ความคิดเห็นที่ 1 (ด้วยเนื้อหาและเรื่องราวมีจำนวนมาก ผู้แปะ ขออนุญาต ใส่ตัวเลขอ้างอิงเฉพาะของตัวเอง เพื่อนๆ อย่าได้สนใจเลยนะคะ อย่างเช่นคห.แรกนี้ จะลงตัวเลขว่า 41 แบบนี้อะค่ะ) 41 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-12/06-12-12-FBJ4K.html 24/09/2005 JDG ร่วมงาน การรวมพลของดาราแห่งคลื่นกระแสเกาหลีปี 2005 ที่ญี่ปุ่น 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ญี่ปุ่น ดาราแห่งคลื่นกระแสเกาหลีจะขึ้นเวทีพร้อมๆ กัน อันได้แก่ Kwon Sang Woo, Kim Seung Woo, Lee Byung Hun และ Jang Dong Gun ในวันที่ 24 กันยายน 2005 เพื่อเปิดการแสดงที่ Saitama Super Arena ซึ่งสามารถจุผู้เข้าชมได้ถึง 30,000 คน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 41.1 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ญี่ปุ่น Kwon Sang Woo ล่าสุด กับละครฮิตเรื่อง The Sad Love Storyที่ญี่ปุน ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังขึ้นมา Kim Seung Woo อาศัยภาพลักษณ์ของความเป็นคนใจดี ดึงดูดสาวน้อยชาวญี่ปุ่นได้เป็นจำนวนมาก ชื่อเสียงดังดี มีแต่ขึ้นไปเรื่อยๆ Lee Byung Hun ผู้ถูกตั้งฉายาว่า “สไตล์แห่ง Byung หรือ Byung สไตล์ ” และ Jang Dong Gun ผู้ที่อาศัยอัลบั้มภาพของเขาบุกตลาดญี่ปุ่นจนสำเร็จมาแล้วอย่าง เขานั้น ดังกว่าซุปเปอร์สตาร์ดารา Hollywood ซะอีก ที่พิเศษยิ่งกว่าก็คือ นักแสดงทั้ง 4 ด้วยเหตุผลของการถ่ายทำหนังและละคร จึงมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ไปญี่ปุ่น การเดินทางไปของพวกเขาในครั้งนี้ ทำให้ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นต่างรอคอยอย่างตื่นเต้น พวกเขา เมื่ออยู่ที่เกาหลี ก็ยากที่จะหาโอกาสได้ร่วมแสดงอะไรด้วยกัน ครั้งนี้ จึงถือเป็นข่าวใหญ่ของทั้งที่ญี่ปุ่นและเกาหลีเอง จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 41.2 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ญี่ปุ่น การแสดงในวันที่ 24 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน นักแสดงทั้ง 4 คน จะแสดงคนละ 15 นาที โดยแต่ละคนจะแนะนำงานส่วนที่ตัวเองกำลังทำอยู่และนำเสนอความสามารถพิเศษอันโดดเด่นของตน นอกจากนั้น ยังมีเหล่าบรรดานักร้องชื่อดัง Rain ,Tei,Jewelry ,Maya ร่วมถ่ายทอดวัฒนธรรมเกาหลีด้วยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม เพื่อเป็นฉลองความสัมพันธ์ เกาหลี-ญี่ปุ่น ครบรอบ 40 ปี สมาพันธ์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแห่งเอเชียและสถานีโทรทัศน์ ฟูจิ เป็น:-)าน บริษัทบันเทิง Morning เป็นผู้จัดและทีวี SBS แห่งเกาหลีร่วมถ่ายทอดสด ดาราทั้ง 4 คน ออกเดินทางไปญี่ปุ่นในวันที่ 23 /09/2005 ในครั้งนี้ พวกเขาจะนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ถึงสนามบิน Haneda Airport หนึ่งในผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานี SBS ออกมาให้ข่าวเป็นพิเศษเมื่อวันที่ 22 ว่า “ตามที่ผมทราบมา คาดว่าทางสนามบินจะมีฝูงชนมากันมากมาย ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัย ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็เตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 41.3 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ ตามรายงานข่าว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ฝ่ายจัดงานพิจารณาให้เหล่าดาราแยกกันเดินทาง แต่ด้วยตารางเวลาของพวกเขายุ่งยากมาก สุดท้ายเลยต้องเดินทางไปพร้อมๆ กัน ในครั้งนี้ จะทำการถ่ายทอดผ่านดาวเทียมSky Perfectให้ชาวญี่ปุ่นได้ดูกันสดๆ กิจกรรมที่ว่านี้ เริ่มประกาศให้ทราบกันตั้งแต่เดือนมิถุนายมเป็นต้นมา มีผู้สนใจสมัครขอเข้าชมแล้วถึง 300,000 คน นับเป็นงานที่มีผู้สนใจอยากเข้าร่วมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ความจุของสเตเดี่ยมจะรับได้ 2 หมื่น 2 พันคนก็ตาม แต่ทางผู้จัดตัดสินใจรับไว้เพียง 1 หมื่น 2 พันคน เพื่อต้องการให้ผู้ชมมีช่องว่างและรู้สึกสบายๆ ในการรับชมงานดังกล่าว ด้วยดาราทั้งสี่ ก็ยากที่จะโคจรมาพบกันง่ายๆ การปรากฏตัวพร้อมๆ กันในครั้งนี้ กระแสคลื่นแห่งเกาหลีคงจะกลายเป็นคลื่นแบบ Hurricane ด้วยฝีมือของ แก็งค์ 4 คนนี้ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 41.4 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ เพื่อต้อนรับการมาเยือนของเหล่า Idol แฟนๆ มากกว่า 3,500 คน มารวมตัวกันที่สนามบิน แล้วด้วยมาตรการที่เข้มงวดของผุ้จัด แฟนๆ ไม่สามารถพบกับดาราเกาหลีได้ เนื่องด้วยบทเรียนของเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว คราว เบยองจุน เดินทางมาญี่ปุ่น เกิดการจลาจลขึ้นในสนามบินท่ามกลางฝูงชนประมาณ 5,000 คน (ดังที่โหยวเคยเล่าให้ฟังแล้ว แล้วว่า นักข่าวก็ ตีกัน อาม่าก็ หกล้ม ) ในครั้งนี้ ตำรวจได้จัดกำลังประมาณ 400 นาย และปิดกั้นอย่างเด็ดขาดตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 23 ไม่ให้แฟนๆ เข้า นี่ถือเป็นครั้งแรกในการใช้มาตรการดังกล่าว ข้างในอาคารบินทั้งในและนอกประเทศ จะมีตำรวจตรวจตราเต็มไปหมด โดยเฉพาะอาคารที่พักผู้โดยสาร มีการตรวจ passport ถ้าไม่มีก็ ห้ามเข้า และเมื่อสนามบินวุ่นวายด้วยผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ Kim Seung Woo, Lee Byung Hun และ Jang Dong Gun ซึ่งเดินทางมาถึงประมาณเวลาบ่าย 3 โมง กับแฟนๆ จำนวน 150 คน (ที่น่าจะมี passport) แต่ถูกจับสังเกตได้จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พวกเธอถูกตัวดารา จึงนำเชือกมากันไว้ราว 20 เมตร และสุดท้าย เหล่าดาราทั้ง 3 ไม่ได้พบปะกับแฟนๆ เลย เพราะถูกเลี่ยงให้ไปใช้ช่องทางพิเศษเดินทางออกจากสนามบินไป กลุ่มคน 3,500 ที่มีทั้งแฟนๆ และนักข่าวที่จะมาสัมภาษณ์ ถูกกีดกันไม่ให้เข้าในส่วนอาคารขาเข้า มีแฟนๆ สูงอายุรุ่นคุณป้าจำนวน 30 คนที่มารอกันตั้งแต่ 7 โมงเช้ากล่าวว่า “พวกเรานั่งรถบัสกันมา แต่ไม่มี passport เลยถูกกันไว้ข้างนอก” ดาราทั้งสามคน เดินทางออกจากสนามบินโดยไม่พบกับความวุ่นวายใดๆ ในขณะที่ตั๋วที่สุดท้ายแล้วออกจำหน่าย 24,000 ใบ หมดภายใน 1 วัน ส่วน Kwon Sang Woo  บินตามมาสมทบในคืนเดียวกัน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 41.5 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ Saitama Super Arena กับ “กระแสคลื่นแห่งเกาหลี All Star”จัดขึ้นด้วยค่าตั๋วที่ 12,000 ถึง 18,000 เยน หรือราว 828-1,241 เหรียญฮ่องกง ขายหมดในพริบตา เนื่องจากบัตรที่หมดไวเกินไป ทำให้ฝูงชนจำนวน 5,000 คน ต่างยืนออกันอยู่หน้าสถานที่จัดงานด้วยความบ้าคลั่ง ด้านนอกอีกเช่นกัน มีงานออกร้าน ขายของที่ระลึกดาราที่มีผู้คนเข้าแถวยาวเหมือนมังกร การแสดงแบ่งเป็น 2 ช่วง ตอนบ่ายโมง มีการปรากฏตัวของ Kwon Sang Woo, Kim Seung Woo, Lee Byung Hun และ Jang Dong Gun ,Rain ,Jewelry ช่วงที่ 2 ตอน 6 โมงเย็น มี Kwon Sang Woo, Kim Seung Woo, Lee Byung Hun และ Jang Dong Gun ขึ้นแนะนำผลงานของแต่ละคน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 41.6 24/09/2005 Jang Dong Gun ร่วมงาน “ 2005 ร่วมดาราแห่งกระแสเกาหลี ” ที่ ดาราที่เป็นที่ชื่นชอบและได้รับการต้อนรับมากที่สุดในงานคือ Lee Byung Hun และ Jang Dong Gun Lee Byung Hun กล่าวว่า “คนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลี มีบทบาทสำคัญตอนแสดงเพื่อแลกเปลี่ยนกันระหว่าง2ประเทศ” เขาผู้จึงแสดงหนัง 3 เรื่องเมื่อปีที่แล้ว กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพักผ่อนและเขาก็สนใจที่จะแสดงหนังญี่ปุ่นด้วย Jang Dong Gun ให้ความใกล้ชิดกับแฟนๆ มาก เขาปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มของแฟนๆ และเมื่อเขาก้าวขึ้นบนเวที ผู้ชมต่างลุกขึ้นยืนต้อนรับเขา ระหว่างทางเดินก็ จับมือ ทักทาย กับแฟนๆ เป็นอย่างดี พอถึงบนเวทีแล้ว เจดีจีก็โปรโมทว่า เขาร่วมแสดงกับดารา ฮิโรยูกิ ซานาดะ ในหนัง The Promise เท่านั้น ก็เรียกเสียงกรี๊ดด ด ด ด ด ด  ด ด ด ด ด จากผู้ชมได้ หลังจากซุปเปอร์สตาร์ทั้ง 4 ได้ลงจากเวทีไปแล้ว เป็นคิวของ Rain It’s Raining และอื่นๆ รวม 4 เพลงแถมยังพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจนอีกด้วย แฟนๆ ก็ชื่นชอบกันมากๆ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 42 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-15/06-12-15-E06D5.html 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 42.1 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน Jang Dong Gun：Typhoon จะสามารทำลายสถิติผู้เข้าชมใหม่ชนะ Taegukgi source: ent.163.com 2005-10-12 10:58:30　　　 “  ผมคิดว่าจะสามารถทำสถิติใหม่ได้ ! “ ในวันที่ 11 ตุลาคม 2005  ณ โรมแรม Haeundae Grand Hotel มีการจัดงานโปรโมทหนัง Typhoon ขึ้น โดย Jang Dong Gun มีความเชื่อมั่นกับรายได้ของหนัง Typhoon เป็นอย่างมาก ในขณะที่นักข่าวถามถึงการประมาณการผู้เข้าชม Jang Dong Gun ตอบว่า “ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถทำลายสถิติของTaegukgi” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 42.2 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน Jang Dong Gun ยังพูดด้วยว่า “ผมรับบทเป็น ซิน ซึ่งเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก สามารถกล่าวได้ว่า ผมเปลี่ยนโฉมตัวเองเพื่อรับบทในหนังเรื่องนี้ ” ในงาน preview หนัง Typhoon เป็นครั้งแรกของวันนี้  Jang Dong Gun เล่าว่าตนแสดงเป็นฆาตกรเลือดเย็น และได้รับกำลังใจจากแฟนๆ ในกองถ่าย  ยิ่งไปกว่านั้น ในการแสดงครั้งนี้  มีแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย ที่ร่วมเข้าฉากด้วย  จึงเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงความคาดหวังของ Jang Dong Gun ที่มีต่อหนังเรื่องนี้ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 42.3 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน Jang Dong Gun  และ Lee Jung-Jae นักแสดงนำในหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง Typhoon  ในที่สุด ก็ค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราวของหนังผ่านนิทรรศการที่เมืองพูซาน ส่วนกิจกรรมในค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น บรรดาผู้กำกับและนักแสดงนำ ต่างทักทายกับแฟนๆ ณ โรงแรม Haeundae Grand Hotel จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 42.4 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน หนัง Typhoon กับทุนสร้าง 15,000 ล้านวอน ถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์เกาหลี จะออกฉายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้แล้ว  ล่าสุด ทางประเทศญี่ปุ่นได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ไปในจำนวนเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 42.5 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน หนัง Typhoon ที่ถ่ายทำกันในหลายประเทศอาทิ เกาหลีใต้ ประเทศไทยและ รัสเซีย เปิดกล้องไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และใช้เวลาในการถ่ายทำนานถึง 10 เดือน มีกลิ่นอายความเป็นหนังระดับ Hollywood พอสมควร ภาพตัวอย่างไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ต่อสู้เลือดซ่านกระเซ็นท่ามกลางพายุไต้ฝุ่น สามารถเห็นถึงความตั้งใจในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ Jang Dong Gun เปิดเผยว่า เพื่อแสดงหนังเรื่องนี้ เขาต้องลดน้ำหนักลงถึง 7 กิโลกับบทบาทที่ท้าทาย เขาหวังใจว่า หนังเรื่องนี้จะเป็นแชมป์หนังเกาหลีใต้ที่สามารถทำลายสถิติหนัง เทกึกกี ซึ่งเขาเองก็เป็นผู้แสดงนำลงได้ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 42.6 11/10/2005 Jang Dong Gun ,Lee Jung-Jae, Lee Mi-yeon ออกงาน ค่ำคืนแห่งไต้ฝุ่น ที่เมืองพูซาน ในงานให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ มีสื่อเข้ามาร่วมงานถึงกว่า 400 คนจากทั่วโลกและบุคคลในวงการหนังเกาหลีอีกกว่า 1,000 คน Typhoon จึงเป็นผลงานแห่งความหวังที่ให้ผู้คนเฝ้าคอยเรื่องหนึ่ง จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 43 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-11-17/06-11-17-5D539.html 21/10/2005 ในปี 2005 JDG คือดาราชายที่มีพลังดึงดูดผู้ชมมากที่สุดในอันดับที่ 1 Link ข่าวchosun.com  เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2005 ฤดูใบไม้ร่วงแห่งปี 2005  ในแวดวงดาราเกาหลี ใครคือผู้ที่มีพลังดึงดูดมากที่สุด ? ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา   ดาราแห่งมหาชน มีการเปลี่ยนแปลงกันบ้างหรือเปล่า ? รายงานข่าวจากส่วนผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำ 12 ราย วิพากษ์วิจารณ์ ดาราภาพยนตร์แห่งมหาชนที่ทรงพลานุภาพมากที่สุดในวงการจำนวน 12 คนโดยได้จากการสำรวจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2002 ,2003 แล้ว ครั้งนี้เป็นการสำรวจครั้งที่ 3  อย่างเช่นว่า เมื่อนักแสดงคนไหนได้รับบทนำแล้ว เขาเองจะสามารถมีพลังในการดึงดูดผู้ชมได้มากน้อยเพียงใด ? และจากการสำรวจ นักแสดงชายที่ทรงพลานุภาพมากที่สุดอันดับ 1 ฝ่ายชายได้แก่  Jang Dong Gun นักแสดงอันดับ 1 ฝ่ายหญิงได้แก่ Moon Geun Young โดย Jang Dong Gun ได้คะแนนโหวตจากทั้งประเทศจำนวน  1,430,000 คน Moon Geun Young ได้ 1,290,000 คน ที่ 2 ถึงที่ 5 ฝ่ายชายได้แก่ Song Kang-ho, Kwon Sang Woo, Cha Seung-won ,Cho Seung Woo ในขณะที่ฝ่ายหญิงอันดับรองลงไปได้แก่  Jeon Ji-hyun ,Lee Young Ae, Kim, Seon-a. . Jang Dong Gun ถูกคัดเลือกให้เป็นนักแสดงชายแห่งมหาชนผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุด ในช่วงนี้ที่เขานำแสดงใน Taegukgi, Friend,2009 Lost Memories และอีกหลายๆ เรื่อง จนถึงอีก 2 เรื่องที่กำลังจะออกฉายคือTyphoon และ The Promise ซึ่งเพิ่มเติมความรู้สึกรอคอยของผู้ชมที่มีต่อเขาขึ้นด้วย เขาจึงได้กลายเป็นแบบอย่างของดาราที่สูงสุดอย่างแท้จริงแห่งวงการภาพยนตร์เกาหลี ดูได้จากผู้ผลิตหนังจำนวน 12 ราย เลือกJang Dong Gun ให้เป็นนักแสดงทรงอิทธิพลตั้ง 10 ราย จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 44 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-16/06-12-16-17I4I.html 31/10/2005 JDG และ Jung Jun-ho ออกงาน Hearts of Generous Foundation 31/10/2005 Jang Dong Gun และ Jung  Jun Ho ออกงานของกลุ่ม Heart of Generosity Foundation ด้วยกัน เพื่อนๆ ยังจำกลุ่มดาราเหล่านี้ได้มั้ยคะ ? พวกเขาร่วมบริจาคก็หลายครั้งเพื่อการกุศล ล่าสุดเท่าที่จำได้ในเปิดกรุ เจดีจี ยกเงินรางวัล Blue Dragon Film Awards ซึ่งเขาได้รับในฐานะนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมให้กับกลุ่มนี้ด้วย วันนี้ไม่รู้มาทำกิจกรรมอะไรกัน 2 คน ตอนแรกที่โหยวเห็น ก็นึกว่า เพื่อนๆ นัดมากินข้าวด้วยกันแล้วมีคนเห็น เลยถ่ายรูปมาลงค่ะ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 45 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์ Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-16/06-12-16-D6J53.html 01/11/2005 Jang Dong Gun, BOA และ  Lee Jung Hyun ได้รับรางวัล All Star ดาราแห่งคลื่นกระแสเกาหลี 01/11/2005 Jang Dong Gun ,BoA และ  Lee Jung Hyun ได้รับรางวัล All Star คลื่นแห่งกระแสเกาหลีค่ะ คืนก่อน กับงานแจกรางวัลศิลปินผู้มีความสามารถของประเทศเกาหลีครั้งที่ 12 มีดารา 3 คนที่ได้รับรางวัล All Star –คลื่นแห่งกระแสเกาหลี คือ Jang Dong Gun ,BoA และ  Lee Jung Hyun ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ได้อุทิศตัวเพื่อเผยแพร่ศิลปะของเกาหลีผ่านเวทีที่พวกเขารับบทบาทอยู่ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 46 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2007-1-7/07-1-7-E05KF.html 02/11/2005  Kim Nam Joo คลอดลูกสาว Jang Dong Gun โทรศัพท์อวยพรจากอเมริกา 02/11/2005 Jang Dong Gun โทรศัพท์ข้ามประเทศมาเพื่ออวยพรให้เพื่อน ในวันที่ 2 พฤศจิกายน หลังจากแต่งงานได้ 5 เดือน นางเอก Kim Nam Joo  ได้ให้กำเนิดลูกสาวที่แข็งแรง เพื่อนฝูงในวงการของสามีภรรยาคู่นี้ต่างทยอยแสดงความยินดีกับทั้งคู่ ในขณะที่ Jang Dong gun เพื่อนสนิทและช่วยงานเป็นพิธีกรงานแต่งของทั้งสอง ซึ่งอยู่ที่อเมริกาก็โทรศัพท์ทางไกลมาเพื่อแสดงความยินดีด้วย ที่จริงแล้ว ในตอนบ่ายของวันที่ 2 Jang Dong gun เขากับว่าที่คุณพ่อคนใหม่ Kim Seung-woo  ได้เดินทางไปรอลุ้นที่โรงพยาบาลด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ตัวเองติดภารกิจ ไม่สามารถรอจนเด็กคลอดออกมาได้ Jang Dong gun จึงต้องเดินทางไปอเมริกาก่อน และเมื่อถึงที่นั่นในเวลา 10 โมงเช้าของวันถัดไป เขาก็รีบโทรศัพท์กลับมาหาเพื่อนรักในทันที และทราบข่าวว่า ภรรยาของเพื่อนได้คลอดลูกสาวที่น่ารัก และแข็งแรงทั้งแม่และลูก ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ตอนที่ Kim Seung-woo ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เขากล่าวว่า Jang Dong gun และ Hyeong-jin Kong ได้ไปเป็นเพื่อนเขาที่โรงพยาบาล แต่น่าเสียดายที่ Jang Dong gun ติดเดินทางไปอเมริกาในวันเดียวกันซะก่อน แต่พอเขาถึงที่นั่น เขาก็โทรศัพท์ทางไกลกลับมาในทันที พอรู้ว่า ภรรยาและลูกผมแข็งแรงดี เขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก Kim Seung-woo เปิดเผยถึงความดีใจอย่างที่สุดว่า ตอนบ่ายของวันที่ 2 เด็กได้คลอดออกมาแบบธรรมชาติ ถึงจะคลอดก่อนกำหนด แต่สุขภาพแข็งแรงดี ส่วนที่หนักใจที่สุดในตอนนี้คือการตั้งชื่อลูกสาว Kim Seung-woo กล่าวต่อไปว่า นอกจาก Jang Dong Gun และ Hyeong-jin Kong แล้ว ยังมีเพื่อนๆ ในวงการจำนวนมากต่างโทรศัพท์มาแสดงความยินดีด้วย ขณะที่ทำการให้สัมภาษณ์นี้ก็ยังไม่วายมีสายโทรเข้ามา รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 47 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui  Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-16/06-12-16-92J13.html 14/11/2005 JDG ได้ขึ้นหน้าปก TIME megazine ฉบับเอเชีย 14/11/2005 Jang Dong Gun เป็นศิลปินคนแรกแห่งประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีที่ได้ขึ้นปก Time Magazine Time Magazine ฉบับเอเชียเป็นครั้งแรกที่ขึ้นปกนักแสดงภาพยนตร์ชาวเกาหลี เขาผู้นั้นก็คือ Jang Dong Gun กับข้อความพาดหัวว่า “Reinventing Korea” Time นำเสนอว่า “ด้วยเขาเป็นศิลปินอันดับ 1 และผลงาน Taegukgi ของเขาเมื่อปีที่แล้ว สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการด้วยการครองรายได้อันดับ 1 ล่าสุด ได้ถ่ายทำหนังเรื่อง The Promise  กับดาราฮ่องกงCecilia Cheung ” Time ยังรายงานอีกว่า  Jang Dong Gun เป็นคลื่นแห่งกระแสเกาหลีที่โด่งดังไปทั่วโลก ในรอบ 9 ปีของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้าเพื่อมาชื่นชมกระแสเกาหลีถึง  5 แสน 5 หมื่นคน ใน Time Magazine นอกจาก Jang Dong Gun แล้ว ยังมีการแนะนำการแพทย์ของเกาหลี การศึกษาเรื่องราวในธุรกิจการแสดงและอื่นๆ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 47.1 14/11/2005 JDG ได้ขึ้นหน้าปก TIME megazine ฉบับเอเชีย จำได้ว่า เขาให้สัมภาษณ์ บอกว่า คุณพ่อเขา ดีใจมากๆ เขาก็สุขใจกับตรงนี้เหลือเกินครับ ที่สามารถทำให้คุณพ่อเขาภาคภูมิใจในตัวลูกชายได้ถึงขนาดนี้ Jang Dong Gun ถูกขนานนามว่า เป็นศิลปินแนวหน้าที่เขย่าเวทีบันเทิงของโลก Jang Dong Gun ผู้ที่จะขึ้นปกนิตยสาร Time Magazine ฉบับเดือนพฤศจิกายนนี้ ศิลปินเกาหลีขึ้นปกTime นี่เป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์และยอมรับในฝีมือของ Jang Dong Gunในฐานะนักแสดงภาพยนตร์เกาหลีแล้ว Time แนะนำว่า เขานั่นเป็นนักแสดงที่มีทั้งพลังที่ท้าทายและพลังอันทรงอิทธิพลJang Dong Gun เมื่อยามอยู่ในกองถ่าย เขาเป็นคนที่อ่อนโยน ยิ้มง่าย ซึ่งนั่นเป็นเสน่ห์ของเขา จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 48 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-16/06-12-16-7E34I.html 21/11/2005 Jang Dong Gun, Lee Na－Young ร่วมกิจกรรมการพิมพ์ลายมือของดาราแห่งรางวัล Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 26 21/11/2005 รางวัล Blue Drogon Film Awards ดึงดูดสายตาทั่วทั้งโลก นักข่าว 150 กว่าคนจากทั้งในและนอกประเทศมารวมตัวกันที่กรุงโซล ข่าวจาก sports.chosun.com ณ ตอนนี้ รางวัล Blue Drogon Film Awards ที่ว่า หาใช่เป็นแค่เพียงรางวัลของชนชาวเกาหลีเท่านั้น มันยังเป็นรางวัล ของทั่วโลกไปแล้วอีกด้วย  แฟนๆ จากทั่วโลกต่างสนใจกับพิธีการแจกรางวัล Blue Drogon Film Awards เมื่อบ่ายของวันที่ 21 ณ ถนน Zhong Wu (พินอิน ถนนที่ได้ชื่อว่าเป็น Hollywood แห่งเมืองเกาหลี) ได้จัดงานกิจกรรมพิมพ์ลายมือดาราดังขึ้นที่นั่น และในครั้งนี้เป็นการสนใจจากวงการบันเทิงระดับโลก Jang Dong Gun ,Lee Na-Young Su Ae, Jae Hee ฯลฯ ศิลปินผู้ที่ได้รางวัล Blue Drogon Film Awards เมื่อปีที่แล้ว กับนักแสดงหน้าใหม่ทั้งชายและหญิงอีก 4 คนมาร่วมงาน ดึงดูดนักข่าวจากทั้งในและนอกประเทศถึงกว่า 150 คนซึ่งต่างแย่งชิงกันเข้าไปในงานอย่างโกลาหลอลม่าน นักข่าวต่างประเทศกว่า 30 คน โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น จีน และอื่นๆ ที่มาสัมภาษณ์ มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของคลื่นแห่งกระแสเกาหลี รวมทั้ง OBS,Kyodo tsushinsha,  takeshobo และสื่ออื่นๆ ของญี่ปุ่น เหล่านักข่าว ให้ความสนใจกับหัวขบวนแห่งคลื่นเกาหลีฟีเว่อร์ Jang Dong Gun เป็นที่สุด นอกนั้นก็ได้ให้ความสนใจกับ Lee Na-Young ที่ดูจะเป็นดาราใหม่มาแรงและคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน สาวๆ ชาวญี่ปุ่น เพื่อจะมาตามคลื่นกระแส เดินทางมาถึงถิ่นเกาหลีพร้อมเปิดเผยว่า ภาพยนตร์เกาหลีและ Blue Drogon Film Awards ได้กลายเป็นวัฒนธรรมของโลกไปแล้วในกิจกรรมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ได้เห็นดาราเกาหลี Jang Dong Gun เท่านั้น พวกเธอยังได้ไปสัมพันธ์กับสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเธอชื่นชอบ Ming Dong (พินอิน แหล่งช้อปปิ้ง) ดังนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเป็นผู้หญิงซึ่งทั้งหยิบกล้องดิจิตอลออกมาถ่ายรูปไป ท่องเที่ยวเจออะไรก็ร้องกรี๊ดๆ ไป นอกจากนั้น ในวันที่ 29 ซึ่งจะจัดงานแจกรางวัล ดึงดูดสื่อมวลชนจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีประเทศอังกฤษและอื่นๆ ทั่วโลกเพื่อเข้ามาทำการสัมภาษณ์อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นที่จับตาจากทั่วโลก จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Jang Dong Gun, Lee Na Young ร่วมกิจกรรมการพิมพ์ลายมือของดาราแห่งรางวัล Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 26 จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 55A รายการเพิ่มเติม(จะมีปรากฏให้เห็นบ่อยนะคะในกระทู้นี้ค่ะ) ซึ่งโหยวนำมาจากลิ้งค์ที่เคยแปลไว้แล้วค่ะในคลังกระทู้เก่า Source: http://ent.sina.com.cn/m/c/2005-11-24/2326906926.html แฟนๆ ผู้คลั่งไคล้ เจดีจี ทราบข่าวว่าเขาจะเดินทางไปปักกิ่งในวันที่ 10 เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานใหญ่ที่ผู้กำกับเฉินจะจัดรอบปฐมทัศน์ อู๋จี๋ ในวันที่ 12 ซึ่งบัตรก็แพงมหาโหด 1,880 หยวน แต่มีรายการพบปะดาราอย่าง เจดีจี ไง แล้วไงเหรอคะ เหล่าบรรดาแฟนๆ เจดีจี ทั้งหลายต่างก็จองตั๋วเครื่องบินกันในวันที่ 9 และ 10 จะไปปักกิ่งกันจน จน จน เจดีจี เองจองตั๋วไปไม่ได้อะค่ะ เย้ 5 5 5  ขำมากๆ มาเล่าให้ฟัง เย้ ข่าวนี้เกี่ยวกับการโปรโมทหนัง อู๋จี๋ ในประเทศจีนของเจดีจี ค่ะ ว่าจะกำหนดไปที่ไหนบ้าง เมืองที่เข้ารอบสุดท้ายก่อนการตัดสินใจของทางบริษัทเอเยนต์ที่รักเราก็คือ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา เฉินตู หางโจว ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับระดับความคลั่งไคล้ของแฟนๆ ด้วย (โห แน่ใจนะว่าจะบินมาไทย คนไทยเงี๊ยบเงียบ ) ข่าวว่า เพื่อการนี้ เมืองจีนต้องใช้  body guard อารักขาเขาถึง 60 นาย (ว้าว) ส่วนตั๋วที่นั่งในรอบปฐมทัศน์ 1068 ใบ ประมาณครึ่งหนึ่งถูกจับจองโดยผู้สื่อข่าวไปแล้ว ทางด้านแฟนๆ เจดีจี มีหรือจะยั้ง ข่าวแจ้งว่า มีจำนวนหลายร้อยคนที่เหมาเครื่องบินจะไปปักกิ่งเพื่อการนี้ (เนี่ยะ ตัวทำ เจดีจี ตกเครื่องเลย 5 5 5)ทำเอา เจดีจี หนักใจเรื่องตั๋วเข้าชม ถึงกับออกหน้าขอร้องให้เพิ่มบัตรกับทีมงานด้วยตนเอง แต่ก็ไม่ทันการแล้วค่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันจัดเตรียมไว้แน่นอนหมดแล้ว เฮ้อ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นำมาซึ่งความลำบากใจแก่ เจดีจี จบข่าว จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 55A.1 source: http://ent.sina.com.cn/m/c/2005-12-01/0250913399.html ข่าวต่อเนื่องเลย กำลังตื่นเต้น คำขอร้องของ เจดีจี ยากที่จะเห็นเป็นรูปธรรม แต่ทางทีมงานก็ได้คิดหาวิธีรับมือกับแฟนๆ ชาวเกาหลีของเขาได้สำเร็จแล้วค่ะ คือจะยอมให้พวกเขาตามดาราในกิจกรรมของวันที่ 10 และ 11 และเพิ่มที่นั่งให้เพื่อเป็นการแก้ปัญหา ดีใจแทนค่ะ แหม เจดีจี เราออกหน้าขนาดนี้ ไม่จัดให้ก็เกินไปแล้ว ตอนถ่ายทำเขาไม่เคยขอหรือเรียกร้องอะไรเลยนะ การขอครั้งนี้ก็เพื่อแฟนๆ ค่ะ เย้) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 55A.2 source: http://ent.sina.com.cn/m/c/2005-12-01/1056913784.html ข่าวล่า มาช้าค่ะ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของ เจดีจี ที่มาทำการโปรโมทหนังที่เมืองจีน ล่าสุดตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจของบริษัทจัดการของเขา ทางด้านทีมงาน อู๋จี๋ เปิดเผยว่า นอกจากการโปรโมทหนังที่จะทำกันไปทั่วโลกแล้ว เขายังจะโปรโมทในเมืองต่างๆ ของจีนด้วย ส่วนจะเป็นที่ไหน ทางทีมงานว่าขอให้เกียรติทางนักแสดงเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนทาง เจดีจี เองก็ไม่มีข้อเรียกร้องอะไรมาก เพียงแต่ต้องการความปลอดภัย โดยขอหน่วยรักษาความปลอดภัย 60 นายสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายที่รูปหล่อที่สุดในเกาหลี และในฐานะที่เป็นดาราอันดับ 1 ของเกาหลีด้วย แต่ Jang Dong Gun ไม่เคยวางมาดอย่างซุปเปอร์สตาร์เลยแม้แต่น้อย และในการมาโปรโมทหนังที่เมืองจีนครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรแบบดาราซุปเปอร์สตาร์ทั่วๆ ไป โดยเขาพร้อมที่จะร่วมอยู่ในกลุ่มของทีมงานจำนวน 10 คน การกินอยู่หลับนอนก็ไม่เรียกร้องเช่นกัน ส่วนอาหารขอให้ทุกมื้อมี กิมจิ ก็พอ (เฮ้อ เห็นทีเราต้องไปฝึกทำ กิมจิ ซะแล้ว เขามา จะได้หิ้วไปฝากเป็น ไห ) จบข่าว จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 55A.3 source:http://ent.sina.com.cn/m/c/p/2005-12-02/2113915672.html ข่าวของวันที่ 2 ธ.ค.แล้วนะคะ เจียโหยวเริ่ม up to date แล้ว พาดหัวข่าวว่า โปสเตอร์หนัง อู๋จี๋ เริ่มเผยแพร่ในเกาหลี จางตงเจี้ยนกล่าวว่าเขามอง จางป๋อจือ อย่างน้องชาย ข่าวบันเทิงแจ้งว่า ด้วยเพราะ เจดีจี ได้แสดงนำในหนังเรื่อง อู๋จี๋ หรือ The Promise เขาจึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เขาให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ถึงความประทับใจที่มีต่อดาราจีน จางป๋อจือ ที่แสดงนำร่วมกัน เจดีจี กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานกับ จางป๋อจือ ครับ หลังจากได้สัมผัสกับเธอแล้วผมถึงได้รู้ว่า ตัวจริงของเธอกับเธอในความคิดของผมมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  เมื่อก่อนผมคิดว่า เธอ ก็คงเหมือนอย่างหนัง Failan ที่เธอเล่นซึ่งให้ความรู้สึกที่ สงบเงียบ แบบนั้น แต่หลังจากได้มาทำงานด้วยกันแล้วจึงค้นพบว่า ตัวจริงของเธอกับเธอในความคิดของผมมันคนละอย่างเลยครับ นิสัยของเธอเป็นคนที่เปิดเผยมาก จึงเหมือนน้องชายที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันได้สบายๆ ครับ” จบข่าว จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 49 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-19/06-12-19-IB88J.html 29/11/2005 Jang Dong Gun ออกงาน Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 26 ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษมอบรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 50 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-3D8D8.html 30/11/2005 Jang Dong Gun กับตารางทัวร์รอบเอเชียในเดือนธันวาคมของ Jang Dong Gun หนังเรื่องนี้จะออกฉายใน 10 กว่าประเทศทั่วเอเชียในวันที่ 15 เดือนหน้า ยกเว้นเกาหลีและญี่ปุ่น หนัง The Promise กับทุนสูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐเรื่องนี้ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างประเทศเกาหลี อเมริกา และประเทศจีน ใช้เวลาในการสร้างนานถึง 3 ปี โดยจะทำการโปรโมทหนังในช่วงวันที่ 10 ถึง 23 ธันวาคม จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 29 50.1 30/11/2005 Jang Dong Gun กับตารางทัวร์รอบเอเชียในเดือนธันวาคมของ ทางด้านบริษัทจัดการของ Jang Dong Gun Star M  กล่าวว่า แต่ก่อนเขายุ่งอยู่กับการถ่ายทำหนัง ไม่มีเวลาได้พบปะกับแฟนๆ จึงถือโอกาสในช่วงเวลาการโปรโมทครั้งนี้ เป็นการเดินทางเพื่อเยี่ยมและพบปะกับแฟนๆ ทั่วเอเชีย The Promise จะเป็นตัวแทนประเทศจีนในการเข้าร่วมแข่งขันภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาภาษาต่างชาติในเวทีออสการ์ครั้งที่ 78 หนังเรื่องนี้จะออกฉายที่เกาหลีและญี่ปุ่นรายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า source:  YONHAPNEWS จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 51 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-18/06-12-18-3K950.html 01/12/2005 JDG ให้สัมภาษณ์พิเศษ djlee@chosun.com ถึงแม้จะมีความกดดันมาก แต่ผลงานที่ออกมาก็คุ้มค่าเป็นอย่างมาก 01/12/2005 Digital Chosunilbo สัมภาษณ์พิเศษ Jang Dong Gun ถาม: คุณได้รับบทนำในหนังฟอร์มใหญ่อย่างต่อเนื่องมา รู้สึกยังไงบ้าง ? JDG : สามารถแสดงนำในหนังฟอร์มใหญ่ มันเป็นความภาคภูมิใจครับ แต่ทุกคนล้วนมองหนังฟอร์มใหญ่ว่าต้องประสบความสำเร็จทางรายได้ อันนี้ก็สร้างความกดดันครับ เพราะผู้คนจะวัดความสำเร็จของหนังจากจำนวนผู้เข้าชมเพียงอย่างเดียวเลย จึงกล่าวได้ว่าผู้ชมให้ความสำคัญกับจำนวนผู้เข้าชมแบบนี้ ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นหนังดีหรือไม่ดี การเลือกรับเล่นหนังของผม ไม่ได้เจาะจงที่ขนาดฟอร์มของหนัง แต่ถ้าเห็นว่า หนังดีๆ ฟอร์มยักษ์แล้วมันกดดันก็ขอเลิกราแบบนั้น มันจะไม่ดูตลกไปหน่อยเหรอครับ นะ อย่างหนัง ไต้ฝุ่น นี่ ผมถ่ายทำอย่างมีความสุขมาก แต่ก็ทุ่มเททั้งหมดให้กับมัน เชื่อว่าทุกๆ คนคงจะพึงพอใจครับ ถาม: คุณเป็นตัวแทนแห่งภาพลักษณ์ของ กระแสเกาหลีฟีเว่อร์ กับการได้ขึ้นปกนิตยสาร Time คุณมีความรู้สึกอย่างไร ? JDG: ล่าสุดตอนไปที่มิลานเพื่อถ่ายทำ(สงสัยโฆษณา) บนถนน ได้พบกับเหตุการณ์ประหลาด ผมพบผู้คนที่ดูคล้ายๆ คนเอเชีย ต่างเรียกชื่อผมเป็นภาษาเกาหลี ภาษาจีน ญี่ปุ่นและอื่นๆ ทำให้ผมประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ โอกาสที่จะเดินทางออกไปนอกประเทศเพื่อพบปะกับแฟนๆ นับวันจะยิ่งมีมากขึ้น การประพฤติปฏิบัติของผมก็ยิ่งจะต้องเรียนรู้และศึกษา(ระมัดระวัง)มากยิ่งขึ้นครับ ผมไม่ชอบคำว่า “นักแสดงเป็นบุคคลสาธารณะ” ประโยคนี้เลยครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ นับวันก็ยิ่งจะทำให้ผมหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 51.1 ถาม: เห็นหน่วยงานประเมินรายได้ ประมาณรายได้ในคุณในปีนี้ว่า อยู่ที่เกินกว่า 6 หมื่น 8 พันล้านวอน ? JDG : ตอนถ่ายทำหนังเสร็จ ก่อนจะได้กลับประเทศ เมื่อได้ยินข่าวนี้แล้วก็รู้สึกกังวลใจ (5 5 5 ทำไมล่ะเฮีย กลัวสรรพกรเกาหลีเหรอ ? 5 5 5) ในสังคมของพวกเราเหมือนเป็นโรค คนที่ขยันหมั่นเพียรจนประสบความสำเร็จขึ้นมาได้นั้น ถึงขั้นที่ผู้คนขึ้นมาให้การปรบมือยอมรับ แต่ที่มีมากกว่าจะเป็นมือของคนที่เข้ามาสอดแทรกและจับจ้องเฝ้ามองอยู่ข้างๆ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ ดังนั้นข่าวล่าสุดที่ว่านี้ ทำให้ผมไม่กล้ารับสายโทรศัพท์เลย ผมรู้สึกไม่สบายใจ ดูอย่างคนถูก lottery ซิ ยังมีคนคอยคุ้มกัน แล้วทำไมดาราถึงไม่ได้รับ...อย่างน้อยก็คนที่จะออกมาปกป้องสิทธิของเขาเลย ผมต่อสู้มาเท่าไร พอผมได้เห็นข่าวนี้แล้วก็เข้าใจเลย ตัวเลขที่ว่ามันผลประโยชน์รวมทั้งหมด ดังนั้นในความจริงแล้ว ผมรับรายได้น้อยกว่านั้นมาก ถาม: ทุกๆ คนล้วนพูดถึงคุณในทางที่ดีๆ ทั้งนั้น การเป็นคนรูปหล่อของคุณนี่ทำให้รู้สึกกดดันอะไรบ้างมั้ย ? JDG: ผมเคยได้ยินมาแล้ว ที่ญี่ปุ่น Kimura Takuya เป็นดาราที่ครองอันดับหนึ่งอยู่เป็น 10 ปี แต่ในการสำรวจดาราที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบ เขาก็ยังถูกจัดอยู่ในอันดับแรกด้วยเช่นกัน (จริงหรือคะอาจารย์เบ โหยวไม่มีข้อมูลดาราคนนี้เลย) ผมจะไม่เป็นปรปักษ์กับแฟนๆ หนังของผม ดังนั้น จึงถือได้ว่า พวกเราผ่านประสบการณ์ต่างๆ ด้วยกันเป็นอย่างดี แต่ผมก็ต้องระแวดระวังตัวของตัวเองอยู่เสมอถึง ภาพพจน์  เพราะผมเชื่อว่า ไม่ว่าอะไรก็ตาม การได้รับความเชื่อถือไว้วางใจในตัวของนักแสดงคนหนึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แน่นอนครับ มันก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าต้องการรักษาภาพพจน์ของตัวเองแล้ว ถึงกับต้องละทิ้งอุดมการณ์ความฝันของตัวเองที่อยากจะทำหรอกนะครับ ถาม : แต่คุณคิดว่าตัวคุณเองเป็นคนที่ ดีงาม ใช่หรือเปล่า ? JDG: ใช่ครับ !  (แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับไม่ปรากฏความแช่มชื่นเหมือนคนมีจิตใจอันเบิกบานและดีงาม) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 32 52 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-20/06-12-20-J6DK7.html หนัง Typhoon จัดงานฉายรอบ preview ในวันที่ 5  ณ โรงภาพยนตร์ CGV พร้อมกับเปิดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กับข่าวที่แจ้งให้ทราบว่า จำนวนโรงถ่ายของหนัง ไต้ฝุ่น จะมีทั้งหมด 500 โรง ทำลายสถิติของหนังทุกเรื่องที่เคยมีมาในเกาหลี จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 52.1 โทรศัพท์ให้สัมภาษณ์หลังงานแถลงข่าวของ  Jang Dong Gun กล่าวว่า ถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้ชมหนังเลยดียว ดังนั้น การเปิดเผยความจริงในใจของเขากับในหนังที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดอาการตื่นเต้นมาก Jang Dong Gun กล่าวว่า “เชื่อว่า ข้อมูลที่พวกเราอยากเผยแผ่ ได้เปิดเผยไปจนหมดแล้วครับ” การเลือกที่จะชมหรือไม่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในตอนนี้ก็อยู่กับผู้ชมแล้วละครับ” Jang Dong Gun ในข่าวแถลงข่าว “ในตอนเริ่มแรกของการถ่ายทำ ผมคิดอย่างเงียบๆ ว่า น่าจะมีการ ปะทุ (~ของอารมณ์ ? ) สุดท้ายก็มีการปะทุจริงๆ ตามความคิดเห็นของผู้กำกับ ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 34 52.2 หนัง Typhoon จัดงานฉายรอบ preview ในวันที่ 5  ณ โรงภาพยนตร์ CGV พร้อมกับเปิดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เขาเล่าเรื่องของ ซิน ในหนังว่า พลัดพรากกับพี่สาวซึ่งอยู่ด้วยกัน และเกิดอะไรขึ้นกับเขา จึงทำให้เขามีความเคียดแค้นในใจมากขนาดนั้น   “ตอนที่ต้นฉบับยังอยู่ในมือของผมนั้น  ผมรู้สึกว่า ฉากที่ว่านี้ จะเป็นฉากที่สำคัญที่สุดฉากหนึ่งของเรื่อง  ผลของการแสดงกับที่คาดหวังไว้ไม่ได้เหมือนกัน  ผมคิดจะทำตามที่ผู้กำกับบอก แสดงการปะทุของอารมณ์ ซิน ออกมา  เป็นภาพลักษณ์ของ ซิน  ” ในฉากนี้  Jang Dong Gun ไม่สามารถแสดงออกถึงความเจ็บปวดด้วยดวงตาแดงกร่ำและน้ำตาเท่านั้น  ในที่สุด เขาก็มีเสียงร้องครวญออกมาด้วย จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 52.3 หนัง Typhoon จัดงานฉายรอบ preview ในวันที่ 5  ณ โรงภาพยนตร์ CGV พร้อมกับเปิดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พูดถึง Lee Jung-Jae ที่อยู่ด้วยกันในฉากสุดท้าย Jang Dong Gun กล่าวว่า “หลังจากไล่ล่ากันมาแล้ว ในที่ เขาจะมีความคิดว่า ผมและเขาเป็นคนแบบเดียวกัน ผมยังคิดว่า คงด้วยเหตุผลนี้ ที่อาจนำมาถึงเขตเส้นแบ่งระหว่างเราทั้งสองคน” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 52.4 หนัง Typhoon จัดงานฉายรอบ preview ในวันที่ 5  ณ โรงภาพยนตร์ CGV พร้อมกับเปิดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอย่างจริงจัง ก็ได้อารมณ์ขันของJang Dong Gun มาช่วยคลี่คลายบรรยากาศ เขากล่าวว่า “ไม่ว่าจะยังไง ก็ได้รับบาดเจ็บจากมีด น้อยกว่าตอนถ่ายทำเรื่อง Friend เยอะเลย ดังนั้น มันต้องดีกว่าแน่นอนครับ” (หนัง Friend กับฉากสุดท้ายที่ เจดีจี ถูกคนร้าย กระหน่ำแทงด้วยมีดหลายสิบครั้งมาก เพราะกลัวจะ ไม่ตาย  จนเขาถึงกับเอ่ยกับ มือมีด ขึ้นว่า ไม่ต้องเป็นห่วง งานของเธอ บรรลุตามเป้าหมายแล้ว  ) Jang Dong Gun กล่าวในตอนท้ายว่า “หลังจากวันนี้ คงต้อง จม อยู่กับ Typhoon  ไปอีกซักพักละครับ ” ด้วยเขา อิน กับ Typhoon ในเวลา 1 ปีที่ผ่านมา อยากได้ภาพเพิ่มเติมในงานนี้ เชิญที่นี่ค่ะ http://jangdonggun.com.cn/gb/etc/2006-12-20/06-12-20-H1BBD.html จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 53 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-21/06-12-21-E0A80.html 07/12/2005 JDG เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่อง "เหลาคาง" บทสัมภาษณ์ เจดีจี กับข่าวลือไป "เหลาคาง" ? Jang Dong Gun ล่าสุดตอนให้สัมภาษณ์ถูกถามถึง “คุณทราบหรือเปล่าว่า ในบรรดาแฟนๆ เขาลือกันเรื่องคุณไป เหลาขากรรไกร มา ” เขาหัวเราะ แล้วพูดว่า “เท่าที่ผมรู้ ก็ตั้งแต่ลดน้ำหนักเพื่อถ่ายทำหนังเรื่องไต้ฝุ่นแล้ว ถึงได้เกิดข่าวลือแบบนี้ขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยครับ” Jang Dong Gun อธิบายให้ฟังว่า ช่วง 2 ปีมานี้ ก็ตั้งแต่ถ่ายทำ เทกึกกี แล้วเป็นเวลา 2 ปีที่ไม่มีหนังเขาออกมาฉาย ทำให้แฟนๆ อาจสงสัยกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาอยู่ในระหว่างถ่ายทำหนังทั้ง ไต้ฝุ่น และ คนม้าบิน ยุ่งจนหัวหมุน “ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ถ้าว่าต้องไปทำการเหลาขากรรไกรนี่ รวมเวลากับการพักฟื้นด้วยแล้ว จำเป็นต้องใช้เวลานานมาก ผมยุ่งจนไม่มีแม้เวลาจะกลับไปบ้านนอน หรือว่าบังเอิญได้กลับไปนอนที่บ้านจะเป็นอะไรที่ วิเศษสุดมากๆ  แล้วผมจะเอาเวลาที่ไหนไปทำศัลยกรรมแบบที่ว่านี้ละครับ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 54 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link: http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-21/06-12-21-64AGC.html 08/12/2005 JDG พูดถึงบุคคลที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขา 3 คน Won Bin, Sol Kyung Gu  และKyung-Taek Kwak 08/12/2005 บุคคล 3 คนที่มีผลกระทบกับชีวิตของ เจดีจี คนที่ 1 Won Bin ทำไมต้อง วอนบิน ? ? ? ทำไมต้องเป็นเขาด้วย เหตุผลก็ด้วยเพราะถ้าพูดถึง Jang Dong Gun ก็ต้องพาดพิงถึง Won Bin เหมือนตอบยากว่า พ่อ กับ แม่ ใครดีกว่ากัน หรือ ระหว่าง Jang Dong Gun กับ Won Bin ใครหล่อกว่ากัน แล้ว Jang Dong Gun มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ Won Bin ยังไง ? เขากล่าวว่า “หน้าเหมือนกันมั้ง ? จะพูดยังไงดีละครับ แน่นอน อายุของพวกเราไม่เท่ากัน นิสัยก็ไม่เหมือนกันด้วย แต่ในส่วนของนิสัย พวกเรามีอะไรที่คล้ายๆ กันหลายจุด ผมรู้สึกว่า Won Bin ก็คือตัวผมในครั้งอดีตนั่นเอง” Jang Dong Gun  เชื่อว่าพวกเขาเหมือนพี่น้องกัน  ตอนก่อนวอนบินไปเป็นทหาร เจดีจี ได้มอบเหล้าให้เขาขวดหนึ่ง วันที่สองในค่าย วอนบิน ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปส่งมาให้ เจดีจี ดู เจดีจี ก็ตอบกลับไปว่า “หัวนายเกรียนๆ กลมๆ น่ารักจริงๆ ว่ะ รอนายกลับออกมานะ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 54.1 บุคคล 3 คนที่มีผลกระทบกับชีวิตของ เจดีจี คนที่ 2  Sul Kyung Ku ตอนถ่ายทำหนัง ไต้ฝุ่น ซึ่งต้องลดน้ำหนัก ได้เรียนรู้ประสบการณ์จาก  Sul Kyung Ku ตัวตนของ เจดีจี จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่คนอ้วน การลดน้ำหนักลงไปอีก จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เขาลดอาหารที่มีน้ำมาก กินแต่ไข่ขาว ยิ่งไปกว่านั้น บทบาทที่ได้รับ ไม่ยอมให้มีกล้ามเนื้อ จึงทำการออกกำลังกายมากไม่ได้ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 40 54.2 บุคคล 3 คนที่มีผลกระทบกับชีวิตของ เจดีจี คนที่มีอิทธิพลต่อ เจดีจี คนต่อไป คนสุดท้าย คนที่ 3 เขาก็คือผู้กำกับ Kyung-Taek Kwak ผู้ที่ให้โอกาสเขาได้แสดงฝีมือจากเรื่อง Friend นั่นเอง และจากเรื่องนี้ ได้สร้างชื่อเสียง พร้อมกับพลิกบทบาทจากคำว่า ดารา ให้กลายเป็น นักแสดงอย่างเต็มตัว จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 41A ก่อนอื่น โหยวขอแปะข่าวแทรกก่อนถึงส่วนของบันทึกที่ได้ลงไว้ ด้วยวันที่ของข่าว มาก่อน ค่ะ ทำไงได้ ก็ ขอแปะแทรกด้วยความมึนและ งงงวย ของตัวเองด้วย ขออภัยนะคะ ข้อมูลค่อนข้างมากจริงๆ ตาก็ลายไปหลายรอบแล้วค่ะ Source: http://ent.sina.com.cn/m/c/2005-12-08/1601921939.html โลกแห่งอู๋จี๋ ของจางตงเจี้ยน ผู้ชมชาวจีนเริ่มที่จะรู้จักกับ จางตงเจี้ยน จากการดูซีรี่ส์เกาหลีที่เขาเป็นพระเอกเรื่อง The Medical Brothers, Model ,All About Eve เมื่อเขาเข้าวงการมาได้ 10 ปี มีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ด้วยการพลิกบทบาทของเขาในหนังเรื่อง Friend ซึ่งหนังเรื่องดังกล่าวได้สร้างปรากฏการณ์ที่ออกฉาย 3 เดือนและดึงดูดผู้ชมได้ถึง 7 ล้านคน เป็นสถิติสูงสุดของผู้ชมเกาหลี จางตงเจี้ยน ยังได้รับรางวัล “นักแสดงชายยอดนิยม”จากงานมหกรรมหนัง เจี่ยหยา ครั้งที่ 46  (เสียงพินอิน ขอไม่ค้นนะคะว่า มันคืองานอะไรกันแน่ อืม ขอติดไว้ก่อนละกัน ) เฉินไข่เกอพูดว่า “ทีมฟุตบอลของจีนทำไมถึงไม่สามารถเอาชนะทีมเกาหลีได้ ผมได้ค้นพบคำตอบในตัวของ จางตงเจี้ยน คนนี้แล้ว” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 42 41A.1 ถาม : มีข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ที่เทศกาลหนังในอเมริกา อู๋จี๋ ได้ทำการไปฉายโชว์ในวงแคบๆ และนั่นเป็นครั้งแรกที่คุณได้ชมหนังเต็มๆ ทั้งเรื่อง คุณได้หลั่งน้ำตาด้วย ใช่หรือมั้ยคะ ? (สมมุตติคนถามเป็นหญิงละกัน) JDG : ครับ ใช่ครับ ตัวผมเองชอบหนังเรื่อง อู๋จี๋ นี้มาก และชื่นชอบตัวละคร คุนหลุน มากด้วยเช่นกัน โดยเนื้อแท้แล้ว นี่คือผลงานที่ผมได้ทุ่มเทกายใจกับมันถึงครึ่งปีครับ ครั้งแรกที่ผมได้ดูตัวเองเล่นในหนัง ใจได้ตามติดไปกับชะตากรรมของตัวละครนี้ด้วย ซึ่งมันประทับใจผมเป็นอย่างมาก ถาม : ตอนที่ถ่ายทำ เพื่อให้ตัว คุนหลุน ออกมาดี คุณต้องทุกข์ทรมานได้มากใช่มั้ยคะ ? JDG : ยังพอไหวครับ อยู่เมืองจีนครึ่งปี ขึ้นเหนือและล่องใต้ไปยังสถานที่ต่างๆ มีบางครั้งที่ไม่ชินกับสถานที่ อย่างที่ Shangri-la ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4,000 เมตร แค่หายใจก็ยังลำบากเลยครับ การทำงานของผมที่นี่ถือว่ายากลำบากที่สุดครับ แม้แต่ห้องพักของโรงแรมทุกห้องยังต้องติดตั้งเครื่องช่วยอากาศไว้ด้วย ที่นี่คนอาจจะเกิดอาการที่เขาเรียกว่า ปฏิกิริยาบนที่ราบสูงได้ง่ายๆ ครับ อีกอย่างหนึ่ง ผมมีฉากที่ต้องวิ่งหลายฉากมาก มีบางครั้งที่รู้สึกว่าเหนื่อยแทบขาดใจเหมือนกัน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 41A.2 ถาม : เดือน พ.ค. ปีที่แล้วคุณต้องไปถ่ายทำที่ ยูนาน ซึ่งช่วงนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น 40 กว่าองศา แล้วยังต้องเล่นเป็นทาสที่ต้องตากแดด คลานไปกับดินทรายที่ร้อนระอุซึ่งอมความร้อนไว้มากแบบนั้น คงทรมานมากเลยใช่มั้ยคะ ? JDG : ที่นั่นสบายมากเลยครับ อย่างแรกก็คือ ที่นั่นอากาศดีมากๆ บริสุทธิ์จริงๆ อย่างที่สอง ผมชอบแสงแดดของที่นั่นครับ ผมรู้สึกว่านี่นั่นช่างเหมาะกับผมซะเหลือเกิน ถึงแม้อากาศจะร้อนมาก แต่ถ้าหาที่ร่มๆ แล้วนั่งลงมาพักผ่อนแล้วละก็ ได้ผ่อนคลายเลยครับ ผมเป็นคนกลัวหนาวมาก ถ้าอากาศร้อนหน่อยนิ ผมรับได้รับ (เจดีจี ย้ายบ้านมาอยู่เมืองไทยก็ได้นะคะ ตัวเอง เมืองไทยเราร้อนตลอดทั้งปีเลย ตัวเอง) แต่ตอนที่ผมเล่นนี่ต้องใส่วิกผมด้วย เสื้อผ้าก็หนาเตอะทำให้ร้อนอบเกินไปหน่อย และตอนที่ผมต้องใช้มือและเท้าเปล่าๆ คลานไปตามพื้นหินและทราย มือทั้งสองข้างก็เลยเกิดแผลพุพอง เพื่อเป็นการรักษาผิวของผม ทีมงานทั้งกองก็มีวิธีที่จะปกป้องผิวของผมครับ พวกเขาจะกางร่มคันใหญ่ๆ ไว้ก่อนจนกว่าพื้นดินบริเวณนั้นจะลดอุณหภูมิลง แล้วจึงค่อยเริ่มการถ่ายทำ ดังนั้น ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขาเป็นอย่างมากในการดูแลเอาใจใส่ผม(คงเป็นรูปที่ เจดีจี ของเรายืนแล้วยกมือ คารวะ อย่างชาวจีน กับคนรอบข้างในกองถ่าย เพื่อนๆ จำรูปนั้นกันได้มั้ยคะ ? คนเราไม่สามารถอยู่โดยตัวคนเดียวได้ เราต่างต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ทั้งนั้น ดังนั้น เราควรจะขอบคุณทุกๆ น้ำใจที่เพื่อนมนุษย์ผู้มีน้ำใจหยิบยื่นให้ค่ะ เย้ ฉันรักเธอ จางตงเจี้ยน ที่รัก) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 44 41A.3 ถาม: ได้ยินผู้กำกับเฉินพูดว่า คุณใช้จินตนาการของคุณเองในการแสดงท่าเหมือนสัตว์ให้กับ คุนหลุน ในตอนเริ่มแรกของเรื่อง JDG :ตอนที่ผมเริ่มเล่นใหม่ๆ ก็เคอะๆ เขินๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูกเหมือนกันครับ ตอนหลังผมก็เลยใช้จินตนาการเก็บภาพการย่างกรายของเสือหรือเสือดาวมาเก็บไว้ในใจ ตอนแสดงก็ดึงเอาภาพตรงนั้นออกมาใช้กับการเคลื่อนไหวในร่างของ คุนหลุน ถาม : บทบาทในครั้งนี้ของคุณต่างจากที่คุณเคยแสดงมามากหรือไม่ ? JDG : แตกต่างกันมากเลยครับ สำหรับ อู๋จี๋ นี่เป็นหนังโบราณที่ผมเล่นเป็นเรื่องแรก ถาม : ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่า คุณเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในเกาหลี พอมาแสดงเรื่อง อู๋จี๋ นี่ ไม่เสียดายเหรอที่ต้องเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์อย่างมาก สลัดคราบความหล่อเหลาออก ผมเผ้าก็รุงรัง เป็นทาส คุณหนักใจหรือเปล่าว่า นี่จะเป็นการบั่นทอนภาพลักษณ์ในใจของแฟนๆ หนังของคุณเอง ? JDG : เอ ผมว่าภาพลักษณ์ ทาส ของผมในเรื่องนี้ หล่อมาก เลยไม่ใช่เหรอครับ ? (หัวเราะ) พูดเล่นครับ พูดเล่น ผมรู้สึกว่า ในหนังเรื่องนี้ ความหล่อหรือไม่หล่อมันไม่สำคัญหรอกครับ ถึงแม้ว่าผมจะเล่นบทเป็นทาสที่หน้าตามอมแมมคนหนึ่ง แต่ผมจะใช้จิตใจของตัวเองในบทนี้ แสดงออกมาให้ผู้ชมได้ดูแล้วรู้สึกประทับให้ได้ครับ (แปลถึงตรงนี้แล้วนึกถึงคำพูดของ จางป๋อจือ คำหนึ่งที่เคยอ่านผ่านๆ ค่ะ เธอว่า ดวงตาของเขาในฉากบางฉากของเรื่อง ดูน่าสงสารมาก เธอเห็นแล้วสงสารเขาขึ้นมาจับใจจริงๆ) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 45 41A.4 ถาม : คุณรู้สึกว่า ระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง อู๋จี๋ นี้ สิ่งที่เป็นความยากลำบากที่สุดคืออะไรคะ ? JDG : น่าจะเป็นเรื่องของภาษานะครับ ผมรู้สึกว่าการพูดภาษาจีนยังยากกว่าพูดภาษาญี่ปุ่นเยอะเลย ถาม : แล้วคุณพากย์หนังเองจนจบเรื่องเลยเหรอ ? JDG : ก่อนจะมาร่วมงานในกองถ่าย อู๋จี๋ ผมกับคุณ ฮิโรยูกิ ก็เริ่มฝึกฝนภาษาจีนกันอย่างบากบั่นแล้วครับ หลังจากเริ่มต้นการถ่ายทำ พวกเรา 2 คนก็สามารถพูดภาษาจีนกันได้บ้างแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังใช้คำพูดง่ายๆ พูดและคุยเล่นกับเพื่อนๆ ทีมงานได้ด้วยครับ พอถึงช่วงหลังของการผลิตซึ่งเป็นขั้นตอนการอัดเสียง ผมยืนยันที่จะขอพากย์เสียงตัวเองทั้งหมด แบบนี้จึงจะถือว่าผมได้สวมบท คุนหลุน อย่างเต็มตัวเลยครับ ครั้งนี้เป็นการพากย์เสียงภาษาจีนกลางของผมเป็นครั้งแรก ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นกับมันมาก มีหลายตอนที่แม้ผู้กำกับเองยังบอกว่า ใช้ได้แล้ว แต่ผมก็ยังอยากจะขอพากย์ใหม่อีกครั้งเพื่อความสมบูรณ์แบบครับ สรุปแล้ว ผมต้องใช้เวลาในการพากย์เสียงจีนนี้ไปเป็นอย่างมากเลย แต่ก็ยังดีครับที่สุดท้ายแล้ว ทุกคนในทีมพอใจกับผลงานที่ออกมา (ค่ะ เยี่ยมยอดเลยค่ะ ยอมรับว่าเขาตั้งใจกับการทำงานมากๆ ขอชื่นชมตรงนี้ หน้าตาช่วยอะไรไม่ได้นาทีนี้ เขาต้องใช้จิตวิญญาณความเป็นมืออาชีพของเขาเท่านั้นที่เรานับถือไง ฟังเพียงประโยคเดียวก็ขอธงฟันว่า เสียงคนจีนชัดๆ ) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 46 41A.5 ถาม : ถ่ายทำหนังอยู่เมืองจีนถึง 6 เดือน อาหารการกินเป็นยังไงบ้าง ? JDG : ตอนที่อยู่ปักกิ่งก็ยังดีครับ เพราะมีร้านอาหารเกาหลี แต่พอไปถึง ยูนานแล้ว จะไม่คุ้นกับอาหาร ตอนนั้นผมคิดอยากแต่จะกินอาหารพื้นบ้านคือ น้ำแกงเต้าหู้ผักดองซักชาม ถาม : ในฐานะพระเอกเบอร์ 1 ของเรื่อง คุณจะอธิบายบทบาทของ คุนหลุน ว่ายังไง ? JDG : คุนหลุนเป็นคนที่มีจิตใจสับสนวุ่นวาย ความคิดจิตใจของเขาเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก เริ่มแรกจากการเป็นข้ารับใช้ที่เหมือนเป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่ง แต่ตอนท้ายของเรื่องได้กลายเป็น คนอย่างเต็มตัว คนที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับเทพในใจของผู้คน ถาม : กวงหมิง กับ ชิงเฉิง คนหนึ่งเป็นเจ้านาย อีกคนเป็นคนที่คุณรัก ช่วยวิจารณ์พวกเขาหน่อยค่ะ ? JDG:.ในหนัง กวงหมิง แต่งกายขึ้นมาแล้ว หล่อมาก และนิสัยของเขาในเรื่องมีส่วนทำให้ผมรู้สึกถึง แม่ทัพใหญ่ในพงศาวดารจีนโบราณเรื่อง สามก๊ก ส่วน ชิงเฉิง ไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ แต่ก็เพียรพยายามที่จะหารักแท้ของตัวเองให้เจอ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 41A.6 ถาม :คุนหลุนนี่ใช่เป็นคนเดียวในหนึ่งหรือเปล่าที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองได้ ? JDG : อันนี้พูดยากเหมือนกันครับ ชิงเฉิง กับ กวงหมิง ต่างได้พบกับเทพ หมั่นเสิน มาแล้วด้วยกันทั้งคู่ และได้รับการบอกเล่าถึงอนาคตของตัวเองด้วย มีเพียงคนเดียวที่ไม่ถูกกำหนดชะตาชีวิตไว้ เขาก็คือ คุนหลุน ดังนั้นจึงไม่รวมอยู่ในปัญหาตอนที่ คุนหลุน จะขอเปลี่ยนโชคชะตาตัวเอง คือ ในหนังเรื่องนี้เหมือนจะมี คุนหลุน คนเดียวครับที่จะมีโชคชะตาชีวิตของตนเอง ถาม : ประเด็นหลักๆ ของ อู๋จี๋ คือ โชคชะตา ความรัก และ อิสรภาพ คุณจะว่ายังไง ? JDG :ก็คงประมาณนี้แหละครับ เนื้อเรื่องของ อู๋จี๋ ก็เหมือนกับศัพท์คำว่า อู๋จี๋ (ไม่มีที่สิ้นสุด) ครับ ถาม : คุณเคยร่วมงานกับ ผู้กำกับ ชาวต่างชาติหรือไม่ ? JDG : นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานกับ ผู้กำกับ ชาวต่างชาติครับ ถาม : ผู้กำกับเฉินไข่เกอ ทำไมถึงเลือกคุณมาแสดงเป็น คุนหลุน และอะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจมาร่วมงานกับเขา ? จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 48 41A.7 JDG : ผู้กำกับเฉินเคยดูบทบาทของผมที่แสดงในหนังเรื่อง Friend แล้วจึงชวนผมให้มาเล่นบท ขุนพลใหญ่ กวงหมิง แต่พอพวกเราได้มาเจอกันจริงๆ เขารู้สึกว่า ผมเล่นเป็น คุนหลุน ดูจะเหมาะกว่า (เฉินไข่เกอ ได้พบกับแววตาใส ไร้เดียงสา และแสนดีของเจดีจี เข้าแล้วนั่นเอง)  และที่ผมรับเล่น อู๋จี๋ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลงานของผู้กำกับเฉินเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และอีกด้านหนึ่งเป็นเพราะผมชื่นชอบเนื้อเรื่องของหนังอย่างมากเป็นพิเศษครับ ถาม : งั้นช่วยวิจารณ์ ผู้กำกับ เฉินไข่เกอ หน่อยค่ะ ? JDG : เขาเป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่จริงๆ การได้ร่วมทำงานกับเขาถือเป็นเกียรติของผมอย่างมากครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเขาครับ เขาเป็นผู้กำกับประเภทที่ว่า แม้แต่ฉากแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวแสดงเพียงเล็กๆ น้อยๆ เขาก็จะต้องกำกับมันออกมาให้สวยงามสมบูรณ์แบบที่สุดครับ ผมทุ่มเทให้กับการถ่ายทำ แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องเทคกันใหม่หลายครั้ง คือต้องรอจนกระทั่งถึงจุดที่ได้อารมณ์ที่ต้องการแล้วแสดงมันออกมา ก็เหมือนกับการเข้าเรียนหนังสือ รู้สึกเหมือนว่าเข้าคอร์สเรียนการแสดงอยู่ครับ ผู้กำกับดูแลเอาใจใส่พวกเราอย่างมากครับ รู้สึกได้เลยว่าเหมือนกับเป็น คุณพ่อ เลยครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 41A.8 ถาม : คุณได้ร่วมแสดงกับนักแสดงต่างชาติหลายคน รู้สึกเป็นยังไงบ้าง ? JDG : ด้วยเพราะทั้งทีมงานจะมีเพียง ล่าม กับผู้จัดการเท่านั้นที่เป็นคนเกาหลี ดังนั้นในตอนแรกๆ ผมจึงรู้สึกไม่คุ้นเคย แปลกหน้ากันมากๆ เลยครับ แต่พอมาร่วมงานกันจริงๆ แล้ว ความแตกต่างกับไม่ได้มากอย่างที่คิดไว้ เพราะทุกคนต่างมุ่งที่จะทุ่มเทให้กับงาน ทำให้พวกเราเข้ากันได้ง่ายมากเลยครับ พวกเขาล้วนเป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น พวกเราจึงทำงานกันได้อย่างสบายใจครับ ถาม : เริ่มต้นจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง Model ,All About Eve ทำให้คุณได้กลายเป็น idol ของผู้ชมชาวจีนจำนวนมาก คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่า คนจีนที่ชื่นชอบในตัวคุณ นับวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ? JDG : ครับ ตอนอยู่เกาหลี ผมเคยได้ยิน “กระแสเกาหลี”ที่เมืองจีนมาแรงอยู่บ่อยๆ หลังจากที่มาเมืองจีนแล้ว พบว่าตนเองเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน จึงทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า คนจีน มีความชื่นชอบดาราเกาหลีกันแค่ไหนครับ ดูแววตาที่รักของเราซิคะ น่ารัก บ๊องแบ๊ว แค่ไหน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 41A.9 ด้านหนึ่ง ผมต้องขอบคุณแฟนๆ ชาวจีนในความชื่นชอบที่พวกเขามีต่อผม อีกด้านหนึ่ง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน พอถึงทุกสุดสัปดาห์ แฟนๆ จากทุกที่จะมารอผมกันอยู่ที่หน้าประตูแล้วครับ เพียงชั่วพริบตาที่ผมจะเดินทางออกไปยังกองถ่าย พวกเธอจะเข้ามาขอลายเซ็น หรือไม่ก็ขอถ่ายรูปด้วย  ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ รอจนกระทั่งแฟนๆ ทุกคนได้ตามที่พวกเขาต้องการแล้ว มันจะทำให้ผมถึงกองถ่ายช้าไป 10 ถึง 20 นาที และเมื่อไม่นานมานี้ มีคนๆ หนึ่งถึงกับเปิดประตูห้องเข้ามาเลย ทำเอาผมสะดุ้งด้วยความตกใจ เหตุผลก็คือ พวกเราเดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน พักแยกอยู่ห้องข้างๆ ดังนั้นในบางครั้งเวลานอนเลยไม่ได้ล็อคประตูห้องครับ แต่หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ตอนจะนอนก็เลยต้องล็อคประตูครับ (โห เนี่ยะ ทำให้เรากลับไปนึกถึงแววตาของเด็ก 3 ขวบอันไร้เดียงสาคู่นั้นเลยค่ะ ซุปเปอร์สตาร์ภาษาอะไรเนี่ยะ(ภาษาเกาหลี) นอนไม่ล็อคประตู เชื่อเลย เชื่อแล้วว่า ดวงตาคู่นั้นสะท้อนความใส่ซื่อ มองโลกในแง่ดีนี้ขนาดนี้เชียว ) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 41A.10 ถาม : เมื่อปีที่แล้ว คุณได้รับรางวัล ดารานำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง เทกึกกิ ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดของเกาหลี มาปีนี้คุณเป็นพระเอกนำในหนัง 2 เรื่อง อู๋จี๋ กับ ไต้ฝุ่น ซึ่งกำลังจะออกฉาย จะสามารถบอกพวกเราได้มั้ยคะว่า หนังเรื่องต่อไปของคุณ คุณอยากแสดงบทบาทไหน ? JDG : ช่วงนี้ ผมมักจะได้รับบทผู้ชายเข้มแข็ง มุทะละดุดัน หลังจากนี้ไปผมอยากจะแสดงหนังรักโรแมนติคให้ทุกคนประทับใจครับ ถาม : กับหนังเรื่อง อู๋จี๋ สิ่งที่คุณอยากให้ผู้ชมเมืองจีนพูดถึงมากที่สุดคืออะไร ? JDG : แต่ก่อนนี้ ผลงานการแสดงของผมมาไม่ถึงเมืองจีน ดังนั้น ผมจึงหวังว่า ผู้ชมชาวจีน หลังจากได้ชมเรื่อง อู๋จี๋ นี้จบลงแล้ว จะชื่นชอบผม ชื่นชอบ คุนหลุน และ ชื่นชอบหนังเรื่องนี้ของพวกเราครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 52 41A.11 source: http://ent.sina.com.cn/x/2005-12-11/0118924134.html นี่เป็นส่วนหนึ่งการให้สัมภาษณ์ของเขาหลังจากเดินทางมาถึงปักกิ่งเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับ ผู้กำกับ JDG : เขาเป็นผู้กำกับที่ตั้งมาตรฐานการทำงานไว้สูงมากๆ เขาเป็นเหมือนครูของผมท่านหนึ่งเลยครับ ตอนที่รู้ว่าเขาจะเลือกผมมาเล่น ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลย  มีความตื่นตะลึงเล็กน้อย เพราะเขาเป็นผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ ได้ร่วมงานกับเขาถือเป็นโชคดีอย่างมาก ถ้าเป็นหนังของผู้กำกับ เฉินไข่เกอ แล้ว จะได้รับมอบหมายบทอะไร ผมก็จะร่วมงานกับเขาครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 53 41A.12 สิ่งที่ทำให้รู้สึกประทับใจที่สุด JDG: ผมกับคุณ ฮิโรยูกิ ซานาดะ หนักใจเรื่องภาษาจีนอย่างมาก พวกเราฝึกฝนภาษาจีนด้วยกันตลอด พวกเราได้เจอหน้าและร่วมงานอยู่ด้วยกันมากที่สุดด้วยครับ จริงๆ บทคุนหลุนนี่จะไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ จะเป็นการเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ซะมากกว่า คือ การแสดงออกกับความรู้สึกภายในใจจะแตกต่างกัน แล้วยังมีข้อเรียกร้องจากผู้กำกับและการพากย์เสียงซึ่งไม่คุ้นเคยอีกด้วยครับ บทสนทนา นักข่าว : ที่คุณแสดงนำในทั้ง อู๋จี๋ และ ไต้ฝุ่น เนี่ยะต้อง คุณว่าเรื่องไหนน่าดูกว่ากัน ? JDG : บทบาทของผมในหนัง 2 เรื่องต่างกันครับ ก็เหมือนคุณพ่อกับคุณแม่ของผมท่านทะเลาะกัน สุดท้ายแล้วใครจะชนะตอนนี้ยังไม่บอกไม่ได้ครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 41A.13 (ช่วงเดือนนี้ของปี เจดีจี เน้นหนักกับการโปรโมทหนัง The Promise เป็นอย่างมากค่ะ) source: http://ent.sina.com.cn/m/c/2005-12-09/0843922570.html -ปรารถนาในรักแท้ แต่ก็หาไม่เจอ นี่ไม่เพียงแต่เป็นความโศกเศร้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ ชิงเฉิง  แต่มันยังเป็นพรหมลิขิตของหญิงสาวทั่วโลกอีกจำนวนมากอีกด้วย -นายพลใหญ่ กวงหมิง ผู้ประสบความสำเร็จและเจริญรุ่งเรือง และก็เหมือนๆ กับผู้ชายจำนวนมากบนโลกนี้ที่ซึ่งไม่อาจต้านทานความยั่วยวน(ของหญิง)ได้ -ไม่มีใครที่จะเอาสิ่งที่ คุนหลุน ปฏิบัติต่อคนอื่น มาปฏิบัติตนให้เป็นคนที่ประเสริฐไปกว่าเขาได้อีก -พวกเราต่างก็มีความกิเลสและกลัวตายเหมือนๆ กับ กุ่ยหลาง แต่ในช่วงวินาทีที่สำคัญที่สุด อาจจะไม่มีกล้าหาญได้เท่ากับเขาอีกแล้ว -ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของ อู๋จี๋ แต่ไม่มีใครจะอธิบายมันได้ถึงแก่นแท้ที่สุดของมัน -ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกบงการโดยเทพ หมั่นเสิน เป็นเพราะเธอก็คือ กิเลสร้ายในใจของพวกเราเอง (ต่อไปเป็นบทสัมภาษณ์ เจดีจี ค่ะ ขอสมมุตติเหมือนเดิมว่า ผู้ถามเป็นผู้หญิงนะคะ) นักข่าว : หนึ่งในทีมงาน อู๋จี๋ ที่เป็นเพื่อนกับฉัน เขาเล่าให้ฟังว่า ตอนที่คุณได้ดูหนังของตัวเองที่อเมริกาจบแล้ว คุณก็ ร้องไห้ JDG: ครับ ใช่ ผมรู้สึกว่าเวลา 6 เดือนที่ผมทุ่มเทใจให้กับมันไม่สูญเปล่า ผมอยู่ที่เกาหลีเล่นหนังมายังไม่มากเท่าไร ยิ่งไม่เคยออกไปนอกประเทศถ่ายทำหนังเป็นเวลานานแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผลงานอันเป็นหยาดเหงื่อของผมสู่จอเงินแล้ว ผมจึงรู้สึกตื้นตันกับมันมากครับ ในบทของ คุนหลุนมีตอนหนึ่งที่พูดว่า “ความเร็วอันแท้จริงคือสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ อย่างการที่พระอาทิตย์ขึ้น พระจันทร์ลาลับขอบฟ้า เหมือนลมที่พัดและก้อนเมฆที่เคลื่อนตัว เหมือนว่าคุณจะไม่รู้ว่าใบไม้มันเปลี่ยนสีเป็นเหลืองเมื่อไร หรือเด็กทารกจะมีฟันงอกมาครั้งแรกตอนไหน ก็เหมือนกับที่คุณจะไม่รู้สึกตัวว่าได้รักใครเข้าสักคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อไรเช่นกัน”พูดถึงตรงนี้ผมก็ร้องไห้เลยครับ นักข่าว:ได้ร่วมงาน อู๋จี๋ ในครั้งนี้ เป็นเพราะเนื้อเรื่องใช่หรือไม่ที่ดึงดูดใจของคุณ ? JDG: นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งครับ จริงๆ แต่แรกผมเห็นความแตกต่างระหว่างบทประพันธ์ดั่งเดิมของเกาหลีกับตอนที่เขานำมาสร้างหนังจริง มันจะแตกต่างกันมากเลยครับ กับ อู๋จี๋ สิ่งที่ดึงดูดใจผมแต่แรกก็คือ เรื่องโชคชะตาชีวิตของคนครับ แต่ตอนที่ถ่ายทำ ผู้กำกับได้วิเคราะห์ให้ผมรู้รายละเอียดถึงอุปนิสัยของ คุนหลุน ทำให้ผมเข้าใจเรื่องราวอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และรู้สึกว่าสมใจปรารถนาที่สุดแล้วที่ได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องที่มาร่วมงานในครั้งนี้ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผมหวังที่จะได้ร่วมงานกับผู้กำกับใหญ่ชาวต่างประเทศด้วยครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถ่ายทำหนังนอกประเทศ และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่เล่นหนังโบราณ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 55 41A.14 นักข่าว: การได้ร่วมงานกับผู้กำกับเฉิน คุณมีความประทับใจต่อตัวเขายังไงบ้าง ? JDG: ได้ร่วมงานกับผู้กำกับเฉิน ถือเป็นเกียรติของผมครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากผู้กำกับ เขาเป็นผู้กำกับประเภทแม้เพียงจุดเล็กๆ ของการนำเสนอบทบาท ผู้กำกับเฉินก็ยังต้องกำกับให้มันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขาทำการสาธิตการแสดงก่อนการถ่ายทำจริงให้ผมดู ผมรู้สึกได้เลยว่าตัวเองไม่มีปัญญาแสดงออกมาได้ดีเท่าเขาแน่ ผมจำเป็นต้องใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ทุ่มเทมันออกมา บ่อยครั้งในถ่ายทำฉากๆ หนึ่ง ผมจำเป็นต้องคิดหาวิธีของตัวเองทุกวิถีทางเพื่อให้การถ่ายทำออกมาดี ก็เหมือนอย่างการเข้าคอร์สเรียนการแสดงล่ะครับ อีกอย่าง เขาเป็นคนที่เอาใจใส่นักแสดง เอาใจไปซะทุกอย่าง เปรียบเสมือนคุณพ่อคนหนึ่งเลยครับ จางป๋อจือ ตอนที่พวกเราพูดคุยกันถึง ผู้กำกับเฉิน ก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน นักข่าว: ในมุมมองของฉัน อู๋จี๋ จะกล่าวถึงเรื่องราวความรักของ คุนหลุน กับ ชิงเฉิง คุณจะบรรยายความเป็นคุนหลุนยังไงบ้าง ? JDG : ก่อนอื่น ผมไม่รู้สึกว่า อู๋จี๋ นี้จะเป็นเพียงแค่เรื่องราวความรักของ คุนหลุน กับ ชิงเฉิง เท่านัน ยังมีความรักของ กวงหมิง และ อู๋ฮวน ที่มีต่อ ชิงเฉิง อีกด้วย แต่ถ้าจะพูดถึง คุนหลุน คนนี้ ผมสนใจจุดตรงนี้เป็นพิเศษครับคือ ทั้ง กวงหมิง และ ชิงเฉิง ต่างก็เคยพบปะกับเทพ หมั่นเสิน มาแล้วด้วยกันทั้งคู่ ชะตาชีวิตของเขาทั้งสองก็ถูกบอกไว้ล่วงหน้า แต่ไม่ใช่กับตัว คุนหลุน นี้ ดังนั้นผมจึงจะบอกว่า คุนหลุน จะเป็นคนที่ลิขิตชีวิตของตัวเอง ในความเป็นจริง เขาจะไขว่คว้าหามันอยู่ตลอดเวลา ตอนเริ่มต้นของเรื่อง เขาเป็นแค่ข้าทาสที่คลานไปมาอยู่บนพื้น ต่อมาได้แปรเปลี่ยนเป็นคนโดยสมบูรณ์ สุดท้ายแล้วได้ใส่เสื้อขนนกสีดำและคล้ายจะกลายเป็นเทพองค์หนึ่งไปเลย จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 56 41A.15 นักข่าว: ใน อู๋จี๋ คุณรับบทเป็นข้ารับใช้คนหนึ่ง มีหลายฉากที่เสร็จสิ้นลงด้วยความยากลำบากใช่มั้ย ? JDG : ครับ ผู้กำกับขอร้องให้ผมแสดงการเคลื่อนไหวของสัตว์ออกมาในรูปของคนให้ได้ ตอนแรกผมก็รู้สึกเขินๆ เล็กน้อย รู้สึกว่ามาคลานตามพื้นเนี่ยะมันแปลกสำหรับผมมากเลย แต่พอหลังจากที่ อิน เข้ากับบทแล้ว ก็จะไม่มีความคิดที่สับสนวุ่นวายแบบนี้อีกต่อไปแล้วครับ ผมก็จินตนาการให้ตัวเองเป็นเสือหรือสิงโต ฉากนั้นก็จดจำภาพการเคลื่อนไหวของมันนำออกมาใช้ตอนถ่าย นักข่าว: นอกจากการที่ต้องคลานแล้ว คุนหลุนยังเป็นคนที่วิ่งได้เร็วมากอีกด้วยใช่มั้ยคะ ? JDG : เกี่ยวกับการวิ่งนี้ผมกลับมีความมั่นใจมากกว่าครับ แต่ผมก็ได้รับบาดเจ็บหลายครั้งเหมือนกันในการถ่ายทำฉากนี้ ดังนั้นผมจึงเริ่มกังวลใจครับ ดีที่ผู้กำกับได้ให้เวลาผมสำหรับพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูพละกำลังให้คืนมา จริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่า จะถ่ายทอดการวิ่งออกมาในรูปแบบไหน สุดท้ายผมจึงคิดถึงตัวของ คุนหลุน ตอนที่เขาวิ่ง การวิ่งของเขาจะเหมือนการวิ่งไปสู่ อิสรภาพ ของเขา(โห ฉลาดในการคิดจริงๆ เลยที่รัก มันทำให้รู้สึกว่า ต้องวิ่งอย่างสุดกำลัง วิ่งสู้ฟัด) ในหนังเรื่องนี้ ทุกคนจะมีส่วนที่ดีและเลว มีก็แต่ คุนหลุน คนเดียวเท่านั้นที่มีจิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ที่สุด อุปนิสัยของเขาจะเหมือนเด็กเล็กๆ คนหนึ่งครับ นักข่าว:ในใจของแฟนๆ หนัง คุณปรากฏกายด้วยภาพลักษณ์ที่ทั้งหล่อและงามสง่า ฉันได้ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งมาว่า ผู้กำกับยังเคยพิจารณาให้คุณเล่นเป็นตัว ขุนพลใหญ่ กวงหมิง ที่สง่าผ่าเผยด้วย แต่ตอนหลังกลับมาวางตัวคุณให้เล่นเป็นทาสที่ผมกระเซอะกระเซิง ใบหน้ามอมแมม ถ้าคุณสามารถเลือกได้ คุณจะเลือกที่จะเล่นบทไหน ? JDG : จริงๆ ในความรู้สึกของผมเอง คุนหลุน ก็ยังหล่อมากอยู่นั่นเอง ที่ตอนแรกผู้กำกับจะให้ผมเล่นเป็น กวงหมิง ก็เพราะเขาชื่นชอบบทที่ผมเล่นใน Friend นั่นเอง แต่ตอนหลังพอได้เจอหน้ากันแล้ว เขาก็กลับเปลี่ยนความคิด ถ้าว่าให้ผมสามารถเลือกใหม่ได้ ผมก็ยังคงจะเลือกเป็น คุนหลุน อยู่นั่นเอง เพราะว่า คุนหลุน บนจอได้สร้างความประทับใจให้กับตัวผมแล้วล่ะครับ จริงๆ แล้วในหนังเรื่องหนึ่งๆ สิ่งที่ผมจะพิจารณาไม่ใช่ภาพลักษณ์ภายนอกของคน แต่จะดูว่า เขาสามารถดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กับผมได้หรือเปล่ามากกว่าครับ ในหนังเรื่องนี้ คุณจะเห็น ทาสคุนหลุนที่ผมเผ้ากระเซ่อกระเซิง ผมหวังว่าความสามารถในการแสดงของผมจะทำให้ผู้ชมประทับใจครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 57 41A.16 นักข่าว: นอกจากต้องแสดงแล้ว คุณยังต้องพูด dialogue ภาษาจีนกลาง และต้องพากย์เสียงอีกด้วย นำมาซึ่งความยากลำบากให้คุณไม่น้อยใช่มั้ยคะ ? JDG: ไม่ทราบว่าคุณได้สัมภาษณ์คุณ ฮิโรยูกิ หรือยัง ? ผมว่าพวกเราลำบากพอๆ กันครับ ผมเคยต้องพูดภาษาญี่ปุ่นในการแสดงมาแล้ว ตอนนี้ถ้าจะเปรียบกัน ผมรู้สึกว่า ภาษาจีน ยังยากกว่า ภาษาญี่ปุ่นตั้งเยอะเลยครับ หลังจากที่รับเล่นหนังเรื่องนี้แล้ว ผมก็เริ่มต้นเรียนภาษาจีนทันที หลังจากที่ไปถึงกองถ่ายทำแล้ว วันแรกของการเข้าฉาก ผมกดดันมากๆ เลยครับ นอนไม่หลับเลย ต่อมาก็ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับทุกคนได้ แต่พอมาถึงการอัดเสียงพากย์ในช่วงหลัง กลับเปลี่ยนเป็นไม่ได้สบายอย่างที่คิดแล้ว ด้วยเพราะผู้กำกับขอร้องให้พวกเราพากย์เสียงของตัวเอง และผมเองก็รู้สึกว่า น้ำเสียง ที่แสดงออกก็เป็นการแสดงอย่างหนึ่งเช่นกัน มีอยู่หลายครั้งที่แม้ผู้กำกับจะบอกกับผมว่า ใช้ได้แล้ว แต่ผมยังอยากพากย์ซ้ำอีกซักครั้งสองครั้ง  มีหลายครั้งเช่นกันที่ใช้เสียงมากเกินไป ประกอบกับอากาศแห้งที่ปักกิ่ง ทำให้ผมไอออกมาเป็นเลือด จึงต้องกลับไปพักผ่อนที่เกาหลีอยู่หลายวัน นักข่าว: ได้ยินว่าตอนที่คุณมาอัดเสียงพากย์นี้ที่ปักกิ่งในครั้งนี้ คุณนำผักดองมาจากเกาหลีโดยเฉพาะด้วยเหรอคะ ? แล้วตอนถ่ายทำนี่ก็ได้กินผักดองด้วยใช่หรือเปล่า ? JDG : ที่ปักกิ่งยังดีนะครับ มีภัตตาคารเกาหลีอยู่มาก แต่ที่ ยูนาน และที่ มองโกลใน เนี่ยะลำบากมากเลย ผมไม่เคยชินกับอาหารจีนครับ ทุกวันหลังเลิกกองก็คิดแต่อยากจะกินน้ำแกงเต้าหูผักดองของบ้านเกิดครับ (สุดท้ายกับคำวิจารณ์จากผู้กำกับค่ะ) จางตงเจี้ยนมีความอดทนอย่างสูง สิ่งที่แสดงออกถึงความมีน้ำอดน้ำทนของเขาก็คือ ความสามารถที่จะคลุกอยู่แต่ในกองถ่ายนานถึงครึ่งปี และเดินทางไปกับผมทุกที่ทั่วประเทศจีน เขาอินกับบทบาทที่เขาได้รับอย่างลึกซึ้ง ครึ่งแรกของตอนต้นเรื่อง เขาต้องปีนป่ายอยู่กับพื้น มันทำให้ผมพบว่าเขาโค้งงอข้อศอกของตัวเอง เลียนแบบการเคลื่อนไหวของสิงโตหรือเสือ นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า เขาเป็นคนที่ช่างสังเกตมาก เขาพูดไม่มาก แต่แสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างถึงแก่น  ผมยังค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่เป็นเด็กในตัวเขาอีกด้วย ซึ่งช่างเหมาะเจาะเหมาะสมกับตัวละคร คุนหลุน จริงๆ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 58 55 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-3AK5B.html 10/12/2005 JDG เดินทางไปปักกิ่งเพื่อร่วมกิจกรรมโปรโมทเป็นเวลา 3 วัน 3 คืนที่ปักกิ่ง อาจจะเป็นด้วย Jang Dong Gun กับ ด่านเก็บเงินทางด่วนคงมีดวงที่สมพงษ์กัน ครั้งที่แล้วที่เขาเดินทางมาเพื่อพากษ์เสียงให้กับหนังเรื่องนี้ เกิดความวุ่นวายจนผู้สื่อข่าวที่ไปดักรอรับเขาต้องเก้อ และซุปเปอร์สตาร์ Jang Dong Gun กลับให้สัมภาษณ์เป็นเวลาสั้นๆ ที่ด่านเก็บเงินทางด่วน มันเป็นเรื่องน่าขำมั้ยละ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 59 55.1 Jang Dong Gun ขณะอยู่ที่สนามบินกรุงปักกิ่ง มาครั้งนี้ เห็นแฟนๆ ตามกรูกันเข้าไปยังลานจอดรถ ทำเอาเจ้าหน้าที่โปรโมทหนังเรื่องนี้ถึงกับ ตกอกตกใจ รีบปล่อยให้รถของ Jang Dong Gun ขับออกไปก่อน แล้วรถขบวนค่อยตามไปทีหลัง จากนั้นไม่นาน รถของ Jang Dong Gun ก็ต้องไปหยุดรอขบวนตรงด่านเก็บเงิน เมื่อขบวนรถตามมาทันแล้ว ถึงได้กลายเป็นขบวนรถแห่งซุปเปอร์สตาร์อันสมศักดิ์ศรี (เฮ้อ เหนื่อยแทน ) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 55.2 Jang Dong Gun ขณะอยู่ที่สนามบินกรุงปักกิ่ง ถึงแม้ว่า ทั้ง จางป๋อจือ และ จางตงเจี้ยนจะเดินทางออกจากสนามบินก่อนและหลังกัน แต่ทุกคน ต่างมีขบวนรถอันแสดงถึงความเป็นซุปเปอร์สตาร์เหมือนๆ กันคนละขบวน และรถขบวนที่ว่า อย่างน้อยต้องมี 5 คนขึ้นไป จึงจะถือว่าได้ระดับดาราใหญ่ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 61 55.3 Jang Dong Gun ขณะอยู่ที่สนามบินกรุงปักกิ่ง วันที่ 10 ของกรุงปักกิ่งอันหนาวเหน็บ กับการมารวมตัวกันของเหล่าดารา The Promise ในการฉายรอบปฐมทัศน์ Jang Dong Gun เมื่อเดินออกจากห้องโถงใหญ่ในสนามบิน ได้พบกับแฟนๆ และนักข่าว เขาให้ความร่วมมือด้วยดีเป็นอย่างมาก ในขณะที่รถของ จางป๋อจือ เพิ่งเคลื่อนตัวออกไปจากสนามบินเพียงครึ่งชั่วโมง ซุปเปอร์สตาร์อีกคน (เจดีจี )ก็ปรากฏตัวขึ้น จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 55.4 Jang Dong Gun ขณะอยู่ที่สนามบินกรุงปักกิ่ง ขณะที่  Jang Dong Gun ซึ่งสวมแว่นกันแดดสีอ่อนเดินมาตามทาง ก็มีว่าเสียง ว้า...............ออกมาจากฝูงชน จากนั้นเหมือนทุกคนจะแปรเปลี่ยนกลายมาเป็นแฟนของเขากันหมด เลยทำให้การเคลื่อนตัวบริเวณปากประตูติดขัดขึ้นในทันที มีผู้หญิงคนหนึ่ง ที่จะมอบดอกไม้ให้เขา แต่ด้วยความหนาแน่นของจำนวนของคนทำให้ไม่สามารถเคลื่อนมาข้างหน้าได้ Jang Dong Gun ซึ่งหันมาพอดีก็ ยื่นมือทั้งสองออกไปรับเอง ในขณะที่การ์ดก็ไม่หยุดยั้งที่จะให้ Jang Dong Gun เดินหน้าต่อไป นักข่าวก็ตามติดอย่างไม่ลดละเช่นกัน  คนที่อยู่หลังสุดก็เร่งตามอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน ดังนั้น จึงมีช่างกล้องคนหนึ่งถูกดันจนหกล้ม บรรยากาศเต็มไปด้วยความร้อนแรง เจ้าหน้าที่ พอเห็น Jang Dong Gun นั่งลงเท่านั้นก็รีบออกรถทันที แต่แฟนๆ ยังคงร้องกรี๊ดกร๊าดอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ ไอดอล จะ ปรากฏตัวเพียงแค่ 5 นาที แต่แฟนๆ ที่เป็นสาวๆ หลายคนตื่นเต้นอย่างมากจนตาไหล ดีใจซะยิ่งกว่าได้กินขนมหวานๆ มีสาวคนหนึ่ง ถึงกับเปิดเผยความในใจออกมาว่า “หล่อจังเลย ในที่สุดก็ได้พบกับเขาแล้ว ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 63 55.5 รับ Jang Dong Gun  ผ่านประตูชัย The Deshengmen (เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย) Chen Kai Ge ผู้ที่เป็น perfectionist ต้องการชัยชนะให้กับหนัง The Promise ของเขานี้ในทุกๆ ขั้นตอน แม้แต่การเดินทางก็ยังใส่ใจ ละเอียดลออ ประณีต กับเส้นทางที่ต้องผ่านป้อมประตูแห่งชัยชนะนี้อย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด แม้เป็นเช่นนี้แล้ว Chen Kai Ge จะไม่ชูธงรบแห่งชัยชนะได้ยังไงไหว จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 56 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-4BAJH.html 11/12/2005 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ร้องตะโกนลั่นที่บริเวณกำแพงเมืองจีนว่า ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีนไม่ใช่วีรบุรุษที่แท้จริง จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 65 56.1 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน สถานที่ที่มีดาราก็จะมี แฟนๆ ยิ่งที่แห่งนั้นเป็นศูนย์รวมของ ซุปเปอร์สตาร์อย่าง The Promise ด้วยแล้วละก็ กับสโลแกนที่ชูกันขึ้นว่า “ใครไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ไม่ใช่ผู้กล้าที่แท้จริง ”นั้น เป็นกิจกรรมการโปรโมทของเหล่าดาราแห่ง The Promise จึงเป็นเหตุให้แฟนๆ จำนวนมากหลั่งไหลไปตามดาราที่พวกเขาชื่นชอบกันถึงบนกำแพงเมืองจีน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 66 56.2 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน เมื่อเปรียบเทียบกับแฟนๆ ของ จางป๋อจือ กับของ ฮิโรยูกิ ซานาดะ แล้ว แฟนๆ ของทางเซี่ยะถิงฟง กับ จางตงเจี้ยน ดูจะแสดงออกอย่าง บ้าคลั่ง กว่า (อืม ใช่ 5 5 5 แวะมาดูแถวนี้ก็ได้ค่ะ) แถมยังมีอิทธิพลจะค่อนข้างมากด้วย อยู่บนกำแพง แป็บๆ ก็เปล่งเสียงขึ้นมาพร้อมๆ กันว่า “ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีนไม่ใช่วีรบุรุษที่แท้จริง” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 67 56.3 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน “เซี่ยะถิงฟง ฉันรักคุณ” แฟนๆ ที่เดินทางมาจากเกาหลีหรือจากประเทศต่างๆ ของ จางตงเจี้ยน กลับไม่ชอบการแสดงออกด้วยการตะโกนเสียงดังแบบนี้ พวกเธอใช้กลยุทธเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องผู้สื่อข่าว จะบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ของ เจดีจี จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 68 56.4 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน Jang Dong Gun พูดถึงผู้กำกับว่า  เขามีความคาดหวังกับนักแสดงสูงมากครับ และเป็นคนละเอียด เขาเหมือนกับคุณครูคนหนึ่งมากเลยครับ ตอนที่ทราบว่า เขาต้องการมาหาผมเพื่อแสดงหนังนั้น มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ ผมตื่นเต้นด้วยเล็กน้อย ด้วย Chen Kai Ge เป็นผู้กำกับใหญ่ขนาดนี้ การได้ร่วมงานกับเขา ถือเป็นเกียติของผมครับ เพียงเพื่อได้ร่วมงานกับผู้กำกับเฉิน ไม่ว่าจะให้เล่นบทอะไร ผมก็จะรับครับ รู้สึกว่า เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมากเลย Jang Dong Gun ：กับการต้องใช้ภาษาจีนของผมกับคุณ ซานาดะ พวกเราถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเหมือนกัน ดังนั้น พวกเราร่วมกันฝึกภาษาจีนด้วยกันบ่อยครั้งมาก อาจพูดได้ว่า ได้เจอะเจอหน้าและร่วมงานกันยาวนานที่สุดเลยครับ เกี่ยวกับฉากรัก จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 69 56.5 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน Jang Dong Gun： อันที่จริงแล้ว คุนหลุนไม่มีโอกาสแสดงถึงความรักออกมาโดยตรง  ออกไปทางบอกเป็นนัยๆ มากกว่าครับ ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวว่า ระหว่างหนัง  The Promise และ Typhoon คิดว่าเรื่องไหนจะทำเงินได้มากกว่า ? Jang Dong Gun：บทที่ผมได้รับทั้งสองเรื่องไม่เหมือนกันครับ ก็คล้ายๆ กับคุณพ่อและคุณแม่ผมท่านทะเลาะกัน สุดท้ายใครจะชนะก็ยังไม่รู้เลยครับ ชอบภาพนี้เพราะ แม้แต่เจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่เอง ยัง อดไม่ได้ ที่จะเก็บภาพดาราดัง จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 70 56.6 กลุ่มทีมงานหนัง The Promise ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีน เรื่องราวหมด ภาพยังไม่หมดค่ะ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 71 57 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-64F3K.html 11/12/2005 กลุ่มดารา The Promise เป็นแขกในรายการช่วงกลางคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2005 ทาง CCTV6 movie channel หนัง แฟนตาซี The Promise กำลังจะออกฉายพร้อมกันทั่วโลก เป็นที่จับตาของใครต่อใคร กับผลงานสร้าง 3 ปี กับการฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ร่วมถึงหยาดเหงื่อของเหล่านักแสดง ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังของพวกเขาเหล่านั้นที่คุณยังไม่รู้ CCTV 6 จะนำเสนอสู่ท่านผู้ชม . . . มีเพียงคนเดียวที่ ผู้กำกับเฉิน ไม่เคยระเบิดอารมณ์ใส่ เขาคนนั้นก็คือ เซี่ยะถิงฟง ตัวของพระเอกมาดเท่ห์อธิบายเองเลยค่า “เขาเป็นคนสร้างบรรยากาศได้ดีมากๆ ดังนั้น สำหรับผมแล้ว เข้าใจโดยนัย ดังนั้น ผมจึงค่อนข้างโชคดีกว่า (ที่ไม่เคยถูกดุว่า) ผมหวังว่า การแสดงในทุกบทบาทของผมไม่ใช่ผู้กำกับจะคิดว่า ช่างเหอะ เจ้าคนนี้ ถึงโกรธมันก็ได้เท่านี้แหละ ช่างเหอะ” แต่ในสายตาของ Chen Kai Ge การแสดงของ เซี่ยะถิงฟง ถือเป็นจุดที่โดดเด่นคนหนึ่ง จางป๋อจือ ชื่นชอบ Jang Dong Gun เป็นที่สุด หลังจากออกจากวงการแล้ว อยากใส่ชุดขนนกโบยบินอย่างอิสระ ในฉากที่ จางป๋อจือ ใส่ชุดขนนกแล้ว Jang Dong Gun ผู้เล่นเป็น คุนหลุนก็ได้หลงรักเธอในชุดขนนกนั้น สำหรับ จางป๋อจือ กล่าวว่า “ชุดที่พิเศษสุดนี้ พอใส่แล้วก็รู้สึกเป็นตัวฉันเอง นึกฝันถึงอะไรต่างๆ ตอนฉันอายุ 18 ยังใสซื่อมากเลยก็เข้าวงการแล้วนะคะ มีความกดดันมาก ชีวิตสับสนวุ่นวายมาก หวังอยากมีความเป็นอิสระ ดังนั้น ตอนฉันใส่เสื้อชุดนี้ ทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันได้ไปถึงที่ๆ ฉันอยากไปแล้ว ตอนที่ ตงเจี้ยน ลากฉันด้วยเชือกสีแดง จากนั้น ฉันก็เป็นอิสระ บินไปไหนก็ไป เสื้อชุดนั้นทำให้ฉันคิดไปว่า ถ้าวันหนึ่งฉันรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาอยากออกจากวงการ ฉันจะหวนคิดถึงเสื้อชุดนี้ แล้วก็หาผู้ชายสักคนมาลากเชือกเส้นนั้น ไปไหนก็ไปกัน” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 72 57.1 กลุ่มดารา The Promise เป็นแขกในรายการช่วงกลางคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2005 ทาง CCTV6 movie channel ส่วนแฟนๆ ของ Jang Dong Gun ล้วนแต่หลงรัก แววตาอันใสบริสุทธิ์ของเขา Chen Kai Ge：เหตุผลที่ผมเลือกให้ Jang Dong Gun รับบทบาทนี้ ก็เพราะแววตาของ ตงเจี้ยน  ดวงตาของเขาที่กระจายสู่สายตามหาชน ในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนแววแห่งเสน่ห์และสิ่งที่เจ็บปวดออกมาด้วย มีบางครั้งที่ดูตาของเขาแล้ว  ปวดหัวใจจริงๆ คุณเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้มั้ยละครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 57.2 กลุ่มดารา The Promise เป็นแขกในรายการช่วงกลางคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2005 ทาง CCTV6 movie channel ตอนที่ถาม จางป๋อจือ ถึง คุนหลุน กวงหมิง และ อู๋ฮวน ว่า ใน 3 คนนี้ เธอจะเลือกใคร ? จางป๋อจือ ตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า “จะขอติดตาม  คุนหลุน  ค่ะ จะถามว่าเพราะอะไรหรือเปล่าละ เป็นคำถามที่ยากมากนะคะเนี่ย  คงเป็นดวงตาคู่นั้นของเขาแหละค่ะ ในหนังเขาเป็นแค่ ทาส  ซึ่งไม่มีสิ่งที่แม่ทัพอย่างซานาดะมี และไม่มีคทาทองคำของเซี่ยะถิงฟงที่จะชี้อะไรต่ออะไรได้ แต่สิ่งที่เขามีเหนือกว่าคนอื่นๆ ก็คือ ดวงตา ของเขา ฉันเป็นคนประเภทที่ไม่มีความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยเลยค่ะ ดังนั้น ถ้าว่ามีเขาอยู่ด้วย ฉันจะไม่หนักใจเลย ฉันไม่ต้องการอัญมณีอะไรอีกแล้ว และไม่ต้องการชื่อเสียงใดๆ ขอเพียงแต่มีผู้ชายแบบเขาคนนี้อยู่ข้างกายก็พอแล้วค่ะ” ปากก็ว่า เป็นคนไม่มีความรู้สึกปลอดภัย  แต่ จางป๋อจือ ตอนอยู่ในกองถ่าย The Promise ได้รับการปลอบโยนไม่น้อย โดยเฉพาะตอนป่วยเป็นโรค จางป๋อจือ：”ตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้  จู่ๆ ฉันก็ป่วยหนักขึ้นมา จากนั้นก็เกิดอาการไตอับเสบอย่างรุนแรง ฉันถูกฉีดยา  แล้วก็ไม่รู้ตัวด้วยว่า มีใครมาเยี่ยมฉันบ้าง  ผู้ช่วยของฉันอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดเวลาเลยค่ะ  แล้วก็มีการบอกว่า พี่หง (เฉินหง ผู้อำนวยการสร้าง) ได้มาเยี่ยมฉันด้วย เธอมาอยู่ข้างๆ เตียงฉัน แล้วก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลย  ในตอนนั้น ฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ฉันถึงพูดกับตัวเองด้วยว่า  ไม่ว่าไงก็ตาม ผู้กำกับกับพี่หง ขอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไปในชาตินี้ ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขามากจริงๆ ค่ะ  จริงๆ เลยนะคะ ส่วนความรู้สึกอื่นที่เกิดขึ้น กองถ่ายทำหนัง  The Promise เป็นบรรยกาศแบบนี้จริงๆ ค่ะ รวมทั้งผู้อำนวยการอย่าง คุณเฉินหง ด้วย จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 74 57.3 กลุ่มดารา The Promise เป็นแขกในรายการช่วงกลางคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2005 ทาง CCTV6 movie channel ฮิโรยูกิ ซานาดะ เลือก “ธนู” ในการให้คำจำกัดความผู้กำกับ Chen Kai Ge ในระหว่างรายการ มีให้นักแสดงแต่ละคน เลือกใช้อุปกรณ์ถ่ายทำหนังThe Promise อย่างหนึ่งเพื่อให้คำจำกัดความผู้กำกับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 75 กลุ่มดารา The Promise เป็นแขกในรายการช่วงกลางคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2005 ทาง CCTV6 movie channel เซี่ยะถิงฟง เลือก พัด ที่ตัวเองใช้เข้าฉาก  โดยคิดว่าจะลดอุณหภูมิของ ผู้กำกับที่มักเดือดดาลอยู่เสมอๆ ฮิโรยูกิ ซานาดะ เลือก ธนู เพราะในใจของเขา ความเข้มงวดของผู้กำกับก็คือความรักและความใส่ใจอย่างหนึ่งที่มีต่อนักแสดง เขาจึงเลือกสิ่งนี้เพื่อเปรียบเทียบกับความรักที่ยิงตรงเข้ามา ทางด้านสาวสวย  จางป๋อจือ ก็เลือก ธนู เช่นกัน โดยกล่าวว่า “ที่จริง ธนูนั้นมีหลายความหมาย อาจทำร้ายผู้คนได้  และอาจยิงตรงถึงจิตใจคุณ  ดังนั้น สำหรับผู้กำกับแล้วอย่าได้ว่าเขา ดุ เกินไป เพราะว่าเขามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่า คุณเป็นคนแบบไหน  จากนั้น คำพูดแต่ละคำของเขาจะเหมือน คมมีด กรีดตรงใส่ใจของคุณ ช่างร้ายกาจนัก ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 07:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 76 57.4 Jang Dong Gun และ เฉินหง เลือกดัชนีสีทองเหมือนๆ กัน  เพราะพวกเขารู้สึกว่า ยังไงซะ ผู้กำกับก็ต้องเป็นฝ่าย ชนะ อยู่ดี จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 77 58 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-2D1F0.html 12/12/2005 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Chen Kai Ge : จู่ๆ ก็นึกอยากร้องไห้ออกมา ผู้อำนวยการสร้าง เฉินหง แซวสามี ผู้กำกับ Chen Kai Ge ว่า วันก่อน ได้ชมหนังเรื่องนี้แล้ว จู่ๆ ก็ทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา เมื่อผู้กำกับ Chen Kai Ge ถูกถามถึงเรื่องนี้ เขาก็ต่อว่า ภรรยาว่า “ เธอทำไม ถึงต้องพูดเรื่องอะไรๆ ออกมาหมด ?” จากนั้น เขาก็เล่าถึงความประทับใจหลังจากผ่านความยากลำบากมากมายจนสำเร็จออกมาเป็นภาพยนตร์โดยสมบูรณ์ได้ เมื่อถูกถามว่า ประทับใจอะไรในหนัง Chen Kai Ge ตอบว่า “ แววตาอันหาที่เทียบไม่ได้ของ Jang Dong Gun ดวงตาอันใส....บริสุทธิ์คู่นั้น เป็นแววตาที่คุณไม่มีทางปฏิเสธมันได้” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 78 58.1 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Jang Dong Gun：เฉินหลง คือ  ฮีโร่ของผม กับสมยานาม “หนุ่มหล่อที่สุดแห่งประเทศเกาหลี” Jang Dong Gun พิสูจน์ให้เห็นว่า  เขาคือดาราที่ได้รับความสนใจมากที่สุด พูดถึงการมารับบททาสในหนังเรื่อง The Promise Jang Dong Gunกล่าวว่า ที่ท้าทายที่สุดก็คือ การพากย์เสียงจีนในหนังเรื่องนี้ “ ด้วยผู้กำกับตั้งมาตรฐานไว้สูงมากๆ  ดังนั้น ผมจึงตั้งใจทุ่มเทอย่างเต็มที่ หวังว่า เสียงภาษาจีนของผม จะเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ชมชาวจีน” พูดถึงการร่วมงานกับผู้กำกับ Chen Kai Ge เขาเปิดเผยว่า “ ตอนผมเด็กๆ หนังจีนเรื่องแรกที่ชมคือหนังของเฉินหลงเรื่อง  Snake-shaped hand(1978)   เฉินหลงคือ ฮีโร่ ในใจของผมครับ  ต่อมา ได้เห็น ผู้กำกับ Chen Kai Ge กำกับเรื่อง Farewell My Concubine(1993) รู้สึกว่าเป็นหนังที่เจาะลึกถึงธรรมชาติความเป็นมนุษย์เรื่องหนึ่ง พอผู้กำกับ Chen มาตามหาผมเพื่อไปเล่นหนังนี่ ผมตอบรับในทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยครับ Snake-shaped hand(1978) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 58.2 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง My Concubine(1993) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 80 58.3 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Jang Dong Gun นั่งอย่างสงบนิ่ง มือทั้งสองประสานกัน เคลื่อนไหวตัวน้อยมาก มีแววตาที่มุ่งมั่น ค่อนข้างเงียบครึม ยิ้มน้อย จากนั้น ก็มีคนถามคำถามที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนคำถามหนึ่งที่ว่า เห็นเขารับบทอันหลากหลายในหนัง เป็นไปได้มั้ยที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของ Jang Dong Gun เอง เขาตอบว่า “ที่จริง บทในละครเก่าๆ ของผม ล้วนเป็นบุคคลธรรมดาๆ แต่พอมาถ่ายทำหนัง มันก็เปลี่ยนไป มีบางบทที่เป็นตัวละครซึ่งไม่อาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน อย่างหนังแฟนตาซีเรื่องนี้ครับ  ” Jang Dong Gun  ไขข้อสงสัยที่ว่า บท คุนหลุน ถ้าไม่ใช่หนึ่งในดารานำ  และถ้าเสื้อผ้าไม่ทำให้หล่อ จะทำยังไง ? ว่า “ปริมาณบทในหนังไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับผมแล้ว เนื้อหาที่ประทับใจหรือเปล่า ตรงนั้นแหละที่ สำคัญ ได้ร่วมงานกับทุกๆ คน มีความสนุกกว่าการรับแต่บทตัวละครคนนั้นแต่อย่างเดียว” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 81 58.4 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง ถามถึงมุมมองความรักของ คุนหลุน เขาจะมีความคิดเห็นอย่างไร เขาดูลังเล โดยกล่าวว่า พูดถึงบทก็เหมือนพูดถึงชีวิตของคนเรา  มองเพียงแป็บเดียวจะเป็นอะไรที่เข้าใจยาก แต่ก็สามารถนำบทบาทของเรื่องมากล่าวได้ว่า  ความรักคือการเสียสละเพื่อคนที่เรารัก นั่นคือเป็นความสุข และความสบายใจ Jang Dong Gun ยังสารภาพออกมาเองว่า เขาคงยากที่จะลืมหนังเรื่อง The Promise  พร้อมกับกล่าวว่า ตนเป็นแฟนหนังตัวยงของ โจวซิงชือ ด้วย จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 82 58.5 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Jang Dong Gun ผู้สวมใส่สูทในร่างอันบอบบาง มีหนวดเครานิดๆ แต่พอเขากล่าวสู่เวที ก็สามารถเรียกเสียงกรี๊ดสนั่น คนที่คุ้นเคยกับผู้คนจำนวนมากอย่างเขา กลับมีอาการเคอะเขินขึ้นมา พอเขาลุกขึ้นยืน เขาก็ใช้ภาษาจีนทักทาย “ต้าเจียห่าว หว่อซื่อ จางตงเจี้ยน  เหิ่นเกาซิ่ง. . .” (สวัสดีครับทุกๆ คน ผมคือ จางตงเจี้ยน ยินดีที่ได้...) ถึงจะไม่ลื่นนัก แต่สำเนียงก็ถูกต้องมาก ต่อจากนั้น ก็ใช้ภาษาเกาหลีด้วยสปีดอันรวดเร็วกล่าวว่า ตัวเองถ่ายทำหนัง  The Promise เรื่องนี้เป็นเวลา 6 เดือน   “ช่วงเวลา 6 เดือนนี้ เป็นเวลาอันแสนมีค่า จะจดจำตลอดไปว่า นี่คือหนึ่งในประสบการชีวิตนักแสดงที่ยากลำบากมากที่สุด” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 83 58.6 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง ต่อข้อถามถึงเมื่อเทียบความเป็นอิสระของคุนหลุนและความคาดหวังJang Dong Gun  ถูกถามด้วยว่า ในการเป็นศิลปินคนหนึ่ง รู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นอิสระหรือไม่ Jang Dong Gun ตอบว่า การดำเนินชีวิตของศิลปิน เป็นอะไรที่ถูกเปิดเผยอย่างมาก จากบทบาทของตัวเองตรงนี้ มันไม่เป็นอิสระเลย แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถได้รับความเป็นอิสระที่คนอื่นๆ ไม่สามารถมีได้ด้วย(ประมาณได้เล่นเป็นคนนั้น คนนี้ อิสรเสรีที่จะเลือกสวมบทบาทเป็นใครต่อใคร ที่คนธรรมดาจะไม่ได้รับโอกาสนี้) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 84 58.7 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Jang Dong Gun บนจอสกรีน มักได้รับภาพลักษณ์ของชายหนุ่มผู้องอาจ เป็นฮีโร่ ซึ่งใน The Promise ก็เช่นกัน เมื่อถูกถามว่า จะลองเล่นบทที่แตกต่างออกไปบ้างมั้ย อย่างบทตลกของ โจวซิงชือ พอถึงตรงนี้  Jang Dong Gun  ยิ้มอย่างได้ใจ กล่าวว่า ตนคือแฟนหนังตัวยงของ โจวซิงชือ แต่รู้ตัวเองดีว่า ไม่มีพรสวรรค์ในการสร้างเสียงฮาทางนี้เลย ดังนั้น จึงหวังว่า ซักวันเขาจะมีพื้นฐานความสามารถที่จะแสดงอะไร ฮาๆ แบบนี้ แล้วก็จะรับเล่นหนังตลก ในขณะเดียวกัน เขาหวังจะเล่นหนังตลกในบทแบบคนดีมีคุณธรรม (ไม่ใช่ตลกแบบบททำร้าย) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 85 58.14 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง แม้แต่ เจดีจี เอง ก็ยังชื่นชอบและเป็นแฟนหนังของ โจวซิงชือ ด้วย จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 86 58.8 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Jang Dong Gun：หวังที่จะได้ร่วมงานกับ จางม่านอวี้ ใน The Promise เขาได้รับความสนใจมากที่สุด เขาก็คือ Jang Dong Gun ดาราที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศเกาหลีนั่นเอง พูดถึงการรับแสดงหนังเรื่องThe Promise คำตอบของ Jang Dong Gun ทำให้ผู้คนประหลาดใจพอสมควร ” ณ ตอนนั้น ผมยังไม่ได้เห็นต้นฉบับของบทด้วยซ้ำไปครับ เพียงแต่รู้ว่า ผู้กำกับคือคุณ Chen Kai Ge ผมก็ตัดสินใจร่วมงานด้วยแล้ว  ด้วยหนังเรื่อง Farewell My Concubine เป็นอะไรที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษอยู่แล้ว ในหนัง ได้แสดงความรู้สึกอันลึกซึ้งภายในจิตใจของคน ผมเชื่อครับว่า การได้ร่วมงานกับผู้กำกับเฉินในครั้งนี้ จะสามารถทำได้ถึงจุดดังกล่าวแบบนี้ครับ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 87 58.9 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Jang Dong Gun ผู้ไม่เคยแสดงหนังจีนมาก่อน ที่ทำเขาเครียดที่สุดคือการพูดภาษาจีน ” นี่คือจุดที่ ยากที่สุด เลยครับ ในหนังเรื่อง Friend เขาได้บันทึกบทที่จะให้พูดอยู่ในฉากไว้  ทุกวันนำมาเปิดเพื่อท่องด้วยมีหลายคำที่ผมเองก็ไม่เข้าใจเท่าไร ดังนั้น ตัวละครที่แสดงออกมาทางคำพูดแบบไม่เข้าใจ จะเป็นอะไรที่น่าผิดหวัง” แต่ว่าครั้งแรก คงเป็นอะไรที่ยากพอดู อย่างไรก็ตาม  Jang Dong Gun ก็หวังว่า การได้มีโอกาสร่วมงานหนังกับคนจีนในโอกาสต่อไป “ถึงแม้ทุกคนจะพูดว่า หนังเกาหลีมีการพัฒนา แต่ในขณะเดียวกัน หนังจีนก็เช่นกันนะครับ  พูดในฐานะของนักแสดงคนหนึ่งแล้ว นี่ก็คืองานของผมล่ะ ผมหวังที่จะให้ทุกๆ ประเทศมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน เพื่อพวกเราจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 88 58.10 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง พูดถึงแรงจูงใจ  Jang Dong Gun กล่าวว่า เขาเองชื่นชอบนักแสดงจีนเป็นอย่างมาก “ครั้งแรกที่ผมไปดูหนัง ก็คือการไปดูหนังจีนที่โรง ซึ่งเป็นที่นำแสดงโดย เฉินหลง  หลังจากนั้น ก็หลงรักหนังจีนเป็นอย่างมากมาโดยตลอด แต่แล้วถ้าเผื่อมีโอกาสได้มาแสดงหนังจีนอีก ผมหวังอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับ จางม่านอวี้ เพราะผมชอบเธอเป็นอย่างมากเลยครับ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 89 58.13 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง จางม่านอวี้ นางเอกในฝันของ เจดีจี Chen Kai Ge——คุนหลุน สวมบทได้ตามความคาดหวังของผมแล้ว ในหนังทุกเรื่องของ Chen Kai Ge จะมีตัวละครตัวโปรดของเขา และในหนัง The Promise ก็คือตัวละคร คุนหลุน Chen Kai Geกล่าวว่า  “อยากรู้ที่มาของตัวละคร คุนหลุน  มั้ยละครับ ? เขาก็คือลูกชายคนที่สองของผมเอง ดวงตาของลูกชายผมนั้น ความแวว ใส...ตอนที่จ้องมองจะเป็นอะไร บ๊องแบ๊ว เขาจะมองคุณอย่างไม่ละสายตา  แววตาที่ไม่เคยหลบหลีก คงมีแต่แววตาของเด็กๆ เท่านั้นที่เป็นแบบนี้ ผมก็แค่คิดว่า ผู้คนหลังจากประสบกับเหตุการณ์อะไรขึ้นแล้ว จะสูญเสียแววตาที่ว่า  ไม่แวววาวใสบริสุทธิ์เช่นว่านี้ได้อีก ซึ่งมันจะกลายเป็นแววตาที่ไม่กล้าสู้หน้า ไม่มีแววอันไร้เดียงสาของเด็กๆ  ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 90 58.11 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง Chen Kai Ge บรรยายถึง คุนหลุน ว่า เขาก็คือ หนึ่งในบุคคลแห่งจินตนาการ ผู้ ไร้เดียงสา ใสสะอาด กระตือรือร้น เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ และ Jang Dong Gun คือผู้ที่มีแววตาสดใสเป็นประกายไร้เดียงสาดุจดั่งเด็ก 3 ขวบคนนั้น . . . . ภาพลูกชายของผู้กำกับเฉินในงานโปรโมทงานหนึ่ง กับชุดซุปเปอร์ฮีโร่ล่ะ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 91 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง สำหรับบทดังกล่าว Jang Dong Gun นี่เป็นหนังเรื่องแรกอีกเช่นกันที่เขาต้องแต่งชุดโบราณ ซึ่งเมื่อเทียบกับภาพลักษณ์หนุ่มรูปหล่อในอดีตของเขา นี่ถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ของเขา ในฉากเริ่ม เขาต้องแสดงท่าคลาน ทำให้ Jang Dong Gun ในตอนแรก รู้สึกเคอะเขิน ทำอะไรไม่ค่อยถูก แต่การอธิบายถึงบทบาทการแสดงดังกล่าว Jang Dong Gun เขานำตัวเองไปเทียบเคียงกับการเยี่ยงย่างของสัตว์ป่า จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 92 58.12 JDG ออกงานแถลงข่าวโปรโมทหนัง The Promise ณ โรงแรม Inter-Continental Hotelในนครปักกิ่ง กับความรักและการตามหาโชคชะตากรรมของตัวเอง ทำให้เขานั้นได้กลับกลายจาก ทาส คนหนึ่งสู่การเป็นสามัญชนคนธรรมดาและ พระราชาในหัวใจของผู้คน Jang Dong Gun ผู้รับบทวีรบุรุษผู้ใสซื่อบริสุทธิ์มากๆ ในหนังแฟนตาซีในแบบตะวันออกและฉากการถ่ายทำที่เมืองจีน เขานำแสดงออกมาในหนังที่สร้างถึงครึ่งปีอย่าง The Promise และความรู้สึกที่มีต่อประเทศจีน เขากล่าวว่า “คนบางคนที่พูดจาภาษาเดียวกัน แต่กลับไม่ใช้วาจาที่จริงใจต่อกัน แต่มีบางคนที่ถึงแม้จะพูดจากันไม่เข้าใจ แต่กลับสื่อสารด้วยใจได้อย่างใกล้เคียงมากๆ ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 93 59 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui   Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-7126F.html 12/12/2005 sina.com รายงาน คุนหลุนแห่ง The Promise รับบทแสดงถึงความรักอันใสซื่อบริสุทธิ์ Jang Dong Gun: หนี่ห่าว (สวัสดีครับ) พิธีกรMa Xiang :  ภาษาจีนได้มาตรฐานมากเลยนะครับ ยังจะสามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้มั้ยละครับ ? Jang Dong Gun：(5 5 5 ขำกับประโยคหากินของเจดีจี) ต้าเจียห่าว หว่าซื่อ จางตงเจี้ยน พิธีกรMa Xiang จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 94 59.1 JDG ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบันเทิง sina.com พิธีกรMa Xiang :   ยินดีอย่างมากครับที่ได้พบกับคุณ จางตงเจี้ยน  มีหลากหลายด้านมากที่จะให้บรรยาย ในการแสดงเป็นคุนหลุนในเรื่องThe Promise นี้ บทบาทที่คุณนำเสนอคืออะไรครับ ? Jang Dong Gun : ใน The Promise มีหลากหลายบทบาท แต่ละบท แทนด้วยความรู้สึกในจิตใจคนที่แตกต่างกันไป การแสดงออกของคุนหลุน แทนความรักอันบริสุทธิ์ ดังนั้น ผมจึงอาศัยตัวละครนี้ แสดงมันออกมา พิธีกรMa Xiang :   แล้ว คุนหลุน ในใจของคุณเป็นคนอย่างไรละครับ ? Jang Dong Gun : คุนหลุนคือคนที่มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อความรัก  แต่ความรักของเขานั้น ไม่แสดงมันออกมา เพียงแต่เป็นการมอบให้ด้วยความรัก จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 95 59.2 JDG ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบันเทิง sina.com พิธีกรMa Xiang :   พวกเราชาว sina ชื่นชอบคุณมากเลยนะครับ คุณจะกล่าวอะไรเพื่อพวกเราหน่อยมั้ย ? Jang Dong Gun: ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับความรักและให้การสนับสนุนของแฟนๆ เป็นอย่างมากครับ  รู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ เลย  ต่อไป ผมจะตั้งใจแสดงหนังให้ดี เพื่อเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชมทุกๆ ท่านครับ พิธีกรMa Xiang :  พวกเราอยากจะรู้ว่า หนัง The Promise ที่คุณแสดงนี้ ได้รับการวิจารณ์จากสื่อเกาหลีอย่างไรบ้าง ? Jang Dong Gun : The Promise คือการร่วมงานกันของดาราและผู้กำกับผู้โด่ดเด่นระดับโลก ผู้ชมชาวเกาหลีเองสนับสนุนหนังเรื่อง The Promise เรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยที่เกาหลีกำหนดออกฉายในปลายเดือนมกราคมปีหน้า ทุกคนต่างกำลังรอคอยจะชมอยู่ครับ พิธีกรMa Xiang :  ตอนที่อยู่หน้ากล้องของพวกเราในตอนนี้ การสะท้อนภาพของ คุนหลุน ออกมาควรเป็นแบบไหนกันครับ ? Jang Dong Gun : ที่จริง ที่พวกคุณได้เห็นผมอยู่ในตอนนี้ก็คือภาพลักษณ์ของคุนหลุนละครับ(กรี๊ดดดดดดดดดดด) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 96 59.3 JDG ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบันเทิง sina.com พิธีกรMa Xiang :  ปีใหม่ใกล้จะถึงแล้ว  จะสามารถกล่าวอวยพรแฟนๆ ชาว sina เป็นภาษาจีนได้บ้างหรือเปล่าครับ Jang Dong Gun :  ซิน หลาง หวาง โหย่ว ซิน เหนียน ไขว่ เล่อ (สวัสดีปีใหม่ครับชาวเว็บ sina) พิธีกรMa Xiang :  เก่งมากครับ ขอถามคำถามสุดท้ายว่า ได้ร่วมงานกับผู้กำกับเฉินใน The Promise นี้ นักแสดงแต่ละคนต่างมีความรู้สึกต่างๆ กับผู้กำกับ  ในระหว่างการถ่ายทำ คุณเคยมีประสบการณ์ความรู้สึกที่ว่า เขาช่างดุร้าย ร้ายกาจซะเหลือเกินอะไรจนรับไม่ได้แบบนี้บ้างมั้ยครับ ? Jang Dong Gun :  จะมีบางคนที่รู้สึกว่า เขาชอบขี้โมโหในการกองถ่าย  ที่แท้ เขาไม่ได้ขี้โมโหเลยครับ  อาจเป็นได้ว่า คนภายนอกจะมองเขาเป็นแบบนั้น  พูดจาอะไรดูจริงจังมากไป แล้วยังเป็นอย่างงั้นอย่างงี้อีก  แท้ที่จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ ได้ช่วยนักแสดงเป็นอย่างมาก  ความเคร่งครัดของเขาไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวแบบนั้น  มันก็คือการช่วยเหลือนักแสดงนั่นเองละครับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 97 59.4 JDG ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบันเทิง sina.com พิธีกรMa Xiang : ก่อนผมมา แฟนๆ ชาวเว็บ sina ขอให้ผมถามคำถามนี้เป็นพิเศษเลยว่า หนังใหญ่อย่าง Typhoon ของคุณจะออกฉายแล้ว พร้อมๆ กับการออกฉายของThe Promise ในระยะเวลาใกล้กันมาก คุณเห็นเป็นอย่างไร ? Jang Dong Gun :  เดิมที Typhoon  จะออกฉายในเกาหลีเวลาต่างจากการออกฉายของหนัง The Promise แต่ตอนนี้  มีการเลื่อนให้หนังTyphoon ออกฉายตอนปลายเดือนมกราคม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการออกฉายของThe Promise ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ดีมากครับ จะได้ให้ผู้ชมได้ดูหนังทั้งสองเรื่องเลย  หวังว่า ทุกๆ คนคงจะชื่นชอบหนังทั้งสองเรื่องนี้  ซึ่งเป็นหนังที่ผมทุ่มเทจิตใจในการแสดงทั้งสองเรื่องเลยครับ พิธีกรMa Xiang :   เซี่ย เซี่ย (ขอบคุณ) จางตงเจี้ยน ! Jang Dong Gun：เซี่ย เซี่ย(ขอบคุณครับ) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 98 60 Diary ภาพบันทึกเรื่องราว Jang Dong Gun ฉบับสมบูรณ์   Credit: Bai Hui Source: www.jangdonggun.com.cn Link:http://jangdonggun.com.cn/gb/news/2006-12-22/06-12-22-6160F.html คืนวันที่ 12/12/2005  JDG ออกงานฉายรอบปฐมทัศน์หนัง The Promise ณ ศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่ง กับข่าวแทรก Source: http://news.sina.com.cn/c/2005-12-03/11137610126s.shtml รายงานข่าวแจ้งว่า(แบบตัดต่อนะคะ ข่าวเยอะเหลือเกิน) การฉายรอบปฐมทัศน์อย่างเป็นทางการของหนัง อู๋จี๋ หรือ The Promise จะมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. ที่หอประชุมแห่งชาติ นครปักกิ่ง เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากทางทีมงานว่ารอบปฐมทัศน์ดังกล่าวจะจัดขึ้นในหัวข้อ “สิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุดของเธอและฉัน” ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นกิจกรรมเลือกแฟนๆ ให้เข้าชมหนังได้ฟรีๆ จำนวน 600 คน โดยทั้งหมดจะถูกเชิญให้เดินบนพรมแดงเข้างานในคืนวันที่ 14 ส่วนบรรดาดารานำและกลุ่มผู้สร้าง นำโดย จางตงเจี้ยน เฉินหง และ เฉินไข่เกอ จะไปทำการโปรโมทหนังเรื่องนี้ที่เมือง ฉางซา chang sha (ที่ไหนเนี่ยะ ไม่คุ้นเลยค่ะ นี่เป็น 1 ใน 6 เมืองที่ทางทีมงาน อู๋จี๋ ให้บริษัทตัวแทนของ เจดีจี เลือกค่ะว่าอยากไปโปรโมทที่ไหน แล้ว ฉางซา เนี่ยะ ที่ไหนหนอ) โดยจะให้แฟนๆ สัมผัสดารากันอย่างใกล้ชิดและอรรถาธิบายถึงคำว่า “อู๋จี๋” จบข่าวแทรกค่ะ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 100 60A.1 กับข่าวแทรกอีกซักครั้ง ทำไมคุณ jiayou เธอถึงได้นำเสนออะไรกลับไปกลับมาเช่นนี้นะ งง แอนด์ สับสนสิ้นดี โหยวจับทางเธอไม่ออกเลยจริงๆ http://ent.sina.com.cn/x/2005-12-04/0810916716.html ยิ่งใกล้วันฉายรอบปฐมทัศน์ ไม่ต้องห่วงเลยว่า ข่าวหนัง อู๋จี๋ จะต้องออกมาอย่างพรั่งพรู เราในฐานะผู้แปล ก็ใช้ยุทธการอ่านเจาะ เจาะแต่ที่มีคำว่า จางตงเจี้ยน เจ้าค่ะ คงไม่น่าเกลียดเกินไปเน้อะ เพื่อนๆ เน้อะ นักข่าวคนที่เคยดูหนังเรื่องนี้มาแล้ววิจารณ์ว่า มีความซับซ้อนในด้านเนื้อหา กว่าหนังเรื่อง ฮิโร่ มากมายนัก ความซับซ้อนนี้เป็นเพราะความสับสนของคน ตัวเชื่อมความสับสนทั้งปวงคือ คุนหลุน ซึ่งเป็นตัวละครที่เห็นได้เด่นชัดและโดดเด่นที่สุดแล้ว เขาตามหา ความรัก อิสรภาพ และ เกียรติยศ ส่วนนายพล กวงหมิง ก็ขี้ขลาดตาขาว เขาจับข้ารับใช้ของตัวเองมาปลอมแปลงตัวเป็นตนจนได้รับความรักจาก ชิงเฉิง สุดท้าย ขุนนาง อู๋ฮวน ซึ่งเคยถูกนางหลอกเมื่อตอนเด็ก... มีนักข่าวถามผู้กำกับเฉินว่า การที่ให้ จางตงเจี้ยน กับ ฮิโรยูกิ พูดภาษาจีนกลางเป็นวิธีการทำงานที่ยากมากเลยใช่หรือไม่ ? เฉินไข่เกอ : พวกเขาทำได้ยังไงบ้างเหรอ ทำได้ดีมากเลยครับ ผมนับถือในความบากบั่นทำงานของผู้คน คนต่างชาติมาเรียนภาษาจีน ก็เหมือนเด็กๆ มาเรียนพูดทีละคำ ซึ่งเรียนรู้กันได้ และผมได้พบว่าพวกเขาทั้งสองนั้นมีความตั้งใจและพากเพียงขนาดไหน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 60A.2 ข่าวแทรกอันต่อไป พูดถึง จางป๋อจือ Source:http://ent.sina.com.cn/x/p/2005-12-04/1402916924.html คนที่มีการงานกับความรักผสมปนเปกันไปอย่าง จางป๋อจือ ตอนที่เล่น อู๋จี๋ หนังเรื่องใหม่ของเฉินไข่เกอ  ใจป้ำ ทำในสิ่งซึ่งตั้งแต่เข้าวงการมาเพิ่งจะเคยแสดงเป็นครั้งแรก นั่นคือการเปลือยครึ่งตัวถ่ายทำฉากอาบน้ำอันเร้าใจ และถอดหมดเผยให้เห็นผิวพรรณขาวผุดผ่องยั่วยวนใจคน จางตงเจี้ยนผวาตื่นทำอะไรไม่ถูกจนถึงหันหลังให้ไม่กล้ามองเต็มตา (ว้า นี่มันบทในหนังนี่หว่า) แต่ จางป๋อจือ กล่าวว่า “ฉันออกจะรักษาประเพณีนิยมอันดีงามไว้ แต่ก่อนไม่เคยนุ่งน้อยห่มน้อยแสดงหนังซักที ตอนที่ถ่ายทำฉันจึงทำตัวไม่ถูกเลย เคอะเขินมาก แต่ทุกคนก็แค่อยากให้ฉากนี้มันออกมาดี ” จบข่าว (อันที่จริง วันที่ถ่ายทำ คุณจางป๋อจืด เดินล่องจ้อนออกมาตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ เป็นที่ประหลาดใจของผู้พบเห็นในกองถ่ายเป็นอันมาก แต่เธอกลับกล่าวว่า เธอทำเช่นนี้เพื่อเวลาเข้าฉากแล้วจะได้อารมณ์ สลายไม่รู้สึกเคอะเขิน ส่วนพระเอก คุณ จางตงเจี้ยน ได้ข่าวว่า ไม่ได้ตกตะลึงกับเรือนร่างเปลือยเปล่าของ จางป๋อจือ แต่อย่างใด เขายัง นิ่ง สงบ และเยือกเย็นเหมือนอย่างเคย เย้) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 102 60A.3 ข่าวแทรกอันต่อไป จะ ละเลยทิ้งไปก็ เสียดาย http://ent.sina.com.cn/x/2005-12-05/0052917542.html ข่าวตัดแปะแล้วค่ะ อัพสุดๆ แล้ว วันนี้เอง ............จางตงเจี้ยน กับ หลิวเยี่ย แสดงได้ดีเป็นพิเศษ เขาทั้งคู่เป็นชนชาติ เซี่ยะกั๋ว (เมืองแห่งหิมะ)เหมือนกัน จางตงเจี้ยนในบทบาทข้ารับใช้ คุนหลุน เป็นคนที่เรียบง่ายเหมือนเด็กๆ เพื่อความรักแล้ว เขายอมเสียสละทำทุกอย่าง แววตาของเขายังไงซะก็ยังคงดูอบอุ่น ซื่อและใส ถึงจะมีความอาฆาตแค้น แต่ก็ยังดูบริสุทธิ์ไร้มลทิน หลิวเยี่ย เดิมเป็นนักฆ่าเลือดเย็น ต่อเมื่อเขาพบว่า คุนหลุน เป็นคนชนชาติเดียวกัน ในใจของเขาก็เกิดความรักขึ้นมา ก่อให้เกิดแววตาอันเต็มไปด้วยความหวังขึ้นมา โดยเฉพาะฉากที่จบชีวิตของเขา ถือเป็นฉากที่สะเทือนใจอันยิ่งใหญ่ฉากหนึ่งของเรื่อง จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 103 60A.4 กับข่าวแทรกไปเรื่อยๆ เย้ http://ent.sina.com.cn/m/c/2005-12-05-0208917215.html เริ่มแรกสุด คุนหลุน เป็นเพียงแค่ข้าทาสที่ปีนป่ายคลานไปมาตามพื้น ต่อเมื่อเจอเข้ากับฝูงวัวที่กำลังวิ่งเตลิดกวดเข้ามา มีอันตรายถึงแก่ชีวิต เขาจึงได้ใช้เท้าทั้งสองข้างของเขาออกวิ่งหนีทันที ในโลกแห่ง อู๋จี๋ นั้น เขาเป็นคนนอกคนหนึ่ง (คงหมายว่าไม่ได้เข้าไปพัวพันในคำสาป หรือเปล่า ?) ในตอนที่เขาใช้แววตาอันไร้เดียงสาเหมือนเด็กของเขาบอกกับ ชิงเฉิง ว่า “เจ้าอย่าได้ตายนะ ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”ในตอนนั้นมันสร้างความประทับใจให้กับ ชิงเฉิง เป็นอย่างมาก และแววตาคู่เดียวกันที่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจมือฆ่าอย่าง กุ่ยหลาง ได้ จากนั้นเป็นต้นมา โชคชะตาก็ได้นำพาเขาให้กลายเป็น ผู้นำทัพคนใหม่  และเป็นผู้ชายที่ ชิงเฉิง รักอย่างจริงใจ แววตา ของ Jang Dong Gun ช่างใสสะอาด จากดวงตาซื่อๆ ใสๆ เหมือนเด็กคู่นั้นของเขา นำพาให้ผู้กำกับระดับ เฉินไข่เกอ ค้นพบเข้าไปถึงจิตใจในส่วนลึกของ Jang Dong Gun เองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความใสสะอาดของความเป็นคนดี รักสันติภาพ ของเขา (โห อ่านแล้วอ่อนระทวยครับท่าน นี่แหละ เราเจอแล้ว จากกระทู้แรกที่เรา โหยหา ตลอดจวบจนบัดนี้ บรรทัดนี้คือ คำตอบว่า ทำไมเดิมที ผู้กำกับเฉิน ที่ตั้งใจจะให้พระเอกของเรารับบทเป็น ขุนพล กวงหมิง จอมขี้ขลาด แล้วเกิดกลับลำเปลี่ยนใจกะทันหัน เปลี่ยนให้ Jang Dong Gun ที่รักของข้าพเจ้ามารับบทพระเอกที่แสนดี ก็เพราะ แววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ และทำให้ใครต่อใครใหลหลงในความใส่ซื่อดุจทารก คู่นั้น นั่นเอง เย้) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 104 60A.5 จากข้ารับใช้เยี่ยงสัตว์เปลี่ยนแปลงไปเป็นเมือนเทพในใจของผู้คน คุนหลุน เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ความรู้สึก สำนึกตัว ความทุกข์ทรมาน และทางเลือก ในที่สุดเขาก็ค้นพบว่า ความสามารถของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขานั่นเอง รวมไปถึงโลกทั้งโลกได้ แต่ Jang Dong Gun กลับไม่ใช่คนแบบนั้น เขาปรากฏตัวในวงการบันเทิงในมาดของนายแบบ  จนถึงตอนนี้ฐานะและชื่อเสียงของการเป็นดาราหนังของเขาขจรขยายไปทั่วโลกตะวันออก เขาไม่ใช่คนที่มีจิตใจทะเยอทะยาน ด้วยฟ้าที่ลิขิตให้เขามีใบหน้าที่งดงามประกอบกับสติปัญญา บวกด้วยความมานะอุตสาหะ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 105 60A.6 การเล่นเป็น คุนหลุน ต้องทำตัวเองให้เหมือน เสือโคร่ง หรือ เสือดาว เจดีจี พูดว่า ตัวเองไม่เคย “อัปลักษณ์”ได้เท่านี้มาก่อน เริ่มฉากแรกก็เป็นข้ารับใช้ที่เสื้อผ้าขาดกระรุ่งกระริ่ง ใบหน้าเปื้อนเปรอะฝุ่นโคลน มือเท้าเปล่า ปากก็ส่งเสียงคำราม ฮึ่มๆ ถ้าไม่เพราะมีดวงตาคู่นั้นแล้ว จางตงเจี้ยน ก็คงถูกกลืนไปให้คลุกเคล้าปะปนอยู่ในกลุ่มข้าทาสด้วยกัน (หล่อจับใจเลยค่ะ รูปนี้ สุดยอดคุนหลุน) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 106 60A.7 แต่ จางตงเจี้ยน กลับไม่ถือสากับเรื่องที่ว่านี้ “ภาพลักษณ์ของข้ารับใช้คงไม่ต้องหล่อก็ได้มั้ยครับ ? ถึงแม้ว่าในหนังเรื่องนี้ผมจะดูขี้เหร่มากก็ตาม แต่การปรากฏกายภายนอกกลับไม่ใช่ประเด็นสำคัญ อารมณ์ของหนังจะไม่นำภาพลักษณ์ภายนอกมาอรรถาธิบายความครับ แต่จะอาศัยจิตใจภายในของตัวละครนำเสนอออกมาเพื่อสร้างความประทับใจให้คนดู ผู้ชมตอนดูหนัง จะดูว่านักแสดง แสดงออกมาได้ดีหรือไม่ครับ” (หน้าหวานมากๆ ตอนนี้) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 107 60A.8 เพื่อให้ได้ใบหน้าของ คุนหลุน อันป่าเถื่อน หรือ ดิบ เจดีจี ได้หยิบยืมท่วงท่าการย่างก้าวอันงามสง่าของ เสือ หรือ เสือดาว มาใช้ “คุนหลุนในตอนต้นกับตอนจบของเรื่องจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากข้าทาสคนหนึ่ง ค่อยๆ แปรเปลี่ยนตัวเองไปเป็นคนเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้น สุดท้ายแล้วยังทรงไว้ซึ่งความดีงามกว่าคนทั่วๆ ไป ใกล้เคียงกับเทพที่อยู่ในตัวคนแบบนั้น” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 108 60A.9 บุคลิกและจิตใจที่ต้องเปลี่ยนไปอย่างสับสนวุ่นวายนี้ ตอนที่เริ่มแสดงใหม่ๆ ผมมีความรู้สึกว่าทำอะไรไม่ค่อยถูกเหมือนกัน แต่ในเวลาอันรวดเร็ว ผมก็จับเอาจิตใจของทาส คุนหลุน มาเป็นประเด็นหลัก แล้วทำตัวผมเองให้เหมือน เสือ หรือ เสือดาว เลียนแบบท่าทางการเคลื่อนไหวของมัน ตอนถ่ายทำ นำจุดนี้มาใช้ในร่างของทาสคุนหลุน จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 109 60A.10 คุนหลุนอาศัยความมานะบากบั่นของตัวเองเพื่อสลัดคราบความป่าเถื่อนของตนออกไป แต่สำหรับ จางตงเจี้ยน แล้ว เขาอาศัยความมานะบากบั่นของตนเพื่อสลัดคราบความเป็น idol ของตนออกไป อันดับแรก “ผมยอมรับว่า คนๆ หนึ่งสามารถใช้ความพยายามของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาตัวเองได้ครับ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 110 60A.11 พากย์เสียงจีนกลาง คนวงในกล่าวว่ามีสำเนียง “ซินเกียง” ใน อู๋จี๋ เจดีจี พูดภาษาจีนทั้งหมด 66 ประโยค ซึ่งเขาต้องใช้เสียงพากย์เองทั้งหมดด้วย เขาที่เป็นแค่นักแสดงต่างชาติคนหนึ่ง กลับพูดภาษาจีนกลางได้มาตรฐานกว่า เซี่ยถิงฟง ด้วยซ้ำไป จากคนที่ไม่เข้าใจภาษาจีนกลางเลยอย่างเขา ก่อนวันเข้าฉากเป็นครั้งแรก เขากังวลมากจนนอนไม่หลับ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 111 60A.12 “ตอนที่เข้าฉากเป็นครั้งแรก ผมเหมือนจะสติแตกเลย เพราะเวลาสำหรับการเตรียมตัวเพื่อการถ่ายทำมีน้อยครับ แล้วต้องให้ผมพูดภาษาจีนตอนเข้าฉากด้วย รู้สึกว่ามันกดดันผมมากๆ ดังนั้นจึงทำให้ผมนอนไม่หลับเลย ต่อมา วันแล้ววันเล่าที่ผ่านไป จนกระทั่งถึงครึ่งปี ผมสามารถพูดคุยภาษาจีนพื้นฐานง่ายๆ กับทีมงานได้ครับ พูดจีนด้วยกันก็รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น ผมค้นพบว่า ภาษาจีนไม่ได้ยากอย่างที่คิด ตอนที่ถ่ายทำไปได้ครึ่งเรื่อง ผมเริ่มที่จะใช้ภาษาจีนสื่อสาร ทำให้ตอนเข้าฉากเป็นไปได้รวดเร็วกว่าแต่ก่อน ” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 112 60A.13 เขาเป็นคนที่เฉลียวฉลาดมาก และมีพลังความสามารถอันเข้มแข็งและความมานะอดทนเป็นเลิศอีกด้วย อย่างเช่นตอนที่ใส่เสียงพากย์ คำพูดเพียงประโยคเดียว เขาไม่ย่อท้อที่จะพูดมันซ้ำไปซ้ำมาเป็นร้อยๆ เที่ยว ประโยคที่เขาพูดในหนังมีทั้งหมด 66 ประโยค เขาต้องใช้เวลาในการพากย์เสียงถึง 4 วันครึ่ง แต่ในเวลาต่อมายังอุตส่าห์กลับมาพากย์ซ่อมอีกครั้งด้วย ทำเอาทีมงานที่ร่วมบันทึกเสียงกับเขาแทบคลั่งไปตามๆ กัน (ก็อย่างที่แปลให้อ่านไปแล้วค่ะ ว่ามีอยู่วันหนึ่งซึ่งพ่อเจ้าประคุณพากย์เสียงประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่ 9 โมงเช้ายาวไปจนถึง เที่ยงคืน ทีมงานก็เกรงใจไม่กล้าถอดใจหนีกลับ แต่สุดท้ายทนกันไม่ไหวจริงๆ เลยต้องลงมานอนแผ่ 4 สลึง(เป็น 1 บาท)บนพื้นให้ดูกัน จะ จะ 5 5 5 จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 113 60A.14 แต่เป็นเพราะว่า ภาษาเกาหลีไม่เสียงที่ต้องม้วนลิ้นอย่างในภาษาจีน จางตงเจี้ยนที่ในหนังต้องพูดคำว่า “เจ้านาย” (มีคำที่เป็นเสียงที่ต้องม้วนลิ้น)หลายต่อหลายหน คนฟังก็ยังรู้สึกทะ:-)ๆ เลยถูกทางทีมงานเรียกเสียงของเขาว่าเป็นคนเสียงเหน่อแบบชาว ซินเจียง (หรือซินเกียง) ซะเลย แต่ผู้กำกับเสียงในห้องพากย์กลับพูดกลบเกลื่อนให้ว่า “คุนหลุนในตอนเริ่มแรมนั้นเป็นข้าทาส ปกติธรรมดาแล้วจะไม่มีสิทธิพูดจาอะไรเท่าไร ต่อมาได้เจอกับนายพล กวงหมิง เขาจึงให้สิทธิการพูดนั้นกับ คุนหลุน ด้วยเพราะเป็นคนเถื่อนไม่ได้พูดกับใครเป็นเวลานาน การออกเสียงจะค่อนข้างแข็งๆ ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ก็เข้ากับเนื้อเรื่องพอดิบพอดี (เข้ากันเหมาะเจาะกับการให้เสียงของเจดีจี ด้วยค่ะ)” จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 114 60A.15 เวลาพูดคุยกันก็แสนลำบากแล้ว แต่ถ้าไม่ได้กิน กิมจิ นี่ซิ ทุกข์ทรมานแสนสาหัสกว่า คนจีนที่ไปเที่ยวเกาหลี สิ่งที่กลัวที่สุดตอนทานอาหารก็คือ หลังจากกิมจิจานที่ 1 ขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว จะต้องมี กิมจิ จานที่ 2 ตามมาอีก อาจเป็นไปได้ว่า ความรู้สึกผูกพันของคนเกาหลีที่มีต่อ ผักดองกิมจิ ก็เหมือนๆ กับคนเสฉวนหลงใหลในพริกเผ็ดๆ นั่นเอง ดั่งสำนวน “จงรักภักดี 1 ไม่มี 2” อย่างนี้เองกระมัง อย่าได้มองว่า เจดีจี ซึ่งเดินทางมาแล้วทั่วโลก แต่ยังไงซะเขาก็ต้องเป็นแบบฉบับของคนเกาหลีอย่างแท้จริงอยู่นั่นเอง ตอนที่ถ่ายหนังที่เมืองจีน ความยากลำบากที่สุดไม่ใช่การถูกขึงด้วยลวดสลิง เพราะนั้นยังพอทนไหว แต่ที่ไม่สามารถรับได้เลยก็คือ การไม่มี กิมจิ จะกินนี่ซิ จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 115 60A.16 “ตอนที่ผมถ่ายหนังอยู่เมืองจีนนี่ ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารจีนเลยครับ ดังนั้นจึงรู้สึกว่ามันทรมานเล็กน้อย จริงๆ แล้ว ข้อเรียกร้องของผมต่อทีมงานมันเรียบง่ายมากครับ ไม่ต้องเป็นอาหารเหลา ภัตตาคารใหญ่หรอก ขอแค่ให้ผมได้กินผักดองกับข้าวสวยก็พอแล้วครับ” เป็นยังไงล่ะ คำขออย่างเดียวจาก เจดีจี ทีมงานต้องสนองตอบได้อย่างแน่นอน ตอนถ่ายทำที่ปักกิ่ง มีเขตของชาวเกาหลี ดังนั้นการหาผักดองกิมจิ จึงไม่ใช่เรื่องยาก ต่อมาเมื่อทีมงานย้ายกองไปถ่ายทำกันที่เขตมองโกลใน พวกเขาจึงเตรียมตู้เย็นขนาดใหญ่ บรรทุกผักดองไปให้เขาด้วย การถ่ายทำของเขาก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตู้เย็นใบนั้นได้ถูกนำมาผึ่งลมเป็นเวลาอาทิตย์หนึ่งแล้ว ใครๆ ต่างขอบคุณฟ้าดินที่กลิ่นของผักดองดังกล่าวได้เจือจางไปเรียบร้อยแล้ว เย้ (อ่านแล้วรู้สึกภาคภูมิใจแทนประเทศเกาหลี ที่มีผู้ชายแบบฉบับคนเกาหลีอันงดงามทั้งรูปร่าง หน้าตา และจิตใจอย่าง จางตงเจี้ยน คนนี้เจ้าค่ะ รัก ค่ะ รัก) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 116 60A.17 ข่าวแทรกต่อไป เย้ Source:http://ent.sina.com.cn/x/2005-12-05/0208917209.html ข่าวตัดแปะของสำนักข่าว sina.com แปลโดย เจวาย วันนี้ขอเสนอ เย้... ผู้กำกับศิลป์คนเดิมแหละค่ะ ยังชมแฟนเราไม่เลิกเลย อ๊ายอาย ชมแฟนเราอยู่ได้ ดังนี้ ผู้กำกับศิลป์ เยี่ยจิ่นเทียน กล่าวชมจางตงเจี้ยนว่า “Jang Dong Gun ผู้แสดงเป็น คุนหลุน มีใบหน้าที่สวยงามมาก มันเป็นความงดงามแบบที่ตรึงตาตรึงใจ และยากที่จะลบเลือนไปจากใจ  ตอนที่มองเขา ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่า เขามีส่วนคล้าย โจวเหวินฟะ เล็กน้อย ตั้งแต่สีหน้า แววตา ของเขาไปจนถึงรูปร่างของเขาขึ้นกล้องมาก พอกล้องจับภาพของเขาปั๊บ คุณจะต้องในมนต์เสน่ห์ของเขาทันที นี่แหละที่เขาเรียกว่า พลังอำนาจอย่างหนึ่ง(แถวบ้านเราเรียกคาถา ณ จัง งัง เจ้าค่ะ) ผมได้จัดการกับดวงตาคู่นั้น รวมไปถึงทั้งหมดทั้งตัวของเขาด้วย ต้องทำหลายอย่างมากเพื่อที่จะเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนที่ป่าเถื่อนคนหนึ่ง ” ( รูปป๋า โจว ดาราในดวงใจของเราอีกคนค่ะ) จากคุณ : jiayou - [ วันเนา (14) 08:17:49 ]