CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "ลองของ 2" ... การลองครั้งต่อมา ที่ผมโดนของเข้าตัว มากกว่าภาคแรก

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (2 คน)
      เกรด B -> 6-8 คะแนน (7 คน)
      เกรด C -> 3-5 คะแนน (2 คน)
      เกรด D -> 1-2 คะแนน (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     16.67%
     58.33%
     16.67%
     8.33%


    "ภาพยนตร์ไทยไสยศาสตร์ เสียวสยอง ทุก 2 นาที" ...นี่คือ ประโยคฮุกเด็ด ที่เคยน๊อกสองตา สร้างความน่าสนใจจากคอหนังไทยมาได้พอสมควร กับหนังที่เหมือนจะถูกทำขึ้นมาให้เป็นภาคต่อ(อีกต่อหนึ่ง) จาก "คนเล่นของ" (เพิ่งเหลือบไปดูปกหลังวีซีดีเมื่อวันสองวันก่อน ...เลยรู้ว่า มีนางเอกเป็น "กระแต-ศุภักษร" นะนั่น) ...แล้วเมื่อมันดั้นฮิตขึ้นมาดื้อๆ ก็เลยเป็นเหตุที่ถูกเอามาสานต่อเป็นภาคต่อตัวจริงฉบับแท้ของ "ลองของ" อีกทีหนึ่ง!!?

    ถ้าถามถึงความรู้สึกของที่มีต่อ ลองของ ภาคแรกนั้น ...ก็คิดและเห็นด้วย(กับคนส่วนใหญ่)ว่า มันเป็นหนังสยองที่ดี บทดี การแสดงของ "มะหมี่-นภคปภา" ที่สวมวิญญาณคาแรกเตอร์ "ครูพนอ" ได้ดี(จนน่าหมั่นไส้ลูกเสี่ยที่คุณก็รู้ว่าใคร...ที่ดัน..จน..ได้ดีไปแทนซึ่งๆหน้า) ...แต่ความดีนี้ ก็ไม่ได้มีผลให้ผมต้องชมชอบตาม เพราะมันก็ยังเป็นแค่หนังที่่สรรสร้างจุดหักมุมที่ตะลึงงันได้ แต่กลับไม่ได้ใจอะไรนัก ด้วยความที่มันขาย เสียวและสยอง จนเกินเลยจุดพอดี (ถึงจะไม่เป็นจริง ในทุกๆ 2 นาที...ที่โปรยซะเว่อร์ก็ตามทีเหอะ) ...ฉะนั้นแล้ว ผมจึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไรที่จะได้เห็นภาคสอง ตามออกมา โกยเงินอีกสักหน

    "ลองของ 2" ...เล่าเรื่องในช่วงเวลาที่เกิดขึ้นหลังจาก เหตุการณ์ที่ ครูพนอ กินเนื้อของคนทำของให้ตัวเอง เพื่อถอนวิชาที่เข้าตัว... แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ แล้วยังถูกจับให้เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ...ตกอยู่ภายใต้การดูแลของพยาบาลสาว "เพ็ญ" ซึ่งดันมามีความข้องเกี่ยวกับครูพนอ ในแง่ของความสัมพันธ์ที่ไม่น่าจดจำ ...เนื่องเพราะครอบครัวของ เพ็ญ เคยเข้าใจว่า ครูพนอ เป็นตัวการที่ทำให้สามีของพี่สาว "เดือน" และพ่อของ "ต๊ะ" (อีกหนึ่งตัวละครจากภาคแรก...ผู้เคยชักนำบรรดาเพื่อนฝูงมาตายพร้อมๆกัน) ต้องผันเปลี่ยนมาคบเธอเป็นชู้รัก ...แล้วอาจเป็นคนที่มากรอกหูให้พ่อของต๊ะ ฆ่าเมียหลวงให้ตายไป เพื่อมาคบกับเธอได้อย่างสะดวกทาง

    เนื่องด้วยหนี้ความแค้นที่ฝังจิตฝังใจของทุกคนมาตลอดเวลาสิบกว่าปี ...เมื่อ ต๊ะ คืนกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากหนีหายไปทำใจเรื่องแม่ เขาจึงถูกคนในครอบครัวบังคับให้เข้าร่วมพิธีปลุกวิญญาณของแม่ เพื่อแลกร่างมาเข้าสิงบนเรือนกายของ ครูพนอโดยมีหมอผี "ดิษฐ์"ผู้นำในพิธีนี้ ที่จะช่วยทำให้หนี้แค้นของทุกคนที่มีต่อ ครูพนอ จบสิ้นลงอย่างสำเร็จ

    แต่แล้วมันก็เกิดความผิดพลาดขึ้นมา เมื่อร่างของครูพนอ ที่สิงสถิต "เทพสามตา" อยู่ในขณะนั้น...ไม่ยอมรับการเข้ามาของวิญญาณใหม่ ...และนั่นจึงทำให้ ดิษฐ์ ผู้ที่หมายมั่นตามล่า เทพสามตา มาเนิ่นนาน ก็หมายกลับมาฆ่า ครูพนอ ให้สิ้นชีวิตซะ ...แต่ก็มีปัญหาอยู่อย่างใน การจัดการคนที่มี เทพสามตา ซึ่งยากยิ่งที่จะเอาชนะ ต่อให้งัดของเจ๋งๆอะไรต่อมิอะไรที่ ดิษฐ์ ก็มีอยู่หลากหลาย มาสู้ก็เหอะ

    การดำเนินเรื่องของ ลองของ 2 ...ไม่ได้ทำการใช้รูปแบบแถกสีข้าง สานต่อเนื่องมาจากเรื่องราวในภาคแรก ที่ถึงจะจบดีไปอย่างไร ก็ยังกล้าขุดคนที่ตายไปให้คืนชีพอีกหน (หรือจะให้แถกเนียนๆหน่อย ...ก็หาทายาทครูพนอ มารับไม้สองท่องมนต์เขมรกันต่อไป) ...แต่เลือกใช้กลวิธีที่ภาคก่อนเคยเหลือช่องโหว่บางจุดเอาไว้ แล้วมาเล่าในมุมที่เห็น ครูพนอ เป็นตัวละครเอก ...พลิกภาพจากการเป็นผู้กระทำอันเหี้ยมโหด มากลายเป็นคนโดนกระทำแต่แรก ที่สุดท้ายก็รอดมาเพื่อเอาคืนกันอีกหน ...พูดให้เห็นภาพสักหน่อย ก็คิดเสียว่า ครูพนอ เป็น The Bride แห่ง Kill Bill นั่นแหละ (แหม! คิดไปได้)

    นอกไปจากการเล่าถึงเรื่องความหลังที่ขาดหายไป ...ในบางห้วงเวลาของภาคนี้ ก็ยังมีฉากบางฉากที่ถูกทำขึ้นมาให้คาบเกี่ยวกับภาคแรก ...ส่วนตัวพลอตเรื่องของภาคสอง ก็ทำการแบ่งทอนเรื่องไสยศาสตร์ที่เน้นๆในคราวก่อน มาเบี่ยงประเด็นเล่นดรามา กับช่วงชีวิตหนึ่งของ ครูพนอ ที่เคยเป็นจุดพลิกผันให้เธอต้องกลายมาเป็นคนอำมหิตผิดมนุษย์ อย่างในภาพที่ยังจำจาก ภาคก่อน

    ถ้าพูดถึงเรื่องของการสร้างเหตุและผลมาเชื่อมต่อ และสร้างความเกี่ยวเนื่องกับตัวเรื่องต้นฉบับ ...ลองของ 2 สามารถทำมันออกมาได้ดี เล่าได้ล้ำลึกกับการผูกเหตุการณ์ในภาคก่อน มาหวนให้เราคิดถึงได้สนุก ...แม้เรื่องของความแพรวพราว บิดไปหักมา แทบจะไม่มี แต่ในมุมที่หนังไม่พยายามทำให้ตัวเองสับสน ก็เป็นเรื่องดีในแง่การอยากติดตามของคนดู ที่ไม่ต้องการอะไรที่หนักๆ และผมก็เป็นคนนั้น ที่ไม่อยากจะเห็นภาคสอง เจริญรอยตามภาคแรก แบบเป๊ะๆ ทั้งในเรื่องราวอันซับซ้อน และสโลแกนที่ยังจำได้ติดใจ

    ทีมงานคนทำจากภาคแรกที่ยังยกกันมาทั้งกะบิ ในชื่อ "โรนินทีม" (หนึ่งในเจ็ดคนนี้..ก็มีผู้กำกับรุ่นใหม่ฝีมือน่าจับตา อย่าง "ก้องเกียรติ โขมศิริ" เป็นโต้โผ ที่ก้่าวหน้ากว่าใครเพื่อนกับ "ไชยา" เมื่อปีก่อน) ...มีพัฒนาการ ในการเขียนบท กำกับเรื่องราวที่ค่อนข้างลงตัวกว่าภาคก่อน ...เริ่มจากการลดบทบาทของความเสียวสยอง จากถี่ๆ อันน่าสะอินสะเอียน มาเป็นห่างๆ โดยมีของให้เล่นไม่มากไม่มายเท่า แต่ก็ล้วนได้ผลกับความระทึกที่รู้สึกจับต้องได้มากขึ้น ...ส่วนโทนเรื่องที่ปล่อยให้ดรามานำมานั้น ก็พอจะมีอะไรให้ติดในห้วงระลึกของคนดูอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้รุนแรงอะไรนัก ก็ยังนับว่าที่มีอยู่ ล้วนเป็นประเด็นสะท้อนสังคมไทยที่น่าสนใจ

    แต่ก็น่าเสียดายที่ เรื่องราวในภาคสองนี้ มีความพยายามตั้งแง่สอนใจคนดูอย่างเด่นชัด น่าขัดอารมณ์เกินไปหน่อย ...มันอาจจะมาพร้อมกับคำพูดที่ดูสวยหรูน่าคิดถึง แต่ความสะดุดหูก็เกิดขึ้นเพราะความตรงไปตรงมาที่พาลให้คิดว่าการมีภาคต่อ ก็อาจเพื่อประโยชน์เข้าทางธรรมอย่างลึกซึ้งเป็นสำคัญ ...ซึ่งถ้าวิธีการสอนถูกเล่าออกมา เพียงการกระทำที่ให้ผลลัพธ์อย่างในหนังนั้น ถึงจะทำแบบแอบๆ อ้อมๆ ด้วยกลการอย่างไร มันย่อมดูหลักแหลม และคงน่าใคร่จดจำเสียมากกว่า

    ถึงกระนั้น ที่่ว่ามาในส่วนเบื้องหลัง นั่นก็ไม่ใช่จุดที่ผมต้องการให้ออกมาดีเลิศอะไรนักหนา ...เพราะสิ่งน่าสนใจที่ผมมีให้ลองของ 2 มากกว่าอื่นใด ก็ต้องยกเป็นผลประโยชน์ให้ การกลับมาแสดงเป็นครูพนออีกหน ของ มะหมี่-นภคปภา อดีตผู้พลาดหวังจากรางวัลนำหญิง สุพรรณหงส์ เพราะหนังภาคแรก(ในสายตากรรมการ) บทบาทของเธอควรค่่าชิงตำแหน่ง ประกอบหญิงมากกว่า ซะอย่างงั้น ...ฉะนั้นแล้ว การกลับมาในภาคต่อ จึงถูกยกให้เป็นหนังของเธอ(แทบจะ)โดยเฉพาะเน้นๆ ...และเธอก็ยังทำได้อย่างแน่นอน ไม่มีเรื่องอันน่าผิดหวังใดๆมาลบคะแนน ความน่ากลัวชวนขยาด ที่ครูพนอเคยตั้งมาตรฐานเอาไว้ในภาคก่อน ...แค่เพียงการพร่ำพูดท่องมนต์เขมร ก็ยังคงตรึงคนดูให้รู้สึกเสมือนเป็นเหยื่อโดนเล่นของเช่นเคย

    ส่วนตัวละครอื่นๆ ที่เข้ามาล้อมรอบเป็นบริวารครูพนอ อาจจะไม่ได้ถึงขั้นถูกลืมจากจอ แต่ก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงในแง่น่าจดจำ...  นักร้องสาวเสียงใส "แคล-แคลอรีน" ถึงจะเพิ่งเล่นหนังเป็นเรื่องแรก และทำได้ในระดับที่ไม่รู้สึกว่าเป็นหน้าใหม่ แต่ก็ไม่อาจเด่นไปกว่า มะหมี่ ที่เข้าใจและเข้าถึงบทบาทมากกว่า ...และก็ค่อนข้างน่าเสียดายอย่างมากที่หนังหาทางนำเอามืออาชีพ "ปวีณา ชารีฟสกุล" กับ "สมมาตร ไพรหิรัญ" มาใช้งานน้อย จนแทบไม่ส่งผลให้เราจะคล้อยตามความเป็นไปของคนทั้งสอง

    "ลองของ 2" ... แม้ตัวผมจะยังคงคิดว่าการเล่นของในครั้งนี้ ทำได้แรงไม่เต็มที่ (พูดแบบคุณไสย ...ก็ประมาณ เสกหนังควายไม่เต็มท้อง) ...แต่ในแง่ของความสนุก ก็เป็นภาคต่อที่ทำออกมาได้ดี ค่อนข้างลงตัว ทั้งดูด้วยความระทึกใจที่มีมากกว่า ชวนให้น่าติดตามกว่าครั้งที่แล้ว หรือแค่ได้ดู มะหมี่ ก็คุ้มค่าแล้ว

    สำหรับคนที่เคยได้ดูภาคแรกมา ย่อมถือว่าน่าดูในระดับหนึ่ง ...ส่วนกับคนที่อาจยังไม่ได้ดูต้นฉบับ แต่มีความอยากในครั้งนี้ ก็ขอแนะให้หาภาคแรกมาดูก่อนโดยด่วน มิฉะนั้นอาจมีมีนตึ้บๆ ...หรือแม้กระทั่งกับคนที่เคยดูภาคแรก มาแล้วดันหลงลืมซะเยอะ (เช่น ผมคนหนึ่ง) ก็ต้องขอบอกว่า เอะใจบ่อยเหลือเกิน

    เกรด B+

    หนังเกรด A ...ที่ผมขอเชียร์ให้ไปดูตอนนี้ :

    "ดรีมทีม" ...สั้นๆง่ายๆ ...หนังเรื่องนี้น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก ...เป็นกล้วยทอด!!! ไร้น้ำมัน ที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย จริงๆครับ

    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=onceupon&month=04-2008&date=08&group=2&gblog=124

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลงความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของ จขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 9 เม.ย. 51 21:22:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom