ความคิดเห็นที่ 5
"ยันต์สั่งตาย"_* (โดย *"ปวีณ ภูริจิตปัญญา"* / นำแสดงโดย *"วิทวัส สิงห์ลำพอง", "อภิญญา สกุลเจริญสุข", "ชล วจนานนท์"*)
...จินตนาการถึงวิธีการเอาคืนแบบเด็ก ๆ อย่างการเขียนกระดานดำล้อชื่อพ่อเพื่อน แล้วลองจินตนาการถึงการเอาคืนของเด็กช่างกลกลุ่มนี้ที่เลือกวิธีเขียนยันต์สั่งตาย แช่งคนที่พวกเขาเกลียดขี้หน้า
...จินตนาการดูซิว่า ดีกรีความโหดมันจะสุดขั้วกว่ากันแค่ไหน
...ระดับความน่ากลัว ความสยอง ความหวีด เทียบได้กับการได้ขึ้นไปอยู่บน *"รถไฟเหาะหฤโหด"* หรือ *"Bloody Roller Coaster"* ถ้าใครได้เคยขึ้นคงรู้ดีว่ามันทั้งสนุก เสียว เร้าใจและตื่นเต้นปนขวัญผวามากแค่ไหน มีทั้งจังหวะกระตุก จังหวะเสียวสันหลังไปพร้อม ๆ กัน แต่สำหรับหนังเรื่องนี้แล้วอยากให้จินตนาการถึงรถไฟเหาะที่ตีลังกาซัก 5 รอบ ในแบบที่หัวอยู่ใต้ราง และเท้าห้อยอยู่นอกตัวรถกันเลย เพราะมันจะทำให้คุณเสียวเพิ่มขึ้นอีกเป็น 10 เท่าทวีคูณ เลือดในร่างกายฉีดพล่านไปทั่วร่าง ร้อนผ่าวกันแบบทั่วตัวแน่ ๆ!
...เพราะ *"ยันต์สั่งตาย"* เป็นหนังผีแอ็คชั่นที่ดุเดือนเลือดพล่านมาก ในชนิดที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นเหมือนระเบิดเวลา ที่พอจุดชนวนเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะระเบิดออกมาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการทำลายล้างสูงอีกด้วย คือหนังเรื่องนี้จะแทบไม่มีเวลาให้คนดูได้หยุดพักเลย ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก ต้องคอยลุ้นอยู่ตลอดเวลา จนเกิดอาการขวัญกระตุกตื่นเต้นจนหายใจไม่ออกตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้ายกันเลย
...เป็นเรื่องราวของการแก้แค้น การเอาคืนของคนที่มีวิชาอาคม เป็นการเอาคืนโดยการเล่นของอย่างหนึ่งในรูปแบบของยันต์ ที่เรียกว่า *"ยันต์สั่งตาย"* เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทน แต่สุดท้ายหนังต้องการจะบอกว่าการแก้แค้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันสงบสุข!
...*"ยันต์สั่งตาย"* มีที่มาจากความชอบของผู้กำกับในการ์ตูนเรื่อง *"The Paper"* ของ*พี่เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ *ที่เป็นคนวาดการ์ตูนเรื่องนี้และเป็นคนที่เขียนบทหนังเรื่อง *"บอดี้ ศพ#19"* มาแล้ว ผู้กำกับชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากอยากเอามาทำเป็นหนังอยู่แล้วแต่ความยาวของเรื่องและรายละเอียดไม่สามารถทำเป็นหนังยาวได้ แต่พอมีโอกาสทำหนังเป็นตอน ๆ แบบนี้เลยได้ทีเข้าทางผู้กำกับเข้าให้ เลยขอการ์ตูนเรื่องนี้มาทำและก็ได้พี่เอกมาเขียนบทเรื่องนี้ให้ด้วยซะเลย ทำให้เข้าขารู้ทางกันเป็นอย่างดี
...และหลังจาก *"บอดี้ ศพ#19"* ได้ออกฉายไป จนผู้กำกับกอล์ฟได้รับฉายาว่า* "เจ้าพ่อซีจี"* ไปแล้ว เพราะแทบทั้งเรื่องใช้ซีจีได้อย่างแนบเนียน ได้มุมมองที่แปลกตาและภาพสวย เลิศ ทันสมัยไม่เหมือนใคร กลายเป็นเอกลักษณ์และคาแร็คเตอร์ในหนังของผู้กำกับคนนี้ไปซะแล้ว แถมทำให้ผลงานโกอินเตอร์ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่ประเทศอเมริกาในงาน American Film Market จนได้รับความสนใจจากประเทศต่างๆที่จะซื้อไปฉายถึง 10 ประเทศ มาคราวนี้สำหรับเรื่อง *"ยันต์สั่งตาย"* เพื่อไม่ให้เสียชื่อ *"เจ้าพ่อซีจี"* จึงไม่น่าแปลกใจที่ในหนังเรื่องนี้จะมีการใช้เทคนิคพิเศษหรือซีจีในหนังเรื่องนี้แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง แถมยังขนเอฟเฟคและอุปกรณ์พิเศษต่าง ๆ มาใช้กับเรื่องนี้อีกเยอะแยะมากมาย
...ซีจีอย่างแรกทีเห็นและถือเป็นตอนสำคัญของเรื่อง คือ *"กระดาษที่มีชีวิต"* กระดาษที่สามารถออกไปไล่ล่าคนได้ สามารถบังคับให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการได้ อย่างฉากที่ผู้กำกับเรียกว่า *"เพเพอร์ แอคแทค"* เป็นฉากที่ยันต์สั่งตายบินมารอบ ๆ รถของเหยื่อและทุบกระจกจนร้าวเพื่อจู่โจม คือต้องการได้ภาพที่ให้กระดาษมันตีเข้าที่กระจกรถ เหมือนนกกระพือปีกตีเข้ากับกรงนกประมาณนั้น เพื่อให้ภาพดูรุนแรง น่าสนใจ น่ากลัว และคุกคามในเวลาเดียวกัน
...และส่วนอื่น ๆ ที่ต้องใช้ซีจี คือผี ด้วยคาแร็คเตอร์ของผีที่เราอยากได้คือผีตายโหง เราต้องสร้างมาจากซีจีล้วน ๆ เพราะต้องการให้ผีมีการเคลื่อนไหวที่ดูผิดปกติ ซึ่งถ้าเอาคนมาเล่นหรือให้ขยับตัวแบบนั้นมันทำไม่ได้ และอีกอย่างผู้กำกับต้องการให้หน้าผีดูบูดเบี้ยวแบบไม่มีกรอบอะไรมายึดติดว่าต้องออกมาเป็นแบบไหน จึงต้องสร้างคาแร็คเตอร์ผีนี้ขึ้นมาด้วยซีจีเพื่อให้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างที่ต้องการ เรียกว่าภาพที่ออกมาจะทำให้ทั้งกลัว ทั้งสยองแบบที่ผู้กำกับอยากให้เป็นแน่นอน
...และอีกฉากที่ต้องใช้ซีจีเรียกว่าแทบทั้งฉากคือฉากที่มีเด็กถูกแกล้งจนพลาดตกตึกล่วงลงมาโดนเสาธงเสียบ ฉากนี้ต้องถ่ายบนกรีนสกรีน ใช้ซีจีในการเนรมิตสร้างโรงเรียนขึ้นมาใหม่ทั้งหมด รวมทั้งเสาธงและเศษกระจกที่แตกออกมาก็ใช้ซีจีในการสร้างด้วย เพื่อความสวยงามของฉาก ทำให้ได้มุมมองของภาพที่ต้องการ และได้มุมที่แปลกตาออกไป และยังมีอีกมากมายหลายฉากที่ใช้ซีจีเข้าช่วยเพื่อให้สมจริง สวยงาม และสยดสยอง ตามสไตล์ของผู้กำกับ
...นอกจากนี้ยังมีฉากที่ต้องใช้เอฟเฟ็คต์เข้าช่วยด้วยอีกหลายต่อหลายฉาก อย่างฉากที่ *"บอล"* ต้องถูกไฟคลอกทั้งหน้าและตัว โดยต้องแต่งให้ไหม้ไปทั้งตัว ซึ่งต้องมีการทำให้หัวล้านไปครึ่งหนึ่ง และใส่ผมปลอมเข้าไปเพราะเวลาไฟโดนผมจะไหม้และมีลักษณะเป็นหยิก ๆ เลยต้องเมคอัพใหม่ทั้งหมด ทั้งเสื้อผ้าก็ต้องขาดวิ่นเหมือนโดนไฟคลอกด้วย และก็จะไปผสมกับในคอมพิวเตอร์ที่เป็นไฟอีกทีหนึ่งเพื่อให้ได้ภาพที่ถูกเผาอย่างสมจริงมากขึ้นไปอีก ซึ่งการเมคอัพนี้ใช้เวลาแต่งนานถึง 3 ชั่วโมงเต็มๆ โดยใช้แผ่นกาวแปะบนหน้าแล้วค่อย ๆ เมคอัพใช้ผมปลอมซึ่งต้องเอาไปเผาไฟก่อนค่อย ๆ มาติดบนหัว ให้เหมือนผมที่โดนไฟไหม้จริง ๆ ซึ่ง *"บอล"* แอบกระซิบว่า ทั้งเหนียว ทั้งเหม็นทรมานมาก ๆ
...อีกฉากที่ต้องอาศัยการแต่งหน้าเอฟเฟ็คต์เข้าช่วยและถือเป็นฉากไฮไลท์ก็คือ ฉากที่ถูกควักลูกตาออก เป็นอีกฉากที่เมคอัพกันทรหดอดทนมากคือเกือบ ๆ 3 ชั่วโมง คือจะทำให้เหมือนตาถูกควัก และมีลูกตาปลอมออกมา ถ่ายฉากนี้กันตอน 6 โมงเช้า เริ่มแต่งหน้ากันตั้งแต่ตี 3 เพื่อให้ได้ภาพที่สยอง สวยงามและน่าสะพรึงกลัวให้ได้มากที่สุด
...ฉากเหล็กเสียบคอ เป็นฉากที่ *"ชลลี่"* โดนอำนาจของยันต์สั่งตาย จนตกใจถอยหลังไปสะดุดกองเหล็กและล้มใส่กองเหล็กเส้น ทำให้เหล็กทะลุเข้าไปในคอ แล้วไปตุงอยู่อีกด้านหนึ่ง เป็นฉากที่ผู้กำกับอยากเมคอัพให้ได้ภาพที่ดูสุดโต่ง สยอง และดูเว่อร์ขึ้นเพื่อเร้าอารมณ์คนดูในฉากนั้น เลยทำเป็นลักษณะของเนื้อที่ย่นและยู่จนยื่นออกมา ให้ดูน่าขยะแขยงแต่ดูไม่อุจาดตาเกินไป ซึ่งก็ทำออกมาอย่างได้อารมณ์สุด ๆ
...มาถึงฉากที่ต้องยกนิ้วให้กับสปิริตของนักแสดงคือ ฉากที่ *"บอล"* ต้องตกตึก และ *"บอล"* อาสาเล่นเองเพราะอยากได้ภาพที่เห็นเป็นตัวเค้าเองจริง ๆ ซึ่งต้องถ่ายตกตึกอยู่อย่างนั้นประมาณ 50 รอบได้ อยู่บนสลิงนานเกือบ 5 ชั่วโมง เพราะผู้กำกับอยากได้ภาพหลาย ๆ มุม และบางครั้งสลิงก็ไม่เป็นใจไม่ล่วงลงมาในตำแหน่งที่ต้องการ เลยต้องถ่ายกันอยู่หลายรอบ เรียกว่าถ่ายจน *"บอล" *ไม่สบาย แต่ก็สปิริตถ่ายต่อจนได้ภาพที่พอใจ
...อย่างที่บอกไปว่าเรื่องนี้หนักทั้งซีจี และเอฟเฟ็คต์ เพราะฉะนั้นนักแสดงที่เล่นจึงไม่ได้มาเล่นแบบสบายๆแน่ ทั้งต้องทรมานกับการแต่งหน้าเอฟเฟ็คต์แต่ละครั้งเกือบครึ่งวัน หรือไหนจะต้องเล่นต้องจินตนาการ ทั้งหวาดกลัว ทั้งร้องไห้ ตกใจ เล่นกับลม กับอากาศอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีอะไรอยู่รอบตัวเราเลย เพราะในฉากเหล่านั้นต้องใช้ซีจีสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านหนักมากทีเดียว
...และหนึ่งในนักแสดงที่ผู้กำกับตั้งใจเลือกมาก็คือ *"สายป่าน"* คือทันทีที่เขียนบทเสร็จผู้กำกับก็ปิ๊งขึ้นมาเลยว่าบท *"พิงค์"* น่าจะเหมาะกับ *"สายป่าน" *เพราะอยากได้ลุคของเด็กผู้หญิงที่สามารถอยู่ในก๊วนของผู้ชายได้ และมีความเป็นเด็กนักเรียนที่ดูธรรมดา ๆ แต่แววตาของเค้าและความสามารถทางการแสดงนั้นสุดยอด และพอได้มาเล่นจริง ๆ ก็สุดยอดมาก ๆ เพราะสามารถเล่นได้ดีในทุกฉาก ทั้งซีนอารมณ์ ดราม่า และแอ็คชั่น ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีจริง ๆ
...ส่วนบท *"เดี่ยว"* ที่รับบทโดย *"บอล"* ซึ่งเป็นบทหัวโจกของกลุ่ม ต้องดูเป็นเด็กที่เฮี้ยว ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ และดูเอาแต่ใจตัวเอง ที่สำคัญต้องมีบุคลิกของความเป็นผู้นำ แคสติ้งบทนี้อยู่นาน จนไม่ได้คิดถึง *"บอล"* เพราะยังรู้สึกว่าติดภาพบอลจากหนังเรื่อง Seasons Change ที่เป็นภาพเด็กเล่นดนตรี แต่พอได้เห็นบอลมาแคสบทนี้กลับโดนใจผู้กำกับมาก ๆ และด้วยนิสัยจริง ๆ ที่ออกกวนๆของบอลด้วยแล้ว เลยทำให้บท *"เดี่ยว"* นี้เหมาะกับ *"บอล" *แบบสุด ๆ
...เรียกว่าทุกฉาก ทุกตอนในหนังเรื่องนี้ตั้งใจ ประคบประหงม และถูกดีไซน์มาอย่างดีเพื่อความน่าสะพรึงกลัวของหนัง บวกกับความบ้าและความมันส์ของตัวผู้กำกับด้วยแล้ว เรียกว่า *"ยันต์สั่งตาย"* สามารถทำให้คนดูแทบหยุดหายใจทุกวินาที และยังสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้กำกับ *"กอล์ฟ ปวีณ ภูริจิตปัญญา"* ได้อย่างดี
_ผู้กำกับ_ - *ปวีณ ภูริจิตปัญญา* (บอดี้ ศพ#19)
_อายุ_ - 29 ปี
_การศึกษา_ - นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิชาภาพยนตร์และภาพนิ่ง
_ผลงาน_
ปี 2007 - ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง บอดี้ ศพ#19
_รางวัล_ ปี 2007 รางวัลการสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม จากสุพรรณหงส์ครั้งที่ 17
...ภาพยนตร์เรื่อง *"บอดี้ ศพ#19" *ประสบความสำเร็จอย่างสูงในงาน American Film Market ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และงาน The 10 th Anniversary of Udine Far East Film Festival ที่ประเทศอิตาลี โดยได้รับความสนใจและกระแสตอบรับจากคนดูดีมาก จนมีหลายประเทศสนใจจะซื้อหนังเรื่องนี้ไปฉายกว่า 10 ประเทศ โดยมีประเทศ เกาหลี, บราซิล,ไต้หวัน, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ขอซื้อหนังไปฉายแล้ว
_นักแสดงนำ_ - *สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข* (รับบท *"พิงค์"*)
วัน เดือน ปีเกิด 27 พฤษภาคม 2533 / เรียนอยู่ IBS 3 เกรด 10 (Interkids Bilingual School )
ผลงานที่ผ่านมา โฆษณา Happy, เฟเบอร์ คลาสเทล / พิธีกร รายการสตรอเบอร์รี่ ชีสเค้ก / ถ่ายแบบ ไอซ์, เธอกับฉัน, แคมปัส / มิวสิควิดีโอ ของศิลปิน ไอน้ำ, ยืนยัน, ไม่เหงาไม่มาใช่ไหม, แอม ซอรี่ / ภาพยนตร์ *"พลอย", "Friendship"*
**
_นักแสดงนำ_ - *ชลลี่-ชล วจนานนท์* (รับบท *"โยเกิร์ต"*)
วัน เดือน ปีเกิด 16 กันยายน 2528 (อายุ 22 ปี) / งานอดิเรก เล่นกีฬา วาดรูป ทำของแฮนด์เมด
ผลงานที่ผ่านมา โฆษณาโชกุบุสึ / มิวสิควิดีโอต่างๆ / พิธีกรรายการคลับเอ็กซ์ พิธีกรรายการโมเดิร์น, DJ. iRadioclub.com-POP (A-Time) / ภาพยนตร์เรื่อง *"สวยลากไส้"* / ละคร "รักนี้เคียงตะวัน"
_นักแสดงนำ_ - *บอล-วิทวัส สิงห์ลำพอง* (รับบท *"เดี่ยว"*)
เกิด 12 มีนาคม 2531 (อายุ 18 ปี) / ศึกษา คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน ปี 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง / งานอดิเรก อ่านหนังสือ, เล่นเกม, สะสมหนังสือการ์ตูน Boom, เล่นฟุตบอล, ไอซ์สเก็ต, สเก็ตบอร์ด, ทำอาหาร
ผลงาน ถ่ายแบบนิตยสาร The Boy, ICE / ภาพยนตร์ *"Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"* / พิธีกรรายการ "รถโรงเรียน" / ละคร "นารีสโมสร"
จากคุณ :
patyawi
- [
วันเถลิงศก (15) 23:00:41
]
|
|
|