อ่านจุดประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้ก่อนนะครับ
อาจจะมีบางท่านนำข้อความในกระทู้นี้ไปอ้างอิงอย่างไรก็ตาม
ตอนที่ถามผมไม่ได้สอบถามความเห็นคุณกฤษณา เรื่องฉากข่มขืนที่มีเพิ่มขึ้นครับ ไม่แน่ใจว่าท่านทราบหรือไม่
ไม่ อยากให้เอาไปฟันธงว่า ละครเรื่องนี้ดี เพราะผู้ประพันธ์ชอบ หรือเอาเป็นข้อหักล้างว่า ก็ขนาดผุ้ประพันธ์ ชมขนาดนี้แล้วจะยังต่อว่าอะไรกันอีก
ขอให้อ่านอย่างตั้งใจจะพบว่าคุณกฤษณา ตอบอย่างเป็นกลางมาก
ผมไม่อยากให้การตั้งกระทู้ของผมครั้งนี้ทำให้ใครรู้สึกไม่ดีกับผู้ประพันธ์ หรือว่ามีใครใช้กระทู้นี้ในการถกเถียงเอาชนะใครนะครับ
เจตนาของผมในการสอบถามคุณกฤษณา และตั้งกระทู้นี้คือ เพื่อตอบข้อสงสัยบางข้อที่เพื่อนๆ ได้พูดคุยกันและผมเคยตั้งกระทู้ถามไว้
ขอได้โปรดรับทราบเจตนาของผมด้วยครับ
หาก ท่านใดอ่านกระทู้นี้แล้วมีความไม่พอใจขอได้โปรดทุ่มความไม่พอใจนั้นให้ผมใน ฐานะที่มาเขียนกระทู้ ด้วยเถิดครับ เนื่องจากผมอาจจะไม่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่คุณกฤษณาตอบผมได้ทุกถ้อยคำ จึงอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน หรือความไม่พอใจต่อผู้อ่านบางท่านได้
ขอบคุณครับ
.
.
.
เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 36 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มาครับ
แน่นอนบูธหนึ่งที่ผมไปเยือนคือบูธ เพื่อนดี / อักษรโสภณ ซึ่งพิมพ์เรื่อง สวรรค์เบี่ยง วันนี้คุณกฤษณา อโศกสิน เจ้าของบทประพันธ์มาแจกลายเซ็นด้วยครับ
เห็นคนเริ่มว่างๆ เลยมีโอกาสได้ถามคุณกฤษณา ถึงละครสวรรค์เบี่ยงเวอร์ชั่น 2008 ที่กำลังออนแอร์อยู่ ผมไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน เลยถามคำถามเท่าที่พอจำได้เท่านั้น ไม่ได้ถ่ายรูปหรืออัดเทปไว้นะครับ
รพินทร์ : คุณกฤษณา ได้ชมละครหรือเปล่าครับ
คุณกฤษณา : ติดตามค่ะ ดูอยู่ทุกตอน
รพินทร์ : ละครเป็นยังไงบ้างครับ
คุณกฤษณา : เล่นดีกันทุกคนเลย เรื่องก็เดินเร็ว
รพินทร์ : ทราบมาว่าบทละครมีเปลี่ยนไปพอสมควร คิดอย่างไรครับ
คุณกฤษณา : เรื่องนี้เขียนเมื่อ พ.ศ.2507 เกือบห้าสิบปีแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนไปคนสมัยก่อน มีความคิดและพฤติกรรมที่ไม่เหมือนคนในสมัยนี้ค่ะ
รพินทร์ : ผมพูดคุยกับแฟนละครเรื่องนี้คนอื่นๆ ในอินเตอร์เน็ตครับ ห้องเฉลิมไทย ของเวปพันทิป ละครเรื่องนี้ดังมากครับ มีแต่คนตั้งกระทู้พูดคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะในช่วงวันละครออนแอร์
คุณกฤษณา : เหรอคะ โอ (หัวเราะพร้อมกับยิ้ม)
รพินทร์ : ที่ถกเถียงกันมากก็คือชื่อเรื่องครับ สวรรค์เบี่ยงแปลว่าอะไรครับ
คุณกฤษณา : หมายถึงความรักของคาวีกับนารินค่ะ คือ ความรักของคู่นี้มันไม่ตรงทางเหมือนคู่อื่นเขา ต้องมีเหตุมีเรื่อง ถ้าความรักเหมือนเส้นทาง ความรักของคาวีกับนารินก็เป็นทางเบี่ยง คดเคี้ยวลดเลี้ยวกว่าจะได้ลงเอยกันค่ะ มีคนอื่นอย่างคุณคิดและลีลามาเป็นตัวแปร
รพินทร์ : เหมือนฉากหนึ่งในนิยายที่คาวีพูดกับแซมใช่ไหมครับ
คุณกฤษณา : ใช่แล้วค่ะ
รพินทร์ : แล้วทำไมพระเอกต้องชื่อคาวีครับ
คุณกฤษณา : ดิฉันชอบชื่อแปลกๆ ค่ะ ตอนที่เขียนเรื่องนี้ไม่เคยเห็นว่าพระเอกคนไหนชื่อคาวีมาก่อน
รพินทร์ : เพื่อนๆ ในเฉลิมไทยเดากันครับว่า คุณกฤษณาตั้งใจจะหมายถึงว่าพระเอกเป็นพวกดื้อเป็นวัวเป็นควายรึเปล่า
คุณกฤษณา : ไม่ใช่เลยค่ะ ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น ชื่อนี้เอามาจากเรื่องหลวิชัย-คาวีไงคะ เลือกมาเพราะแปลกดีเท่านั้น
รพินทร์ : ขอถามเรื่องฉากเมื่อตอนล่าสุดครับ ฉากที่คาวีตบนาริน ฉากนี้คนพูดถึงมากเลยครับ อินกันมาก มีทั้งชมนักแสดง และไม่ชอบการแสดงออกของพระเอกครับ
คุณกฤษณา : การทำละครครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วค่ะ ทุกครั้งผู้ชมก็พูดกันถึงฉากนี้มากเช่นกันค่ะ
รพินทร์ : ทำไมถึงให้คาวีตบนารินล่ะครับ
คุณกฤษณา : มันเป็นสิ่งที่คาวีจะทำในสถานการณ์นั้นค่ะ เขามีความคิดของเขาเอง นิสัยอย่างคาวีเลือกที่จะทำแบบนั้นค่ะ คาวีถึงตบนาริน ถ้าสังเกตนะคะคาวีเขาตบแค่ครั้งเดียว ไม่ได้ตบแรงมากนัก เนื่องจากต้องการให้นารินหยุดด่าว่าตัวเอง ทำไปเพราะความลืมตัวค่ะ นิสัยของคาวีแม้จะเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหน แต่ก็ถูกเลี้ยงมาแบบผู้ดีค่ะ เป็นความลืมตัวชั่ววูบเท่านั้น
รพินทร์ : การที่คาวีข่มขืนนารินแล้วตอนหลังก็สำนึกผิดมาตามง้อนาริน สมัยก่อนตอนเป็นละครผู้ชมไม่ต่อต้านเหรอครับ
คุณกฤษณา : โอ ไม่เลยค่ะ แปลกมาก ไม่มีใครเกลียดคาวีเลยค่ะ มีแต่พอนารินไม่ยอมคืนดีด้วยหนักๆ เข้าก็ว่ากันทั้งนั้นว่านางเอกเล่นตัวอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆ แล้วตัวนารินเป็นคนใจแข็งค่ะ ถ้าลูกป่วยไม่หนัก ตัวเองดูแลลูกไม่ได้ คงไม่มีทางยอมคืนดีกับคาวีแน่ค่ะ
รพินทร์ : ผมรู้สึกว่าบริบททางสังคมเปลี่ยนไปนะครับ ความคิดเห็นของคนสมัยก่อนกับคนสมัยนี้มีความแตกต่างกัน
คุณกฤษณา : ค่ะ ก็มีเปลี่ยนไปบ้าง ทำให้เมื่อสร้างเป็นละครครั้งใหม่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนบทไปค่ะ อีกอย่างนิยายที่ดิฉันเขียนจะหนามาก ตัวละครก็มีเวลาที่จะค่อยๆ พูดค่อยๆ จากัน สามารถแสดงความคิดออกมาผ่านตัวอักษรได้ แต่การทำหนังละครทำแบบนั้นไม่ได้ สมัยนี้ละครเรื่องหนึ่งๆ ก็เล่นไม่กี่ตอนเท่านั้น
รพินทร์ : บทบาทของคุณเคนกับคุณแอนเป็นยังไงบ้างครับ
คุณกฤษณา : เล่นได้ดีค่ะ มีอารมณ์ร่วมมาก ตอนสมัยคุณยุรนันท์ก็เล่นได้ดีค่ะ
รพินทร์ : มีคนบอกว่า เหมือนกับบทคาวีเขียนเพื่อคุณยุรนันท์
คุณกฤษณา : อ๋อ ไม่ใช่ค่ะ เรื่องนี้เขียนตั้งแต่ปี 2507 กว่าจะทำละครยุคคุณยุรนันท์ก็ต่อมาอีกหลายปีค่ะ
รพินทร์ : มีคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงบทบาทคาวีที่คุณเคนกับคุณยุรนันท์เล่นว่าแตกต่างกัน
คุณกฤษณา : เป็นเพราะบทละครค่ะ มีการเปลี่ยนแปลง ตัวของคาวีเลยมีอะไรที่เปลี่ยนไปด้วย
รพินทร์ : ผมขอนำคำตอบไปโพสต์ให้เพื่อนๆ ในเฉลิมไทยได้อ่านนะครับ
คุณกฤษณา : ได้ค่ะ ยินดีค่ะ ว่าแต่หิวน้ำไหมคะ (ถามยิ้มๆ)
ปล. จริงๆ คุยกันค่อนข้างนานครับ แต่บางเรื่องเป็นความเห็นส่วนตัวของผมต่อนิยายมากกว่าครับ ส่วนคำตอบของคุณกฤษณา ไม่ได้ถอดมาตรงๆ ทั้งหมดเนื่องจากไม่ได้อัดเทปไว้ เขียนเท่าที่จำได้นะครับ หากมีความคลาดเคลื่อนจุดไหนขออภัยไว้ด้วยครับ
ปล.2 ขอตัดคำบางคำออกครับ เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความคำพูดให้มากที่สุดครับ
แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 51 18:20:40
แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 51 00:29:48
แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 51 22:43:40