ความคิดเห็นที่ 1 พี่ว่าจริงๆแล้วผู้จัดก็คงไม่ได้อยากทำละครแบบนี้มาตั้งแต่แรกหรอกนะ ใครๆก็อยากทำละครที่สร้างสรรค์สังคมนั่นละ แต่มันติดปัญหาอยู่ที่คนดูละครไทยส่วนมากถูกปลูกฝังมากับละครตบตีไปแล้ว มันกลายเป็นค่านิยมชนิดที่ว่าละครแนวอื่นกลายเป็นไม่น่าดูเพราะมันไร้รสชาติไป เรื่องงบพี่ว่ามันไม่เกี่ยวเท่าไรนะ เพราะสำหรับพี่ละครบางเรื่องภาพไม่สวยแต่ถ้าบทมีความโดดเด่นแล้วพี่ก็ดูได้น่ะ สรุปว่าที่ละครไทยสู้ละครญี่ปุ่นไม่ได้ส่วนนึงเพราะคนไทยส่วนใหญ่นี่ละที่ยึดติดละครตบจูบชนิดไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พอทำละครแนวอื่นก็เรตติ้งต่ำจนอยู่ไม่ได้ ทางแก้คงมีแค่ให้ทุกช่องพร้อมใจไม่ทำละครแนวนี้ไปซัก 2-3 ปี เดี๋ยวคนดูคงจะชินกับละครปกติไปเอง แต่คงเป็นไปได้ยาก จากคุณ : vagakung - [ 17 เม.ย. 51 10:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เีกี่ยวกับ เงินทุน เกี่ยวกับ Source มากกว่า พล๊อตเรื่องที่แปลกใหม่ ความหลากหลาย ร่วมถึง รสนิยมผู้บริโภค ความกล้าของผู้ผลิต ญีปุ่นมีการ์ตูนที่เป็น Source ดีดีหลายเรื่องมาก แถมไม่ไร้สาระด้วย ของไทยซะอีก ที่หาแก่นแทบไม่เจอ เอะอะ ก็เรื่องของความรัก ส่วนเรื่งอที่ดีดีของไทยก็มีนะ พระจันทร์ลายกระต่าย แต่ก็ไม่ค่อยดัง ยังมีอีกหลายเรื่องนะที่ดี แต่ส่วนใหญ่จะได้กล่อง ไม่ค่อยได้ตังค์ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 51 11:29:33 จากคุณ : บางลำภูสแควร์ - [ 17 เม.ย. 51 11:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รากฐานของละครมันอาจจะมาจากการ์ตูน/นิยายก็ได้ ปล.คาเมนไรเดอร์ยุคใหม่ เนื้อหาสาระ ยังเข้มข้นกว่าละครไทยอีก จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง - [ 17 เม.ย. 51 12:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ดูแล้วเจอขัดใจบ้างในละครไทย ก็เจอแบบการดำเนินเรื่องดูไร้เหตุผลไปหน่อย คือตรรกะมันน่าจะกลับไปแก้ แล้วละครบางเรื่องบทพูดมันดูเป็นประโยคการเขียนอะ มันดูเป็นหนังสือเกินไป ละครญี่ปุ่นก็เจอบ้าง เรื่องตรรกะ แต่ในสมองตอนดู แค่อ่านซับก็เมาแล้ว ก็เลยแยกประสาทไม่ค่อยจะได้ แต่หลังๆเราว่าละครไทยเดินเรื่องดีขึ้นเยอะนะ ตั้งแต่มีละครเกาหลีเข้ามาเยอะๆ เนื้อเรื่องไม่ยืดแบบสมัยก่อนแล้ว เดินเรื่องกระชับๆดี ดูแนวโน้มละครไทยดีขึ้นเรื่อยๆนะ เราคิดว่างั้นนะ จากคุณ : *BAD-DAB*G - [ 17 เม.ย. 51 12:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ละครสะท้อนสังคม ในเมื่อประชากรญี่ปุ่นมีคุณภาพกว่าไทยฉันใด ละครญี่ปุ่นก็แสดงคุณภาพได้มากกว่าฉันนั้น คห.4 "ละครบางเรื่องบทพูดมันดูเป็นประโยคการเขียนอะ มันดูเป็นหนังสือเกินไป" ..อันนี้ใช่เลย เห็นบางเรื่องพยามทำเป็นสร้างเนื้อหา บทพูด ให้ดูมีสาระ มีจริยธรรม แต่มันแสดงออกมาไม่ค่อยเนียล แข็งทื้อ ดูก็รู้ว่าตั้งใจทำให้สร้างสรรค์ มากกว่า สร้างสรรค์อย่างเป็นธรรมชาติ ขำมากๆ ละครไทยค่ายหนึ่ง ที่นิยมสร้างละครตบจูบ แล้วเค้าก็ใช้ประโยคคลาสสิคที่ว่า สุดท้ายแล้ว ละครเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า "ธรรมะย่อมชนะอธรรม ความดีย่อมชนะความชั่ว" ...- -" แต่ละครญี่ปุ่นแนวน้ำเน่าก็มีนะ (แต่ไม่มีตบจูบ) ละครพวกนี้มักฉายตอนบ่ายๆ เวลาแม่บ้านเค้าน่ะ เห็นละครเกาหลีที่ญี่ปุ่นก็ฉายเวลานี้แหละ จากคุณ : ปีกแห่งความฝัน - [ 17 เม.ย. 51 13:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่จริง ถ้าทำดีๆ ก็ไม่ได้ด้อยเลยนะคะ แต่ละครไทย บางเรื่อง ทำลวกๆ สุกเอาเผากินอย่างแรงอย่างเมื่อคืนก่อนนู้น นั่งดูละครย้อนยุคของช่องนึงอยู่กับแม่...ทั้งๆที่เป็นฉากดำเนินเรื่องต่อกัน(อยู่กลางแดด เดินเ้ข้าร่ม) แต่เสื้อผ้า(สไบ) คนละสีกัน! ตอนอยู่กลางแดดมันน้ำตาล พอเข้าร่มมันน้ำเงิน ...ก็เข้าใจนะว่า ถ่ายคนละเวลา นักแสดงอาจจะเปลี่ยนชุดไปแล้ว แล้วค่อยมาตัดต่อ ... ถึงมันจะเล็กๆน้อยๆ แต่มันก็เกิดอาการตะหงิดๆ ขัดใจเล็กๆอ่ะ เคยเจอมาหลายเรื่องแล้ว กับช่องนี้ยิ่งบ่อย ... ไม่รู้จะรีบทำไปไหน ช่วยใส่ใจหน่อยเหอะ เราคิดว่าทางญี่ปุ่น เค้าใส่ใจมากกว่า ถึงจะเล็กๆน้อยๆแต่ก็ไม่มองข้าม อีกเรื่องนึง ... คิดว่าละครไทย ทำไมพล็อตมันเดิมจัง องค์ประกอบก็ซ้ำๆ เท่าที่ดูมา ละครไทยส่วนใหญ่ต้องมี บ้านใหญ่คฤหาสถ์มโหฬาร มีคนนึงในเรื่องรวยล้นฟ้า ถ้าจนก็ต้องให้จนแบบสุดๆ อาจจะมีคนนึงเป็นโรคหัวใจ ... อะไรแบบนี้ๆ อ่ะ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 51 14:43:47 จากคุณ : sc-shari - [ 17 เม.ย. 51 14:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เลิกดูละครไทยไปแล้วหลายปีแล้วค่ะ........ ทนเสียงกรี๊ดของนางร้ายไปไหว หูจะแตกเอา..... จากคุณ : Pan-Nyo - [ 17 เม.ย. 51 14:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความจริงก็อยากจะสนับสนุนคนไทย สนับสนุนละครไทยเหมือนกัน แต่พอมาเจอนางร้ายกรี๊ดดด.....ตบตีแย่งผู้ชาย ลูกแย่งแฟนพ่อ...พ่อแย่งแฟนลูก พระเอกข่มขืนนางเอก...นางเอกก็กลับมารักคนที่ข่มขืนตัวเอง ...ทำให้ไม่อยากดูละครไทยอีกเลย... จากคุณ : hellopueng - [ 17 เม.ย. 51 16:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ปัญหาใหญ่คือบทนี่แหละครับ รองมาก็องค์ประกอบพวกมุมกล้อง แสงสี ดนตรีประกอบ จริงๆละครไทยก้ถือว่่าอยู่ในระดับใช้ได้นะ อย่างน้อยดาราหลายๆคนก็มีฝีมือ เพียงแต่ไม่รุ้จักใช้ให้ถูกที่ถูกทาง ด้านบทนี่ประเทศไทยยังถือว่าน้ำเยอะเกินไป ขณะที่ญี่ปุ่นนี่10,11ตอน แต่อัดไปด้วยเนื้อหามากมาย ของไทยมากตอน 2ชม.กว่าๆ ฉายสองตอนต่ออาทิตย์ แต่ไม่สามารถเทียบกับละครญี่ปุ่นแค่ ่1ชม.ต่ออาทิตย์ได้ นอกจากนี้แนวเรื่องยังซ้ำมาเกิน10ปีแล้วด้วย ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงกัน ยังคงวนๆอยู่แค่ อิจฉา ริษยา น้ำเน่า เชื่อว่าคนมีฝีมือต้องมีในวงการนี้อยุ่แล้ว เพียงแต่ไม่กล้าที่จะเจาะตลาดใหม่ๆเท่านั้น นี่คือสาเหตุว่าทำไมคนหลายคนถึงหันไปดูซีรี่ยชาติอื่นๆกันหมด เพราะชาติเรามันไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงนั่นเอง... จากคุณ : y2thumb - [ 17 เม.ย. 51 16:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องตัวเงินต้นทุนเฉลี่ยของละครญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 4 - 50 ล้านเยนค่ะ ต้องบริหารกันอย่างดีเลยล่ะ ญี่ปุ่นของแพง ค่าตัวนักแสดงก็แพง ค่าใช้จ่ายก็น่าอีกเยอะแยะตาแปะไก่ค่ะ ของบ้านเราคงเป็นเรื่องบทละคร และ การเลือกบทประพันธ์มาทำแหละค่ะ คนดูมีหลายกลุ่ม จะทำให้ถูกใจคนทุกกลุ่มก็คงไม่ได้ เห็นว่าการเลือกบทประพันธ์มาทำแต่ละที โดยเฉพาะช่วงนี้ .. มีแต่เรื่อง remake เนี่ยได้ข่าวว่า เงาอโศก จะมาอีกล่ะ ถ้าเทรนด์เป็นแบบนี้ไม่นาน ดาวพระศุกร์ ทัดดาว-บุษยา บ้านทรายทอง คู่กรรม ปริศนา ก็คงตามมา ว่ากันไปบทประพันธ์ของประเทศไทยที่เด่น ๆ ดี ๆ ให้สาระระคนความสนุกก็ยังมีนะคะ แต่ไม่ทำกัน เช่นว่า ทางเทวดา มาลัยสามชาย ในวารวัน ตะวันเบิกฟ้า ไม่มีตัวร้ายแว้ด ๆ นะ เนื้อเรื่องก็มีรายละเอียดเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอยู่ด้วย หรือ จะเอาแบบสมัยใหม่อย่าง ลมพัดผ่านดาว นี่ก็เรื่องการใช้ชีวิตคู่ (แต่พอรายละเอียดเยอะ ก็ต้องทำงานเพิ่มขึ้น researh เพิ่มขึ้น ใช้เวลามากขึ้น ใช้เงินมากขึ้น ไม่ทันกินว่างั้น) ดังนั้นเรื่องความหลากหลายเราก็ไม่แพ้เค้าหรอก ขึ้นอยู่กับเลือกเอาเรื่องอะไรมาทำ ส่วนเรื่องบทก็เห็น ๆ กันอยู่ ประเด็นร้อนแรงในห้องใหญ่ขนาดที่เจ้าของบทประพันธ์ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่อย่างว่าให้สิทธิเขาไปแล้ว ก็ได้แต่ทำใจ เวลาเขียนบทแม้ต้วบทประพันธ์เขาไม่มีชิงรักหักสวาทก็ให้มีขึ้นมาจนได้ เช่น ดั่งดวงหฤทัย เวอร์ชั่น เวียร์-ขวัญ เป็นต้น เรื่องฉาก อันนี้ว่ากันไม่ได้ บ้านเรายังไม่พัฒนาเท่าไหร่ เพลง นานแล้วที่ไม่ได้ยินซาวน์ประกอบแบบคิดเอง จากละครไทยค่ะ มักหยิบยืมจากที่อื่นมาใช้เรื่อย ยกเว้นเพลงนำนะคะ ของญี่ปุ่นนั้นแต่งเองขายเป็น OST ทีเดียว โดยเฉพาะ background ประกอบฉาก ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็น HERO ฟังแล้วได้หลายอารมณ์ ขำ ฮึกเหิม ซาบซึ้ง ... นักแสดง ... อันนี้นักแสดงเก่ง ๆ เราก็มีเยอะค่ะ แต่พอมาเจอบทละครแบบนอกลู่นอกทาง ก็จอดไปเหมือนกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นวงจรค่ะ มันเกี่ยวเนื่องกันไปหมด ถ้าจะเริ่มก็ต้องเปลี่ยนกันคนละครึ่ง คนเปลี่ยนพฤติกรรมการดู ผู้จัดเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกบทประพันธ์มาทำละคร ค่อย ๆ ปรับกันไป จากคุณ : kimurafreek - [ 17 เม.ย. 51 17:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ เห็นด้วยค่ะ บทประพันธ์เนื้อหาดีๆ แทบไม่มีการหยิบยกมาทำเลย ชอบเอาของเดิมมารีเมค คือ บทประพันธ์เหล่านั้น มันพ้นสมัยไปแล้ว สาระทางสังคม คติค่านิยมอะไรก็เปลี่ยนไป ไม่รู้จะหยิบมาทำทำไม เรื่องดีๆอย่างอื่นมีเยอะแยะ นี่พูดในฐานะที่อ่านนิยายมาประมาณนึงเลยนะ อย่าง ทางเทวดา มาลัยสามชายที่คุณ kimurafreek ยกมานี่ใช่เลย ทางเทวดา เป็นเรื่องของคนที่ตั้งมันทำความดี เพื่อแสดงออกให้ผู้คนเห็นมากกว่าเปลือก มาลัยสามชาย ยังไม่ได้อ่านละเอียด แต่ก็มีข่าวนะว่าผู้จัดแย่งกันน่าดู เรื่องนี้ เชื่อมะ ว่าถ้าเอามาทำเดี๋ยวก็ต้องไปเน้นเรื่องพิศวาททั้งหลายทั้งปวงของแม่เจ้าประคุณทองไพรำ แทนที่จะมองหาแก่นเรื่องจริงๆ =_=' เกี่ยวกับชีวิตนางเอก เอาบทเค้ามาเพี้ยนแน่ๆ และถ้าอยากได้ซีรีย์น่ารักแบบญี่ปุ่น เกาหลี แนะนำเรื่องนี้เลย ของขวัญวันวาน ถ้าทำดีๆนะจะดีมาก เนื้อเรื่องเป็นความรักของหนุ่มสาวในวัยมหาลัย แต่เป็นแบบไทยๆ ที่ไม่มีบทรักอะไรหวือหวาเกินงาม มีพระเอกปากแอบจัด นางเอกน่ารักแบบเด็กๆ พี่สาวนางเอกผู้สวยมั่นใจ และพระรองผู้แสนดี (ฮา) เจือไปด้วยความรักความห่วงใยของพ่อที่มีต่อลูกสาวด้วย หรือ รอยรักเรไร อันนี้มาแนวแบบ กาลิเลโอเลย พระเอกเป็นศาสตราจารย์ด้านกีฏวิทยา หัวยุ่งยี ดูเป็น nerd แต่ใจดีสุดๆ เข้าใจคนอื่น ต้องใช้ความรู้ทางกีฏวิทยามาไขคดีฆาตกรรมจาแมลงในศพ เรื่องแบบนี้ไม่ยกมาทำบ้างเล่า จากคุณ : tor_toey - [ 17 เม.ย. 51 17:44:27 A:10.106.2.147 X:202.28.180.202 TicketID:157232 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังติดละครตบจูบอยู่ดีเเร่ะค่ะ สังเกตดูจากละครที่ติดกันก็ตบจูบทั้งงั้นเลย (จำเลยรัก  สวรรค์เบี่ยง. . .เรื่องอื่นจำไม่ได้เเล้ว 5 5) อยากให้วงการบันเทิงไทยนี่เล่นข้ามช่อง ข้ามค่ายมั้งเลย   ไม่งั้นก้มีเเต่ดาราคู่เดิมๆ กับเรื่องรีเมก(เดิมๆ)   เรื่องงบก็ทำจริงๆก็คงทำออกมาได้ดีอยู่เเล้ว เเต่บทนี่ก็น่าจะเเก้ไขหน่อย เปิดกี่ช่องก็ตบๆจูบๆ (เเต่สวรรค์เบี่ยงนี่ ตบ ปล้ำเลย)   อีกเรื่องค่ะ จัดเรทว่า 18+ เเต่ยังออกฉายเวลาเดิม   ผู้ชมก็ยังรุ่นเดิมๆ เด็กเล็ก ไปจนรุ่นอาม่าได้ๆ   อย่างงี้เรทนี่จัดให้พ่อแม่ห้ามลูกดูคงช่วยไม่ค่อยได้เท่าไหร่น่ะค่ะ ? # ความจริงเราก็ดูละครไทยบางเรื่องน่ะ ยอมรับจริงๆ ตบจูบนี่กินตลาดตลอดกาล 5 5 5 แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 51 18:14:06 จากคุณ : สาวลำไย - [ 17 เม.ย. 51 18:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าเป็นเรื่องของรสนิยมนะ ความน้ำเน่ามันถูกใจคนส่วนใหญ่ของประเทศแหละ จริงๆผมก็ดูหมดนะ ทั้งไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น แต่หลังๆ มีเฉพาะญี่ปุ่นที่เสาะแสวงหามาดู นอกนั้นดูแต่ฟรีทีวี ความที่คนส่วนใหญ่ชอบละครน้ำเน่า ทำให้ละครเกาหลีเป็นที่นิยมในเมืองไทย เนื่องจากเนื้อหาน้ำเน่าพอกัน เพียงแต่เรื่องของบท และความละเมียดละไมจะมากกว่า แต่ถ้าสังเกตดีๆ มีความรุนแรงแฝงอยู่ในละครเกาหลีพอสมควร เช่น เรื่องของสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ผู้ชายตบหน้าหน้าผู้หญิงเนี่ย เห็นได้ในละครเกาหลีเท่านั้น ของไทยแทบไม่มี มีก็ข่มขืนเลย (ฮา) ถ้าจะปรับปรุงละครไทย ผมว่าไม่ต้องมุ่งหวังว่าให้เนื้อหาเทียบเท่าละครญี่ปุ่นหรอก เพราะรสนิยมมันต่างกันมากนะ โอกาสเจ๊งอาจสูง ผมว่าแค่ให้ได้สไตล์เกาหลีก็พอแล้วในอันดับแรก ไอ้ฉากข่มขืนเนี่ย ขอทีเหอะ ดูแล้วเครียด จริงๆแล้วตามบทประพันธ์ อย่างเรื่องจำเลยรักเนี่ย เท่าที่ทราบไม่มีฉากข่มขืนเลยด้วยซ้ำ พระเอกรักนางเอกและเอาตัวไปส่งคืน ตั้งแต่ยังไม่รู้เลยว่า โศรยาไม่ใช่ศันสนีย์ เนื่องด้วยพ่ายแพ้ในความดีของนางเอก หากทำเป็นละครรักหวานซึ้งก็น่าจะทำได้ แต่ไม่เลือกที่จะทำ ดันใส่ฉากข่มขืนเข้าไปด้วย หรืออย่าง หรืออย่างสวรรค์เบี่ยง จริงในบทประพันธ์ก็ข่มขืนครั้งเดียว แต่ในละครทำอย่างกับคาวีเป็นไอ้บ้ากามข่มขืนซ้ำซ้อน ของพวกนี้นะ มันเป็นตัวอย่างให้คนเลียนแบบละคร ไม่รู้ว่าใครเลียนแบบใคร แต่ผมว่าสื่อ มีอิทธิพล เพราะผมเคยเจอเรื่องจริงที่น้ำเน่าพอๆกับละครมาหลายเรื่อง ผมว่าขั้นแรก แค่ลดความรุนแรงลงก็เป็นพัฒนาการที่ดีแล้ว หากเหมือนละครญี่ปุ่นจริงๆ คนส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่ชอบหรอก สภาพสังคมและวัฒนธรรมเราต่างกันมากจริงๆ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 51 20:52:17 จากคุณ : โอบ๊อท - [ 17 เม.ย. 51 18:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณภาพของประชากรต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่คิดหวังว่าละครไทยจะได้ขนาดนั้น ต่อให้งบเท่ากัน ก็ไม่ได้อย่างนั้น เลิกหลอกกันเถอะ พื้นฐานประเทศ พื้นฐานประชากร พื้นฐานความคิด วัฒนธรรม ศักดิ์ศรีความเป็นมืออาชีพแพ้เขาหมด เลิกเอาข้ออ้างเรื่อง งบมาใช้ดีกว่า เขาทําอะไรทําจริงคุณภาพต้องมาก่อนเมื่อของดีจริงเงินมาเอง ดูรายการทีวีแชมเปี้ยนได้เลย เขาเอาจริงกันสุดๆ บ้านเราก็เคยมี ตกรอบแรกห้าพัน เข้าชิงหมื่นนึง ชนะเลิศหมื่นห้า จบแล้วก็จบกันไปฟันค่าโฆษณาดีกว่า ทําอะไรตามใจ(ง่ายๆแล้วได้เงิน)คือไทยแท้ ทําอะไรก็ตามสุดความสามารถในอาชีพตัวเอง(เงินเป็นเรื่องรอง)คือญี่ปุ่นแท้ อีกกี่สิบปีก็ไม่ได้ แค่กระทู้คาวียังเถียงกันจะเป็นจะตายเลย ทั้งๆที่มันไม่ต้องมาเถียงแล้ว มันผิดกันเห็นๆ คนทําก็บอกว่าแค่ละคร คนดูบางส่วนก็จะเสพแต่ละครเอาแต่บันเทิงตํ่าๆ อย่างเดียว สังคมไม่สน มันเลยออกมานํ้าเน่าตลอดไง ของที่ญี่ปุ่น10ตอนนะเขาเน้นคุณภาพสุดๆ ไม่มีหรอกประเภทแบบนํ้าเน่าบ้านเรา หนังหลาก หลายแนวมากแทบทุกเรื่องมันบันเทิงแบบให้ข้อคิดเสมอ ทั้งความตั้งใจ ความอดทนต่อปัญหา การอยู่รวมกัน การแก้ปัญหาเรื่องที่ดีๆมีแทรกเอาไว้เสมอ คนทําก็เก่งทําออกมาได้สนุกด้วย ของบ้านเราให้สนุกต้องตบกัน แย่งผัวกัน ตอนนี้กําลังฮิตต้องข่มขืนกัน ออกแนวไฝ่ตํ่าเข้าว่า เอาเรทติ้งเป็นหลักขายเวลาโฆษณาเป็นหลัก มันกลับกันกับที่ญี่ปุ่น ที่นั่นเขาต้องดีจริงแล้ว สปอนเซอร์แย่งกันเข้าแล้วค่อยมาดูเรทติ้ง บ้านเราทําเรื่องให้เน่าๆเรียกเรทติ้งแล้วค่อยขาย โฆษณาเรทติ้งดีก็ยืดซะ ไม่มีใครบังคับเรื่องจํานวนตอนเลย เอางบเท่าเดิมแต่ลดเหลือ10ตอน คุณภาพมันก็เหมือนเดิม ผกก.นะถามจริงๆตอนนี้มีไหมที่กํากับหนังเพื่อคุณภาพ มีแต่ทําให้ มันออกมาได้เท่านั้นพอ เอาเร็วเอาเงินไปเรื่องใหม่ดีกว่า เอาเร็ว เอาเงินๆๆๆๆวนกันอย่างนี้ เอาเงินเป็นหลักทุกอย่างก็จบตั้งแต่ผกก. คนเขียนบท ช่างไฟ ไม่ได้ทํางานด้วยจิตวิญญาณของ อาชีพ ไม่ได้มีความภูมิใจในอาชีพ ทุกอย่างคุยกันที่เงิน ต่อให้เงินมากไม่ได้เอาไปใช้เพื่อเพิ่ม คุณภาพงานหรอก คิดอย่างเดียวว่าจะลดคอสต์ยังไงจะได้เหลือมากๆ ทําหนังดีๆไปคนไทยก็ไม่ดู คนส่วนใหญ่เน้นที่จะเสพบันเทิงระดับตํ่าพร้อมข้ออ้างสารพัดความสุข คนส่วนน้อยอยากได้ละครดีๆมีคุณภาพ สมมุติว่าให้มีเทพลงมาสร้างละครไทยได้สุดยอดอย่าง ละครญี่ปุ่น เอาอย่าง1.litre คนทั่วไปไม่ดูหรอกไม่ถูกจริต ก็สังคมมันสั่งสมมาด้วยเรื่องนํ้าเน่า มาตลอด เศร้าเกินไม่ดูก็เจ๊งสิ ต้องโทษที่สังคมการศึกษา นักกินเมืองทั้งหลายที่ไม่สามารถพัฒนาความรู้ความคิดคนไทยได้เลย 30-40ปีผ่านมายังไงก็ยังเหมือนเดิม ตลกดี ไม่ต้องไปด่าใครๆเลย เขาทําอะไรออกมาก็เพราะมีคนส่วนใหญ่อยากดูอย่างนั้น ละครดีแต่ไม่มีแดก จะทําได้ไง ต้องไปขอทุนTPBSนั่นแหล่ะทางเดียวที่เราจะมีละครดีๆที่ไม่ต้องหวังพึ่งเรทติ้ง แต่ก็คงไม่ทํา กันอีกเพราะเงินมันน้อย เอาเวลาไปสร้างละครนํ้าเน่าดีกว่า เวลาเท่ากัน ไเด้เงินมากกว่าใครจะไม่เอา สุดท้ายปรับคุณภาพคนในประเทศนี้ให้ดีกว่านี้ก่อนแล้วค่อยคิดกัน แต่ยากมาก ก็อยู่ๆกันไป อยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ อย่าไปฝันเลยประเทศนี้ ทําอะไรตามใจคือไทยแท้ แรงไปไหมเนี่ยลบออกเยอะแล้วนะ จากคุณ : เด็กแนว - [ 17 เม.ย. 51 19:42:10 A:125.24.185.199 X: TicketID:160167 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Production การเก็บรายละเอียด เล็กน้อยๆ ของแต่ละฉาก คือจับผิดได้น้อยมาก ประณีตมาก เนื้อหาสร้างสรรค์ และส่งเสริมกำลังใจ หลายเรื่อง ปล. ชอบดูละครทุกชาติ ถึงละครไทย Production จะน้อยกว่า ความประณีตจะน้อยกว่า  แต่ก็เป็นภาษาที่สื่อสารแล้วเข้าใจได้เลย จากคุณ : LittleSister - [ 17 เม.ย. 51 21:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คห. 14 โดนใจสุดๆเลยค่ะ 55555+ เห็นพูดถึง 1 Litre เราก็เป็นห่วงเรตติ้งเรื่องนี้จริงๆค่ะ เพราะฉายชนกับไร่กาแฟ (รสนิยมคนดูมันคนละแบบอ่ะนะ) ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราคงไม่มีช่องทางเสพย์สิ่งที่เราชอบหรอกค่ะ ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้จริงๆ เราสามารถเลือกสื่อได้หลากหลายมากขึ้น เพราะทีวีบ้านเราก็มีแต่ละครซ้ำซาก น่าเบื่อมากกกก และคนไทยส่วนใหญ่เองก็ไม่ได้มีทางเลือกมากแบบพวกเรา ไม่ได้เล่นคอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เนต ไม่ได้ติดเคเบิ้ลทีวีกันทุกคน เลยเลือกบริโภคไม่ได้ กลายเป็นสื่อที่รับชมนั้นฝังรากลึกไป......... (เราแทบจะไม่ดูฟรีทีวีของไทยเลยค่ะ) ปล. ขอนอกเรื่องนะคะ เรายังคิดอยู่เลยหลังจากที่ M-sta โดนถอด แล้วเปลี่ยนมาเป็นรายการเพลงเกาหลี สรุปตรูเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศแล้วใช่มั้ย T-T ผิดหรอ(ฟระ)ที่เราชอบไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ แง..... จากคุณ : Pan-Nyo - [ 17 เม.ย. 51 22:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่างเนื้อเรื่องที่น้ำเน่า ถ้าบอกว่า เพราะสังคมไทยชอบแบบนั้น ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่เราสามารถเขียนบทน้ำเน่าให้ดูดีได้นี่ อย่างเรื่อง autume in my heart ของเกาหลี ก็น้ำเน่านะ แต่เค้าเน่าแบบดีกว่าของเราเยอะ เน่าแบบมีเหตุมีผล ไม่มีตัวร้ายมายืนกรี๊ดๆเหมือนคนบ้า ไม่มีพระเอกมาตบๆจูบๆ ยังดังเป็นพลุแตกได้ซะขนาดนั้น ปัญหาที่แท้จริงน่าจะมาจากความมักง่ายตามนิสัยโดยส่วนใหญ่ของคนไทยมากกว่า มักง่ายที่ว่า ทำแค่นี้ก็ดังได้แล้ว ไม่เห็นจะต้องลงทุน ลงแรง ลงสมองให้มันมากมายเลย ตลาดชอบแบบตบๆจูบๆ พระเอกข่มขืน สร้างง่ายจะตาย ทำแบบนี้แหละ ง่ายดี ดังไว เรตติ้งพุ่ง แต่ของคนญี่ปุ่น เค้าจะทำอะไร เค้าจะต้องเนี๊ยบในทุกๆรายละเอียด เค้าจะต้องทำให้ออกมาดูดีจริงๆ ไม่ใช่สักแต่ทำๆให้มันผ่านๆไป ถ้าพูดถึงน้ำเน่าญี่ปุ่นก็อย่าง Just one love ไง พล็อตเรื่องเน่ามาก แต่มาดูที่การดำเนินเรื่องสิ มันเน่าแบบเรารับได้ เค้ามีองค์ประกอบหลายอย่างที่รวมกันแล้วทำให้ซีรี่ย์เค้าดูมีเสน่ห์ บทละคร ตัวละคร การดำเนินเรื่อง เพลงประกอบ ดนตรีประกอบ ฉาก แสง ที่สำคัญเลย แม้พล๊อตจะเน่า แต่เค้าก็ใส่ชีวิตแบบคนธรรมดาที่สามารถเป็นไปได้ -พ่อนางเอกไม่ได้รักลูกแบบโอเว่อร์ จนทำตัวเป็นมาเฟีย -นางเอกไม่ได้โง่จนขนาดหนีตามพระเอก -พระเอกก็เป็นคนปกติที่มีความคิดอ่านที่ดี -มีการทำผิดพลาดในทุกๆตัวละคร และมีการให้อภัยซึ่งกันและกัน -ไม่มีตัวอิจฉาตามมากรี๊ดๆเหมือนคนปัญญาอ่อน -ไม่มีแม่นางเอกใจร้ายที่วางท่ากีดกันคนจน -ทุกตัวละครมีการกระทำที่สมเหตุสมผล -และสำคัญมาก พระเอกไม่มีการตามปล้ำข่มขืนนางเอก ถามว่า ละครไทยมีมั๊ย ตอบได้เลยว่า "ไม่มี" จากคุณ : keekoo - [ 17 เม.ย. 51 22:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับ 14 จขกท และท่านอื่นๆ จะหลอกตัวเองอีกไปทำไมกันครับ เทียบไม่ติดก็คือเทียบไม่ติด เราแทบไม่มีอะไรไปสู้เค้าได้เลยจริงๆ แม้แต่นักแสดงก็เหอะ ของเราหาที่มันเล่นสมจริงสมจังได้ก็ยากแล้ว อีกสิบปีเราก็ยังคงตามหลังเค้าอยู่ดีครับ ความเป็นมืออาชีพต่างกันจริงๆ ยกแค่ตัวอย่างฟุตบอล เค้าก็เข้าไปสู่ระดับโลกด้วยระยะเวลาเอาจริงเอาจังแค่สองสามปีแล้ว แต่ของเราสิ วาดฝันมาเป็นสิบปีทุกปี มีแต่ถอยหลังเข้าคลอง ผมว่าคุณภาพของคน จิตวิญญาณความเป็นมืออาชีพของคน เราเทียบเค้าไม่ติดจริงๆ ครับ เหมือนมือสมัครเล่นกับมืออาชีพน่ะ จากคุณ : กร (Mr.GentleBoy) - [ 17 เม.ย. 51 22:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ^ คือผมก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าละครไทยเทียบไม่ติดชนิดไม่เห็นฝุ่น ... "เพราะตอนนี้ผมก็ติดละครญี่ปุ่น ฟังเพลงญี่ปุ่น ชอบดาราญี่ปุ่นอยู่" เพราะฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องหลอกตัวเองหนิครับว่าของไทยดีกว่า ในเมื่อตัวผมเองยังไม่ดูละครไทยเลย ทั้งหมดที่ตั้งกระทู้นี่มาเพียงแค่อยากหาเรื่องคุยกัน มาคิดกัน มาหาเหตุผลกันเท่านั้นว่าทำไม ... มีอะไรบ้างที่แตกต่างกันระหว่างละครไทยและญี่ปุ่น ... อะไรที่ทำให้พวกเราคิดว่าละครญี่ปุ่นดีกว่าละครไทย **ไม่ได้ต้องการหลอกตัวเองสักนิดเดียวครับ เรื่องนักแสดง ... ถ้าคุณให้โอกาสซักนิดจะเห็นว่านักแสดงบางคนมีฝีมือการแสดงไม่ด้อยไปกว่านักแสดงญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ ((ย้ำนะครับว่าบางคน)) เพราะฉะนั้นอย่างเพิ่งเหมารวมว่าวงการบันเทิงของเรามันด้อยไปกว่าของเขาทั้งหมดเลยครับ อีกอย่างอย่าไปดูถูกคนที่ดูละครไทยเลยครับว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพ เพราะจริงๆการเสพงานศิลปะเป็นเรื่องของรสนิยม ไม่ใช่เรื่องของคุณภาพของคนเสพ  .... พวกเราในห้องนี้ชอบดูหนัง/ละครญี่ปุ่น และเห็นหนัง/ละครญี่ปุ่นสนุกกว่าของไทย ดีกว่าของที่ไทยทำ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคนที่ดูหนัง/ละครไทย เป็นคนด้อยคุณภาพหนิครับ หรือเพียงแค่ความคิดเห็นแตกต่าง ... พวกเขาก็กลายเป็นคนด้อยคุณภาพไปทันที ????  ... อย่าดูถูกคนอื่นเพียงเพราะความคิดเห็นของเขาไม่ตรงกับพวกเราเลยครับ **/// แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 51 23:51:26 จากคุณ : TokYo_tOweR - [ 17 เม.ย. 51 23:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ฮะฮะ 14 โดนใจมาก อยากตอบสั้นๆว่า ระยะห่างวัดไม่ได้จริงๆ คือไกลมาก สู้ไม่ได้ตรงไหน บอกยากครับ เพราะมันทุกตรง แต่ที่ชัดที่สุด ก็คงเป็นที่ ทัศนคติ คนไทยส่วนใหญ่ มองหางานง่ายๆเงินเดือนดีๆ ไม่ค่อยมีใครอยากทำงานให้มากกว่า ระดับที่ต้องทำ สักเท่าไหร่ อย่าหวังให้ดีกว่า เรื่องที่ดีที่สุดตอนนี้เลย แค่ไม่แย่กว่า เรื่องที่แย่ที่สุดตอนนี้ ก็โอเคแล้ว 19 ที่บอกว่าคิดต่างกันนี่ โดนส่วนตัว อยากบอกว่า... ดูหนังไทยแล้ว ใจตกต่ำครับ ดูแล้วชวนคิดแต่เรื่องแย่ๆ เช่นข่มขืน แย่งแฟนคนอื่น ดูหนังญี่ปุ่นแล้ว รู้สึกว่ามันยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องความรัก มันไม่ใช่แค่สนุกกว่าหรอกครับ มันอยู่ที่ว่า คุณดู หนังตบจูบ แล้ว... คุณเรียนรู้ว่า ธรรมะชนะอธรรม หรือว่า... มันแค่ตอบสนองกิเลสราคะ เท่านั้นครับ ส่วนจะบอกว่า งบต่างกัน หรือ การตลาด มันก็ฟังไม่ขึ้นครับ ที่ไหนก็มีปัญหาของตัวเอง อยู่ที่ว่า คุณแก้มันได้หรือไม่ เพราะผมก็หน้าเหมือน แบรด พิท เลยครับ ถ้าตัดหัวออกไปเนี่ย ก็ไม่ได้หวังอะไรมากครับ เพราะนักการเมืองก็ยังโกงกิน ตำรวจสอง สน. ยังเมาเบียร์ ดวลปืนกันเอง ข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ยังเป็น ฆ่าข่มขืน พระยังเล่นไฮไฟ .. เฮ้อ มัน Amazing Thailand จริงๆครับ จากคุณ : ottoman - [ 18 เม.ย. 51 01:32:24 A:69.3.229.205 X: TicketID:167109 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ อ่านคห เก่าๆแล้วอย่างน้อยเปลี่ยนบทพูดก่อนก็ได้ ทุกวันนี้แค่ฟังเสียงละครอย่างเดียวก็คิ้วขมวดแล้ว แข็งชะมัด ไอ้เรื่องพล็อตเรื่อง ฉาก แสงสี ไม่หวังอะไรกับพวกนี้อยู่แล้ว...ทำไม่ได้หร๊อก (ก็รู้ๆนิสัยคนไทยกันอยู่ พวกกำกับพวกนี้เคยยอมรับว่าตัวเองห่วยที่ไหนตราบใดที่เค้าได้เงินจากละครตบๆตีๆกันอ่ะ) เรื่องนักแสดงยอมรับเลยค่ะว่านักแสดงเก่งๆของเราเยอะมาก ...อย่างคุณนกสินจัยอ่ะ เราว่าเค้าตีบทแตกเลยนะในรักแห่งสยาม เพราะบทให้ด้วยละมั้ง ละครพวกสายอาชีพทำไมไม่ทำมาบ้างหน่ะ ได้ประโยชน์หลายๆอย่างอ่ะ เด็กๆที่ไม่รู้ตัวจะเอ็นท์อะไรจะได้ดูตัวอย่างจากละครไปด้วย เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา เหอๆ จากคุณ : มุนเค - [ 18 เม.ย. 51 03:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รสนิยมเป็นสิ่งที่เกิดจากความชอบ ชอบจากสิ่งที่ตนเห็น หลากหลายแล้วมากลั่นกรองด้วยความคิด ของตนเองว่าอันไหนใช่ไม่ใช่ ชอบไม่ชอบ เหมือนให้เด็กเลือกสีเทียนในกล่องมี12สีเด็กก็มองมันหมดแหล่ะก่อนเลือกมาสีนึง เพราะดูหมดแล้ว ชอบสีฟ้ามันสดใสดี ในเมื่อสังคมละครบ้านเรายังยัดเยียดอยู่กับเรื่องนํ้าเน่าแทบทุกช่อง กดไปช่องไหนก็มีแต่รูปแบบเดิมๆ 40ปีก็มีแต่อย่างนี้ เหมือนกล่องสีที่มีแค่เทาอ่อนถึงเทาเข้ม เลือกที่ชอบยังไงก็เทา รสนิยมสุดยอดยังไง ก็เลือกได้แต่สีเทา คนส่วนใหญ่ที่ดูละครไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก เคเบิ้ล จานดาวเทียมมันยุ่งยาก เสียตัง ฟรีทีวีนี่ละง่ายสุด ในเมื่อผกก.ทุกช่อง ทุกค่ายเล่นง่ายๆเน่าแล้วดัง คนที่โดนยัดเยียดเรื่องนํ้าเน่าทุกวันจะไปหารสนิยม อื่นจากไหน มันก็แค่เน่ามากเน่าน้อยเท่านั้น ไม่อยากบอกว่าคนดูละครไทยด้อยคุณภาพ เขียนบอกไปแล้วว่าที่เป็นอย่างนั้นเพราะอะไร อย่างแบ่งแยก โดยไม่จําเป็นเลย ต้องด่าคนทําต่างหากที่ทําละครไร้คุณภาพให้เขาดู ทุกวัน เป็นเดือนๆ เป็นปี เป็นสิบๆปีสูตรสําเร็จ เปิดไปช่องไหนก็เจอคนดูพวกนั้นไม่ใช่คนไม่มีคุณภาพ แต่เขาไม่มีทางเลือกมากกว่า คนดูมีทุกระดับตั้งแต่หาเช้ากินคํ่า ดูละครเอาบันเทิงอย่างเดียว ถึงเมียรมต.ก็ดูสนุกๆ ลองดูตอน tpbs เอาสารคดีมาฉายวนๆทั้งวันสิ ความรู้ทั้งนั้น แม่ค้า เด็กแว้นยังนั่งดูกันสลอนเพราะว่าช่องปกติมัน ไม่มีนะสิ ขนาดหมอนวด ยังขอพักดูก่อนเลย ลองให้ทุนสร้างละครดีๆสัก20เรื่องไม่หวังผลกําไรกระจายๆกันไปหลายๆช่องในช่วงเวลาที่ดีๆ ลองดูสักปีนึง ให้คนเห็นข้อแตกต่างว่านอกจากละครนํ้าเน่าแล้วยังมีละครนํ้าดีที่น่าดูอีกเยอะเอาผกก.ที่มีแนวคิดเรื่อง คุณภาพมากกว่าตัวเงินมาทําให้ดู ให้มันมีสีอื่นบ้างให้คนดูได้เห็นตัวเลือกอื่นบ้างแล้วค่อยไปพูดเรื่องรสนิยม ไม่ใช่ว่าทําเพื่อสังคม ลงทุนเองทํามาเรื่องเดียวดีมาก แต่คนไม่รู้ไม่ดู เจ๊ง เข็ด เลิก กลับวังวนเดิมๆเน่าดีกว่า ถ้ารัฐไม่ช่วยก็จบ จะพลิกวงการละครนํ้าเน่าไทยด้วยสีหยดเดียวไม่ได้หรอก มันโดนกลืนแน่ๆ ต้องร่วมใจ กันทําออกมาให้เยอะๆ ใช้เวลานานพอที่จะสลายพฤติกรรมการดูละคร ไม่ใช่ปีละเรื่อง รัฐต้องช่วยด้วย จากหลายๆหยดมันก็รวมๆกันจนเยอะพอที่จะเจือจางสีเทาในวงการละครไทยตอนนี้ให้มันเปลี่ยนสีได้บ้าง ให้คนดูส่วนมากรู้ว่าตอนนี้มีทางเลือกแล้วนะ ให้ผกก.ตอนนี้ดูแล้วอายๆแล้วอาจจะมีไฟทําละครคุณภาพมาแข่ง ไม่งั้นก็อาจต้องลาวงการเพราะทําละครดีๆไม่เป็น ปัจจุบันนี้ไม่เป็นไม่ใช่ว่าเลิกงานกลับบ้านเปิดช่อง3ก็ข่มขืนมาราธอน รอบบ้านกลางถนน ด่าพ่อ ช่อง7 ก็อิจฉากันตาแถบถลนมานอกเบ้าแล้ว ช่อง5ก็แย่งผัวกันเพลิน ออกนอกหน้า อย่างสงครามนางฟ้า ต้องด่าคนมักง่ายที่ดันทําอะไรมาออกสู่สายตาคนส่วนมากผ่านทีวีด้วยละครนี่แหล่ะตรงสุด แต่คนด้อยคุณภาพนะมีจริง ยอมรับข้อนี้กันก่อนแต่ไม่ใช่แค่เรื่องละครอย่างเดียวหรอก องค์ประกอบสังคม แต่ละยุคมันสร้างคนไม่มีคุณภาพได้เสมอๆมันปัญหาระดับชาติ ระดับโลก นี่คุยกันนะเหตุผลเพียวๆ เห็นต่างได้แต่ต้องมีเหตุผลมาคุยกัน ไม่ได้ว่ากันเดี๋ยวจขกท จะโกรธ กลายเป็น วิวาทะกันไป "หรือเพียงแค่ความคิดเห็นแตกต่าง ... พวกเขาก็กลายเป็นคนด้อยคุณภาพไปทันที" อย่างนั้นนะห้องข้างล่างสินธรมีเพียบเลย คุยกันอย่างนี้ไม่ได้หรอก ถ้าปรับพฤติกรรมคนดูได้ เปลี่ยนค่านิยมผกก.ละครไทยได้ ตอนนั้นสังคมเราคงพอมีความหวังบ้างแล้วละ กลายเป็นสังคมที่มีความคิดกันแล้วทั้งผู้ส่งผู้รับ แล้วเรื่องที่จะทําละครให้ใกล้เคียงกับญี่ปุ่นหรืออื่นๆ ถึงตอนนั้นจริงๆไม่จําเป็นหรอก เอาให้ละครไทยมันดีด้วยมาตราฐานของมันเอง ให้ญี่ปุ่นมาตามดูบ้างจะดีกว่า J series k series T series สงสัยจะจริงจังไปแล้ว กลับไปดูAnegoดีกว่า จากคุณ : เด็กแนว - [ 18 เม.ย. 51 04:23:22 A:125.24.3.29 X: TicketID:160167 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อื้ม... เห็นด้วยกะคุณเด็กแนวนะครับ จากคุณ : ninoshingo - [ 18 เม.ย. 51 10:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เคยคิดเลยค่ะ เพราะเราดูทั้งสองประเทศ 555 จากคุณ : Kotoko_ChaN - [ 18 เม.ย. 51 10:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อก่อนเราว่าละครเอ็กแซ็กท์ดีมากๆนะ ละครสะท้อนสังคม ไม่ก็เป็นแนวหนังรักวัยรุ่นที่ไม่มีนางอิจฉา แต่ว่าก็อยู่ได้ด้วยโฆษณา ของแกรมมี่เท่านั้น ถึงได้ต้องเปลี่ยนแนวมาเป็นแบบที่เห็นในช่อง 5 ตอนนี้ไง เพราะว่าคนดูของเราไม่พร้อมพอที่จะรับละครดีๆ ละครแนวสมจริงกันหรอก เราก็เคยคิดแบบว่าอยากเห็นละครไทยมีสาระ ทำเนื้อเรื่องดีๆกับเค้าบ้างเหมือนกัน แต่คิดว่าฐานคนดูของเราไม่เหมือนกับที่ญี่ปุ่น คนของเราไม่ได้มีมาตรฐานเหมือนเค้า คือไม่ใช่ไม่มีคุณภาพนะ เราเห็นคนดูละครน้ำเน่า ทำงานทำการดีๆกันก็มี แต่มันไม่มีมาตรฐานน่ะ คือพอใจที่จะรับแต่บันเทิงที่เน้นความสะใจสนองตัณหาตัวเองเข้าว่า เพราะงั้นตอนนี้เราก็เลยไม่หวังให้เค้าเปลี่ยนจากสร้างละครน้ำเน่ามาสร้างละครดีๆหรอก เราหวังให้เค้าสร้างละครน้ำเน่าน่ะแหละ ให้คนดูเยอะๆ จะตบจูบ พ่อแง่:-)อน นางเอกโดนรังแก นางร้ายกรี๊ดๆอะไรก็เอาเหอะ ขอแค่ไม่เน่าจนวิปริต ขนาดเรื่องสวรรค์เบี่ยงเวอร์ชั่นปัจจุบันหรืออย่ามีฉากข่มขืนนางเอกของพระเอกก็พอ (**ถ้ามีฉากข่มขืนโดยตัวละครอื่นของละครไทยจะต้องได้รับผลกรรมแน่นอน แต่ละครไทยให้อภิสิทธิ์เฉพาะพระเอกเท่านั้นที่ข่มขื่นผู้หญิงได้โดยไม่ผิดอะไรเลย) น้ำเน่าซะให้พอ ให้คนดูเยอะๆแล้วให้สอดแทรกสาระไว้เป็นระยะๆ ถ้าคนเขียนบทละครไทยมีฝีมือพอ เรื่องแบบนี้คงไม่ยากเกินไป ส่วนเรื่องโปรดั๊กชั่น ละครของเราทำเพื่อสนองตัณหาคนดูเท่านั้นค่ะ ไม่เน้นความสมจริง เพราะงั้นคนดูก็ดูไปเอามัน ส่วนคนทำก็ทำไปงั้นๆ เพื่อรายได้ คนทำละครของเราไม่ได้ทำเพราะอยากจะทำ แต่ทำเพราะอยากจะได้เงิน ดาราของเราหลายๆคนที่มีฝีมือ เล่นละครด้วยใจรัก ทำเต็มที่ แต่สุดท้ายเค้าก็ต้องมาตกม้าตายเพราะคนสร้างหลายๆส่วนน่ะแหละ เราก็เลยไม่หวังอีกเรื่องโปรดั๊กชั่นว่าจะต้องออกมาดี เลิศแบบของญี่ปุ่น เอาแค่ให้มันไม่ดูลวกๆ ทำให้เสร็จๆไปก็พอ อย่างเรื่องนางทาสอ่ะ ละครย้อนยุคแท้ๆ แต่หนูแดงลูกแม่เย็นดันใส่แพมเพิร์สซะอย่างนั้น -*- เราว่ากว่าจะมาพูดว่าให้ละครไทยพัฒนา คงต้องรอให้อะไรหลายๆอย่างของไทยพัฒนาก่อน ถึงจะมีเวลามาพัฒนาอย่างอื่นได้ ไม่เฉพาะห้องเฉลิมไทยที่อยากให้ละครไทยพัฒนา ห้องอื่นอย่างห้องศุภชลาศัยก็อยากให้วงการกีฬาไทยพัฒนาเหมือนกัน แต่สุดท้ายมันก็มาจบลงที่ว่าประเทศเรายังไม่ใช่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนา ไอ้เรื่องที่ดูไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอย่างละครหรือกีฬาก็ต้องรอไปก่อน แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 51 12:01:52 แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 51 11:40:21 จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 18 เม.ย. 51 11:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ค่อยชอบละครไทย เพราะพระเอกนางเอก ตัวโกงนางอิจฉา มักไม่ค่อยมีงานทำ  โดยเฉพาะนางอิจฉานี่ วันๆหล่อนไม่ทำมาหากินมั่งรึไงยะ แต่ถ้าเรื่องไหนเขียนบทให้มีงานทำ มักจะไม่เนียน เช่น นางเอกเป็นแม่ค้า แต่หน้าตาเธอสวยปิ๊งโบ๊ะหน้ามาครบเครื่อง อย่างกับเดินออกมาจากบู๊ทขายเครื่องสำอาง  หรือไม่ก็ฉากนอนหลับแต่ยังติดขนตาปลอม ทาคิ้วเข้มปากแดงแจ๊ดอยู่เลย  ส่วนพระเอก 90% มักจะโง่ ถูกนางอิจฉาป่ันหัวแล้วก็ เชื่อคนง่ายเหลือเกิน (ทั้งๆที่พระเอกบางเรื่องเป็นตั้งด๊อกเตอร์) **ส่วนมากจะดูละครไทย ก็เมื่อเวลาที่ชีิวิตมันมีสาระมากเกินไป ต้องหาอะไรไร้สาระมา ใส่หัวมั่ง แล้วก็จะได้สมใจอยาก** แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 51 12:53:01 จากคุณ : ntta33 - [ 18 เม.ย. 51 12:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พึ่งเห็นข่าวจาก ปล. คห.16  ...อื่มมมมมม (ถอนหายใจยาวๆหนึ่งที) เลือดขึ้นหน้า แอบไปดูกระทู้โดยรวมของห้องใหญ่มา รู้สึกว่าตอนนี้ละครไทยถึงจุดตกต่ำด้านศีลธรรมสุดๆจริงๆ  อยากรู้จริงๆเหมือนกันว่า ถ้าทุกช่องพร้อมใจกันไม่ทำละครทุเรศๆแบบนั้นซะอย่าง มันจะมีคนดูไหม๊  ..คำตอบคือ มันก็ต้องดูอยู่แล้วซักเรื่องนึงแหละ จากคุณ : ปีกแห่งความฝัน - [ 18 เม.ย. 51 13:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อันนี้ไม่นับโปรดักชั่นนะ ว่ากันที่บทที่แนวเรื่องล้วน ๆ ของญี่ปุ่นมีเนื้อหาหลากหลาย บทกระชับ สั้น คม ก็จริง แต่เราว่าไม่ใช่ละครไทยทำไม่ได้ แต่เลือกที่จะไม่ทำตะหาก อยากให้มองที่ผู้รับสารหรือผู้ชมอย่างเรา ๆ เนี่ยแหล่ะค่ะ ถามหน่อยเถอะค่ะ ประชากรไทยสักกี่เปอร์เซ็นต์คะที่ชอบซีรี่ส์ญี่ปุ่น ถ้าคนไทยชอบซีรี่ส์ญี่ปุ่น ป่านนี้คนคงติดกันงอมแงม ซี่รี่ส์ญี่ปุ่นคงนำเข้ามาฉายเยอะแยะไปหมดแล้ว ใช่ไหมคะ เราพูดได้เลยว่ามันไม่มีทางเปลี่ยนไปได้ เพราะคนไทยชอบแบบที่ฉายอยู่ทุกวันนี่ค่ะ จากคุณ : Galilee - [ 18 เม.ย. 51 14:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อก่นก็ดูอยู่บ้างอ่ะนะละครไทย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ดูและ ส่วนมากจะดูหนังหรือไม่ก็ละครญี่ปุนไปเลย ลงทุนซื้อมาดู ดีกว่าดูละครไทยฟรีทีวี ถ้าเมื่อไหร่ที่ละครไทยเลิกมี ฉากพระเอกข่มขืนนางเอก นางร้ายจิกกัดอยู่ได้วันๆไม่ทำงาน นางเอกก็แสนดียอมให้โขกสับอยู่ได้ จะดู หุหุ เห็นด้วยกับ#25 เมื่อก่อนละครเอ๊กแซกค่อนข้างทำได้ดีนะ จากคุณ : Ponies - [ 18 เม.ย. 51 16:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่าเขาสร้างละครตามความต้องการของตลาดครับ ไทยกับญี่ปุ่นมันคนละตลาดกัน คงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกครับ ต้องเทียบ ละครช่อง 3 กับ ละครช่อง 7 ไม่ใช่เทียบ ละครไทย กับ ละครญี่ปุ่น จากคุณ : emmy_iemu - [ 18 เม.ย. 51 22:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ....คิดไปคิดมาที่คนไทยชอบละครเกาหลีก็เพราะมันมีกลินน้ำเน่าละมั้ง เหอๆ ปล.แต่ถึงเกาหลีจะน้ำเน่าอย่างไรก็ไม่น่าเกลียดเหมือนละครไทยเท่าไหร่นะ จากคุณ : มุนเค - [ 19 เม.ย. 51 00:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ละครเอ็กแซกเมื่อก่อนทำได้ดีไม่ต่างกับซีรีย์ญี่ปุ่นเลยครับ อย่างสนทนาประสาจน ลูกผู้ชายหัวใจไม่แพ้ เจ้าพ่อจำเป็น ทอฝันกับมาวิน ๆลๆ พวกนี้สำหรับผม ผมว่าสู้ซีรีย์ญี่ปุ่นได้สบายๆแต่ไปๆมาๆละครคุณบอยกลับกลายเป็นสงครามนางฟ้าไปซะหมด ก็อย่างว่า คนส่วนใหญ่เขาชอบแบบนี้ อะไรดีกว่าอย่าไปวัดเลยครับ มันแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน จากคุณ : Renesis - [ 20 เม.ย. 51 18:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เท่าที่ดิชั้นเห็นมาจากนะคะ.. เมืองไทย.. เจ้าของช่อง ผู้จัดละคร นักแสดงนำหลักๆ ผู้กำกับ  เท่านั้นแหละ ที่ได้ตังค์เยอะมากๆๆๆ (ตามลำดับ) จากละครเรื่องนึง ส่วนผู้ช่วยผู้กำกับ 1 หรือ 2 /continue/produce /ประสานงาน /เมคอัพ/ช่างไฟ/กล้อง/กำกับศิลป์ พูดง่ายๆทีมงานทั้งหมดนั่นแหละ ถูกใช้งานเยี่ยงทาส ถ้าวันไหนออกกองวันละ 18 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เงินก็ได้พอประมาณ ไม่ได้เยอะแยะ จนมีแรงบันดาลความคิดสร้างสรรค์หรอก สงสารคนกลุ่มนี้นะคะ เป็นทีมงานผู้ผลิตละครไทย แต่ก็เหมือนชนชั้นแรงงาน แต่ตัวโกยไปหลักๆเรื่องนึงหลายสิบล้าน กลับไม่มีความคิดที่จะยอมลดรายได้ (บางส่วน) ผลิตงานละครดีๆ คืนกำไร สร้างสมอง ปลูกสำนึกและจิตวิญญาณที่ดี สร้างสรรค์สังคมไทยบ้าง สมัยก่อนโน้น มีกลุ่มละคร กระดาษพ่อ ดินสอแม่ ที่เคยผลิตละครเทิดพระเกียรติ ตอนวันพ่อ มีเรื่องถั่วแดงหลวง /เทียนของพ่อ/   และมีเรื่องอื่นๆอีก รวมๆ 5 เรื่องมั้ง ละครเซทนั้นเป็นละครไทยที่ดิชั้นว่า มีคุณภาพที่สุดเท่าที่เคยดูมาแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : ~cherry cheerleader~ - [ 25 เม.ย. 51 21:30:45 ]