรณ์ต่อมา และเมื่อช่วงครึ่งหลังมันได้เปลี่ยนอารมณ์หนัง มันก็ทำให้รู้ทันทีว่า "ในเรื่อง ไม่มีใครรัก Clay จริงๆ คนที่รักเขาจริงๆคือแม่ของเขา" ค่อนข้างซึ้งใจในบทสรุปของหนังที่แม่สามารถทำให้ลูกทุกๆอย่าง และไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แม่ก็จะเป็นผู้ปกปเองลูกเสมอมา ไม่ว่าเล็กจนโต แม่จะเป็นคนที่ดูแลลูกและรักลูกสมอมา หนังเรื่อง Awake จึงกลายเป็นหนังแม่-ลูกที่ควรค่าแก่การจดจำอย่างมาก พอๆกับหนังที่ไปรีเมคมาจากหนังญี่ปุ่น อย่างเรื่อง The Ring 1-2 และ Dark Water ที่เน้นประเด็นเรื่องแม่ลูก จนรู้สึกลึกซึ้งชวนน้ำตาไหลเป็นอย่างยิ่ง! สรุปแล้ว: ค่อนข้างเป็นหนังที่ผมแปลกใจมากเรื่องนึงในปีนี้ ที่ทำออกมาได้น่าประทับใจกว่าที่คาดคิด เพราะจากตัวอย่างหนังที่ไม่ได้โปรโมทน่าสนใจอะไรมาก อาจจะซ้ำซากมากๆซะด้วย แต่ไอ้ความรู้สึกดูมันเปลี่ยนตัวผมเองทันที แล้วด้วยความรู้สึดตอนที่คนดูเกือบจะเต็มโรง ซึ้งน่าแปลกใจมากๆว่า ชื่อของ Jessica Alba และ Hayden Christensen มันคลังขนาดนี้จนคนมาดูเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ??? แต่ก็เอาเหอะ เพราะตอนแรกนึกว่าตอนดู จะเป็นหนังที่คนดูน้อยซะแล้ว ที่ไหนได้กลับได้เพื่อนดูหนังเยอะแน่ะ สำหรับภาพยนตร์ผมถือว่าโอเคกว่าหนังประเภทมีจุดหักมุมบางเรื่องที่ฉายช่วงนี้ นับตั้งแต่ The Forgotten หรือ Perfect Starnger หรือหนังไทยบางเรื่องที่ไม่รู้จะมีจุดหักมุมทำไม (ทั้งๆที่เป็นหนังฟูมฟาย) อย่าง โคตรรักเอ็ง และ โปงลางสะดิ้ง เป็นต้น ถือว่าเป็นหนังเรื่องนึงที่ทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งพระคุณน้ำใจแม่เหลือเกิน มันแสดงให้เห็นว่าแค่นี้แม่รักลูกมากแค่ไหนแล้ว! เป็นหนังที่ดีเรื่องกว่าที่คาดไว้ ที่อยากด่านักวิจารณ์ว่า ทำไมได้คะแนนมาน้อยวะ ? และมันเป็นหนังที่บันเทิงให้กับคนดูตลอดเวลา ทำไมให้โอกาสกับหนังที่ดีๆที่เล่าเรื่องสนุกและมีประเด็นดีๆแบบเรื่อง Awkae นี้ไม่ได้เลยหรือไง สำหรับผมแล้ว ผมค่อนชอบหนังเรื่องนี้ และถึงแม้ว่าความยาวของหนังเรื่องนี้ประมาณ 85 นาที จะสั้นไป แต่เป็นหนังที่ผมประทับใจเรื่องนึงของปีนี้เรียบร้อยแล้วครับ ผมจึงให้ 8.5/10 ครับ! และเชื่อๆว่าคงมีคนชอบหนังเรื่องนี้แบบที่ผมชอบแน่ๆล่ะครับ! ปล. ไปดู Vantage Point มาแล้ว โดยรวมชอบกว่าที่คาดไว้ เพราะก่อนดูมีเสียงคำวิจารณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับหนังเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกว่าหนังมีส่วนผสมระหว่าง "24" และ "Pulp Fiction" เข้ากันอย่างลงตัวแบบบอกไม่ถูก แถมมันเป็นหนังบันเทิงที่มีชั้นเชิงเท่าที่ดูมาในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่ามานี้! คงจะพยายามมาเขียนให้อ่านกันช่วงนี้ แต่ขณะเดียวกัน ผมก็เขียนบทความอีกเรื่องอ่ะครับ ซึ่งด็ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว " จาก "Across The Universe" จนถึง "ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น", ความรักในนิยาย ความรักในภาพยนตร์ ความรักในความเป็นจริง" ที่ยืดเยื้อมานานก็เพราะว่าค่อนข้างต้องการจะเปรียบเทียบความรักที่ผมเจอมากับความรักที่ผมพบในภายนตร์อ่ะครับ บางครั้งมันก็รู้สึดว่าบังเอิญจนบอกไม่ถูก แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งมันเหมือนกับว่า มีหนังเรื่องนึงกำลังสร้างเรื่องรักของเราอยู่ แบบที่เราไม่รู้ตัว ค่อนข้างอยากจะเขียนในเชิงอภิปรายและเปรียบเทียบน่ะครับ ผมคิดว่าหลังสงกรานต์เราอาจจะได้อ่านกัน! แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 51 03:09:40 จากคุณ : billy bob - [ 5 เม.ย. 51 03:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตาย อ่านไม่จบหลับพอดี จากคุณ : Stefanz - [ 5 เม.ย. 51 03:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวผม ชอบโครงเรื่องนี้ครับ ชอบการนำเสนอ แต่ยังไม่รู้สึกถึงความอึ้ง หรือมีอะไรที่พิเศษกับหนังเรื่องนี้เท่าไหร ผมชอบที่คุณเขียนตรงที่ว่า "ในเรื่อง ไม่มีใครรัก Clay จริงๆ คนที่รักเขาจริงๆคือแม่ของเขา" ไม่ว่าแม่จะบังคับ จะทำอะไรให้คุณรำคาญแค่ไหน แต่แม่ก็ต้องเลือกทางที่ดีที่สุด ให้เราแน่นอน คงเพราะ คาดหวังไว้เยอะมั้งครับ เป็นเรื่องที่เสียเวลาไปนั่งดูเลยทีเดียว เพราะ ส่วนตัวดูในหนังตัวอย่างแล้วรู้สึกชอบแนวๆ นี้ แต่ตตัวหนัง กับหนังตัวอย่าง ผมรู้สึกว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย นอกจากจะทำการหักมุมนิดหน่อย ที่ดูแล้วไม่ถึงกับอึ้งมาก จะอึ้งก็ตอนที่แม่ ทำทุกอย่างเพื่อลูกได้จริงๆ แล้วเรื่องเพื่อนของพระเอกที่ยอมให้ลงมือผ่าตัด ยังดูไม่ออกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมากพอที่จะเชื่อใจได้ ขอให้ที่ 7/10 แล้วกันครับ ปล. ผมรู้สึกคุณเขียนเยอะไปนะครับ ดูตัวหนังสือยาวๆ อ่านไม่ไหว เลยขออ่านแค่สรุปนะครับ จากคุณ : Lodlem - [ 5 เม.ย. 51 04:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สปอยล์ตั้งแต่ชื่อกระทู้เลยนะคะ จุดหักมุมที่สำคัญตอนจบก็คือชื่อกระทู้นั่นแหละค่ะ T_T จากคุณ : แมวร้องแง้วๆ - [ 5 เม.ย. 51 07:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคนที่ยังไม่ได้ดูแล้วรู้ล่วงหน้าว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ "ไม่มีใครรักคุณจริงเท่าแม่ของคุณอีกแล้ว" เวลาดูไปก็ต้องคอยนึกว่าเมื่อไรแม่จะแสดงความรักกับพระเอกซะทีๆๆๆๆ เพราะทั้งเรื่องจะยังไม่มีแววว่าแม่จะรักพระเอกจนกว่าจะตอนจบ และเมื่อถึงตอนที่แม่พระเอกนิ่ง.......ในตอนเกือบท้ายเรื่อง ก็จะหมดสนุกทันทีเพราะดันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าที่เธอเป็นอย่างนี้ก็เพราะทำเพื่อพระเอกแน่ แบบนี้อดลุ้นเนื้อเรื่องต่อจากนั้นเลยนะคะ T_T จากคุณ : แมวร้องแง้วๆ - [ 5 เม.ย. 51 07:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีเวลาไปดูหนังเรื่องนี้คะ เลยอ่านจนจบเลย... คุณbilly bobมีความตั้งใจดี เขียนมาให้อ่าน น่าจะขอบคุณกันหน่อยนะคะ^^ จากคุณ : BelBelLe - [ 5 เม.ย. 51 09:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ จขกท.ที่ตั้งกระทู้นี้ครับ ผมเพิ่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อวานนี้เอง โห....เนื้อเรื่องที่หักมุม ทำเอาอึ้งไปมาก ๆ แต่ไม่อยากตั้งกระทู้ เพราะหนังฉายไปหลายวันแล้ว พอแม่ทราบความจริงเกี่ยวกับการผ่าตัดของลูก จึงยอมสละชีวิตตนเอง....โดนใจมากมาย ไม่นึกว่าจะขนาดนี้ เยี่ยมมากครับเรื่องนี้ จากคุณ : Capt.Cook - [ 5 เม.ย. 51 09:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รู้สึกว่าเขาไม่ได้จะเอาหัวใจพระเอกไปขายต่อนะ รู้สึกจะเกี่ยวกับเงินประกันไรเนี่ยแหละ แผนนี้จะไม่สำเร็จถ้าแซมไม่ได้แต่งงานกับเคลย์ก่อน แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 51 10:51:49 จากคุณ : OverSeer - [ 5 เม.ย. 51 10:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอาหัวใจคนที่ยังไม่ตายมาใส่ดื้อๆแบบนี้ได้ไง จากคุณ : I want to change the world - [ 5 เม.ย. 51 21:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กึ๋น เป็นที่พักกระเพาะ ไม่ใช่สมอง (ชีวะ ม.4) Awake มีการ โฆษณา ทางโทรทัศน์ แต่ไม่่มาก หนังดีครับ หนังดี จากคุณ : bOoKillusion - [ 5 เม.ย. 51 22:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ่อ แต่ผมมองว่ามันเป็นหนังที่น่าเบื่อเอามากๆๆ แถมไอ้พล็อตที่พยามทำซึ้งตอนท้ายว่า แม่สามารถทำทุกอย่างได้เพื่อลูกมันดูขัดๆ กับตอนต้นเรื่องพิลึก ที่บทหนังเขียนยังกับว่านังแม่คนนี้ โคตรเอาแต่ใจ บงการลูกชายอย่างรุนแรง แถมการเฉลยปมก็ดูประดักประเดิดพิลึก ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นหนังดี แม้แต่น้อย และ กลับรู้สึกว่ามันเป็นหนัง "ระทึกขวัญ" เรื่องแรกที่อยากหลับ ทุก 10 นาที จากคุณ : เด็กม.ปลาย (Onlineza) - [ วันจักรี 00:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สุดยอดครับ ชอบมากๆเลยเพิ่งดูจบไปตะกี้นี้เอง แต่หัวกระทู้นี่สปอยนิดนึงอย่างที่บอกจิงๆนะคับ โชคดีที่ผมไม่ได้อ่านที่ไหนมาก่อนเลยได้อรรถรสเต็มที่ พลอตเรื่องพอเดาออกได้แต่ตรงที่ผมว่าหักมุมจริงๆคือตอนที่แม่ ทำตัวบงการชีวิตพระเอกมาตลอดกลับกลายเป็นคนที่เสียสละและรักลูกมากที่สุด จากคุณ : popping - [ 7 เม.ย. 51 01:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านยังไม่จบแต่ขอขอบคุณมากคะ เรื่องนี้เป็นหนังที่เราอยากดูเพราะว่า เฮเดนเล่นในตอนแรก และเฝ้าคอยจะดู แต่ก็ไม่สามารถดูได้เพราะติดภารกิจไปต่างประเทศซะนี่ = = ดังนั้น บทสรุปที่กระทู้นี้ทำให้เรารู้สึกว่า ขอขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้คนที่ม่ได้มีโอกาสดูในโรได้รู้ แต่ยังไงก้ตาม อยากดูในโรงภาพยนต์จริงๆแหะ ยิ่งอ่านยิ่งอยากดู จากคุณ : yamion - [ 30 เม.ย. 51 14:31:35 ]